บททั้งหมดของ คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง: บทที่ 781 - บทที่ 790

910

บทที่ 781

ในตอนแรกเสิ่นหยินอู้ได้ยินคำพูดแย่ๆ ดังนั้นเธอจึงคิดจะออกไปโต้แย้งเล็กน้อย เธอคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงพวกนี้จะเอาเรื่องครอบครัวเธอมาโจมตีเธอ เธอกัดริมฝีปากล่างแล้วจ้องมองพวกเธอ: "พวกเธอพูดว่าอะไรนะ?" “ทำไมหรอ เราพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า? แต่คงจะมีแค่คนที่มีปัญหาในครอบครัวแบบเธอเท่านั้นแหละที่จะเห็นใจคนอย่างโม่ไป๋ ก็พวกตัวประหลาดอะเนอะ เข้ากับใครไม่ได้” “นี่ คุณหนูเสิ่น ถ้าเธอกับโม่ไป๋คบกัน ใครจะเป็นคนมีชู้ก่อนหรอ?” เสิ่นหยินอู้ถึงขีดจำกัด เธอโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ขณะที่เธอคิดที่จะไปต่อล้อต่อเถียงกับพวกเธอ ที่ด้านหลังเธอก็มีเสียงที่ดังกระหึ่มดังขึ้นมา เธอตกใจจนหันกลับไปมอง พบว่ามีถังขยะของโรงเรียนถูกใครบางคนตีจนแตกเป็นรูขนาดยักษ์ คนที่ทำคือโม่ไป๋ที่ยืนอยู่ข้างๆเธอ ชายหนุ่มยืนอยู่ที่นั่นด้วยสีหน้าเย็นชา สายตาที่เย็นชาของเขาจับจ้องไปที่ใบหน้าของเธอครู่หนึ่ง จากนั้นก็ย้ายไปมองที่ผู้หญิงที่พูดจาพล่อยๆเมื่อครู่นี้ จากนั้นรอยยิ้มที่ไม่เข้ากับความหล่อของเขาก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา “ถ้าอยากรู้มากขนาดนี้ มาถามจากหมัดของผมดีกว่าไหม?” "ประสาทแล้ว" ผู้หญิงพวกนั้นต่างก็ตกใจกลัวกับท่าทางของเ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 782

เมื่อเสิ่นหยินอู้ได้ยิน เธอก็เข้าใจได้ในทันทีว่าสิ่งที่เขาจะพูดต่อจากนี้ไม่เหมาะสมที่จะให้เหนียนเหนียนฟัง เมื่อคิดเช่นนั้น เธอก็พยักหน้า “ได้ค่ะ งั้นถ้าคุณมีโอกาสก็มาหาฉันนะคะ” “ได้เลยครับคุณหนูเสิ่น” เมื่อเดินผ่านทางเดินที่ยาวไกล ไม่นานพวกเขาก็ใกล้ที่จะถึงภายในตัวคฤหาสน์ จากที่ไกลๆ เสิ่นหยินอู้เห็นโม่ไป๋ยืนจูงมือเล็กๆของเหมิงเหมิงรอพวกเขาอยู่ที่หน้าประตู เมื่อเธอเดินเข้าไปใกล้ๆ โม่ไป๋ทำท่าราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อนทั้งนั้น “มาแล้วเหรอ? ระหว่างทางเมารถหรือเปล่า? สีหน้าดูไม่ดีเลย” โม่ไป๋จ้องมองไปที่ใบหน้าของเธอและแสดงความเป็นห่วงออกมา เขากักขังเธออยู่แท้ๆ แต่กลับแสร้งทำเป็นเหมือนว่าไม่ได้ทำอะไร ซึ่งมันทำให้เสิ่นหยินอู้โกรธมากจริงๆ เมื่อเธอขยับปากเธอก็ต้องการจะตอบโต้เขากลับไปโดยอัตโนมัติ แต่เมื่อคำพูดมาถึงริมฝีปาก คำพูดที่ผู้ช่วยเฉินพูดถึงเรื่องการฆ่าตัวตายของแม่ของเขาก็แวบขึ้นมาในหัวของเธอดังนั้นเมื่อคำพูดมาถึงริมฝีปาก เธอจึงกลืนคำพูดดังกล่าวกลับลงไป เธอก้มศีรษะลงและแสร้งทำเป็นว่าไม่ได้ยินสิ่งที่เขาเพิ่งพูด ช่างมันเถอะ ตอบโต้กลับไปก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ เห
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 783

