แชร์

บทที่ 812

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
ชิ่งหมิงเอ่ยขึ้นข้างๆ "ท่านลุงก็แค่มาอยู่กับข้าน่ะ ลองดูสิว่ามีอะไรช่วยได้ไหม"

ชิ่งหมิงชี้นิ้ว "ท่านลุงช่วยตากยามาตลอดเลย"

"อย่างนี้นี่เอง เช่นนั้นก็ขอบคุณใต้เท้ามาก" จั๋วซือหรานยิ้ม

เวินป๋อยวนมองเขา "วิชาหลอมยาของเจ้าก็พัฒนาขึ้นอีกแล้ว อีกไม่นาน สำนักใหญ่ต่างๆจะร่วมกันจัดงานหลอมสกัดยา เจ้าไม่ไปลองดูหน่อยหรือ?"

จั๋วซือหรานยิ้ม "เดิมทีก็อยากจะไปลองเหมือนกัน รอให้ข้าจัดการงานที่ยุ่งเหยิงในเมืองหลวงเสร็จก่อน ก็น่าจะไปทันอยู่"

เวินป๋อยวนมองนางครู่หนึ่ง พยักหน้าเอ่ยขึ้นว่า "ถึงตอนนั้นข้าไปกับเจ้าด้วยแล้วกัน"

จั๋วซือหรานงงงัน "ได้สิทธิประโยชน์แบบนี้ด้วยหรือ"

"ถือเป็นการขอบคุณที่เจ้ารักษาชิ่งหมิงจนหายดี" เวินป๋อยวนตอบเสียงต่ำ

จั๋วซือหรานแน่นอนว่าไม่ได้ปฏิเสธเรื่องนี้

เพียงแต่ ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาจะไปยิ่งกับงานหลอมสกัดยา ธุระในเมืองหลวงยังมีออีกมาก

จั๋วซือหรานกลอกตาไปพูดกับซางถิงว่า "ไม่ต้องกังวล อย่างมากก็คือนนี้ พวกเขาจะส่งแมงมุมมาให้เจ้าอย่างว่าง่ายเอง พวกเขาคิดว่าข้าล้อเล่นกับพวกเขาสินะ มาถึงจวนของข้า แล้วคิดว่าข้าจะปล่อยให้พวกเขาออกไปโดยไม่เจ็บไม่คันแบบนั้นหรือ...?"

ซางถิงพอได้ย
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 813

    หลังจากนั้นเหล่าผู้อาวุโสตระกูลซางก็เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกระโดดลงจากรถม้า"เหมือนจะเป็นคุณชายสามตระกูลฮั่ว ฮั่วจือโจว""รถม้าตระกูลฮั่วหรือ? เฮอะ...จั๋วซือหรานนี่ไม่มีความสามารถอื่นเลยหรือไร อาศัยหน้าตาดีหน่อย ไอ้เรื่องหลอกผู้ชายนี่เป็นที่หนึ่งเลย"คำพูดนี้พูดออกมาอันที่จริงก็ดูจะเป็นอารมณ์ส่วนตัวหน่อยๆตอนนี้ในเมืองหลวงไม่ว่าใครก็พูดไม่ได้แล้วว่าจั๋วซือหรานไม่มีความสามารถ ดูเป็นเรื่องโกหกเกินไป"คุณชายสามฮั่วคนนั้นก็ทำอะไรรอบคอบมาตลอด เขาตรงมานี่ เกรงว่าน่าจะไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้ว พวกเราจะ...ลองไปหาข่าวดุหน่อยไหม?"และก็มีคนรู้สึกว่า จั๋วซือหรานไม่ใช่ตัวละครธรรมดา คุณชายสามฮั่วเองก็ทั้งรอบคอบ ไม่ใช่คนที่จะหวั่นไหวเพราะความสวยความงามยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลฮั่วเป็นตระกูลเดียวในตอนนี้ที่จั๋วซือหรานยังไม่ได้ไปบาดหมางด้วย ถ้าตรงมาที่นี่ ไม่แน่ว่าอาจจะมาเจรจาอะไรกับจั๋วซือหรานก็ได้ไปหาข่าวเสียหน่อยจะได้สบายใจแต่ว่าคนอื่นกลับไม่เห็นด้วย "มีอะไรน่าจะไปหาข่าวกัน พวกเขาสองคนถ้าจะแอบมีความสัมพันธ์กัน แล้วเราต้องไปแอบฟังที่ขาเตียงหรือไร ไปเถอะ!"เหล่าผู้อาวุโสตระกูลซางต่างมีความรู้สึกส่ว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 814

