Share

บทที่ 458

Author: พิณเคล้าสายฝน
last update Last Updated: 2024-10-08 18:00:00
หลินซวงเอ๋อร์มีกำลังใจขึ้นมาทันที ค่อยๆนั่งยองลงทีละน้อย กลั้นลมหายใจ สายตาจับจ้องไปยังทิศทางของเสียงครู่หนึ่ง...

เสียงค่อยๆเข้ามาใกล้ หัวใจของหลินซวงเอ๋อร์เต้นเร็วขึ้น และมือที่ถือเคียวไว้แน่นสั่นเล็กน้อย

นางกลัวมาก ตั้งแต่ต้นจนจบ กลัวลึกจนไปถึงกระดูก...

ทันใดนั้น งูเหลือมตัวใหญ่เท่าแขนตัวหนึ่งก็โผล่ออกมาจากป่าหนาม...

“อร๊าย!!!” หลินซวงเอ๋อร์ตกใจมากจนล้มลงกับพื้น ร่างกายสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้

งูตัวนั้นพ่นลิ้นออกมา ยกหัวขึ้นสูง และส่งเสียงอันแหลมคมออกมาจากในปาก เมื่อมันอ้าปาก ก็เผยให้เห็นเขี้ยวอันแหลมคมทั้งสี่เล่มของมัน

ภาพเหตุการณ์ที่ถูกงูกัดในวัยเด็กผุดขึ้นมาในสมองอีกครั้ง หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกหนาวซู่ตั้งแต่ฝ่าเท้าไปจนทั่วร่างกาย แม้แต่ฝ่ามือก็มีเหงื่อออก

หลินซวงเอ๋อร์พยายามอย่างเต็มที่จะระงับความหวาดกลัวที่มีต่องู และรวบรวมความกล้าที่จะสบตามัน

“ก็แค่งูเหลือมตัวเดียวเท่านั้น มันไม่เป็นพิษ และไม่กัดคน…” หลินซวงเอ๋อร์ปลอบใจตนเองอยู่ในใจอย่างต่อเนื่อง แต่คำพูดที่พูดออกมากลับแฝงไปด้วยความสั่นเครือ

เหงื่อเย็นไหลออกมาบนหน้าผาก และหยดลงมาตามแก้ม

หลินซวงเอ๋อร์พบว่าตนเองไม่อาจควบคุม
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Babymind Bee
อัพเดตน้อยมาก
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 459

    ฝนตกหนักมากป่าเริ่มเปียกชื้นและหนาวเย็นมากยิ่งขึ้นใบไม้ที่ประปรายเหนือศีรษะไม่สามารถกำบังฝนได้อีก น้ำฝนที่สะสมบนใบไม้ก็ไหลลงมา และรดไปที่บนตัวของหลินซวงเอ๋อร์หลินซวงเอ๋อร์ไม่สามารถหาที่ซ่อนได้ ร่างที่ผอมบางขดอยู่ในโพรงไม้ที่ทรุดโทรมโพรงต้นไม้มีลมพัดเข้ามาทั่วทุกสารทิศ ต้านทานฝนที่กระหน่ำลงมาไม่ได้เลยแม้แต่น้อยมีฟ้าแลบฟ้าร้องเหนือศีรษะ ฝนตกลงมาหนักมาก ทำให้นางไม่มีทางหลบเลี่ยงได้ จึงกอดเข่านั่งยองๆอยู่ใต้โพรงไม้ ทำให้นางดูโดดเดี่ยวเดียวดาย และน่าสงสารไร้ที่พึ่งพิงมากขึ้นเมื่อมองดูภาพเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า นางหวนนึกถึงค่ำคืนที่ฝนตกหนักอย่างเหม่อลอยคืนที่พี่ชายกกระแสน้ำพัดพาไปในคืนนั้น ก็มีฝนตกหนักมาจากบนท้องฟ้า และมีฟ้าร้องฟ้าผ่าเหมือนกับวันนี้ ฝนซัดสาดลงมาเหนือศีรษะ หลังคาที่ทรุดโทรมไม่สามารถต้านทานได้ฝนที่ตกหนักได้ เม็ดฝนค่อยๆไหลมารวมกัน ไหลเข้ามาตามรูที่ทรุดโทรมของบ้าน หยดลงมาบนร่างกายของนางทีละหยด...ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา นางก็กลัวค่ำคืนที่ฝนตก กลัวฝนที่ตกหนักเช่นนี้ และกลัวเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าที่ดังกึกก้องเช่นนี้หลินซวงเอ๋อร์ขดตัว ก้มศีรษะลง เขาคางวางไว้บนเข่า ฝนตกลงม

    Last Updated : 2024-10-09
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 460

