บททั้งหมดของ สัญญารักผูกหัวใจท่านประธานปากแข็ง: บทที่ 11 - บทที่ 20
295
บทที่ 11
“ไม่”ฟู่เจิงพิงพนักเก้าอี้ นวดระหว่างคิ้ว ปิดคอมพิวเตอร์แล้วลุกขึ้นยืน “ไปกันเถอะ”พอกลับถึงบ้าน คนรับใช้ก็เตรียมมื้อค่ำไว้แล้วหลังจากกินมื้อค่ำแบบเรียบง่าย ฟู่เจิงก็เข้าไปทำงานต่อในห้องทำงานอีกเวินเหลียงนั่งดูโทรทัศน์ที่ห้องรับแขกพักหนึ่ง เทน้ำอุ่นให้ตัวเอง แล้วหยิบยาจากลิ้นชักออกมากินพร้อมกับน้ำอุ่น“เธอกำลังกินยาอยู่เหรอ? เป็นอะไรไป? ไม่สบายเหรอ?”เสียงฟู่เจิงดังมาจากข้างหลังกะทันหันเวินเหลียงหัวใจหล่นตุบ หันไปมองเขาและตอบแบบใจเย็น “ช่วงนี้ท้องไส้ไม่ค่อยดีค่ะ”ฟู่เจิงเดินเข้ามาหา เทน้ำให้ตัวเองแก้วหนึ่ง “ไปหาหมอที่โรงพยาบาลหรือยัง?”เขานึกถึงข้ออ้างของเวินเหลียงบนโต๊ะอาหารตอนกลางวัน แต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไร“หามาแล้วค่ะ”“งั้นก็ดี ร่างกายตัวเอง ต่อไปก็ต้องดูแลเองดี ๆ”ได้ยินถ้อยคำเป็นห่วงเป็นใยจากเขา เวินเหลียงผงกศีรษะเล็กน้อย ทว่าในใจกลับรู้สึกปวดร้าว……เช้าตรู่ เวินเหลียงถูกเสียงโทรศัพท์รบกวนจนตื่นเธอลืมตาที่ขมุกขมัวทั้งสองข้างพลางควานหาโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะหัวเตียง แล้วมองหน้าจอแวบหนึ่งก่อนจะรับสาย “ฮัลโหล”เสียงร้อนรนของผู้ช่วยดังมาจากปลายสาย “ผู้อำนวยการเวิน แ
Read More
บทที่ 12
ในฐานะที่ฟู่เจิงเป็นประธานบริษัทของฟู่ซื่อ จึงเคยโผล่หน้าในข่าวเศรษฐกิจหลายครั้ง ด้วยหน้าตาหล่อเหลา รูปร่างสูงโปร่ง ชาติตระกูลที่สวรรค์ลำเอียงมอบให้ กอปรกับไม่มีข่าวฉาว ทำให้สะสมแฟนคลับได้กลุ่มหนึ่ง เรียกเขาว่าเป็นพระเอกในนิยายแต่กำเนิดส่วนฉู่ซืออี๋นั้น หน้าตาค่อนข้างดี ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เคยสร้างผลงานดีที่ต่างประเทศมาก่อน ทั้งสองคนเรียกได้ว่าเป็นกิ่งทองใบหยก คู่สร้างคู่สมกอปรกับการชักนำของคลื่นใต้น้ำ ชาวเน็ตจึงพากันส่งคำอวยพร แถมยังดึงดูดแฟนคลับคู่จิ้นมาจิ้นกันได้อีกเป็นกองเดี๋ยวเดียวก็สร้างซูเปอร์ท็อปปิกคู่จิ้นขึ้นมา ซึ่งชื่อของซูเปอร์ท็อปปิกเรียกว่า ข้อโต้เถียงสามีภรรยา ‘เจิงอี๋’แค่ในเวลาสั้น ๆ แฟนคลับของซูเปอร์ท็อปปิกพุ่งทะลุหลายหมื่นคนแฟนคลับที่เป็นนักเขียนได้เขียนเรื่องราวความรักประทับใจของทั้งสองให้พวกเขาโดยเฉพาะ แฟนคลับที่เป็นนักวาดภาพก็ใช้ภาพเดิมของพวกเขาวาดรูปโปรไฟล์คู่รักฉบับการ์ตูนให้พวกเขา ส่วนพวกนักตัดต่อก็เอาซีรีส์ที่ฉู่ซืออี๋เคยเล่นตัดต่อกับข่าวเศรษฐกิจของฟู่เจิง จิ้นกันสุดฤทธิ์สุดเดชเวินเหลียงกดเข้าซูเปอร์ท็อปปิก ยังเห็นแฟนคลับคนหนึ่งเปลี่ยนชื่อ