    พอผู้อาวุโสใหญ่เงยหน้า ก็เห็นเงาร่างหนึ่งเดินเข้ามาจากข้างๆ ดูผ่อนคลายสบายๆ มาก บนตัวยังสวมผ้ากันเปื้อนด้วย เหมือนเพิ่งเดินออกมาจาก...ห้องครัวหรือ?หน้าตาก็สะสวยจริงๆ มิน่า ไม่แปลกเลยที่คนข้างนอกลือตัวเธอเสียๆ หายๆ แต่ก็ไม่มีใครบอกเลยว่าเธอหน้าตาไม่ดีกระทั่งเวลาที่ด่านาง ก็ยังต้องพูดมาว่านางหน้าตาดีเพราะหน้าตาดีจริงฮั่วจือโจวมองไปทางจั๋วซือหราน เอ่ยขึ้นว่า "เจ้าดูสบายใจจังนะ"จั๋วซือหรานหัวเราะตอบกลับ "ข้าอยู่ที่บ้าน มีอะไรให้ไม่สบายใจล่ะ?""ตระกูลเฟิงจะมาหาเรื่องเจ้าอยู่ เรื่องที่คิดจะร่วมมือกับราชวงศ์นั่น เจ้าหาวิธีแก้ได้แล้วหรือยัง?" ฮั่วจือโจวถามขึ้นจั๋วซือหรานหัวเราะตอบ "คุณชายสามฮั่วอย่ามาเสแสร้งสิ ข้ามีวิธีหรือเปล่า เจ้าไม่ใช่รู้อยู่แล้วหรือ"ถ้าหากบอกว่าตระกูลฮั่วที่ขายข่าวสารยังไม่รู้เรื่อง ก็ไม่ต้องทำมันแล้วอาชีพนี้ผู้อาวุโสใหญ่จ้องมองนางอย่างสนใจ "เจ้าคืคนที่บุกสังหารเข้าไปในวังสวนราชวงศ์คนเดียวนั่นจริงหรือ? เจ้ากล้าได้อย่างไรกัน ความกล้าบ้าบิ่นเหลือเฟือจริงๆ..."จั๋วซือหรานหัวเราะหึหึ "ขอแค่ผลประโยชน์มากพอ จะมีอะไรที่ไม่กล้ากันล่ะ?"นางมองผู้อาวุโส เอ่ยขึ้นว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 815

    สวนชิวอีในห้องนอน บรรยากาศหนักอึ้ง"แค่เด็กสาวที่ถูกตระกุลทอดทิ้งคนหนึ่ง กลับสร้างสถานการณ์ขึ้นมาได้ขนาดนี้ ทำเอาคนคาดไม่ถึงเลยทีเดียว""อดยอมรับไม่ได้ พวกเราดูถูกนางเกินไป"ผู้อาวุโสตระกูลเฟิงสองคนนั่งอยู่บนเก้าอี้ เอ่ยขึ้นเสียงขรึมพอได้ยินคำพูดของพวกเขา ซือคงอวี้ก็ยกมุมปากเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม "ข้าเองก็คิดถึงจุดนี้แล้ว ดังนั้นจึงคิดจะร่วมมือกับทุกท่านขึ้นมา"ซือคงอวี้มองพวกเขาสายตาขรึม "ดูท่าทุกท่านน่าจะได้ข่าวแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่มาหาข้าเพื่อหารือเรื่องร่วมมือไวขนาดนี้"หลังจากเหล่าผู้อาวุโสตระกูลเฟิงได้ยิน สีหน้าก็ดูแย่ขึ้นมาพวกเขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าจั๋วซือหรานจะมีปฏิกิริยาไวขนาดนี้!พวกเขาเพิ่งตัดสินใจจะร่วมมือกับราชวงศ์ นางก็บุกเดี่ยวเข้าไปในวังสวนราชวงศ์ ช่วยจักรพรรดิออกมาเสียแล้ว! แทบจะอุดเส้นทางของพวกเขาทิ้งไปเลยทันที!อันที่จริง เหล่าผู้อาวุโสของตระกูลเฟิงก็วางแผนจะเข้าไปวังสวนราชวงศ์เพื่อช่วยเหลือองค์จักรพรรดิออกมาแต่เพราะตระกูลก็มีความหยิ่งทระนงในศักดิศรีของตระกูลอยู่ ไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับราชวงศ์หรือชนชั้นสูงอื่นๆ อยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีความตั้งใจจะเข้าไปยุ่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 816

