Share

บทที่ 19

ที่แท้ฟู่เจิงก็ตอบตกลงแล้วนี่เอง

ทันใดนั้นเวินเหลียงก็รู้สึกน่าขันเป็นอย่างมาก

เพราะฉู่ซืออี๋ ฟู่เจิงถึงแทรกแซงเรื่องของเอ็มคิวครั้งแล้วครั้งเล่า

เพราะฉู่ซืออี๋ ฟู่เจิงจึงทำแผนของเธอพังซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทว่ากลับให้เธอมาเก็บกวาดทุกสิ่ง

แผนของการตลาดในก่อนหน้านี้ก็เตรียมจะลงมือทำเรียบร้อยแล้ว แต่เพราะเปลี่ยนแอมบาสเดอร์เลยต้องกลายเป็นเศษกระดาษ เขาไม่เห็นว่าเธอลงทุนลงแรงไปเท่าไร ถึงจะรักษาสถานการณ์ในตอนนี้เอาไว้ได้

เขาต้องการเพียงแค่เอาใจฉู่ซืออี๋ก็พอแล้ว

ส่วนจะกลายเป็นเรื่องวุ่นวายหรือเปล่านั้น ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของเวินเหลียง

แล้วเขาจะมาสนใจได้ยังไง?

เมื่อถังซือซือได้ยินดังนั้น ก็ยิ่งรู้สึกว่าเกินไปแล้ว “ประธานฟู่ตกลงแล้วงั้นเหรอ? ประธานฟู่สนใจเรื่องเล็ก ๆ แบบนี้ด้วยเหรอ?”

ฉู่ซืออี๋หัวเราะ “คุณถังเองก็รู้ว่านี่เป็นแค่เรื่องเล็ก เพราะงั้นอาเจิงถึงบอกให้ฉันเป็นคนตัดสินใจเองได้เลย”

ถังซือซือ “คุณฉู่คะ ทุกคนต่างรู้ดีว่าเรื่องเล็กสำหรับประธานฟู่ที่จริงมันสำคัญมาก ๆ ในการถ่ายทำการแต่งหน้าและทรงผมสำคัญมาก หวังว่าคุณจะเข้าใจนะคะ ฉันแค่สงสัยในตัวประธานฟู่ ว่าทำไมถึงมาสนใจเรื่องแบบนี้ด้วย?”

หวังเหยียนเอ่ย “ความหมายของคุณคือ ซืออี๋กำลังโกหกงั้นเหรอ? ผู้อำนวยการเวิน ถ้าพวกคุณไม่เชื่อ จะโทรเช็กกับประธานฟู่ให้มั่นใจก็ได้ เรื่องนี้ประธานฟู่เป็นคนให้สิทธิ์พวกเรา พวกเรายืนกรานว่าจะทำแบบเดิม ที่เหลือพวกคุณไปจัดการกันเอาเอง ถ้าจัดการไม่ได้ จะยกเลิกสัญญาก็ไม่มีปัญหา ซืออี๋ของพวกเราไม่ได้หวังจะเป็นแอมบาสเดอร์นี่หรอก”

ฉู่ซืออี๋ยืนเงียบไม่พูดไม่จาอยู่ข้าง ๆ

ถังซือซือถูกหวังเหยียนทำให้เดือดดาลเป็นอย่างมาก

หลังเดินออกมาจากห้องแต่งตัว เธอกำหมัด “ทำงานในวงการนี้มาตั้งหลายปี ร่วมงานกับดารามาก็ตั้งมากมาย นี่เพิ่งเป็นครั้งแรกเลยที่ฉันเจอคนหน้าไม่อายขนาดนี้ ในเมื่อไม่ได้หวังอยากจะเป็นแอมบาสเดอร์ แล้วทำไมต้องไปแย่งมาจากหลินเยียนหรันด้วยล่ะ? อยากเป็นกะหรี่แต่ยังอยากมีหน้ามีตา ทุเรศชะมัด!”

ถังซือซือเองนับว่าเป็นช่างแต่งหน้ามืออาชีพที่มีชื่อเสียงในวงการคนหนึ่งเช่นกัน และเธอเคยร่วมงานกับดาราหนังนักแสดงซีรีส์มามากมาย

ปีที่แล้วเว็บซีรีส์เรื่องหนึ่งมีพระเอกฮอต และระดับความดังของนางเอกที่อยู่ในนั้นก็พุ่งขึ้นมาอย่างมาก แต่มักถูกคนวิจารณ์รูปลักษณ์ว่าดูพื้น ๆ เส้นกรอบหน้าทู่เกินไป ต่อมาในภายหลังจึงแต่งหน้าถ่ายรูปหมู่ตามการแนะนำของถังซือซือ เธอจึงดังขึ้นมาในวงการทันที

จูฝานเองก็เห็นภาพเมื่อครู่มากับตาอยู่ข้าง ๆ เธอปลอบถังซือซือ “อย่าโมโหไปเลย มาคิดกันดีกว่าว่าจะจัดการเรื่องนี้ต่อไปยังไง ถ้าเธอยังยืนกรานว่าจะไม่เปลี่ยนการแต่งหน้าและทรงผม ถ้างั้น...อาจจะต้องเปลี่ยนแผนการถ่ายรูปไปอีกแบบ”

ถังซือซือหันไปถามเวินเหลียง “อาเหลียง คุณคิดจะจัดการยังไง?”

