บททั้งหมดของ ทาสสาวพราวพิลาส: บทที่ 101 - บทที่ 110

625

บทที่ 101

“ หลินซวงเอ๋อร์ ช่วยดับไฟราคะให้ข้าหน่อย…”เสียงของเยี่ยเป่ยเฉิงดังก้องอยู่ในหู ร่างของหลินซวงเอ๋อร์ถูกกดทับไว้ภายใต้ร่างของเขาอย่างแรงไม่ง่ายเลยที่จะติดกระดุมเสื้อได้แต่เขากลับปลดมันอย่างง่ายดายเมื่อนางตอบสนองได้ จูบอันเร่าร้อนก็จุมพิตไปลงบนลำคอของนางแล้ว...ร่างกายของหลินซวงเอ๋อร์สั่นเทาอย่างรุนแรง จากนั้นก็ดันตนเองลุกขึ้นแล้วถอยหลังกลับไปตามสัญชาตญาณแต่เยี่ยเป่ยเฉิงดูเหมือนจะถูกปีศาจครอบงำ คว้าเอวของนางเอาไว้ แล้วดึงนางกลับมาน้ำในอ่างยังคงมีไอร้อนอยู่ ทั้งห้องก็เต็มไปด้วยไอน้ำ ท่ามกลางไอหมอกที่เปียกชื้น ผสมกับกลิ่นหอมที่คุ้นเคยกลิ่นนั้นคนที่อยู่ใต้ร่างกายนัยน์ตาเจิ่งนองไปด้วยน้ำตา ดูเหมือนกำลังจะร้องขอความเมตตาอย่างเงียบๆ“อย่ากลัวเลย…” น้ำเสียงต่ำทุ้มอันแหบแห้ง ท่ามกลางไอหมอกที่ปกคลุม ทำให้มีความรู้สึกที่สับสนคลุมเครืออย่างบอกไม่ถูก“เจ้าต้องการอะไร ข้าจะให้เจ้าทั้งหมด...”สถานะ?หรือเครื่องประดับเงินทอง?หรือว่าจะเป็นภูเขาเงินภูเขาทอง?ก็ได้ทั้งนั้น ถ้านางอยากได้ เขาให้นางได้ทั้งหมด!ในขณะนี้ แม้ว่าจะเป็นสุริยันจันทราบนท้องนภา ถ้าหลินซวงเอ๋อร์อยากได้ เขาก็จะเด็ด
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 102

ดูเถิด นายท่านก็คือนายท่าน มีเหตุผลก็จะต้องเลือกเวลาเยี่ยเป่ยเฉิงสัมผัสได้ถึงการต่อต้านของนาง ดังนั้นจึงเคลื่อนไหวอ่อนโยนมากขึ้น พร้อมกับกระซิบข้างหูนางว่า "ข้าบอกแล้วว่า เจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ้าได้ทั้งหมด"ไม่ว่านางอยากจะเป็นอนุภรรยา หรือว่าอยากจะเป็นพระชายา เขาสามารถทำให้นางได้ทั้งหมดขอแค่นางเอ่ยปากขอ เขาเยี่ยเป่ยเฉิงสามารถฟูมฟักทะนุถนอมนางไว้ในอุ้งมือเป็นอย่างดีได้หลินซวงเอ๋อร์ยังคงส่ายหัว: "ข้าไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น... "ไม่ต้องการอะไรเลยหรือ?เยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อยเป็นไปได้ไหมว่า นางจะอยากได้พระจันทร์บนท้องฟ้าจริงๆ?หรือนางคิดว่าเขาเยี่ยเป่ยเฉิง ไม่สามารถให้สิ่งที่ดีๆแก่นางได้?“เจ้าแน่ใจหรือว่าไม่อยากได้?”เขาก็ไม่รู้ว่าจะถามนางเกี่ยวกับด้านไหน สรุปคือ เขาอยากที่จะยืนยันอีกครั้งก็เท่านั้นนัยน์ตาของหลินซวงเอ๋อร์เต็มไปด้วยน้ำตา พยักหน้าอย่างแน่วแน่มั่นคงเยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้ว“มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเจ้า…” เยี่ยเป่ยเฉิงเข้าจู่โจมอีกครั้ง เขาไม่เคยควบคุมตนเองไม่ได้ขนาดนี้ น่าจะเป็นเพราะรักษาพรหมจรรย์มาเป็นเวลายี่สิบปี จึงทำให้เก็บกดมาจนถึงตอนนี้เขาโน้มต
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 103

