All Chapters of ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี: Chapter 371 - Chapter 380

997 Chapters

บทที่ 371

อีกอย่างสติสัมปชัญญะของนางก็ร้องเตือนว่า ตอนนี้นางล่วงเกินพระสนมสวี่กับอารามเทียนอี้จนถอยกลับไม่ได้แล้ว พวกเขาจะพยายามฆ่านางทุกทางแน่นอนหากไม่มีจิ่งโม่เยี่ยปกป้อง ลำพังนางคนเดียวคงเอาตัวรอดจากเงื้อมมือพวกเขาไม่ได้ที่สำคัญที่สุดคือ พระสนมสวี่ทำแบบนี้เห็นชัดเลยว่าคิดจะแยกพวกเขาสองคน จากนั้นก็ค่อยฆ่าทีละคนหากนางแยกกับจิ่งโม่เยี่ย คาดว่าน่าจะตายเร็วกว่าเดิมนางรู้สึกเสียดายอย่างมาก โอกาสที่จะได้แยกทางกับจิ่งโม่เยี่ยมิได้ผ่านมาง่ายๆ แต่นางกลับไม่อาจตอบตกลงได้นางตอบด้วยสีหน้าจริงจัง “ต้องยินดีอยู่แล้วเพคะ ข้ายังคลายคำสาปให้ท่านอ๋องไม่สำเร็จ ดังนั้นไม่มีทางแยกจากกับท่านอ๋องแน่นอน“ข้ายังอยากร่วมมือกับท่านอ๋อง ช่วยกันฆ่าเทียนซือกับพระสนมสวี่ให้ตาย พวกเราสองคนเป็นคู่หูที่ดีที่สุดเลย!”จิ่งโม่เยี่ยเข้าใจความหมายโดยนัยที่นางจะสื่อ นางไม่ยินดีจะแต่งงานกับเขา แต่จำเป็นจะต้องอยู่ร่วมกับเขา ต้องเผชิญหน้ากับทุกสิ่งทุกอย่างด้วยกันเขาแค่นเสียงฮึเบาๆ “เจ้าก็ยังรู้ความอยู่บ้าง”เฟิ่งชูอิ่งยักคิ้วแล้วส่งยิ้มให้เขา “ไม่ใช่รู้ความเพคะ ข้ายินดีจะร่วมต่อสู้ร่วมถอยกับท่านอ๋องจริงๆ!”จิ่งโม่เยี่ยรู้ว่านางไม
Read more

บทที่ 372

เฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”พูดจาสัปดนอะไรเนี่ย!นางเหลือบมองเขาก่อนจะพยายามดันตัวออกจากอกของเขา เอนตัวพิงเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆ “ข้าตายแล้ว เรื่องนี้เอาไว้ข้าฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่ค่อยคุยกันนะเพคะ”กระดาษแผ่นนั้นเป็นสิ่งที่นางเขียนให้เขาก่อนออกจากเมืองหลวงครั้งก่อนตอนนั้นนางคิดว่าอย่างไรก็คงจะไม่ได้กลับมาที่นี่อีกแล้ว เพราะรู้สึกใจหายนิดหน่อยก็เลยเขียนติดตลกไปว่า ‘ขอให้ท่านร่มเย็นเป็นสุขตลอดไป อายุยืนยาวไม่ป่วยไข้ แต่งงานกับภรรยาที่ดี มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง’ตอนนี้นางหนีออกจากเมืองหลวงไม่สำเร็จ แล้วยังตระหนักได้อีกว่าชะตาชีวิตทั้งคู่ผูกติดกันแล้วซึ่งหากเป็นแบบนั้น จิ่งโม่เยี่ยก็คงแต่งภรรยาไม่ได้ในเร็วๆ วันนี้หรอก อีกทั้งกำหนดวันแต่งงานของพวกเขายังอยู่ในเดือนถัดไปด้วยดังนั้นภรรยาที่ดีในคำอวยพรนั่นจึงกลายเป็นนาง มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง....เรื่องนี้แค่คิดถึงนางก็ชาวาบไปทั้งศีรษะแล้วแกล้งตายดีกว่า พยายามหลบเลี่ยงเท่าที่จะหลบได้จิ่งโม่เยี่ยยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย เอ่ยว่า “เฟิ่งชูอิ่ง ข้าน่าจะเป็นบุรุษฐานะสูงส่งที่สุดแล้วที่เจ้าจะไขว่คว้ามาครองได้“ถึงแม้ชื่อเสียงของข้าในเมืองหลวงจะไม่ค่อยดีนั
Read more

