บททั้งหมดของ สัญญารักผูกหัวใจท่านประธานปากแข็ง: บทที่ 771 - บทที่ 780

945

บทที่ 771

“ผมเป็นคนแจ้งเองครับ” พี่ชายคนนั้นเป็นฝ่ายเดินออกมาเอง “พวกเขาแอบอ้างเป็นตำรวจ...”“แอบอ้างบ้าบออะไรกัน!”เจ้าหน้าที่อาวุโสที่อยู่บนพื้นตะเกียกตะกายขึ้นมาจับชายฉกรรจ์เอาไว้ พร้อมอดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นอย่างเดือดดาลเขาล้วงบัตรแสดงตนของตัวเองออกมา “สวัสดีครับ พวกเราเป็นตำรวจจากสน.หลันวาน มาปฏิบัติหน้าที่ แต่ผู้ต้องหาที่ก่ออาชญากรรมเจ้าเล่ห์เกินไป และยังมีบางคน...”เขาจงใจมองพี่ชายคนนั้นทีหนึ่ง “บางคนก่อความวุ่นวาย จนทำให้ผู้ต้องสงสัยหนีไป ต้องรีบตามรอยไปทันที”ตำรวจที่มาใหม่แต่ละคนดูบัตรแสดงตนของเขา แล้วบอกกับพี่ชายคนนั้นว่า “บัตรแสดงตนของเขาไม่มีปัญหา ยังมีเรื่องอื่นอีกไหมครับ?”พี่ชายคนนั้นอึ้งกิมกี่ไปเลย พลางแข็งทื่อไปทั้งตัว “ไม่...ไม่มีปัญหา?”เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เสวนากับเขามากมาย เอ่ยขึ้นแค่ว่า “ผู้ต้องสงสัยยังหนีไปได้ไม่ไกล รบกวนเพื่อนร่วมงานทั้งสามช่วยเราด้วย”“ได้”พวกตำรวจรีบวิ่งตามไปยังทิศทางที่หลินอี้หน่วนหนีไปก่อนไป เจ้าหน้าที่หนุ่มก็ไม่ลืมที่จะก่นด่าพี่ชายคนนั้นทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า “คุณคอยดูเถอะ! ถ้าผมจับผู้ต้องหาได้แล้ว คนต่อไปก็คือคุณ! คุณเป็นผู้ผดุงธรรมไม่ใช่เห
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 772

ทำไมตอนนี้ถึงได้เปลี่ยนเป็นคนแบบนี้ไปแล้วล่ะ?ต่อให้เกลียดอดีตสามีที่ชอบใช้ความรุนแรงของเธอ แต่อดีตสามีก็จากไปนานแล้ว เด็กไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วย?ทำไมเธอถึงเย็นชากับลูกสาวแท้ ๆ ขนาดนี้?“อย่าว่าแต่เขาติดคุกแล้วเธอรู้สึกผิดต่อพี่ชายเธอเลย สั่งสอนให้เขาเป็นคนแบบนี้ เธอก็ควรรู้สึกผิดต่อพี่ชายของเธอแล้ว? ต่อไปให้ตงหลินเขาไปอยู่โรงเรียนประจำ ถ้าไม่มีธุระอะไรก็ไม่ต้องไปเข้าใกล้เขาเป็นอันขาด!” ฮั่วจวินซานพูดขึ้นอีก นี่เท่ากับจะไม่ให้เธอติดต่อกับฮั่วตงหลินแล้วหัวใจของหลินเจียหมิ่นเต้นตึกตัก ๆ ขึ้นมาเสียงหนึ่ง “จวินซาน ตงหลินยังเด็ก ไหนจะมีโรคหอบหืดอีก ให้อยู่ห่างจากแม่ไม่ได้...”“มีพี่เลี้ยงเด็กอยู่ ไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรอก แล้วเขาก็ไม่ได้เด็กแล้วด้วย ควรเรียนรู้ที่จะพึ่งพาตัวเองได้แล้ว”ฮั่วจวินซานสาวเท้าก้าวยาวเดินไปเบื้องหน้า “เธอกลับไปกับฉัน พรุ่งนี้ไปขอโทษขอโพยที่บ้านตระกูลฟู่ซะ ส่วนเรื่องช่วยหลินอี้หน่วนออกมา เธออย่าได้แม้แต่คิดเชียว ครั้งนี้พัวพันไปถึงคดีใหญ่ เบื้องบนส่งคนลงมาแล้ว ใช่ว่าบอกจะช่วยเอาตัวออกมาก็เอาออกมาได้”หลินเจียหมิ่นขยับริมฝีปาก ทว่าไม่กล้าพูดอะไรออกมาเมื่
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 773

