All Chapters of ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี: Chapter 641 - Chapter 650

997 Chapters

บทที่ 641

จิ่งโม่เยี่ยเพียงยิ้มรับคำพูดของเขาโดยไม่ชี้แจงอะไร เขาขึ้นคร่อมม้าแล้วห้อตะบึงจากไปปู๋เยี่ยโหวยืนกอดอกอยู่หน้าประตู กัดฟันมองแผ่นหลังของจิ่งโม่เยี่ยจากคำพูดของจิ่งโม่เยี่ย ดูเหมือนเขาจะยังไม่ได้ประทับรอยนิ้วมือบนใบหย่าแต่เฟิ่งชูอิ่งเป็นคนฉลาดมาก ถ้าจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้ประทับตรารอยนิ้วมือจริงๆ นางต้องรู้แน่แต่จนถึงตอนนี้นางก็ยังไม่รู้เรื่องนี้ ซึ่งโดยพื้นฐานแล้ว จิ่งโม่เยี่ยคงใช้เล่ห์กลบางอย่างปู๋เยี่ยโหวสบถในใจว่าจิ่งโม่เยี่ยช่างเจ้าเล่ห์และน่ารำคาญเหลือเกิน เขาต้องไปเตือนเฟิ่งชูอิ่งสักหน่อย ไม่งั้นเฟิ่งชูอิ่งจะตกเป็นเหยื่อของจิ่งโม่เยี่ยแน่นอนขณะที่จิ่งโม่เยี่ยกำลังขี่ม้าอยู่ริมฝีปากของเขาก็ยกขึ้นเล็กน้อย มันแฝงความนัยลึกลับปู๋เยี่ยโหวรีบกลับไปยังลานบ้านด้านใน เฟิ่งชูอิ่งเพิ่งทำพิธีส่งวิญญาณที่ตายไปเสร็จเรียบร้อย บรรยากาศจึงมีกลิ่นอายแปลกๆเมื่อเขามาถึง เขาก็พูดกับเฟิ่งชูอิ่งว่า “ท่านดูใบหย่าที่ท่านกับจิ่งโม่เยี่ยตกลงกันให้ดีๆ เขาอาจจะทำอะไรบางอย่างกับมันได้”เฟิ่งชูอิ่งได้ยินดังนั้นจึงรีบหยิบใบหย่าออกมา ลายนิ้วมือบนใบหย่าชัดเจน ไม่มีปัญหาอะไรเฟิ่งชูอิ่งมองไปทางปู๋เยี่
Read more

บทที่ 642

ปู๋เยี่ยโหวตะโกนด่าว่า “เรื่องหลอกลวงปั่นหัวคน ต้องยกให้จิ่งโม่เยี่ยเลย”“เจ้าคนสารเลวนั่นจะไม่ยอมให้ข้าได้ดีเลยสินะ พยายามหาทางมากลั่นแกล้งรังแกข้าทุกวัน ช่างเสียแรงที่ข้าอุตส่าห์ทำดีกับเขามากมายเช่นนั้น!”เฟิ่งชูอิ่งฟังเขาบ่นแล้วก็ขำ “เจ้าดีกับเขามากมายเลยหรือ? ดูเหมือนจะไม่ใช่ทั้งหมดนะ?”ความคิดของเขา นางเห็นชัดเจนอยู่แล้วถึงแม้เขาและจิ่งโม่เยี่ยจะมีความเข้าใจกัน อยู่ฝ่ายเดียวกัน เป้าหมายผลประโยชน์ยิ่งใหญ่ก็เหมือนกัน ปกติถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น เขาก็จะช่วยเหลือจิ่งโม่เยี่ยแต่ปกติเขามีความคิดเห็นแก่ตัวเล็กๆ เป็นของตัวเองมากมาย ถ้าไม่หลอกลวงจิ่งโม่เยี่ยก็ถือว่าดีแล้ว เรื่องที่ว่าเขาทำดีกับจิ่งโม่เยี่ยเหลือเกินนั้นไม่มีอยู่จริงหรอกปู๋เยี่ยโหวเหลือบมองนางแล้วพูดว่า “รู้แล้วก็อย่าพูดออกมาสิ!”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะอย่างอดไม่อยู่ปู๋เยี่ยโหวใช้ไหล่ชนไหล่นางเบาๆ “เจ้าจะหย่ากับจิ่งโม่เยี่ยจริงๆ หรือ?”เฟิ่งชูอิ่งมองเขาอย่างเฉยชา “ข้ากับเขาหย่ากันแล้ว ต่อไปนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว”“ถ้าอย่างนี้ยังไม่เรียกว่าตัดขาดกัน ข้าก็ไม่รู้ว่าอะไรถึงจะเรียกว่าตัดขาดกัน”นางรอให้ร่างกาย
Read more

