แชร์

บทที่ 782

ผู้เขียน: ลั่วหูโยว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-21 17:00:01
เมื่อเสิ่นหยินอู้ได้ยิน เธอก็เข้าใจได้ในทันทีว่าสิ่งที่เขาจะพูดต่อจากนี้ไม่เหมาะสมที่จะให้เหนียนเหนียนฟัง

เมื่อคิดเช่นนั้น เธอก็พยักหน้า

“ได้ค่ะ งั้นถ้าคุณมีโอกาสก็มาหาฉันนะคะ”

“ได้เลยครับคุณหนูเสิ่น”

เมื่อเดินผ่านทางเดินที่ยาวไกล ไม่นานพวกเขาก็ใกล้ที่จะถึงภายในตัวคฤหาสน์

จากที่ไกลๆ เสิ่นหยินอู้เห็นโม่ไป๋ยืนจูงมือเล็กๆของเหมิงเหมิงรอพวกเขาอยู่ที่หน้าประตู

เมื่อเธอเดินเข้าไปใกล้ๆ โม่ไป๋ทำท่าราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อนทั้งนั้น

“มาแล้วเหรอ? ระหว่างทางเมารถหรือเปล่า? สีหน้าดูไม่ดีเลย” โม่ไป๋จ้องมองไปที่ใบหน้าของเธอและแสดงความเป็นห่วงออกมา

เขากักขังเธออยู่แท้ๆ แต่กลับแสร้งทำเป็นเหมือนว่าไม่ได้ทำอะไร ซึ่งมันทำให้เสิ่นหยินอู้โกรธมากจริงๆ เมื่อเธอขยับปากเธอก็ต้องการจะตอบโต้เขากลับไปโดยอัตโนมัติ

แต่เมื่อคำพูดมาถึงริมฝีปาก คำพูดที่ผู้ช่วยเฉินพูดถึงเรื่องการฆ่าตัวตายของแม่ของเขาก็แวบขึ้นมาในหัวของเธอดังนั้นเมื่อคำพูดมาถึงริมฝีปาก เธอจึงกลืนคำพูดดังกล่าวกลับลงไป

เธอก้มศีรษะลงและแสร้งทำเป็นว่าไม่ได้ยินสิ่งที่เขาเพิ่งพูด

ช่างมันเถอะ ตอบโต้กลับไปก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้

เห
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 783

    สิบนาทีต่อมา ผู้ช่วยเฉินก็ออกจากห้องของเสิ่นหยินอู้ หลังจากที่เขาจากไป เสิ่นหยินอู้ก็ตกอยู่ในความเงียบ หลังจากมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น การที่นิสัยของโม่ไป๋ยังเป็นปกติอยู่ได้นั่นแหละที่แปลก ที่แท้ในตอนนั้นคุณนายโม่ไม่เพียงแต่ฆ่าตัวตายเท่านั้น แต่เธอยังตกอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งอยู่ช่วงหนึ่ง เธอพูดจาเพ้อเจ้อไร้สาระไปเรื่อย ถึงขั้นยังวางยาพิษลูกชายแท้ๆของเธอเองอีกด้วย โม่ไป๋ถูกเธอทุบตีดุด่าจนมีรอยแผลเป็นนับไม่ถ้วนบนร่างกาย แต่คงเป็นเพราะสงสารแม่ของตัวเองที่ต้องมาเป็นบ้าตั้งแต่อายุยังน้อย เขาจึงไม่ตอบโต้หรือส่งเสียงใดๆออกมา ต่อมาคุณปู่โม่รู้เรื่องเข้า จึงให้คนมาช่วยเขาออกมา วันที่คุณปู่พาเขาไป แม่ของโม่ไป๋ก็ฆ่าตัวตาย ในช่วงเวลานั้นตระกูลโม่ก็ตกอยู่ในความวุ่นวาย คุณปู่โม่ไม่เหมือนพ่อของโม่ไป๋ เขาเข้มงวดกับธรรมเนียมของครอบครัวและให้ความสำคัญกับศีลธรรมอันดีงามของตัวเองอยู่เสมอ ดังนั้นเขาจึงยึดอำนาจของพ่อของโม่ไป๋ไปในทันที จากนั้นก็ให้โม่ไป๋ที่เพิ่งสูญเสียแม่ของเขาไปกลายเป็นผู้สืบทอดคนต่อไปของตระกูลโม่ ส่วนเมียน้อยที่กำลังตั้งท้องอยู่และคิดที่จะบุกเข้าไปในบ้าน เดิมทีคุณปู่โม่คิดที่จ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-22
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 784

    กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ช่วงคิ้วถึงดวงตาของเด็กสาวตัวน้อยคนนี้คล้ายกับของโม่ไป๋มาก ถ้าดูจากภายนอก ถ้าบอกคนอื่นว่าพวกเขาเป็นพี่น้องกันก็คงไม่มีใครสงสัยเลยด้วยซ้ำ หลังจากที่เด็กสาวตัวน้อยร้องไห้ โม่ไป๋ก็นั่งคุกเข่าอยู่ตรงนั้น เขามองดูเธอร้องไห้งอแงและหลั่งน้ำตาราวกับกำลังดูละคร เสียงร้องไห้ของเด็กนั้นน่ารำคาญเป็นอย่างมาก แต่เขากลับดูเหมือนกำลังเพลิดเพลินอยู่กับทำนองเพลงอะไรสักอย่างที่ไพเราะ เมื่อฟังจนพอใจแล้ว เขาก็ให้คนมาปิดปากเด็กคนนั้นแล้วลากออกไป ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เด็กคนนั้นก็ไม่เคยมาหาโม่ไป๋อีกเลย เป็นเพราะเรื่องนี้ ผู้ช่วยเฉินจึงรู้สึกว่าโม่ไป๋มีอาการทางจิตอ่อนๆ อย่างน้อยในด้านจิตวิทยา เขาก็คงจะไม่ค่อยปกติสักเท่าไร เขาควรไปพบจิตแพทย์ แต่ผู้ช่วยเฉินไม่กล้าพูดถึงเรื่องนี้ เพราะกลัวว่าเขาอาจจบเห่กับชีวิตได้หากพูดเรื่องนี้ขึ้นมา ในตอนนี้เสิ่นหยินอู้ไม่ค่อยเข้าใจว่าโม่ไป๋กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ เขาขังเธอไว้เพียงเพราะว่าเขาชอบเธอ หรือเพราะว่าเขาทนไม่ได้ที่เธอจะถูกแย่งไปจากเขา? เมื่อคิดเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็เอื้อมมือไปบีบที่หว่างคิ้ว หากเขามีปัญหาทางจิต ถ้างั้นเรื่องก็คง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-22
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 785

