บททั้งหมดของ สัญญารักผูกหัวใจท่านประธานปากแข็ง: บทที่ 381 - บทที่ 390

945

บทที่ 381

เวินเหลียงย้ายอาหารแมว ทรายแมวและอาหารกระป๋องแมวของปุ๊กลุกไปไว้บนรถเลยเธอหันมองไปด้านหลังเบา ๆ ทีหนึ่ง ฟู่เจิงไม่ได้ตามมาแม้ในใจเธอจะลอบถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ทว่าก็มีความผิดหวังที่ยากจะเชื่ออยู่เล็กน้อยเธอเข้าไปนั่งยังตำแหน่งคนขับ เงียบไปอยู่ครู่หนึ่ง ถึงได้ล้วงโทรศัพท์ออกมา แล้วกดโทรหาเลขาหยางพูดตามตรงตอนที่เห็นสายเวินเหลียงโทรเข้ามา เลขาหยางประหลาดใจเป็นพิเศษเธอรับสายอย่างระมัดระวัง “ฮัลโหล คุณเวิน?”“เลขาหยาง ปุ๊กลุกอยู่โรงพยาบาลสัตว์ไหนคะ?”ใครบอกเธอได้บ้างว่าปุ๊กลุกนี่ใคร?แล้วทำไมเวินเหลียงถึงมาถามเรื่องนี้กับเธอล่ะ?เลขาหยางนึกถึงคำพูดแปลกพิกลสองสามประโยคนั่นตอนที่ฟู่เจิงรับสาย เธอชะงักไปสองสามวินาที ถึงตอบกลับไปว่า “ขอโทษนะคะคุณเวิน ฉันมีงานด่วนกะทันหัน เลยส่งปุ๊กลุกให้ผู้ช่วยไป ตอนนี้ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่ามันอยู่โรงพยาบาลสัตว์ไหน”เวินเหลียง “...”เวินเหลียงพลันหมดคำพูด ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรต่อดีมีชั่ววูบหนึ่ง เวินเหลียงสงสัยว่าฟู่เจิงจะทำปุ๊กลุกตาย ถึงได้ใช้เหตุผลแบบนี้มาถ่วงเวลาเลขาหยางพูดขึ้นอีกว่า “เอาแบบนี้นะคะ ฉันจะช่วยถามผู้ช่วยให้คุณเองค่ะ ได้เรื่องแ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 382

ฮอตแอนด์คูล “ถ้านายคิดจะพัฒนาจริงจัง ความจริงแล้วจุดสำคัญก็ยังต้องพิจารณาว่าโปรเจกต์ของทั้งสองบริษัทตรงกับสาขาที่นายเรียนมาไหม แล้วความคิดสอดคล้องกันหรือเปล่า ในด้านแผนการทำงาน ถ้านายอยากจะเลื่อนขั้นเร็ว ๆ ก็เลือกอวี้เซิ่ง แต่ถ้าอยากพัฒนาไปยาว ๆ ก็เลือกฟู่ซื่อ”เมิ่งเซ่อ “พูดตามตรงนะครับ ตัวผมค่อนข้างเอนเอียงไปทางฟู่เจิง อาจเป็นเพราะความคิดในการพัฒนาของฟู่ซื่อมั้งครับ ฟู่เจิงประธานบริหารคนก่อนจบจากภาควิชาคณิตศาสตร์ ก็เริ่มทำอาชีพจากการพัฒนาโปรแกรม”ฮอตแอนด์คูล “เขาจบปริญญาสองใบคณิตศาสตร์กับเศรษฐศาสตร์”เมิ่งเซ่อ “เก่งจังเลย ผมเคยอ่านสัมภาษณ์ที่ต่างประเทศของเขาก่อนหน้านี้ ผมชื่นชมเขามาก พี่ครับ พี่รู้จักเขาไหม?”เวินเหลียง “...”ฮอตแอนด์คูล “รู้จัก”ฮอตแอนด์คูล “เขาคือสามีเก่าฉัน”พูดตามตรงเวินเหลียงคอยหาโอกาสที่จะพูดเรื่องนี้ออกมาอยู่ตลอดเธอคิดว่าพอเมิ่งเซ่อรู้ว่าเธอเคยผ่านการแต่งงานมาก่อน ไม่แน่ว่าอาจตัดใจไปเลยก็ได้เพียงแต่เมิ่งเซ่อเองก็ไม่ได้เป็นฝ่ายแสดงท่าทีอะไรออกมาก่อน ราวกับการที่เธอโพล่งออกมาว่าตัวเองเคยผ่านการแต่งงานมาก่อนมันกะทันหันเกินไปตอนนี้โอกาสมาถึงแล้ว!สำห
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 383

