All Chapters of ทาสสาวพราวพิลาส: Chapter 391 - Chapter 400

625 Chapters

บทที่ 391

ฮุ่ยอี๋ถือชามยาเอาไว้ ขมวดคิ้วมองดูยาต้มสีดำปี๋ที่อยู่ในชาม ด้วยสีหน้าที่ไม่เต็มใจหลินซวงเอ๋อร์กล่าวว่า: "ยาที่ดีย่อมมีรสขม หากองค์หญิงไม่อยากทนทุกข์ ก็ดื่มให้หมดภายในคราวเดียว"เดิมทีจื่อหลันอยากจะช่วยเกลี้ยกล่อมด้วย แต่คิดไม่ถึงว่า ฮุ่ยอี๋จะยกชามยาเสียแต่โดยดี จากนั้นก็ดื่มยาที่อยู่ในชามหมดภายในรวดเดียวจื่อหลันตกใจมากองค์หญิงที่มีนิสัยแปลกๆมาตั้งแต่ไหนแต่ไร คิดไม่ถึงว่าจะเชื่อฟังหลินซวงเอ๋อร์?หลังจากยาหนึ่งชามลงไปในท้อง ฮุ่ยอี๋ก็รู้สึกทั้งขมทั้งฝาด นางอยากกินของหวาน พุทราหวานสักลูกก็ยังดีนางยังไม่ทันได้เอ่ยปาก หลินซวงเอ๋อร์ก็ยัดอะไรบางอย่างที่ไม่รู้จักเข้าไปในปากของนาง“ถ้ารู้สึกว่ามันขม แค่เคี้ยวมัน เคี้ยวมันก็จะไม่ขมแล้ว” นัยน์ตาของหลินซวงเอ๋อร์เต็มไปด้วยรอยยิ้มนัยน์ตาของนางสดใส ราวกับดวงจันทร์บนท้องนภา ทั้งสุกสกาวทั้งสะอาด ทันใดนั้นฮุ่ยอี๋ก็รู้สึกว่า หลินซวงเอ๋อร์หน้าตาดีมากจริงๆ ความงามของนางไม่ทำให้คนรู้สึกกดดัน โครงหน้าก็ละมุนนุ่มนวล ใครที่ได้พบเห็นก็จะต้องชื่นชอบกันทั้งนั้นฮุ่ยอี๋จำไม่ได้ว่า เหตุใดตอนนั้นถึงอยากจะเกลียดนางแต่ตอนนี้ นางดูเหมือนจะเกลียดนางไม่ลง
Read more

บทที่ 392

ในเวลานี้ จื่อหลันเปิดม่านแล้วเดินออกมาจ้าวชิงชิงอดไม่ได้ที่จะถามว่า: "องค์หญิงเป็นอย่างไรบ้าง? ร่างกายดีขึ้นมาบ้างแล้วหรือยัง?"จื่อหลันมองนางอย่างมีนัยความหมาย นับตั้งแต่ที่ได้ยินสิ่งที่องค์หญิงพูด จื่อหลันก็รู้ว่าจ้าวชิงชิงเป็นคนที่ภายนอกภายในไม่เหมือนกัน ตอนนี้จึงเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อนาง“ ท่านหญิงเป็นห่วงองค์หญิงจริงๆ รือว่ามีจุดประสงค์อื่น?” คำพูดของจื่อหลันมีนัยความหมายอื่นแอบแฝงอยู่จ้าวชิงชิงขมวดคิ้วเล็กน้อย: "เจ้าหมายความว่าอย่างไร? ข้าก็ต้องอยากให้องค์หญิงหายสิ หรือว่าหลินซวงเอ๋อร์นังชั้นต่ำคนนั้น ให้องค์หญิงกินอะไรมั่วซั่ว จนอาการแย่ลงแล้ว?"“หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ พอองค์จักรพรรดิกลับมาแล้ว ข้าจะรายงานความจริงตามความเป็นจริง และให้องค์จักรพรรดิลงโทษนางเสีย!”สิ่งที่จ้าวชิงชิงให้ความสนใจเป็นอันดับแรกไม่ใช่อาการของฮุ่ยอี๋ แต่จะยัดเยียดความผิดให้หลินซวงเอ๋อร์อย่างไรท่าทีของนางดูน่าเกลียดเกินไป มิน่าล่ะตอนนี้องค์หญิงถึงไม่ต้องการพบนางจื่อหลันพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า: " ข้าน้อยอยากจะแนะนำท่านหญิงในเรื่องของวาจา อย่าเอาแต่พูดว่านงชั้นต่ำอย่างนั้น นังชั้นต่ำอย่างนี้เพื
Read more