    ณ สนามบิน ทันทีที่โจวชวงชวงและเผยจ้าวเหิงถึงสนามบิน พวกเขาก็รีบไปยังสถานที่ที่ก่อนหน้านี้เสิ่นหยินอู้ส่งตำแหน่งมาให้พวกเขา หลังจากที่รถมาจอดที่หน้าโรงแรม โจวชวงชวงก็เริ่มมองไปที่อาคารที่เสิ่นหยินอู้พูดถึงก่อนหน้านี้ พบว่ามันตรงกันทุกอย่างจริงๆเธอถอนหายใจให้กับทักษะความช่างสังเกตที่ละเอียดอ่อนและความทรงจำที่แม่นยำของเสิ่นหยินอู้ พลางปลดเข็มขัดนิรภัย จานนั้นก็เปิดประตูรถแล้วลงจากรถ จากนั้นเธอก็กำลังจะเดินไปที่โรงแรม แต่ก็ถูกเผยจ้าวเหิงซึ่งออกมาจากรถทีหลังเธอคว้าแขนเอาไว้ “ใจเย็นๆหน่อย เราเข้าไปทั้งๆแบบนี้ไม่ได้” เมื่อได้ยินเช่นนั้น โจวชวงชวงก็เบิกตากว้าง เธอถามกลับด้วยความร้อนรน: "เวลาแบบนี้ ทำไมฉันถึงยังเข้าไปไม่ได้? หรือจะให้ฉันรออยู่ข้างนอกโดยไม่สนใจความปลอดภัยของเพื่อนรักของฉันเลยงั้นเหรอ? รอแล้วได้อะไรล่ะ? ” เผยจ้าวเหิงกวาดสายตาไปมองเธอด้วยดวงตาสีดำเข้มของเขา ต่อมาก็หรี่ตาลงแล้วมองไปที่โรงแรม จากนั้นจึงออกคำสั่ง “ผมจะเข้าไปคนเดียว” “อะไรนะ?” หัวใจของโจวชวงชวงเต้นผิดจังหวะไปครึ่งหนึ่ง “คุณรอข้อความจากผมอยู่ข้างนอก ถ้าผมไม่ออกมาหลังจากนี้ครึ่งชั่วโมง คุณก็โทรหาตำรว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-22
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 786

    ดังนั้นเธอจึงรีบเรียกพนักงานและบอกว่าเธอไม่ชินกับการดื่มกาแฟในขณะที่ท้องว่าง จึงให้พนักงานเสิร์ฟของหวานให้เธอหนึ่งจาน เมื่อของหวานมาเสิร์ฟ โจวชวงชวงก็แสร้งทำเป็นหยิบช้อนขึ้นมาและตักมันไปสองช้อนเต็มๆ เธอคิดที่จะทานของหวานให้หมดโดยเร็วที่สุด ใครจะรู้ว่าเพราะเธอทานเยอะเกินไปในคำเดียว เธอจึงสำลัก โจวชวงชวงทำได้เพียงรีบหยิบกาแฟที่หมดความเย็นลงไปแล้วขึ้นมาดื่มสองอึกเพื่อให้หายสำลัก จากนั้นเธอก็มองไปที่ของหวาน แล้วก็มองไปที่กาแฟ และในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะไม่กิน เธอมุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่โรงแรมที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ผ่านไปสิบห้านาทีแล้ว ยังเหลือเวลาอีกห้านาที หากเขายังไม่ปรากฏตัวภายในห้านาที เธอจะต้องแจ้งตำรวจ แม้ว่าเธอจะรับปากกับหยินอู้ว่าจะไม่โทรแจ้งตำรวจ แต่หากเป็นสถานการณ์เป็นพิเศษ ยังไงก็ต้องแจ้งตำรวจ เสียงโทรศัพท์มือถือที่ไม่คาดคิดดังขึ้น มันทำให้โจวชวงชวงซึ่งนั่งอยู่ตกใจมาก เธอเกือบจะกระโดดขึ้นมาจากเก้าอี้ หลังจากใจเย็นลงแล้ว เธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา สิ่งที่แสดงขึ้นมาบนหน้าจอโทรศัพท์ก็คือเบอร์โทรศัพท์ของเผยจ้าวเหิง เธอรีบรับสาย “โจวเปาผี?” หลังจากพูดจบ โจวชวงชวงก็ป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-22
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 787

