เฟิ่งชูอิ่งสำรวจบาดแผล ก่อนจะลองขยับขาดู จึงพบว่าถึงบาดแผลจะดูน่ากลัวไปสักหน่อย แต่กระดูกของนางไม่ได้แตกหักถ้าไม่บาดเจ็บถึงขั้นกระดูกหักก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ กลับไปทายาสักหน่อยก็ดีขึ้นแล้วพอนางสบายใจแล้วก็เตรียมจะดึงขากางเกงลงไปเหมือนเดิม แต่กลับถูกจิ่งโม่เยี่ยยึดข้อเท้าเอาไว้นางแหงนหน้าขึ้นมองเขาด้วยสายตาประหลาดใจ ไม่รู้ว่าเขาคิดจะทำอะไรนางเอ่ยถาม “ท่านอ๋อง มีอะไรหรือเปล่าเพคะ?”จิ่งโม่เยี่ยปรายตามองนางแวบหนึ่ง ก่อนจะดึงขากางเกงลงมาปิดเรียวขาของนาง จากนั้นก็อุ้มนางจนตัวลอยขึ้นมานี่เป็นครั้งที่สองที่เขาอุ้มนาง นางยังไม่ค่อยชินนักจึงเอ่ยว่า “แผลมิได้สาหัสมาก ข้าเดินเองได้เพคะ”จิ่งโม่เยี่ยเหล่มองนางแล้วเอ่ยว่า “เมื่อครู่นี้เจ้าอ้อนข้าอยู่เลย ไหนบอกว่าเจ็บมากไง?”เฟิ่งชูอิ่งเห็นสีหน้าของเขาก็แทบอยากจะโดดลงมาจากอ้อมแขนของเขาเสียเดี๋ยวนั้น จากนั้นก็ถอยห่างจากเขาอีกสักหนึ่งแสนแปดพันลี้เพียงแต่นางเข้าใจดีว่าสีหน้าท่าทางเช่นนี้ของเขา บ่งบอกว่าอีกฝ่ายหมดความอดทนแล้ว หากนางยังขัดคำสั่งเขาอีก เกรงว่าเขาอาจจะเอากระบี่มาฟันนางจริงๆนางจึงเอ่ยเสียงแผ่ว “เจ็บมากเพคะ แต่ก็ยังพอเดินไหว“ข้ากลัวจะเป
อ่านเพิ่มเติม