บทที่ 393

จ้าวชิงชิงไม่ยอมจำนนหลายปีแล้ว ที่นางเข้าออกพระราชวังอยู่บ่อยครั้ง เพื่อพยายามทำให้ฮุ่ยอี๋พึงพอใจ นางไม่เคยขัดขืนนางเลย คำขอร้องใดๆของฮุ่ยอี๋ นางก็พยายามสนองความต้องการอย่างเต็มที่ คอยอยู่ข้างกายนาง ราวกับว่าเป็นสุนัขที่ว่านอนสอนง่ายตัวหนึ่ง แม้แต่สถานะท่านหญิง ก็เป็นฮุ่ยอี๋ที่ทูลขอองค์จักรพรรดิแต่งตั้งให้นางแต่ตอนนี้ นางวาดเส้นแบ่งพรรคกับนางอย่างโจ่งแจ้ง และกลายเป็นร่มป้องกันภัยให้หลินซวงเอ๋อร์จ้าวชิงชิงจึงโกรธจนมือไม้สั่นความพยายามที่สั่งสมมาตั้งหลายปี หายวับไปอย่างรวดเร็ว คิดไม่ถึงว่าฮุ่ยอี๋จะไม่นึกความดีของนางเลย!ฮุ่ยอี๋โบกไม้โบกมือ บอกให้ทุกคนสลายตัว: "แยกย้ายกันไปได้แล้ว มาล้อมรอบข้าอยู่ที่นี่ทำไม? ตอนนี้ไม่มีละครอะไรให้พวกเจ้าดูอีกแล้ว ที่ไม่ยอมไปเพราะจะรอให้ถูดด่าก่อนใช่ไหม?"ฮุ่ยอี๋พูดอย่างตรงไปตรงมา เมื่อมองดูใบหน้าที่จอมปลอมๆของคนกลุ่มนี้นางก็รู้สึกหงุดหงิดใจเป็นอย่างมากตอนที่นางเจ็บปวด คนเหล่านี้ก็ไม่มีประโยชน์เลยสักคนตอนนี้นางดีขึ้นแล้ว ต่างก็พากันมาประสบเอาใจทีละคน! การปลอบใจที่เสแสร้ง ช่างจอมปลอมสิ้นดี!ทุกคนมีสีหน้าที่ดูเคอะเขินอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พาก
Read more

