Share

บทที่ 814

Author: หูเทียนเสี่ยว
พอผู้อาวุโสใหญ่เงยหน้า ก็เห็นเงาร่างหนึ่งเดินเข้ามาจากข้างๆ ดูผ่อนคลายสบายๆ มาก บนตัวยังสวมผ้ากันเปื้อนด้วย เหมือนเพิ่งเดินออกมาจาก...ห้องครัวหรือ?

หน้าตาก็สะสวยจริงๆ มิน่า ไม่แปลกเลยที่คนข้างนอกลือตัวเธอเสียๆ หายๆ แต่ก็ไม่มีใครบอกเลยว่าเธอหน้าตาไม่ดี

กระทั่งเวลาที่ด่านาง ก็ยังต้องพูดมาว่านางหน้าตาดี

เพราะหน้าตาดีจริง

ฮั่วจือโจวมองไปทางจั๋วซือหราน เอ่ยขึ้นว่า "เจ้าดูสบายใจจังนะ"

จั๋วซือหรานหัวเราะตอบกลับ "ข้าอยู่ที่บ้าน มีอะไรให้ไม่สบายใจล่ะ?"

"ตระกูลเฟิงจะมาหาเรื่องเจ้าอยู่ เรื่องที่คิดจะร่วมมือกับราชวงศ์นั่น เจ้าหาวิธีแก้ได้แล้วหรือยัง?" ฮั่วจือโจวถามขึ้น

จั๋วซือหรานหัวเราะตอบ "คุณชายสามฮั่วอย่ามาเสแสร้งสิ ข้ามีวิธีหรือเปล่า เจ้าไม่ใช่รู้อยู่แล้วหรือ"

ถ้าหากบอกว่าตระกูลฮั่วที่ขายข่าวสารยังไม่รู้เรื่อง ก็ไม่ต้องทำมันแล้วอาชีพนี้

ผู้อาวุโสใหญ่จ้องมองนางอย่างสนใจ "เจ้าคืคนที่บุกสังหารเข้าไปในวังสวนราชวงศ์คนเดียวนั่นจริงหรือ? เจ้ากล้าได้อย่างไรกัน ความกล้าบ้าบิ่นเหลือเฟือจริงๆ..."

จั๋วซือหรานหัวเราะหึหึ "ขอแค่ผลประโยชน์มากพอ จะมีอะไรที่ไม่กล้ากันล่ะ?"

นางมองผู้อาวุโส เอ่ยขึ้นว
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 815

    สวนชิวอีในห้องนอน บรรยากาศหนักอึ้ง"แค่เด็กสาวที่ถูกตระกุลทอดทิ้งคนหนึ่ง กลับสร้างสถานการณ์ขึ้นมาได้ขนาดนี้ ทำเอาคนคาดไม่ถึงเลยทีเดียว""อดยอมรับไม่ได้ พวกเราดูถูกนางเกินไป"ผู้อาวุโสตระกูลเฟิงสองคนนั่งอยู่บนเก้าอี้ เอ่ยขึ้นเสียงขรึมพอได้ยินคำพูดของพวกเขา ซือคงอวี้ก็ยกมุมปากเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม "ข้าเองก็คิดถึงจุดนี้แล้ว ดังนั้นจึงคิดจะร่วมมือกับทุกท่านขึ้นมา"ซือคงอวี้มองพวกเขาสายตาขรึม "ดูท่าทุกท่านน่าจะได้ข่าวแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่มาหาข้าเพื่อหารือเรื่องร่วมมือไวขนาดนี้"หลังจากเหล่าผู้อาวุโสตระกูลเฟิงได้ยิน สีหน้าก็ดูแย่ขึ้นมาพวกเขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าจั๋วซือหรานจะมีปฏิกิริยาไวขนาดนี้!พวกเขาเพิ่งตัดสินใจจะร่วมมือกับราชวงศ์ นางก็บุกเดี่ยวเข้าไปในวังสวนราชวงศ์ ช่วยจักรพรรดิออกมาเสียแล้ว! แทบจะอุดเส้นทางของพวกเขาทิ้งไปเลยทันที!อันที่จริง เหล่าผู้อาวุโสของตระกูลเฟิงก็วางแผนจะเข้าไปวังสวนราชวงศ์เพื่อช่วยเหลือองค์จักรพรรดิออกมาแต่เพราะตระกูลก็มีความหยิ่งทระนงในศักดิศรีของตระกูลอยู่ ไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับราชวงศ์หรือชนชั้นสูงอื่นๆ อยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีความตั้งใจจะเข้าไปยุ่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 816

