แชร์

บทที่ 815

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
สวนชิวอี

ในห้องนอน บรรยากาศหนักอึ้ง

"แค่เด็กสาวที่ถูกตระกุลทอดทิ้งคนหนึ่ง กลับสร้างสถานการณ์ขึ้นมาได้ขนาดนี้ ทำเอาคนคาดไม่ถึงเลยทีเดียว"

"อดยอมรับไม่ได้ พวกเราดูถูกนางเกินไป"

ผู้อาวุโสตระกูลเฟิงสองคนนั่งอยู่บนเก้าอี้ เอ่ยขึ้นเสียงขรึม

พอได้ยินคำพูดของพวกเขา ซือคงอวี้ก็ยกมุมปากเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม "ข้าเองก็คิดถึงจุดนี้แล้ว ดังนั้นจึงคิดจะร่วมมือกับทุกท่านขึ้นมา"

ซือคงอวี้มองพวกเขาสายตาขรึม "ดูท่าทุกท่านน่าจะได้ข่าวแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่มาหาข้าเพื่อหารือเรื่องร่วมมือไวขนาดนี้"

หลังจากเหล่าผู้อาวุโสตระกูลเฟิงได้ยิน สีหน้าก็ดูแย่ขึ้นมา

พวกเขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าจั๋วซือหรานจะมีปฏิกิริยาไวขนาดนี้!

พวกเขาเพิ่งตัดสินใจจะร่วมมือกับราชวงศ์ นางก็บุกเดี่ยวเข้าไปในวังสวนราชวงศ์ ช่วยจักรพรรดิออกมาเสียแล้ว! แทบจะอุดเส้นทางของพวกเขาทิ้งไปเลยทันที!

อันที่จริง เหล่าผู้อาวุโสของตระกูลเฟิงก็วางแผนจะเข้าไปวังสวนราชวงศ์เพื่อช่วยเหลือองค์จักรพรรดิออกมา

แต่เพราะตระกูลก็มีความหยิ่งทระนงในศักดิศรีของตระกูลอยู่ ไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับราชวงศ์หรือชนชั้นสูงอื่นๆ อยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีความตั้งใจจะเข้าไปยุ่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 816

    พอได้ยินคำพูดของซือคงอวี้ สีหน้าผู้อาวุโสตระกูลเฟิงครุ่นคิดเคร่งขรึมอยู่ครู่หนึ่ง จึงถามกลับเสียงต่ำ "ท่านอ๋องพูดจริงหรือ?""จริงแท้แน่นอน ไม่มีเกินจริง" ซือคงอวี้มองเหล่าผู้อาวุโสตระกูลเฟิงและผู้อาวุโสตระกูลเฟิงก็สบตากันผาดหนึ่ง เหมือนทำการตัดสินใจบางอย่างแล้ว พวกเขาจึงหมุนตาไปมองซือคงอวี้ เอ่ยขึ้นเสียงต่ำว่า "พวกเรามีวิธีหลอกหญิงสาวคนนี้ออกมาได้"ซือคงอวี้เลิกคิ้ว "โอ๋? พูดจริงหรือ? จากที่ข้ารู้ หญิงสาวคนนี้ฉลาดแกมโกงมาก ไม่ยอมเสียเปรียบเลย ยังไม่มีใครเคยเอาเปรียบนางได้ คนที่เป็นศัตรูกับนาง ล้วนพ่ายแพ้ล้มเหลวกันหมด"ผู้อาวุโสตระกูลเฟิงเอ่ยขึ้น "ก็เป็นเช่นนั้นจริง แต่ว่าจั๋วจิ่วลับไม่ใช่ว่าจะไม่มีจุดอ่อนเลย ตั้งแต่แรก นางเอาจุดอ่อนของตนเองวางออกมาต่อนห้าคนทั้งหมดแล้ว"ซือคงอวี้ได้ยินคำนี้ ก็มีปฏิกิริยาขึ้นมา "พวกท่านหมายถึง..."เหล่าผู้อาวุโสตระกูลเฟิงจ้องมองซือคงอวี้ "สรุปคือ ขอแค่ท่านอ๋องมีวิะีการ เช่นนั้นก็ทำตามที่พวกเราบอก ก็จะล่อนางออกมาได้แน่นอน"......จั๋วซือหรานแน่นอนว่าไม่รู้พวกเขากำลังคิดอะไร และก็ไม่คิดจะไปหาข่าวด้วยนางยังคง ไปสังหารคนตระกูลเฟิงยิ่งไปกว่านั้นต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 817

