แชร์

บทที่ 375

ผู้เขียน: ดอกถังร่วงหล่น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-08-26 19:12:59
จิ่งโม่เยี่ยร่วมแสดงกับนางด้วย “เจ้าบอกว่าไม่ได้ลอบสังหารข้า เจ้าเป็นเจ้าหน้าที่ในสำนักโหรหลวง ทำไมถึงขึ้นไปอยู่บนเพดานของห้องทรงพระอักษรได้ล่ะ?

“ข้าจำได้ว่าตำแหน่งที่เจ้าร่วงลงมาเมื่อครู่นี้เหมือนจะไม่มีชั้นหนังสือนะ นอกจากคานของเพดานก็ไม่มีอย่างอื่นแล้ว”

สือซง “......”

ตอนแรกเขาคิดจะอ้างว่าวันนี้ฮ่องเต้เจาหยวนเรียกตัวเขามาตรวจสอบตำราปฏิทิน แต่กลับถูกคำพูดของจิ่งโม่เยี่ยอุดปากจนพูดอะไรไม่ออก

จิ่งโม่เยี่ยเอ่ยเสียงเย็นชา “เจ้ายังกล้าปฏิเสธอีก หากไม่ใช่เพราะชูอิ่งตอบสนองไว ข้าคงจะตายเพราะอาวุธลับของเจ้าไปแล้ว”

เฟิ่งชูอิ่งเหลือบมองเข็มเงินที่ปักอยู่บนแขนของจิ่งโม่เยี่ย ตนเองไม่คิดว่าเข็มเล่มแค่นี้จะฆ่าเขาได้หรอก

ทว่านั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะเรื่องสำคัญคือเข็มเงินเล่มนี้ปักอยู่บนแขนของเขา

เพราะตอนที่เขาเข้าวังมาจะต้องถูกค้นตัว วัตถุอันตรายทุกชนิดไม่อาจพกเข้ามาในวังได้ ดังนั้นเข็มเล่มนี้จะต้องเป็นฝีมือของคนอื่นยิงใส่เขา

ณ เวลานี้ แม้สือซงจะกระจ่างแจ้งว่าตนเองถูกคนใส่ร้าย แต่ก็ไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไรดี

เขาหันไปหาฮ่องเต้เจาหยวนแล้วโอดครวญ “ฝ่าบาท กระหม่อมไม่ทราบว่าเข็มเงินบนตัวของท่า
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 376

    จิ่งโม่เยี่ยประคองนางเล็กน้อย “อย่าพูดอะไรโง่ๆ สิ วันนี้หากไม่ใช่เพราะเจ้า ข้าคงจะต้องตายไปแล้ว“เจ้าทำได้ดีมากแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้จะโทษว่าเป็นความผิดของเจ้าได้อย่างไร“ข้าพอใจเจ้าอย่างมาก เสด็จอาพระราชทานสมรสได้ยอดเยี่ยมยิ่งนัก”เขากล่าวจบก็หันไปบอกฮ่องเต้เจาหยวน “ขอบพระทัยเสด็จอา!”พอทั้งสองยืนใกล้ชิดกันเช่นนี้ ก็ดูเป็นคู่รักที่บุรุษผ่าเผยสตรีอ่อนหวาน เหมาะสมกันอย่างมากไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่พวกเขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่ามีความรู้สึกลึกซึ้งต่อกันฮ่องเต้เจาหยวนได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มแย้ม ทว่าแววตากลับหม่นแสงฮ่องเต้เจาหยวนเป็นคนพระราชทานการสมรสในครั้งนี้เอง ตอนแรกฮ่องเต้เจาหยวนคิดจะบอกว่าหากพวกเขาไม่พอใจการจับคู่ครั้งนี้ ก็สามารถยกเลิกได้แล้วดูตอนนี้สิ คำพูดของพวกเขาทั้งสองคนอุดปากเขาจนโต้ตอบไม่ได้เลยที่สำคัญคือเขาเป็นฮ่องเต้ วาจาหนักแน่นดุจขุนเขา ไม่สามารถถอนคำพูดของตนเองได้ตามใจชอบ เพราะมันเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งเขาเหลือบมองเฟิ่งชูอิ่ง นางยืนร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ตรงนั้น ท่าทางอ่อนแอเปราะบาง ดูแล้วน่าสงสารอย่างยิ่งคนแบบนี้ ดูอย่างไรก็ไม่เหมือนคนที่อำมหิตม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-26
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 377