    นางจับมันเอาไว้แน่นไม่ยอมคลายมือ งูก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้นาง อ้ากว้างปากกัดลงบนหลังมือของนาง ไม่ยอมปล่อยพิษแทรกซึมเข้าไปในกระแสเลือดอย่างรวดเร็ว ทำให้หลินซวงเอ๋อร์ก็รู้สึกเวียนศีรษะทันที นางกลัวว่าตนเองจะทนไม่ได้นาน จึงโยนงูใส่ลงในกระบุงที่อยู่บนหลังงูที่ถูกโยนลงไปในกระบุงยังคงกัดหลังมือของนางอยู่ หลินซวงเอ๋อร์ขมวดคิ้ว จากนั้นก็ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ดึงมือกลับอย่างรวดเร็ว จนทำให้เนื้อหย่อมเล็กๆหลุดออกไปจากหลังมือถึงแม้ว่ามันจะกัดไม่ยอมปล่อย แต่ใช่ว่าจะอยู่ภายใต้การควบคุมของมันในขณะที่บาดแผลที่หลังมือเปิดออก เลือดก็เป็นสีดำ และไหลออกมาจากบาดแผลอย่างต่อเนื่องหลินซวงเอ๋อร์ใช้ของปิดกระบุงเอาไว้อย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้งูเลื้อยหนีออกมาจากด้านในนางเริ่มวิงเวียนศีรษะมากขึ้น พร้อมด้วยอาการคลื่นไส้อาเจียน หลินซวงเอ๋อร์หยิบยาแก้พิษที่แพทย์มอบให้ออกมาจากในอ้อมแขน แล้วกลืนมันลงไปภายในรวดเดียว จากนั้นก็ทายาแก้พิษลงไปบนบาดแผลนางนั่งยองๆอยู่บนพื้น บาดแผลยังคงเจ็บมากอยู่ อาการวิงเวียนศีรษะไม่ได้ทุเลาลงเลยแม้แต่น้อย แต่กลับรุนแรงมากยิ่งขึ้นอาจจะเป็นเพราะว่างูตัวนั้นกัดลึกจนเกินไป พิษจึ

    Last Updated : 2024-10-09
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 461

    จี๋เฟิงเร่งรีบเดินทาง ขี่ม้าพาหลินซวงเอ๋อร์ฝ่ายามวิกาลกลับมาถึงจวนหย่งอันเมื่อมาถึงหน้าจวน ไม่รอให้จี๋เฟิงได้หยุดก่อน หลินซวงเอ๋อร์พลันพลิกตัวลงจากหลังม้าในทันใดขณะเท้าเหยียบลงพื้น นางยืนไม่มั่น ร่างกายจึงเซล้มฟาดลงพื้นไปตงเหมยเห็นเข้าก็รีบวิ่งมาพยุง“ตายจริง พระชายา เนื้อตัวไฉนมีบาดแผลมากมายเช่นนี้เจ้าคะ?” ตงเหมยเพ่งดูสภาพของหลินซวงเอ๋อร์ เห็นนางสะบักสะบอมไปเกือบทั้งตัว ขากางเกงยังเปื้อนด้วยโลหิต ก็ให้รู้สึกตกใจยิ่งหลินซวงเอ๋อร์ไม่สนใจความเจ็บตามร่างกาย ภายใต้การประคองของตงเหมย นางฝืนยืนมั่นคง เดินไปปลดเอาชะลอมใส่งูดำหางไหม้ที่อยู่หลังม้า พลางยื่นส่งให้ตงเหมยและกล่าวต่อ “งูดำหางไหม้ข้าหาพบแล้ว เจ้ารีบนำไปช่วยท่านอ๋อง...”ขณะที่พูด นางรู้สึกอ่อนแรงเต็มที ร่างกายฝืนทนจนถึงขีดสุดแล้วตงเหมยรีบประคองร่างโงนเงนของหลินซวงเอ๋อร์ให้ยืนมั่นคงไว้ พร้อมเรียกเสวียนอู่ให้ช่วยเอางูเข้าไปในจวนเสวียนอู่รับเอาชะลอมใส่งูไป แล้วรีบเดินเข้าด้านในตงเหมยกล่าว “ท่านบาดเจ็บไม่น้อย บ่าวจะตามหมอมาดูก่อนนะเจ้าคะ”หลินซวงเอ๋อร์รีบจับมือตงเหมยไว้ กล่าวด้วยความร้อนใจ “ท่านอ๋องเป็นอย่างไรบ้าง รู้สึ

    Last Updated : 2024-10-09
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 462