สิบนาทีต่อมา ผู้ช่วยเฉินก็ออกจากห้องของเสิ่นหยินอู้ หลังจากที่เขาจากไป เสิ่นหยินอู้ก็ตกอยู่ในความเงียบ หลังจากมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น การที่นิสัยของโม่ไป๋ยังเป็นปกติอยู่ได้นั่นแหละที่แปลก ที่แท้ในตอนนั้นคุณนายโม่ไม่เพียงแต่ฆ่าตัวตายเท่านั้น แต่เธอยังตกอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งอยู่ช่วงหนึ่ง เธอพูดจาเพ้อเจ้อไร้สาระไปเรื่อย ถึงขั้นยังวางยาพิษลูกชายแท้ๆของเธอเองอีกด้วย โม่ไป๋ถูกเธอทุบตีดุด่าจนมีรอยแผลเป็นนับไม่ถ้วนบนร่างกาย แต่คงเป็นเพราะสงสารแม่ของตัวเองที่ต้องมาเป็นบ้าตั้งแต่อายุยังน้อย เขาจึงไม่ตอบโต้หรือส่งเสียงใดๆออกมา ต่อมาคุณปู่โม่รู้เรื่องเข้า จึงให้คนมาช่วยเขาออกมา วันที่คุณปู่พาเขาไป แม่ของโม่ไป๋ก็ฆ่าตัวตาย ในช่วงเวลานั้นตระกูลโม่ก็ตกอยู่ในความวุ่นวาย คุณปู่โม่ไม่เหมือนพ่อของโม่ไป๋ เขาเข้มงวดกับธรรมเนียมของครอบครัวและให้ความสำคัญกับศีลธรรมอันดีงามของตัวเองอยู่เสมอ ดังนั้นเขาจึงยึดอำนาจของพ่อของโม่ไป๋ไปในทันที จากนั้นก็ให้โม่ไป๋ที่เพิ่งสูญเสียแม่ของเขาไปกลายเป็นผู้สืบทอดคนต่อไปของตระกูลโม่ ส่วนเมียน้อยที่กำลังตั้งท้องอยู่และคิดที่จะบุกเข้าไปในบ้าน เดิมทีคุณปู่โม่คิดที่จ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 784

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ช่วงคิ้วถึงดวงตาของเด็กสาวตัวน้อยคนนี้คล้ายกับของโม่ไป๋มาก ถ้าดูจากภายนอก ถ้าบอกคนอื่นว่าพวกเขาเป็นพี่น้องกันก็คงไม่มีใครสงสัยเลยด้วยซ้ำ หลังจากที่เด็กสาวตัวน้อยร้องไห้ โม่ไป๋ก็นั่งคุกเข่าอยู่ตรงนั้น เขามองดูเธอร้องไห้งอแงและหลั่งน้ำตาราวกับกำลังดูละคร เสียงร้องไห้ของเด็กนั้นน่ารำคาญเป็นอย่างมาก แต่เขากลับดูเหมือนกำลังเพลิดเพลินอยู่กับทำนองเพลงอะไรสักอย่างที่ไพเราะ เมื่อฟังจนพอใจแล้ว เขาก็ให้คนมาปิดปากเด็กคนนั้นแล้วลากออกไป ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เด็กคนนั้นก็ไม่เคยมาหาโม่ไป๋อีกเลย เป็นเพราะเรื่องนี้ ผู้ช่วยเฉินจึงรู้สึกว่าโม่ไป๋มีอาการทางจิตอ่อนๆ อย่างน้อยในด้านจิตวิทยา เขาก็คงจะไม่ค่อยปกติสักเท่าไร เขาควรไปพบจิตแพทย์ แต่ผู้ช่วยเฉินไม่กล้าพูดถึงเรื่องนี้ เพราะกลัวว่าเขาอาจจบเห่กับชีวิตได้หากพูดเรื่องนี้ขึ้นมา ในตอนนี้เสิ่นหยินอู้ไม่ค่อยเข้าใจว่าโม่ไป๋กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ เขาขังเธอไว้เพียงเพราะว่าเขาชอบเธอ หรือเพราะว่าเขาทนไม่ได้ที่เธอจะถูกแย่งไปจากเขา? เมื่อคิดเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็เอื้อมมือไปบีบที่หว่างคิ้ว หากเขามีปัญหาทางจิต ถ้างั้นเรื่องก็คง
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 785