บทที่ 643

นางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วหยิบใบหย่ามาดูลายนิ้วมือของจิ่งโม่เยี่ยอย่างละเอียดลายนิ้วมือชัดเจน ไร้ซึ่งข้อผิดพลาดนางเอียงศีรษะพิงมือข้างเดียว ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง คิดว่าเรื่องนี้คงเป็นฝีมือจิ่งโม่เยี่ยที่กลั่นแกล้งปู๋เยี่ยโหวนางกับจิ่งโม่เยี่ยได้หย่าขาดกันแล้ว ใบหย่าเป็นนางที่เขียนขึ้นมาเอง ลายนิ้วมือของจิ่งโม่เยี่ยก็เป็นนางที่เห็นเขาประทับลงไปด้วยตาตนเอง จะมีปัญหาได้อย่างไรนางรู้สึกอย่างชัดเจนว่าตนเองถูกปู๋เยี่ยโหวหลอกให้มานั่งคิดถึงความจริงเท็จของเรื่องนี้ขณะที่นางกำลังจะเก็บใบหย่า ก็เห็นว่าเหมยตงยวนยืนอยู่ไม่ไกลนักนางรีบกล่าวว่า “ท่านพ่อ ท่านตื่นแล้วหรือเจ้าคะ?”ในแง่หนึ่ง วิญญาณร้ายไม่มีเรื่องของการตื่นหรือไม่ตื่นหลังจากที่พวกเขาตายแล้ว พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องนอนหลับ แต่ถ้าต้องการรักษาสภาพของร่างวิญญาณ ก็จำเป็นต้องพักผ่อนเพียงแต่รูปแบบการพักผ่อนของพวกเขากับคนเป็นนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเหมยตงยวนนั่งลงข้างๆ นาง “วันนี้ข้าเกือบจะทำให้เจ้าได้รับบาดเจ็บงั้นหรือ?”ความทรงจำขณะที่คลุ้มคลั่ง เหมยตงยวนยังคงมีอยู่ครบถ้วน เพียงแต่ไม่ชัดเจนนักเฟิ่งชูอิ่งตอบตามความจริง “
Read more

บทที่ 644

แต่เรื่องครั้งนี้กลับตบหน้าเขาอย่างจัง บอกให้เขารู้ว่าความคิดก่อนหน้านี้ของเขานั้นประมาทเกินไปเฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า “เจ้าค่ะ ถ้าท่านพ่อคิดหาวิธีได้ ต่อไปก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้อีกแล้ว”เหมยตงยวนรู้ว่านี่เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดในตอนนี้ถ้าเขาหาทางแก้ไม่ได้ เพื่อปกป้องนาง เขาคงต้องอยู่ห่างจากนางและก่อนหน้านี้เพื่อปกป้องมารดาของนาง เขาจึงเลือกที่จะอยู่ห่างๆ มาแล้ว ทว่าผลลัพธ์สุดท้ายก็ไม่ดีนักเขาพูดเบาๆ ว่า “เดี๋ยวข้าจะคิดหาทางดู”ขณะที่เขาหันหลังจากไปก็คิดขึ้นมาได้อีกเรื่อง จึงถามเฟิ่งชูอิ่งว่า “วันนี้จิ่งโม่เยี่ยมาหาเจ้าใช่ไหม เขาทำเจ้าลำบากใจหรือเปล่า?”เฟิ่งชูอิ่งส่ายหน้า “ไม่เจ้าค่ะ วันนี้เขาพูดจาว่าง่ายมากเลย เราหย่ากันเรียบร้อยแล้ว”พูดจบนางก็หยิบใบหย่าออกมาให้เหมยตงยวนดูเหมยตงยวนเหลือบมองแล้วพยักหน้าเบาๆ “ครั้งนี้เขาทำตัวเหมือนลูกผู้ชายเสียที”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะ “เจ้าค่ะ ข้าตกลงกับเขาแล้วว่าต่อไปเขาจะไม่มาหาข้าอีก เราต่างคนต่างอยู่”พูดมาถึงตรงนี้ นางก็ถามว่า “ท่านพ่อดูไม่แปลกใจกับเขาเลยนะ เหมือนรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเขาจะมาหา”มาถึงตอนนี้แล้ว เหมยตงยวนก
Read more