    หลินซวงเอ๋อร์เห็นการเปลี่ยนแปลงเบื้องหน้าจนทำให้ตะลึงอยู่กับที่ กว่าจะตั้งสติกลับมา นางรีบโผเข้าไปพร้อมเอามือตะกุยดิน พยายามจะนำร่างพี่ชายออกจากใต้พื้นดินให้จงได้“พี่ชาย ไม่...ไม่นะ ท่านออกมาเดี๋ยวนี้ ข้าบอกให้ออกมา...”“ไม่ ต้องไม่เป็นเช่นนี้ ท่านต้องไม่เป็นอะไร พี่ชาย พี่ชายรีบออกมาเร็วๆ ออกมาเร็วเข้าเถิด...”“อย่าได้ทอดทิ้งซวงเอ๋อร์ไป พี่ชาย ไม่นะ...ไม่จริง...”หลินซวงเอ๋อร์รร่ำไห้ปานใจจะขาด นิ้วมือก็ตะกุยจนมีเลือดซิบๆ ตามด้วยความปวดใจแสนสาหัส แต่นางก็มิได้นำพา ยังคงค้นหาต่อไปไม่หยุดทันใดนั้น จินตภาพก็เปลี่ยนไปอีกนางกลับไปยังกระท่อมไม้ซอมซ่อในอดีตหลังนั้น ที่ๆ เคยเป็นบ้านอันอบอุ่น พร้อมหน้าท่านพ่อท่านแม่ และยังมีพี่ชายที่รักนางที่สุดแต่บัดนี้ เหลือนางเพียงคนเดียวอยู่ในมุมบ้านโดดเดี่ยวอ้างว้าง ไร้ผู้เหลียวแลภายนอกเกิดเสียงฟ้าร้องคำราม ตามด้วยฝนตกหนัก หยาดฝนไหลมาตามหลังคาที่ปริขาด ทำให้นางแทบจะจมอยู่ในสายฝนทั้งตัวชั่วขณะนั้น นางเกิดความรู้สึกว่าโลกนี้กำลังจะทอดทิ้งนางไป...ต่อมา ก็มีเสียงคนย่ำสายฝนมาถึงข้างกายนาง ร่างสูงใหญ่นั้นสามารถบดบังร่างเล็กของนางไว้จนมิดหลิน

    Last Updated : 2024-10-09
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 463

    ใบหน้าหลิงซวงเอ๋อร์ยังเต็มไปด้วยคราบน้ำตา ดวงตาผ่านการร้องไห้จนบวมปูดตงเหมยเห็นเข้าก็ปวดใจยิ่ง พลางกล่าวปลอบใจ “วางใจเถิดเจ้าค่ะ มีแม่นางเจียงอยู่ทั้งคน ท่านอ๋องจะต้องปลอดภัย”“แม่นางเจียง?” หลินซวงเอ๋อร์เพิ่งจะนึกได้ ก่อนหมดสติไป ทั้งตงเหมยและเสวียนอู่ได้เอ่ยถึงชื่อนี้มาแล้วเป็นธิดากำพร้าของแม่ทัพฝ่ายซ้าย ติดตามท่านอ๋องมานานปี มีวิชาแพทย์ล้ำเลิศ...“ตงเหมย ข้าหมดสติไปนานเท่าใด? มีความรู้สึกคล้ายนอนหลับไปนานมาก และข้ายังฝันสะเปะสะปะ เห็นพี่ชายที่ตายไปแล้ว พี่ฉีก็ตายไป สามีข้าก็ตายไป...”น้ำเสียงหลินซวงเอ๋อร์สั่นเครืออยู่ตลอดเวลา ใบหน้ายิ่งดูซีดเซียวไปอีกนานเต็มทีที่นางไม่เคยฝันร้ายเช่นนี้ แม้ตอนนี้จะตื่นขึ้นมา แต่ยังมิวายรู้สึกใจหาย ในฝันเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง สลัดเท่าใดก็ไม่อาจหลุดพ้น ต่อให้ตื่นมาแล้ว นางยังมีความรู้สึกว่าตนได้ถูกโลกนี้ทอดทิ้งไปอยู่ดี...ตงเหมยโอบกอดนางไว้ พลางปลอบใจเสียงเบา “หมดเรื่องแล้ว ไม่มีเรื่องอันใดอีก เป็นเพียงความฝัน ฝันมักตรงข้ามกับความเป็นจริงเสมอ พี่ฉีของท่านไม่เป็นอะไร พิษของท่านอ๋องก็ได้ถอนแล้ว ทุกอย่างจะค่อยๆ ดีขึ้น...”หลินซวงเอ๋อร์พยายามยัน

    Last Updated : 2024-10-10
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 464

    หลินซวงเอ๋อร์รีบห้ามตงเหมยไว้ “ช่างเถิด รอหน่อยก็ได้ อย่ารบกวนแม่นางเจียงในการรักษาเลย”โม่อวิ๋นกลับไม่รับน้ำใจจากหลินซวงเอ๋อร์ นางยิ่งแสดงท่าทีโอหังมากขึ้นอีก พลางหัวเราะหยันและกล่าวต่อตงเหมย “ช่างเป็นสาวใช้ที่ปากคอเราะรายนัก เพราะเห็นตระกูลเจียงเราไม่เหลือใครหรือไร? สมัยก่อนท่านแม่ทัพของเราติดตามท่านอ๋องไปเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย มีความสัมพันธ์แทบตายแทนกันได้ บัดนี้คุณหนูก็มาอยู่กับท่านอ๋องหลายปี ความผูกพันที่มี ย่อมลึกซึ้งมากกว่าคนบางคน...”“ที่สำคัญ คุณหนูเรามีชาติตระกูลสูง เป็นธิดาของแม่ทัพใหญ่ ไม่เหมือนคนบางคน...” สายตาโม่อวิ๋นเหลือบไปทางหลินซวงเอ๋อร์โดยไม่ตั้งใจ แววตาเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งตงเหมยเดือดดาลเป็นอย่างมาก คิดจะโต้เถียงกับนางอีก พลันประตูห้องได้ถูกเปิดออกเห็นเจียงหว่านเดินมาจากด้านใน“ใครมาเอะอะอยู่แถวนี้ ข้าได้กำชับไว้แล้ว ระหว่างรักษาผู้ป่วย ห้ามรบกวนมิใช่รึ?”หลินซวงเอ๋อร์เหลียวมองไปตามเสียง พลันสบสายตาเข้ากับเจียงหว่านอย่างจังสองสายตาประสาน ต่างเพ่งพินิจกันและกันแววตาหลินซวงเอ๋อร์ปรากฏแววตกตะลึงเจียงหว่านแม้จะติดตามเยี่ยเป่ยเฉิงไปออกศึกเหนือใต้ ดูแลยามบาดเ