ณ สนามบิน ทันทีที่โจวชวงชวงและเผยจ้าวเหิงถึงสนามบิน พวกเขาก็รีบไปยังสถานที่ที่ก่อนหน้านี้เสิ่นหยินอู้ส่งตำแหน่งมาให้พวกเขา หลังจากที่รถมาจอดที่หน้าโรงแรม โจวชวงชวงก็เริ่มมองไปที่อาคารที่เสิ่นหยินอู้พูดถึงก่อนหน้านี้ พบว่ามันตรงกันทุกอย่างจริงๆเธอถอนหายใจให้กับทักษะความช่างสังเกตที่ละเอียดอ่อนและความทรงจำที่แม่นยำของเสิ่นหยินอู้ พลางปลดเข็มขัดนิรภัย จานนั้นก็เปิดประตูรถแล้วลงจากรถ จากนั้นเธอก็กำลังจะเดินไปที่โรงแรม แต่ก็ถูกเผยจ้าวเหิงซึ่งออกมาจากรถทีหลังเธอคว้าแขนเอาไว้ “ใจเย็นๆหน่อย เราเข้าไปทั้งๆแบบนี้ไม่ได้” เมื่อได้ยินเช่นนั้น โจวชวงชวงก็เบิกตากว้าง เธอถามกลับด้วยความร้อนรน: "เวลาแบบนี้ ทำไมฉันถึงยังเข้าไปไม่ได้? หรือจะให้ฉันรออยู่ข้างนอกโดยไม่สนใจความปลอดภัยของเพื่อนรักของฉันเลยงั้นเหรอ? รอแล้วได้อะไรล่ะ? ” เผยจ้าวเหิงกวาดสายตาไปมองเธอด้วยดวงตาสีดำเข้มของเขา ต่อมาก็หรี่ตาลงแล้วมองไปที่โรงแรม จากนั้นจึงออกคำสั่ง “ผมจะเข้าไปคนเดียว” “อะไรนะ?” หัวใจของโจวชวงชวงเต้นผิดจังหวะไปครึ่งหนึ่ง “คุณรอข้อความจากผมอยู่ข้างนอก ถ้าผมไม่ออกมาหลังจากนี้ครึ่งชั่วโมง คุณก็โทรหาตำรว
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 786

ดังนั้นเธอจึงรีบเรียกพนักงานและบอกว่าเธอไม่ชินกับการดื่มกาแฟในขณะที่ท้องว่าง จึงให้พนักงานเสิร์ฟของหวานให้เธอหนึ่งจาน เมื่อของหวานมาเสิร์ฟ โจวชวงชวงก็แสร้งทำเป็นหยิบช้อนขึ้นมาและตักมันไปสองช้อนเต็มๆ เธอคิดที่จะทานของหวานให้หมดโดยเร็วที่สุด ใครจะรู้ว่าเพราะเธอทานเยอะเกินไปในคำเดียว เธอจึงสำลัก โจวชวงชวงทำได้เพียงรีบหยิบกาแฟที่หมดความเย็นลงไปแล้วขึ้นมาดื่มสองอึกเพื่อให้หายสำลัก จากนั้นเธอก็มองไปที่ของหวาน แล้วก็มองไปที่กาแฟ และในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะไม่กิน เธอมุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่โรงแรมที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ผ่านไปสิบห้านาทีแล้ว ยังเหลือเวลาอีกห้านาที หากเขายังไม่ปรากฏตัวภายในห้านาที เธอจะต้องแจ้งตำรวจ แม้ว่าเธอจะรับปากกับหยินอู้ว่าจะไม่โทรแจ้งตำรวจ แต่หากเป็นสถานการณ์เป็นพิเศษ ยังไงก็ต้องแจ้งตำรวจ เสียงโทรศัพท์มือถือที่ไม่คาดคิดดังขึ้น มันทำให้โจวชวงชวงซึ่งนั่งอยู่ตกใจมาก เธอเกือบจะกระโดดขึ้นมาจากเก้าอี้ หลังจากใจเย็นลงแล้ว เธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา สิ่งที่แสดงขึ้นมาบนหน้าจอโทรศัพท์ก็คือเบอร์โทรศัพท์ของเผยจ้าวเหิง เธอรีบรับสาย “โจวเปาผี?” หลังจากพูดจบ โจวชวงชวงก็ป
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 787