    พอได้ยินคำพูดของซือคงอวี้ สีหน้าผู้อาวุโสตระกูลเฟิงครุ่นคิดเคร่งขรึมอยู่ครู่หนึ่ง จึงถามกลับเสียงต่ำ "ท่านอ๋องพูดจริงหรือ?""จริงแท้แน่นอน ไม่มีเกินจริง" ซือคงอวี้มองเหล่าผู้อาวุโสตระกูลเฟิงและผู้อาวุโสตระกูลเฟิงก็สบตากันผาดหนึ่ง เหมือนทำการตัดสินใจบางอย่างแล้ว พวกเขาจึงหมุนตาไปมองซือคงอวี้ เอ่ยขึ้นเสียงต่ำว่า "พวกเรามีวิธีหลอกหญิงสาวคนนี้ออกมาได้"ซือคงอวี้เลิกคิ้ว "โอ๋? พูดจริงหรือ? จากที่ข้ารู้ หญิงสาวคนนี้ฉลาดแกมโกงมาก ไม่ยอมเสียเปรียบเลย ยังไม่มีใครเคยเอาเปรียบนางได้ คนที่เป็นศัตรูกับนาง ล้วนพ่ายแพ้ล้มเหลวกันหมด"ผู้อาวุโสตระกูลเฟิงเอ่ยขึ้น "ก็เป็นเช่นนั้นจริง แต่ว่าจั๋วจิ่วลับไม่ใช่ว่าจะไม่มีจุดอ่อนเลย ตั้งแต่แรก นางเอาจุดอ่อนของตนเองวางออกมาต่อนห้าคนทั้งหมดแล้ว"ซือคงอวี้ได้ยินคำนี้ ก็มีปฏิกิริยาขึ้นมา "พวกท่านหมายถึง..."เหล่าผู้อาวุโสตระกูลเฟิงจ้องมองซือคงอวี้ "สรุปคือ ขอแค่ท่านอ๋องมีวิะีการ เช่นนั้นก็ทำตามที่พวกเราบอก ก็จะล่อนางออกมาได้แน่นอน"......จั๋วซือหรานแน่นอนว่าไม่รู้พวกเขากำลังคิดอะไร และก็ไม่คิดจะไปหาข่าวด้วยนางยังคง ไปสังหารคนตระกูลเฟิงยิ่งไปกว่านั้นต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 817

    "ตระกูลเฟิงร่วมมือกับอ๋องอวี้ชินหรือ?" ฮั่วจือโจวเลิกคิ้ว "ตอนนี้ยังไม่ได้ยินข่าวนี้เลย""น่าจะใกล้แล้ว คอยดูว่าพวกเขาหารือกลยุทธ์อะไรออกมา" จั๋วซือหรานเหมือนจะคาดการณ์กับเรื่องนี้เอาไว้แล้ว"เจ้าแน่ใจว่าพวกเขาจะร่วมมือกันหรือ?"ฮั่วจือโจวถาม "ตระกูลเฟิงตามหลักการแล้ว ไม่น่าจะมีความสัมพันธ์ที่ดีเท่าไรกับอ๋องอวี้ชินกระมัง?"ก่อนหน้านี้โรคระบาดกู่ก็เป็นฝีมือของอ๋องอวี้ชิน ตระกูลเฟิงยังเสียลูกหลานฝีมือดีไปตั้งหลายคนจากเรื่องนี้ตามหลักการแล้วน่าจะเป็นคู่แค้นกันสิฮั่วจือโจวจะสงสัยมันก็เรื่องปกติจั๋วซือหรานหัวเราะเอ่ยขึ้นว่า "ถ้าไม่มีเรื่องอะไรก็จะร่วมมือกันแน่ๆ ถึงอย่างไร ข้าก็เดินบนเส้นทางตระกูลเฟิงแล้ว ต่อให้พวกเขาไม่ร่วมมือกับซือคงอวี้ แต่จากการกระทำเหล่านี้ของข้า พวกเขาก็น่าจะร่วมมือกันแล้วล่ะ"ฮั่วจือโจวมองนาง ไม่พูดอะไร ไม่ว่าจะตอนไหน ก็ยังรู้สึกว่าน่าชื่นชมมาก นางมีสายตาที่กว้างไกลจริงๆไม่แปลกเลยที่ผู้อาวุโสใหญ่จะพูดว่า ถ้าไม่กังวลว่าจะไม่มีใครควบคุมนางอยู่ ก็อยากให้เขาไปขอนางแต่งงานเสียเลย มีหญิงสาวแบบนี้เข้ามาในตระกูล ก็ไม่ต้องกลัวเรื่องตระกูลจะไม่รุ่งโรจน์อีกแล้วตระกู

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 818

    "ประชาสัมพันธ์..."ฮั่วจือโจวไม่อยากจะเชื่อ "เจ้าคงไม่ได้คิดจะใช้เรื่องนี้เป็นเงื่อนไขไปชวนตระกูลอื่นอีกใช่ไหม?"จั๋วซือหรานยิ้มตอบ "ถึงตอนนั้นค่อยว่ากัน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้นี่นา"ถึงอย่างไรสิ่งนี้สำหรับนางแล้วคือเรื่องเล็กน้อยมาก......ไม่ถึงสองวัน ก็มีข่าวแพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองหลวง"ได้ยินว่าแม่นางจั๋วจิ่วมีความสัมพันธ์ที่ไม่เลวกับตระกูลฮั่ว แล้วนี่ยังไปร่วมมือกันด้วย!""ตระกูลฮั่วบ้าไปแล้วหรือ?! จั๋วจิ่วตอนนี้ไม่ใช่เป็นก้อนขี้หมาหรือไรกัน? ใครก็กลัวที่จะไปเกลือกกลั้วด้วย พวกเขาคิดอะไรกัน?""ได้ยินว่าแม่นางจั๋วจิ่วจะไปหลอมยาให้ตระกูลฮั่วทุกเดือน ยาลูกกลอนกู้หยวนแปดเม็ดเลยนะ!""ให้ตายเถอะ! นางเอาชีวิตมาหลอมเลยไหมนั่น? นางไม่ใช่เพิ่งจะสอบนักกลั่นยาหรือ? หลอกกันหรือเปล่า?""ถ้าเป็นพวกต้มตุ๋นล่ะก็ ตระกูลฮั่วเองก็ไม่ใช่คนโง่ ถึงจะยอมถูกนางหลอกนะ? ตระกูลฮั่วถ้าร่วมมือกับนางจริง ในบางระดับก็เหมือนไปผิดใจกับตระกูลอื่นแล้ว พวกเขาจะใช้ของปลอมมาผดใจกับตระกูลต่างๆ ไหม?"ข่าวเหล่านี้ ค่อยๆ กระจายตัวออกไปมีบางตระกูลเริ่มคิดจะทำเรื่องโง่ๆ ขึ้นแล้วและยังมีอีกข่าวหนึ่งที่กำลังแพร่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 819