    Last Updated : 2024-10-10
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 465

    เจียงหว่านกล่าวเนิบๆ “ท่านอ๋องยังไม่ฟื้น เชิญรออยู่ข้างนอกก่อน รู้สึกตัวเมื่อใดจะบอกให้รู้”กล่าวจบ เจียงหว่านก็หันไปทางโม่อวิ๋น “เจ้าไปเอายาของท่านอ๋องมา”โม่อวิ๋นรับคำ พร้อมหันกายไปยังห้องครัว เพื่อนำยางูที่ต้มไว้เข้าไปในห้องหลินซวงเอ๋อร์กล่าว “ให้ข้าเอายาเข้าไปได้หรือไม่?”นางคิดถือโอกาสนี้ไปดูเยี่ยเฉิงเป่ย แม้เห็นเพียงแวบเดียวก็ยังดีโม่อวิ๋นหันไปทางอื่น จงใจถือชามยาเปลี่ยนทิศทางไป ไม่ให้หลินซวงเอ๋อร์ได้แตะ น้ำเสียงยังคงกล่าวด้วยความยโส “หากไม่เพราะคุณหนูเรามาทันเวลา ยาชามนี้ของท่านก็ใช่ว่าจะได้ใช้ประโยชน์ เวลาคุณหนูตรวจรักษาผู้ป่วย จะไม่ชอบให้ใครมายุ่มย่าม ท่านรออยู่ข้างนอกก็ดีแล้ว”หลินซวงเอ๋อร์เม้มปากไม่พูดจา นางเป็นคนไม่ชอบโต้ฝีปากกับใครมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้วขอเพียงเยี่ยเป่ยเฉิงปลอดภัยก็ดีแล้วตงเหมยเห็นหลินซวงเอ๋อร์ยังเดินกระเผลกอยู่ จึงได้กล่าวเตือน “พระชายา ท่านยังบาดเจ็บที่ขา เชิญกลับไปพักผ่อนจะดีกว่า บ่าวจะคอยเฝ้าอยู่ที่นี่ให้เอง ท่านอ๋องฟื้นมาเมื่อใด บ่าวจะรีบไปแจ้งทันที”หลินซวงเอ๋อร์เหยียดขานั่งอยู่ที่ขั้นบันได พลางกล่าว “ไม่ต้อง ข้าจะนั่งรออยู่ตรงนี้”นางต้อ

    Last Updated : 2024-10-10
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 466

    เจียงหว่านยิ้มเล็กน้อย “ข้าติดตามท่านอ๋องมานาน ย่อมรู้นิสัยท่านอ๋องดี ซ้ำยังได้ยินเสียงร่ำลือ ว่าท่านอ๋องได้แต่งงานกับแม่นางผู้หนึ่ง แสดงว่าให้ความสำคัญต่อนางมาก ตอนนี้ดูแล้ว คงเป็นแม่นางผู้นี้กระมัง?”เมื่อได้ยินดังนี้ กงชิงเยวี่ยก็ปรายตาไปยังหลินซวงเอ๋อร์ด้วยความไม่พอใจ พลางกล่าวตอบ “ลูกข้าเลอะเลือนนัก จู่ๆ ตัดสินใจกะทันหัน ปิดบังข้านำชื่อของสาวใช้ผู้นี้ไปใส่ในทะเบียนวงศ์ตระกูล...”ใบหน้าเจียงหว่านยังคงมีแต่รอยยิ้ม แต่ยิ่งดูก็ยิ่งเป็นการฝืนมากกว่า“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ แสดงว่าที่คนอื่นเล่าขานเป็นเรื่องจริง ข้ายังนึกว่าเป็นเพียงข่าวลือเสียอีก...”กงชิงเยวี่ยกล่าวตอบ “จะจริงหรือเท็จแล้วเป็นอย่างไร ตราบใดที่ข้ายังอยู่ จะไม่ยอมให้ลูกชายแต่งงานกับตัวกาลกิณีเช่นนี้”ใบหน้าหลินซวงเอ๋อร์ซีดลงในฉับพลันเจียงหว่านพูดเอาใจกงชิงเยวี่ยอีก “นายหญิงใยจึงกล่าวเช่นนี้ สำคัญคือพี่เป่ยเฉิงพึงพอใจ เรื่องของความรัก มิใช่สิ่งที่คนนอกจะควบคุมได้”กงชิงเยวี่ยกล่าวด้วยความเสียดาย “แต่ข้าว่า หากเยี่ยเอ๋อร์ได้แต่งงานกับเจ้า ถึงนับว่าเป็นบุญวาสนามากกว่า”เจียงหว่านหน้าแดงในฉับพลัน “นายหญิง ท่านกล่าวเรื่อ