หลินซวงเอ๋อร์วิ่งร้องไห้กลับไปที่ห้องสาวใช้หลายคนที่กำลังทำงานอยู่ที่ลานบ้าน เมื่อเห็นลักษณะท่าทางของหลินซวงเอ๋อร์ ก็เริ่มกระซิบถกเถียงกันเบาๆ หนึ่งในนั้นก็มีชิวจวี๋อยู่ด้วยพอชิวจวี๋เห็นหลินซวงเอ๋อร์ก็รู้สึกคันเกลียดชังเป็นอย่างมากนางว่าแล้วทำไมท่านอ๋องถึงไม่ค่อยอยากพบนาง ทันทีที่เห็นหลินซวงเอ๋อร์ นางก็เข้าใจขึ้นมาทันทีว่า ท่านอ๋องจะต้องถูกนังจิ้งจ้องคนนี้ล่อลวงเป็นแน่!เมื่อชิวจวี๋เห็นสีแดงสดบนกางเกงของนาง ก็รู้สึกประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นสีหน้าก็เคร่งขรึมลงแล้วกล่าวอย่างเกลียดชังว่า: "เห็นไหม? เป็นนาง ที่ปลอมตัวเข้ามาในจวนอ๋อง เพื่อจงใจล่อลวงท่านอ๋อง ข้าบอกแล้วว่าหน้าตางของนางเหมือนนังจิ้งจอก ที่แต่นางก็เป็นสตรีจริงๆ"สาวใช้อีกคนชื่อจื่ออวิ๋นกล่าวว่า: "แต่ข้าเห็นว่าปกติแล้วนางเป็นคนที่เคร่งครัดในกฎเกณฑ์มากเลยนะ นางจะทำสิ่งที่ไร้ยางอายเช่นนี้ได้อย่างไร?"ชิวจวี๋เม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "สุนัขที่กัดคนไม่เคยเห่า! ไม่เห็นหรือ? เมื่อสักครู่นางเพิ่งจะออกมาจากห้องของท่านอ๋องด้วยการแต่งตัวแบบนี้ ใครจะไปรู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่!"“พวกเจ้าดูท่าทางที่นางร้องไห้สิ คงจะถูกท่านอ๋องดุ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 104

หลินซวงเอ๋อร์ขยับริมฝีปาก แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่สามารถอดกลั้นเอาไว้ได้ จึงเล่าเรื่องทุกอย่างที่ท่านอ๋องทำกับนางเมื่อเมื่อสักครู่นี้ให้ตงเหมยฟัง"ท่านอ๋อง... เขาทำต่อเจ้าหรือ? ใช่หรือ?"ตงเหมยปล่อยมือ และพูดไม่ออกอยู่ครู่หนึ่งหลังจากที่ตกตะลึงไปสักครู่ใหญ่ๆ ตงเหมยก็ตั้งสติได้ และพูดด้วยความประหลาดใจว่า: "ไม่น่าแปลกใจที่นายหญิงไม่ได้ลงโทษเจ้า แถมยังปล่อยให้เจ้ารับใช้ท่านอ๋องต่อไป เป็นไปได้ไหมว่าท่านอ๋องจะขอร้องแทนเจ้า"หลินซวงเอ๋อร์ไม่รู้ ตอนนี้สมองของนางสับสนมากตงเหมยคาดเดาว่า: "เจ้าว่า ท่านอ๋องปฏิบัติต่อเจ้าแบบนั้น คงจะไม่ได้ชื่นชอบเจ้าจริงๆใช่ไหม?"ก่อนที่หลินซวงเอ๋อร์จะปฏิเสธ ตงเหมยก็ส่ายหัวปฏิเสธด้วยตนเอง: "เป็นไปไม่ได้ ท่านอ๋องสถานะสูงส่ง มีสตรีแบบไหนบ้างที่ท่านไม่เคยพบเจอ บางที อาจจะเป็นเพราะธรรมชาติของผู้ชาย ที่ชอบความแปลกใหม่.... "หลินซวงเอ๋อร์เห็นด้วยกับเรื่องนี้เป็นอย่างมากตงเหมยเหลือบมองหลินซวงเอ๋อร์อย่างมีนัยความหมาย จากนั้นก็ลดเสียงลง แล้วกล่าวว่า "ถ้าท่านอ๋องต้องการเจ้าจริงๆ เขาอาจจะเลื่อนตำแหน่งให้เจ้าเป็นอนุภรรยา เมื่อถึงเวลานั้น ที่เรือนฝั่งตะวันออกแห่งนี้ เจ้าก็
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 105

