All Chapters of ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง: Chapter 391 - Chapter 400

1026 Chapters

บทที่ 391

“หรานหราน ที่นี่ที่ไหนลูก เรามาทำอะไรที่นี่”อวิ๋นเหนียงรู้สึกประหม่าเล็กน้อย จั๋วหวายอยู่ด้านข้าง เขายิ่งหวาดกลัวโดยไม่กล้าพูดอะไร เพราะอวิ๋นเหนียงเป็นฮูหยินที่อยู่ในบ้านตลอด และนางอาจไม่รู้จักหลายเรื่องและสถานที่มากมายแต่จั๋วหวายพอรู้อะไรบางอย่าง ตัวอย่างเช่น ในตอนท้ายของถนนที่ไม่ค่อยมาคนเดินเข้ามาเป็นสถานที่ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้มากยิ่งขึ้น - หน่วยสืบสวนพิเศษ“ท่านพี่ ท่านพี่...” จั๋วหวายกระซิบ “เรา เรามาทำอะไรที่นี่ และ…”จั๋วหวายพูดและมองดูชายที่นั่งตรงข้ามเขาอย่างระมัดระวังเขาพูดต่อด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “...มากับท่านอ๋องด้วย”อวิ๋นเหนียงยิ่งรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้น “ หรานหราน มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า”แม้ว่าอวิ๋นเหนียงเป็นแม่เลี้ยงลูกที่ไม่สนใจเรื่องทางโลก แต่นางก็ไม่ได้โง่เช่นกัน ท่านอ๋องที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสนั่งรถม้าคนเดียวกับพวกเขา... อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องอันตรายแน่ ๆหลังจากรถม้าจอดสนิท จั๋วซือหรานจับไหล่ของท่านแม่ของนางด้วยมือทั้งสองข้าง“ท่านแม่ไม่ต้องกังวล ท่านแม่แล เสี่ยวหวายอยู่ที่นี่ ปลอดภัยแน่นอน” จั๋วซือหรานกล่าวแต่เมื่ออวิ๋นเหนียงได้ยินคำพูดของลูกสาว นาง
Read more

บทที่ 392

ยังไม่มีการตอบสนองเพราะเมื่อจั๋วซือหรานเป่านกหวีด จั๋วหวายกำลังยืนอยู่ใกล้ ๆ ดังนั้นเมื่อเขาเห็นพี่สาวของเขาเล่นเป่านกหวีด และไม่มีการตอบสนองใด ๆเขาบอกพี่สาว "บางที... เขาอาจไม่อยู่พอดี หรือเขากำลังพักผ่อนอยู่พอดี เลยไม่ได้ยิน เสียงนกหวีดนี้ก็ไม่ดังด้วย..."จั๋วซือหรานฟังออก เสี่ยวหวายกำลังช่วยบรรเทาความลำบากใจของนาง นางยิ้มเบา ๆ และคิดกับตัวเองว่านางไม่ต้องการเขาช่วยบรรเทาความลำบากใจหรอกเพราะจั๋วซือหรานเชื่อว่า ชิ่งหมิงต้องยินจริง ๆ ตั้งแต่แรกอยู่แล้วตราบใดที่ชิ่งหมิงเป็นคนธรรมดา จั๋วซือหรานยังไม่แน่ใจขนาดนี้นักแต่เขาคือชิ่งหมิง ผู้ที่สามารถทำให้ซือหลี่ตันติ่งย้ำว่า หากรับปากชิ่งหมิง ชิ่งหมิงจะเชื่อจริง ๆ นางต้องทำให้ได้ มิเช่นนั้น นางอย่ารับปากใด ๆ กับชิ่งหมิงเลยจั๋วซือหรานรู้สึกว่าบุคคลเช่นนี้จะต้องทำตามที่เขาพูดอย่างแน่นอนเขาเอาเป่านกหวีดนี้ให้นาง เพราะฉะนั้นเขาต้องได้ยินแน่นอนอย่างที่นางคิดไว้จริง ๆ หลังจากนั้นไม่นานเสียงทื่อดังขึ้นพวกเขาเห็นว่ากำแพงที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา ในส่วนของบ้านหลังที่สามเริ่มขยับทันทีเหมือนมีกลไกบางอย่างถูกเปิดใช้งานจากนั้นมีประตูบาน
Read more