    Last Updated : 2024-10-10

Latest chapter

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 655

    วันที่เจียงหว่านกำลังจะถูกเนรเทศ ในที่สุดเจียงเช่อก็มาหาถึงหน้าประตูเขาคุกเข่าเบื้องหน้าเยี่ยเป่ยเฉิง เว้าวอนขอเยี่ยเป่ยเฉิงปล่อยเจียงหว่านไปขณะที่เดินทางมา เขารับรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วเจียงหว่านลอบวางยาพระชายาเยี่ย ใช้ประชาชนที่ติดโรคทดลองยา เข่นฆ่าคนบริสุทธิ์ ผลาญชีวิตคนดุจผักดุจปลา นับเป็นอาชญากรรมอันชั่วร้ายที่สุด......แต่ไม่ว่าอย่างไร เจียงหว่านก็เป็นน้องสาวเขา เป็นคุณหนูหนึ่งเดียวของตระกูลเจียง เจียงเช่อมิอาจนั่งนิ่งดูดาย ปล่อยให้นางไปตายได้“ขอร้องท่านอ๋องไว้ชีวิตนางเถิด เป็นเพราะข้าตามใจนางจนเสียคน หากท่านอ๋องจะลงโทษ โปรดลงที่เจียงเช่อเถิดพะยะค่ะ”เมื่อเห็นเจียงเช่อ สายตาสิ้นหวังของเจียงหว่านพลันมีประกายความหวังขึ้น“พี่......ท่านพี่ ช่วยข้าด้วย ข้าไม่อยากไปแดนเถื่อน ข้าอยากกลับบ้าน ท่านพี่ช่วยข้าด้วย......”เจียงเช่อขมวดคิ้วเขม็งจ้องเจียงหว่าน สายตาแฝงเร้นด้วยแววเกยีดชังเข้าไส้เขารู้ว่าเจียงหว่านต้องโทษตาย ยามนี้แค่เนรเทศ ถือว่าเมตตามากแล้ว แต่เขาเองก็รู้ว่า สถานที่อย่างแดนเถื่อนนั้น มิใช่สถานที่ที่สตรีตัวคนเดียวจะไปได้ การเนรเทศนางไปที่นั่น เท่ากับส่งนางไปขุมนร

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 654

    “เลือดของนาง...”เจียงหว่านสีหน้าตกตะลึงตอนนั้น ตอนที่ฮุ่ยอี๋มอบยาถอนพิษใส่ในมือนาง นางเคยเอาทิ้งไว้หลายขวด เดิมทีคิดศึกษาส่วนผสมในนั้น ทว่าด้านในกลับมีส่วนผสมยาเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือเลือดมนุษย์...แรกเริ่ม นางคิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล! กระทั่งยามนี้นางถึงได้เชื่อความจริง ส่วนประกอบของยานั้น มีเพียงเลือดมนุษย์จริงๆ! ทั้งยังเป็นเลือดของหลินซวงเอ๋อร์! เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ในที่สุดนางก็เข้าใจ!มิน่า...ตอนนั้น นางใช้ยาปริมาณมาก แต่กลับไม่อาจทำให้หลินซวงเอ๋อร์ถึงตาย! ไม่คิดว่าเลือดของนางจะขจัดพิษในร่างนางโดยมองไม่เห็น...ฮุ่ยอี๋เอ่ย “เจ้ายังมีหน้าพูดว่าไม่ได้ฆ่าคนเป็นผักเป็นปลาอีก! เจียงหว่าน เจ้าลืมแล้วหรือว่าเจ้าวางยาซวงเอ๋อร์อย่างไร? เสด็จอาให้อภัยเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ข้าไม่มีวันเกรงใจเจ้า!”คำพูดนี้สองแง่สองง่าม เห็นชัดว่ากำเย้ยหยันเยี่ยเป่ยเฉิงที่ดึงหมาป่าเจ้าเล่ห์เข้าบ้าน!เยี่ยเป่ยเฉิงตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ไร้ซึ่งแรงโต้กลับยามนี้ เขามิอาจชำระคืนได้ ซวงเอ๋อร์ของเขาไม่มีวันกลับมาอีกต่อไป!สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้ คือทำให้เจียงหว่านชดใช้อย่างสาสมที่สุด ส่วนตัวเขา ชีวิตที่