ก่อนหน้านี้เวินเหลียงย้ายข้าวของเครื่องใช้ของตัวเองเข้ามายังเพนส์เฮ้าส์ หลังจากนั้นก็จัดการเสื้อผ้าที่ไปนอร์เวย์นิดหน่อย กระเป๋าสัมภาระใบอื่นยังกองอยู่ในห้อง ยังไม่ได้เก็บในเมื่อตัดสินใจที่จะอาศัยอยู่ที่นี่ระยะยาวแล้ว เวินเหลียงก็จัดการกระเป๋าสัมภาระของตัวเองอย่างจริงจังหลังจัดเรียงเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ทั้งหมดเสร็จ ก็เหลือแค่ของทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้าของพ่อปีใหม่ผ่านไปแล้ว ก็กำลังจะเข้าสู่เทศกาลตรุษจีน ผ่านไปอีกหนึ่งปีแล้วระยะเวลาที่พ่อจากไปจะเพิ่มขึ้นอีกปีแล้วตอนนี้คนขับรถบรรทุกออกจากคุกแล้ว เขาใช้ชีวิตอย่างสบายอกสบายใจ มิหนำซ้ำยังมีเงินเหลือใช้ให้ออกไปเที่ยวเล่นต่างประเทศอีกทว่าพ่อของเธอกลับนอนไร้ลมหายใจอยู่ใต้ดิน จากไปตลอดกาลเมื่อเวินเหลียงนึกถึงตรงนี้ ในใจก็ขมขื่นจนยากจะรับไหวเธอเปิดสมุดบันทึกของพ่อ แล้วเปิดอ่านไปทีละหน้าช้า ๆ ส่วนท้ายหน้ากระดาษที่อยู่ข้างในเริ่มเป็นสีเหลือง เธอลูบตัวอักษรลายมือคุ้นตาในหน้ารอบแล้วรอบเล่าระหว่างที่เธอกำลังเปิดหน้าสมุดบันทึก รูปภาพใบหนึ่งก็ร่วงลงมาจากสมุดบันทึกเป็นรูปภาพที่ดูเหมือนกับจะเกี่ยวข้องกับคดีลักพาตัวในตอนนั้นนั่นเว
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 384

สถานที่เกิดเหตุ กระบวนการช่วยเหลือ และยิ่งไปกว่านั้นไม่มีนักข่าวอยู่ในจุดเกิดเหตุเลย!ถ้างั้นพ่อถ่ายรูปคนร้ายลักพาตัวมาได้ยังไง?พอพ่อได้รับข่าว ก็ไปแอบถ่ายบริเวณจุดเกิดเหตุโดยไม่สนอันตรายงั้นเหรอ?นี่เป็นเรื่องที่พ่อเธอทำได้จริง ๆ ตอนแรกในคดีสารเจือปนอาหารคดีนั้น พ่อก็ไปซ่อนตัวสืบเรื่องอยู่ในโรงงานด้วยตัวเอง ถึงได้หลักฐานมาคงเป็นเพราะพ่อถูกจับได้ตอนแอบถ่าย จึงทำให้คนร้ายลักพาตัวแค้นเคืองตอนนั้นพ่อกำลังเขียนต้นฉบับข่าวแล้ว กระทั่งถึงช่วงที่สามารถรายงานข่าวได้แล้ว ถ้าไม่เป็นเพราะตัวประกันถูกช่วยออกมาแล้ว ก็เป็นเพราะตัวประกันเสียชีวิตไปแล้วในสมุดบันทึก จากในร่างที่พ่อยังเขียนไม่เสร็จทำให้รู้ได้ว่า ช่วงเวลาที่เกิดคดีลักพาตัวขึ้นคือวันที่สิบสอง เดือนเมษายนของปีนั้น และวันครบรอบวันตายของพ่อคือวันที่สิบแปด เดือนเมษายนนี่สามารถอธิบายได้เรื่องหนึ่ง...คนร้ายลักพาตัวไม่ได้ถูกจับกุมตัวในที่เกิดเหตุ อย่างน้อยในตอนที่พ่อเสียพวกเขายังหลบหนีอยู่ข้างนอก ไม่อย่างนั้นการกระทำนี้ของคนขับรถบรรทุกจะไม่มีความหมายอะไรเลยส่วนความเป็นตายของตัวประกัน ท้ายที่สุดแล้วคนร้ายลักพาตัวถูกจับกุมหรือเปล่า ต
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 385