บทที่ 393

ทันทีที่จั๋วซือหรานพูดจบ นางเห็นชายหนุ่มที่เดินอยู่ตรงหน้านางแทบจะล้มบนพื้นหลังจากเขาพยายามทรงตัวให้ได้ เขาก็หันไปมองนางแล้วถาม "เรื่อง เรื่องอะไร"จั๋วซือหรานกล่าวต่อ "เมื่อเร็ว ๆ นี้ข้าต้องจัดการปัญหาบางอย่าง แต่ข้ากังวลความปลอดภัยของทุกคน ข้าคิดไปคิดมา ในเมืองหลวง หากพูดว่ามีที่ใดเป็นสถานที่ที่มีกำแพงเหล็ก ตรงนี้แหละ"เมื่อชิ่งหมิงได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน เขากลั้นตัวไม่ได้แล้วเขารีบถาม “ปัญหาหรือ ซือหราน เจ้าเจอปัญหาอะไร”เขาทำตัวเหมือนเขารอไม่ไหวแล้ว เขาต้องการไปช่วยนางด้วยตัวเอง“ข้าจัดการได้ แต่แค่เรื่องนี้ เจ้าช่วยข้าได้ไหม” จั๋วซือหรานกล่าว นางมองเขาด้วยสายตาที่บิดเบี้ยว แล้วพูดเสริม“ท่านเจ้าคะ”ชิ่งหมิงตอบ "ไม่มีปัญหา มันแค่..."ชิ่งหมิงมองไปที่ซือคงเซี่ยนซือคงเซี่ยนทักทายเขาเมื่อเห็นแววตาของชิ่งหมิง จั๋วซือหรานรู้สึกว่าอาจเป็นเพราะฐานะของซือคงเซี่ยน ซึ่งทำให้ชิ่งหมิงรู้สึกลำบากใจเพราะโดยปกติแล้ว หน่วยสืบสวนพิเศษจะไม่เข้าไปยุ่งเรื่องของราชวงศ์โดยไม่คาดคิด ก่อนที่จั๋วซือหรานจะพูดอะไรต่อ ชิ่งหมิง พูด "...ข้าไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แค่นั้นเอง"หลังจากจั๋วซือหรานได
Read more

บทที่ 394

จั๋วซือหรานเดินออกจากห้องซือคงเซี่ยนมองไปที่ประตูที่ปิดอยู่ ในที่สุดเขาก็หายใจยาว ๆ แล้วนอนลงบนเตียงอันนุ่ม ๆ ห้องนี้คงไม่มีคนพักเป็นเวลานานดังนั้นจึงมีกลิ่นที่อธิบายไม่ได้ในอากาศในฐานะองค์ชายที่ใช้ชีวิตดีมาก่อน ซือคงเซี่ยนไม่น่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ได้แต่น่าประหลาดใจ ภายใต้สภาพแวดล้อมเช่นนี้ เขารู้สึกสบายใจมากเช่นเดียวกับที่ซือหรานเคยพูด นี่คือสถานที่ที่มีกำแพงเหล็ก ทำให้เขารู้สึกปลอดภัยจากก้นบึ้งของหัวใจซือคงเซี่ยนไม่สามารถบอกได้ว่าอารมณ์ของเขาเป็นอย่างไร เมื่อนึกถึงความทรมานที่เขาได้รับในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และจากนั้นก็ได้รับความสงบสุขในขณะนี้ เขารู้สึกราวกับว่าเขาอยู่ในอีกโลกหนึ่งเขานอนบนเตียง เขารู้สึกซาบวึ้งในใจ เขาเลยยกแขนขึ้นและบังดวงตาไว้ซือคงเซี่ยนยิ้มอย่างจำใจ เขาอดไม่ได้ที่ต้องคิดว่าไม่ใช่ว่าเขามั่นใจในตัวจั๋วซือหรานมากเกินไปแต่เป็นเพราะที่ตลอดมา การกระทำของจั๋วซือหราน ทำให้ผู้คนต้องเชื่อในความสามารถของนางจริง ๆดังนั้น ซือคงเซี่ยนจึงอดไม่ได้ที่ต้องสงสัยว่าในขณะนี้ เป็นไปได้ไหมว่า... เขาสามารถเอาชนะซือคงยวี่ได้โดยที่เขาไม่ต้องทำอย่างอื่น แค่นอนในห
Read more