    พอได้ยินคำพูดของซือคงอวี้ สีหน้าผู้อาวุโสตระกูลเฟิงครุ่นคิดเคร่งขรึมอยู่ครู่หนึ่ง จึงถามกลับเสียงต่ำ "ท่านอ๋องพูดจริงหรือ?""จริงแท้แน่นอน ไม่มีเกินจริง" ซือคงอวี้มองเหล่าผู้อาวุโสตระกูลเฟิงและผู้อาวุโสตระกูลเฟิงก็สบตากันผาดหนึ่ง เหมือนทำการตัดสินใจบางอย่างแล้ว พวกเขาจึงหมุนตาไปมองซือคงอวี้ เอ่ยขึ้นเสียงต่ำว่า "พวกเรามีวิธีหลอกหญิงสาวคนนี้ออกมาได้"ซือคงอวี้เลิกคิ้ว "โอ๋? พูดจริงหรือ? จากที่ข้ารู้ หญิงสาวคนนี้ฉลาดแกมโกงมาก ไม่ยอมเสียเปรียบเลย ยังไม่มีใครเคยเอาเปรียบนางได้ คนที่เป็นศัตรูกับนาง ล้วนพ่ายแพ้ล้มเหลวกันหมด"ผู้อาวุโสตระกูลเฟิงเอ่ยขึ้น "ก็เป็นเช่นนั้นจริง แต่ว่าจั๋วจิ่วลับไม่ใช่ว่าจะไม่มีจุดอ่อนเลย ตั้งแต่แรก นางเอาจุดอ่อนของตนเองวางออกมาต่อนห้าคนทั้งหมดแล้ว"ซือคงอวี้ได้ยินคำนี้ ก็มีปฏิกิริยาขึ้นมา "พวกท่านหมายถึง..."เหล่าผู้อาวุโสตระกูลเฟิงจ้องมองซือคงอวี้ "สรุปคือ ขอแค่ท่านอ๋องมีวิะีการ เช่นนั้นก็ทำตามที่พวกเราบอก ก็จะล่อนางออกมาได้แน่นอน"......จั๋วซือหรานแน่นอนว่าไม่รู้พวกเขากำลังคิดอะไร และก็ไม่คิดจะไปหาข่าวด้วยนางยังคง ไปสังหารคนตระกูลเฟิงยิ่งไปกว่านั้นต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 817

    "ตระกูลเฟิงร่วมมือกับอ๋องอวี้ชินหรือ?" ฮั่วจือโจวเลิกคิ้ว "ตอนนี้ยังไม่ได้ยินข่าวนี้เลย""น่าจะใกล้แล้ว คอยดูว่าพวกเขาหารือกลยุทธ์อะไรออกมา" จั๋วซือหรานเหมือนจะคาดการณ์กับเรื่องนี้เอาไว้แล้ว"เจ้าแน่ใจว่าพวกเขาจะร่วมมือกันหรือ?"ฮั่วจือโจวถาม "ตระกูลเฟิงตามหลักการแล้ว ไม่น่าจะมีความสัมพันธ์ที่ดีเท่าไรกับอ๋องอวี้ชินกระมัง?"ก่อนหน้านี้โรคระบาดกู่ก็เป็นฝีมือของอ๋องอวี้ชิน ตระกูลเฟิงยังเสียลูกหลานฝีมือดีไปตั้งหลายคนจากเรื่องนี้ตามหลักการแล้วน่าจะเป็นคู่แค้นกันสิฮั่วจือโจวจะสงสัยมันก็เรื่องปกติจั๋วซือหรานหัวเราะเอ่ยขึ้นว่า "ถ้าไม่มีเรื่องอะไรก็จะร่วมมือกันแน่ๆ ถึงอย่างไร ข้าก็เดินบนเส้นทางตระกูลเฟิงแล้ว ต่อให้พวกเขาไม่ร่วมมือกับซือคงอวี้ แต่จากการกระทำเหล่านี้ของข้า พวกเขาก็น่าจะร่วมมือกันแล้วล่ะ"ฮั่วจือโจวมองนาง ไม่พูดอะไร ไม่ว่าจะตอนไหน ก็ยังรู้สึกว่าน่าชื่นชมมาก นางมีสายตาที่กว้างไกลจริงๆไม่แปลกเลยที่ผู้อาวุโสใหญ่จะพูดว่า ถ้าไม่กังวลว่าจะไม่มีใครควบคุมนางอยู่ ก็อยากให้เขาไปขอนางแต่งงานเสียเลย มีหญิงสาวแบบนี้เข้ามาในตระกูล ก็ไม่ต้องกลัวเรื่องตระกูลจะไม่รุ่งโรจน์อีกแล้วตระกู