    "ตระกูลเฟิงร่วมมือกับอ๋องอวี้ชินหรือ?" ฮั่วจือโจวเลิกคิ้ว "ตอนนี้ยังไม่ได้ยินข่าวนี้เลย""น่าจะใกล้แล้ว คอยดูว่าพวกเขาหารือกลยุทธ์อะไรออกมา" จั๋วซือหรานเหมือนจะคาดการณ์กับเรื่องนี้เอาไว้แล้ว"เจ้าแน่ใจว่าพวกเขาจะร่วมมือกันหรือ?"ฮั่วจือโจวถาม "ตระกูลเฟิงตามหลักการแล้ว ไม่น่าจะมีความสัมพันธ์ที่ดีเท่าไรกับอ๋องอวี้ชินกระมัง?"ก่อนหน้านี้โรคระบาดกู่ก็เป็นฝีมือของอ๋องอวี้ชิน ตระกูลเฟิงยังเสียลูกหลานฝีมือดีไปตั้งหลายคนจากเรื่องนี้ตามหลักการแล้วน่าจะเป็นคู่แค้นกันสิฮั่วจือโจวจะสงสัยมันก็เรื่องปกติจั๋วซือหรานหัวเราะเอ่ยขึ้นว่า "ถ้าไม่มีเรื่องอะไรก็จะร่วมมือกันแน่ๆ ถึงอย่างไร ข้าก็เดินบนเส้นทางตระกูลเฟิงแล้ว ต่อให้พวกเขาไม่ร่วมมือกับซือคงอวี้ แต่จากการกระทำเหล่านี้ของข้า พวกเขาก็น่าจะร่วมมือกันแล้วล่ะ"ฮั่วจือโจวมองนาง ไม่พูดอะไร ไม่ว่าจะตอนไหน ก็ยังรู้สึกว่าน่าชื่นชมมาก นางมีสายตาที่กว้างไกลจริงๆไม่แปลกเลยที่ผู้อาวุโสใหญ่จะพูดว่า ถ้าไม่กังวลว่าจะไม่มีใครควบคุมนางอยู่ ก็อยากให้เขาไปขอนางแต่งงานเสียเลย มีหญิงสาวแบบนี้เข้ามาในตระกูล ก็ไม่ต้องกลัวเรื่องตระกูลจะไม่รุ่งโรจน์อีกแล้วตระกู

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 818

    "ประชาสัมพันธ์..."ฮั่วจือโจวไม่อยากจะเชื่อ "เจ้าคงไม่ได้คิดจะใช้เรื่องนี้เป็นเงื่อนไขไปชวนตระกูลอื่นอีกใช่ไหม?"จั๋วซือหรานยิ้มตอบ "ถึงตอนนั้นค่อยว่ากัน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้นี่นา"ถึงอย่างไรสิ่งนี้สำหรับนางแล้วคือเรื่องเล็กน้อยมาก......ไม่ถึงสองวัน ก็มีข่าวแพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองหลวง"ได้ยินว่าแม่นางจั๋วจิ่วมีความสัมพันธ์ที่ไม่เลวกับตระกูลฮั่ว แล้วนี่ยังไปร่วมมือกันด้วย!""ตระกูลฮั่วบ้าไปแล้วหรือ?! จั๋วจิ่วตอนนี้ไม่ใช่เป็นก้อนขี้หมาหรือไรกัน? ใครก็กลัวที่จะไปเกลือกกลั้วด้วย พวกเขาคิดอะไรกัน?""ได้ยินว่าแม่นางจั๋วจิ่วจะไปหลอมยาให้ตระกูลฮั่วทุกเดือน ยาลูกกลอนกู้หยวนแปดเม็ดเลยนะ!""ให้ตายเถอะ! นางเอาชีวิตมาหลอมเลยไหมนั่น? นางไม่ใช่เพิ่งจะสอบนักกลั่นยาหรือ? หลอกกันหรือเปล่า?""ถ้าเป็นพวกต้มตุ๋นล่ะก็ ตระกูลฮั่วเองก็ไม่ใช่คนโง่ ถึงจะยอมถูกนางหลอกนะ? ตระกูลฮั่วถ้าร่วมมือกับนางจริง ในบางระดับก็เหมือนไปผิดใจกับตระกูลอื่นแล้ว พวกเขาจะใช้ของปลอมมาผดใจกับตระกูลต่างๆ ไหม?"ข่าวเหล่านี้ ค่อยๆ กระจายตัวออกไปมีบางตระกูลเริ่มคิดจะทำเรื่องโง่ๆ ขึ้นแล้วและยังมีอีกข่าวหนึ่งที่กำลังแพร่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 819