บทที่ 395

สีหน้าของฉูนจวีนเปลี่ยนไปทันที และเขาก็หันไปมองที่ห้องใต้ดิน "เกิดอะไรขึ้น ท่านขอรับ ข้าน้อยขอเข้าไปดูก่อนขอรับ"เฟิงเหยียนไม่ได้คิดมากและพยักหน้าหลังจากฉูนจวีนลงไปแล้ว เฟิงเหยียนก็หันไปมองผู้พิทักษ์เงาที่รายงานในก่อนหน้านี้ "พูดต่อ"ผู้พิทักษ์เงาจึงกล่าวต่อว่า “ไปหน่วยสืบสวนพิเศษขอรับ ข้าคิดว่า แม่นางจิ่วอาจทราบเรื่องที่ที่เกิดขึ้นอย่างลับ ๆ ในเมื่อเร็ว ๆ นี้”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เฟิงเหยียนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “นางฉลาดมาก ตราบใดที่นางได้ข่าวแม้แต่น้อย นางก็สามารถเดาสถานการณ์คร่าว ๆ ของเรื่องได้”ช่วงนี้ อาจเป็นเพราะนางต้องยุ่งจัดการตระกูลเหยียน และตระกูลจั๋ว นางจึงไม่กระตือรือร้นกับเหตุการณ์ลับบางอย่างในเมืองหลวงไม่เช่นนั้น นางคงสังเกตเห็นตั้งนานแล้วเฟิงเหยียนฟังผู้พิทักษ์เงารายงานไป และสนใจกับการเคลื่อนไหวในห้องใต้ดินด้วยไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆนี่ยิ่งทำให้เฟิงเหยียนรู้สึกต้องมีอะไรผิดปกติแน่ ๆ เขาขมวดคิ้วผู้พิทักษ์เงาสังเกตสีหน้าของเขาและถามว่า "ท่านขอรับ มีอะไรผิดปกติหรือขอรับ"“ไม่มีการเคลื่อนไหวเลย” เฟิงเหยียนกล่าว มือของเขาวางไปที่เอวของเขาและจับด้ามกระบี่เสวียนเหย
Read more

บทที่ 396

เขาดึงกระบี่เสวียนเหยียนออกมา ในขณะที่เขาดึงกระบี่เสวียนเหยียนออกมา ลมดาบที่แผดเผาก็ลอยออกไปกระทบผีอันร้ายควบคุมทั้งสี่นั้น แต่ดูเหมือนว่าพลังนั้นไม่สามารถสร้างอันตรายใด ๆ ต่อพวกมันได้เฟิงเหยียนหรี่ตาลงและมองดูสถานการณ์ของพวกเขาอย่างเย็นชาไม่ บางทีอาจไม่ควรพูดว่า เขาไม่สามารถทำร้ายพวกเขาได้ เพราะเขาเห็นรอยแผลเป็นที่น่ากลัวบนร่างกายของพวกเขาที่เกิดจากลมดาบครั้งก่อนได้อย่างชัดเจนแต่ควรพูดว่าถึงแม้พลังนั้นทำให้พวกเขาต้องรับบาดแผล แต่ก็ไม่สามารถห้ามพวกเขาได้ ดูเหมือนพวกเขาไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดกระบี่เสวียนเหยียนของเฟิงเหยียนมีพลังไฟวิเศษที่บริสุทธิ์และรุนแรงที่สุดของตระกูล ในนั้นซึ่งเต็มไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น พลังนี้สามารถนำความเจ็บปวดมาสู่ผู้คนได้อย่างแน่นอนแต่ดูเหมือนพวกเขาทั้งสี่ไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยการโจมตีของเฟิงเหยียนทำให้พวกเขาหยุดชั่วขณะหนึ่งเท่านั้นจากนั้น ดูเหมือนว่าพวกเขาถูกพลังนี้ดึงดูด และพวกเขาก็เอียงหัวและมองดูสองคนที่ยืนที่ประตูห้องใต้ดินดูเหมือนว่าพวกเขาสนใจเนื้อและเลือดสดนี้มากกว่าเมื่อเฟิงเหยียนสังเกตพวกเขากำลังมองมา เฟ
Read more

