All Chapters of ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี: Chapter 411 - Chapter 420

997 Chapters

บทที่ 411

เขาพูดถึงตรงนี้แล้วก็ได้สติกลับมา พร้อมเอ่ยถามด้วยสีหน้าตื่นเต้นว่า “ท่านอ๋องกับคุณหนูเฟิ่งนอนร่วมเตียงกันมานานขนาดนี้ ไม่มีทางที่ยังไม่รับรู้รสชาติของเรื่องพรรค์นี้กระมัง?”สิ่งที่ตอบกลับมาคือพัดที่ถูกขว้างใส่ เขาตกใจ “ยังไม่เคยจริงๆ หรือนี่?“ท่านอ๋อง ท่านทำได้อย่างไรกัน นอนกอดหญิงสาวที่งดงามเช่นนี้ท่านไม่หวั่นไหวบ้างหรือ?“หรือว่าของท่านมองจากภายนอกดูดีแต่ใช้การใช้งานไม่ได้...โอ๊ย ท่านอ๋องหยุดตีก่อนพ่ะย่ะค่ะ ข้าจะไสหัวไปเดี๋ยวนี้แหละ!”จิ่งโม่เยี่ยเตะเขาจนตัวปลิวออกไป “เรื่องของข้าใช่สิ่งที่เจ้าจะมาคาดเดาส่งเดชได้หรือ?”ฉินจื๋อเจี้ยนยกมือกอดหัวแล้ววิ่งหนีออกไปเฟิ่งชูอิ่งผ่านมาเห็นท่าทางของเขาก็สงสัย ถามว่า “ฉินจ๋างสื่อ เกิดอะไรขึ้นกับท่านหรือ?”ฉินจื๋อเจี้ยนเคยคิดว่านางกับจิ่งโม่เยี่ยได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันแล้ว อีกทั้งยังเคยพูดจาหยอกล้อนางด้วยตอนนี้เขารู้แล้วว่านางยังเป็นสาวบริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่ จึงไม่สามารถกล่าวถ้อยคำเหล่านั้นให้นางฟังได้อีกเขารู้จักธาตุแท้ของบุรุษเป็นอย่างดี ร่างกายของจิ่งโม่เยี่ยปกติ ไม่มีทางที่นอนกอดสาวงามแล้วจะไม่เกิดอารมณ์ความรู้สึกคำอธิบายเดี
Read more

บทที่ 412

เพื่อป้องกันความผิดพลาด พระสนมสวี่จึงติดต่อคู่แค้นของจิ่งโม่เยี่ยในคืนนั้น ทั้งสองฝ่ายตกลงจะร่วมมือกันนางคิดว่าหากกองทัพเกล็ดทองฆ่าจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้ ถ้างั้นก็ให้อีกกลุ่มหนึ่งเป็นคนฆ่าแผนการที่รอบคอบและโหดเหี้ยมเช่นนี้ ตอนนี้นอกจากจะฆ่าจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้แล้ว ยังสร้างข่าวลือแปลกๆ ออกมาอีกนางยกเท้าเหยียบศีรษะหัวหน้ากองทัพเกล็ดทองคนนั้น “ไอ้พวกโง่ ไร้ประโยชน์สิ้นดี ออกไปซะ!”หลายปีมานี้นางพยายามทำให้กองทัพเกล็ดทองสังหารจิ่งโม่เยี่ย ลงทุนลงแรงไปไม่ใช่น้อย แต่คนพวกนี้หัวรั้นยิ่งนัก พวกเขายึดมั่นในกฎข้อห้ามและไม่ยอมลงมือหลังจากหัวหน้ากองทัพเกล็ดทองออกไป พระสนมสวี่ก็ยิ่งคิดยิ่งโมโห จึงใช้มือกวาดของบนโต๊ะจนแตกกระจายครั้งก่อนเฟิ่งชูอิ่งแอบเคลื่อนย้ายยันต์ที่นางแปะบนตัวอีกฝ่ายในห้องทรงพระอักษร เอามาไว้บนตัวนางโดยที่นางไม่ทันรู้ตัว จนนางถูกเผาไหม้พุพองไปทั้งตัวเดิมทีไฟนั่นก็ร้ายกาจมากอยู่แล้ว ถึงในยามปกติเจ้าอารามจะช่วยนางดับได้ทันเวลา นางก็ยังถูกเผาทั้งเป็นอยู่ดีตอนที่นางออกจากตำหนักวันนั้น เทียนซือกลัวจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันจึงยกสมบัติวิเศษของสำนักลี้ลับให้นางหนึ่งชิ้นสมบัติวิเศษชิ้นนั้นช
Read more

