All Chapters of ทาสสาวพราวพิลาส: Chapter 241 - Chapter 250

625 Chapters

บทที่ 241

สถานการณ์ที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ ทำให้หลินซวงเอ๋อร์ก็ไม่กล้ารบกวนเขา จึงทำได้แค่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน แล้วเฝ้าดูเขาอย่างเงียบๆบนหลังม้า เยี่ยเป่ยเฉิงมีท่าทางที่เหล่อเหลาสูงตระหง่าน นัยน์ตาโฉบเฉี่ยวคู่นั้นมองตรงไปข้างหน้า เขายกคางสูงขึ้น ราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาสนใจหลินซวงเอ๋อร์รวบรวมสติ คนที่อยู่ตรงหน้าเริ่มเข้ามาใกล้นางมากขึ้นเรื่อยๆตอนที่อยู่ใกล้หลินซวงเอ๋อร์มากที่สุด ทั้งสองคนอยู่ห่างกันเพียงไม่กี่ฟุต แต่กลับไม่มีใครกล้าพูดอะไรสักคำหลินซวงเอ๋อร์ยืนอยู่ที่นั่น มองไปที่เยี่ยเป่ยเฉิง เช่นเดียวกับคนอื่นๆนางไม่กล้าตะโกน เพราะนางกลัวว่าถ้าตะโกนต่อหน้าทุกคน จะทำให้ทุกคนแตกตื่น และกลัวว่าจะไปรบกวนรถม้าของเยี่ยเป่ยเฉิงขบวนที่ยิ่งใหญ่สง่างามเช่นนี้ จะโกลาหลเพราะนางได้อย่างไร?ในที่สุด เยี่ยเป่ยเฉิงก็ค่อยๆขี่ม้าผ่านนางไปตั้งแต่ต้นจนจบเขาไม่ได้มองมาที่นางเลยเป็นไปอย่างที่คาดคิดเอาไว้ เขาไม่เห็นนางหลินซวงเอ๋อร์ก้มหน้าลงด้วยความผิดหวังแต่ในขณะนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงกลับดึงบังเหียนเอาไว้จากนั้นม้าก็ร้อง กีบม้ากระแทกพื้นสองที และหยุดอยู่กับที่ทันใดนั
Read more

บทที่ 242

หลังจากที่เยี่ยเป่ยเฉิงจากไปแล้ว เรือนฝั่งตะวันออกก็เย็นยะเยือกขึ้นมาทันที รอยยิ้มบนใบหน้าของหลินซวงเอ๋อร์ก็หายไป นางไม่อาจรักษารอยยิ้มอันแสนหวานเอาไว้ได้หลังจากที่เยี่ยเป่ยเฉิงจากไปแล้วในคืนนี้ หลินซวงเอ๋อร์นอนไม่หลับอยู่บนเตียงพอคำนวณดูแล้ว เยี่ยเป่ยเฉิงยกทัพไปห้าวันแล้ว แต่ดูเหมือนว่านางจะไม่ได้เจอเขามานานแล้วนางไม่เคยคิดถึงใครแบบนี้มาก่อนเลย ตอนที่เยี่ยเป่ยเฉิงจากไป นางก็กินข้าวไม่อร่อย ตงเหมยชวนนางออกไปข้างนอกก็ไม่มีกะจิตกะใจไปตอนนี้พอนางหลับตาลง ในสมองล้วนเป็นลักษณะท่าทางของเยี่ยเป่ยเฉิง ทำให้นางนอนไม่หลับเลยหลังจากพลิกตัวไปมาครึ่งคืนแล้ว จู่ๆนางก็นึกถึงเรื่องสำคัญมากเรื่องหนึ่งได้หลินซวงเอ๋อร์เปิดผ้าห่ม ลุกขึ้นจากเตียง วิ่งไปที่ห้องตำรานของเยี่ยเป่ยเฉิง เปิดพับไฟแล้วจุดโคมเทียน เดินไปที่โต๊ะหนังสือแล้วนั่งลงนางอยากเขียนจดหมายถึงเยี่ยเป่ยเฉิง เขาเคยบอกว่า ตอนที่คิดถึงเขาก็ให้เขียนจดหมายให้เขา นางคิดถึงเขาตอนนี้ ก็ต้องเขียนมันตอนนี้เลยว่าแต่จะเขียนอะไรล่ะ?หลินซวงเอ๋อร์จ้องไปที่กระดาษเปล่าที่อยู่ตรงหน้า กัดด้สมพู่กันแล้วตกอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแม้ว่าน
Read more