Read More
บทที่ 13
เขานิ่งงันและเงียบครู่หนึ่งฟู่เจิงจึงเอ่ยปากเสียงหนัก “ฉันร้อนใจไปเอง ขอโทษ...”ขอโทษ...เฮอะชีวิตแต่งงานสามปี เขาเหลือไว้ให้เธอเพียงแค่คำว่าขอโทษ“เป็นฉันที่ผิดต่อเธอ เธอต้องการอะไรฉันจะชดเชยให้หมด แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับซืออี๋ เขาไม่รู้เรื่องที่ฉันแต่งงาน เธออย่าเพ่งเล็งไปที่เขา”เวินเหลียงหัวเราะแห้งนี่ก็คือฟู่เจิง สามีของเธอขอโทษเธอพร้อมข่มขู่เธอแทนฉู่ซืออี๋เวินเหลียงอ่อนล้าเต็มประดา ไม่มีอารมณ์พูดกับฟู่เจิงอีก “ตามใจคุณเถอะ”เธอสาวเท้ายาวออกจากห้องทำงานประธานบริษัทเงาหลังบอบบาง อ่อนแอ เศร้าหมองฟู่เจิงมองเงาหลังของเวินเหลียง หรี่ดวงตา ในดวงตาดำมืดทันใดได้นั้นเสียงสายเรียกเข้าดังขึ้นฟู่เจิงมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือทีหนึ่งก่อนจะรับสาย“อาเจิง คุณเห็นเรื่องคำค้นหายอดฮิตแล้วใช่ไหม ขอโทษนะคะ ถ้าฉันระวังหน่อยคงไม่โดนถ่าย” เสียงฉู่ซืออี๋ดังมาจากปลายสายพอไม่ได้ยินเสียง ฉู่ซืออี๋จึงเรียกอีก “อาเจิง?”ฟู่จึงคืนสติ “ไม่เป็นไร ผมจัดการแล้วครับ ไม่ส่งผลอะไรกับคุณหรอก”“จริงเหรอคะ? ขอบคุณมากเลยค่ะ อาเจิง คุณดีกับฉันจริง ๆ”พอวางสายก็หวังเหยียนอดสะท้อนใจไม่ได้ “แผนนี้ข
Read More
บทที่ 14
พอถึงบ้านใหญ่ คนรับใช้เข้ามาเชิญพวกเขาเข้าไป “คุณหญิงกำลังยุ่งอยู่ในห้องครัวค่ะ พวกคุณนั่งก่อนนะคะ”ว่าแล้วแม่บ้านก็ไปยกน้ำ เสิร์ฟผลไม้ให้พวกเขาคุณย่าตระกูลฟู่เกิดในครอบครัวธรรมดา ถึงจะเสพสุขมาครึ่งชีวิต แต่ก็ยังเหมือนคนแก่ทั่วไป ชอบเลี้ยงเด็ก ชอบเข้าครัวทำอาหารและถักผ้าพันคอให้เด็ก ๆ ในบางครั้งถึงลับหลังเด็ก ๆ ตระกูลฟู่จะไม่ถูกกัน แต่ก็ยังเคารพคุณย่าท่านนี้มากเวินเหลียงถามคนรับใช้ช่วงที่เปลี่ยนรองเท้า “คุณปู่ล่ะ?”คนรับใช้ชี้ไปชั้นบน “พักผ่อนอยู่ค่ะ ช่วงนี้คุณท่านซึมมากขึ้นทุกที”เวินเหลียงกับฟู่เจิงได้ยินแล้วต่างแสดงสีหน้ากังวลธุรกิจครอบครัวของตระกูลฟู่เริ่มจากรุ่นคุณปู่และสืบทอดลงมา แต่พัฒนาใหญ่โตในสมัยที่อยู่ในมือของคุณปู่ สมัยเขาหนุ่ม ๆ จึงทำงานจนเสียสุขภาพ พออายุมากร่างกายก็ไม่สู้ดีตลอด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่ายังเคยเปลี่ยนตับและกินยากดภูมิคุ้มกันเป็นประจำ“ผอ.หลินว่ายังไงบ้าง” ฟู่เจิงถามผู้อำนวยการหลินคือผู้อำนวยการโรงพยาบาลเต๋อซิง และเป็นแพทย์ประจำตัวของคุณปู่ด้วยเช่นกัน“เขาได้พยายามสุดความสามารถค่ะ”ฟู่เจิงพยักหน้าขรึมเวินเหลียงไปเป็นลูกมือคุณย่าในห้องครัว“อาเ