หลังออกมาจากสถานีตำรวจ เวินเหลียงก็ได้รับสายจากบ้านใหญ่ตระกูลฟู่ปลายสายมีเสียงปนความเป็นห่วงของคุณหญิงแว่วดังขึ้นมา “อาเหลียง? ให้ตายเถอะ สองวันก่อนเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนั้น ทำไมเธอไม่บอกย่าสักคำ? ย่าเพิ่งรู้ว่าเธอเกือบกลับมาไม่ได้แล้ว! เธอตีตัวออกห่างจากย่าแล้วใช่ไหม?”เวินเหลียงรีบตอบกลับทันที “ไม่ใช่นะคะ หนูจะตีตัวออกห่างจากคุณย่าได้ยังไง? คุณย่าคะ หนูแค่ไม่อยากให้คุณย่าเป็นห่วง นี่หนูก็ไม่ได้เป็นอะไรไม่ใช่เหรอคะ?”“โธ่ ย่าไม่ได้เปราะบางอย่างที่พวกเธอคิดกันขนาดนั้น เรื่องพี่ใหญ่ของเธอ พวกเธอก็ปิดบังฉัน เรื่องของเธอ พวกเธอก็ปิดบังฉันอีก ย่าใกล้จะกลายเป็นคนใบ้หูหนวกแล้วนะ!”“ย่าไม่ใช่คนใบ้หูหนวกสักหน่อย ครั้งนี้เป็นความผิดของหนูเองค่ะ ต่อไปถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีก หนูจะบอกคุณย่าเป็นคนแรกเลย”“เธอก็ดีแต่พูดจาหวาน ๆ ปลอบให้ฉันดีใจเท่านั้นแหละ เฮ้อ...วันนี้คนตระกูลฮั่วโทรมา บอกว่าพรุ่งนี้จะมาขอโทษขอโพยที่บ้าน ย่าถึงเพิ่งจะรู้เรื่องที่เธอเกือบถูกขายไปแล้ว เมียคนที่สองของฮั่วจวินซานเป็นแม่ของเธอ คนที่หาคนมาลักพาตัวเธอไปขายก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอ? ช่างใจดำอำมหิตจริง ๆ ย่าเลยอยากถามคว
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 774

อารองพูดคุยกับเวินเหลียงต่ออีกครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็บอกลาคุณหญิงและเวินเหลียง ไปเดินช็อปปิงที่ห้างสรรพสินค้าและลวดไปเก็บค่าเช่าด้วยทีเดียวนอกจากบริษัทร้านอาหารของอารองแล้ว ที่บ้านอารองยังมีบ้านและร้านค้าอีกสองสามแห่ง แบ่งออกไปให้ปล่อยเช่า ตอนนี้สิ้นเดือนแล้ว ได้เวลาเก็บค่าเช่าแล้วบ้านและร้านค้าของที่บ้านอารองส่วนใหญ่แล้วนั้นอยู่ในย่านหรูระดับไฮเอนด์และที่ตั้งทำเลทอง ผู้เช่าที่เช่าห้องไปล้วนเซ็นสัญญาเช่าระยะสองสามปี จ่ายค่าเช่าบ้านเป็นรายปีหรือครึ่งปีจ่ายที มีเพียงย่านเดียวเท่านั้นที่อยู่ในย่านปกติหน่อย อยู่ข้างมหาวิทยาลัย ผู้เช่ารายใหม่อัตคัดขัดสนเล็กน้อย จ่ายค่าเช่าเป็นรายเดือนทีแรกอารองไม่อยากปล่อยให้ผู้เช่ารายนั้นเช่าไป จ่ายค่าเช่าเป็นรายเดือนค่อนข้างยุ่งยาก แต่เห็นว่าเด็กสาวที่กำลังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่เลี้ยงดูพ่ออายุเยอะที่ป่วยไปด้วย เป็นเด็กดีและรู้ประสีประสา จึงอดสงสารไม่ได้ เธอเลยตอบรับปล่อยให้เช่าเธอเองก็ไม่ได้ดูผิดไป เด็กสาวคนนั้นกตัญญูและมีมารยาท คราวก่อนยังให้ขนมไข่เต่าที่ตนทอดเองกับเธอมากล่องใหญ่ แม้จะไม่ใช่ของดีอะไร ทว่าก็เป็นน้ำใจย่านเก่ามีทั้งหมดหกชั้น ห้องนั้น
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 775

