จั๋วซือหรานเพิ่งยื่นนิ้วออกไป เจ้าก้อนเนื้อสีม่วงจางตัวนี้ก็ดูร่าเริงขึ้นมาจากความห่อเหี่ยวก่อนหน้าทันทียิ่งไปกว่านั้นยังคิดจะปีนตามนิ้วจั๋วซือหรานไปที่ฝ่ามือนางด้วยแล้วก็ถูกจั๋วซือหรานจับคว้าเอาไว้ บีบมันอย่างไม่เกรงใจ บีบจนมันร้องกี๊ซกี๊ซ แต่ฟังแล้วไม่เหมือนกำลังลำบากใจ แต่เหมือนจะดีใจเสียมากกว่าชิ่งหมิงมองอยู่ข้างๆ อิจฉาหน่อยๆแต่อันที่จริงในหูของจั๋วซือหราน ความหมายของเสียงกี๊ซกี๊ซของเจ้าก้อนเนื้อตัวนี้ที่ส่งมา เหมือนจะกำลัง "ฮือๆๆ..."คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเจ้าขี้แย จั๋วซือหรานคิดในใจจากนั้นจึงตั้งชื่อให้กับเจ้าขี้แยตัวนี้ เรียกว่าขนมเผือกกวนแล้วกันจั๋วซือหรานมองสีม่วงอ่อนสวยงามบนตัวขนมเผือกกวน แหงนตาขึ้นมองชิ่งหมิง"ไฟวิเศษของเจ้าสีม่วงหรือ?" จั๋วซือหรานถามชิ่งหมิงตกตะลึง จากนั้นจึงพยักหน้า "ใช่ เพลิงม่วงบัวคราม ที่แท้ก็เกี่ยวข้องกับสิ่งนี้สินะ ข้าก็ว่าทำไมสีมันถึงเปลี่ยนไป...""อืม" จั๋วซือหรานเอาพวกมันออกมา "พวกนี้ที่เปลี่ยนสีไปก็เพราะสูดรับเอาไฟวิเศษเข้ามา"ตอนนี้ในมือนางมีเปลวเพลิงหรงเยี่ยนของขนมถั่วแดง เปลวเพลิงรุ่ยซินของขนมมะม่วง ไฟเย็นข่งเชวี่ยของขนมชาเขียว เป
Read more