เสียงของถังซือซือแว่วดังขึ้นมาจากนอกประตู “อาเหลียง มื้อเที่ยงจะทำเองหรือสั่งดิลิเวอรีดี?”เวินเหลียงถอนหายใจเฮือกหนึ่ง พร้อมทั้งดื่มน้ำตามไปอึกหนึ่ง เธอปิดโน้ตบุ๊กลง แล้วลุกขึ้นไปเปิดประตู “อะไรก็ได้”ถังซือซือหัวเราะฮ่า ๆ “งั้นสั่งดิลิเวอรีแล้วกันนะ”“โอเค”ตอนนี้เวินเหลียงเองก็ไม่มีกะจิตกะใจจะทำอาหาร เธอออกมานั่งกับถังซือซือข้างนอก หารือกันเรื่องสั่งมื้อเที่ยง นั่งเหม่อลอยอยู่บนโซฟาคนร้ายลักพาตัวมีฝีมือทำได้ถึงขนาดนี้ แสดงว่าตัวตนของตัวประกันที่ถูกลักพาตัวไปก็คงไม่ธรรมดาเหมือนกันหากเธออยากสืบต่อจริง ๆ เธอทำคนเดียวคงไม่ได้เรื่องแน่“คิดอะไรอยู่เหรอ จริงจังขนาดนั้นเชียว” เมื่อถังซือซือเห็นดังนั้นก็ถามขึ้นมา“ไม่มีอะไร” เวินเหลียงได้สติกลับมาแล้วฉีกยิ้มออกมา “จริงสิถังถัง เธอรู้ไหมว่าที่เมืองเจียงเฉิงมีนักสืบเอกชนบริษัทไหนบ้าง?”“นักสืบเอกชน? เธอถามเรื่องนี้ไปทำไมเหรอ?” ถังซือซือถลึงตาโต “เธอคิดจะสืบเรื่องใครเหรอ?”เวินเหลียงตอบกลับอย่างจริงครึ่งไม่จริงครึ่ง “ฉันอยากสืบเรื่องคนขับรถบรรทุกที่ชนพ่อฉันตายน่ะ”เวินเหลียงไม่ได้พูดอะไรมาก ทว่าถังซือซือเองก็เข้าใจเจตนาของเวินเหลี
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 386

เวินเหลียงเบือนสายตาหนี มองไปในที่ไกล ๆ อย่างเงียบสงบ “อย่ามาเสียเวลาอยู่กับฉันเลย”“ขนาดเขานอกใจ เธอก็ยังชอบเขาอยู่อีกเหรอ?”“มันไม่เกี่ยวอะไรกับว่าฉันชอบเขาหรือเปล่า ตอนนี้ฉันเพิ่งเดินออกมาจากชีวิตการแต่งงาน ในวันนี้ยังไม่มีกะจิตกะใจจะเข้าไปในความรักครั้งใหม่”“ฉันรอเธอได้ รอเธอเดินออกมาจากเงาของชีวิตการแต่งงาน” โจวอวี่เอ่ยขึ้นอย่างหนักแน่น ไร้ซึ่งความลังเลใด ๆเวินเหลียง “...”“ถ้าฉันเดินออกมาไม่ได้ตลอดชีวิตล่ะ?”“งั้นฉันก็จะรอเธอไปตลอดชีวิต!”เวินเหลียงปวดหัวเล็กน้อยเธอไม่ได้ล้อเล่นนะชีวิตแต่งงานครั้งแรกทำเธอเหนื่อยล้าทั้งใจและกายมากพอแล้ว เธอไม่คิดจะแต่งงานใหม่จริง ๆ กระทั่งยังคิดว่าจะไม่แต่งงานอีกตลอดชีวิตใช้ชีวิตคนเดียวก็ดีออกอีกอย่างคือตอนนี้เธอไม่มีกะจิตกะใจไปคิดเรื่องพวกนี้ ณ เวลานี้เธอคิดแค่เรื่องแก้แค้นให้พ่อเท่านั้นเวินเหลียงกำลังอยากจะพูดอะไรต่อ ทว่าจู่ ๆ ก็มีเสียง ‘แปะ ๆ ๆ’ แว่วดังขึ้นมาจากข้าง ๆฟู่เจิงเดินเข้ามาพร้อมกับปรบมือไปด้วย สายตามองสลับไปมาระหว่างเวินเหลียงและโจวอวี่ เขาหัวเราะอย่างเย็นชาทีหนึ่ง “รอเธอไปตลอดชีวิต...ช่างน่าซาบซึ้งใจมากจริง ๆ!”
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 387