บทที่ 413

ดังนั้นหลังจากเทียนซือใช้คำสาปกับจิ่งโม่เยี่ยแล้ว พระสนมสวี่กับฮ่องเต้เจาหยวนถึงต้องพระราชทานสมรสให้จิ่งโม่เยี่ยการพระราชทานสมรสครั้งนี้มีว่าที่พระชายาถึงเจ็ดคน จากนั้นพวกเขาก็ฆ่าสตรีที่น่าสงสารทั้งเจ็ดคนทิ้งขอเพียงรวมครบแปดคน ก็จะสามารถเปลี่ยนชะตาชีวิตของจิ่งโม่เยี่ยให้กลายเป็นชะตาหายนะได้แล้วดังนั้นพวกเขาถึงได้ปล่อยข่าวว่าจิ่งโม่เยี่ยมีดวงชะตาเป็นดาวหายนะออกไป เพื่อที่เวลาคำสาปทำงานเรียบร้อยแล้ว มันจะตรงกับข่าวลือพอดีตอนแรกแผนการทั้งหมดนี้ดำเนินได้อย่างราบรื่นมาก จิ่งโม่เยี่ยรู้แค่ว่าตนเองถูกคนใช้คำสาป แต่ไม่รู้ว่าในคำสาปมีค่ายกลที่ชั่วร้ายขนาดนี้อยู่ด้วยทว่าแผนการทั้งหมดกลับหยุดชะงัดอยู่ที่เฟิ่งชูอิ่งไม่มีใครคาดคิดหรอกว่า ว่าที่พระชายาคนสุดท้ายของจิ่งโม่เยี่ยจะเชี่ยวชาญศาสตร์ลี้ลับนอกจากพวกเขาจะฆ่านางไม่สำเร็จแล้ว นางยังช่วยเหลือจิ่งโม่เยี่ยได้อีกอย่างหากเรื่องนี้หลุดจากการควบคุมของพวกเขาไปแล้วในตอนนี้ เทียนซือพลันนึกถึงดวงชะตาที่สูงศักดิ์ยิ่งใหญ่ของจิ่งโม่เยี่ยขึ้นมา ภายในมีความคิดอยู่อย่างหนึ่งชะตาชีวิตคนกำหนดโดยสรวงสวรรค์ หากคนต้องการแลกเปลี่ยนดวงชะตา มรรคาสวรรค์ไม่มีทา
Read more

บทที่ 414

ครั้งก่อนที่เฟิ่งชูอิ่งพบพานเหรินซิ่นในวังหลวง นางก็รู้สึกเกลียดขี้หน้าเขามากครั้งก่อนเทียนซือกับพานเหรินซิ่นร่วมมือกัน ใช้คำสาปเล่นงานจิ่งโม่เยี่ยจนเขาเกือบจะตายนางควรคิดได้ว่า พระสนมสวี่ยอมทำทุกหนทางเพื่อสังหารจิ่งโม่เยี่ยตอนแรกจิ่งโม่เยี่ยเกือบจะถล่มแคว้นหนานเยว่ไปแล้ว จึงกลายเป็นศัตรูตัวฉกาจของแคว้นหนานเยว่พานเหรินซิ่นพักอยู่ในเมืองหลวงไม่ยอมไปไหน คิดว่าคงจะหาทางฆ่าจิ่งโม่เยี่ยอยู่ส่วนฮ่องเต้เจาหยวนก็ยอมร่วมมือด้วย ส่งตัวเจิ้งเนี่ยนซินไปแต่งงานที่แคว้นหนานเยว่เพื่อเย้ยหยันจิ่งโม่เยี่ย เพียงแต่ไม่มีสั่งให้กรมพิธีการเตรียมราชโองการถึงเรื่องนี้จะถูกเฟิ่งชูอิ่งขัดขวางเอาไว้ แต่ไม่ได้แปลว่าฮ่องเต้เจาหยวนจะไม่ซ่อนกลอุบายเอาไว้โดยสรุปแล้ว นางจะปล่อยให้พานเหรินซิ่นอยู่ในเมืองหลวงต่อไม่ได้ หากฆ่าเขาทิ้งได้ย่อมดีที่สุด แต่หากไม่ได้ก็ต้องขับไล่เขาออกจากเมืองหลวงนางรู้สึกจากใจจริงว่าจิ่งโม่เยี่ยเป็นคนน่าสงสารมาก ในเมืองหลวงมีแต่คนจ้องจะเอาชีวิตเขาเต็มไปหมดจิ่งโม่เยี่ยกล่าวเสียงเรียบ “พานเหรินซิ่นสมควรตายจริงๆ นั่นแหละ แต่พวกเราไม่อาจลงมือกับเขาอย่างเปิดเผยได้”พานเหรินซิ่นเป็นทูตจากแค
Read more