    จั๋วซือหรานพอได้ยินคำนี้ เพียงแค่หัวเราะ ในรอยยิ้มไม่มีความอบอุ่นอยู่เลยหานกวงอดสั่นเทาขึ้นมาไม่ได้ นางเพิ่งสังเกตเห็นว่าแม่นางจิ่วคนนี้ เนื่องจากมองพวกเขาเป็นคนของตนเอง ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาเห็ฯจึงล้วนเป็นด้านที่อ่อนโยนของนางทำให้พวกเขารู้สึกราวกับได้สัมผัสสายลมเย็ฯสบายในฤดูใบไม้ผลิ ถูกโอบล้อมด้วยความอบอุ่นรู้สึกว่าแม่นางจิ่วอบอุ่นยิ่งกว่าดวงตะวันเสียอีกแต่พอเห็นสายตาเย็นชาที่เหมือนจะไปสังหารศัตรูเช่นนี้ของจั๋วซือหรานหานกวงจึงเพิ่งรู้ตัวว่า คนในสายตาพวกเขาที่อบอุ่นเหมือนดวงตะวัน สำหรับศัตรูแล้ว อาจจะกลายเป็นเปลวเพลิงร้อนแรงที่สามารถแผดเผาทำลายล้างก็ได้ มีพลังที่น่ากลัวมากความเย็นชาในดวงตาจั๋วซือหรานค่อยๆ กระจายออก นางกลอกตาไปมองหานกวง รอยยิ้มกลับมาอบอุ่นอ่อนโยนและสงบอีกครั้งน้ำเสียงฟังแล้วก็เหมือนก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยน "ใช่สิ เจ้านายของเจ้าทางที่ดีก็ต้องเป็นแบบนี้ล่ะ ไม่อย่างนั้น ข้าจะต้องคิดหาวิธีชิงตัวเขากลับมา จับแขวนแล้วอัดให้หายอยากแน่ๆ"หานกวงรู้สึกว่า เนื้อหาในคำพูดของแม่นางจิ่วฟังแล้วเหมือนจะเป็นเรื่องล้อเล่น แต่ในใจหานกวงกลับอดเหงื่อแตกแทนเจ้านายของตนเองไม่ได้"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 820

    หลังจากกินเสร็จ อารมณ์ของจั๋วซือหรานก็เหมือนจะดีขึ้นมาจริงๆหานกวงถาม "คุณหนูจิ่ว ท่านอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อยแล้วใช่ไหม?"จั๋วซือหรานตอบ "เอาอย่างนั้นนั่นล่ะ แต่ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดล่ะก็ ตอนบ่ายน่าจะมีคนมาหาพวกเจ้า"หานกวงเดิมทียังไม่รู้ว่าความหมายของจั๋วซือหรานคืออะไรใครจะรู้ ว่าตอนบ่ายก็มีคนเข้ามาจริงๆตอนที่หานกวงเข้ามารายงาน ใบหน้าดูแข็งทื่ออยู่บ้าง "แม่นางจิ่ว มีคนมาขอพบท่าน"จั๋วซือหรานเดิมทีนั่งอยู่บนแคร่ จิตใต้สำนึกอยู่ในมิติ กำลังจัดระเบียบมิติของตนเอง และถือโอกาสเข้าไปดูแลเหล่าสัตว์เลี้ยงของตนเองด้วยขนมเผือกกวนกับขนมชามที่เพิ่งกลับมา และยังแมงมุมน้อยที่เพิ่งคลอดกับลูกหลายๆ ตัวของมันรวมถึงสัตว์อสูรอีกหลายตัวที่จั๋วซือหรานได้มาจากซางเชวี่ยเพราะตอนที่ซางเชวี่ยต่อสู้กับนาง การบีบบังคับของวิชาควบคุมสัตว์ซางเชวี่ย ทำให้สัตว์อสูรทุกตัวล้วนบาดเจ็บสาหัสดังนั้นต่อให้ชุบเลี้ยงในมิติของจั๋วซือหรานมาแล้วระยะหนึ่ง สภาพจึงยังไม่ถือว่าดีนัก ดูยังไม่สดใสเท่าไรนักจั๋วซือหรานยังไม่วางใจนัก ดังนั้นพอมีเวลาว่างจึงอยากจะรักษาพวกมันให้ดีขึ้นเสียหน่อย ยิ่งไปกว่านั้นยังรู้สึกว่าเจ้าพวกนี้