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 818

    "ประชาสัมพันธ์..."ฮั่วจือโจวไม่อยากจะเชื่อ "เจ้าคงไม่ได้คิดจะใช้เรื่องนี้เป็นเงื่อนไขไปชวนตระกูลอื่นอีกใช่ไหม?"จั๋วซือหรานยิ้มตอบ "ถึงตอนนั้นค่อยว่ากัน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้นี่นา"ถึงอย่างไรสิ่งนี้สำหรับนางแล้วคือเรื่องเล็กน้อยมาก......ไม่ถึงสองวัน ก็มีข่าวแพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองหลวง"ได้ยินว่าแม่นางจั๋วจิ่วมีความสัมพันธ์ที่ไม่เลวกับตระกูลฮั่ว แล้วนี่ยังไปร่วมมือกันด้วย!""ตระกูลฮั่วบ้าไปแล้วหรือ?! จั๋วจิ่วตอนนี้ไม่ใช่เป็นก้อนขี้หมาหรือไรกัน? ใครก็กลัวที่จะไปเกลือกกลั้วด้วย พวกเขาคิดอะไรกัน?""ได้ยินว่าแม่นางจั๋วจิ่วจะไปหลอมยาให้ตระกูลฮั่วทุกเดือน ยาลูกกลอนกู้หยวนแปดเม็ดเลยนะ!""ให้ตายเถอะ! นางเอาชีวิตมาหลอมเลยไหมนั่น? นางไม่ใช่เพิ่งจะสอบนักกลั่นยาหรือ? หลอกกันหรือเปล่า?""ถ้าเป็นพวกต้มตุ๋นล่ะก็ ตระกูลฮั่วเองก็ไม่ใช่คนโง่ ถึงจะยอมถูกนางหลอกนะ? ตระกูลฮั่วถ้าร่วมมือกับนางจริง ในบางระดับก็เหมือนไปผิดใจกับตระกูลอื่นแล้ว พวกเขาจะใช้ของปลอมมาผดใจกับตระกูลต่างๆ ไหม?"ข่าวเหล่านี้ ค่อยๆ กระจายตัวออกไปมีบางตระกูลเริ่มคิดจะทำเรื่องโง่ๆ ขึ้นแล้วและยังมีอีกข่าวหนึ่งที่กำลังแพร่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 819

