จิ่งโม่เยี่ยเพียงยิ้มรับคำพูดของเขาโดยไม่ชี้แจงอะไร เขาขึ้นคร่อมม้าแล้วห้อตะบึงจากไปปู๋เยี่ยโหวยืนกอดอกอยู่หน้าประตู กัดฟันมองแผ่นหลังของจิ่งโม่เยี่ยจากคำพูดของจิ่งโม่เยี่ย ดูเหมือนเขาจะยังไม่ได้ประทับรอยนิ้วมือบนใบหย่าแต่เฟิ่งชูอิ่งเป็นคนฉลาดมาก ถ้าจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้ประทับตรารอยนิ้วมือจริงๆ นางต้องรู้แน่แต่จนถึงตอนนี้นางก็ยังไม่รู้เรื่องนี้ ซึ่งโดยพื้นฐานแล้ว จิ่งโม่เยี่ยคงใช้เล่ห์กลบางอย่างปู๋เยี่ยโหวสบถในใจว่าจิ่งโม่เยี่ยช่างเจ้าเล่ห์และน่ารำคาญเหลือเกิน เขาต้องไปเตือนเฟิ่งชูอิ่งสักหน่อย ไม่งั้นเฟิ่งชูอิ่งจะตกเป็นเหยื่อของจิ่งโม่เยี่ยแน่นอนขณะที่จิ่งโม่เยี่ยกำลังขี่ม้าอยู่ริมฝีปากของเขาก็ยกขึ้นเล็กน้อย มันแฝงความนัยลึกลับปู๋เยี่ยโหวรีบกลับไปยังลานบ้านด้านใน เฟิ่งชูอิ่งเพิ่งทำพิธีส่งวิญญาณที่ตายไปเสร็จเรียบร้อย บรรยากาศจึงมีกลิ่นอายแปลกๆเมื่อเขามาถึง เขาก็พูดกับเฟิ่งชูอิ่งว่า “ท่านดูใบหย่าที่ท่านกับจิ่งโม่เยี่ยตกลงกันให้ดีๆ เขาอาจจะทำอะไรบางอย่างกับมันได้”เฟิ่งชูอิ่งได้ยินดังนั้นจึงรีบหยิบใบหย่าออกมา ลายนิ้วมือบนใบหย่าชัดเจน ไม่มีปัญหาอะไรเฟิ่งชูอิ่งมองไปทางปู๋เยี่
Read more