บทที่ 645

พวกเขาจึงเป็นใหญ่ในพื้นที่แห่งนั้น ชาวบ้านทุกข์ทรมานมานาน แต่พวกเขากลับใช้ชีวิตอย่างสุขสบายวันนั้นพวกเขากำลังประชุมกันในป้อมปราการเพื่อวางแผนปล้นหมู่บ้านใกล้เคียง แต่กลับได้รับแจ้งว่าพวกเขาเป็นผู้สังหารอ๋องเฉิน และอ๋องผู้สำเร็จราชการก็กำลังยกทัพมาโจมตีพวกเขาเมื่อได้ยินเช่นนั้นในคราแรก พวกเขาก็นึกว่าเป็นเรื่องตลกต่อให้พวกเขามีความกล้ามากกว่านี้ถึงสิบเท่า ก็ไม่กล้าลงมือกับอ๋องเฉินหรอก!และอ๋องผู้สำเร็จราชการผู้นั้นก็คือเทพเจ้าแห่งความตาย พวกเขาจะไปกล้าหาญต่อกรได้อย่างไร?แต่เมื่อจิ่งโม่เยี่ยยกทัพมาโจมตีด้วยตัวเอง เขาก็รู้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องตลก แต่เป็นความจริง!คนในป้อมปราการหลายร้อยคนถูกกองทัพของจิ่งโม่เยี่ยกวาดล้างจนหมด ไม่มีใครหนีรอดได้เลยพวกเขาถูกจับ ชาวบ้านแถวนั้นต่างปรบมือชื่นชมเพราะพวกโจรเหล่านั้นฆ่าคนอย่างไร้ความปรานี ดังนั้นถึงแม้พวกเขาจะตะโกนโวยวายว่าไม่ได้ฆ่าจิ่งสือเฟิง ก็ไม่มีใครยอมเชื่อเพราะศพของจิ่งสือเฟิงถูกพบในป้อมปราการของพวกเขาเมื่อหัวหน้าโจรใหญ่ถูกจิ่งโม่เยี่ยจับได้ เขายังคงแก้ตัวว่า “ข้าไม่ได้ฆ่าอ๋องเฉิน นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด!”จิ่งโม่เยี่ยยกมือขึ้นเล
Read more

บทที่ 646

จิ่งโม่เยี่ยพูดมาถึงตรงนี้แล้วก็ชะงักเล็กน้อย จากนั้นก็กล่าวต่อว่า “ขณะที่ข้าไปถึงนั้นมันก็สายเกินไปแล้ว โจรภูเขาโหดเหี้ยมพวกนั้นได้ฆ่าเขาไปแล้ว”ฮองเฮาทรงทราบดีว่าวันนี้จิ่งสือเฟิงออกไปทำอะไร พระนางจึงไม่เชื่อคำพูดของจิ่งโม่เยี่ยพระนางเบิกตากว้างมองจิ่งโม่เยี่ยแล้วเอ่ยว่า “เฟิงเอ๋อร์ไม่ได้ถูกโจรภูเขาฆ่า แต่เป็นเจ้าต่างหากที่ฆ่าเขา!”ทันทีที่พระนางเอ่ยเช่นนั้น สายตาของทุกคนก็หันไปมองจิ่งโม่เยี่ยสีหน้าของจิ่งโม่เยี่ยเปลี่ยนไป เขาเอ่ยเสียงต่ำว่า “ฮองเฮาควรระวังคำพูดหน่อยนะ”“แม้ข้ากับพี่รองจะทะเลาะเบาะแว้งกันบ้างเป็นบางครั้ง แต่ก็ไม่มีเรื่องบาดหมางร้ายแรงใดๆ เหตุใดข้าจะต้องไปฆ่าเขาเล่า?”ฮองเฮากริ้วและกล่าวว่า “เจ้ามีความทะเยอทะยาน ต้องการแย่งชิงบัลลังก์ เฟิงเอ๋อร์เป็นองค์ชายเพียงพระองค์เดียวที่ถือกำเนิดจากฮองเฮา เป็นผู้สืบราชสมบัติโดยชอบธรรม”“เจ้าฆ่าเขาเพื่อต้องการแย่งชิงบัลลังก์!”จิ่งโม่เยี่ยจ้องมองพระนางราวกับมองคนโง่เขลา “ข้าเห็นใจฮองเฮาที่เพิ่งสูญเสียบุตรชายไป ความโศกเศร้าเป็นสาเหตุที่ทำให้ท่านอาจพูดจาไม่ระมัดระวัง”“แต่ข้าก็ต้องปกป้องตัวเอง ตำแหน่งอ๋องผู้สำเร็จราชการนี
Read more