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 653

    เยี่ยเป่ยเฉิงมีสีหน้าเคร่งขรึม สายตาที่มองเจียงหว่านเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง ไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิดเขาอยากฆ่านางตั้งนานแล้ว ที่ปล่อยนางรอดมาจนถึงตอนนี้ ก็แค่อยากให้นางได้รับความทรมานจนตายบัดนี้เห็นนางตกยากเช่นนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงกลับรู้สึกว่าบทลงโทษแค่นี้ยังมิพอเจียงหว่านถูกทรมานจนเหมือนตายดีกว่าอยู่มานานแล้ว นางรู้ เยี่ยเป่ยเฉิงไม่มีทางปล่อยนางไปง่ายๆ หลังจากคิดดูแล้ว หากตายด้วยน้ำมือของเยี่ยเป่ยเฉิงได้ ก็คงจะดีกว่าตอนนี้ ที่ดูดซับยาเข้าสู่ร่างกายทุกวัน ถูกฝันร้ายหลอกหลอนทุกคืนสุดท้ายก็ไม่สามารถหนีจากพิษและเสียชีวิตลงได้!อย่างไรก็ตาย มิสู้ให้เยี่ยเป่ยเฉิงจบชีวิตนางด้วยมือเขาเอง!เมื่อคิดได้เช่นนี้ นางก็ยิ้มเยาะ จงใจกล่าวยั่วยุเขา “เยี่ยเป่ยเฉิง เจ้ามีฝีมือแค่นี้หรือ? แน่จริงก็ฆ่าข้าไปเลยสิ!”“ฆ่าข้าให้มันจบๆ ไปเสีย!”เยี่ยเป่ยเฉิงปรายตามองนาง พลางกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนั้น เจ้าก็ทรมานซวงเอ๋อร์เช่นนี้!”เจียงหว่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้วอย่างไร!”“ลูกในท้องนางข้าก็เป็นคนทำร้ายเอง! ร่างกายอ่อนแอแบบนั้นของนางต่อไปจะตั้งครรภ์ไม่ได้อีกแล้ว!”“ที่นางฝันร้ายทุกคืน ก็เป็นข้าที่ทำเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 652

    หลายสิบปีมานี้ นางทำเรื่องชั่วมานับไม่ถ้วน ทุกเรื่อง นางจิตใจสงบ ไม่เคยรู้สึกผิดเลยมีเพียงเจียงหลิง…มีเพียงการตายของเจียงหลิง ทำให้นางยากจะข่มตานอนได้…ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในฐานะคุณหนูรอง เจียงหว่านไม่เป็นที่ชื่นชอบของพ่อแม่มาตลอด พี่ชายก็ยิ่งไม่สนใจนาง ทว่าเจียงหลิงกลับได้รับความรักมากมาย…นางอิจฉาเจียงหลิง และแทบอยากทำให้อีกฝ่ายหายไปจากโลกใบนี้แต่เจียงหลิงกลับรักเอ็นดูนางมาตั้งแต่ต้นจนจบ ปกป้องนาง มอบของที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ให้แก่นาง…เจียงหลิงเป็นพี่สาวที่ดีต่อนางที่สุดบนโลกใบนี้…ทว่าที่นางต้องการหาใช่แค่พี่สาวอย่างเดียว นางต้องการความรักของทุกคน นางต้องการให้พ่อแม่ พี่ชายรกนางแค่คนเดียว นางอยากครอบครองของที่ดีที่สุดไว้กับตัวเอง ไม่ใช่รอให้คนอื่นมอบให้!ดังนั้น ในคืนวันหิมะตก นางผลักเจียงหลิงตกน้ำ มองนางจมตายทั้งเป็นอยู่ใต้น้ำ หลังจากนั้นนางก็ติดวันเกิดเวลาเกิดของเจียงหลิงบนตุ๊กตาคุณไสย แทงเธอทุกวัน สวดภาวนาทุกคืน นางต้องการให้เจียงหลิงไม่มีโอกาสได้ผุดได้เกิด ไม่หวนกลับมาตลอดกาล!เพราะมีเพียงแค่ทำแบบนี้ นางถึงจะไม่มีโอกาสแก้แค้นตัวเอง!แต่ทำไม…ทำไมตอนนี้นางถึงยังหาตัวเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 651