ในที่สุดกงชิงเยวี่ยก็อดรนทนไม่ไหว เรียกหลินซวงเอ๋อร์ไปที่ลานจวนของนางเพื่อซักถามบนขั้นบันได กงชิงเยวี่ยถือลูกปัดพุทธเอาไว้ในมือ และจ้องมองไปที่หลินซวงเอ๋อร์ด้วยนัยน์ตาที่เหยียดหยามผู้หญิงคนนี้ที่คุกเข่าอยู่ในลานจวน เป็นเพียงสาวรับใช้ที่ต่ำต้อยที่สุดในจวน ไม่คู่ควรแม้แต่จะถือรองเท้าให้บุตรชายของนางเสียด้วยซ้ำ!นางพินิจผู้หญิงคนนี้ คิ้วที่ยาวและเชิดขึ้นเล็กน้อย นัยน์ตาที่สดใส จมูกอันเรียวเล็ก และริมฝีปากที่เม้มเล็กน้อยนั้น ดึงดูดผู้คนยิ่งกว่านังจิ้งจอกเสียอีกกงชิงเยวี่ยหลับตา ลูกปัดในมือของนางก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว แต่ไฟโทษะที่อยู่ในใจทำอย่างไรก็ดับไม่ได้หลินซวงเอ๋อร์คุกเข่าสองชั่วยามแล้ว กงชิงเยวี่ยก็ไม่ได้พูดอะไร ดังนั้นนางจึงทำได้แค่คุกเข่าต่อไปแสงอาทิตย์ยามบ่ายทั้งแสบทั้งร้อน และแผดเผาแผ่นดินอย่างโหดร้าย และไม่มีวี่แววว่าลมจะพัดผ่านมาเลย ความร้อนแผ่ซ่านไปทั่วรูขุมขน แทบจะทำให้คนหายใจไม่ออกก้อนกรวดที่อยู่บนพื้นทำให้เข่าของหลินซวงเอ๋อร์เจ็บ ผมเผ้าของนางก็เปียกโชกไปด้วยเหงื่อ นัยน์ตาที่สดใสคู่นั้น ในเวลานี้ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงกำลัง และเต็มไปด้วยความสับสนในท้ายที่สุด ท่านป้า
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 106

หลินซวงเอ๋อร์กำฝ่ามือเอาไว้แน่น ระงับอารมณ์ในใจ พูดด้วยน้ำเสียงไม่หยิ่งยโสและไม่ทำตนให้ต่ำต้อยว่า: "ข้ามีคนรักแล้ว ความหวังดีนายหญิง ข้าขอน้อมรับเอาไว้"“มีคนรักแล้ว?” กงชิงเยวี่ยเลิกคิ้ว แล้วจ้องมองนางด้วยความสนใจ: "เป็นบ่าวรับใช้ที่ทำงานเบ็ดเตล็ดในจวนหรือ? เดี๋ยวข้าจะให้ท่านป้าจ้าวเลือกวันมงคลให้กับเจ้า และกำหนดวันแต่งงานให้ ให้คุ้มกับที่เจ้าทุ่มเททำงานให้กับจวนโหวในช่วงเวลาสองปีที่ผ่านมานี้"หลินซวงเอ๋อร์กล่าวว่า: "เรื่องแต่งงานของข้าข้าจะตัดสินใจด้วยตนเองค่ะ"อยู่ในจวนโหว ไม่อาจทำตามใจตนเองได้ นางสามารถประพฤติตนเหมาะสมได้อย่างไม่ละอายใจ แต่เรื่องแต่งงาน นางอยากตัดสินใจด้วยตนเอง แม้ว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านางจะเป็นกงชิงเยวี่ย แต่นางก็ไม่มีสิทธิ์มาตัดสินใจเรื่องแต่งงานแทนหลินซวงเอ๋อร์!นางนั่งหลังตรง นัยน์ตาที่ชัดใสคู่นั้นจ้องมองไปที่กงชิงเยวี่ย กงชิงเยวี่ยมองเห็นท่าทีที่โอหังถือดีในตัวนาง“ช่างเถิด แล้วแต่เจ้า วันนี้ที่เรียกเจ้ามา ข้ามีเพียงคำขอเดียว จำสถานะของเจ้าเอาไว้ เจ้าเข้าใจไหม?” น้ำเสียงของกงชิงเยวี่ย เย็นชาขึ้นเรื่อยๆคนที่นางหลินซวงเอ๋อร์ชื่นชอบจะมีอะไรพิเศษไปกว่าคนอื่
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 107