บทที่ 647

เนื่องจากจิ่งสือเฟิงปัจจุบันไม่ได้ดำรงตำแหน่งใดๆ ในเมืองหลวง และไม่เกี่ยวข้องกับคดีอาญาหากเขาได้หลักฐานการกบฏของปู๋เยี่ยโหว คนของศาลต้าหลี่จะต้องให้ความร่วมมือแน่แต่ตอนนี้จิ่งสือเฟิงตายแล้ว ศาลต้าหลี่คงจะทำตัวเป็นเต่าหดหัวในกระดองนางรู้สึกเสียใจและหวาดกลัว ในที่สุดนางก็เข้าใจเรื่องราวได้อย่างหนึ่งแล้วก่อนหน้านี้ที่นางต่อสู้กับเหล่าสนมในวังหลัง นางชนะได้ก็เพราะนางเป็นฮองเฮา มีอำนาจเหนือกว่าพวกนางเหล่านั้นแต่ประสบการณ์การต่อสู้เหล่านั้น เมื่อนำมาใช้กับจิ่งโม่เยี่ยกลับใช้ไม่ได้ผลเลยสักนิดเพราะจิ่งโม่เยี่ยในปัจจุบันเป็นผู้กุมอำนาจที่แท้จริง เขาไม่เห็นหัวนางด้วยซ้ำไปต่อหน้าอำนาจและพละกำลังที่เหนือกว่าอย่างสิ้นเชิง นางไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลยนางกัดฟันพูดว่า “เรื่องเหล่านี้พวกเราล้วนรู้ดีแก่ใจว่าเป็นอย่างไร จิ่งโม่เยี่ย เจ้าฆ่าพี่น้องตัวเองได้ลงคอ ต่อไปจะต้องตายไม่ดีแน่!”สีหน้าของจิ่งโม่เยี่ยเรียบเฉย “ถึงแม้ข้าจะเรียกจิ่งสือเฟิงว่าพี่ชาย แต่เขาก็ไม่นับว่าเป็นพี่น้องของข้า”“คำพูดของฮองเฮาข้าคิดว่ายอดเยี่ยมมากเลยล่ะ ท่านมิลองเอาประโยคพวกนี้ไปพูดต่อหน้าเสด็จลุงดูล่ะ?”ฮองเฮา
Read more

บทที่ 648

มหาราชครูเป็นคนฉลาด พวกเขาเคยสนับสนุนจิ่งสือเฟิงเพราะมีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดและจิ่งสือเฟิงเป็นโอรสที่กำเนิดจากภรรยาเอก มีโอกาสสูงที่จะได้ครองราชย์สมบัติต่อจากฮ่องเต้เจาหยวนหากจิ่งสือเฟิงได้ขึ้นครองราชย์ มันจะเป็นเรื่องดีอย่างยิ่งสำหรับพวกเขาแต่ตอนนี้จิ่งสือเฟิงตายไปแล้ว แผนการทั้งหมดของพวกเขาก็ล้มเหลว แต่พวกเขายังมีชีวิตอยู่และต้องมองไปข้างหน้าในเมื่อพวกเขาไม่มีหลักฐานที่จะพิสูจน์ว่าจิ่งโม่เยี่ยฆ่าจิ่งสือเฟิง การไปหาเรื่องจิ่งโม่เยี่ยก็เท่ากับไปหาเรื่องตายมหาราชครูมองเห็นเรื่องนี้ชัดเจน จึงห้ามไม่ให้ฮองเฮาไปหาเรื่องจิ่งโม่เยี่ยฮองเฮาน้ำตาคลอเบ้ากล่าวว่า “แล้วเฟิงเอ๋อร์จะตายไปทั้งอย่างนี้หรือ?”มหาราชครูกล่าวเสียงเคร่งเครียดว่า “ไม่แน่นอน สิ่งที่เราต้องทำคือเก็บรวบรวมหลักฐานอย่างลับๆ และรอโอกาสที่เหมาะสมเพื่อกำจัดจิ่งโม่เยี่ย”เมื่อได้ยินว่ามหาราชครูไม่ได้ละทิ้งการแก้แค้นให้จิ่งสือเฟิง ใจของฮองเฮาก็โล่งขึ้นมาบ้างแต่เมื่อเห็นจิ่งสือเฟิงนอนอยู่ตรงนั้นในสภาพไร้ลมหายใจ ฮองเฮาก็เศร้าเสียใจอีกครั้ง น้ำตาไหลพรากเป็นสายจิ่งสือเยี่ยนได้ยินข่าวการตายของจิ่งสือเฟิงตอนอยู่ที่จ
Read more