บทที่ 341

ฮุ่ยอี๋ยืนอยู่กับที่ สายตาจับจ้องไปที่หลินซวงเอ๋อร์ในเวลานั้น หลินซวงเอ๋อร์กำลังพยายามที่จะปีนขึ้นไปบนหลังม้าอยู่ลูกม้าไม่ได้สูงมากนัก แต่ท้องของมันนูนมากขึ้น หลินซวงเอ๋อร์จึงไม่มีที่วางเท้าเลย แม้จะปีนขึ้นไปสองครั้งแล้วก็ยังไม่สามารถปีนขึ้นไปได้นางยืนอยู่กับที่อย่างจนใจ เอามือวางบนสะเอว หายใจเหนื่อยหอบแล้วมองดูลูกม้า ราวกับว่ากำลังแข่งขันกับม้าอยู่ม้าสะบัดหางไปมา ราวกับตั้งใจแกล้งนาง จากนั้นก็กางขาออกแล้ววิ่งไปอย่างรวดเร็วหลินซวงเอ๋อร์ตามหลังมันไป และวิ่งไล่ตามไม่หยุดลูกม้าวิ่งเร็วเกินไป หลินซวงเอ๋อร์จึงตามไม่ทัน ดังนั้นจึงสะดุดล้มลงกับพื้นนางลุกขึ้น ตบเศษหญ้าที่อยู่บนเข่าออก แล้ววิ่งตามมันไปอีกครั้งในที่สุดลูกม้าก็หยุดวิ่ง ฮุ่ยอี๋คิดว่าหลินซวงเอ๋อร์จะทุบตีมันอย่างแรง แต่คิดไม่ถึงว่านางจะทำแค่บิดหูของมัน แล้วพึมพำอะไรบางอย่างก็ไม่รู้ฮุ่ยอี๋มองดูจากระยะไกล และรู้สึกขบขันกับเหตุการณ์ที่น่าสนใจที่อยู่ตรงหน้านางช่างโง่จริงๆ ม้าตัวเล็กขนาดนั้นยังควบคุมไม่ได้เลยในเวลานี้ น่าเสียดายที่จ้าวชิงชิงมายืนอยู่ตรงหน้านางเข้าพอดี ทำให้บดบังสายตาของนางฮุ่ยอี๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย
Read more

บทที่ 395

ทิ้งให้จ้าวชิงชิงยืนอยู่ที่เดิมเพียงคนเดียว นางโกรธจนสั่นเทาไปทั้งตัวนางคิดไม่ถึงว่า ฮุ่ยอี๋จะปกป้องหลินซวงเอ๋อร์ขนาดนี้ แม้กระทั่งโยงเรื่องนางกับฉีหมิงเข้าด้วยกัน ฮุ่ยอี๋ก็ยังคงช่วยพูดแทนหลินซวงเอ๋อร์!ฮุ่ยอี๋เดินไปข้างหน้าอย่างสูงส่งสง่างาม ไม่นานก็มาถึงที่ตรงหน้าหลินซวงเอ๋อร์ต่อหน้าคนอื่นๆ นางมักจะวางมาดเป็นองค์หญิงผู้สูงส่ง อยู่ต่อหน้าหลินซวงเอ๋อร์ก็ไม่มีข้อยกเว้น“เจ้าได้ม้าตัวนี้มาจากไหน?” ฮุ่ยอี๋ชี้ไปที่ลูกม้าที่หลินซวงเอ๋อร์กำลังจูงอยู่หลินซวงเอ๋อร์กล่าวว่า: "สวามีเป็นคนมอบให้ข้าเอง"เมื่อสักครู่นี้ไม่ทันได้สังเกตเห็น ตอนที่มองจากระยะไกล คิดว่ามันเป็นแค่ม้าที่ทั้งเตี้ยทั้งดื้อรั้น แต่พอเข้ามาดูใกล้ๆ ถึงได้รู้ว่า นี่เป็นม้าหนันจ้าวที่หายากจริงๆม้าตัวนี้มาจากหนันจ้าว มีนิสัยที่ซื่อสัตว์อ่อนโยน ตัวเล็กกะทัดรัด และรู้อัธยาศัยมนุษย์มากกว่าม้าธรรมดาเพียงแต่ว่าม้าตัวนี้หายาก ฮุ่ยอี๋เคยเห็นมันเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เมื่อสามปีที่แล้ว องค์รัชทายาทแห่งหนันจ้าวและองค์หญิงน้อยแห่งหนันจ้าวมาเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิ ม้าที่องค์หญิงน้อยขี่ก็คือม้าหนันจ้าวตัวนี้ฮุ่ยอี๋จได้ว่า ตอนที่
Read more