บทที่ 373

ทว่าคืนนั้นเขาไม่ได้กลับมา นางตื่นเช้ามาก็ส่งเสียงจิ๊ในคำคอเบาๆ ไอ้บุรุษสุนัขนั่นขี้โมโหชะมัดเลยหลังจากนางชำระล้างร่างกายและรับประทานอาหารเช้าแล้ว ก็นั่งรถม้าเพื่อเดินทางเข้าวัง ซึ่งจิ่งโม่เยี่ยนั่งรอนางอยู่บนรถม้าก่อนแล้วเขาหันไปพูดอะไรบางอย่างกับหลางซาน พอได้ยินเสียงฝีเท้าเบาๆ จึงเอียงศีรษะมามองนางแสงแดดยามเช้าที่ค่อนข้างเบาบางตกกระทบบนตัวเขา ทำให้เขาดูเย็นชาขึ้นมาหลายส่วน ทำให้เขาดูดุดันมากกว่ายามปกติมากนักหลังจากนางขึ้นไปบนรถม้าแล้ว เขาก็เอนตัวพิงรถม้าคล้ายกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ สีหน้าเย็นชาไม่คิดจะแลมองนางแม้แต่น้อย นางจึงตัดสินใจเอนพิงรถม้าแล้วหลับตางีบสักพักจิ่งโม่เยี่ยกลับเอ่ยว่า “วันนี้เจ้าจะต้องระวังตัวมากหน่อย หากไม่ผิดจากที่คาดล่ะก็ พระสนมสวี่ไม่ปล่อยให้เจ้าออกจากวังแบบมีลมหายใจแน่”เฟิ่งชูอิ่งอ้าปากหาว “เพคะ ข้าจะพยายามเต็มที่ ทำให้พระสนมสวี่ออกจากวังแบบไม่มีชีวิตให้ได้”จิ่งโม่เยี่ยแค่นเสียงหัวเราะเบาๆ นางจึงหันไปมองเขา เขาพลันเลิกคิ้วกล่าวว่า “ดูมุ่งมั่นดี!”“หากวันนี้เจ้าทำให้พระสนมสวี่ตายได้ หลังจากนี้ไปข้าจะเคารพเทิดทูนเจ้า เจ้าพูดอะไรข้าจะทำตามทุกอย่าง”เ
Read more

บทที่ 374

จิ่งโม่เยี่ยวาดแขนออกไปคว้าเฟิ่งชูอิ่งเข้ามากอด ก่อจะหันมองไปด้านหลังประตูอย่างเย็นชาฉากแบบนี้คุ้นตาอย่างมาก เพราะตอนแรกที่เขาพาเฟิ่งชูอิ่งมาเข้าร่วมงานเลี้ยงในวัง เทียนซือก็วางกับดักแบบนี้เอาไว้ที่ประตูเหมือนกันครั้งนั้นอันตรายอย่างมาก หากนางตอบสนองไม่เร็วพอ เขาคงจะติดกับที่เทียนซือวางไว้แล้วเขาคิดว่าครั้งนี้ก็อาจจะเหมือนกับคราวนั้น แววตาจึงฉายความระแวดระวังเฟิ่งชูอิ่งสอดมือไปใช้คาถาบางอย่างที่เอวของเขา ก่อนจะกระพริบตาปริบๆ มองเขาเขาชะงักเล็กน้อย มองไม่ออกว่านางคิดจะทำอะไรเพียงเห็นนางหยิบเข็มเงินเล่มหนึ่งออกมาอย่างรวดเร็ว ใช้ตนเองเป็นกำแพงบดบังสายตาของคนอื่น ก่อนจะใช้เข็มแทงแขนของเขาจิ่งโม่เยี่ย “......”เฟิ่งชูอิ่งพลันตื่นตระหนกและเอ่ยว่า “ท่านอ๋อง ไม่เป็นไรนะเพคะ?“ทหารรีบมาทางนี้เร็วเข้า มีคนลอบใช้อาวุธโจมตี!”นางตะโกนออกไปแบบนั้น ก่อนจะขยับตัวมาบังด้านหน้าจิ่งโม่เยี่ยจิ่งโม่เยี่ย “......”หากมิใช่เพราะเขาเห็นนางใช้เข็มแทงเขากับตา เขาคงจะเชื่อที่นางพูดไปแล้วเขาเข้าใจเจตนาของนางอย่างฉับพลัน นางคิดจะชิงลงมือก่อน ไม่ปล่อยให้ผู้อื่นมีโอกาสสร้างสถานการณ์ต่อหน้าพวกเ
Read more