บทที่ 397

เฟิงเหยียนลดสายตาลง เขาเห็นจั๋วซือหรานยื่นมือไปด้านหลัง และค่อย ๆ จับปลายดาบของเขาอย่างนุ่มนวลแต่การกระทำนี้ไม่ได้ทำให้เฟิงเหยียนไม่พอใจเลยในทางตรงกันข้าม ทันทีที่จั๋วซือหรานมีการกระทำเช่นนี้ เฟิงเหยียนก็ตระหนักว่า " จั๋วเสียวจิ่ว เจ้าช่วยเขาได้ไหม"เมื่อฉูนจวีนได้ยินคำพูดของเฟิงเหยียน ดวงตาอันแดงก่ำเขาที่เคยเต็มไปด้วยความปรารถนาที่อยากตายดูเหมือนตอนนี้ดวงตาคู่นี้มีประกายแห่งความหวังที่อาจเรียกได้ว่าเป็นความหวังเล็ก ๆเพราะหากเป็นคนอื่น ตอนนี้ฉูนจวีนคงไม่มีความหวังหรอกแต่คนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก... จั๋วซือหรานผู้หญิงคนนี้ทำให้ผู้คนประหลาดใจอยู่เสมอ นางทำให้คนต้อง...ตั้งตารอจริง ๆท้ายที่สุดแล้ว ใครจะอยากตาย หากพวกเขาสามารถมีชีวิตอยู่ได้จั๋วซือหรานหรี่ตาลงและมองดูอาการบาดเจ็บของฉูนจวีนอยู่ครู่หนึ่ง นางพยักหน้าเล็กน้อยแล้วกระซิบว่า "อาการบาดเจ็บมันไม่สำคัญเท่าไร ที่สำคัญที่สุดคือนี่.. นี่ถือเป็นยาพิษหรือพิษกู่กันแน่..."ฉูนจวีนซึ่งแต่เดิมเขาอยากตายอย่างเดียวแล้ว แต่เมื่อเขาได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน เขาตกใจอย่างมากในมุมมองของเขา เขาเอาชีวิตรอดได้จากเนื่องจากอาการบาดเจ็บข
Read more

บทที่ 398

เฟิงเหยียนฟังออกความหมายหยอกล้อในคำพูดของนาง แต่ภาพตรงหน้าเขาช่างน่าสลดใจอย่างเห็นได้ชัดหากเป็นคนอื่นเห็นนางยังพูดล้อเล่น คนผู้นั้นต้องโกรธแน่นอนถึงเวลาไหนแล้ว นางยังมีอารมณ์มาพูดเล่นแต่เฟิงเหยียนรู้ว่านางคือจั๋วซือหราน นางไม่ใช่คนธรรมดายิ่งนางยังพูดตลกในที่นี่ได้มากเท่าไร ก็ยิ่งหมายความว่าสถานการณ์อาจไม่ร้ายแรง อย่างน้อยก็ไม่ร้ายแรงเท่าที่เขาจินตนาการเพราเฟิงเหยียนเดาออกได้ง่าย ๆ และสาเหตุที่คนพวกนั้นทำเช่นนั้นก็ง่ายเหลือเกินเขารู้สึกว่าไม่ว่าใครจะอยู่เบื้องหลัง พวกเขาทั้งหมดทำเช่นนี้เพื่อกำจัดตระกูลเฟิงจั๋วซือหรานไม่รู้ว่าเฟิงเหยียนกำลังคิดอะไรอยู่ หากนางรู้ นางคงจะรู้สึกอย่างแน่นอนว่า หัวใจขององค์หญิงเจาหมิ่นจะแตกสลายเป็นชิ้น ๆเพราะท้ายที่สุดแล้ว องค์หญิงผู้รอบคอบคนนั้นยังคงรอช่วยเฟิงเหยียนและช่วยเหลือตระกูลเฟิงอยู่เลยเฟิงเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “เจ้าหมายถึง นี่คือโรคระบาดจริง ๆ ใช่ไหม”จั๋วซือหรานไม่สามารถตอบเขาได้ว่า นี่อาจเป็นไวรัสซอมบี้บางชนิด อันที่จริง นางไม่แน่ใจว่านี่คืออะไร อย่างน้อยนางก็ยังไม่ได้ศึกษาคนตายทั้งสี่คนเลยนางไม่รู้ว่ามันคืออะไร นางรู้สึกว
Read more