Read More
บทที่ 15
เวินเหลียงรีบแก้สถานการณ์โดยใช้ตะเกียบกลางคีบอาหารให้คุณปู่ “คุณปู่คะ ลองชิมมะเขือผัดเปรี้ยวหวานนี่สิคะ หนูทำเองกับมือเลยนะ เมื่อก่อนคุณปู่ชอบกินที่สุดเลย”คุณย่าก็สมทบอีกแรง “ดูสิ อาเหลียงยังจำได้ว่าคุณชอบ ฉันงอนแล้วนะ”“ยังเป็นอาเหลียงที่กตัญญู” คุณปู่ชายหยิบตะเกียบ พยักหน้าหัวเราะชอบใจ “ไม่เหมือนใครบางคนที่ไม่มีหัวใจ ดีแต่ทำให้ฉันโมโห ฉันว่านะ คงต้องให้ฉันโมโหตายก่อนเขาถึงจะพอใจ”ฟู่เจิงผู้ไม่มีหัวใจ “...”“คุณปู่คะ คุณปู่อย่าพูดอย่างนี้สิคะ คุณปู่ต้องอายุยืนร้อยปีแน่ค่ะ”พ่อแม่ของเวินเหลียงหย่ากันตั้งแต่ตอนที่เธอเด็กมาก เธอถูกตัดสินยกให้พ่อ แต่ถ้าจะพูดให้ถูกคือแม่ไม่ต้องการเธอ อย่างหลายปีมานี้ แม่ก็ไม่เคยมาเยี่ยมเธอสักครั้งพ่อทำงานยุ่งมาก ตอนแรกเธออยู่กับปู่ย่าที่บ้านนอก เพียงแต่ไม่กี่ปีให้หลังปู่กับย่าก็ทยอยจากไป พ่อจึงรับเธอมาอยู่ด้วยตอนที่เธออายุสิบหก พ่อก็จากไปเหมือนกัน เธอจึงตัวคนเดียวแล้วจริง ๆ กระทั่งคุณปู่ คุณย่าในตอนนี้รับตัวเธอมา มอบความอบอุ่น มอบบ้านอีกหลังให้เธอความทุกข์ที่ครอบครัวจากไปทีละคน เธอไม่อยากสัมผัสอีกไม่มีใครหวังให้คุณปู่สุขภาพแข็งแรงอายุยืนร้อ
Read More
บทที่ 16
ตอนบ่ายขณะที่ทั้งสองคนออกมาจากบ้านใหญ่แล้วระหว่างอยู่บนรถเวินเหลียงก็พูดขึ้น “คุณคงดูท่าทีของคุณปู่ออก เขาไม่สนับสนุนให้เราหย่ากัน หลังจากนี้คุณคิดจะทำยังไงคะ?”ฟู่เจิงมองไปนอกหน้าต่าง พลันถอนหายใจ “เราเอาใบสำคัญการหย่ามาก่อนก็ได้ ปิดคุณปู่เอาไว้ แล้วหลังจากนั้นค่อย ๆ บอกเขา”เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ เขาก็ยังเลือกที่จะทำแบบนี้อยู่ดี ไม่มีทีท่าจะเปลี่ยนความคิดแม้คุณปู่จะพูดจารุนแรงกับเขา แม้จะต้องปิดบังคุณปู่ ต่อต้านคุณปู่ก็ตามเวินเหลียงหายใจอย่างหนัก ทุกลมหายใจราวกับถูกมีดแทงเธอก้มหน้าแล้วส่ายหัวเงียบ ๆ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “โอเคค่ะ จะไปเอาใบสำคัญการหย่าเมื่อไรเหรอคะ?”ฟู่เจิงเลื่อนดูกำหนดการในโทรศัพท์ “หลายวันนี้ฉันค่อนข้างยุ่ง วันจันทร์หน้าก็แล้วกัน”“ได้ค่ะ”เห็นเวินเหลียงตอบอย่างไม่ลังเล ฟู่เจิงก็เม้มริมฝีปากแล้วมองเธอสองสามทีหากวิจารณ์อย่างไม่มีอคติ เวินเหลียงหน้าตาสะสวยเป็นอย่างมากหางตาดอกท้อเชิดขึ้น ดวงตาคมชัด บางครั้งก็ดูอ่อนโยนบางครั้งก็ดูดุเดือด ตอนที่ดูอ่อนโยนจะมีเสน่ห์แสนตรึงใจอย่างหนึ่ง ที่ทำให้ผู้คนจมดิ่งลงไปอยู่ในนั้น ทว่าตอนที่ดูดุเดือดกลับมีคว
Read More
บทที่ 17