บทที่ 375

จิ่งโม่เยี่ยร่วมแสดงกับนางด้วย “เจ้าบอกว่าไม่ได้ลอบสังหารข้า เจ้าเป็นเจ้าหน้าที่ในสำนักโหรหลวง ทำไมถึงขึ้นไปอยู่บนเพดานของห้องทรงพระอักษรได้ล่ะ?“ข้าจำได้ว่าตำแหน่งที่เจ้าร่วงลงมาเมื่อครู่นี้เหมือนจะไม่มีชั้นหนังสือนะ นอกจากคานของเพดานก็ไม่มีอย่างอื่นแล้ว”สือซง “......”ตอนแรกเขาคิดจะอ้างว่าวันนี้ฮ่องเต้เจาหยวนเรียกตัวเขามาตรวจสอบตำราปฏิทิน แต่กลับถูกคำพูดของจิ่งโม่เยี่ยอุดปากจนพูดอะไรไม่ออกจิ่งโม่เยี่ยเอ่ยเสียงเย็นชา “เจ้ายังกล้าปฏิเสธอีก หากไม่ใช่เพราะชูอิ่งตอบสนองไว ข้าคงจะตายเพราะอาวุธลับของเจ้าไปแล้ว”เฟิ่งชูอิ่งเหลือบมองเข็มเงินที่ปักอยู่บนแขนของจิ่งโม่เยี่ย ตนเองไม่คิดว่าเข็มเล่มแค่นี้จะฆ่าเขาได้หรอกทว่านั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะเรื่องสำคัญคือเข็มเงินเล่มนี้ปักอยู่บนแขนของเขาเพราะตอนที่เขาเข้าวังมาจะต้องถูกค้นตัว วัตถุอันตรายทุกชนิดไม่อาจพกเข้ามาในวังได้ ดังนั้นเข็มเล่มนี้จะต้องเป็นฝีมือของคนอื่นยิงใส่เขาณ เวลานี้ แม้สือซงจะกระจ่างแจ้งว่าตนเองถูกคนใส่ร้าย แต่ก็ไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไรดีเขาหันไปหาฮ่องเต้เจาหยวนแล้วโอดครวญ “ฝ่าบาท กระหม่อมไม่ทราบว่าเข็มเงินบนตัวของท่า
Read more

บทที่ 376

จิ่งโม่เยี่ยประคองนางเล็กน้อย “อย่าพูดอะไรโง่ๆ สิ วันนี้หากไม่ใช่เพราะเจ้า ข้าคงจะต้องตายไปแล้ว“เจ้าทำได้ดีมากแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้จะโทษว่าเป็นความผิดของเจ้าได้อย่างไร“ข้าพอใจเจ้าอย่างมาก เสด็จอาพระราชทานสมรสได้ยอดเยี่ยมยิ่งนัก”เขากล่าวจบก็หันไปบอกฮ่องเต้เจาหยวน “ขอบพระทัยเสด็จอา!”พอทั้งสองยืนใกล้ชิดกันเช่นนี้ ก็ดูเป็นคู่รักที่บุรุษผ่าเผยสตรีอ่อนหวาน เหมาะสมกันอย่างมากไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่พวกเขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่ามีความรู้สึกลึกซึ้งต่อกันฮ่องเต้เจาหยวนได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มแย้ม ทว่าแววตากลับหม่นแสงฮ่องเต้เจาหยวนเป็นคนพระราชทานการสมรสในครั้งนี้เอง ตอนแรกฮ่องเต้เจาหยวนคิดจะบอกว่าหากพวกเขาไม่พอใจการจับคู่ครั้งนี้ ก็สามารถยกเลิกได้แล้วดูตอนนี้สิ คำพูดของพวกเขาทั้งสองคนอุดปากเขาจนโต้ตอบไม่ได้เลยที่สำคัญคือเขาเป็นฮ่องเต้ วาจาหนักแน่นดุจขุนเขา ไม่สามารถถอนคำพูดของตนเองได้ตามใจชอบ เพราะมันเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งเขาเหลือบมองเฟิ่งชูอิ่ง นางยืนร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ตรงนั้น ท่าทางอ่อนแอเปราะบาง ดูแล้วน่าสงสารอย่างยิ่งคนแบบนี้ ดูอย่างไรก็ไม่เหมือนคนที่อำมหิตม
Read more

