All Chapters of ทาสสาวพราวพิลาส: Chapter 111 - Chapter 120

625 Chapters

บทที่ 111

เยี่ยเป่ยเฉิงนำเก้าอี้มาแล้วนั่งลงทันทีจากนั้นไม่นาน หลินซวงเอ๋อร์ก็เดินออกมาจากห้องลองเสื้อเสื้อผ้าสูงส่งเช่นนี้ นางสวมด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง เพราะกลัวว่าตนเองจะทำให้เสื้อผ้าเสียหายตอนที่นางออกมาจากในนั้น ใบหน้าที่สวยงามของหลินซวงเอ๋อร์ดูเหมือนจะเจือปนไปด้วยสีแดงเล็กน้อยเถ้าแก่เนี้ยเคยเห็นสตรีผู้สูงศักดิ์ในเมืองหลวงมานับไม่ถ้วน แต่นางไม่เคยเห็นหญิงสาวคนไหนที่งามสง่าเท่ากับหลินซวงเอ๋อร์มาก่อนเลย ชุดกระโปรงนี้นางเห้นสตรีผู้สูงศักดิ์สวมใส่มานับไม่ถ้วน แต่กลับไม่มีใครสามารถสวมใส่มันได้อย่างมีเสน่ห์เหมือนนางเลยเถ้าแก่เนี้ยเดินไปรอบๆหลินซวงเอ๋อร์ครั้งแล้วครั้งเล่า นัยน์ตาของนางไม่อาจซ่อนความประหลาดใจเอาไว้ได้ นางแทบจะอยากยกย่องชื่นชมหลินซวงเอ๋อร์ตั้งแต่หัวจรดเท้าหลินซวงเอ๋อร์ไม่มีความเบิกบานใจเลย แต่บนใบหน้ากลับมีความรู้สึกที่ลำบากใจตั้งแต่นางเกิดมา นางไม่เคยสวมชุดราคาแพงเช่นนี้มาก่อนเลย ในอดีตมีเพียงช่วงตรุษจีนเท่านั้น ที่แม่ของนางจะเย็บชุดลายดอกไม้ให้นางด้วยตนเองแม้ว่าจะใช้วัสดุธรรมดา แต่นางก็ถือว่ามันเป็นสมบัติล้ำค่า และสวมใส่เพียงครั้งเดียวในช่วงเทศกาลวันตรุษจีน
Read more

บทที่ 112

แค่เปลี่ยนเสื้อผ้า ทำไมดุร้ายขนาดนี้ด้วย... หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกเสียใจเล็กน้อย“เปลี่ยนอะไร? สวมชุดนี้นี่แหละ” เยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อยเสื้อผ้าแบบนั้นควรจะทิ้งไปตั้งนานแล้ว แต่นางก็ยังถือว่ามันเป็นสมบัติอันล้ำค่า!"แต่...แต่ว่า" หลินซวงเอ๋อร์ยังคงพยายามอีกครั้ง“แต่อะไรล่ะ? แทนที่จะรู้สึกเสียใจกับชุดนั้น ควรจะคิดตรึกตรองว่า ควรจะทำอย่างไรถึงจะสลัดสถานะนี้ออกไปได้ไม่ดีกว่าหรือ!”เมื่อพูดประเด็นนี้ขึ้นมา เยี่ยเป่ยเฉิงก็โกรธโดยไม่มีเหตุผลเขาบอกเป็นนัยชัดเจนมากเพียงพอแล้ว และปฏิบัติต่อนางยังไม่ดีพอหรือ?เขาเก็บนางไว้ข้างกายของตนเอง ให้นางเข้าใกล้เขา สอนให้นางฝึกอ่านเขียน พาเนางออกไปเที่ยวกลางคืน ซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆให้นาง หรือแม้แต่จูบนางอย่างดูดดื่ม...นางไม่รู้สึกอะไรเลยหรือ?หรือว่านางไม่เข้าใจความรู้สึกของเขา?หัวใจของนางทำด้วยหินหรือ?ผู้หญิงโง่คนนี้ แม้ว่าจะส่งสัญญาณยังไงก็ไม่เข้าใจ หรือว่านางอยากให้เยี่ยเป่ยเฉิงลดศักดิ์ศรีของตนเอง มาขอร้องนางอย่างนั้นหรือ?จะเป็นไปได้อย่างไร!เขาเยี่ยเป่ยเฉิงจะยอมลดศักดิ์ศรีลงได้อย่างไร!เมื่อเห็นว่าสีหน้าเยี่ยเป่ยเฉิงเคร่งขรึมมาก ร
Read more