เสิ่นหยินอู้อยู่กับเด็กๆที่ในห้องเป็นเวลานาน แต่โม่ไป๋ก็ยังไม่กลับมา ซึ่งมันทำให้เสิ่นหยินอู้รู้สึกแปลกๆ เขาพาเธอมาที่นี่แล้วแท้ๆ เขายังมีเรื่องอะไรที่ต้องออกไปจัดการนานขนาดนี้อีก? แล้วก็ เมื่อเธอถามพ่อบ้านเมื่อครู่นี้ สีหน้าของพ่อบ้านก็ดูไม่ปกติอยู่แวบหนึ่ง เกิดอะไรขึ้นกันแน่... เสิ่นหยินอู้ตัดสินใจที่จะออกไปดู เธอไม่สามารถนั่งรอเฉยๆแบบนั้นได้ เมื่อคิดเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็ให้เด็กน้อยทั้งสองรออยู่ด้วยกัน จากนั้นก็ลุกขึ้นและออกไป คาดไม่ถึงเลยว่าทันทีที่เธอออกไป เธอก็พบกับโม่ไป๋ที่กำลังเดินมาทางเธอ เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อตัวอื่นและถอดแว่นตาออก เมื่อเขาเห็นเสิ่นหยินอู้ ใบหน้าของโม่ไป๋ที่เดิมที่ยังเรียบเฉยอยู่ก็ปรากฎรอยยิ้มออกมาทันที "หยินอู้" เสิ่นหยินอู้: "..." เธอมองเครื่องแต่งกายแปลกๆของเขาแล้วถามว่า "นายไปไหนมา?" โม่ไป๋ตอบว่า: "ผมออกไปจัดการธุระมานิดหน่อย" “จัดการธุระต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยเหรอ?” เสิ่นหยินอู้สงสัย เมื่อได้ยินเช่นนั้น โม่ไป๋ก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นจึงยกริมฝีปากบางขึ้นและยิ้มอย่างอ่อนโยน “ที่แท้เธอก็สังเกตเห็นว่าผมใส่ชุดอะไร ผมอุส่าคิด
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 788

เสิ่นหยินอู้ขมวดคิ้ว “หยินอู้” โม่ไป๋เดินเข้าไปใกล้ๆ ลมหายใจที่แผ่วเบาของเขาปะทะเข้ากับใบหน้าของเธอ “ผมไม่อยากบอกเธอเพราะไม่อยากให้เธอมาสงสารผม แต่ก็ไม่คิดเลยว่าเธอจะรู้แล้ว ผู้ช่วยเฉินบอกเหรอ?” แม้ว่าระยะห่างระหว่างทั้งคู่จะใกล้กันมาก แต่เสิ่นหยินอู้กลับไม่รู้สึกถึงอุณหภูมิจากร่างกายของเขา และสายตาของเขาในเวลานี้บอกเสิ่นหยินอู้ว่าเขาอาจทำอะไรบางอย่างกับผู้ช่วยเฉิน เมื่อคิดเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและพูดว่า "ฉันเป็นคนถามเองแล้ว มันไม่เกี่ยวอะไรกับเขา" เมื่อได้ยินเช่นนั้น ริมฝีปากบางของโม่ไป๋ก็โค้งขึ้นเล็กน้อย สายตาอันอ่อนโยนของเขาจับจ้องไปที่ใบหน้าของเธอ "หยินอู้ ไม่ว่าเมื่อไรเธอก็ใจดีแบบนี้เสมอ" เช่นเดียวกับตอนที่เขายังเด็ก ในตอนที่ผู้หญิงพวกนั้นพูดถึงเขาลับหลัง เขา...ไม่ได้สนใจข่าวลือพวกนั้นเลยแท้ๆ เธอก็สามารถหลับหูหลับตา ทำเป็นไม่ได้ยินอะไร แล้วเดินออกไปก็ได้ แต่เธอกลับเข้าไปพูดแก้ต่างให้เขา ผู้หญิงเช่นนี้ เขาจะยอมปล่อยไปได้อย่างไรกัน? เธอเป็นเหมือนดวงอาทิตย์ ส่วนเขาเป็นปีศาจที่อยู่ในความมืดมิด คนที่อยู่ในความมืดมิดมาเนิ่นนาน จะมีใครบ้างที่ไม่โ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 789