    จั๋วซือหรานพอได้ยินคำนี้ เพียงแค่หัวเราะ ในรอยยิ้มไม่มีความอบอุ่นอยู่เลยหานกวงอดสั่นเทาขึ้นมาไม่ได้ นางเพิ่งสังเกตเห็นว่าแม่นางจิ่วคนนี้ เนื่องจากมองพวกเขาเป็นคนของตนเอง ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาเห็ฯจึงล้วนเป็นด้านที่อ่อนโยนของนางทำให้พวกเขารู้สึกราวกับได้สัมผัสสายลมเย็ฯสบายในฤดูใบไม้ผลิ ถูกโอบล้อมด้วยความอบอุ่นรู้สึกว่าแม่นางจิ่วอบอุ่นยิ่งกว่าดวงตะวันเสียอีกแต่พอเห็นสายตาเย็นชาที่เหมือนจะไปสังหารศัตรูเช่นนี้ของจั๋วซือหรานหานกวงจึงเพิ่งรู้ตัวว่า คนในสายตาพวกเขาที่อบอุ่นเหมือนดวงตะวัน สำหรับศัตรูแล้ว อาจจะกลายเป็นเปลวเพลิงร้อนแรงที่สามารถแผดเผาทำลายล้างก็ได้ มีพลังที่น่ากลัวมากความเย็นชาในดวงตาจั๋วซือหรานค่อยๆ กระจายออก นางกลอกตาไปมองหานกวง รอยยิ้มกลับมาอบอุ่นอ่อนโยนและสงบอีกครั้งน้ำเสียงฟังแล้วก็เหมือนก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยน "ใช่สิ เจ้านายของเจ้าทางที่ดีก็ต้องเป็นแบบนี้ล่ะ ไม่อย่างนั้น ข้าจะต้องคิดหาวิธีชิงตัวเขากลับมา จับแขวนแล้วอัดให้หายอยากแน่ๆ"หานกวงรู้สึกว่า เนื้อหาในคำพูดของแม่นางจิ่วฟังแล้วเหมือนจะเป็นเรื่องล้อเล่น แต่ในใจหานกวงกลับอดเหงื่อแตกแทนเจ้านายของตนเองไม่ได้"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 820

    หลังจากกินเสร็จ อารมณ์ของจั๋วซือหรานก็เหมือนจะดีขึ้นมาจริงๆหานกวงถาม "คุณหนูจิ่ว ท่านอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อยแล้วใช่ไหม?"จั๋วซือหรานตอบ "เอาอย่างนั้นนั่นล่ะ แต่ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดล่ะก็ ตอนบ่ายน่าจะมีคนมาหาพวกเจ้า"หานกวงเดิมทียังไม่รู้ว่าความหมายของจั๋วซือหรานคืออะไรใครจะรู้ ว่าตอนบ่ายก็มีคนเข้ามาจริงๆตอนที่หานกวงเข้ามารายงาน ใบหน้าดูแข็งทื่ออยู่บ้าง "แม่นางจิ่ว มีคนมาขอพบท่าน"จั๋วซือหรานเดิมทีนั่งอยู่บนแคร่ จิตใต้สำนึกอยู่ในมิติ กำลังจัดระเบียบมิติของตนเอง และถือโอกาสเข้าไปดูแลเหล่าสัตว์เลี้ยงของตนเองด้วยขนมเผือกกวนกับขนมชามที่เพิ่งกลับมา และยังแมงมุมน้อยที่เพิ่งคลอดกับลูกหลายๆ ตัวของมันรวมถึงสัตว์อสูรอีกหลายตัวที่จั๋วซือหรานได้มาจากซางเชวี่ยเพราะตอนที่ซางเชวี่ยต่อสู้กับนาง การบีบบังคับของวิชาควบคุมสัตว์ซางเชวี่ย ทำให้สัตว์อสูรทุกตัวล้วนบาดเจ็บสาหัสดังนั้นต่อให้ชุบเลี้ยงในมิติของจั๋วซือหรานมาแล้วระยะหนึ่ง สภาพจึงยังไม่ถือว่าดีนัก ดูยังไม่สดใสเท่าไรนักจั๋วซือหรานยังไม่วางใจนัก ดังนั้นพอมีเวลาว่างจึงอยากจะรักษาพวกมันให้ดีขึ้นเสียหน่อย ยิ่งไปกว่านั้นยังรู้สึกว่าเจ้าพวกนี้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 821

    คนที่มาไม่ใช่ใครอื่น ผู้อาวุโสเจ็ดจั๋วอี้จากตระกูลจั๋วนั่นเองจั๋วอี้มองแล้ว ดูจะเหี่ยวเฉาลงกว่าก่อนหน้าเล็กน้อยสายตาเขามองลูกสาวตรงหน้าอย่างซับซ้อน ในใจก็พูดไม่ออกว่ารู้สึกอย่างไรจั๋วอี้ถึงแม้จะเป็นผู้อาวุโสของตระกูลจั๋ว แต่เนื่องจากลำดับค่อนไปทางด้านหลัง แล้วปกติยังค่อนข้างเก็บตัว ขั้วอำนาจตระกูลเบื้องหลังจึงค่อนข้างอ่อนแอดังนั้นในกลุ่มผู้อาวุโส อำนาจในการตัดสินใจจึงไม่ได้มากนักก่อนหน้านี้ มักถูกผู้อาวุโสสามผู้อาวุโสห้าที่เป็นพวกปกติชอบโอ้อวดหยิ่งผยองคอยกดขี่อยู่เสมอถ้าหากไม่ใช่เพราะจั๋วซือหรานโดดเด่นขึ้นมาอย่างไม่คาดคิด...พูดแล้วจั๋วซือหรานเองก็ไม่ได้โดดเด่นขึ้นมาหรอก เพียงแต่หลังจากถูกใส่ร้ายป้ายสีไป จู่ๆ ก็เหมือนระเบิดขึ้นมาเลยหลังจากการระเบิดนั่น สถานการณ์ของตระกูลจั๋วก็แย่ลงทุกวันและเพราะเรื่องของนาง ผู้อาวุโสสามกับผู้อาวุโสห้าก็ถูกตำหนิและด่าทออย่างหนัก เขาในฐานะที่เป็นผู้อาวุโสเจ็ด ตอนนี้อำนาจตัดสินใจในตระกูลก็เหมือนจะสูงขึ้นมาเรื่อยๆ ด้วยจั๋วอี้ไม่เห็นด้วยกับการกระทำบางอย่างของตระกูลมาโดยตลอด อย่างเช่นตอนแรกเพื่อจะปกป้องพวกขี้แพ้อย่างจั๋วหยุนเฟิงในตอนนั้น

