All Chapters of ทาสสาวพราวพิลาส: Chapter 451 - Chapter 460

625 Chapters

บทที่ 451

เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นคนที่มีไหวพริบมาก ทันทีที่ลูกศรพุ่งออกมา เขาก็สังเกตเห็นแล้ว เขาตอบสนองอย่างรวดเร็ว หันกลับมาแล้วดึงดาบออกมาจากเอวเพื่อสกัดกั้นทันทีแต่ทว่า ก่อนที่เขาจะหันกลับมา หลินซวงเอ๋อร์ตอบสนองเร็วกว่า เข้าไปขวางอยู่ข้างหน้าเขาเหมือนครั้งที่แล้ว และพยายามใช้ร่างกายสกัดกั้นลูกธนูที่กำลังพุ่งเข้ามาในช่วงเวลาคับขันนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงไม่ได้นึกถึงอย่างอื่นเลย เขาเหยียดแขนออกไป โอบหลินซวงเอ๋อร์เอาไว้แล้วหมุนตัวไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว ลูกธนูดอกนั้นจึงเฉียดไหล่เขาไปพอดีหลังจากถูกโจมตีอย่างรุนแรงแล้ว เยี่ยเป่ยเฉิงมองไปตามทิศทางที่ลูกศรยิงมาก็มองเห็นร่างร่างหนึ่งอย่างรวดเร็วเยี่ยเป่ยเฉิงเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ดาบอันแหลมคมที่อยู่ในมือก็พุ่งออกไป จากนั้นก็ได้ยินเสียงร้องโอดโอย ร่างนั้นก็ถูกดาบอันแหลมคมแทงทะลุ ทั้งคนทั้งดาบถูกตอกเข้ากับภูเขาจำลองทันทีสีหน้าของหลินซวงเอ๋อร์ซีดเผือด หัวใจของนางเต้นแรงมาก จากนั้นก็ได้ยินเสียงแทบจะโกรธสุดขีดของเยี่ยเป่ยเฉิง“ หลินซวงเอ๋อร์! ใครใช้ให้เจ้ามาขวางหน้าข้า?”น้ำเสียงที่ต่ำทุ้มของเขาน่ากลัวมาก ปะปนกับความโกรธที่เหมือนฟ้าร้อง ดวงตาที่เมินเฉยเย็น
Read more

บทที่ 452

แต่ทว่า เขาคิดไม่ถึงว่า ทั่วป๋าจิ่นจะกระตือรือร้นที่จะฆ่าเขาขนาดนี้!เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าวเยาะเย้ยว่า "ฝ่าบาทมาได้เหมาะเจาะมาก ฝ่าบาทไม่ต้องเป็นห่วง ข้าไม่ได้เป็นอะไร"ทั่วป๋าจิ่นกล่าวว่า: " ท่านลุงไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว มือสังหารคนนี้น่าจะหนอนบ่อนไส้ของแว่นแคว้นศัตรู พรางตัวอยู่ในวังมาหลายเดือนแล้ว ในที่สุดก็ปรากฏตัวขึ้นในวันนี้..."ในขณะที่พูด องครักษ์ก็นำตัวผู้ลอบสังหารมาที่ตรงหน้าพวกเขาดาบที่เยี่ยเป่ยเฉิงเพิ่งจะขว้างไปไม่ได้โจมตีส่วนสำคัญของเขา แต่เฉียดหัวใจของเขาไปหนึ่งนิ้วดังนั้น เมื่อองครักษ์จับตัวผู้ลอบสังหารมาที่ตรงหน้าพวกเขา เขายังพอมีลมหายใจอยู่ทั่วป๋าจิ่นกล่าวว่า: " ท่านลุงไม่ต้องกังวล มือสังหารคนนี้เหิมเกริมมาก ข้าจะพาเขาไปที่กรมราชทัณฑ์เพื่อเค้นคำสารภาพ ทำให้เขาเปิดเผยคนที่อยู่เบื้องหลังออกมา พอถึงตอนนั้น ข้าจะต้องให้คำอธิบายแก่ท่านลุงได้อย่างแน่นอน! "หลินซวงเอ๋อร์กล่าวว่า: "เหตุใดถึงไม่ถามตอนนี้ล่ะ? เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก ถ้าเขาตายในมือของท่านจะทำอย่างไร? ถ้าอย่างนั้นก็จะคงจะไม่มีพยานหลักฐานแล้วน่ะสิ?"สุดท้าย หลินซวงเอ๋อร์ก็กล่าวเสริมอีกว่า: "ถ้าจะถาม ก็ให้ถามตอ
Read more