บทที่ 415

จิ่งโม่เยี่ยจึงยิ้มตอบว่า “ถ้างั้นเจ้าก็ลองดูเถอะ ว่าจะสามารถซื้อของจนกระเป๋าเงินของข้าว่างเปล่าได้หรือไม่“หากเจ้าชอบทั้งหอร้อยสมบัติจริงๆ ข้าก็ยกหอร้อยสมบัติให้เจ้าได้ไม่ใช่ปัญหา”เฟิ่งชูอิ่ง “……”นางเพิ่งจะได้สัมผัสกับสิ่งที่เรียกว่าความร่ำรวยอย่างแท้จริงแต่สิ่งที่นางไม่รู้ก็คือ หอร้อยสมบัติความจริงแล้วเป็นกิจการของจิ่งโม่เยี่ยตอนนั้นหลังจากเขายกทัพไปตีแคว้นหนานเยว่ได้ ก็ตระหนักได้ว่าตนเองไม่อาจนั่งรอความตายเขาจึงสั่งให้คนก่อตั้งหอร้อยสมบัติขึ้นมา จากนั้นก็หาคนที่เชี่ยวชาญการค้ามาดูแลบริหาร ที่นั่นยังเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลในเมืองหลวงแบบลับๆ ของเขาด้วยทว่าเรื่องนี้เขาแอบทำเงียบๆ และปิดเป็นความลับ คนในเมืองหลวงจึงแทบไม่มีใครรู้ถึงสภาพความเป็นอยู่ในเมืองหลวงของจิ่งโม่เยี่ยจะไม่ดี แต่นั่นก็เป็นเรื่องในที่ลับทั้งหมด ตอนอยู่ต่อหน้าฮ่องเต้เจาหยวนไม่กล้าหาเรื่องเขาอย่างเปิดเผย สิ่งที่องค์ชายคนอื่นมีเขาก็ย่อมมีด้วยไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่จิ่งโม่เยี่ยครอบครองที่ดินศักดินาขนาดใหญ่มหึมาที่เป็นแหล่งรายได้ เขาร่ำรวยกว่าที่เฟิ่งชูอิ่งจินตนาการไว้มากเฟิ่งชูอิ่งไม่มีทางเหมาสินค้าทั้งหมดของหอร้อย
Read more

บทที่ 416

เฟิ่งชูอิ่งกดปลายจมูกของตัวเองชนกับปลายจมูกของเขา “ก็พอตัวเพคะ!“ถึงอย่างไรข้าก็จะแต่งงานกับท่านอ๋องอยู่แล้ว ท่านอ๋องเก่งกาจมากความสามารถขนาดนั้น แล้วข้าจะเป็นตัวถ่วงของท่านอ๋องได้อย่างไร!”จิ่งโม่เยี่ย “……”เหตุผลของนางทำเอาเขาเถียงไม่ออกเลยนางเล่นดึงเขาไปเป็นส่วนหนึ่งของเหตุผลที่นางมากความสามารถเฟิ่งชูอิ่งยกมือขึ้นลูบแผงอกของเขา “รูปร่างกำยำมิเลว สัมผัสดีมากเลยเพคะ”จิ่งโม่เยี่ยคว้ามือของนางเอาไว้ก่อนจะขยับร่างกายอย่างฉับพลัน นางหรือจะเป็นคู่ต่อกรของเขาได้ เพียงพริบตาเดียวก็ถูกเขากดลงไปอยู่ใต้ร่างแล้วเฟิ่งชูอิ่งใช้มือดันอกของเขาแล้วกล่าวว่า “ท่านอ๋อง ท่านทำแบบนี้จะไม่เกินไปหน่อยหรือเพคะ?”จิ่งโม่เยี่ยกระตุกยิ้มมุมปาก “ถึงเจ้าจะไม่ได้เป็นฝ่ายจูบข้า แต่ข้าเป็นฝ่ายจูบเจ้าแทน หากว่ากันตามจริงแล้วมันก็ไม่ต่างหรอก“เอาแบบนี้ดีไหม วันนี้ข้าจะยอมให้เจ้าลูบคลำตามใจชอบ แล้วไม่คิดบัญชีกับเจ้าทีหลังด้วย”เฟิ่งชูอิ่ง “……”นางอยากจะบอกเขาเหลือเกินว่ามันเหมือนกันตรงไหนมิทราบ!นางกำลังจะพูดบางอย่าง แต่เขากลับกดริมฝีปากลงมาบดจูบนางเสียก่อนมือของเขาก็อยู่ไม่สุขเสียด้วย เพราะมันกำลังค่อยๆ คืบคลานเข
Read more