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1098

    นางหมายถึง...กองหนุนที่ย้ายมาจากสำนักเมฆาวารีของผู้เฒ่าเหอสินะ!?แต่ใครก็ตามที่มีความคิดเช่นนี้ เขาคงจะรู้สึกว่าอีกฝ่ายหยิ่งผยองโอหังถึงที่สุดหญิงสาวตรงหน้าคนนี้ ตอนที่เผยความหมายนี้ออกมากลับไม่ทำให้เขารู้สึกถึงความหยิ่งผยองโอหังแม้แต่น้อยเพราะ เรื่องราวเหมือนจะเป็นเช่นนี้จั๋วซือหรานเหมือนจะงึมงำกับตนเองขึ้นว่า "พอเข้าใจวิชาหุ่นเชิดกับหุ่นเชิดมนุษย์แล้ว มันน่าสนใจจริงๆ ทางที่ดีขอให้พวกเขาเอาเจ้าพวกนี้มาเล่นด้วย จะได้ไม่เสียเวลาที่ให้ข้ารอนานขนาดนี้...เจิ้นเจียงเหลือบมองทุกคนที่มีบาดแผลพอคิดๆ ก็ถามจั๋วซือหรานขึ้น "แม่นาง แล้วจะเรียกพวกเขาว่าอย่างไรกัน? เหมือนว่าจะบาดเจ็บกันหนักมาก ข้าพาพวกเขาไปพักผ่อนดีไหม?"หัวหน้าคนคุ้มกันมองออก ว่าคนรับใช้คนนี้ของนายท่าน เหมือนจะไม่ได้กังวลอะไรเลยกับสถานการณ์ที่นายท่านกำลังจะเผชิญแม้ไม่รู้ว่าผ่านเรื่องอะไรมา ถึงทำให้บ่าวมีความเชื่อมั่นที่เด็ดขาดขนาดนี้แต่ไม่ว่าจะผ่านอะไรมาอันที่จริงคนคุ้มกันอย่างพวกเขา ก็เพิ่งจะผ่านการถูกตระกูลเหอปฏิบัติอย่างโหดร้ายมานี่เองและยังเห็นเจิ้นเจียงมีความเชื่อมั่นที่เด็ดขาดขนาดนี้ต่อนายท่านแม้พวกเขา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1097

    จั๋วซือหรานหลังจากพูดจบ ผู้เฒ่าเหอในที่สุดก็ทนกับความโกรธไม่ไหวตาเหลือกสลบเหมือดไปอีกครั้งจั๋วซือหรานจึงพาคนออกมาจากจวน ตอนที่ไปยังโรงเตี๊ยม หัวหน้าคนคุ้มกันยังมีความระแวดระวังอยู่"แม่นาง นี่คือโรงเตี๊ยมของตระกูลเหอ"จั๋วซือหรานเหลือบมองเขา พยักหน้าตอบ "ข้ารู้""ท่านไม่กังวล..." ขณะที่หัวหน้าคนคุ้มกันเอ่ยขึ้น ก็ตระหนักขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว ว่าเจ้านายใหม่ของตนเอง เหมือนเดิมทีจะเป็นคนที่ไม่ค่อยกังวลกับอะไรนัก""ถ้าหากกังวลล่ะก็ เกรงว่าตอนที่พวกเขาอยู่ในป่าทวนแสงก่อนหน้านี้ คงไม่ถูกนางเล่นงานเสียจนเป็นแบบนั้นหัวหน้าคนคุ้มกันบอกพูดพลางยิ้มจางๆ บอกกับตนเองว่า "ก็ถูก..."จั๋วซือหรานเพิ่งเดินเข้าประตูโรงเตี๊ยม เจิ้นเจียงก็เข้ามาต้อนรับแล้ว "คุณหนู! ท่านกลับมาแล้ว!"จั๋วซือหรานขานรับอืม เหลือบมองเขา "มีเรื่องอะไรยุ่งยากหรือเปล่า?"เจิ้นเจียงส่ายหัวตอบกลับ "ไม่มีเลยขอรับ ก็แค่ตอนที่เริ่มมีคนคิดจะมาหาเรื่อง แต่ยังไม่ทันได้แตะข้า ก็ถูกฟาดจนล้มไป หลังจากนั้น...ไม่มีหลังจากนั้นแล้วขอรับ"เจิ้นเจียงรู้ว่านายท่านคงทำอะไรไว้บนตัวตนเอง แต่ว่าจนถึงตอนที่เห็นคนที่คิดจะเข้ามาหาเรื่อง กระทั่งย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1096