เมื่อเริ่มถ่ายทำโฆษณาอย่างเป็นทางการ เวินเหลียงมาถึงสตูดิโอก่อนเวลา เธอให้พนักงานที่เป็นลูกน้องจัดการสถานที่ไม่นานช่างภาพและช่างแต่งหน้าก็มาถึงตามลำดับ ทั้งสองคนนี้ล้วนเป็นพาร์ตเนอร์เก่าของเวินเหลียง ร่วมงานกันมาหลายปี เวินเหลียงเอ่ยมาคำเดียว พวกเขาก็เข้าใจทันทีว่าเวินเหลียงต้องการผลลัพธ์แบบไหนสถานที่จัดแต่งจนใกล้จะเสร็จ เวินเหลียงเหลือบดูนาฬิกาทีหนึ่ง จวนจะเก้าโมงแล้ว อีกครึ่งชั่วโมงจะถึงเวลานัด แต่ก็ยังไร้วี่แววของฉู่ซืออี๋และทีมของเธอผู้ช่วยมาเร่งเร้าไปรอบหนึ่งแล้วจูฝานช่างภาพขยับกล้องถ่ายรูปในมือเล่นไปมา พลางถอนหายใจก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “ฉู่ซืออี๋นี่ช่างวางมาดใหญ่โตจริง ๆ”ถังซือซือช่างแต่งหน้าหัวเราะเยาะ แล้วพูดขึ้นว่า “ทำยังไงได้ ใครใช้ให้เขากลับมาจากเมืองนอกล่ะ? เขาอยากเล่นตัวแล้วพวกเราจะทำอะไรได้? จะไปไล่เขาออกได้ยังไง? อย่าว่าแต่พวกเราเลย ขนาดเวินเหลียงยังไม่มีสิทธิ์ที่จะทำแบบนั้นเลยด้วยซ้ำ”ใครไม่รู้บ้างว่าแอมบาสเดอร์คนนี้ประธานฟู่เป็นคนเลือกมาเองนอกเหนือเวลานี้เวินเหลียงในฐานะผู้จัดการแบรนด์ของเอ็มคิว ย่อมมีอำนาจในการสั่งเปลี่ยนคน แต่ว่าฉู่ซืออี๋คนนี้เธอเปลี่ยนไม่ได
Read More
บทที่ 18
เสร็จสิ้นการประชุมฟู่เจิงนั่งนวดคิ้วอยู่บนพนักพิงเก้าอี้ในจังหวะนี้เองเสียงริงโทนโทรศัพท์ก็ดังขึ้นฟู่เจิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมามองหน้าจอทีหนึ่งก่อนจะรับสาย “ฮัลโหล”“อาเจิง คุณอยู่ที่บริษัทหรือเปล่าคะ? ฉันจะไปหาคุณเดี๋ยวนี้”ฟู่เจิงมองปฏิทินบนโต๊ะ “วันนี้ถ่ายงานเสร็จเร็วขนาดนี้เลยเหรอ?”ฉู่ซืออี๋ทำทีอยากจะพูดแต่ก็ชะงักไป “วันนี้...วันนี้ไม่ได้ถ่ายค่ะ”“ไม่ได้ถ่ายงั้นเหรอ? ทำไมล่ะ?” ฟู่เจิงถามตอนที่เขาเพิ่งออกมาจากห้องน้ำ ยังเห็นห้องทำงานของเวินเหลียงถูกล็อกเอาไว้ เห็นชัดว่าออกไปทำงานข้างนอกทุกครั้งที่มีการถ่ายโฆษณา เวินเหลียงจะไปดูที่สถานที่ถ่ายทำในเมื่อวันนี้เธอก็ออกไปสตูดิโอ ทำไมถึงไม่ได้ถ่ายล่ะ?“ตอนที่เราไปถึงสตูดิโอ จู่ ๆ อาเหลียงก็บอกกับเราว่ามีเรื่องด่วนไม่ถ่ายแล้ว พูดจบเธอก็ออกไปเลย เราเองก็ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น”“คงจะมีเรื่องอะไรด่วนจริง ๆ แหละมั้ง ไหน ๆ ก็ไม่ได้ถ่ายแล้ว คุณมาหาผมที่บริษัทสิ”ในสามปีนี้ ฟู่เจิงรู้ท่าทีในการทำงานของเวินเหลียงมาตลอดถ้าไม่ได้เกิดเหตุการณ์พิเศษขึ้นมาจริง ๆ เธอไม่มีทางบอกว่าไม่ถ่ายก็ไม่ถ่ายเด็ดขาดเมื่อได้ยินว่าในน้ำเสียงของ
Read More
บทที่ 19