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 822

    และตระกูลจั๋ว ถ้าเทียบกับอิจฉา สิ่งที่มากกว่าน่จะเป็น...เสียใจภายหลังกระมังเดิมที นี่เป็นอัจฉริยะของตระกูลพวกเขา เดิมที น่าจะเองคนตระกูลอื่นที่มาอิจฉาตระกูลเขาเดิมทีนี่น่าจะเป็นอัจฉริยะที่เจิดจ้าที่สุดของตระกูลพวกเขา ในห้าตระกูลใหญ่ ไม่มีใครเทียบได้เลยเพราะคนในตระกูลพวกนั้นทำแต่เรื่องบ้าๆ ทีละนิดทีละหน่อยจนมาถึงจุดนี้ มันก็สมควรแล้วหลังจากรู้ข่าวของตระกูลฮั่ว ตระกูลจั๋วก็รีบหารือกันตลอดทั้งคืน หลังจากหารือไปหลายครั้ง ในที่สุดก็ตัดสินใจ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องลองไปหาจั๋วซือหรานเสียหน่อยลองดูว่าจะดึงคนในตระกูลคนนี้กลับมาได้ไหมลองดูว่าจะเปลี่ยนใจจั๋วซือหรานกลับมาได้ไหมเพียงแต่ว่าเรื่องนี้ใครไปทำก็กลายเป็นปัญหาทั้งนั้น ผู้อาวุโสสามกับผู้อาวุโสห้าช่วงนี้บารีมีในตระกูลจั๋วก็ลดต่ำลงทุกวี่วันเดิมทีคิดจะให้พวกเขาทำเรื่องนี้แต่ผู้อาวุโสสามก็ปฏิเสธ บอกว่าจั๋วซือหรานมีความแค้นกับเขา ถ้าหากตนเองไปล่ะก็ น่าจะทำให้จั๋วซือหรานอารมณ์ไม่ดี เกรงว่าจะได้ผลตรงกันข้ามมาแทนถึงแม้ใครก็ฟังออกว่านี่เป็นการปฏิเสธของผู้อาวุโสสาม แต่ก็จำใจต้องพิจารณา ว่าคำพูดของเขาเองก็มีเหตุผลดังนั้นท้ายสุด ผู้อ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 823

    จั๋วอี้พยักหน้าตอบรับ รู้ว่าในขวดนั่นใส่อะไรไว้ นี่คือเงื่อนไขที่จั๋วซือหรานร่วมมือกับตระกูลฮั่ว ยาลูกกลอนขั้นสี่จั๋วอี้เองก็มองออก เดิมทีนางน่าจะไม่มีความคิดหยิบยาลูกกลอนเหล่านี้ออกมา แล้วมอบให้กับเขาเพราะเห็นแก่ที่เขานำของขวัญมาส่ง...เด็กสาวคนนี้ ไม่ใช่หญิงสาวคนนั้นที่ไม่มีพ่อคอยช่วยเหลือ ทำได้แค่ดิ้นรนอยู่คนเดียวแบบที่พวกเขารู้จักแล้วหรือก็คือ พวกเขาอันที่จริงก็นึกไม่ค่อยออก ว่าจั๋วซือหรานในความทรงจำน่าจะเป็นแบบไหนหรือบางทีอาจะเพราะ หลังจากที่จั๋วซือหรานถูกไม่ถูกใส่ร้ายจนไปแต่งกับฉินตวนหยาง นางก็ชนะขึ้นมาตลอดจนถึงตอนนี้ นึกตัวนางในอดีตกันไม่ออกไปนานแล้วจำกันได้แต่ภาพนางในชุดแดงที่แข็งแกร่งกระฉับกระเฉงทรงพลังจั๋วอี้หลังจากออกไป หานกวงก็ขมวดคิ้วอยู่ข้างๆ ดูมีท่าทีต่อจั๋วอี้...เอาให้ถูกคือรู้สึกดูถูกต่อพฤติกรรมหญ้าข้างกำแพงของตระกูลจั๋วอย่างมากทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยจะดีกับแม่นางจิ่วเลย ตอนนี้กลับรู้ว่าต้องมาเอาอกเอาใจหานกวงถาม "แม่นางจิ่ว ท่านทำไมจึงไม่บอกเขาไปล่ะ ว่าองค์จักรพรรดิเฒ่ายอมส่งช่องทางการค้าส่งราชวงศ์ทั้งหมดของตระกูลจั๋วให้กับท่านไปแล้วล่ะ? เช่นนั้นถึงจะทำ