    ยาซึมเข้าสู่ร่างกายติดกันหลายวันทำให้เจียงหว่านค่อยๆ เป็นบ้าในห้องที่ปิดสนิท เจียงหว่านหดตัวอยู่บนพื้นเหมือนดินโคลนตัวนางเหม็นมาก ชุดกระโปรงสีรากบัวเปลี่ยนเป็นสกปรกและเก่าองครักษ์ทำให้เส้นเอ็นมือของนางขาด ตรงบาดแผลถูกทาขี้ผึ้งปิดแผลชั้นแล้วชั้นเล่าแม้ขี้ผึ้งปิดแผลจะเป็นยาสำหรับปกปิด ทว่ากลับมีผลดีต่อการหยุดเลือดบาดแผลแข็งตัวจนกลายเป็นสะเก็ดไปแล้ว เพียงแต่ไม่ได้รับการรักษาที่ดีกว่านี้ แม้จะดีขึ้นก็ยังเหลือรอยแผลเป็นอัปลักษณ์เอาไว้ธูปในห้องไม่เคยลดลงเลยทั้งวัน ประกอบกับกระกระตุ้นของต้นคลีเวีย ความคิดต่ำช้าที่อยู่ในตัวนางแทบจะถูกกระตุ้นออกมาทั้งหมดสองตานางแดงก่ำ ดูฉุนเฉียวไม่น้อย กรีดร้องโวยวายอยู่ในห้อง ประหนึ่งคนบ้าคนหนึ่งองครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าห้องไม่สนใจนางสักนิด ได้แต่ทรมานนางไม่ให้นางตายทุกวันความเคียดแค้นฉายออกมาจากในตาเจียงหว่าน เวลานี้ นางได้ปล่อยว่างความหลงใหลต่อเยี่ยเป่ยเฉิงแล้ว ไม่ว่าจะรักมากขนาดไหนก็แปรเปลี่ยนเป็นความชิงชังเข้ากระดูก“เยี่ยเป่ยเฉิง! ปล่อยข้ากลับไป! ปล่อยข้ากลับไปสิ!”“แน่จริงก็ฆ่าข้าเลยสิ!ฆ่าข้าให้มันจบๆ ! ท่านมีสิทธิ์อะไรมาขังข้าไว้เช่นนี

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 650

    “ได้ยินว่าพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเจ้าเสียไปนานแล้ว แล้วเจ้ากับพี่ชายอยู่มาได้อย่างไร?”“แล้วเหตุใดเจ้าจึงขายตัวไปเป็นบ่าวไพร่? หลายปีมานี้ เจ้าคงผ่านความลำบากมิใช่น้อย เคยถูกใครรังแกหรือไม่?”หลินซวงเอ๋อร์พลันเกิดความขมขื่นในจิตใจเดิมที หากไม่เอ่ยถึงเรื่องเหล่านี้ นางยังพออดทนได้บ้าง แต่เมื่ออวี๋หว่านหนิงถามขึ้นมา นางก็อดรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเสียมิได้นางเม้มปากพลางจ้องมองนิ้วมือตนเอง น้ำตาเริ่มเอ่อล้น พร้อมหยดแหมะลงหลังมือทีละหยดนางอยู่สบายหรือไม่?นางเคยถามตนเองอยู่เช่นกันหลายปีมานี้ นางผ่านเรื่องราวมากมาย สูญเสียบิดามารดา สูญเสียพี่ชายไป กลายเป็นเด็กกำพร้าที่ไร้ญาติขาดมิตรโดยแท้แต่หากคิดดีๆ ชีวิตนางก็เคยอยู่สุขสบายมาช่วงหนึ่งนั่นคือตอนอยู่กับเยี่ยเป่ยเฉิง นางมีความสุขจริงๆในตอนนั้น เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นกำลังใจให้นาง ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ หาของดีมาให้กิน สอนนางเรียนหนังสือ พาไปเดินเล่นท่องทะเลสาบ ให้ความรักต่อนางอย่างชนิดไร้ผู้เทียบเทียม...ในเวลานั้น นางมีความสุขเหลือล้น เป็นความสุขมากที่สุดในชีวิต แม้แต่ฝันก็ยังเป็นฝันหวาน...แต่ต่อมา ทุกอย่างกลับแปรเปลี่ยน ก่อนหน้านี้เคยสุ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 649

    เมื่อได้ยินประโยคนี้ หลินซวงเอ๋อร์แทบชะงักงันไปที่บั้นเอวนางมีปานแดงรูปเสี้ยวจันทร์จริงๆ ท่านแม่บอกว่า มันมีติดตัวมาตั้งแต่นางเกิด เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่บั้นเอว จึงมีน้อยคนที่จะรู้เรื่องนี้“ท่าน...คือแม่ของข้าจริงหรือ?” หลินซวงเอ๋อร์หัวใจเต้นแรง ขอบตาแดงเรื่อขึ้นอวี๋หว่านหนิงยื่นมือมาจับมือของนางไว้ พลางกล่าวเสียวเศร้า “ซวงเอ๋อร์ ข้าคือแม่เจ้าจริงๆ หลายปีนี้ทำให้เจ้าลำบากนัก...”แม่นมซุนอยู่ด้านข้างพลางกล่าวเสริม “องค์หญิง นางคือเสด็จแม่ของท่านจริงๆ หลายปีมานี้ ฮองเฮาไม่เคยเลิกราในการตามหาท่าน เพียงแต่ภาคกลางกว้างขวางนัก พวกท่านเองก็ข่าวคราวเงียบหาย หลายปีนี้ พวกท่านลำบากก็จริง ฮองเฮาก็ไม่ได้สุขสบายใจ...”หลินซวงเอ๋อร์นิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ พลันหันไปมองอวี๋หว่านหนิงแล้วกล่าว “ที่จริง ข้าไม่เคยตำหนิท่านเลย เพียงแต่บางครั้งก็เคยคิด ว่าท่านแม่จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้หรือไม่”“ตอนยังเป็นเด็ก ข้าเคยคาดหวังให้นางมาหาบ้าง แต่พอโตขึ้นก็ไม่เห็นนางมาเสียที ข้าจึงภาวนาให้นางอยู่ดีมีสุขแทน แม้จะไม่ได้พบหน้า แต่ขอให้นางยังมีชีวิตอยู่ เป็นความคิดถึงในใจก็เพียงพอแล้ว...”