บทที่ 453

ซี่โครงของเหลิ่งเยวี่ยหักจนหมด นอนอยู่บนพื้นไม่สามารถขยับได้ทั่วป๋าจิ่นกำหมัดแน่น จนมีเสียงดังกรอบแกรบทั่วป๋าจิ่นคิดไม่ถึงว่า เยี่ยเป่ยเฉิงจะกล้าทำร้ายนางกำนัลส่วนตัวของเขาจนพิการไปต่อหน้าต่อตา! ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเกินไปแล้ว!เขายังไม่ทันได้ซักไซ้เอาความ เยี่ยเป่ยเฉิงก็เริ่มพูดก่อน ด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า: " ปกติแล้วฝ่าบาทอบรมสี่งสอนทาสรับใช้เช่นนี้หรือ? โอหังอวดดี ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง! หากมีครั้งต่อไป ข้าจะไม่หักแค่เพียงซี่โครงของนางแน่! "ทั่วป๋าจิ่นอยากจะสับเยี่ยเป่ยเฉิงออกเป็นชิ้นๆใจจะขาด! แต่ไม่กล้าขัดแย้งหมางใจกับเขาซึ่งๆหน้า จึงทำได้แค่กระตุกมุมปากอย่างแข็งทื่อ กัดฟันแล้วกล่าวว่า: " ท่านลุงสั่งสอนถูกต้องแล้ว ข้ากลับไปแล้วจะอบรมสั่งสอนให้ดี ท่านลุงจะได้ไม่ต้องลำบาก! "เยี่ยเป่ยเฉิงหันหลังกลับ และกำลังจะพาหลินซวงเอ๋อร์จากไป คิดไม่ถึงว่า เสียงของทั่วป๋าจิ่นจะดังมาจากด้านหลังอีกครั้ง: " ข้าว่าบาดแผลตรงไหล่ของท่านลุงหนักเอาการอยู่นะ หวังว่าท่านลุงจะรักษาเนื้อรักษาตัวของตนเองเป็นอย่างดี... "เยี่ยเป่ยเฉิงหยุดเดิน จากนั้นก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่มาจากบาดแผลบนไหล่หลินซวงเอ
Read more

บทที่ 454

ทั่วป๋าจิ่นหัวเราะ: "คนนับร้อยฆ่าตัวตายหมดเลยหรือ? เจ้าคิดว่าคนอื่นจะไร้สมองเหมือนเจ้าหรือ?"องครักษ์ลับคุกเข่าลงบนพื้นพร้อมกับเสียงดัง "พลั่ก" และมีสีหน้าซีดเผือดทั่วป๋าจิ่นพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งว่า: "เห็นได้ชัดว่านายอำเภอคนนั้นพยายามปกปิด เพราะกลัวว่าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตขึ้นมา ดังนั้นจึงเผาสังหาร ราษฎรที่ติดเชื้อทั้งหมด... "องครักษ์ลับ: "ข้าน้อยเข้าใจแล้ว!"……บรรยากาศในรถม้าอึมครึมมาก ทั้งสองคนต่างก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรพอปิดม่านรถม้า ก็บดบังแสงจากภายนอก ทำให้ภายในรถม้ามืดเล็กน้อยหลินซวงเอ๋อร์กำลังนั่งอยู่ในรถม้า เหลือบมองเยี่ยเป่ยเฉิงที่อยู่ข้างๆเป็นครั้งคราวเยี่ยเป่ยเฉิงกำลังนั่งอยู่ริมหน้าต่าง จากมุมของหลินซวงเอ๋อร์ จะมองเห็นแค่ใบหน้าด้านข้างที่เคร่งขรึมของเขาเท่้านั้นดูเหมือนเขาจะยังโกรธอยู่ จึงหลับตาลงเล็กน้อยและไม่ยอมมองนาง ริมฝีปากอันเรียวบางเม้มจนเป็นเส้น คิ้วที่โฉบเฉี่ยวขมวดกันเล็กน้อย เค้าโครงหน้าที่คมเข้ม บุคลิกที่โดดเดี่ยวเย็นชาทำให้คนรู้สึกยำเกรง ในขณะที่ทำให้ผู้คนหวาดเกรงโดยไม่มีเหตุผลก็สามารถทำให้ผู้คนไม่อาจละสายตาไปจากเขาได้เช่นกันในที่สุดหลินซวงเอ๋อร
Read more