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1102

    รอยยิ้มบนใบหน้าจั๋วซือหรานไม่เปลี่ยน "เช่นนั้นก็ขอบคุณมาก""ไม่เป็นไร" 'เยี่ยนหราน' เอ่ยขึ้นเสียงเรียบจั๋วซือหรานยังคงยิ้มบาง "บัวเจ็ดดอกเจ็ดใบแกนกลางเทียนนี้เป็นสิ่งมีพิษกระมัง?""อืม" เขาไม่ได้ตระหนักถึงว่าอะไรผิดปกติ พยักหน้าตอบกลับ "เป็นสิ่งมีพิษที่มีอยู่ไม่มากนัก สามารถสร้างหมอกพิษขึ้นในป่าได้ ต้นของมันเดิมทีก็มีพิษร้ายแรงอยู่"อาหารรสชาติไม่เลวเลย น้ำแกงทำเอาตัวคนผ่อนคลายลงมาเลยทีเดียวเขาค่อนข้างผ่อนคลาย...หรือบางที สิ่งที่ทำให้เขาผ่อนคลายไม่ใช่น้ำแกงร้อน แต่เป็นเสียงอ่อนโยนของนาง...เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันดังนั้น ตอนนี้เขาจึงไม่ได้สังเกตถึงอะไรที่ผิดปกติพอได้ยินคำถามที่จั๋วซือหรานเพิ่งถาม ก็ตอบกลับนางมาตรงๆหลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงหญิงสาวใสเย็น เพียงแต่ว่า ไม่ได้อ่อนโยนแบบก่อนหน้านี้แล้วเพียงแค่เอ่ยขึ้นเรียบๆ ว่า "เป็นของดีจริงๆ เพียงแต่ว่า..." นางเปลี่ยนหัวข้อสนทนา "ไม่รู้ว่าคุณชายเยี่ยนรู้ได้อย่างไร...หรือทำไมจึงรู้สึกว่า ข้าสามารถทนทานต่อธาตุพิษได้โดยไม่ต้องเกรงกลัวอะไร?"มือที่จับตะเกียบของชายหนุ่ม หยุดนิ่งไปในชั่วพริบตาเขาแหงนตา มองไปยังสีหน้าของหญิงสาว อั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1101

    คำพูดนี้ของจั๋วซือหรานไม่ได้มีเจตนาอะไรเป็นพิเศษแต่นางหน้าตาดี แล้วยังฉลาดเฉลียว ปกติเวลาปฏิบัติต่อใครก็จะมีท่าทีเย็นชา ดังนั้นต่อให้จะสวย แต่ก็ยังรู้สึกเหินห่างด้วยเช่นกันแต่ตอนนี้ท่าทีของนาง กลับไม่ได้เย็นชาเหมือนปกตินางยิ้มตาโค้ง ยิ้มสวยหยาดเยิ้มราวกับดวงดาวพร่างพราวอยู่เต็มฟ้า เหมือนมีมนต์สะกดที่ไม่รู้จัก สามารถทำให้คนจมดิ่งเข้าไปได้ในพริบตา'เยี่ยนหราน' มองตานางนิ่ง ไม่ย้ายสายตาไปไหนเลยพักหนึ่ง"ทำไมหรือ?" จั๋วซือหรานถามขึ้นเบาๆ'เยี่ยนหราน' ตอนนี้จึงส่งเสียงฮึจากจมูกออกมาเป็นเชิงถาม คล้ายกับเพิ่งจะรู้สึกตัวจั๋วซือหรานหัวเราะ ถามขึ้นว่า "คุณชายเยี่ยนเหม่อไปแล้วหรือ? ชื่อดวงดาวที่เจ้าบอกล่ะ?"ตอนนี้เขาจึงเอ่ยขึ้น "เหลียนเจิน เทียนเยว่ เทียนจี เทียนเซี่ยง เทียนถง เทียนเหลียง..."หลังจากจั๋วซือหรานได้ยิน ก็เลิกคิ้วขึ้น "ไม่เลวจริงๆ ถ้าอย่างนั้นก็เอาตามที่คุณชายว่าแล้วกัน ขอบคุณมาก"ปฏิกิริยาเหล่านี้ของ 'เยี่ยนหราน' จั๋วซือหรานรู้สึกว่าน่าสนใจอย่างเห็นได้ชัดและรู้สึกว่าใกล้เคียงแล้ว จึงลุกขึ้นยืน "คุณชายเยี่ยนค่อยๆ กินเถิด ข้าจะไปดูพวกคนรับใช้ที่บาดเจ็บพอดี แล้วจะบอก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1100