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 648

    อวี๋หว่านหนิงรับเอาผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตา พลันเกิดความตื้นตันจนไม่รู้ตอบอย่างไรดีทันใดนั้น แม่นมซุนเดินขึ้นมาพร้อมกล่าว “องค์หญิง ที่นี่คือวังหลวงแห่งเป่ยหรง ฮองเฮาทรงตามหาท่านมานาน ทุ่มแทแรงกายแรงใจไม่น้อยกว่าจะหาพบ...”“องค์หญิง?” หลินซวงเอ๋อร์นึกว่าตนหูฝาดไป “ท่านเรียกข้าอยู่หรือ?”นางกล่าวตอบ “พวกท่านจำคนผิดหรือเปล่า ข้าไม่ใช่องค์หญิง ข้าคือหลินซวงเอ๋อร์ต่างหาก”นางเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้ง เติบโตมาจากชนบทแร้นแค้น เป็นเพียงสาวใช้ต่ำต้อยผู้หนึ่งเท่านั้นองค์หญิงอะไรกัน ยังมีวังเป่ยหรงอีก แล้วใครคือฮองเฮา?พวกนางคงจำคนผิดเป็นแน่แม่นมซุนกล่าวตอบ “ไม่ผิดเจ้าค่ะ ไม่มีผิดแน่นอน ท่านก็คือองค์หญิงของเรา องค์หญิงที่พลัดพรากจากฮองเฮาไป...”หลินซวงเอ๋อร์คล้ายกับยังมึนงงอยู่ ความคิดนางเกิดความสับสน ปวดหัวเป็นอย่างมากแม่นมซุนอธิบายต่อ “สมัยที่อดีตฮ่องเต้สวรรคต ฮ่องเต้องค์ใหม่ยังไม่ได้ขึ้นครองราชย์ ราชสำนักเป่ยหรงเกิดความวุ่นวาย ตอนนั้นฮองเฮายังมีฐานะเป็นเพียงพระชายาแห่งรัชทายาท นางเสี่ยงอันตรายให้กำเนิดแฝดชายหญิงคู่หนึ่ง เพื่อปกป้องชีวิตของพวกท่านไว้ จึงให้คนสนิทส่งพวกท่านออก

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 647

    หลินซวงเอ๋อร์เปลือกตากระตุกเล็กน้อย นางก็อยากตื่น แต่ทำอย่างไรก็ไม่อาจตื่นขึ้นมาหน้าอกคล้ายถูกกรีดจนเป็นแผลเหวอะหวะ เหงื่อเย็นในตัวไหลพราก ลำคอคล้ายถูกงูพิษตัวหนึ่งรัดไว้ ยิ่งรัดก็ยิ่งแน่น จนนางใกล้จะหายใจไม่ออกข้างโสตนั้น ได้ยินเสียงคุ้นหูประเดี๋ยวไกลประเดี๋ยวใกล้ ถัดจากนั้น คล้ายมีมืออ่อนโยนลูบไล้ใบหน้านางเบาๆ“เด็กดี หมดเรื่องแล้ว เจ้าปลอดภัยดีแล้ว รีบตื่นมาเถิด ตื่นมาเร็วเข้า...”หลังจากได้ยินเสียงนั้นชัดเจนมากขึ้น ลำคอที่ถูกรัดแน่นก็ค่อยๆ คลายออก นางลืมตาช้าๆ ภาพเบื้องหน้าจากพร่ามัวจนกลายเป็นชัดเจน สิ่งแรกที่เข้าสู่ม่านตาก็คือม่านคลุมเตียงสีม่วงที่อยู่เหนือศีรษะขึ้นไป คล้ายเป็นภาพฝัน เสมือนเป็นแหยักษ์ที่ถูกเหวี่ยงลงมา เพื่อคลุมตัวนางให้อยู่ตรงกลางเตียงนี้เป็นเตียงที่สวยงาม จนแม้แต่เสาเตียงก็เป็นลวดลายที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน หัวเตียงนอกจากจะแกะสลักลายดอกไม้แล้วยังฝังด้วยหยกเจียระไนงดงามและพลอยล้ำค่าอีกชั่วขณะนั้น นางรู้สึกมึนงงยิ่งนี่มันเป็นที่ไหนกัน?“ซวงเอ๋อร์ เจ้ารู้สึกตัวแล้วรึ?” จนกระทั่งข้างหูได้ยินเสียงนั้นอีกครั้ง นางจำได้ว่าตอนอยู่ในความฝัน ได้ยินเสียงนี้จนคุ

DMCA.com Protection Status