เขาไม่ได้ชอบฉู่ซืออี๋ ที่เขามีต่อเธอเป็นเพียงการชดใช้ความรู้สึกผิดในใจ ความรู้สึกผิดส่วนนี้มันไม่หลงเหลือแล้ว หลังจากที่เสิ่นฮุ่ยทำร้ายเวินเหลียง และคุณปู่จากไปคนที่เขาชอบคือเธอ แต่เธอไม่เคยเชื่อเลยถ้าเขาชอบเธอมานานแล้ว งั้นทำไมเขาถึงเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอหย่าก่อนล่ะ? ถ้าเขาเพิ่งมาชอบเธอก่อนแต่งงานไม่นาน แล้วทำไมเขาถึงเปลี่ยนใจไปง่ายดายขนาดนี้ล่ะ?“ฉันไม่ได้ใช้ให้ฉู่ซืออี๋อำลาวงการ และฉันไม่ได้เตรียมจะแต่งงานกับเธอด้วย อาเหลียง ฉันชอบเธอ ฉันรู้ว่าเธอคงไม่เชื่อแน่ แต่ฉันก็ยังอยากบอกเธอว่า ฉันชอบเธอ ฉันชอบเธอตั้งแต่ก่อนหน้านี้มานานแล้ว แต่แค่ฉันมันโง่ ไม่รู้ความต้องการจริง ๆ ของหัวใจตัวเอง...”เวินเหลียงรู้สึกว่ามันน่าขำสุด ๆ เธอจึงโพล่งเสียงหัวเราะออกมา “คุณชอบฉันตั้งแต่ก่อนหน้านี้มานานแล้ว แต่แค่ไม่รู้ความต้องการจริง ๆ ของหัวใจตัวเอง? ฟู่เจิง คุณคิดว่าฉันจะเชื่อข้ออ้างแบบนี้เหรอ?”“คุณชอบฉัน แต่เดินทางไปทำงานนอกสถานที่หนึ่งเดือนเพื่อไปเจอฉู่ซืออี๋? คุณชอบฉัน แต่เป็นฝ่ายเอ่ยปากขอหย่าฉันก่อน? คุณชอบฉัน แต่บอกกับฉันว่าถึงฉันจะตั้งท้องแล้ว ก็จะให้ฉันไปเอาเด็กออก? คุณชอบฉัน แต่ปล่อยให้ฉัน
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 388

เวินเหลียงไม่ใช่บุคคลสาธารณะ รูปที่ปรากฏในอินเทอร์เน็ตก็มีไม่มากพี่สาวหน้าเคาน์เตอร์จำไม่ได้ ยังคิดว่าฟู่เจิงมีกิ๊กคนใหม่อีกแล้วเธออุ้มปุ๊กลุกที่สวมเอลิซาเบธคอลล่าขนาดเล็กไว้ที่คอออกมาจากกรง กำลังจะวางเข้าไปในกระเป๋าใส่แมว ทว่าเวินเหลียงกลับเดินขึ้นหน้าไปเป็นฝ่ายอุ้มปุ๊กลุกเอาไว้ “มาให้ฉันเองค่ะ”พี่สาวหน้าเคาน์เตอร์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “คุณผู้หญิง เชื้อราแมวแพร่สู่คนได้นะคะ...”“ฉันทราบค่ะ ไม่เป็นไร”เมื่อเห็นดังนั้น พี่สาวหน้าเคาน์เตอร์ก็ปล่อยมือ แล้วพูดกับฟู่เจิงว่า “คุณฟู่คะ พวกคุณสองคนรออยู่ที่นี่สักครู่นะคะ ฉันจะไปเอายาของปุ๊กลุกมาให้พวกคุณ”“โอเค”เวินเหลียงนั่งลงบนโซฟาที่อยู่ข้าง ๆ เธอยกเอลิซาเบธคอลล่าของปุ๊กลุกขึ้น แล้วมองประเมินมันไม่เจอกันหนึ่งเดือน ปุ๊กลุกโตขึ้นไม่น้อย แต่ว่ารูปลักษณ์ภายนอกยังเป็นเจ้าแมวน้อยเหมือนเดิม ขนยาวขึ้นนิดหน่อยลูบแล้วท้องแน่นปัก ๆ ดูเหมือนจะกินเก่งทีเดียวบนขาหลังมีจุดหนึ่งที่ขนถูกโกนขนออกไปจนเกลี้ยง มีจุดหนึ่งแดงอย่างเห็นได้ชัด ทว่าไม่มีขน คงเป็นจุดที่เป็นเชื้อราแมวปุ๊กลุกนอนพาดตัวอยู่ในอ้อมอกของเวินเหลียง อุ้งมือขาวพาดอยู่บนไหล่ของเว
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 389