    “ข้าก็เลยนึกขึ้นได้ว่าตอนนั้นสำนักโหรหลวงคำนวณดวงชะตาของพวกเขาอย่างเดียว ไม่ได้คำนวณของข้าด้วย”นางกล่าวถึงตรงนี้ก็ก้มหน้าลง “ฝ่าบาท พวกเขายังไม่ทันได้แต่งงานกัน ข้าก็เป็นถึงเพียงนี้แล้ว“หากพวกเขาแต่งงานกันขึ้นมา เกรงว่าข้าคงจะถูกดวงนางขัดแย้งจนชีวิตหาไม่ ฝ่าบาทได้โปรดช่วยชีวิตข้าด้วย!”ยามที่นางร่ำไห้ออกมาดูอ่อนแอน่าทะนุถนอมเป็นอย่างมาก ใครเห็นก็ต้องรู้สึกสงสารฮ่องเต้เจาหยวนเผลอตัวคิดจะคว้านางเข้ามากอดปลอบ ทว่านึกขึ้นได้ว่าตรงนี้มีสายตามากมายจับต้อง ฐานะทั้งสองคนไม่เหมาะสมอย่างยิ่งเขาพยายามข่มความหุนหันพลันแล่นในใจ เอ่ยกับจิ่งโม่เยี่ยด้วยสีหน้าสดใส “เยี่ยเอ๋อร์ ตอนแรกที่พระราชทานสมรสให้เจ้า แม้ข้าจะให้สำนักโหรหลวงคำนวณดวงชะตาแล้ว“แต่ตอนนั้นไม่รู้จริงๆ ว่าแปดอักษรของเฟิ่งชูอิ่งจะขัดแย้งกับดวงชะตาของมารดาเจ้า ดูจากสถานการณ์ยามนี้แล้ว ข้าเองก็ลำบากใจไม่น้อย!”ความหมายของเขาชัดเจนมาก เขาลำบากใจที่ต้องตัดสิน ดังนั้นจิ่งโม่เยี่ยควรจะเป็นคนถอนหมั้นกับเฟิ่งชูอิ่งเองจิ่งโม่เยี่ยลอบแสยะยิ้มในใจ ทว่ากล่าวด้วยสีหน้าเฉยเมยว่า “ข้าคิดว่าพระสนมสวี่น่าจะถูกหลอกแล้วล่ะ”ฮ่องเต้เจาหยวนถาม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-26
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 378

    ดาบไม้ท้อในมือของเขาเป็นสมบัติตกทอดจากบรรพบุรุษ สามารถกำจัดสิ่งชั่วร้ายทั้งปวงได้และเพราะว่ามันทำมาจากไม้ท้อ มันจึงไม่มีความคม สามารถนำเข้ามาในวังได้ยามที่ปลายแหลมของดาบไม้ท้อเคลื่อนที่ไปทางไหน ก็จะมีไอเหมันต์กระเพื่อมเป็นระลอกเฟิ่งชูอิ่งเผชิญหน้ากับปลายคมดาบไม้ท้อด้วยความสงบนิ่ง ดวงตาเมล็ดซิ่งของนางกลมโต ดูอ่อนหวานไร้พิษภัยหากเป็นคมดาบไม้ท้อเพียงอย่างเดียวย่อมไม่สร้างความเสียหายอะไร ถึงเฟิ่งชูอิ่งจะเป็นวิญญาณที่มาจากโลกอื่น แต่นางไม่ใช่ภูตผีปีศาจจิ่งโม่เยี่ยคิดจะขยับไปขวางหน้าเฟิ่งชูอิ่ง แต่นางกระตุกแขนเสื้อของเขาเบาๆ เขาจึงทราบว่านางสามารถรับมือได้เจ้าอารามเห็นเฟิ่งชูอิ่งยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน ดวงตาก็พลันหรี่เล็กลงฮ่องเต้เจาหยวนอยู่ตรงนี้ด้วย เขาต้องตั้งใจแสดงฝีมือให้ดีๆ จึงเอ่ยเสียงดังว่า “ดาบไม้ท้อในมือของข้าสร้างจากต้นท้อพันปีที่ถูกสายฟ้าฟาดในยุคบรรพกาล!“กระบี่เล่มนี้เป็นปรปักษ์กับภูตผีปีศาจทั้งหมด ทุกที่ที่คมกระบี่นี้เคลื่อนผ่าน ปีศาจร้ายจะถูกเพลิงเผาไหม้เป็นจุณ!”เขากล่าวจบก็ท่องคาถาเชื่อมต่อกับยันต์ เขาคิดว่าอีกประเดี๋ยวเฟิ่งชูอิ่งจะต้องถูกไฟลุกไหม้แน่นอนซึ่งก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-26
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 379