เยี่ยเป่ยเฉิงพานางไปที่เรือนฝั่งตะวันออก เตะประตูให้เปิดออก แล้วอุ้มหลินซวงเอ๋อร์เข้าไปในเรือนอวิ๋นซวนหลินซวงเอ๋อร์ทั้งรู้สึกอายทั้งรู้สึกกลัดกลุ้ม สีหน้าของนางแดงก่ำด้วยความโกรธนางเพิ่งจะรับปากกับกงชิงเยวี่ย ว่าจะระวังสถานะของตนเอง และรักษาระยะห่างที่เหมาะสมกับเยี่ยเป่ยเฉิงสุดท้าย... เขากลับอุ้มนางกลับไปที่เรือนฝั่งตะวันออกต่อหน้ากงชิงเยวี่ย...ถ้าเป็นเช่นนี้ ต่อไปคนในจวนจะคิดกับนางอย่างไร?แล้วนางจะปักหลักอยู่ในจวนโหวแห่งนี้ได้อย่างไร?หลังจากเข้าไปในเรือน เยี่ยเป่ยเฉิงก็วางนางลง เค้กหอมหมื่นลี้ที่อยู่บนโต๊ะเป็นของที่ตั้งใจซื้อมาให้ตอนที่เขากลับจวนทันทีที่เยี่ยเป่ยเฉิงวางนางลง หลินซวงเอ๋อร์ก็ถอยหลังไปสองสามก้าว เพื่อรักษาระยะห่างกับเยี่ยเป่ยเฉิง ด้วยสีหน้าท่าทางที่ระแวดระวังนางอยากจะเงยหน้าขึ้นแล้วเผชิญหน้ากับเขา และถามเขาว่าเหตุใดถึงมักจะทำให้นางลำบากใจ เหตุใดถึงต้องอุ้มนางกลับเรือนต่อหน้าทุกคน ทำให้นางรู้สึกละอายใจ!แต่นางไม่กล้าต่อหน้าเยี่ยเป่ยเฉิง นางยังคงขี้ขลาดราวกับว่าเป็นหนู ความกดดันที่มองไม่เห็นของเยี่ยเป่ยเฉิงทำให้นางไม่กล้าแม้แต่จะพูดอะไรสักคำเยี่ยเป่ยเฉ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 108

นางโค้งคำนับให้เยี่ยเป่ยเฉิงอย่างสุดซึ้ง แล้วกล่าวกับเขาด้วยรอยยิ้มว่า "ขอบพระคุณท่านอ๋อง ท่านอ๋องช่างดีจริงๆ"นัยน์ตาของเยี่ยเป่ยเฉิงจ้องมองไปที่ลักยิ้มลูกแพร์ที่สวยงามทั้งสองข้างอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เบี่ยงเบนสายตาดูท่าทางที่ไม่เอาถ่านของนางสิ แค่ให้ผลประโยชน์เล็กๆน้อยๆ ก็ดีอกดีใจขนาดนี้ ไม่เอาไหนเลยจริงๆ...แต่ว่า คำเหล่านี้ใช้ได้ผลกับเยี่ยเป่ยเฉิงมาก อย่างน้อยก็ทำให้เขารู้สึกมีความสุขหลินซวงเอ๋อร์รีบนั่งลงทันที แล้วยัดเค้กดอกหอมหมื่นลี้หอม เข้าปากอย่างต่อเนื่อง ใบหน้าเล็กๆของนางก็นูนขึ้นมาทันทีเยี่ยเป่ยเฉิงก็ไม่กินเช่นกัน นัยน์ตาสีเข้มจ้องมองนางอยู่ครู่หนึ่งเขาพบว่าหลังจากที่ได้รับการพักฟื้นในช่วงนี้ ผิวพรรณของนางดูสดใสขึ้นมามาก ร่างกายก็ดูอวบอิ่มมากขึ้น และดูดีมีเสน่ห์มากกว่าแต่ก่อน ทำให้เขามองอย่างไรก็มองไม่พอ“กินช้าๆ จะไม่มีใครแย่งเจ้าหรอก”ทันทีที่พูดจบ หลินซวงเอ๋อร์ก็สำลักอย่างรุนแรงเยี่ยเป่ยเฉิงรีบรินน้ำให้นางหนึ่งแก้ว: "ข้าบอกให้เจ้ากินช้าๆ ถ้าชอบ ครั้งหน้าข้าจะซื้อมาให้เจ้าอีก"หลินซวงเอ๋อร์แทบจะทนรอไม่ไหว ที่จะออกจากจวนไปดูผลการประกาศ เพราะนางอยากรู้ว่าฉีห
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 109