บทที่ 113

หลังจากที่หลินซวงเอ๋อร์เบียดตัวอยู่ในฝูงชน นางก็เขย่งเท้ามองเข้าไปข้างใน แต่นางไม่สูงพอ อีกทั้งยังผอมบาง ทำให้ไม่สามารถเบียดสู้ชายฉกรรจ์ร่างใหญ่เหล่านั้นได้ ไม่นานนางจึงถูกเบียดออกมาจากฝูงชนทันใดนั้นหลังของนางก็สัมผัสกับกำแพงเนื้อ และมีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นที่ข้างหู“อยากดูหรือ?” ไม่รู้ว่าเยี่ยเป่ยเฉิงมายืนอยู่ข้างหลังนางตั้งแต่เมื่อไหร่ จากนั้นเขาก็เอามือใหญ่ๆทั้งสองข้างพยุงเอวของนางเอาไว้หลินซวงเอ๋อร์พยักหน้า มอง เยี่ยเป่ยเฉิงอย่างกระตือรือร้นพร้อมกับนัยน์ตาที่สดใสนัยน์ตาของเยี่ยเป่ยเฉิงทั้งลังเลทั้งอ่อนโยน ทันใดนั้นเขาก็โน้มตัวลง แล้วอุ้มนางขึ้นมาหลินซวงเอ๋อร์อุทาน แล้วเอามือทั้งสองข้างโอบรอบคอของเขาไว้แน่นตามสัญชาตญาณ"ท่านอ๋อง... " ทันใดนั้นนางก็สูงขึ้นมาก เมื่อก้มศีรษะลง ทั้งสองก็อยู่ใกล้กันมาก ลมหายใจของเยี่ยเป่ยเฉิงกระทบที่ระหว่างคอของนาง“ตอนนี้มองเห็นแล้วหรือยัง?” เยี่ยเป่ยเฉิงกระชับแขนของเขา หลินซวงเอ๋อร์ก็นั่งบนแขนของเขาอย่างมั่นคงจากนั้นหลินซวงเอ๋อร์ก็เงยหน้าขึ้นแล้วมองไปตรงที่ที่มีการติดประกาศผลของทางการ“ตอนนี้ข้าเห็นแล้ว” ไม่เพียงแต่สามารถมองเห็นได้ แต่สา
Read more

บทที่ 114

ไม่สิ นางคิดเรื่องเหล่านี้ไปเพื่ออะไร?หลังจากฉุกคิดได้ หลินซวงเอ๋อร์ก็ดูรายชื่อปิดประกาศอีกครั้ง พอยืนยันว่าชื่อของ ฉีหมิงอยู่ลำดับที่หนึ่งแล้ว จากนั้นนางก็รู้สึกโล่งใจ“ท่านอ๋อง ท่านปล่อยข้าพระองค์ลงเถิด ข้าไม่อยากดูอีกต่อไปแล้ว”ไม่เพียงแต่เยี่ยเป่ยเฉิงจะไม่ปล่อยนางลงมาในทันที แขนทั้งสองข้างของเขา ยังโอบกอดนางเอาไว้แน่นอีกด้วยเขากล่าวว่า: "ไม่ดูอีกสักพักหรือ?"ร่างกายของนางเบามาก และนุ่มนวลไปทั้งตัว นอกจากนี้เยี่ยเป่ยเฉิงยังได้กลิ่นหอมพิเศษที่เล็ดลอดออกมาจากบนตัวนางเป็นครั้งคราว ซึ่งเป็นกลิ่นที่สดชื่นสง่างาม ทำให้ผู้คนรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขเป็นอย่างมากเยี่ยเป่ยเฉิงจึงไม่สามารถวางนางลงได้ชั่วขณะหนึ่ง ดังนั้นจึงมีความคิดที่จะกอดนางให้นานขึ้นแต่ทันใดนั้น เขารู้สึกว่าความคิดของเขาค่อนข้างที่จะตลกเขาอยากจะกอดก็ดอดเได้ทุกเมื่อ เหตุใดต้องหาข้อแก้ตัวเหล่านี้ทุกครั้งไปหลินซวงเอ๋อร์กล่าวว่า: "ข้าไม่อยากดูแล้ว ข้าอยากจะลงมา"การที่เยี่ยเป่ยเฉิงอุ้มนางไว้แบบนี้ ค่อนข้างสะดุดตาคน หลินซวงเอ๋อร์แทบอยากจะลงมาจากบนตัวของเขาเดี๋ยวนั้นเลยเมื่อเห็นนางดิ้นรน เยี่ยเป่ยเฉิงก็ปล่อยตัวน
Read more