คราวนี้ ในที่สุดโม่ไป๋ก็ยอมตอบกลับเธอไปตรงๆ “หยินอู้ เราอยู่ด้วยกัน ยังไงเราก็ต้องเจอกัน” “นายจะเอาแบบนี้ให้ได้เลยใช่ไหม? ตอนนี้ยังมีทางกลับตัวกลับใจได้อยู่แท้ๆ นายจะรอไปถึงตอนที่ทุกคนมองหน้ากันไม่ติดจนแม้แต่เพื่อนธรรมดาๆก็เป็นไม่ได้ แล้วถึงค่อยยอมแพ้งั้นเหรอ?” "ไม่ใช่แบบนั้นแน่นอนอยู่แล้ว" โม่ไป๋ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวแล้วจับไหล่ของเธอ เสียงของเขาต่ำมาก: "ผมจะไม่มีวันยอมแพ้เด็ดขาด" เสิ่นหยินอู้: "..." วินาทีต่อมา ก่อนที่เธอจะทันได้โต้ตอบ โม่ไป๋ก็อุ้มเธอขึ้นมาและเดินไปที่ห้อง เสิ่นหยินอู้ตกใจ หลังจากตอบสนองได้ เธอก็คิดที่จะดิ้นรนโดยไม่รู้ตัว แต่พละกำลังของเธอกับโม่ไป๋นั้นแตกต่างกันมากเกินไป เธอจึงไม่สามารถดิ้นให้หลุดพ้นจากเขาได้เลย ทำได้เพียงมองเขาอุ้มเธอเข้าไปในห้อง เมื่อเห็นว่าทางที่เขาเดินไปคือที่เตียงของเธอ สายตาและเสียงของเสิ่นหยินอู้ก็เปลี่ยนไป: "นายจะทำอะไร? โม่ไป๋ ขอบอกนะว่าถ้านายกล้าทำอะไรกับฉัน ต่อให้ตายฉันก็จะไม่ยอมจำนน” เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฝีเท้าโม่ไป๋ก็ชะงักไปจากนั้นเขาก็หยุดที่ข้างเตียง "ปล่อยฉันนะ!" ความเจ็บปวดแวบขึ้นมาในสายตาของเขา "หยินอู้ ในสาย
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 790

ในตอนแรก เธอรู้สึกว่าเขากำลังช่วยคนที่กระทำสิ่งที่ไม่ดี แต่เขายอมบอกเธอเรื่องนี้ เธอคิดว่าเขาคงไม่อยากทำอะไรเช่นนี้กับโม่ไป๋ แต่เขาเป็นผู้ช่วยและทำได้เพียงเลือกที่จะช่วยเขา เมื่อลงไปชั้นล่าง พ่อบ้านชุนหมิงก็ทักทายเธอ “คุณหนูเสิ่น หิวไหมครับ? มีอะไรให้ผมรับใช้ไหมครับ?” เสิ่นหยินอู้ปฏิเสธเขา: "ฉันไม่หิวค่ะ" "ครับ"พ่อบ้านชุนหมิงคงจะสงสัยว่าทเหตุใดเธอถึงลงมาที่ชั้นล่างทั้งๆที่เธอไม่หิว “ฉันนอนไม่หลับ เลยอยากมาเดินเล่นน่ะค่ะ” หลังจากได้ยินดังนั้น แม่บ้านก็พูดทันทีว่า “งั้นให้ผมไปด้วยไหมครับ? ผมจะได้นำทางให้คุณ” เสิ่นหยินอู้: "ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไปเองได้" "แต่ว่า……" "ทำไมคะ?" เสียงของเสิ่นหยินอู้จู่ๆก็เย็นชาขึ้นมา: "หรือว่าฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเดินเล่นในคฤหาสน์นี้เหรอคะ?" ขณะที่เธอพูด เธอเอามือทั้งสองข้างของเธอไปไว้ตรงหน้าพ่อบ้าน: "งั้นคุณก็เอาเชือกหรือไม่ก็โซ่เข้ามัดฉันตอนนี้เลย แล้วก็โยนฉันกลับเข้าไปในห้อง หลังจากนี้ถ้าจะกินข้าวก็ไม่ต้องให้ฉันลงมา แค่หาคนขึ้นไปป้อนฉันถึงบนห้อง คุณจะเอาแบบนั้นไหม?” คำพูดนี้ทำให้พ่อบ้านกระอักกระอ่วนมาก “คุณหนูเสิ่น...” “ไปสิ ไปเอามา
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
7778798081
...
91
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status