ที่แท้ฟู่เจิงก็ตอบตกลงแล้วนี่เองทันใดนั้นเวินเหลียงก็รู้สึกน่าขันเป็นอย่างมากเพราะฉู่ซืออี๋ ฟู่เจิงถึงแทรกแซงเรื่องของเอ็มคิวครั้งแล้วครั้งเล่าเพราะฉู่ซืออี๋ ฟู่เจิงจึงทำแผนของเธอพังซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทว่ากลับให้เธอมาเก็บกวาดทุกสิ่งแผนของการตลาดในก่อนหน้านี้ก็เตรียมจะลงมือทำเรียบร้อยแล้ว แต่เพราะเปลี่ยนแอมบาสเดอร์เลยต้องกลายเป็นเศษกระดาษ เขาไม่เห็นว่าเธอลงทุนลงแรงไปเท่าไร ถึงจะรักษาสถานการณ์ในตอนนี้เอาไว้ได้เขาต้องการเพียงแค่เอาใจฉู่ซืออี๋ก็พอแล้วส่วนจะกลายเป็นเรื่องวุ่นวายหรือเปล่านั้น ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของเวินเหลียงแล้วเขาจะมาสนใจได้ยังไง?เมื่อถังซือซือได้ยินดังนั้น ก็ยิ่งรู้สึกว่าเกินไปแล้ว “ประธานฟู่ตกลงแล้วงั้นเหรอ? ประธานฟู่สนใจเรื่องเล็ก ๆ แบบนี้ด้วยเหรอ?”ฉู่ซืออี๋หัวเราะ “คุณถังเองก็รู้ว่านี่เป็นแค่เรื่องเล็ก เพราะงั้นอาเจิงถึงบอกให้ฉันเป็นคนตัดสินใจเองได้เลย”ถังซือซือ “คุณฉู่คะ ทุกคนต่างรู้ดีว่าเรื่องเล็กสำหรับประธานฟู่ที่จริงมันสำคัญมาก ๆ ในการถ่ายทำการแต่งหน้าและทรงผมสำคัญมาก หวังว่าคุณจะเข้าใจนะคะ ฉันแค่สงสัยในตัวประธานฟู่ ว่าทำไมถึงมาสนใจเรื่องแบบนี้ด้วย?
Read More
บทที่ 20
เวินเหลียงมองโทรศัพท์ที่อยู่บนพื้นอย่างแข็งทื่อราวกับท่อนไม้ ยืนมองอยู่นานสองนานเธอถึงค่อย ๆ ก้มลงไปเก็บมือถือขึ้นมาเวินเหลียงไม่อยากหาเรื่องใส่ตัวอีกต่อไปหัวใจของฟู่เจิงลำเอียงไปตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มีแต่จะลำเอียงไปทางฉู่ซืออี๋เรื่องเมื่อวาน ขอแค่ฟู่เจิงอยากรู้ความจริง ส่งคนไปสืบดูก็จะรู้แล้ว แต่เขาเชื่อคำพูดของฉู่ซืออี๋มากกว่าเท่านั้นนี่คือรักแรกที่ผู้ชายลืมได้ยากงั้นเหรอ?…“ผู้อำนวยการเวินคะ คุณถังกับคุณจูกำลังรอคุณอยู่ในห้องพักค่ะ”ผู้ช่วยเห็นเวินเหลียงยืนอึ้งอยู่ที่เดิม จึงเดินมาเตือนอย่างระมัดระวัง“โอเค ฉันรู้แล้ว” เวินเหลียงรีบเก็บความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ ก่อนจะสาวเท้ายาวก้าวไปทางห้องพัก“เป็นยังไงบ้าง? ประธานฟู่ว่ายังไง?” เมื่อเห็นเวินเหลียงเข้ามา ถังซือซือก็รีบถามจูฝานเงยหน้ามองอย่างลุกลี้ลุกลนเวินเหลียงส่ายหน้าจูฝานถอนหายใจถังซือซือทอดถอนใจ “นึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ทีแรกคิดว่าประธานฟู่คือถังไท่จง [footnoteRef:1]ใครจะไปรู้ว่าจะเป็นโจวโยวอ๋อง[footnoteRef:2]” [1: ถังไท่จง คือหนึ่งในจักรพรรดิที่สร้างชื่อเสียงในราชวงศ์ถัง สร้างคุณูปการให้กับ
Read More
ก่อนหน้า
123456
...
30
DMCA.com Protection Status