    เสิ่นหยินอู้อยู่กับเด็กๆที่ในห้องเป็นเวลานาน แต่โม่ไป๋ก็ยังไม่กลับมา ซึ่งมันทำให้เสิ่นหยินอู้รู้สึกแปลกๆ เขาพาเธอมาที่นี่แล้วแท้ๆ เขายังมีเรื่องอะไรที่ต้องออกไปจัดการนานขนาดนี้อีก? แล้วก็ เมื่อเธอถามพ่อบ้านเมื่อครู่นี้ สีหน้าของพ่อบ้านก็ดูไม่ปกติอยู่แวบหนึ่ง เกิดอะไรขึ้นกันแน่... เสิ่นหยินอู้ตัดสินใจที่จะออกไปดู เธอไม่สามารถนั่งรอเฉยๆแบบนั้นได้ เมื่อคิดเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็ให้เด็กน้อยทั้งสองรออยู่ด้วยกัน จากนั้นก็ลุกขึ้นและออกไป คาดไม่ถึงเลยว่าทันทีที่เธอออกไป เธอก็พบกับโม่ไป๋ที่กำลังเดินมาทางเธอ เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อตัวอื่นและถอดแว่นตาออก เมื่อเขาเห็นเสิ่นหยินอู้ ใบหน้าของโม่ไป๋ที่เดิมที่ยังเรียบเฉยอยู่ก็ปรากฎรอยยิ้มออกมาทันที "หยินอู้" เสิ่นหยินอู้: "..." เธอมองเครื่องแต่งกายแปลกๆของเขาแล้วถามว่า "นายไปไหนมา?" โม่ไป๋ตอบว่า: "ผมออกไปจัดการธุระมานิดหน่อย" “จัดการธุระต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยเหรอ?” เสิ่นหยินอู้สงสัย เมื่อได้ยินเช่นนั้น โม่ไป๋ก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นจึงยกริมฝีปากบางขึ้นและยิ้มอย่างอ่อนโยน “ที่แท้เธอก็สังเกตเห็นว่าผมใส่ชุดอะไร ผมอุส่าคิด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-23
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 788

    เสิ่นหยินอู้ขมวดคิ้ว “หยินอู้” โม่ไป๋เดินเข้าไปใกล้ๆ ลมหายใจที่แผ่วเบาของเขาปะทะเข้ากับใบหน้าของเธอ “ผมไม่อยากบอกเธอเพราะไม่อยากให้เธอมาสงสารผม แต่ก็ไม่คิดเลยว่าเธอจะรู้แล้ว ผู้ช่วยเฉินบอกเหรอ?” แม้ว่าระยะห่างระหว่างทั้งคู่จะใกล้กันมาก แต่เสิ่นหยินอู้กลับไม่รู้สึกถึงอุณหภูมิจากร่างกายของเขา และสายตาของเขาในเวลานี้บอกเสิ่นหยินอู้ว่าเขาอาจทำอะไรบางอย่างกับผู้ช่วยเฉิน เมื่อคิดเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและพูดว่า "ฉันเป็นคนถามเองแล้ว มันไม่เกี่ยวอะไรกับเขา" เมื่อได้ยินเช่นนั้น ริมฝีปากบางของโม่ไป๋ก็โค้งขึ้นเล็กน้อย สายตาอันอ่อนโยนของเขาจับจ้องไปที่ใบหน้าของเธอ "หยินอู้ ไม่ว่าเมื่อไรเธอก็ใจดีแบบนี้เสมอ" เช่นเดียวกับตอนที่เขายังเด็ก ในตอนที่ผู้หญิงพวกนั้นพูดถึงเขาลับหลัง เขา...ไม่ได้สนใจข่าวลือพวกนั้นเลยแท้ๆ เธอก็สามารถหลับหูหลับตา ทำเป็นไม่ได้ยินอะไร แล้วเดินออกไปก็ได้ แต่เธอกลับเข้าไปพูดแก้ต่างให้เขา ผู้หญิงเช่นนี้ เขาจะยอมปล่อยไปได้อย่างไรกัน? เธอเป็นเหมือนดวงอาทิตย์ ส่วนเขาเป็นปีศาจที่อยู่ในความมืดมิด คนที่อยู่ในความมืดมิดมาเนิ่นนาน จะมีใครบ้างที่ไม่โ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-23
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 789