    ฮ่องเต้เจาหยวนตงัดสายตามองนางอย่างเย็นชา นางจึงขยับไปหลบหลังจิ่งโม่เยี่ยด้วยท่าทางหวาดกลัวเสียเต็มประดาจิ่งโม่เยี่ยเอ่ยว่า “เสด็จอา ชูอิ่งนางขวัญอ่อน ท่านอย่าทำให้นางตกใจเลยพ่ะย่ะค่ะ”แม้ฮ่องเต้เจาหยวนจะไม่รู้ว่าเหตุใดเรื่องราวมันถึงกลับตาลปัตรเช่นนี้ได้ แต่ก็พอจะคาดเดาได้ว่าต้องเป็นฝีมือของเฟิ่งชูอิ่งแน่นอนฮ่องเต้เจาหยวนประทานเฟิ่งชูอิ่งให้แต่งงานกับจิ่งโม่เยี่ย เดิมทีเพราะต้องการจะทำให้จิ่งโม่เยี่ยอับอาย ผลลัพธ์กลับกลายเป็นว่าเขามอบผู้ช่วยสุดแกร่งให้อีกฝ่ายแทนเป็นความรู้สึกที่แย่จนเกินบรรยายเลย!คนเราพอตกอยู่ในอันตราย ก็มักจะร้องขอความช่วยเหลือจากคนที่ใกล้ชิดมากที่สุดพระสนมสวี่เจ็บแสบทรมานจากการถูกเผา จึงวิ่งเข้าไปหาฮ่องเต้เจาหยวนฮ่องเต้เจาหยวนขยับหลบนางอย่างไว พระสนมสวี่จึงรู้สึกสิ้นหวังอย่างฉับพลันนางไม่ทันระวังจึงเสียหลักล้มลง กระแทกโดนตู้เก็บตำราที่อยู่ข้างๆ เพลิงบนร่างของนางรุนแรงมาก เพียงพริบตาเดียวก็ไหม้ตูเก็บตำราทั้งหมดตู้เก็บหนังสือที่อยู่ใกล้กับห้องทรงพระอักษรของฮ่องเต้เจาหยวนล้วนเก็บรักษาเอกสารสำคัญไว้ หากมันถูกเผาไปแบบนี้จะต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่!ฮ่องเต้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-26
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 380

    เจ้าอารามตอบสนองได้ว่องไวมาก “เรื่องนี้เกิดการเข้าใจผิด คนที่ถูกปีศาจสิงสถิตร่างมิใช่พระสนมสวี่ แต่เป็นเฟิ่งชูอิ่ง....”เขากล่าวยังไม่ทันจบก็ถูกจิ่งโม่เยี่ยเตะจนกระเด็นออกไปตอนที่เขาถูกเตะกระเด็นออกมา หลังชนกระแทกกับชั้นหนังสือของห้องทรงพระอักษร ตอนที่ร่วงลงพื้นจึงกระอักเลือดออกมาคำโตจิ่งโม่เยี่ยกล่าวเสียงเย็นชา “นักพรตนอกรีตจากเจ้าจนถึงป่านนี้แล้วยังพูดจาเหลวไหลอยู่อีก!“หากปีศาจสิงร่างของเฟิ่งชูอิ่งจริง ทำไมคนที่ถูกไฟเผาถึงเป็นพระสนมสวี่ล่ะ?“แท้จริงแล้วเป็นเพราะเจ้าฝีมือห่วยแตก หรือเป็นเพราะเจ้าพูดจาส่งเดชกันแน่?”เจ้าอารามถูกเขาถีบจนเกือบจะสิ้นลมหายใจ ยามนี้ยังไม่ทันจะคลานขึ้นมาจากพื้นได้ จึงไม่เหลือเรี่ยวแรงอธิบายอะไรทั้งนั้นจิ่งโม่เยี่ยหันไปบอกฮ่องเต้เจาหยวน “เสด็จอา รบกวนช่วยออกราชโองการ จับตัวเจ้านักพรตนอกรีตผู้นี้ด้วย!”มือที่ซ่อนอยู่ใต้แขนเสื้อของฮ่องเต้เจาหยวนกำหมัดแน่นวันนี้พวกเขาวางแผนกันมาอย่างดิบดี ห้องทรงพระอักษรก็เป็นถิ่นของพวกเขา สถานที่กาลเวลาล้วนเหมาะสมและได้เปรียบ ทว่าพอจิ่งโม่เยี่ยกับเฟิ่งชูอิ่งก้าวเข้ามา ก็ทำลายแผนการของพวกเขาจนเละเทพ ดังนั้นเรื่อง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-26
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 381