บทที่ 115

ไป๋อวี้ถังกำลังจะให้คนขับรถม้าหยุดรถ เมื่อรถม้าไปถึงถนนกว้าง คนขับรถม้าก็ยกแส้ขึ้น ล้อรถก็หมุนไปอย่างรวดเร็ว หญิงสาวผู้นั้นก็หายไปจากสายตาอย่างรวดเร็วไป๋อวี้ถังปิดม่านลงอย่างเสียใจ นั่งอยู่บนเกี้ยว ไม่สามารถฟื้นฟูความรู้สึกได้เป็นเวลานาน“โลกใบนี้ นึกไม่ถึงว่าจะมีหญิงสาวที่สวยงามหยาดเยิ้มขนาดนี้…” โดยเฉพาะนัยน์ตาคู่นั้น ที่ปราศสิ่งสกปรก และเป็นนัยน์ตาที่สะอาดสะอ้านที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาแต่น่าเสียดาย ที่ทำได้แค่มองอย่างรวดเร็ว และยังไม่ทันได้ถามชื่อของนางก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นนางในเมืองฉางอานมาก่อนเลย และไม่รู้ว่านางมาจากไหน และไม่รู้ว่าเมื่อใดที่จะได้พานพบนางอีก...ความเสียใจนี้กลายเป็นโรคใจของไป๋อวี้ถัง และไม่สามารถสลัดความทุกข์นี้ไปได้เป็นเวลานาน…...เยี่ยเป่ยเฉิงห่อนกพิราบตุ๋นให้นางหนึ่งตัว และยังซื้อเค้กดอกหมื่นลี้หอมให้นางอีกหนึ่งกล่อง เพื่อจะได้นำกลับไปกินที่จวนหลังจากกลับมาถึงจวนแล้ว เยี่ยเป่ยเฉิงก็ยื่นนกพิราบตุ๋นและเค้กขนมหมื่นลี้ให้กับหลินซวงเอ๋อร์ และพูดกับนางด้วยน้ำเสียงที่ออกคำสั่งว่า: "กินให้หมด ห้ามเหลือ"หลินซวงเอ๋อร์คุ้นเคยกับท่าทีที่เผด็จการของเยี่ยเป่ยเฉิ
Read more

บทที่ 116

หลินซวงเอ๋อร์อยากจะเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ตงเหมยก็รีบห้ามนางเอาไว้: "เปลี่ยนเพื่ออะไร? อีกสักพักให้ชิวจวี๋ได้เห็น นางจะต้องอกแตกตายเป็นแน่!" หลังจากนั้นไม่นาน ตงเหมยก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไปอีกครั้งหลินซวงเอ๋อร์เป็นคนที่ประหยัด จะยอมซื้อเสื้อผ้าสวยๆแบบนี้ได้อย่างไร?ตงเหมยมองดูหลินซวงเอ๋อร์อย่างมีนัยความหมาย แล้วถามว่า "หรือว่าท่านอ๋องเป็นคนซื้อให้เจ้า?"หลินซวงเอ๋อร์พยักหน้า ก็เขานั่นแหละที่เป็นคนซื้อให้!ก่อนที่ตงเหมยจะรู้สึกประหลาดใจ ทันใดนั้นนางก็ได้กลิ่นหอมอันเย้ายวนใจ แล้วมองตามกลิ่นหอมนั้นไป ก็เห็นนกพิราบตุ๋นและขนมเค้กจำนวนหนึ่งอยู่บนโต๊ะ จากนั้นนัยน์ตาของนางก็เปล่งประกายทันที“ว้าว นกพิราบตุ๋นฃหอมจัง เอ๊ะ? นี่คือเค้กดอกหอมหมื่นลี้หอมใช่ไหม?”ตงเหมยหยิบเค้กดอกหอมหมื่นลี้ขึ้นมาหนึ่งชิ้นแล้วนั่งข้างๆหลินซวงเอ๋อร์ พลางกินพลางถามว่า "ท่านอ๋องซื้อทั้งหมดนี้ให้เจ้าหรือ?"หลินซวงเอ๋อร์ยอมรับตงเหมยกล่าวว่า: "ท่านอ๋องใจดีกับเจ้ามากเลยนะ ทั้งซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้เจ้า ทั้งซื้อเค้กขนมดอกหอมหมื่นลี้ให้เจ้า เหตุใดตอนที่ชิวจวี๋เป็นสาวใช้ถึงไม่ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้?เป็นเพราะซวงเอ๋อร์
Read more