บทที่ 377

“ข้าก็เลยนึกขึ้นได้ว่าตอนนั้นสำนักโหรหลวงคำนวณดวงชะตาของพวกเขาอย่างเดียว ไม่ได้คำนวณของข้าด้วย”นางกล่าวถึงตรงนี้ก็ก้มหน้าลง “ฝ่าบาท พวกเขายังไม่ทันได้แต่งงานกัน ข้าก็เป็นถึงเพียงนี้แล้ว“หากพวกเขาแต่งงานกันขึ้นมา เกรงว่าข้าคงจะถูกดวงนางขัดแย้งจนชีวิตหาไม่ ฝ่าบาทได้โปรดช่วยชีวิตข้าด้วย!”ยามที่นางร่ำไห้ออกมาดูอ่อนแอน่าทะนุถนอมเป็นอย่างมาก ใครเห็นก็ต้องรู้สึกสงสารฮ่องเต้เจาหยวนเผลอตัวคิดจะคว้านางเข้ามากอดปลอบ ทว่านึกขึ้นได้ว่าตรงนี้มีสายตามากมายจับต้อง ฐานะทั้งสองคนไม่เหมาะสมอย่างยิ่งเขาพยายามข่มความหุนหันพลันแล่นในใจ เอ่ยกับจิ่งโม่เยี่ยด้วยสีหน้าสดใส “เยี่ยเอ๋อร์ ตอนแรกที่พระราชทานสมรสให้เจ้า แม้ข้าจะให้สำนักโหรหลวงคำนวณดวงชะตาแล้ว“แต่ตอนนั้นไม่รู้จริงๆ ว่าแปดอักษรของเฟิ่งชูอิ่งจะขัดแย้งกับดวงชะตาของมารดาเจ้า ดูจากสถานการณ์ยามนี้แล้ว ข้าเองก็ลำบากใจไม่น้อย!”ความหมายของเขาชัดเจนมาก เขาลำบากใจที่ต้องตัดสิน ดังนั้นจิ่งโม่เยี่ยควรจะเป็นคนถอนหมั้นกับเฟิ่งชูอิ่งเองจิ่งโม่เยี่ยลอบแสยะยิ้มในใจ ทว่ากล่าวด้วยสีหน้าเฉยเมยว่า “ข้าคิดว่าพระสนมสวี่น่าจะถูกหลอกแล้วล่ะ”ฮ่องเต้เจาหยวนถาม
Read more

บทที่ 378

ดาบไม้ท้อในมือของเขาเป็นสมบัติตกทอดจากบรรพบุรุษ สามารถกำจัดสิ่งชั่วร้ายทั้งปวงได้และเพราะว่ามันทำมาจากไม้ท้อ มันจึงไม่มีความคม สามารถนำเข้ามาในวังได้ยามที่ปลายแหลมของดาบไม้ท้อเคลื่อนที่ไปทางไหน ก็จะมีไอเหมันต์กระเพื่อมเป็นระลอกเฟิ่งชูอิ่งเผชิญหน้ากับปลายคมดาบไม้ท้อด้วยความสงบนิ่ง ดวงตาเมล็ดซิ่งของนางกลมโต ดูอ่อนหวานไร้พิษภัยหากเป็นคมดาบไม้ท้อเพียงอย่างเดียวย่อมไม่สร้างความเสียหายอะไร ถึงเฟิ่งชูอิ่งจะเป็นวิญญาณที่มาจากโลกอื่น แต่นางไม่ใช่ภูตผีปีศาจจิ่งโม่เยี่ยคิดจะขยับไปขวางหน้าเฟิ่งชูอิ่ง แต่นางกระตุกแขนเสื้อของเขาเบาๆ เขาจึงทราบว่านางสามารถรับมือได้เจ้าอารามเห็นเฟิ่งชูอิ่งยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน ดวงตาก็พลันหรี่เล็กลงฮ่องเต้เจาหยวนอยู่ตรงนี้ด้วย เขาต้องตั้งใจแสดงฝีมือให้ดีๆ จึงเอ่ยเสียงดังว่า “ดาบไม้ท้อในมือของข้าสร้างจากต้นท้อพันปีที่ถูกสายฟ้าฟาดในยุคบรรพกาล!“กระบี่เล่มนี้เป็นปรปักษ์กับภูตผีปีศาจทั้งหมด ทุกที่ที่คมกระบี่นี้เคลื่อนผ่าน ปีศาจร้ายจะถูกเพลิงเผาไหม้เป็นจุณ!”เขากล่าวจบก็ท่องคาถาเชื่อมต่อกับยันต์ เขาคิดว่าอีกประเดี๋ยวเฟิ่งชูอิ่งจะต้องถูกไฟลุกไหม้แน่นอนซึ่งก
Read more