    พระนางดีใจเหมือนมีบุปผาผลิบาน สมแล้วที่เป็นหลานสะใภ้ที่นางยอมรับ ไม่เสียแรงที่เป็นคนที่จิ่งโม่เยี่ยเปิดใจให้ นางแตกต่างจริงๆ!ไทเฮาเอ่ยเหน็บแนมว่า “พระสนมสวี่เอาแต่พูดว่าอิ่งเอ๋อร์มีดวงชะตาขัดแย้งกับนาง แท้จริงแล้วตัวนางนั่นแหละที่เป็นปีศาจ ถึงได้จงใจหาเรื่องอิ่งเอ๋อร์เช่นนี้”นางกล่าวจบก็หันมองเจ้าอาราม เอ่ยเสียงเรียบเฉย “เจ้าช่วยราชวงศ์กำจัดปีศาจชั่วร้าย คุณงามความดียิ่งใหญ่ ประทานรางวัล!”ประโยคนี้ของนางเป็นการสรุปเรื่องราวทั้งหมดอย่างสมบูรณ์ แม้แต่ฮ่องเต้เจาหยวนก็ไม่อาจเถียงได้เจ้าอารามในยามนี้สับสนจนทำอะไรไม่ถูก แต่นี่เป็นรางวัลพระราชทานจากไทเฮา เขาจึงคุกเข่าลงแล้วน้อมรับ “ขอบพระทัยไทเฮา!”ไทเฮาเดินเข้าไปหาพระสนมสวี่อย่างเอื่อยเฉื่อย กดหน้ามองต่ำไปทางนาง “ข้าก็คิดว่าเจ้าสูงส่งมากจากไหน ที่แท้ก็เป็นแค่นังจิ้งจอกไร้ยางอายเท่านั้นเอง”หลังไทเฮากล่าวจบก็ยกเท้าเหยียบนิ้วมือของพระสนมสวี่ พร้อมทั้งออกแรงขยี้อย่างหนักหน่วง ทำเอาพระสนมสวี่ที่สลบไปแล้วสะดุ้งตื่นเพราะความเจ็บตอนที่พระสนมสวี่เพิ่งได้สติ สมองของนางยังทำงานไม่เต็มที่นัก พอลืมตามาเห็นไทเฮาก็เอ่ยปากด่าทันควัน “นังแก่หนังเหนียว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-26
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 382

    ฮ่องเต้เจาหยวนตวัดสายตาไปทางเจ้าอาราม สื่อความหมายอย่างชัดเจนวันนี้เกิดเรื่องวุ่นวายทั้งหมดเพราะเขา หากเขาไม่มีวิธีหาทางออกให้กับเรื่องดังกล่าว จบเรื่องแล้วฮ่องเต้เจาหยวนต้องสั่งฆ่าเขาแน่นอนเจ้าอารามสั่นสะท้านไปทั้งตัว เขารีบวางมาดเคร่งขรึม “กราบทูลฝ่าบาท เพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นในวันนี้ได้เผาปีศาจตัวนั้นตายไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ ดังนั้น....”เขาหันมองไปทางไทเฮาด้วยความระมัดระวัง ก่อนจะค้อมกายจนแทบแนบติดพื้น “ดังนั้นปีศาจถูกขจัดเรียบร้อยแล้ว พระสนมสวี่ที่อยู่ตรงนี้เป็นตัวจริงพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้เจาหยวนจึงบอกกับไทเฮา “ราชวงศ์มิอาจละเว้นคนที่ถูกปีศาจสิงสู่จริงๆ แต่ก็มิควรฆ่าแกงผู้บริสุทธิ์เหมือนกัน“พระสนมสวี่เป็นชายาของเสด็จพี่ที่ล่วงลับไปแล้ว ตอนเสด็จพี่ยังมีชีวิตอยู่ทรงรักใคร่หวงแหนนางยิ่งนัก ขอเสด็จแม่ได้โปรดเห็นแก่เสด็จพี่ ละเว้นนางด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ไทเฮาปรายตามองเขาอย่างเย็นชา มุมปากยกสูงขึ้นเล็กน้อย ทว่าสีหน้าเฉยชาอย่างยิ่ง “เจ้ายังมีหน้ามาพูดจาอะไรแบบนี้อีกหรือ?”ฮ่องเต้เจาหยวนทราบว่าไทเฮาเป็นคนหัวแข็ง หากทำให้นางไม่พอใจ นางก็พร้อมจะทำได้ทุกอย่างยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องการตายของอดีตฮ่องเต้ ที่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-26
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 383