เขาควรทำยังไงดี?ต้องทำยังไงถึงจะรั้งเธอเอาไว้ได้?เวินเหลียงพูดขึ้นอีกว่า “คุณไม่ยอมให้ยาฉันก็ไม่เป็นไร ฉันค่อยเข้าไปซื้ออีกชุดก็ได้ คุณกลับไปก่อนเถอะ”เธอพูดพลางยกกระเป๋าใส่แมวหมุนตัวกลับเข้าไปในโรงพยาบาลสัตว์“เดี๋ยวก่อน” ฟู่เจิงเรียกให้เธอหยุดอยู่ด้านหลัง พลางอดกลั้นความขมขื่นในใจเอาไว้ “ไม่ต้องไปซื้อแล้ว ฉันเอายาให้เธอก็สิ้นเรื่อง”เวินเหลียงหยุดฝีเท้า ก่อนจะหมุนตัวกลับมาไม่รู้ว่าฟู่เจิงมาอยู่เบื้องหลังเธอตั้งแต่เมื่อไร เขาส่งกล่องยาให้เธอ พลางเผยอริมฝีปาก ทว่าก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาเวินเหลียงรับยามา พร้อมทั้งเงยหน้ามองเขา “ค่ารักษาพยาบาลปุ๊กลุกเท่าไร ฉันจะโอนให้คุณ”“เรื่องนี้ไม่จำเป็นหรอก”“ถึงยังไงก็จำเป็นอยู่ดี เพราะว่าเราหย่ากันแล้ว...”ความรู้สึกพ่ายแพ้ในใจของฟู่เจิงพุ่งทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุด เขาเอ่ยปากขึ้นด้วยน้ำเสียงแสนเย็นชาในทันที “ในเมื่อเธออยากจะตีเส้นกับฉันให้มันชัดเจนขนาดนั้น แล้วที่ฉันช่วยเอากระเป๋าสตางค์กลับมาจากโจรให้เธอล่ะ เธอจะขอบคุณฉันยังไง? ที่ฉันช่วยเธอออกมาจากใต้ฝ่าเท้าของฝูงชนล่ะ เธอจะขอบคุณฉันยังไง? แล้วที่ฉันช่วยเธอออกมาจากเงื้อมมือของเฮ่อหมิง ช่ว
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 390

เวินเหลียงกลับมาถึงยังเพนท์เฮ้าส์ เธอวางกระเป๋าใส่แมวไว้บนพื้นเจ้าก้อนขนตัวน้อย ๆ เพิ่งมาถึงยังสภาพแวดล้อมแปลกใหม่ มันเอาแต่ขดตัวอยู่ในกระเป๋าใส่แมวไม่กล้าออกมา คอยสำรวจสภาพแวดล้อมโดยรอบผ่านรูข้างกระเป๋าอย่างระมัดระวังเวินเหลียงหยิบขนมแมวเลียมาชิ้นหนึ่ง แล้วบีบไปที่ปากกระเป๋าใส่แมวเล็กน้อยเมื่อปุ๊กลุกได้กลิ่น จมูกน้อย ๆ ก็ฟุดฟิด ๆ เข้าหากัน หางตั้งตรง ก่อนจะชะโงกหัวออกมาอย่างระมัดระวังอาจเป็นเพราะเห็นเวินเหลียงที่คุ้นเคย ปุ๊กลุกจึงผ่อนคลายลงบ้างเล็กน้อย มันก้มหน้ากินอย่างมูมมาม กินขนมแมวเลียรสเนื้อไก่ที่บีบออกมาหมดภายในสามวินาทีมันเลียซองว่างเปล่าที่กินหมดไปแล้ว เลียไปด้วยพลางดมกลิ่นไปด้วย เมื่อดมอยู่นานสองนานแล้วแต่ก็ยังไม่มีอะไรบีบออกมา มันจึงเงยหน้ามองเวินเหลียง “เมี๊ยว...”ในใจของเวินเหลียงอ่อนปวกเปียกไปหมด เธอหยิบชามข้าวแมวมา แล้วบีบขนมแมวเลียทั้งหมดใส่ลงไปในชามให้ปุ๊กลุกปุ๊กลุกกินอย่างตะกละตะกลาม เลียชามจนสะอาดเกลี้ยงกริบมันเงยหน้าขึ้น แล้วมองไปที่สภาพแวดล้อมใหม่รอบข้าง พลางสำรวจอย่างระมัดระวัง…สามทุ่มกว่า ขณะถังซือซือกลับมา ปุ๊กลุกก็กล้าเดินไปเดินมาในห้องรับแข
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
3738394041
...
95
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status