บทที่ 379

ฮ่องเต้เจาหยวนตงัดสายตามองนางอย่างเย็นชา นางจึงขยับไปหลบหลังจิ่งโม่เยี่ยด้วยท่าทางหวาดกลัวเสียเต็มประดาจิ่งโม่เยี่ยเอ่ยว่า “เสด็จอา ชูอิ่งนางขวัญอ่อน ท่านอย่าทำให้นางตกใจเลยพ่ะย่ะค่ะ”แม้ฮ่องเต้เจาหยวนจะไม่รู้ว่าเหตุใดเรื่องราวมันถึงกลับตาลปัตรเช่นนี้ได้ แต่ก็พอจะคาดเดาได้ว่าต้องเป็นฝีมือของเฟิ่งชูอิ่งแน่นอนฮ่องเต้เจาหยวนประทานเฟิ่งชูอิ่งให้แต่งงานกับจิ่งโม่เยี่ย เดิมทีเพราะต้องการจะทำให้จิ่งโม่เยี่ยอับอาย ผลลัพธ์กลับกลายเป็นว่าเขามอบผู้ช่วยสุดแกร่งให้อีกฝ่ายแทนเป็นความรู้สึกที่แย่จนเกินบรรยายเลย!คนเราพอตกอยู่ในอันตราย ก็มักจะร้องขอความช่วยเหลือจากคนที่ใกล้ชิดมากที่สุดพระสนมสวี่เจ็บแสบทรมานจากการถูกเผา จึงวิ่งเข้าไปหาฮ่องเต้เจาหยวนฮ่องเต้เจาหยวนขยับหลบนางอย่างไว พระสนมสวี่จึงรู้สึกสิ้นหวังอย่างฉับพลันนางไม่ทันระวังจึงเสียหลักล้มลง กระแทกโดนตู้เก็บตำราที่อยู่ข้างๆ เพลิงบนร่างของนางรุนแรงมาก เพียงพริบตาเดียวก็ไหม้ตูเก็บตำราทั้งหมดตู้เก็บหนังสือที่อยู่ใกล้กับห้องทรงพระอักษรของฮ่องเต้เจาหยวนล้วนเก็บรักษาเอกสารสำคัญไว้ หากมันถูกเผาไปแบบนี้จะต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่!ฮ่องเต้
Read more

บทที่ 380

เจ้าอารามตอบสนองได้ว่องไวมาก “เรื่องนี้เกิดการเข้าใจผิด คนที่ถูกปีศาจสิงสถิตร่างมิใช่พระสนมสวี่ แต่เป็นเฟิ่งชูอิ่ง....”เขากล่าวยังไม่ทันจบก็ถูกจิ่งโม่เยี่ยเตะจนกระเด็นออกไปตอนที่เขาถูกเตะกระเด็นออกมา หลังชนกระแทกกับชั้นหนังสือของห้องทรงพระอักษร ตอนที่ร่วงลงพื้นจึงกระอักเลือดออกมาคำโตจิ่งโม่เยี่ยกล่าวเสียงเย็นชา “นักพรตนอกรีตจากเจ้าจนถึงป่านนี้แล้วยังพูดจาเหลวไหลอยู่อีก!“หากปีศาจสิงร่างของเฟิ่งชูอิ่งจริง ทำไมคนที่ถูกไฟเผาถึงเป็นพระสนมสวี่ล่ะ?“แท้จริงแล้วเป็นเพราะเจ้าฝีมือห่วยแตก หรือเป็นเพราะเจ้าพูดจาส่งเดชกันแน่?”เจ้าอารามถูกเขาถีบจนเกือบจะสิ้นลมหายใจ ยามนี้ยังไม่ทันจะคลานขึ้นมาจากพื้นได้ จึงไม่เหลือเรี่ยวแรงอธิบายอะไรทั้งนั้นจิ่งโม่เยี่ยหันไปบอกฮ่องเต้เจาหยวน “เสด็จอา รบกวนช่วยออกราชโองการ จับตัวเจ้านักพรตนอกรีตผู้นี้ด้วย!”มือที่ซ่อนอยู่ใต้แขนเสื้อของฮ่องเต้เจาหยวนกำหมัดแน่นวันนี้พวกเขาวางแผนกันมาอย่างดิบดี ห้องทรงพระอักษรก็เป็นถิ่นของพวกเขา สถานที่กาลเวลาล้วนเหมาะสมและได้เปรียบ ทว่าพอจิ่งโม่เยี่ยกับเฟิ่งชูอิ่งก้าวเข้ามา ก็ทำลายแผนการของพวกเขาจนเละเทพ ดังนั้นเรื่อง
Read more
PREV
1
...
3637383940
...
100
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status