    ราวกับว่าความรู้สึกที่คลุมเครือในใจนั้น ในที่สุดก็โผล่ขึ้นมาอีกครั้งนางไม่มีประสบการณ์ผ่านเรื่องนี้จริงๆ แต่ในเส้นโชคชะตาของเจ้าของร่างเดิม เสน่ห์หนอนพิษกู่ในร่างเจ้าของเดิมถูกควบคุมโดยฉินตวนหยาง ทำให้ร่างกายไม่เป็นตัวของตัวเอง แล้วมองเห็นตนเองถูกควบคุมอยู่ตลอดเวลาทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้นแตกต่างอะไรกับหุ่นเชิดความมืดกัน วิญญาณถูกขังให้รับการควบคุมอยู่ในเปลือกร่าง ไม่อาจสงบสุขได้อีก ไม่อาจหลุดพ้นได้...เกลียดชังขนาดที่แม้จะเกิดใหม่อีกครั้ง ก็ยังไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกแล้วผู้เฒ่าเหอพอได้ยินคำนี้ ก็ไม่ได้ส่งเสียงอะไร ยังคงเช็ดแผลเลือดซิบบนหน้าตนเอง เช็ดจนบวมขึ้นมาแล้วจั๋วซือหรานไม่หันไปมองผู้เฒ่าเหออีก นำทางคนที่รับเข้ามาใหม่เตรียมจะออกไปพวกเขาแม้จะยังไม่ได้ฟื้นฟูกลับมาอย่างสมบูรณ์ แต่อย่างน้อยก็เดินกันได้แล้วยิ่งไปกว่านั้นในใจพวกเขาก็เข้าใจดี ต่อให้ตนเองเดินไม่ได้ จะต้องคลาน! ก็ต้องตามแม่นางออกไปพอเห็นจั๋วซือหรานออกไป ในใจผู้เฒ่าเหอก็เกิดความรู้สึกโล่งใจออกมาแต่ความรู้สึกที่มากว่า ยังคงเป็ฯความโกรธเคือง ชิงชังจนเข้ากระดูกดำแม้จะไม่กล้าพูดอะไรที่รุนแรงออกมา แต่กลับยังใช้สาย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1095

    จั๋วซือหรานฟังถึงจุดนี้ อันที่จริงก็ไม่มีอะไรให้ฟังต่อเท่าไรแล้ว อย่างอื่นก็เหมือนจะเดาออกมาได้อยู่สาเหตุที่ใช้คนเป็นมาหลอมสกัด โดยเฉพาะต้องไปลอบโจมตีคนที่ทักษะยุทธ์ยอดเยี่ยมมาหลอมเป็นหุ่นเชิดความมืดแน่นอนว่าเป็นเพราะทักษะยุทธ์กับความคิดด้านต่อสู้ของอีกฝ่าย และสิ่งเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในร่างกายของอีกฝ่าย แต่อยู่ในจิตใต้สำนึกของอีกฝ่าย...พูดให้ง่ายหน่อย คืออยู่ในจิตวิญญาณของอีกฝ่ายนั่นเองพอร่างตายวิญญาณก็ดับสลายแล้วตะปูวิญญาณนี่...จั๋วซือหรานมองตะปูยาวในมือเล่มนี้ ฟังจากชื่อก็เดาประโยชน์ของมันได้ไม่ยากโหดร้ายมาก ตอกดวงวิญญาณของอีกฝ่ายไว้ในร่างกาย ประสิทธิภาพของอักขระคำสาปเปล่านี้ ก็ควรจะเป็นเช่นนี้กระมังผู้เฒ่าเหอพอเห็นจั๋วซือหรานไม่ถามต่อ ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ถอนใจยาวออกมาและตอนนี้เอง หลังจากได้รับการรักษาของจั๋วซือหราน หัวหน้าคนคุ้มกันที่ฟื้นฟูพลังปราณมาแล้วบางส่วนก็พูดกับจั๋วซือหรานอย่างนอบน้อม "แม่นาง ปรมาจารย์วิชาเหยี่ยนที่หลอมสกัดหุ่นเชิดความมืดเป็นคนแรก ก็คือบรรพจารย์ผู้ก่อตั้งสำนักเมฆาวารี แต่เจ้าสำนักเมฆาวารีในตอนนี้ เป็นรุ่นหลังของบรรพจารย์ผู้ก่อตั้งสำนักคนนั้น"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1094