บทที่ 417

เขาไม่ค่อยได้ออกมาเดินเล่นข้างนอกอย่างสบายใจแบบนี้บ่อยนัก และนี่เป็นครั้งแรกที่เขาออกมาเดินเล่นกับสตรีด้วยเฟิ่งชูอิ่งความจริงแล้วไม่ได้มีของที่อยากซื้อมากมาย นางออกไปข้างนอกวันนี้เพราะมีเรื่องอื่นที่ต้องทำนางยิ้มให้กับจิ่งโม่เยี่ยและกล่าวว่า "วันนี้ข้าได้รับของมีค่าจากท่านอ๋องมากมายเลย อย่างไรก็ต้องตอบแทนท่านอ๋องบ้าง"จิ่งโม่เยี่ยถามนางว่า "เจ้าจะตอบแทนอย่างไร?"เฟิ่งชูอิ่งดึงจิ่งโม่เยี่ยไปที่ร้านสุราตรงข้ามกับโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งแล้วเลิกคิ้วเบาๆ "ท่านอ๋องรอดูอยู่ตรงนี้ อีกสักครู่ก็จะรู้เองเพคะ"ก่อนหน้านี้นางบอกว่าจะจัดการกับพานเหรินซิ่น ก็แปลว่านางจะลงมือจริงๆนางจะจัดการพานเหรินซิ่น ไม่ใช่ทำแบบลับๆ ล่อๆ เพราะนั่นไม่ใช่นิสัยของนางถ้าจะจัดการเขาต้องทำให้ทุกคนในเมืองหลวงรู้ จัดการเขาแบบเปิดเผยตรงไปตรงมาแบบยิ่งใหญ่จัดเต็มนางต้องทำให้เขาอับอายจนอยากอยากแทรกแผ่นดิน หลบหนีหัวซุกหัวซุนออกจากเมืองหลวงไปเลย และต่อไปหากต้องเจอกับพวกเขาก็ต้องหวาดกลัวจนตัวสั่น!ยามนี้หน้าโรงเตี๊ยมกำลังเงียบสงบ ไม่มีสิ่งผิดปกติใดใดจิ่งโม่เยี่ยมองนาง นางหยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบแล้วกล่าวว่า "อย่าเพิ่งรีบร้
Read more

บทที่ 418

เมื่อพานเหรินซิ่นออกมา เหล่าชายฉกรรจ์ที่อยู่ตรงประตูก็ได้เข้าโอบล้อมเขาไว้ทันทีเหล่าทหารองครักษ์ของเขาเมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ ก็รีบตะโกนว่า "บังอาจ นี่คือองค์ชายแห่งแคว้นหนานเยว่ อย่าได้ทำกริยาหยาบคาย!"หญิงสาวคนนั้นร้องไห้ว่า "องค์ชายแคว้นหนานเยว่สามารถข่มเหงชาวบ้านตาดำๆ ในแคว้นของเราได้ตามใจชอบหรือ?"พวกเจ้าคิดว่าไม่มีคนเหลืออยู่ในแคว้นของเราแล้วหรือ คิดว่าบุรุษในราชสำนักของเราตายหมดแล้วหรือ?"เมื่อเรื่องนี้ถูกยกระดับขึ้นเป็นเรื่องระหว่างแคว้น ความรุนแรงก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงยิ่งไปกว่านั้น หญิงสาวคนนั้นดูอ่อนโยนและบอบบาง ทำให้คนรู้สึกเห็นอกเห็นใจได้ง่ายพานเหรินซิ่นในช่วงนี้ถึงแม้จะเก็บตัวเงียบอยู่ในเมืองหลวง แต่เขาก็ไม่ใช่คนในของแคว้นนี้อย่างแท้จริง เมื่อหญิงสาวกล่าวออกมาเช่นนั้น รอบข้างก็เต็มไปด้วยเสียงตะโกนว่าจะทำร้ายเขา อัดเขาให้เละเมื่อเขาเห็นสถานการณ์ไม่สู้ดี จึงพยายามถอยกลับเข้าไปในโรงเตี๊ยม แต่ก็สายเกินไปแล้วหญิงสาวคนนั้นกอดขาเขาแล้วร้องไห้ว่า "ท่านหลอกลวงเอาความสาวของข้าไปหมดแล้วก็ช่างเถอะ แต่ช่วยคืนเงินของข้ามาด้วย!"พานเหรินซิ่นสบถว่า "ข้าไม่รู้จักเจ้าด้วยซ้
Read more