บทที่ 243

ใบหน้าของเยี่ยเป่ยเฉิงเย็นชาราวกับน้ำค้างแข็ง คราวนี้ไม่ได้รับการดื่มเหล้าอวยพรของพวกเขา เขาแค่จ้องมองกองไฟตรงหน้าอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยเหล่าทหารคิดว่าตนเองพูดอะไรผิดไป ผ่านไปครู่หนึ่ง บรรยากาศก็เริ่มแข็งทื่อ และไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีกหวังขุ่ยอดไม่ได้ที่จะถามว่า: “ ท่านอ๋อง ข้าน้อยพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า?”เยี่ยเป่ยเฉิงกลับมามีสติอีกครั้ง จู่ๆก็ถามว่า: "ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มีจดหมายจากจวนส่งถึงข้าบ้างไหม?"“จดหมายจากจวน? จดหมายจากจวนอะไร?” เหล่าทหารมองหน้ากันด้วยความงุนงงพวกเขาฝ่าอันตรายกับเยี่ยเป่ยเฉิงมาเป็นเวลาสิบปี ไม่เคยมีใครส่งจดหมายให้เขาเลย ครั้งนี้เพิ่งออกมาได้ครึ่งเดือน เหตุใดถึงได้ถามเรื่องนี้ล่ะ?หวังขุ่ยส่ายหัว: "ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้สิ่งที่ส่งถึงท่านอ๋องล้วนเป็นข่าวชัยชนะ ไม่เคยได้รับจดหมายจากจวนเลย"“ ไม่มี? ” สีหน้าของเยี่ยเป่ยเฉิงเคร่งขรึมขึ้นเรื่อยๆสาวน้อยใจร้ายคนนั้น ห่างกันเป็นเวลาห้าวันแล้ว กลับไม่รู้จักเขียนจดหมายหาเขาสักฉบับ! ก่อนออกเดินทาง เขาได้กำชับนางไว้อย่างชัดเจนแล้วตอนที่คิดถึงเขาก็ให้เขียนจดหมายถึงเขา ไม่ว่าจะอยู่ไกลแค
Read more

บทที่ 244

ในวันที่อากาศร้อนจัดพระอาทิตย์แผดเผาปฐพีอย่างโหดร้าย จนสามารถมองเห็นไอร้อนลอยขึ้นมาจากขั้นบันไดหินที่ไม่มีที่สิ้นสุดอย่างคลุมเครือความร้อนแผ่ซ่านไปทุกรูขุมขน มีหญิงสาวคนหนึ่งสวมหมวกไม้ไผ่ยืนอยู่บนขั้นบันได เนื่องจากใช้พลังงานมากจนเกินไปทำให้ร่างกายของนางโซซัดโซเซสตรีที่อยู่ด้านข้างพยุงนางเอาไว้อย่างรวดเร็ว“นายหญิง พวกเรากลับไปกันดีกว่า วัดหลิงอวิ๋นนั้นสูงชันมาก ร่างกายของท่านบอบบาง จะทนต่อความยากลำบากเช่นนี้ได้อย่างไร”“ไม่ได้ วันนี้ข้าจะต้องขึ้นไปให้ได้” เสียงอันไพเราะของหญิงสาว ดังมาจากใต้หมวกไม้ไผ่ " ข้าได้ยินคนบอกว่า วัดหลิงอวิ๋นเป็นวัดที่มีคนมาสักการะมากที่สุดในจงหยวน พระโพธิสัตว์ในนั้นจะต้องศักดิ์สิทธิ์ที่สุดด้วย "หญิงชราถอนหายใจอย่างเงียบๆ แล้วช่วยพยุงนางเดินต่อไป: "นายหญิงพูดถูก หวังว่าพระโพธิสัตว์ที่นี่จะช่วยท่านตามหาพวกเขาได้จริงๆ"หญิงสาวหายใจหอบเหนื่อย เดินไปสองสามก้าวก็พักผ่อนสักพัก จากนั้นก็มองขั้นบันไดที่คดเคี้ยวอย่างที่ไม่มีที่สิ้นสุดเหนือศีรษะของนาง รับผ้าเช็ดหน้าที่หญิงชรามอบให้แล้วเช็ดเหงื่อที่อยู่บนหน้าผาก: " ลำบากท่านแล้ว ที่ต้องเดินทางมาตั้งไกลเพื่อมาท
Read more