บทที่ 396

ภายในพื้นที่ล่าสัตว์สายลมเบาๆพัดผ่านป่าโปร่งที่มีต้นไม้ขึ้นอยู่ห่างๆกัน พร้อมกับเสียงลูกธนูที่ดัง "ฟรึบฟรึบ" จำนวนนับไม่ถ้วน ใบไม้ร่วงหล่นลงเหมือนนักเต้นรำ พลิ้วไหวไปตามสายลมในอากาศ พร้อมกับความรู้สึกที่หนาวเย็นเล็กน้อยดวงอาทิตย์ในสารทฤดูส่องแสงเจิดจ้า ลมพัดไปไปทั่วทุกสารทิศ ทำให้ในป่ามีบรรยากาศที่อึมขรึมเหล่าบุรุษสวมชุดขี่ม้าที่รัดรูป แต่ละคนแบกธนูและแขวนถุงผ้าที่ใช้บรรจุเหยื่อไว้บนหลังม้าม้าวิ่งผ่านเส้นทางแคบๆในป่า ขบวนได้เคลื่อนตัวไปยังส่วนลึกของพื้นที่ล่าสัตว์ของราชวงศ์ขณะที่สุนัขล่าเนื้อกำลังไล่ตามเป้าหมาย ก็มีกวางตัวหนึ่งกระโดดออกมาจากในป่าเว่ยหวยซานดึงสายธนู และเล็งไปที่เป้าหมายพอได้โอกาสที่เหมาะสม เขาก็คลายนิ้ว ลูกธนูก็พุ่งออกไป แต่ตอนที่กำลังจะยิงโดนเป้าหมาย ก็ถูกลูกธนูอีกดอกหนึ่งยิงสกัดเอาไว้ลูกธนูถูกตัดตรงกลาง ทำให้ยิงเฉียดกวางไปเว่ยหวยซานมองดูกวางหลบหนีไปต่อหน้าต่อตา และหายไปอย่างไร้ร่องรอยในชั่วพริบตาเดียวเขามองไปที่เยี่ยเป่ยเฉิงด้วยความงุนงง และกล่าวว่า " ท่านอ๋องทำเช่นนี้ทำไมหรือ? ข้าเกือบจะยิงกวางตัวนั้นได้แล้วเชียว"เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าวอย่างสงบนิ่งว่
Read more

บทที่ 397

จากนั้น นางก็ดึงลูกธนูดอกหนึ่งออกมาจากซองใส่ลูกธนู ดึงสายธนู หรี่ตาลงเล็กน้อยแล้วเล็งไปที่กระต่ายตัวนั้น และพูดด้วยใบหน้าที่มั่นใจว่า: "เจ้าดูข้านะ ข้าจะแสดงฝีมือให้เจ้าเห็น!"ทันทีที่พูดจบ นางก็คลายนิ้ว ลูกศรก็พุ่งออกไปอย่างเฉเฉียงเอียงเอนหลินซวงเอ๋อร์มองดูด้วยสีหน้าที่ไร้ซึ่งความรู้สึก และเห็นว่าลูกธนูดอกนั้นถูกยิงออกไปเพียงไม่กี่ฟุตเท่านั้น ไม่เพียงแต่ระยะทางไม่พอเท่านั้น แต่ทิศทางยังแตกต่างกันมากอีกด้วยกระต่ายยืนอยู่กับที่ นิ่งอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกระโดดจากไปฮุ่ยอี๋: "...."หลินซวงเอ๋อร์ "..."ทักษะการยิงธนูนี้ สู้จับมันด้วยมือเปล่าไม่ได้เลยฮุ่ยอี๋กระแอมสองครั้ง แล้วกล่าวว่า "อยู่บนม้ายากที่จะแสดงฝีมือ ข้าเปลี่ยนท่าก่อนนะ"ขณะที่พูด นางก็พลิกตัวลงมาจากหลังม้า พยายามยิงอีกครั้งอย่างไม่ยอมแพ้ ผลลัพธ์ก็ยังคงเหมือนเดิม ไม่ยิงโดนต้นไม้ ก็ปักลงบนพื้น กล่าวโดยสรุปคือไม่มีธนูดอกไหนโดนเหยื่อเลยหลินซวงเอ๋อร์มองไปที่ฮุ่ยอี๋ ด้วยสายตาที่มีนัยความหมายเล็กน้อยเมื่อสักครู่นี้ยังหัวเราะเยาะนางอยู่เลย แต่ตอนนี้ตนเองกลับเคอะเขินเสียเองแต่ว่า หลินซวงเอ๋อร์ไม่ได้หัวเราะเยาะนาง เพราะ
Read more