บทที่ 117

หออวี๋นเซียวเยี่ยเป่ยเฉิงวางหมากล้อมดำแล้วหยิบหมากล้อมขาวสองสามตัวขึ้นมาเมื่อสังเกตเห็นว่าวันนี้จิตใจของไป๋อวี้ถังไม่ได้อยู่ที่เกมหมากล้อม เยี่ยเป่ยเฉิงก็รู้สึกว่าเป็นการชนะที่ไม่ยุติธรรม และไม่น่าสนุกเลยเยี่ยเป่ยเฉิงจึงโยนหมากล้อมดำที่อยูในมือกลับไป จิบชาพร้อมกล่าวว่า: "ไม่เล่นแล้ว ไม่รู้ว่าจิตใจของสหายไป๋ลอยไปแห่งหนใด จิตใจถึงไม่ได้อยู่ในเกมหมากล้อมเลย ข้ารู้สึกชนะแบบไม่ยุติธรรมเลย "ไป๋อวี้ถังไม่มีอารมณ์เล่นหมากล้อมจริงๆ นับตั้งแต่เขาได้พบกับหญิงสาวผู้นั้น เขาก็นอนไม่หลับ และช่วงนี้ก็ไปถนนฉางอานอยู่บ่อยครั้ง เพื่อหวังว่าจะได้พบนางอีกครั้งน่าเสียดายที่ ตั้งแต่วันนั้น เขาก็ไม่ได้พบเห็นนางอีกเลยไป๋อวี้ถังก็โยนหมากล้อมกลับไปเช่นกัน และมองออกไปนอกหน้าต่าง ภาพการพบกับหญิงสาวในวันนั้นก็ผุดขึ้นมาในสมองโดยที่ไม่รู้ตัว ราวกับว่าเพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ เพียงแต่ตอนนี้มุมถนนที่นางเคยยืนอยู่ตรงนั้นนั้นว่างเปล่า และไม่มีสาวสวยคนนั้นให้เหลือบมองอีกแล้ว“กำลังคิดอะไรอยู่น่ะ? ข้าหาเวลามาประลองหมากล้อมกับเจ้า ไม่ได้มาเพื่อดูเจ้าเหม่อลอย” เยี่ยเป่ยเฉิงใช้นิ้วมือเคาะลงบนโต๊ะ เพื่อเตือนให้
Read more

บทที่ 118

ไป๋อวี้ถังฟังการเยาะเย้ยเสียดของเขาออกอย่างแน่นอน จึงพูดทันทีว่า: "นางไม่ใช่คนแบบนั้น ไม่ใช่คนที่มีเล่ห์กล จะไม่มีนัยน์ตาที่สะอาดเช่นนั้น""โอ้? สะอาด?"เยี่ยเป่ยเฉิงหัวเราะอีกครั้ง แล้วใช้คำเตือนดั้งเดิมที่ไป๋อวี้ถังเคยเตือนเขาว่า: "ถ้าเห็นเจ้ารับราชการมานานแล้ว จึงไม่เข้าใจสตรีเลย สตรีเสแสร้งเก่งเป็นที่สุด ยิ่งคนที่มีเล่ห์กลมาก ภายนอกก็ยิ่งแสร้งทำเป็นไร้เดียงสาและไม่เป็นอันตราย สิ่งนี้จะสามารถกระตุ้นความปรารถนาของผู้ชายที่จะปกป้องนางได้... หวังว่าสหายไป๋ จะไม่หลงใหลกับรูปลักษณ์ภายนอก..."พูดจบ เขาก็จิบชาอย่างสบายๆ แล้วมองไป๋อวี้ถังด้วยหางตา เมื่อเห็นสีหน้าย่ำแย่ของเขา ก็ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกมีความสุขตอนที่ตักเตือนเขา ก็ใช้วาทศิลป์เช่นนี้ คราวนี้เขาจะต้องคว้าโอกาสนี้เอาไว้ให้ได้! จะต้องหัวเราะเยาะเขาให้เต็มที่!ทุกประโยค เยี่ยเป่ยเฉิงแทบจะเอาทุกคำพูดที่ไป๋อวี้ถังพูดกับเขาในตอนนั้น ส่งคืนให้เขาไปโดยไม่ตกหล่นแม้แต่เพียงคำเดียวไป๋อวี้ถังยิ้มพร้อมส่ายหัว คำตักเตือนที่ตนพูดกับเยี่ยเป่ยเฉิงในตอนนั้นได้กลายเป็นวาทกรรมที่เขาใช้หัวเราะเยาะเขาในตอนนี้ไป๋อวี้ถังกล่าวว่า: "ดวงตาของค
Read more