    จั๋วซือหรานพอได้ยินคำนี้ เพียงแค่หัวเราะ ในรอยยิ้มไม่มีความอบอุ่นอยู่เลยหานกวงอดสั่นเทาขึ้นมาไม่ได้ นางเพิ่งสังเกตเห็นว่าแม่นางจิ่วคนนี้ เนื่องจากมองพวกเขาเป็นคนของตนเอง ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาเห็ฯจึงล้วนเป็นด้านที่อ่อนโยนของนางทำให้พวกเขารู้สึกราวกับได้สัมผัสสายลมเย็ฯสบายในฤดูใบไม้ผลิ ถูกโอบล้อมด้วยความอบอุ่นรู้สึกว่าแม่นางจิ่วอบอุ่นยิ่งกว่าดวงตะวันเสียอีกแต่พอเห็นสายตาเย็นชาที่เหมือนจะไปสังหารศัตรูเช่นนี้ของจั๋วซือหรานหานกวงจึงเพิ่งรู้ตัวว่า คนในสายตาพวกเขาที่อบอุ่นเหมือนดวงตะวัน สำหรับศัตรูแล้ว อาจจะกลายเป็นเปลวเพลิงร้อนแรงที่สามารถแผดเผาทำลายล้างก็ได้ มีพลังที่น่ากลัวมากความเย็นชาในดวงตาจั๋วซือหรานค่อยๆ กระจายออก นางกลอกตาไปมองหานกวง รอยยิ้มกลับมาอบอุ่นอ่อนโยนและสงบอีกครั้งน้ำเสียงฟังแล้วก็เหมือนก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยน "ใช่สิ เจ้านายของเจ้าทางที่ดีก็ต้องเป็นแบบนี้ล่ะ ไม่อย่างนั้น ข้าจะต้องคิดหาวิธีชิงตัวเขากลับมา จับแขวนแล้วอัดให้หายอยากแน่ๆ"หานกวงรู้สึกว่า เนื้อหาในคำพูดของแม่นางจิ่วฟังแล้วเหมือนจะเป็นเรื่องล้อเล่น แต่ในใจหานกวงกลับอดเหงื่อแตกแทนเจ้านายของตนเองไม่ได้"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 820

    หลังจากกินเสร็จ อารมณ์ของจั๋วซือหรานก็เหมือนจะดีขึ้นมาจริงๆหานกวงถาม "คุณหนูจิ่ว ท่านอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อยแล้วใช่ไหม?"จั๋วซือหรานตอบ "เอาอย่างนั้นนั่นล่ะ แต่ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดล่ะก็ ตอนบ่ายน่าจะมีคนมาหาพวกเจ้า"หานกวงเดิมทียังไม่รู้ว่าความหมายของจั๋วซือหรานคืออะไรใครจะรู้ ว่าตอนบ่ายก็มีคนเข้ามาจริงๆตอนที่หานกวงเข้ามารายงาน ใบหน้าดูแข็งทื่ออยู่บ้าง "แม่นางจิ่ว มีคนมาขอพบท่าน"จั๋วซือหรานเดิมทีนั่งอยู่บนแคร่ จิตใต้สำนึกอยู่ในมิติ กำลังจัดระเบียบมิติของตนเอง และถือโอกาสเข้าไปดูแลเหล่าสัตว์เลี้ยงของตนเองด้วยขนมเผือกกวนกับขนมชามที่เพิ่งกลับมา และยังแมงมุมน้อยที่เพิ่งคลอดกับลูกหลายๆ ตัวของมันรวมถึงสัตว์อสูรอีกหลายตัวที่จั๋วซือหรานได้มาจากซางเชวี่ยเพราะตอนที่ซางเชวี่ยต่อสู้กับนาง การบีบบังคับของวิชาควบคุมสัตว์ซางเชวี่ย ทำให้สัตว์อสูรทุกตัวล้วนบาดเจ็บสาหัสดังนั้นต่อให้ชุบเลี้ยงในมิติของจั๋วซือหรานมาแล้วระยะหนึ่ง สภาพจึงยังไม่ถือว่าดีนัก ดูยังไม่สดใสเท่าไรนักจั๋วซือหรานยังไม่วางใจนัก ดังนั้นพอมีเวลาว่างจึงอยากจะรักษาพวกมันให้ดีขึ้นเสียหน่อย ยิ่งไปกว่านั้นยังรู้สึกว่าเจ้าพวกนี้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 821