บทที่ 419

จิ่งโม่เยี่ยเห็นภาพนี้ก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย หันไปมองเฟิ่งชูอิ่งแล้วกล่าวว่า "วิธีของเจ้านับว่าไร้คุณธรรมอยู่บ้าง แต่ก็มีประสิทธิภาพมาก"แต่คนที่เจ้าส่งออกไปพวกนั้น เกรงว่าจะถูกตามแก้แค้น"เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "เรื่องนี้ข้าก็คิดไว้แล้ว โยนความผิดให้ปู๋เยี่ยโหวเป็นคนรับผิดชอบ"จิ่งโม่เยี่ย "......"นางถึงกับเตรียมแพะรับบาปเอาไว้แล้วเฟิ่งชูอิ่งแค่นเสียงหัวเราะเบาๆ แล้วกล่าวว่า "คนพวกนี้เดิมทีก็ใกล้ชิดกับปู๋เยี่ยโหว คราวที่แล้วที่ไปหาเรื่องอารามเทียนอี้ ก็เป็นพวกเขาที่ปู๋เยี่ยโหวเรียกไป""เรื่องนี้ไม่ต้องให้พวกเขาไปหาตัวเขาหรอก ศาลไต่สวนก็สามารถตรวจสอบได้"จิ่งโม่เยี่ย "......"เขารู้ว่านางทำเรื่องที่ไม่ค่อยจะดีมากนัก แต่ตอนนี้เขาพบว่าเขายังประเมินความไร้คุณธรรมของนางต่ำเกินไปแต่ทำไม.....ทำไมเขาถึงมีความสุขขนาดนี้นะ?ก่อนหน้านี้เขายังเป็นห่วงว่าปู๋เยี่ยโหวคอยรบกวนนางมากไป อาจทำให้นางเกิดใจอ่อน แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าไม่ต้องห่วงเรื่องนี้แล้ว นางไม่มีปู๋เยี่ยโหวในใจเลยสักนิดเขาดีใจจนเหมือนมีดอกไม้บานในใจ แต่ภายนอกไม่แสดงออก เขากล่าวอย่างเรียบเฉย "เจ้าคิดเอาไว้แล้วก็ดี"คนพวกนี
Read more

บทที่ 420

เมื่อพวกเขามาถึงศาลไต่สวน มันก็ยุ่งเหยิงวุ่นวายไม่ต่างไปจากตลาดสดสักนิดจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้กล่าวอะไรมากมาย เพียงแค่ตีกลองร้องทุกข์ที่อยู่ข้างๆเจ้าหน้าที่ซึ่งกำลังวิ่งวุ่นหัวหมุนไปตามๆ กันนั้นส่งเสียงด่าทอออกมา ทว่าพอเห็นผู้ที่มาตีกลองร้องทุกข์ พวกเขาก็พากันกลืนคำด่าลงคอไปทันทีครั้งก่อนที่จิ่งโม่เยี่ยและเฟิ่งชูอิ่งมาที่ศาลไต่สวน พวกเขาเกือบจะพลิกศาลไต่สวนจนกลับด้านทั้งหมด พวกเขาจดจำได้ขึ้นใจหากพวกเขาไม่รู้จักอีกฝ่ายมาก่อนล่ะก็ หลังจากครั้งนั้น เจ้าหน้าที่ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นก็จำพวกเขาได้แม่นเชียวล่ะทันใดนั้นก็มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งเข้ามากล่าวว่า "ท่านอ๋องมีเรื่องร้องทุกข์อะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ?"จิ่งโม่เยี่ยกล่าวด้วยเสียงแผ่วเบาว่า "เมื่อสองคืนก่อนข้าถูกลอบสังหารกลางทาง ศาลไต่สวนไม่สามารถหาตัวคนร้ายได้ ข้าก็เลยไปหาด้วยตัวเอง"เจ้าหน้าที่ได้ยินดังนั้นก็ใจสั่นสะท้าน หากไม่ใช่พวกโง่ก็ต้องมองออกอยู่แล้วว่าเขามาเพื่ออาละวาดเจ้าหน้าที่รีบกล่าวว่า "เชิญท่านอ๋องเข้ามาข้างใน!"เมื่อจิ่งโม่เยี่ยและเฟิ่งชูอิ่งเดินเข้าไปด้านใน ตอนที่อยู่ใกล้ประตูพวกเขาก็สบตากันแวบหนึ่งเฟิ่งชูอิ่งม
Read more
PREV
1
...
4041424344
...
100
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status