บทที่ 245

ตงเหมยพูดด้วยความโกรธว่า: " เจ้าอยากตายหรืออย่างไร บันไดสูงขนาดนี้ ถ้าเจ้ากลิ้งตกลงไป จะต้องตายแน่ๆ! "ผู้หญิงคนนั้นยังคงตกตะลึง จากนั้นก็มองไปที่ขั้นบันไดที่อยู่ข้างหลัง ด้วยความหวาดหวั่นอยู่ในใจที่แท้ นางปีนบันไดขึ้นมาสูงขนาดนี้แล้วแม่นางคนนั้นพูดถูก ถ้าสาวน้อยคนนี้รับนางเอาไว้ไม่ทัน แล้วนางตกลงไป คงจะต้องตายอย่างแหลกลาญอย่างแน่นอนหลินซวงเอ๋อร์ลูบเข่าที่บวมแดงของนาง แล้วพูดกับตงเหมยที่ยังคงโกรธอยู่ว่า: "เรื่องเกิดขึ้นกะทันหัน ข้าไม่ได้คิดอะไรมาก ตงเหมยคนดี อย่าโกรธเลยนะ"ตงเหมยยังคงโกรธอยู่ นางหันหลังใส่ด้วยความโกรธ แล้วกล่าวว่า: "ใครเป็นห่วงเจ้า! เป็นเพราะนายท่านของเจ้านั่นแหละ! หากเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า เจ้าคิดว่าข้าจะมีชีวิตรอดหรือ!"หลินซวงเอ๋อร์จับมือตงเหมยเอาไว้ แล้วง้อว่า"เขาก็เป็นนายท่านของเจ้าเหมือนกันนะ เอาน่า กลับไปด้วยข้าจะซื้อขนมลูกสนเคลือบน้ำตาลให้เจ้าเพิ่มอีกสองสามห่อ ตกลงไหม?"เมื่อได้ยินดังนี้ ตงเหมยก็หันกลับมาอย่างไม่เต็มใจ ด้วยดวงตาสีแดง ภาพเหตุการณ์เมื่อกี้นี้ทำให้นางตกใจเป็นอย่างมาก: "พูดแล้วนะ ห้ามกลับคำ!"ในเวลานี้ ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเอ่ยปากพูดว่า "ขอ
Read more

บทที่ 246

ธูปเทียนของวัดหลิงอวิ๋นลุกโชนอยู่ตลอดเวลา เพราะมีคนมาอธิษฐานขอพรอยู่ที่นี่ไม่ขายสายหลังจากที่ทั้งสองไปถึงวัดหลิงอวิ๋นแล้วก็ไปซื้อธูปหอมและเงินกระดาษที่ประตูห้องโถงใหญ่สำหรับอธิษฐานขอพรตงเหมยถามหลินซวงเอ๋อร์ว่าอยากจะบูชาเทพเจ้าองค์ไหนหลินซวงเอ๋อร์ไม่รู้ว่าเทพเจ้าองค์ไหนสามารถทำให้คนแคล้วคลาดปลอดภัยได้ จึงสักการะบูชาเทพทุกองค์ รวมถึงเจ้าแม่กวนอิมผู้ช่วยเรื่องบุตรธิดาก็ไม่เว้นคิดไม่ถึงว่า ทันทีที่เข้าไปในห้องโถงหลัก หลินซวงเอ๋อร์ก็ได้พบกับสตรีรูปงามคนนั้นที่ได้พบกันเมื่อสักครู่นี้นางคุกเข่าต่อหน้าพระพุทธองค์ แต่ไม่รู้ว่าขออะไรหลินซวงเอ๋อร์ไม่กล้ารบกวนนาง กราบไหว้พระพุทธเจ้าอย่างตั้งอกตั้งใจสองสามครั้ง จากนั้นก็หันหลังกลับแล้วออกไปเทพเซียนในวัดหลิงอวิ๋นเยอะมาก นางต้องให้ความสำคัญเท่าเทียมกัน จึงบูชาสักการะทุกองค์ อย่างไรเสีย เทพหลายองค์รวมกันคงจะมีพลังมากกว่าหลังจากออกจากห้องโถงใหญ่แล้ว หลินซวงเอ๋อร์ก็ไปขอยันต์แคล้วคลาดให้เยี่ยเป่ยเฉิงหนึ่งอันหลังจากรับยันต์แคล้วคลาดมาได้อย่างราบรื่นแล้ว หลินซวงเอ๋อร์ก็เก็บมันเอาไว้อย่างมีความสุข พอเห็นว่าทางโน้นมีเสี่ยงเซียมซี นางก็ไปเสี
Read more