    คนที่มาไม่ใช่ใครอื่น ผู้อาวุโสเจ็ดจั๋วอี้จากตระกูลจั๋วนั่นเองจั๋วอี้มองแล้ว ดูจะเหี่ยวเฉาลงกว่าก่อนหน้าเล็กน้อยสายตาเขามองลูกสาวตรงหน้าอย่างซับซ้อน ในใจก็พูดไม่ออกว่ารู้สึกอย่างไรจั๋วอี้ถึงแม้จะเป็นผู้อาวุโสของตระกูลจั๋ว แต่เนื่องจากลำดับค่อนไปทางด้านหลัง แล้วปกติยังค่อนข้างเก็บตัว ขั้วอำนาจตระกูลเบื้องหลังจึงค่อนข้างอ่อนแอดังนั้นในกลุ่มผู้อาวุโส อำนาจในการตัดสินใจจึงไม่ได้มากนักก่อนหน้านี้ มักถูกผู้อาวุโสสามผู้อาวุโสห้าที่เป็นพวกปกติชอบโอ้อวดหยิ่งผยองคอยกดขี่อยู่เสมอถ้าหากไม่ใช่เพราะจั๋วซือหรานโดดเด่นขึ้นมาอย่างไม่คาดคิด...พูดแล้วจั๋วซือหรานเองก็ไม่ได้โดดเด่นขึ้นมาหรอก เพียงแต่หลังจากถูกใส่ร้ายป้ายสีไป จู่ๆ ก็เหมือนระเบิดขึ้นมาเลยหลังจากการระเบิดนั่น สถานการณ์ของตระกูลจั๋วก็แย่ลงทุกวันและเพราะเรื่องของนาง ผู้อาวุโสสามกับผู้อาวุโสห้าก็ถูกตำหนิและด่าทออย่างหนัก เขาในฐานะที่เป็นผู้อาวุโสเจ็ด ตอนนี้อำนาจตัดสินใจในตระกูลก็เหมือนจะสูงขึ้นมาเรื่อยๆ ด้วยจั๋วอี้ไม่เห็นด้วยกับการกระทำบางอย่างของตระกูลมาโดยตลอด อย่างเช่นตอนแรกเพื่อจะปกป้องพวกขี้แพ้อย่างจั๋วหยุนเฟิงในตอนนั้น

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 822

    และตระกูลจั๋ว ถ้าเทียบกับอิจฉา สิ่งที่มากกว่าน่จะเป็น...เสียใจภายหลังกระมังเดิมที นี่เป็นอัจฉริยะของตระกูลพวกเขา เดิมที น่าจะเองคนตระกูลอื่นที่มาอิจฉาตระกูลเขาเดิมทีนี่น่าจะเป็นอัจฉริยะที่เจิดจ้าที่สุดของตระกูลพวกเขา ในห้าตระกูลใหญ่ ไม่มีใครเทียบได้เลยเพราะคนในตระกูลพวกนั้นทำแต่เรื่องบ้าๆ ทีละนิดทีละหน่อยจนมาถึงจุดนี้ มันก็สมควรแล้วหลังจากรู้ข่าวของตระกูลฮั่ว ตระกูลจั๋วก็รีบหารือกันตลอดทั้งคืน หลังจากหารือไปหลายครั้ง ในที่สุดก็ตัดสินใจ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องลองไปหาจั๋วซือหรานเสียหน่อยลองดูว่าจะดึงคนในตระกูลคนนี้กลับมาได้ไหมลองดูว่าจะเปลี่ยนใจจั๋วซือหรานกลับมาได้ไหมเพียงแต่ว่าเรื่องนี้ใครไปทำก็กลายเป็นปัญหาทั้งนั้น ผู้อาวุโสสามกับผู้อาวุโสห้าช่วงนี้บารีมีในตระกูลจั๋วก็ลดต่ำลงทุกวี่วันเดิมทีคิดจะให้พวกเขาทำเรื่องนี้แต่ผู้อาวุโสสามก็ปฏิเสธ บอกว่าจั๋วซือหรานมีความแค้นกับเขา ถ้าหากตนเองไปล่ะก็ น่าจะทำให้จั๋วซือหรานอารมณ์ไม่ดี เกรงว่าจะได้ผลตรงกันข้ามมาแทนถึงแม้ใครก็ฟังออกว่านี่เป็นการปฏิเสธของผู้อาวุโสสาม แต่ก็จำใจต้องพิจารณา ว่าคำพูดของเขาเองก็มีเหตุผลดังนั้นท้ายสุด ผู้อ