    "เอาที่อร่อยดีกว่า" ขนมชามเองก็ใสซื่อ เอ่ยขึ้นว่า "นายท่านเองก็หิวแล้วนี่"จั๋วซือหรานยื่นนิ้วออกมานิ้วหนึ่ง จับไปที่ขนมชามเบาๆยิ้มตาโค้ง "เด็กดี"จากนั้นนางก็เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ "เอาล่ะ ถือว่าเขาโชคดีแล้วกัน"โชคดีที่มาเจอเข้ากับขนมชามที่นิสัยอ่อนโยนที่ด้านนอก ถ้าหากขนมถั่วแดงอยู่ด้านนอกล่ะก็ คงได้เสนออีกข้อหนึ่งมาแน่จั๋วซือหรานหยิบวัตถุดิบออกมาจากในมิติ คิดจะทำอาหารสักมื้อหลักๆ คือ อันที่จริงเดิมทีนางก็อยากจะทำให้ใจเขาปั่นป่วนอยู่แต่พอคิดๆ แล้วก็รู้สึกว่า ถ้าหากจะปั่นป่วนจิตใจเขาจริง ก็เหมือนจะไม่ใช่วิธีการที่ปฏิบัติต่อเขาอย่างเย็นชาตาของจั๋วซือหรานหรี่ลง พริบตานี้...ก็เหมือนมีแผนการใหม่ขึ้นมาแล้วประมาณราวสามเค่อกับข้าวสี่อย่างน้ำแกงหนึ่งอย่างอันหอมหวนชวนกิน ก็เสร็จสิ้นลงจากเตา"นี่คือปลาเปรี้ยวหวาน ขานกย่าง เนื้อกระดูกหอมเกรียม คะน้าไฟแดง แล้วก็มีน้ำแกงเต้าหู้กระดูกปลาอีกที่ด้วย"จั๋วซือหรานนำอาหารหอมหวนชวนกิน ยกมาวางกองลงตรงหน้า 'เยี่ยนหราน'จากนั้นจึงเลิกแขนเสื้อขึ้น เผยให้เห็นข้อมือขาว หยิบตะเกียบแล้วเอ่ยขึ้นว่า "คุณชายเยี่ยน ลองชิมฝีมือของข้าหน่อย"ตอนที่พูดค

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1099

    เหล่าคนค้มกันทยอยกันมองไปทางหัวหน้าคนคุ้มกัน ในสายตาเต็มไปด้วยความต้องการความช่วยเหลืออย่างจริงใจหัวหน้าคนคุ้มกันกัดฟันถามขึ้น "แม่ แม่นาง...คงจะไม่คิดจะตั้งชื่อ..."เขาชะงักไป เปลี่ยนทิศทางคำพูด เอ่ยต่อว่า "...อะไรทำนองนี้หรอกใช่ไหม?"ไม่หรอกกระมัง?จั๋วซือหรานเองก็ไม่ได้โง่ ฟังไม่ออกถึงความกังวลพวกเขาเสียที่ไหนนางเหลือบมองพวกเขาผาดหนึ่ง จงใจแหย่พวกเขา เอ่ยขึ้นว่า "ทำไมล่ะ ไม่ดีหรือ? ลาย่างไฟ ขนมไส้หมู หมูชุบกรอบ เป็ดหมักน้ำจิ้ม หมูผัดเปรี้ยวหวาน"นางพูดไปด้วยพลางชี้นิ้วไปทางพวกเขาจากนั้นจึงเห็นว่าสีหน้าของเหล่าคนคุ้มกันแทบจะร้องไห้กันออกมาแล้วตอนนี้เอง เสียงหัวเราะแผ่วเบาเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นที่ประตูจั๋วซือหรานมองไปตามเสียง ก็เห็นร่างเงาหนึ่งที่คุ้นเคย"เจ้าทำไมมาอยู่ที่นี่?" จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว มองคนที่มาใหม่ด้วยสายตาลึกซึ้ง จากนั้นก็พ่นชื่อออกมา "เยี่ยนหราน? ข้าจำชื่อไม่ผิดใช่ไหม"ชายหนุ่มร่างตรงแน่วเดินเข้ามาจากประตู พยักหน้าเบาๆ "ถูกต้อง"จั๋วซือหรานแหงนตามองเขา ไม่พูดอะไรชายหนุ่มก้มหน้ามองนาง สบตากันครู่หนึ่ง อันที่จริงในใจเขาก็ไม่ค่อยสงบนัก แค่คิดว่านางมองอะไรอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1098