    ถ้าหากใช้ศพของคนล่ะ?แต่ถึงอย่างไรมันก็เป็นสิ่งต้องห้าม ดังนั้นตอนที่หุ่นเชิดร่างแรกถูกหลอมออกมา ปรมาจารย์วิชาเหยี่ยนคนนั้นกระทั่ง ปรมาจารย์วิชาเหยี่ยนคนนั้นก็พบกับการลงโทษที่รุนแรงยิ่งไปกว่านั้นหุ่นเชิดมนุษย์ก็ถูกตราว่าเป็นสิ่งต้องห้าม แต่ว่า ทักษะนี้ก็ปรากฏออกมาแล้วทักษะอะไรก็ตามพอปรากฏออกมาแล้ว ต่อให้จะถูกตีตราเป็นสิ่งต้องห้ามก็ตาม แต่ก็ยังมีคนที่แอบนำมาใช้งานกันอยู่ส่วนหุ่นเชิดความมืดตัวแรกนั้น...จั๋วซือหรานฟังถึงตรงนี้ก็เลิกคิ้วขึ้น "ดังนั้นเอาคนเป็นมาใช้ถึงจะกลายเป็นหุ่นเชิดความมืดสินะ"นางมองผู้เฒ่าเหอ "ข้าเป็นหมอ วิชาแพทย์เองก็ไม่เลวนัก บาดแผลที่เกิดขึ้นก่อนตายกับบาดแผลที่เกิดขึ้นหลายตายไปแล้ว ข้าเข้าใจเป็นอย่างดี"เจตนาที่จั๋วซือหรานพูดคำนี้ออกมานั้นง่ายมาก ก็คือจะพูดกับผู้เฒ่าเหอให้ชัดเจนถึงความหมายหนึ่ง...อย่าโกหกข้าผู้เฒ่าเหอเหลือบมองนางผาดหนึ่ง ตอนนี้จึงเอ่ยขึ้นเสียงเล็ก "ใช่แล้ว แค่นำคนเป็นมาทำ ก็จะเรียกว่าหุ่นเชิดความมืด แม้หุ่นเชิดความมืดจะถูกสั่งห้ามมาตลอด แต่ระหว่างปรมาจารย์วิชาเหยี่ยนด้วยกันก็มีการหารือกันมาตลอด หุ่นเชิดมนุษย์ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องควา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1093

    พอได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน ดวงตาผู้เฒ่าเหอถลึงตาโตกว่าเดิมไม่มีอะไรที่ที่จะยอดเยี่ยมไปกว่าคนที่เก่งรอบด้าน คำพูดส่งๆ ที่ว่า 'อันที่จริงข้าก็แค่เล่นๆ เท่านั้น ไม่เคยเรียนรู้จริงจังมาก่อนเลย' ยิ่งทำให้คนรู้สึกว่าถูกดูถูกมากขึ้นไปอีกแต่ผู้เฒ่าเหอถึงจะโกรธก็ไม่กล้าพูด ดูเหมือนกลั้นหายใจค้างอยู่ที่อก เข้าก็ไม่ได้ออกก็ไม่ได้ผ่านไปพักหนึ่งถึงหายใจได้คล่องหน่อยเหมือนเพิ่งจะได้ความสามารถในการพูดกลับมา"สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดของวิชาหุ่นเชิดก็คือหุ่นเชิดความมืด และสิ่งที่สำคัญที่สุดของหุ่นเชิดความมืดก็คือตะปูวิญญาณ" ผู้เฒ่าเหอเอ่ยขึ้นหลังจากที่จั๋วซือหรานได้ยิน ก็เลิกคิ้วขึ้น ทำท่าเหมือนจะสนใจขึ้นมา "เล่าให้ละเเอียดหน่อย"ผู้เฒ่าเหอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน ในใจก็เกิดความคิดขึ้นเพียงแต่ความคิดเหล่านี้พอโผล่ขึ้นมาในใจ ก็ถูกจั๋วซือหรานทำลายลงทันที"ถึงอย่างไรเจ้าก็คิดจะดึงข้าไว้ที่นี่อยู่แล้ว เจ้าจะได้ให้กองหนุนจากสำนักเมฆาวารีเข้ามาสั่งสอนข้า ช่วยระบายให้กับเจ้าไม่ใช่หรือ" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น"ข้าเองก็ให้ความร่วมมือกับเจ้าได้ รอกองหนุนของเจ้าที่นี่เสียเลย" จั๋วซือหรานยกมุมปากเป็นร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1092

    ตอนที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม รู้สึกถึงแต่ความกดดันบีบคั้น ทว่ายืนอยู่ฝั่งตนเองก็ไม่เหมือนเดิม รู้สึกปลอดภัยอย่างสิ้นเชิงโดยเฉพาะ...ทำไมถึงเริ่มนับขึ้นมาล่ะ?ยิ่งไปกว่านั้น ในมือจั๋วซือหรานตอนนี้ ยังปรากฏตะปูยาวสีดำที่เต็มไปด้วยอักขระคำสาปแปลกประหลาดที่ดูแล้วลึกลับอย่างมากเล่มหนึ่ง!จากนั้นจึงเริ่มนับ "หนึ่ง""สอง"แล้วความเร็วการนับก็ไม่ได้ช้าเลย รู้สึกเหมือนไม่คิดจะให้คนได้ลังเลด้วยซ้ำจะยอมแพ้ หรือจะตาย ไม่มีตัวเลือกที่สามจะเจรจาหรือไม่เจรจา ไม่มีให้เห็นทั้งสิ้นผู้เฒ่าเหอ ตอนที่สายตาจับภาพตะปูยาวในมือจั๋วซือหรานได้ก็เปลี่ยนไปแล้ว ความหวาดกลัวตกตะลึงมหาศาลระเบิดขึ้นมาในดวงตากระทั่งตอนที่จั๋วซือหรานนับถึงสอง เขาก็รีบเอ่ยขึ้นว่า "ให้เจ้า! ให้เจ้าก็พอสินะ!"เสียงของผู้เฒ่าเหอแม้จะไม่ได้ต่ำขรึม แต่ก็ยังหนักแน่นแต่ตอนที่รีบตะโกนคำนี้ออกมา เสียงก็สั่นเครือราวกับกรีดร้องแหลมเหมือนกลัวว่าถ้าช้าไปสักนิดเดียว นางจะเอาตะปูประหลาดเล่มนั้นมาเล่นงานเขาดูแล้วพอเทียบกับการกลัวจั๋วซือหราน สู้บอกว่าเขากลัวตะปูในมือนางนั่นมากกว่าจั๋วซือหรานเลิกคิ้ว ตะปูยาวที่อยู่ระหว่างนิ้ว หมุนควงเหมื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1091