บทที่ 399

หากมีจั๋วซือหรานอยู่ หรือหากจั๋วซือหรานบอกว่า นางรักษาโรคนี้ได้แม้ว่าก่อนหน้านี้เฟิงเหยียนสิ้นหวังกับอาการบาดเจ็บของฉูนจวีน แต่ดูเหมือนว่าเขาจะรู้สึกมีความหวังในทันใดเฟิงเหยียนมั่นใจในความสามารถของนางมากไม่ใช่ว่าเขาเชื่อนางโดยร้ายเหตุผล แต่นี่เป็นความไว้วางใจที่จั๋วซือหรานได้รับมาเองเท่านั้นนางสามารถทำให้คนอื่นเกิดความรู้สึกเช่นนี้ หากนางบอกว่านางทำได้ นางก็จะทำสำเร็จได้แน่นอนเดิมทีฉูนจวีนคิดว่าเขาเป็นคนเดียวที่รู้สึกเช่นนี้ แต่เขาไม่คาดคิดว่าแม้แต่เจ้านายของเขาจะรู้สึกเช่นเดียวกันกับเขาดังนั้น ฉูนจวีนจึงรู้สึกว่าหลังจากที่จั๋วซือหรานบอกเขาว่า นางสามารถรักษาให้หายขาดได้ ดูเหมือนเจ้านายเริ่มไม่สนใจอาการบาดเจ็บของเขามากนักหลังจากจั๋วซือหรานเริ่มให้ยาที่ดีขึ้นแก่เขา เจ้านายก็หันกลับมาทันทีเจ้านายทำตามคำแนะนำของจั๋วซือหราน และไปมัดเหล่าผู้อาวุโสไว้ฉูนจวีนรู้สึกว่าเจ้านายพลาดฉากที่น่ากลัวแต่ไม่เจ็บปวดเช่นนี้ไป“แม่ แม่นาง แม่นางจิ่ว…” อักษรไม่กี่ตัวนี้ถูกฉูนจวีนแบ่งออกเป็นหลาย ๆ ส่วน“อะไร” จั๋วซือหรานเงยหน้าขึ้นและมองฉูนจวีน “อะไร”"ท่านนี่...นี่..." ฉูนจวีนไม่สามารถพู
Read more

บทที่ 400

"อย่ากลัวนะ" จั๋วซือหรานฟังฉูนจวีนพูดติดอ่าง นางคิดว่าก่อนหน้านี้ เขาถือเป็นผู้พิทักษ์เงาที่มีจิตใจแข็งแกร่ง ซึ่งมีเลือดออก แต่ไม่เคยหลั่งน้ำตาเลย นางสงสารเขาตกใจจนหวาดกลัวเช่นนี้ดังนั้นจั๋วซือหรานจึงปลอบใจเขาอย่างอ่อนโยนฉูนจวีนอาจไม่เคยเห็นจั๋วซือหรานพูดอ่อนโยนขนาดนี้มาก่อน ดังนั้นเมื่อเขาได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน เขาไม่รู้สึกสบายใจ ยิ่งไปกว่านั้น เสียงอันอ่อนโยนของนางทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวมากยิ่งขึ้นอีกด้วยฉูนจวีนพูดด้วยเสียงอันสั่นเทา "แม่ แม่นางจิ่วนี่...นี่ไม่ใช่...ไม่ใช่เสื้อผ้า ทำไมต้องเย็บด้วย"และเขาคงรู้ว่าเขาควบคุมเสียงของตัวเองไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจเสียงอันสั่นเทาของเขาเลยจั๋วซือหรานยิ้มหลังจากได้ยินคำพูดของฉูนจวีน นางพูดว่า "ประมาณนั้นแหละ หากเสื้อผ้าขาด เราเย็บใหม่ ก็ยังใส่ได้"ขณะที่นางพูด นางก็เย็บอีกเข็มหนึ่งแล้วเงยหน้าขึ้น จากนั้นนางมองและถามฉูนจวีน "มนุษย์เรานะ หากมีช่องที่ไหน เย็บหน่อย ก็จะใช้ได้เหมือนเดิม"จั๋วซือหรานพูดในใจว่า ฉูนจวีนคนนี้อาจเคยดูถูกนางเล็กน้อยมาก่อนหลังจากวันนี้ นางคงจะเป็นยักษ์ในสายตาของเขาตลอดไปหลังจากนั้นไม่นาน เฟิง
Read more
PREV
1
...
3839404142
...
103
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status