บทที่ 398

เมื่อเห็นว่าฮุ่ยอี๋ไม่ยอมจำนน หลินซวงเอ๋อร์จึงพูดอีกครั้งว่า: " ทักษะการยิงธนูแบบสวามีของข้า ถึงเรียกว่าโดดเด่นกว่าผู้ใด ทักษะของเจ้า พูดได้แค่ว่าเพิ่งจะเรียนรู้วิธีการถือลูกธนูเท่านั้น ยังไม่ถึงขั้นที่จะบอกว่ายิงเก่งหรือยิงไม่เก่ง "เมื่อพูดถึงเยี่ยเป่ยเฉิง หลินซวงเอ๋อร์ก็มีใบหน้าที่ภูมิอกภูมิใจเมื่อเห็นว่านางเอาแต่พูดถึงเยี่ยเป่ยเฉิง ฮุ่ยอี๋ก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า "เจ้าชอบท่านลุงมากขนาดนั้นเลยหรือ?"หลินซวงเอ๋อร์พูดอย่างไม่ลังเลว่า: "ชอบสิ ชอบที่สุดเลย"นางเป็นคนพูดตรงไปตรงมา ไม่เหมือนหญิงสาวคนอื่นๆ ที่กระมิดกระเมี้ยน ในเรื่องนี้ ฮุ่ยอี๋ชอบนิสัยที่ตรงไปตรงมาของนางมากฮุ่ยอี๋กล่าวว่า: "ในเมื่อเจ้าชอบท่านลุงของข้า ก็ห้ามชอบฉีหมิงอีก! ต่อจากนี้ไป ห้ามไปพัวพันกับเขา เข้าใจไหม?"คำพูดนางแฝงไปด้วยคำเตือนอย่างชัดเจน หลินซวงเอ๋อร์มองไปที่ฮุ่ยอี๋ และกล่าวว่า " ในเมื่อข้าเป็นคนของสวามี จะเข้าไปพัวพันกับชายอื่นได้อย่างไร? หาหสวามีของข้ารู้ คงไม่มีความสุขถ้าเขารู้ คงจะไม่มีความสุขแน่ "ฮุ่ยอี๋กล่าวว่า: " รู้ก็ดีแล้ว! ถ้าเจ้าโลภมากไม่รู้จักพอ ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปง่ายๆแน่! "หลินซวงเอ๋อร์กล่
Read more