ทั้งสองขึ้นรถม้าและมาถึงถนนฉางอานอย่างรวดเร็ว ในที่สุดก็หยุดอยู่หน้าร้านขายเสื้อผ้าแห่งหนึ่งก่อนหน้านี้หลินซวงเอ๋อร์ได้ยินตงเหมยพูดว่า ร้านนี้เป็นร้านเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ดีที่สุดในเมืองหลวง และตระกูลที่มีหน้ามีตาในเมืองฉางอานต่างก็มาสั่งตัดเสื้อผ้าที่นี่ แค่เลือกเสื้อผ้าชิ้นใดชิ้นหนึ่งที่อยู่ข้างในก็มีราคาเท่ากับเงินเดือนทั้งปีของหลินซวงเอ๋อร์แล้วเธอไม่เข้าใจว่าเหตุใดเยี่ยเป่ยเฉิงจึงพานางมาที่นี่ เพราะอย่างไรเสีย เสื้อผ้าของเขาทำโดยช่างตัดเสื้อที่เก่งที่สุดในเจียงหนาน จึงไม่จำเป็นต้องมาที่นี่เพื่อซื้อเสื้อผ้าเลย“เข้าไปเลือกสิ ชอบชุดไหนก็ซื้อชุดนั้น” เยี่ยเป่ยเฉิงพูดกับนางหลินซวงเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจนางจะซื้อเสื้อผ้าที่นี่ได้อย่างไร...จึงโบกมือซ้ำแล้วซ้ำเล่า สีหน้าของหลินซวงเอ๋อร์เต็มไปด้วยการต่อต้าน เพราะนางต้องการเก็บเงินไว้เพื่อไถ่ถอนตนเอง“ท่านอ๋อง ไม่จำเป็น จวนโหวแจกจ่ายเสื้อผ้าให้ข้าฟรีทุกปี ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองเงินจำนวนนี้”จวนโหวแจกจ่ายเสื้อผ้า?เยี่ยเป่ยเฉิงนึกถึงชุดผ้าลินินหยาบที่หลินซวงเอ๋อร์สวมใส่อยู่เป็นประจำ จึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเดิมท
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 110

เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าวว่า: "ไม่เป็นไร"หลินซวงเอ๋อร์แอบพินิจมองเขา และพบว่าดูเหมือนเขาจะไม่ได้โกรธเลย แถมตรงมุมปากยังมีรอยยิ้มเบาๆอีกด้วยมีอะไรน่าขันหรือ?หลินซวงเอ๋อร์กะพริบตา เพราะกลัวว่าตนเองจะมองผิดไป“ชอบไหม สามารถลองได้หมดเลยนะ” จู่ๆเยี่ยเป่ยเฉิงก็ลดระดับสายตาลงแล้วมองไปที่นาง และได้สบสายตากับนางเข้าพอดีอารมณ์ประมาณว่าแอบมองแล้วถูกจับได้ หลินซวงเอ๋อร์รีบเบี่ยงเบนสายตา หัวใจก็เต้นแรงเถ้าแก่เนี้ยประหลาดใจเล็กน้อย ดูไปดูมา คุณชายท่านนี้คงจะอยากซื้อเสื้อผ้าให้สาวน้อยผู้นี้?ดูเหมือนนางจะเข้าใจอะไรบางอย่าง เถ้าแก่เนี้ยรีบก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และแนะนำรูปแบบเสื้อผ้า ให้หลินซวงเอ๋อร์ด้วยความกระตือรือร้น แต่รูปแบบที่นางแนะนำล้วนเป็นรูปแบบเก่าของปีที่แล้ว ในเมื่อเป็นสาวใช้ สวมใส่เสื้อผ้าที่สูงส่งเหล่านั้นคงจะไม่สมควร เพราะท้ายที่สุดแล้ว มีเพียงสตรีที่มาจากตระกูลสูงศักดิ์เท่านั้นที่สามารถสวมใส่ได้...หลินซวงเอ๋อร์ก็ดูรูปแบบเสื้อผ้าตามที่เถ้าแก่เนี้ยแนะนำ แต่รูปแบบที่สีสันฉูดฉาด ไม่ใช่รูปแบบที่นางชื่นชอบ แต่เเยี่ยเป่ยเฉิงอยู่ด้วย แม้ว่านางจะไม่ชื่นชอบ นางก็ไม่กล้าแสดงออกมา จึงทำ
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
910111213
...
63
DMCA.com Protection Status