    คราวนี้ ในที่สุดโม่ไป๋ก็ยอมตอบกลับเธอไปตรงๆ “หยินอู้ เราอยู่ด้วยกัน ยังไงเราก็ต้องเจอกัน” “นายจะเอาแบบนี้ให้ได้เลยใช่ไหม? ตอนนี้ยังมีทางกลับตัวกลับใจได้อยู่แท้ๆ นายจะรอไปถึงตอนที่ทุกคนมองหน้ากันไม่ติดจนแม้แต่เพื่อนธรรมดาๆก็เป็นไม่ได้ แล้วถึงค่อยยอมแพ้งั้นเหรอ?” "ไม่ใช่แบบนั้นแน่นอนอยู่แล้ว" โม่ไป๋ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวแล้วจับไหล่ของเธอ เสียงของเขาต่ำมาก: "ผมจะไม่มีวันยอมแพ้เด็ดขาด" เสิ่นหยินอู้: "..." วินาทีต่อมา ก่อนที่เธอจะทันได้โต้ตอบ โม่ไป๋ก็อุ้มเธอขึ้นมาและเดินไปที่ห้อง เสิ่นหยินอู้ตกใจ หลังจากตอบสนองได้ เธอก็คิดที่จะดิ้นรนโดยไม่รู้ตัว แต่พละกำลังของเธอกับโม่ไป๋นั้นแตกต่างกันมากเกินไป เธอจึงไม่สามารถดิ้นให้หลุดพ้นจากเขาได้เลย ทำได้เพียงมองเขาอุ้มเธอเข้าไปในห้อง เมื่อเห็นว่าทางที่เขาเดินไปคือที่เตียงของเธอ สายตาและเสียงของเสิ่นหยินอู้ก็เปลี่ยนไป: "นายจะทำอะไร? โม่ไป๋ ขอบอกนะว่าถ้านายกล้าทำอะไรกับฉัน ต่อให้ตายฉันก็จะไม่ยอมจำนน” เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฝีเท้าโม่ไป๋ก็ชะงักไปจากนั้นเขาก็หยุดที่ข้างเตียง "ปล่อยฉันนะ!" ความเจ็บปวดแวบขึ้นมาในสายตาของเขา "หยินอู้ ในสาย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-23
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 790

    ในตอนแรก เธอรู้สึกว่าเขากำลังช่วยคนที่กระทำสิ่งที่ไม่ดี แต่เขายอมบอกเธอเรื่องนี้ เธอคิดว่าเขาคงไม่อยากทำอะไรเช่นนี้กับโม่ไป๋ แต่เขาเป็นผู้ช่วยและทำได้เพียงเลือกที่จะช่วยเขา เมื่อลงไปชั้นล่าง พ่อบ้านชุนหมิงก็ทักทายเธอ “คุณหนูเสิ่น หิวไหมครับ? มีอะไรให้ผมรับใช้ไหมครับ?” เสิ่นหยินอู้ปฏิเสธเขา: "ฉันไม่หิวค่ะ" "ครับ"พ่อบ้านชุนหมิงคงจะสงสัยว่าทเหตุใดเธอถึงลงมาที่ชั้นล่างทั้งๆที่เธอไม่หิว “ฉันนอนไม่หลับ เลยอยากมาเดินเล่นน่ะค่ะ” หลังจากได้ยินดังนั้น แม่บ้านก็พูดทันทีว่า “งั้นให้ผมไปด้วยไหมครับ? ผมจะได้นำทางให้คุณ” เสิ่นหยินอู้: "ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไปเองได้" "แต่ว่า……" "ทำไมคะ?" เสียงของเสิ่นหยินอู้จู่ๆก็เย็นชาขึ้นมา: "หรือว่าฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเดินเล่นในคฤหาสน์นี้เหรอคะ?" ขณะที่เธอพูด เธอเอามือทั้งสองข้างของเธอไปไว้ตรงหน้าพ่อบ้าน: "งั้นคุณก็เอาเชือกหรือไม่ก็โซ่เข้ามัดฉันตอนนี้เลย แล้วก็โยนฉันกลับเข้าไปในห้อง หลังจากนี้ถ้าจะกินข้าวก็ไม่ต้องให้ฉันลงมา แค่หาคนขึ้นไปป้อนฉันถึงบนห้อง คุณจะเอาแบบนั้นไหม?” คำพูดนี้ทำให้พ่อบ้านกระอักกระอ่วนมาก “คุณหนูเสิ่น...” “ไปสิ ไปเอามา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-23