บทที่ 247

พระภิกษุคลี่เซียมซี เงยหน้ามองตงเหมย แล้วตีความว่า: "ชีวิตมีขึ้นมีลง ความมั่งมีศรีสุขจะบังเกิดในอนาคต เกิดมาพร้อมกับความยากลำบาก แต่จะมีผู้สูงศักดิ์คอยช่วยเหลือ"ตงเหมยไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี: " พระอาจารย์ดูผิดไปประโยคหนึ่งหรือเปล่าเจ้าคะ? ชีวิตของข้าลำบากยาดแค้น ต่ำต้อยด้อยค่าจริงๆ สิ่งนี้เป็นเรื่องจริง แต่ท่านบอกว่าจะมีผู้สูงศักดิ์คอยช่วยเหลือข้า อันนี้ตีความผิดไปแล้ว คนรอบกายข้าล้วนมีชะตากรรมคล้ายๆกันกับข้า จะมีผู้สูงศักดิ์คอยช่วยเหลือที่ไหนกัน?"พระภิกษุไม่ได้อธิบายอะไรมาก แค่พูดว่า: " โยมใช่ว่าจะไม่มีดวงสมพงษ์กับผู้สูงศักดิ์ แค่โชคลาภยังมาไม่ถึง ขอแค่โยมรักษาความตั้งใจเดิมเอาไว้ ความมั่งคั่งก็จะบังเกิดขึ้นกับโยม "ตงเหมยมองไปที่หลินซวงเอ๋อร์ ทั้งสองคนมองหน้ากัน ก็อดไม่ได้ที่จะเม้มริมฝีปากเพื่อกลั้นยิ้มอันที่จริงพวกนางเข้าใจทั้งหมด ไม่ว่าใครก็ตามที่มาเสี่ยงเซียมซี ล้วนแล้วแต่มาขอความสบายใจ ดังนั้นจะเชื่อจริงจังไม่ได้พวกนางทั้งสองก็ถือเสียว่าฟังไปเพลินๆ และไม่ได้ใส่ใจอะไรพวกนางนมัสการลาพระภิกษุ เก็บข้าวของแล้วลงจากภูเขาไปหลังจากทั้งสองคนจากไปแล้ว หญิงชราประคองผู้ห
Read more

บทที่ 248

นัยน์ตาเยี่ยเป่ยเฉิงเป็นประกาย“ใครเขียน?”น้ำเสียงของเขาดูเร่งรีบเล็กน้อยทหารที่ส่งจดหมายรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย และไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรอยู่ครู่หนึ่งพอเยี่ยเป่ยเฉิงรู้ว่าตนเองมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเล็กน้อย จึงรีบสงบสีหน้าอาการ กระแอมแห้งสองครั้ง แล้วกลับมาเย็นชาเหมือนเช่นเคย จากนั้นก็พูดอย่างสงบนิ่งว่า: "รู้แล้ว เอาวางไว้บนโต๊ะเดี๋ยวข้าจะเปิดอ่านทีหลัง "ทหารพยักหน้า วางซองจดหมายลงบนโต๊ะอย่างเรียบร้อย จากนั้นก็หันหลังกลับแล้วจากไปภายในกระโจม เหลือเพียงเสวียนอู่กับเยี่ยเป่ยเฉิงสองคนเท่านั้นเยี่ยเป่ยเฉิงเหลือบมองซองจดหมายบนโต๊ะก่อน จากนั้นก็ย้ายสายตาไปที่เสวียนอู่ที่ยืนอยู่ข้างๆอย่างโง่เขลา แล้วมองเขาอย่างสงบนิ่งเสวียนอู่สบตากับเขา ชะงักไปเล็กน้อย และตอบสนองไม่ทันอยู่ครู่หนึ่ง“ ท่านอ๋องมีอะไรจะกำชับหรือ?”เยี่ยเป่ยเฉิงเลิกคิ้วที่งดงาม ดวงตาของเขาดูเหมือนจะพูดว่า: เหตุใดถึงยังไม่ออกไปอีก?เมื่อถูกดวงตาที่น่าหวาดกลัวสุดขีดคู่หนึ่งจ้องมอง เสวียนอู่ก็รู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งตัว จากนั้นก็เข้าใจได้ทันที และรีบวิ่งเผ่นไปอย่างงุนงงหลังจากที่เสวียนอู่จากไปแล้ว เยี่ยเป่ยเฉิงก็น
Read more