บทที่ 455

นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกว่าเวลานั้นผ่านไปอย่างยากลำบากในที่สุด ประตูที่อยู่ด้านหลังก็เปิดออก แพทย์เดินออกมาด้วยสีหน้าที่หนักใจ“ท่านหมอ ลูกชายของข้าเป็นอย่างไรบ้าง?” บนใบหน้าของกงชิงเยวี่ยมีคราบน้ำตาที่ยังไม่แห้ง ถ้าไม่ใช่เพราะท่านป้าจ้าวช่วยพยุงนางไว้ตลอดเวลา แม้แต่จะยืนให้มั่นคงก็ทำไม่ได้แพทย์ส่ายหัวถอนหายใจแล้วกล่าวว่า: " ท่านอ๋องโดนพิษประหลาด บาดแผลที่ไหล่กลายเป็นสีดำ พิษนี้รุนแรงมาก ดูเหมือนจะเป็นพิษที่พบเห็นได้เฉพาะหนานเจียงเท่านั้น ถ้าหายาแก้พิษ ไม่ได้ ภายในสามวัน พิษก็จะเข้าสู่ไขกระดูก แม้ว่าแพทย์หัวถัวจะยังมีชีวิตอยู่ ก็ไม่อาจช่วยเขาได้… "จำไม่ได้ว่าเป็นแพทย์คนที่เท่าไหร่แล้วที่พูดแบบนี้สีหน้าของกงชิงเยวี่ยซีดเผือด ร่างกายโซเซกลับไปสองสามก้าวท่านป้าจ้าวรีบพยุงนางเอาไว้อย่างรวดเร็ว และปลอบโยนทั้งน้ำตาว่า: " นายหญิง ต้องดูแลตนเองให้ดีๆ บางทีอาจจะมีวิธีอื่นก็ได้... "กงชิงเยวี่ยกล่าวอย่างโศรกเศร้าว่า: "เชิญแพทย์มานับไม่ถ้วนแล้ว แต่พวกเขาก็พูดเป็นเสียงเดียวกัน... แพทย์เสิ่นไม่ได้อยู่ในวัง ลูกชายของข้าอยู่ได้แค่เพียงสามวันเท่านั้น เขาจะรอได้อย่างไร?"
Read more

บทที่ 456

หลินซวงเอ๋อร์กล่าวพร้อมสะอื้นไห้ว่า "แต่ข้าได้ยินมาก่อนหน้านี้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลก ล้วนส่งเสริมและยับยั้งกัน ไม่ว่าจะเป็นพิษชนิดใด ล้วนมียาที่สามารถแก้พิษได้... "แพทย์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็นึกถึงอะไรบางอย่าง จึงพูดกับหลินซวงเอ๋อร์ว่า: " สิ่งที่แม่นางพูด ทำให้ข้านึกอะไรออก ว่ากันว่า บนโลกใบนี้มีงูประเภทหนึ่ง เรียกว่างูทองดำหางแดง ถ้าสามารถจับงูตัวนี้ได้ ให้เอาดีงูออกมาลอกหนังงูออกแล้ว แล้วนำมาต้มกับเลือดงู สามารถแก้สารพัดพิษ และรักษาโรคได้ทุกชนิด "หลินซวงเอ๋อร์ค่อยๆหายใจถี่ขึ้น: "ถ้าเป็นเช่นนี้ ก็มีวิธีแก้พิษให้สวามีของข้าแล้วน่ะสิ?"“เพียงแต่ว่า…” แพทย์ขมวดคิ้วเล็กน้อย หัวใจของหลินซวงเอ๋อร์ก็เต้นแรงทันที“เพียงแต่ว่าอะไร?” หลินซวงเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะถามแพทย์กล่าวต่อว่า " งูนั้นดุร้ายสุดขีด และมีพิษร้ายแรงมาก ถ้าไม่ทันได้ระวังตัวแล้วถูกมันกัด จะต้องตายอย่างแน่นอน... ยิ่งไปกว่านั้น นิสัยของงูชนิดนั้นยากที่จะคาดเดาได้ และจับยากมาก แม้แต่ร้านขายยาทั่วทั้งเมืองฉางอาน ตลอดครึ่งชีวิตของข้า ไม่เคยเห็นงูชนิดนี้มาก่อนเลย... "“ข้าได้ยินมาว่า งูตัวนี้มีสีทอง สีทองอันแวววาวนั้น
Read more