บทที่ 341

เมื่อเห็นว่านางหาข้อแก้ต่างอย่างร้อนใจ ฮุ่ยอี๋ก็ยิ้มพร้อมกล่าวว่า " ล้อเล่นแค่นี้ทำเป็นจริงจังไปได้? "เดิมทีฮุ่ยอี๋เป็นคนที่ไม่ชอบพูด แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด พออยู่ต่อหน้าหลินซวงเอ๋อร์ นางก็ไม่สามารถกลั้นคำพูดเอาไว้ได้ และทำเหมือนว่าเป็นคนที่ชอบพูดมากในทางกลับกัน หลินซวงเอ๋อร์จะแค่ตอบคำถามเท่านั้น และไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านี้หลินซวงเอ๋อร์กล่าวว่า: "องค์หญิงโปรดอย่าล้อเล่นกับข้าเลย บางครั้งสวามีของข้าก็ดุร้ายกับข้ามากเช่นกัน บางครั้งข้าก็กลัวเขา..."หลินซวงเอ๋อร์กลัวว่าจะทำให้เขาโกรธ ถ้าเขาโกรธ หลินซวงเอ๋อร์จะไม่กล้าเข้าใกล้เขา แต่สิ่งที่นางกลัวที่สุดก็คือ เรื่องบนเตียงของพวกเขาสองคนมากกว่า...แต่หลินซวงเอ๋อร์ไม่กล้าบอกฮุ่ยอี๋ เกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งสองคนพูดคุยกันจนลืมดูทาง และค่อยๆเดินลึกเข้าไปในป่าเมื่อเห็นว่าค่ำแล้ว หลินซวงเอ๋อร์ก็ไม่ยอมเดินต่อไปขณะที่พวกนางเดินเข้าไป ได้เดินตามผ้าสีแดงนำทางตลอด แต่ดูเหมือนว่าสีแดงที่อยู่ข้างหน้าจะน้อยลงเรื่อยๆหลินซวงเอ๋อร์กลัวว่าจะหลงทาง ดังนั้นจึงแนะนำให้กลับไปทางเดิมนางจึงพูดกับฮุ่ยอี๋ว่า: "นี่มันก็ค่ำมากแล้ว สวามีน่าจะกลับมาแล้ว พวก
Read more

บทที่ 400

“ ซวงเอ๋อร์ ในป่าแห่งนี้จะมีสัตว์กินคนหรือไม่? ”“อีกสักพักเสด็จพ่อของข้าจะตามหาพวกเราเจอจริงๆใช่ไหม?”“ ซวงเอ๋อร์ เจ้าเข้ามาใกล้ๆข้าหน่อยได้ไหม ข้ารู้สึกกลัวนิดหน่อย…”เสียงพร่ำบ่นของฮุ่ยอี๋ยังคงดังขึ้นที่ข้างหูไม่หยุดหลินซวงเอ๋อร์ก็รู้สึกหวาดกลัวเช่นกัน แต่ก็ต้องกล่าวปลอบใจนางอย่างอดทนว่า: "ไม่มีสัตว์ป่าที่ดุร้ายหรอก สวามีของข้าบอกว่า ในนี้ปล่อยแค่กระต่ายและไก่ฟ้าเท่านั้น สัตว์ป่าอื่นๆได้ถูกขับเข้าไปในพื้นที่ล่าสัตว์หมดแล้ว "เมื่อได้ยินดังนี้ ฮุ่ยอี๋ก็รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย แต่นางยังไม่ได้ผ่อนคลาย ก็เห็นตะขาบใหญ่ตัวหนึ่งที่อยู่บนพื้นคลานไปตามหลังเท้าของนาง“อร็าย!!!” ฮุ่ยอี๋ตกใจจนลุกขึ้นยืนทันที และกระโดดอยู่กับที่สองสามครั้ง“ตะขาบ! ตะขาบ!” ฮุ่ยอี๋ตกใจจนมีสีหน้าที่ซีดเผือด ถกกระโปรงขึ้นแล้วถอยหลังกลับไปสองสามก้าวแก้วหูของหลินซวงเอ๋อร์แทบแตก นางลูบโคนหูแล้วลุกขึ้นยืน เหลือบมองตะขาบที่อยู่บนพื้น แล้วกล่าวว่า "เป็นเรื่องปกติที่จะมีตะขาบอยู่ในป่า"ฮุ่ยอี๋อยากจะร้องไห้แต่ร้องไม่ออก: " เจ้าไม่กลัวหรือ? ถ้าเจ้าเก่งจริง ก็เอามันออกไปสิ... "ตะขาบที่น่าเกลียดแบบนี้ ใครบ้างจะไม
Read more
PREV
1
...
3839404142
...
63
DMCA.com Protection Status