บทที่ 649

ในใจของซูโหย่วเหลียงแล้ว จิ่งสือเยี่ยนเป็นเพียงหนุ่มน้อยผู้มีนิสัยอ่อนโยนการพูดเช่นนี้ทำให้เขารู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เพราะเขาเป็นลุงแท้ๆ ของจิ่งสือเยี่ยน เป็นผู้ที่มีอาวุโสมากกว่าอย่างเห็นได้ชัดถึงแม้จิ่งสือเยี่ยนจะเป็นองค์ชาย แต่ความสำเร็จในปัจจุบันของจิ่งสือเยี่ยน เขารู้สึกว่าล้วนเป็นเพราะความช่วยเหลือของตระกูลซูหากตลอดหลายปีที่ผ่านมา ตระกูลซูไม่ได้ทุ่มเททรัพยากรทั้งหมดให้กับจิ่งสือเยี่ยน เขาก็คงยังคงเป็นองค์ชายที่ไร้ซึ่งตัวตนอยู่ในวังเขารู้สึกไม่สบายใจ แต่ใบหน้ายังคงยิ้มแย้มอยู่ บอกด้วยท่าทีที่ดูเหมือนจะประจบประแจงว่า “ลุงรู้แล้ว เจ้าอย่าห่วงเลย เรื่องเหล่านี้ลุงจะเชื่อฟังเจ้า”จิ่งสือเยี่ยนได้ยินคำพูดนี้ ก็รู้ว่าเขายังไม่ได้ใส่ใจจริงจังแต่เมื่อพูดมาถึงตรงนี้แล้ว หากจิ่งสือเยี่ยนพูดต่อก็จะทำให้คำพูดฟังดูรุนแรงเกินไป เขาจึงต้องหยุดไว้ก่อนหลังจากส่งซูโหย่วเหลียงออกไปแล้ว เขาก็บอกกับองครักษ์ว่า “แม้ว่าการกระทำของจิ่งสือเฟิงจะเกินขอบเขตไปบ้างในคราวนี้ แต่พี่สามก็คงไม่ถึงขั้นลงมือฆ่าแกงเขาหรอก”“ไปตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่”องครักษ์รับคำแล้วไปตรวจสอบอย่างละเอียด แ
Read more

บทที่ 650

จิ่งสือเยี่ยนและปู๋เยี่ยโหวนับว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน แต่ความสัมพันธ์ของทั้งสองไม่ค่อยดีนักปู๋เยี่ยโหวคิดว่าจิ่งสือเยี่ยนเจ้าเล่ห์เพทุบาย ส่วนจิ่งสือเยี่ยนก็คิดว่าปู๋เยี่ยโหวบ้าบอไร้สติ ปกติทั้งสองคนเจอกันก็แค่พยักหน้าทักทายกันเท่านั้น ไม่มีมิตรภาพใดๆดังนั้นจิ่งสือเยี่ยนจึงรู้ว่าหากเขาไปหาปู๋เยี่ยโหวโดยตรง ปู๋เยี่ยโหวคงไม่ยอมร่วมมือแน่ เขาจึงต้องหาเหตุผลและข้ออ้างเขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะไปหาปู๋เยี่ยโหวเขาจึงแวะไปหาองค์ชายใหญ่ จิ่งสืออวิ๋นก่อนจิ่งสืออวิ๋นในฐานะองค์ชายใหญ่ ตลอดหลายปีที่ผ่านมากลับแทบไม่มีตัวตนอยู่เลยเพราะจิ่งสือเฟิงมักจะใช้ความได้เปรียบที่เป็นบุตรจากภรรยาเอกและมีตระกูลมารดาที่ทรงอิทธิพลคอยกดขี่จิ่งสืออวิ๋นอยู่เสมอครั้งนี้จิ่งสือเฟิงตาย คนที่ยินดีที่สุดก็คือจิ่งสืออวิ๋นและหากพิจารณาจากความสัมพันธ์ที่ปรากฏให้เห็น ก่อนหน้านี้ในบรรดาองค์ชายทั้งหมด คนที่ดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดกับปู๋เยี่ยโหวก็คือจิ่งสืออวิ๋นดังนั้น การให้จิ่งสืออวิ๋นเป็นคนไปขอร้องปู๋เยี่ยโหวให้พาไปที่จวนตากอากาศจึงเหมาะสมที่สุดเมื่อจิ่งสือเยี่ยนไปถึงวังของจิ่งสืออวิ๋น จิ่งสืออวิ๋
Read more
PREV
1
...
6364656667
...
100
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status