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1268

    นางยืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น แหงนตาขึ้นมองพวกเขาสายตาของเฟิงเหยียนอึ้งไปเล็กน้อย เห็นนางยืนอยู่ในประตูด้วยสีหน้านิ่งขรึมเขารู้สึกลำคอแห้งผากอย่างประหลาด ความรู้สึกนั้น บางทีควรจะเรียกว่า...ตึงเครียดไหม?"เจ้า...ตื่นขึ้นมาตอนไหนน่ะ?" เฟิงเหยียนถามจั๋วซือหรานมองเขา "ไม่นานเท่าไร"เหมือจะมองออกถึงความกระอักกระอ่วนของเขา หรืออาจจะไม่สรุปคือ มุมปากจั๋วซือหรานยกขึ้นบางๆ พูดมาคำหนึ่ง "ท่านอ๋องน้อย ไม่เจอกันเสียนาน"นางทำแบบนี้โดยไม่เอ่ยถึงคำพูดก่อนหน้านั้นแม้แต่น้อยเฟิงเหยียนอ้าปากพะงาบ ต่อให้คิดจะพูดอะไร แต่ชั่วขณะหนึ่งก็เหมือนจะพูดออกมาไม่ได้จึงแค่ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง "ดีขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ดีขึ้นมากแล้ว"กระทั่งปันอวิ๋นก็ยังมองออกถึงเรื่องระหว่างพวกเขา ไม่รู้เพราะเจ้าสมองกลับนี่ไปแตะเนื้อต้องตัวทำอะไรนาง หรือเป็นเพราะคำพูดเมื่อครู่นางได้ยินคำพูดของเฟิงเหยียน...สรุปคือ ปันอวิ๋นมองพวกเขาทั้งสองคน แล้วก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแทนพวกเขาทั้งสองคนปันอวิ๋นคิดๆ ดู ตอนที่ตนเองอยู่กับจั๋วซือหรานก็ยังไม่ได้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขนาดนี้รู้สึกร้อนใจแทนเจ้าบ้านี่จร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1267

    เพราะเป็นเพื่อนสนิท ปันอวิ๋นจึงเข้าใจความหมายที่เขาคิดจะแสดงออกมาหรือก็คือ ปันอวิ๋นเดาได้นานแล้วบางทีตอนนั้นเพื่อจะให้จั๋วซือหรานหลีกเลี่ยงโชคชะตาเช่นนี้ ตนเองจึงเลือกที่จะลืมเลือนแต่สุดท้ายพอวกไปวนมา ก็กลับมาเดินอยู่บนเส้นทางเดิมเจ้าสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตานี่ ลึกลับเอามากๆบางครั้งเหมือนจะมีเมตตา แต่บางครั้งก็เหมือนไม่เคยปราณีใครผู้ใด"แล้วเจ้าตอนนี้...คิดจะทำอย่างไร?" ปันอวิ๋นถามเขาจ้องเฟิงเหยียนตาไม่กระพริบเอาจริงๆ ปันอวิ๋นใช้มองจากมุมมองคนนอกอย่างมีเหตุมีผล ยังหวังว่าจั๋วซือหรานจะสามารถปล่อยวางได้แต่พอคิดถึงว่าถ้าหากจั๋วซือหรานปล่อยวางแล้วล่ะก็ ด้วยโชคชะตาภาชนะพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงของเฟิงเหยียน ผลสรุปสุดท้าย ก็คือตายก่อนวัยอันควรอยู่ดีและเพราะรู้เรื่องนี้ ดังนั้นปันอวิ๋นจึงหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสริมมาคำนึง "ถังฉือเคยบอกข้าไว้ ในโถงวิญญาณอสูร พวกสัตว์เทพที่ถูกเก็บกลับมาเหล่านั้น..."ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว คิดถึงคำพูดของถังฉือถังฉือมีบาปหนาจากการฆ่าฟันคนมากมาย กลายเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจไปแล้ว ถ้าหากไม่เย็นชาไร้หัวใจ ป่านนี้คงเป็นบ้าไปแล้วดังนั้นตอนที่เขาพูดถึงเรื่องเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1266