บทที่ 249

ในประโยคสุดท้าย เขาพูดในจดหมายว่า ตอนที่คิดถึงเขา ก็ให้เขียนจดหมายถึงเขา ถ้าได้รับจดหมายจากเขาแล้ว ก็ให้ตอบจดหมายเขาด้วยในจดหมาย ไม่ได้บอกว่าคิดถึงนางเลย แต่ดูเหมือนว่าทุกตัวอักษรจะบอกว่าเขาคิดถึงนางมุมปากของหลินซวงเอ๋อร์มีรอยยิ้มอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ได้อ่านทุกตัวอักษรทุกประโยคแล้ว นางก็รู้สึกราวกับว่าเขากำลังเล่าให้นางฟังอย่างละเอียดแต่ทว่า เยี่ยเป่ยเฉิงที่อยู่ในจดหมายดูเหมือนจะอ่อนโยนกว่าเดิมมาก~ไม่เหมือนในความเป็นจริง ที่คอยแต่จะรังแกนางเท่านั้นนัยน์ตาคู่นั้นของหลินซวงเอ๋อร์จ้องมองจดหมายเป็นเวลานาน อ่านครั้งแล้วครั้งเล่า จากนั้นนางก็กอดจดหมายที่เยี่ยเป่ยเฉิงเขียนถึงนางแล้วนอนพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง นัยน์ตาคู่นั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ในหัวใจก็เต็มไปความหวานชื่นหลังจากนั้น หลินซวงเอ๋อร์ก็เก็บจดหมายเอาไว้เป็นอย่างดีราวกับว่าเป็นของที่ล้ำค่ามาก จากนั้นก็ลุกขึ้นแล้วเขียนจดหมายตอบกลับเยี่ยเป่ยเฉิงหลังจากเขียนจดหมายแล้ว หลินซวงเอ๋อร์ก็คิดที่นำจดหมายไปส่งที่สถานี และหวังว่าเยี่ยเป่ยเฉิงจะได้อ่านมันเร็วๆในขณะที่ออกไป ก็บังเอิญพบกับตงเหมยเมื่อเห็นตงเหมยเห็นหลินซวงเอ๋อร์มีท่าทา
Read more

บทที่ 250

ตงเหมยมาจวนไป๋อย่างกระวนกระวายใจ ยังไม่ทันได้เข้าไปก็ถูกองครักษ์ที่ถือดาบสองคนขวางเอาไว้“ เจ้าเป็นใคร เหตุใดต้องบุกเข้าไปในจวนไป๋! ”ตงเหมยตัวสั่นเทา และแข็งทื่ออยู่กับที่ทันที เพราะกลัวว่าหากก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวหนึ่ง หัวของนางจะต้องย้ายบ้านอย่างแน่นอน“พี่ชายทั้งสอง ข้ามาจากจวนหย่งอัน มีเรื่องเร่งด่วนจึงอยากจะขอพบใต้เท้าไป๋”องครักษ์กล่าวว่า: "ใต้เท้าพักผ่อนแล้ว คนที่ไม่เกี่ยวข้องห้ามรบกวน!"ตงเหมยไม่กล้าเข้าใกล้อีก แต่สถานการณ์คับขันมาก นางจึงจำเป็นต้องเสี่ยง โดยการตะโกนเรียกอยู่ที่นอกประตูจวน“ใต้เท้าไป๋ ใต้เท้าไป๋ ได้โปรดออกมาข้าด้วย ข้ามีเรื่องด่วนจะคุยกับท่าน”เสียงของนางดังก้องกังวาน จึงรบกวนคนในค่ำคืนอันเงียบสงบนี้ได้เป็นอย่างดีในขณะนี้ จวนไป๋ไป๋อวี้ถังเคยชินกับการนอนดึก และกำลังนั่งอ่านตำราอยู่ในห้องหนังสือมีเสียงเอะอะโวยวายดังมาจากนอกประตูจวน เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย เรียกองครักษ์ที่อยู่นอกประตูมา แล้วถามว่า "ใครกันที่ส่งเสียงดังอยู่ข้างนอก?"องครักษ์กล่าวว่า: "สาวใช้คนหนึ่งขอรับ"ไป๋อวี้ถังกล่าวอย่างสงบนิ่งว่า: "ไล่นางออกไปเสีย!"ไป๋อวี้ถังไม่ชอบให้คนรบกวน แม้แต
Read more
PREV
1
...
2324252627
...
63
DMCA.com Protection Status