บทล่าสุด

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 856

    “ซือเหนียนคิดว่าลุงเย่มู่มีคุณสมบัติมากพอที่จะมาเป็นพ่อของซือเหนียนกับเหมิงเหมิงไหม?” เขาถามว่ามีคุณสมบัติมากพอหรือไม่ ไม่ใช่ยินยอมหรือไม่ แม้ว่าเสิ่นซือเหนียนจะยังเด็ก แต่ความรู้ที่เขาได้เรียนมาก็มากมายพอสมควร ดังนั้นเขาจึงเข้าใจความหมายของคำพูดที่ฉินเย่พูดได้อย่างรวดเร็ว เขาตกตะลึงอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะพูดว่า "เอ่อ...ต้องดูว่าหม่ามี๊จะยอมหรือไม่ยอมครับ" “ลุงเย่มู่หมายความว่า ถ้าไม่เกี่ยวกับหม่ามี๊ เอาแค่ความเห็นของเหนียนเหนียนเองที่เป็นความคิดที่จากใจจริงที่สุด เหนียนเหนียนคิดว่าลุงเย่มู่มีคุณสมบัติมากพอที่จะมาเป็นพ่อของเหนียนเหนียนกับเหมิงเหมิงไหม?” เสิ่นซือเหนียน: "..." "ไม่ต้องกลัว" มือใหญ่ของฉินเย่วางลงบนไหล่ของเขาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน: "แค่พูดความจริงก็พอ" สิ่งที่ซือเหนียนต้องการจะพูดอาจทำให้ฉินเย่ไม่พอใจจริงๆ แม้ว่าลุงเย่มู่จะทำอะไรให้พวกเขามากมายในช่วงที่ผ่านมานี้ บวกกับที่ก่อนหน้านี้เขาเข้ามาดูพวกเขาในห้องไลฟ์สดเสมอ ความยิ่งใหญ่ของชื่อ 'ลุงเย่มู่เฉิน' ยังคงทรงพลังมากสำหรับเด็กน้อยสองคน ตัวอย่างเช่น คนแปลกหน้าคนหนึ่ง แม้ว่าจะเป็นพ่อแท้ๆของพวกเขา แต่หากไม่มีฉา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 855

    จากคำอธิบายของเสิ่นหยินอู้ เด็กน้อยทั้งสองเชื่อว่าตอนนี้โม่ไป๋กำลังป่วยอยู่ และจะดีขึ้นในอนาคต จนกว่าจะถึงตอนนั้น เขาจะยังคงเป็นลุงโม่ไป๋ของพวกเขา หลังจากได้รู้เรื่องนี้ เห็นได้ชัดว่าเด็กน้อยทั้งสองมีความสุขมาก ในเวลานี้ฉินเย่เข้ามาพอดี ทั้งสองจึงเข้าไปเกาะแกะเขา แน่นอนว่าเด็กน้อยทั้งสองยังคงเรียกเขาว่าลุงเย่มู่ เสิ่นซือเหนียนน่ะไม่เท่าไร แต่เสิ่นเหมิงเหมิงกลับไม่คิดอะไรเลย เธอถึงกับเอื้อมมือไปทางฉินเย่เพื่อที่จะให้เขาอุ้ม ฉินเย่ไม่ได้คิดอะไร เมื่อเห็นว่าเธอต้องการให้เขาอุ้ม เขาก็คุกเข่าลงไปหาเธอ เสิ่นหยินอู้เห็นเช่นนั้นจึงรีบเดินเข้าไป “เหมิงเหมิง ลุงเย่มู่ยังบาดเจ็บอยู่” เพียงประโยคเดียวมันก็ทำให้เหมิงเหมิงหยุดการกระทำของเธอลง และมองไปที่ฉินเย่อย่างว่างเปล่า จากนั้นจึงรีบดึงมือของเธอกลับมา จู่ๆเด็กสาวตัวน้อยก็หยุดพูด และถึงกับถอยหลังไปสองก้าวเพื่อเลี่ยงไม่ให้ฉินเย่แตะต้องเธอได้ การกระทำของเธอทำให้ฉินเย่ตกตะลึงเล็กน้อย หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า "มันเป็นแค่แผลเล็กๆน้อยๆเอง อีกอย่าง เธอยังตัวเล็กขนาดนี้ คงไม่ทำให้แผลของผมแย่ลงหรอกมั้ง?" เ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 854