    นางหมายถึง...กองหนุนที่ย้ายมาจากสำนักเมฆาวารีของผู้เฒ่าเหอสินะ!?แต่ใครก็ตามที่มีความคิดเช่นนี้ เขาคงจะรู้สึกว่าอีกฝ่ายหยิ่งผยองโอหังถึงที่สุดหญิงสาวตรงหน้าคนนี้ ตอนที่เผยความหมายนี้ออกมากลับไม่ทำให้เขารู้สึกถึงความหยิ่งผยองโอหังแม้แต่น้อยเพราะ เรื่องราวเหมือนจะเป็นเช่นนี้จั๋วซือหรานเหมือนจะงึมงำกับตนเองขึ้นว่า "พอเข้าใจวิชาหุ่นเชิดกับหุ่นเชิดมนุษย์แล้ว มันน่าสนใจจริงๆ ทางที่ดีขอให้พวกเขาเอาเจ้าพวกนี้มาเล่นด้วย จะได้ไม่เสียเวลาที่ให้ข้ารอนานขนาดนี้...เจิ้นเจียงเหลือบมองทุกคนที่มีบาดแผลพอคิดๆ ก็ถามจั๋วซือหรานขึ้น "แม่นาง แล้วจะเรียกพวกเขาว่าอย่างไรกัน? เหมือนว่าจะบาดเจ็บกันหนักมาก ข้าพาพวกเขาไปพักผ่อนดีไหม?"หัวหน้าคนคุ้มกันมองออก ว่าคนรับใช้คนนี้ของนายท่าน เหมือนจะไม่ได้กังวลอะไรเลยกับสถานการณ์ที่นายท่านกำลังจะเผชิญแม้ไม่รู้ว่าผ่านเรื่องอะไรมา ถึงทำให้บ่าวมีความเชื่อมั่นที่เด็ดขาดขนาดนี้แต่ไม่ว่าจะผ่านอะไรมาอันที่จริงคนคุ้มกันอย่างพวกเขา ก็เพิ่งจะผ่านการถูกตระกูลเหอปฏิบัติอย่างโหดร้ายมานี่เองและยังเห็นเจิ้นเจียงมีความเชื่อมั่นที่เด็ดขาดขนาดนี้ต่อนายท่านแม้พวกเขา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1097

    จั๋วซือหรานหลังจากพูดจบ ผู้เฒ่าเหอในที่สุดก็ทนกับความโกรธไม่ไหวตาเหลือกสลบเหมือดไปอีกครั้งจั๋วซือหรานจึงพาคนออกมาจากจวน ตอนที่ไปยังโรงเตี๊ยม หัวหน้าคนคุ้มกันยังมีความระแวดระวังอยู่"แม่นาง นี่คือโรงเตี๊ยมของตระกูลเหอ"จั๋วซือหรานเหลือบมองเขา พยักหน้าตอบ "ข้ารู้""ท่านไม่กังวล..." ขณะที่หัวหน้าคนคุ้มกันเอ่ยขึ้น ก็ตระหนักขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว ว่าเจ้านายใหม่ของตนเอง เหมือนเดิมทีจะเป็นคนที่ไม่ค่อยกังวลกับอะไรนัก""ถ้าหากกังวลล่ะก็ เกรงว่าตอนที่พวกเขาอยู่ในป่าทวนแสงก่อนหน้านี้ คงไม่ถูกนางเล่นงานเสียจนเป็นแบบนั้นหัวหน้าคนคุ้มกันบอกพูดพลางยิ้มจางๆ บอกกับตนเองว่า "ก็ถูก..."จั๋วซือหรานเพิ่งเดินเข้าประตูโรงเตี๊ยม เจิ้นเจียงก็เข้ามาต้อนรับแล้ว "คุณหนู! ท่านกลับมาแล้ว!"จั๋วซือหรานขานรับอืม เหลือบมองเขา "มีเรื่องอะไรยุ่งยากหรือเปล่า?"เจิ้นเจียงส่ายหัวตอบกลับ "ไม่มีเลยขอรับ ก็แค่ตอนที่เริ่มมีคนคิดจะมาหาเรื่อง แต่ยังไม่ทันได้แตะข้า ก็ถูกฟาดจนล้มไป หลังจากนั้น...ไม่มีหลังจากนั้นแล้วขอรับ"เจิ้นเจียงรู้ว่านายท่านคงทำอะไรไว้บนตัวตนเอง แต่ว่าจนถึงตอนที่เห็นคนที่คิดจะเข้ามาหาเรื่อง กระทั่งย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1096

    ราวกับว่าความรู้สึกที่คลุมเครือในใจนั้น ในที่สุดก็โผล่ขึ้นมาอีกครั้งนางไม่มีประสบการณ์ผ่านเรื่องนี้จริงๆ แต่ในเส้นโชคชะตาของเจ้าของร่างเดิม เสน่ห์หนอนพิษกู่ในร่างเจ้าของเดิมถูกควบคุมโดยฉินตวนหยาง ทำให้ร่างกายไม่เป็นตัวของตัวเอง แล้วมองเห็นตนเองถูกควบคุมอยู่ตลอดเวลาทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้นแตกต่างอะไรกับหุ่นเชิดความมืดกัน วิญญาณถูกขังให้รับการควบคุมอยู่ในเปลือกร่าง ไม่อาจสงบสุขได้อีก ไม่อาจหลุดพ้นได้...เกลียดชังขนาดที่แม้จะเกิดใหม่อีกครั้ง ก็ยังไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกแล้วผู้เฒ่าเหอพอได้ยินคำนี้ ก็ไม่ได้ส่งเสียงอะไร ยังคงเช็ดแผลเลือดซิบบนหน้าตนเอง เช็ดจนบวมขึ้นมาแล้วจั๋วซือหรานไม่หันไปมองผู้เฒ่าเหออีก นำทางคนที่รับเข้ามาใหม่เตรียมจะออกไปพวกเขาแม้จะยังไม่ได้ฟื้นฟูกลับมาอย่างสมบูรณ์ แต่อย่างน้อยก็เดินกันได้แล้วยิ่งไปกว่านั้นในใจพวกเขาก็เข้าใจดี ต่อให้ตนเองเดินไม่ได้ จะต้องคลาน! ก็ต้องตามแม่นางออกไปพอเห็นจั๋วซือหรานออกไป ในใจผู้เฒ่าเหอก็เกิดความรู้สึกโล่งใจออกมาแต่ความรู้สึกที่มากว่า ยังคงเป็ฯความโกรธเคือง ชิงชังจนเข้ากระดูกดำแม้จะไม่กล้าพูดอะไรที่รุนแรงออกมา แต่กลับยังใช้สาย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1095