    ผู้เฒ่าเหอก่อนหน้านี้เดิมทีถูกทำให้ตกใจจนสลบไปเท่านั้น ร่างกายไม่ได้บุบสลายแต่อย่างใดดังนั้นจึงได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว เพียงแต่ว่า หลังจากได้สติแล้วในใจยังไม่มีแผนรับมือ จึงทำได้แค่แกล้งนอนสลบไปบนพื้นต่อครุ่นคิดว่าควรจะรับมืออย่างไร แต่หญิงสาวคนนี้จะหลอกล่อก็หลอกไม่ได้ ทิฐิสูงไม่มีอ่อนข้อให้เลยจริงๆชั่วขณะหนึ่งก็ยากจะหาแผนการรับมือออกมาได้จึงทำได้แค่แกล้งสลบดึงเวลาออกไปก่อนดังนั้นผู้เฒ่าเหอจึงแกล้งนอนสลบอยู่บนพื้น ไม่ยอมลุกขึ้นมาเขายังคิดว่าจะไม่ถูกพบเสียอีก ฟังคำพูดเหล่านั้นของจั๋วซือหราน ฟังฟู่จาวหนิงชักชวนยุยงเหล่าคนคุ้มกันของเขาผู้เฒ่าเหอรู้สึกชิงชังในใจ!ตอนนี้เขาเองก็มีปฏิกิริยาขึ้นมาแล้ว ว่าคนคุ้มกันเหล่านี้ไม่ได้ทรยศหักหลังเขาแต่หญิงสาวคนนี้จงใจไว้ชีวิตพวกเขา ปล่อยพวกเขากลับมา...ใครจะรู้ว่านางคำนวณไว้แล้วหรือเปล่าว่าเขาจะไม่มีท่าทีที่ดีกับคนคุ้มกันเหล่านี้ ใครจะรู้ว่านางรอให้สถานการณ์แบบนี้ปรากฏขึ้นหรือเปล่า?!ผู้เฒ่าเหอในใจชิงชังนางอย่างมากแล้วยังแอบคิดในใจ ถึงอย่างไรหนังสือสารกรมธรรม์เจ้าพวกนี้ก็ยังอยู่ในมือเขาขอแค่หนังสือสารกรมธรรม์ยังอยู่ในมือเขา จั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1090

    จั๋วซือหรานไม่ตอบ แค่เลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่ยอมรับหรือปฏิเสธหัวหน้าคนคุ้มกันออกแรงเม้มปาก ในดวงตาแดงก่ำขึ้นจั๋วซือหรานเอ่ยเสียงเรียบ "เดิมทีข้าคิดว่าเจ้าน่าจะเห็นแล้วว่าเจ้านายเจ้าเป็นพวกที่ไม่เห็นความสำคัญของชีวิตคน จะมองออกถึงดวงชะตาแล้ว ทั้งที่ผ่านความเป็นความตายมาแล้วก็น่าจะหวงแหนชีวิตขึ้นมาบ้างจึงจะถูก นี่เจ้ากลับเข้ามารนหาที่ตาย"หัวหน้าคนคุ้มกันริมฝีปากสั่นระริก "แม่นาง..."จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ "เอาล่ะ เลือกมา"พอได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน หัวหน้าคนคุ้มกันก็ตกตะลึง "อะ อะไรหรือ?""อยากจะรอดหรืออยากจะตาย" จั๋วซือหรานพลิกข้อมือ อาวุธเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือ "ถ้าจะส่งเจ้าไปสบายมันง่ายดายมาก ไม่ใช่เรื่องลำบากเลย อย่าว่าแต่เจ้า พวกลูกน้องเหล่านี้ของเจ้า ข้าสังหารทั้งหมดได้แค่ในไม่กี่อึดใจ"พอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน หัวหน้าคนคุ้มกันที่ในดวงตาสงบนิ่งไปแล้วแท้ๆ แต่กลับเหมือนมีประกายของดวงดาวเปล่งปลั่งขึ้นมา"ยังมี...ชีวิตต่อได้หรือ?" ในน้ำเสียงของหัวหน้าคนคุ้มกันมีความหวังขึ้นมาแล้วจั๋วซือหรานเหลือบมองเขาผาดหนึ่ง "ได้ แต่มีสิ่งที่ต้องจ่าย""จ่ายด้วย...อะไรหรือ?"

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status