บทที่ 457

งูทองดำหางแดงหาได้ยากมากในเมือง และจะต้องไปหาในภูเขาลึกที่อยู่นอกเมืองหลินซวงเอ๋อร์ขี่ม้า มุ่งไปทางเหนือของเมือง นางจำได้ว่ามีภูเขาป่าทางตอนเหนือของเมืองอยู่ลูกหนึ่ง ป่าเต็มไปด้วยหนาม เปียกชื้นเดินลำบาก มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ย่างกรายเข้าไปแต่พวกเขาไม่รู้ว่า งูทองดำหางแดง ชอบสิ่งแวดล้อมที่เปียกชื้นที่สุด และชอบหลบอยู่ใต้หนามการเดินทางในครั้งนี้ หลินซวงเอ๋อร์ได้เตรียมตัวมาอย่างดี นางรวบผมอันยาวสลวยขึ้น แล้วเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าธรรมดา ซึ่งเป็นเสื้อผ้าที่นางเคยใส่ตอนทำงานเบ็ดเตล็ดทั่วไป แม้ว่าเนื้อผ้าจะหยาบ และไม่พอดีตัวเล็กน้อย แต่สามารถทำให้ตนเองเดินเข้าป่าหนามได้สะดวกมาก นางพกยาไปอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นยาทา ยากิน เอาไปทั้งหมดดวงอาทิตย์ส่องแสงเจิดจ้า หลินซวงเอ๋อร์สวมหมวกไม้ไผ่บนศีรษะ ไม่เพียงแต่ปกปิดแสงแดดเท่านั้นยังปกปิดใบหน้าอีกด้วย ดูไปแล้วช่ำชองเล็กน้อยลูกม้าวิ่งเร็วมาก หลินซวงเอ๋อร์จับสายบังเหียนไว้แน่น ไม่กล้าที่ผ่อนคลายเลยแม้แต่เพียงครู่เดียวนางจำเป็นต้องไปหางูทองดำหางแดง ก่อนพระอาทิตย์ตกดินให้ได้ มิฉะนั้น ทันทีที่พระอาทิตย์ตกดิน ตามนิสัยของงูทองดำหางแดงแล้ว พวกมัน
Read more

บทที่ 458

หลินซวงเอ๋อร์มีกำลังใจขึ้นมาทันที ค่อยๆนั่งยองลงทีละน้อย กลั้นลมหายใจ สายตาจับจ้องไปยังทิศทางของเสียงครู่หนึ่ง...เสียงค่อยๆเข้ามาใกล้ หัวใจของหลินซวงเอ๋อร์เต้นเร็วขึ้น และมือที่ถือเคียวไว้แน่นสั่นเล็กน้อยนางกลัวมาก ตั้งแต่ต้นจนจบ กลัวลึกจนไปถึงกระดูก...ทันใดนั้น งูเหลือมตัวใหญ่เท่าแขนตัวหนึ่งก็โผล่ออกมาจากป่าหนาม...“อร๊าย!!!” หลินซวงเอ๋อร์ตกใจมากจนล้มลงกับพื้น ร่างกายสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้งูตัวนั้นพ่นลิ้นออกมา ยกหัวขึ้นสูง และส่งเสียงอันแหลมคมออกมาจากในปาก เมื่อมันอ้าปาก ก็เผยให้เห็นเขี้ยวอันแหลมคมทั้งสี่เล่มของมันภาพเหตุการณ์ที่ถูกงูกัดในวัยเด็กผุดขึ้นมาในสมองอีกครั้ง หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกหนาวซู่ตั้งแต่ฝ่าเท้าไปจนทั่วร่างกาย แม้แต่ฝ่ามือก็มีเหงื่อออกหลินซวงเอ๋อร์พยายามอย่างเต็มที่จะระงับความหวาดกลัวที่มีต่องู และรวบรวมความกล้าที่จะสบตามัน“ก็แค่งูเหลือมตัวเดียวเท่านั้น มันไม่เป็นพิษ และไม่กัดคน…” หลินซวงเอ๋อร์ปลอบใจตนเองอยู่ในใจอย่างต่อเนื่อง แต่คำพูดที่พูดออกมากลับแฝงไปด้วยความสั่นเครือเหงื่อเย็นไหลออกมาบนหน้าผาก และหยดลงมาตามแก้มหลินซวงเอ๋อร์พบว่าตนเองไม่อาจควบคุม
Read more