ตอนค่ำ ฟู่เซิงกลับมากินมื้อค่ำที่บ้านเมื่อเห็นซาลาเปาไส้ถั่วแดงสี่ลูกที่วางอยู่ในกล่องบนโต๊ะ ก็คิดว่าป้าแม่บ้านที่บ้านเป็นคนทำ จึงคีบมากินลูกหนึ่ง หลังกินเสร็จก็คีบขึ้นมาอีกลูก “ซาลาเปาไส้ถั่วแดงนี่รสชาติไม่เลวเลย”บนใบหน้าของอารงเผยรอยยิ้มแสนภาคภูมิใจออกมาอย่างหนึ่ง “อร่อยใช่ไหม?”“อืม แม่ แม่เป็นคนทำเหรอ?”“ไม่ใช่ ฝีมือของผู้เช่าคนหนึ่งของเราน่ะ ถ้าแกชอบกิน วันหลังฉันค่อยให้เธอทำให้แกกินหน่อย”“ไม่ต้องหรอกครับ”แม้ฟู่เซิงจะชอบกิน ทว่าก็ไม่ได้ชอบถึงขั้นต้องลำบากให้คนอื่นทำ“แกไม่ต้องเกรงใจไปหรอก ฉันไม่ได้บังคับเธอซะหน่อย ตัวเธอนิสัยดีมาก เห็นฉันแล้วทำตัวเป็นมิตรสุด ๆ ขนมไข่เต่าที่แกกินคราวก่อนนั่น เธอก็เป็นคนให้มา ถ้าฉันมีลูกสาวแบบนี้บ้างก็ดีสิ”ฟู่เซิงขมวดคิ้วเล็กน้อยผู้เช่าคนนั้นน่าจะใจร้อนนิดหน่อย พอรู้ฐานะของแม่เขาแล้วคงจงใจประจบประแจงเอาใจอารองจมดิ่งอยู่ในโลกของตัวเอง ก่อนจะเอ่ยต่อว่า “เด็กสาวคนนั้นเป็นคนน่าสงสาร ไม่มีแม่ พ่อก็มาป่วยหนัก ตัวเองทำงานไปด้วยเข้าเรียนไปด้วย...”ฟู่เซิงนึกถึงเซี่ยหมิ่นเซี่ยหมิ่นบอกว่าที่บ้านของเธอยากจน เธอยังมีน้องสาวอีกสองคนและน้องชาย
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 776

เวินเหลียงไม่รู้ว่าทำไมฮั่วจวินซานถึงเมตตาปรานีกับเธอนัก เธอจึงเอ่ยขอบคุณไป “งั้นก็ต้องขอบคุณประธานใหญ่ฮั่วด้วยนะคะ”ส่วนสิ่งที่เขาพูดมาเป็นเรื่องจริงหรือเปล่านั้น หลังจากนี้ถึงจะได้รู้กันผ่านไปสองสามวันหลังจากที่ฮั่วจวินซานโทรมาครั้งนั้น หลินเจียหมิ่นไม่ได้มาหาเธออีกจริง ๆและเวินเหลียงเองก็ไม่ได้เจอฟู่เจิงมานานแล้วระหว่างนั้นฟู่เจิงไม่ได้โทรหาเธอเลยเธอโทรหาเขาสองสามครั้ง ถ้าไม่มีคนรับสาย คนที่รับสายก็เป็นเลขาของเขาแทนเวินเหลียงรู้สึกผิดปกติเล็กน้อยก่อนไปกองถ่าย เธอต่อสายโทรออกหาฟู่เจิงอีกสายหนึ่งปลายสายรับสายแล้วเวินเหลียงคิดว่าคนที่อยู่ในปลายสายเป็นเลขาของเขา แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเสียงแสนคุ้นเคยจะแว่วดังขึ้นมาจากปลายสายเวินเหลียงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เฮือกหนึ่ง พร้อมพูดเสียดสีว่า “ประธานฟู่ มีเวลารับสายแล้วเหรอ?”น้ำเสียงที่อยู่ปลายสายชะงักไปครู่หนึ่ง น้ำเสียงชืด ๆ แว่วดังขึ้นมาอีกครั้ง “มีธุระอะไรเหรอ?”เวินเหลียงตกตะลึงไป รอยยิ้มบนใบหน้าแข็งทื่อไปในฉับพลัน ก่อนจะค่อย ๆ เก็บรอยยิ้มกลับไป “ถ้าไม่มีธุระอะไรก็โทรมาหาคุณไม่ได้เหรอ?”“ช่วงนี้ฉันยุ่งมาก ถ้าไม่มีธุระอะไรไม
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 777