    จั๋วซือหรานฟังถึงจุดนี้ อันที่จริงก็ไม่มีอะไรให้ฟังต่อเท่าไรแล้ว อย่างอื่นก็เหมือนจะเดาออกมาได้อยู่สาเหตุที่ใช้คนเป็นมาหลอมสกัด โดยเฉพาะต้องไปลอบโจมตีคนที่ทักษะยุทธ์ยอดเยี่ยมมาหลอมเป็นหุ่นเชิดความมืดแน่นอนว่าเป็นเพราะทักษะยุทธ์กับความคิดด้านต่อสู้ของอีกฝ่าย และสิ่งเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในร่างกายของอีกฝ่าย แต่อยู่ในจิตใต้สำนึกของอีกฝ่าย...พูดให้ง่ายหน่อย คืออยู่ในจิตวิญญาณของอีกฝ่ายนั่นเองพอร่างตายวิญญาณก็ดับสลายแล้วตะปูวิญญาณนี่...จั๋วซือหรานมองตะปูยาวในมือเล่มนี้ ฟังจากชื่อก็เดาประโยชน์ของมันได้ไม่ยากโหดร้ายมาก ตอกดวงวิญญาณของอีกฝ่ายไว้ในร่างกาย ประสิทธิภาพของอักขระคำสาปเปล่านี้ ก็ควรจะเป็นเช่นนี้กระมังผู้เฒ่าเหอพอเห็นจั๋วซือหรานไม่ถามต่อ ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ถอนใจยาวออกมาและตอนนี้เอง หลังจากได้รับการรักษาของจั๋วซือหราน หัวหน้าคนคุ้มกันที่ฟื้นฟูพลังปราณมาแล้วบางส่วนก็พูดกับจั๋วซือหรานอย่างนอบน้อม "แม่นาง ปรมาจารย์วิชาเหยี่ยนที่หลอมสกัดหุ่นเชิดความมืดเป็นคนแรก ก็คือบรรพจารย์ผู้ก่อตั้งสำนักเมฆาวารี แต่เจ้าสำนักเมฆาวารีในตอนนี้ เป็นรุ่นหลังของบรรพจารย์ผู้ก่อตั้งสำนักคนนั้น"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1094

    ถ้าหากใช้ศพของคนล่ะ?แต่ถึงอย่างไรมันก็เป็นสิ่งต้องห้าม ดังนั้นตอนที่หุ่นเชิดร่างแรกถูกหลอมออกมา ปรมาจารย์วิชาเหยี่ยนคนนั้นกระทั่ง ปรมาจารย์วิชาเหยี่ยนคนนั้นก็พบกับการลงโทษที่รุนแรงยิ่งไปกว่านั้นหุ่นเชิดมนุษย์ก็ถูกตราว่าเป็นสิ่งต้องห้าม แต่ว่า ทักษะนี้ก็ปรากฏออกมาแล้วทักษะอะไรก็ตามพอปรากฏออกมาแล้ว ต่อให้จะถูกตีตราเป็นสิ่งต้องห้ามก็ตาม แต่ก็ยังมีคนที่แอบนำมาใช้งานกันอยู่ส่วนหุ่นเชิดความมืดตัวแรกนั้น...จั๋วซือหรานฟังถึงตรงนี้ก็เลิกคิ้วขึ้น "ดังนั้นเอาคนเป็นมาใช้ถึงจะกลายเป็นหุ่นเชิดความมืดสินะ"นางมองผู้เฒ่าเหอ "ข้าเป็นหมอ วิชาแพทย์เองก็ไม่เลวนัก บาดแผลที่เกิดขึ้นก่อนตายกับบาดแผลที่เกิดขึ้นหลายตายไปแล้ว ข้าเข้าใจเป็นอย่างดี"เจตนาที่จั๋วซือหรานพูดคำนี้ออกมานั้นง่ายมาก ก็คือจะพูดกับผู้เฒ่าเหอให้ชัดเจนถึงความหมายหนึ่ง...อย่าโกหกข้าผู้เฒ่าเหอเหลือบมองนางผาดหนึ่ง ตอนนี้จึงเอ่ยขึ้นเสียงเล็ก "ใช่แล้ว แค่นำคนเป็นมาทำ ก็จะเรียกว่าหุ่นเชิดความมืด แม้หุ่นเชิดความมืดจะถูกสั่งห้ามมาตลอด แต่ระหว่างปรมาจารย์วิชาเหยี่ยนด้วยกันก็มีการหารือกันมาตลอด หุ่นเชิดมนุษย์ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องควา

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status