บทที่ 119

แสงแดดยามอรุณเล็ดลอดผ่านหมอกอันหนาทึบ สาดแสงเข้าไปในสวนดอกไม้ที่เต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีสันสาวใช้หลายคนในลานจวนกำลังยุ่งวุ่นวายอยู่ในสวนดอกไม้ในยามเช้าเมื่อวานนี้เขาสอนหลินซวงเอ๋อร์ฝึกคัดอักษรวิจิตรดึกมาก วันนี้ในตอนเช้าเยี่ยเป่ยเฉิงจึงตื่นสายกว่าปกติเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงดังในลานจวน เยี่ยเป่ยเฉิงก็เรียกหาหลินซวงเอ๋อร์สองครั้งในห้อง แต่ก็ไม่มีการตอบสนองใดๆ เขาจึงลุกขึ้น แล้วสวมเสื้อคลุมแบบลวกๆ เปิดประตู ยกเท้าขึ้นและกำลังจะออกจากประตูไป แต่กลับหยุดก้าวเท้ากะทันหันสายตาของเยี่ยเป่ยเฉิงจับจ้องไปที่หญิงสาวที่อยู่ไม่ไกล มองแค่ครั้งเดียว แก็ไม่สามารถละสายตาออกไปได้อีกเลยแสงยามเช้าอันสดใสเล็ดลอดผ่านต้นไห่ถังที่บานสะพรั่ง ทำให้กลายเป็นแสงเล็กๆที่ตกกระทบบนตัวของหญิงสาววันนี้นางเปลี่ยนเป็นชุดสีม่วงควันบุหรี่ ซึ่งเป็นชุดที่เขาตั้งใจเลือกให้นาย ช่างเหมาะกับนางมากจริงๆใต้ต้นไห่ถัง หญิงสาวรูปร่างผอมเพรียวมองดูต้นไห่ถังที่กำลังชูช่อบานสะพรั่ง พร้อมกับสัมผัสถึงสายลมที่พัดโชยมา ปล่อยให้สายลมพัดชายกระโปรงของนาง ปล่อยให้เส้นผมตรงขมับปลิวไปตามสายลม ตามที่สายลมต้องการนัยน์ตาที่สุกใสคู่นั้น
Read more

บทที่ 120

“นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเด็ด คราวหน้าข้าจะไม่กล้าทำอีกแล้ว ท่านอ๋องอย่าตัดมือข้าได้หรือไม่?”นางคุกเข่าลงต่อหน้าเขา ตอนที่นางเงยหน้าขึ้นมองเขา ในดวงตาที่สดใสก็เต็มไปด้วยความขี้ขลาดและความกลัวเยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อยเขาจะตัดมือนางเมื่อไหร่กัน?หลังจากไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจ และถามนางว่า: "ใครบอกเจ้าว่า เด็ดดอกไม้จะต้องถูกตัดมือ?"หลินซวงเอ๋อร์มองเขาอย่างงงงวย: "นี่ไม่ใช่กฎของจวนโหวหรือคะ?"เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า "ข้าใจร้ายใจดำขนาดนี้เลยหรือ?"แค่เด็ดดอกไม้ดอกเดียวถึงต้องตัดมือข้างหนึ่ง คนนอกรู้ว่ากฎของจวนโหวเข้มงวดมากขนาดนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงก็คงจะไม่กลายเป็นปีศาจที่สังหารผู้คนโดยไม่กะพริบตา?ความกดดันที่มองไม่เห็นปะทะมาที่หน้าของนาง หลินซวงเอ๋อร์ก้มศีรษะลงและไม่กล้าพูดอะไรทันใดนั้นภายในห้องก็เงียบลง หลินซวงเอ๋อร์กำลังรอที่จะถูกเขาลงโทษจากนั้นไม่นาน เสียงของเขาก็ดังมาจากเหนือศีรษะ แต่ไม่ได้หมายที่จะลงโทษนาง“ถ้าเจ้าชื่นชอบ ดอกไม้ทั้งหมดในสวนนี้ เจ้าสามารถเด็ดได้เลย”“อะไรนะ?” หลินซวงเอ๋อร์คิดว่าตนเองได้ยินผิดอีกแล้ว จึงเงยหน้าขึ้นมอง แต่กลับเห
Read more
PREV
1
...
1011121314
...
63
DMCA.com Protection Status