“คุณเวิน?” หลังรับสายเลขาหยางก็ถามขึ้นว่า “คุณโทรมาหาฉันมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ?”เวินเหลียงตอบ “ฉันมาหาฟู่เจิงน่ะ คุณลงมารับฉันหน่อยสิ”“อ้อ...คุณเวิน ตอนนี้ประธานใหญ่ฟู่ไม่อยู่ที่บริษัท ไม่งั้น...คุณค่อยมาวันหลังดีไหมคะ?”นัยน์ตาของเวินเหลียงประกายความประหลาดใจออกมาทั้ง ๆ ที่พนักงานหน้าเคาน์เตอร์บอกว่าฟู่เจิงอยู่ที่บริษัทชัด ๆ“คืออย่างนี้นะ...สองวันนี้ฉันยุ่งมาก ไม่มีเวลาให้มาอีกแล้ว ฉันเอาของมาให้เขา คุณลงมาเอาไปหน่อย ฉันจะฝากไปให้เขา” เวินเหลียงเอ่ย“...ได้ค่ะ คุณรอแป๊บนะคะ”ผ่านไปประมาณห้านาที เลขาหยางก็ออกมาจากลิฟต์ เขามองซ้ายทีขวาที ก่อนจะเดินมาทางเวินเหลียง “คุณเวิน คุณมีของอะไรจะให้ประธานใหญ่ฟู่เหรอคะ?”“สิ่งนี้ค่ะ” เวินเหลียงชี้มาทางหน้าอกตนเอง“อะไรเหรอคะ?”“ตัวฉันเอง”เลขาหยาง “...”“พาฉันขึ้นไปหน่อย ถ้าเขาไม่อยู่ฉันก็จะรอ”“แต่ว่า...วันนี้ประธานใหญ่ฟู่ไม่กลับบริษัทแล้วนะคะ...”“ไม่กลับบริษัทแล้วไปไหน?”“ฉัน...ฉันก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ...”“เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว พาฉันขึ้นไปที” เวินเหลียงเอ่ยขึ้นอย่างเดือดดาลดูลังเล พูดตะกุกตะกัก มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่ามีอะ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 778

ฉู่ซืออี๋มีความไม่เต็มใจเล็กน้อย ทว่าก็ยังตอบรับ ขณะเดินผ่านข้างตัวฟู่เจิงยังเกี่ยวนิ้วของเขาเอาไว้ “นับว่าคุณอยู่เป็นจริง ๆ ”“อืม”ฟู่เจิงไปส่งฉู่ซืออี๋ที่หน้าประตูด้วยตัวเองดูสนิทสนมกันอย่างเห็นได้ชัดและเป็นธรรมชาติเมื่อเห็นภาพตรงหน้า เวินเหลียงก็เม้มริมฝีปากแน่น มือที่ห้อยอยู่ในแขนเสื้อกำจนเป็นหมัดแน่น เล็บจิกเข้าไปลึกในเนื้อฝ่ามือ เหลือรอยประทับเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวไว้สองสามรอยมีเพียงแค่การทำแบบนี้เท่านั้น เธอถึงรับรองได้ว่าตัวเองจะยั้งสติได้ และไม่เผยภายในใจที่เลือดไหลนองจนเป็นแม่น้ำให้คนตรงหน้าเห็นขณะเดินผ่านตัวเวินเหลียง ฉู่ซืออี๋ไม่ชายตามองเลยแม้แต่น้อย มีเพียงแค่นเสียงฮึออกมาจากโพรงจมูกเบา ๆ เสียงหนึ่งเท่านั้น ราวกับผู้ชนะในศึกสงครามเมื่อฟู่เจิงเห็นเงาร่างของฉู่ซืออี๋เดินผ่านมุมเลี้ยวไป เขาก็ปิดประตูห้องทำงานและหมุนตัวมามองเวินเหลียง “ในเมื่อเธอเห็นทั้งหมดแล้ว ฉันเองก็จะไม่เสแสร้งหน้าซื่อใจคดกับเธออีก เธอมีอะไรอยากจะถามก็ถามมาสิ”เวินเหลียงเงยหน้ามองดวงตาของฟู่เจิง “เสแสร้งหน้าซื่อใจคด?”เธอมองอยู่นานสองนานสายตาของเขายังคงเย็นชาอยู่อย่างนั้น ราวกับความสนิทสนม
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 779