บทที่ 459

ฝนตกหนักมากป่าเริ่มเปียกชื้นและหนาวเย็นมากยิ่งขึ้นใบไม้ที่ประปรายเหนือศีรษะไม่สามารถกำบังฝนได้อีก น้ำฝนที่สะสมบนใบไม้ก็ไหลลงมา และรดไปที่บนตัวของหลินซวงเอ๋อร์หลินซวงเอ๋อร์ไม่สามารถหาที่ซ่อนได้ ร่างที่ผอมบางขดอยู่ในโพรงไม้ที่ทรุดโทรมโพรงต้นไม้มีลมพัดเข้ามาทั่วทุกสารทิศ ต้านทานฝนที่กระหน่ำลงมาไม่ได้เลยแม้แต่น้อยมีฟ้าแลบฟ้าร้องเหนือศีรษะ ฝนตกลงมาหนักมาก ทำให้นางไม่มีทางหลบเลี่ยงได้ จึงกอดเข่านั่งยองๆอยู่ใต้โพรงไม้ ทำให้นางดูโดดเดี่ยวเดียวดาย และน่าสงสารไร้ที่พึ่งพิงมากขึ้นเมื่อมองดูภาพเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า นางหวนนึกถึงค่ำคืนที่ฝนตกหนักอย่างเหม่อลอยคืนที่พี่ชายกกระแสน้ำพัดพาไปในคืนนั้น ก็มีฝนตกหนักมาจากบนท้องฟ้า และมีฟ้าร้องฟ้าผ่าเหมือนกับวันนี้ ฝนซัดสาดลงมาเหนือศีรษะ หลังคาที่ทรุดโทรมไม่สามารถต้านทานได้ฝนที่ตกหนักได้ เม็ดฝนค่อยๆไหลมารวมกัน ไหลเข้ามาตามรูที่ทรุดโทรมของบ้าน หยดลงมาบนร่างกายของนางทีละหยด...ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา นางก็กลัวค่ำคืนที่ฝนตก กลัวฝนที่ตกหนักเช่นนี้ และกลัวเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าที่ดังกึกก้องเช่นนี้หลินซวงเอ๋อร์ขดตัว ก้มศีรษะลง เขาคางวางไว้บนเข่า ฝนตกลงม
Read more

บทที่ 460

นางจับมันเอาไว้แน่นไม่ยอมคลายมือ งูก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้นาง อ้ากว้างปากกัดลงบนหลังมือของนาง ไม่ยอมปล่อยพิษแทรกซึมเข้าไปในกระแสเลือดอย่างรวดเร็ว ทำให้หลินซวงเอ๋อร์ก็รู้สึกเวียนศีรษะทันที นางกลัวว่าตนเองจะทนไม่ได้นาน จึงโยนงูใส่ลงในกระบุงที่อยู่บนหลังงูที่ถูกโยนลงไปในกระบุงยังคงกัดหลังมือของนางอยู่ หลินซวงเอ๋อร์ขมวดคิ้ว จากนั้นก็ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ดึงมือกลับอย่างรวดเร็ว จนทำให้เนื้อหย่อมเล็กๆหลุดออกไปจากหลังมือถึงแม้ว่ามันจะกัดไม่ยอมปล่อย แต่ใช่ว่าจะอยู่ภายใต้การควบคุมของมันในขณะที่บาดแผลที่หลังมือเปิดออก เลือดก็เป็นสีดำ และไหลออกมาจากบาดแผลอย่างต่อเนื่องหลินซวงเอ๋อร์ใช้ของปิดกระบุงเอาไว้อย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้งูเลื้อยหนีออกมาจากด้านในนางเริ่มวิงเวียนศีรษะมากขึ้น พร้อมด้วยอาการคลื่นไส้อาเจียน หลินซวงเอ๋อร์หยิบยาแก้พิษที่แพทย์มอบให้ออกมาจากในอ้อมแขน แล้วกลืนมันลงไปภายในรวดเดียว จากนั้นก็ทายาแก้พิษลงไปบนบาดแผลนางนั่งยองๆอยู่บนพื้น บาดแผลยังคงเจ็บมากอยู่ อาการวิงเวียนศีรษะไม่ได้ทุเลาลงเลยแม้แต่น้อย แต่กลับรุนแรงมากยิ่งขึ้นอาจจะเป็นเพราะว่างูตัวนั้นกัดลึกจนเกินไป พิษจึ
Read more
PREV
1
...
4445464748
...
63
DMCA.com Protection Status