“พวกคุณไปรอที่ห้องพักกันก่อนนะ ฉันจะไปโทรศัพท์หน่อย กลับมาค่อยหารือกันอีกที”

“ได้ คุณไปเถอะ”

เวินเหลียงเดินไปตรงพื้นที่ว่างไม่มีคนของสตูดิโอ ก่อนจะล้วงโทรศัพท์ออกมาต่อสายหาฟู่เจิง

ไม่นานเบอร์ที่โทรออกก็รับสาย

ปลายสายมีเสียงของชายหนุ่มแสนเคร่งขรึมแว่วดังขึ้นมา “ฮัลโหล”

“ฉันเอง เวินเหลียง”

“มีเรื่องอะไรเหรอ?”

“ประธานฟู่ คุณตอบตกลงให้คุณฉู่พาช่างหน้าช่างผมมาเองเหรอ?”

ฟู่เจิงที่อยู่ปลายสายชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “อืม ทำไมเหรอ?”

“ฉันคอนเฟิร์มรายละเอียดแผนการถ่ายทำในวันนี้กับช่างแต่งหน้าและช่างภาพไปแล้ว การแต่งหน้าและทรงผมของเธอไม่ตรงกับแผนการถ่ายทำในวันนี้เลย แต่เธอยังยืนกรานว่าจะไม่เปลี่ยน แถมยังบีบว่าจะยุติการร่วมงานอีก กลัวก็แต่จะส่งผลกระทบกับผลการนำเสนอในท้ายที่สุดของโฆษณา”

เวินเหลียงพูดจบ ฟู่เจิงเงียบไปเลย

เวินเหลียงตั้งความหวังเอาไว้ว่า ฟู่เจิงจะริบอิสภาพในด้านการแต่งหน้าทำผมที่เขาให้ฉู่ซืออี๋กลับคืนมา

ก่อนหน้าที่ฉู่ซืออี๋จะกลับมา เวินหลียงคิดมาตลอดว่าในด้านการทำงานฟู่เจิงเป็นผู้ชายที่รอบคอบจริงจังและมีเหตุผล

เหมือนกับที่เธอทำพลาดในบริษัทและในการทำงาน ฟู่เจิงไม่เคยปกป้องหรือแสดงความสงสารใด ๆ

ตอนที่ก้าวเข้ามาในบริษัท เธอยังเคยถูกฟู่เจิงเรียกชื่อกับปาก กล่าวโทษและวิจารณ์ต่อหน้าพนักงานทุกคนในการประชุม อายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี ตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าขายหน้า

แต่หลังจากฉู่ซืออี๋กลับมา ทุกอย่างก็ราวกับเปลี่ยนไป ที่แท้ในเรื่องงานฟู่เจิงเป็นคนที่ทำทุกอย่างเพื่อความรู้สึกส่วนตัวได้เช่นกัน เพียงแต่คนที่เขาทำทุกอย่างเพื่อความรู้สึกส่วนตัวให้นั้นไม่ใช่เธอ แต่เป็นฉู่ซืออี๋

มีแต่จะทำให้เวินเหลียงผิดหวังเป็นอย่างมาก ได้ยินเพียงฟู่เจิงพูดว่า “เข้าใจผิดอะไรกันหรือเปล่า?”

แต่ไม่ได้ยินเสียงของเวินเหลียง ฟู่เจิงพูดต่ออีกว่า “ซืออี๋ไม่ใช่คนแบบนั้น ถ้ายุติสัญญาไปแล้วจะมีผลดีอะไรต่อซืออี๋บ้าง?”

เวินเหลียงถอนหายใจ “ไม่ได้เข้าใจผิด ฉันแจ้งกับพวกเธอแล้ว พวกเธอยืนยันว่าจะไม่เปลี่ยน”

ฟู่เจิงไม่ตอบมิหนำซ้ำยังถามกลับ “ฉันยังไม่ได้ถามเธอเลย ทำไมถึงยกเลิกการถ่ายทำที่นัดเอาไว้เมื่อวาน แถมยังไม่แจ้งซืออี๋อีก?”

เวินเหลียงหายใจติดขัด

ฟู่เจิงไม่มีวันเชื่อเธออยู่แล้ว

“หืม?” ฟู่เจิงคิดว่าที่เวินเหลียงเงียบไปเพราะรู้สึกผิด “เวินเหลียง ฉันผิดหวังในตัวเธอมาก ๆ เมื่อวานซืออี๋ไม่ได้ว่าเธอเลยสักคำ กลับกันยังแก้ตัวแทนเธออีกต่างหาก แล้วเธอล่ะ?”

คำพูดของฟู่เจิงเข้าหูไปทุกคำ

เวินเหลียงเย็นวาบไปทั่วทั้งตัว

นิ้วมือข้างที่ถือโทรศัพท์อยู่ของเธอสั่นเครือ กลั้นหายใจเอาไว้อย่างอดไม่ได้ ในหัวว่างเปล่า

ในปากของเวินเหลียงสัมผัสถึงรสขม ริมฝีปากสั่นเครือเบา ๆ พูดอะไรไม่ออก

เธอเหมือนกับทหารหนีทัพคนหนึ่ง ไม่กล้าฟังคำพูดประโยคถัดไปของฟู่เจิงอีก เธอกดวางสายอย่างกระวนกระวาย

“ตู๊ด ๆ ๆ...”

นิ้วทั้งห้าสั่นหงึก จับโทรศัพท์เอาไว้ไม่อยู่ พอไม่ระวังโทรศัพท์ก็ร่วงหล่นลงไปบนพื้นเลย

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status