    ปันอวิ๋นส่งให้เขาชามหนึ่ง ตนเองก็ด้วยทั้งสองคนไม่พูดพล่ามทำเพลง กระดกรวดเดียวจนหมดราวกับว่า สุราที่มาช้าไปหลายปีนี้ ในที่สุดก็ได้ดื่มเสียทีราวกับว่าภาพเด็กน้อยที่แอบขโมยสุราพวกนั้นมาดื่ม ซ้อนทับเข้ามากับพวกเขาในเวลานี้"ช่วงนี้เจ้า ไม่ได้ติดต่อกับพวกเขาเลยหรือ?"หลังจากร่ำสุราลงท้องไปสองชาม จิตใจก็เหมือนจะผ่อนคลายลงมาไม่น้อย ปันอวิ๋นถามขึ้นอย่างสบายๆ เป็นกันเองเฟิงเหยียนฟังออก ว่าเขาถามถึงเหล่าพี่น้องพวกนั้นเขาตอบอืมไปคำหนึ่ง "ไม่ได้ติดต่อกันเลย""เช่นนั้นก็คงไม่รู้สถานการณ์ของพวกเขาเลยสินะ" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเฟิงเหยียนไม่ยอมรับหรือปฏิเสธกับสิ่งนี้ ถือว่ายอมรับไปกลายๆปันอวิ๋นยิ้มๆ เหมือนจะเย้ยหยันตนเอง "แต่ก็ไม่โทษพวกเขาที่ไม่ติดต่อเจ้า ด้วยสถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้ ก็ไม่มีหน้ามาติดต่อเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ"ได้ยินคำนี้ของปันอวิ๋น เฟิงเหยียนก็ไม่พูดอะไรอีกปันอวิ๋นเอ่ยต่อว่า "ซงซีตอนนี้ทุกวันเหมือนขลุกอยู่แต่ในห้องหลอมสกัด หลอมสกัดอยู่ทุกวันไม่ได้พักเลย"เฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ คิ้วก็ขมวดขึ้นบางๆ"เยี่ยนเหวย...ก็สูบเลือดออกมาทุกวัน อยู่แบบไม่เหมือนผู้เหมือนคน ผู้อาวุโสหวงจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1265

    บางทีคงเป็นเพราะการคุยแบบเปิดอกก่อนหน้านี้ ทำให้ระยะทางขอเพื่อนสนิทสองคนที่เคยห่างไปตามกาลเวลา ย่อหดลงไปไม่น้อยเลยกระมังดังนั้นพอได้ยินปันอวิ๋นบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ เฟิงเหยียนจึงเหลือบมองเขา น้ำเสียงเปลี่ยนไป "ก็ได้ เช่นนั้นก็ไม่ขอบคุณแล้วกัน"เฟิงเหยียนสั่งขึ้นมา "ไป ไปเอาสุรามาให้ข้าหน่อย"แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในเสียงกลับไม่ได้ออกคำสั่งอะไร ฟังแล้วเหมือนการใช้งานระหว่างเพื่อนกันมากกว่าปันอวิ๋นชะงักไปเล้กน้อย เพราะตอนพวกเขายังเด็ก ก็เคยใช้งานกันและกันแบบนี้ไป ไปเอาสุรามาหน่อยได้ งั้นเจ้าก็เอาปลาไปย่างซะข้าเห็นว่าเจ้าหน้าตาเหมือนปลาถ้าเจ้ายังพูดอีกรอบ จะโดนข้ากดจนจมถังสุราตายไปเลยเพราะคำพูดนี้ของเฟิงเหยียน ทั้งสองคนก็เหมือนกลับไปสมัยยังเด็กในชั่วพริบตาปันอวิ๋นยกมุมปากขึ้นบางๆ ลุกขึ้นไปให้คนรับใช้ส่งสุราเข้ามาคือสุราห้าพิษที่เขาจะหมักอยู่ทุกปี และใช้แมลงพิษมาหลอมจริงๆ แต่ตัวสุรากลับไม่มีพิษใดๆ กระทั่งยังหอมอบอวลเข้มข้นเป็นพิเศษ เป็นสุราที่หาได้ยากยิ่งและเป็นความลับที่ไม่เผยแพร่สู่ภายนอกของหุบเขาหมื่นพิษ ปกติมีแค่เจ้าหุบเขาที่รู้แต่ปันอวิ๋น หลังจากออกสำนักมา ก็ไม่ได้ด

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status