ฟู่เจิงราวกับได้ยินเรื่องตลกบางอย่าง เขาเลิกคิ้วขึ้น “โกหกเธอ? ฉันมีอะไรให้ไปโกหกเธอ? เธอมีอะไรที่คุ้มค่าให้ฉันโกหก? เวินเหลียง เธอยังคิดว่าตัวเองสำคัญมากจริง ๆ เหรอ?”“...คุณมีความลำบากใจอะไรหรือเปล่า?”“ฉันจะมีความลำบากใจอะไรได้? เวินเหลียง เธอยังแยกแยะความจริงที่ว่าฉันไม่เคยชอบเธอไม่ได้อีกเหรอ? ตอนเธอมาอยู่ที่บ้านตระกูลฟู่ฉันไม่ได้ชอบเธอเลย ตอนแต่งงานกับเธอฉันก็ไม่ได้ชอบเธอ ทำไมเธอถึงคิดว่าตอนนี้ฉันจะชอบเธอล่ะ?”เวินเหลียงส่ายหน้า อยากจะพิสูจน์อะไรบางอย่างอย่างอดรนทนไม่ไหว “เริ่มตั้งแต่ที่เราหย่ากันแล้วฉันไปเที่ยว คุณก็เริ่มตามฉัน ช่วยฉันเอากระเป๋าสตางค์กลับมา ที่ออสเตรเลียยัง...”ฟู่เจิงตัดบทพูดเธอ พร้อมกับหัวเราะ “เริ่มตั้งแต่ตอนนั้น การเดิมพันก็เริ่มขึ้นแล้ว ไม่อย่างนั้นตอนนั้นเธอเกลียดฉันขนาดนั้น ไล่ให้ฉันไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้าฉันชอบเธอจริง ๆ คงอยู่ให้ห่างเธอหน่อยแล้ว ไม่ใช่นอบน้อมต่อความปรารถนาของเธอและตามตื้อเธอต่อ ฉันก็แค่อยากชนะเดิมพันเท่านั้น”ตอนนั้นเธอรำคาญการตามตื้อของเขามากทว่าตอนนี้กลายเป็นหลักฐานพิสูจน์ว่าเขารักเธอไปแล้ว“แต่ว่า คุณบอกว่าฉู่ซืออี๋โกหกคุณไม่ใช่เห
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 780

“แน่นอน” ฟู่เจิงยื่นมือไปลูบใบหน้าด้านซ้ายที่ถูกตบ พร้อมกับหัวเราะอย่างเย็นชา “ฉันรังเกียจท่าทีแสร้งทำต่อหน้าคุณปู่คุณย่าของเธอมาตั้งนานแล้ว แสร้งถือตัวสูงส่งกว่าคนอื่นเขา เห็นแก่หน้าคุณปู่คุณย่า ตบนี้ฉันจะไม่เอาเรื่อง รู้ตัวแล้วก็รีบไปซะ”ก่อนหน้านี้เธอเคยคิดว่าฟู่เจิงก็เหมือนหมาตัวหนึ่งของฉู่ซืออี๋ แค่ฉู่ซืออี๋กระดิกนิ้วเขาก็อดรนทนไม่ไหวที่จะกระโดดเข้าไปหาแล้วตอนนี้มาคิดดู ตัวเธอเองก็เหมือนกับหมาของฟู่เจิงไม่ใช่เหรอ ขอแค่ฟู่เจิงป้อนอาหารเธอสองสามครั้ง แผลของเธอก็หายแล้วและลืมความเจ็บปวดไปจนหมดสิ้น รีบร้อนอยากจะยอมรับเจ้าของแล้วตอนนี้ฟู่เจิงใช้ให้เธอออกไป เธอก็ต้องออกไปเวินเหลียงก้มหน้า พลางกระตุกรอยยิ้มที่แสนขมขื่นข้างริมฝีปากออกมา “ฉันรู้แล้ว...ฉันรู้แล้ว...ฉันรู้แล้ว...”เธอพูดติดต่อกันสามครั้ง น้ำเสียงเบาลงเรื่อย ๆ สั่นขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมแฝงสำเนียงสะอีกสะอื้นจาง ๆในหัวใจของเธอเจ็บปวดเป็นอย่างมาก เจ็บจนแทบจะหายใจไม่ออกอยู่แล้วเวินเหลียงซี๊ดจมูก แล้วหายใจเข้าลึก ๆ เฮือกหนึ่งพร้อมกับกลืนความขมขื่นที่เต็มปากลงไป “ขอโทษนะคะ ประธานใหญ่ฟู่ ทำคุณเสียเวลาแล้ว”เธอเดินถอยหลังไปส
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
7677787980
...
95
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status