    ด้วยเหตุนี้เอง เรื่องราวทั้งหมดจึงจบลงเพียงเท่านั้นจิ่งโม่เยี่ยใช้ชีวิตของพระสนมสวี่แลกกับการที่ฮ่องเต้เจาหยวนปล่อยเขากลับไปเขตศักดินา ฮ่องเต้เจาหยวนกับพระสนมสวี่นอกจากขโมยไก่ไม่สำเร็จแล้ว ยังเสียข้าวสารอีกกำมือไทเฮาคว้าป้ายทองอภัยโทษจากฮ่องเต้เจาหยวนแล้ววางลงบนมือของจิ่งโม่เยี่ย “ฮ่องเต้รักเอ็นดูเยี่ยเอ๋อร์ถึงเพียงนี้ คิดว่าคงไม่หวงป้ายทองเพียงชิ้นเดียวหรอก“ในเมื่อนำป้ายทองอภัยโทษออกมาแล้ว ก็อย่าเก็บกลับไปเลย ยกให้เยี่ยเอ๋อร์ไปน่ะดีแล้ว”ฮ่องเต้เจาหยวนปวดใจอย่างสุดแสน ทว่ายังต้องรักษาภาพลักษณ์ผู้ใหญ่ใจดีต่อ เขากล่าวอย่างยิ้มแย้มว่า “ถึงเสด็จแม่จะไม่เอ่ย ข้าก็ตั้งใจจะยกป้ายทองให้เยี่ยเอ๋อร์อยู่แล้ว“ขอเพียงข้ายังมีชีวิตอยู่ จะไม่มีวันทำให้เยี่ยเอ๋อร์ต้องเจ็บช้ำน้ำใจแน่นอน”ไทเฮาจ้องมองเขาแน่นิ่ง กล่าวว่า “หวังว่าเจ้าจะจดจำสิ่งที่เจ้ากล่าวออกมาได้ตลอดไป” ฮ่องเต้เจาหยวนพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม ทว่าในใจเดือดดาลสุดประมาณวันนี้นอกจากพวกเขาจะทำภารกิจไม่สมหวังดั่งคาดแล้ว ยังเป็นฝ่ายถูกแล่เนื้อเถือหนังอีกต่างหาก ความรู้สึกเช่นนี้มิใช่แค่อัดอั้นตันใจหรอกนะหลังจากฮ่องเต้เจาหยวนขึ้นครองราชย์

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-26

บทล่าสุด

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 997

    เฟิ่งชูอิ่งพูดต่อว่า “แต่ตอนนี้ข้าไม่เหลือทั้งบิดามารดาแล้ว เจ้าห้ามรังแกข้าเชียวนะ!”จิ่งโม่เยี่ยยกมือสาบานต่อฟ้าทันที “หากข้าทำไม่ดีกับเจ้าในภายภาคหน้า ขอให้สวรรค์ลงทัณฑ์ส่งฟ้ามาผ่าให้ตาย!”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะ “เรื่องฟ้าผ่าไม่ต้องถึงมือสวรรค์หรอก ข้าก็ทำได้”จิ่งโม่เยี่ย “......”เขาเกือบลืมไปแล้วว่านางวาดยันต์ได้เก่งมาก ตราบใดที่นางต้องการ ใช้ฟ้าผ่าเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากเฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าทางของเขาก็แอบหัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปกอดแล้วซุกศีรษะพิงอกเขา กล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน”“ตอนนี้เราทั้งสองล้วนไม่มีพ่อแม่แล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ก็มีเพียงกันและกัน”“ต่อไปข้าจะดูแลเจ้าอย่างเต็มที่ จะไม่ระแวงเจ้าอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะเชื่อใจเจ้า”หัวใจที่ตึงเครียดของจิ่งโม่เยี่ยก็ผ่อนคลายลงในทันทีเขากอดนางตอบ “กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการตัดสินใจของเจ้าถูกต้อง”เขาโน้มตัวลงจูบหน้าผากนางเบาๆ เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักเจ้า”เมื่อเฟิ่งชูอิ่งได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็สั่นไหว นางช้อนตามองขึ้นไปที่เขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนนางรู้ว่าคำพูดของเขาในตอนนี้ล้วนมาจ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status