    หลังจากได้ยินเช่นนั้น หลี่มู่ถิงก็พูดเสริมในทันที: "ใช่ครับ คุณหนูเสิ่น ประธานฉินพูดถูก การไม่มีข่าวอะไรเลยเป็นเรื่องที่ดีที่สุด สบายใจเถอะครับ เราจะตรวจสอบต่อไป ถ้ามีโอกาสช่วยเขาออกมา เราก็จะทำอย่างเต็มที่แน่นอน” แม้ว่าพวกเขาจะพยายามปลอบใจเธออย่างเต็มที่ แต่อารมณ์ของเสิ่นหยินอู้ก็ไม่ดีขึ้นเลย เธอเอนตัวพิงไปกับหน้าต่างและมองไปในที่ไกลๆด้วยความสงบ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆเรื่องถึงกลายมาเป็นเช่นนี้ได้ ในตอนแรกทุกคนต่างก็ยังใช้ชีวิตตามปกติของตัวเองอยู่เลยแท้ๆ แต่จู่ๆเรื่องก็กลับร้ายแรงขึ้นมาเช่นนี้“หม่ามี๊ เป็นอะไรไปหรอคะ?” เสียงของเด็กน้อยทั้งสองดังมาจากด้านหลัง ดึงเสิ่นหยินอู้ให้กลับมามีสติอีกครั้ง เมื่อเธอได้สติ เธอก็เห็นเด็กน้อยสองคนมองเธอด้วยความเป็นห่วง “เหมิงเหมิง เหนียนเหนียน”พวกเขาทั้งสองเดินเข้าไปหาเธอพร้อมๆกันและกอดเธอไว้ “หม่ามี๊คะ ช่วงนี้หม่ามี๊ดูไม่แฮปปี้เลยนะคะ” ใช่สิ เธอออกมาแล้ว แต่ทำไมเธอถึงยังไม่มีความสุขล่ะ อาจเป็นเพราะเรื่องราวยังไม่ได้คลี่คลายลงอย่างสมบูรณ์ แต่ต่อหน้าลูกๆทั้งสอง เสิ่นหยินอู้ไม่สามารถแสดงออกมาให้ชัดเจนเกินไปได้ ดังนั้นเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 853

    ฉินเย่สัญญาว่าจะไปตรวจสอบเรื่องนี้ให้เธอ รวมถึงอาการบาดเจ็บของผู้ช่วยเฉินด้วย คนของเขาสามารถจัดการเรื่องอะไรต่างๆได้อย่างรวดเร็วมาก ในวันถัดมา เสิ่นหยินอู้ก็ได้รับข่าวคราวล่าสุดของพวกโม่ไป๋ เขาก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน แต่ยังไม่มีร่องรอยของผู้ช่วยเฉินเลย “ไร้ร่องรอยงั้นเหรอ?” หลังจากที่เสิ่นหยินอู้ได้ยินเช่นนั้น เธอก็มีลางสังหรณ์แย่ๆขึ้นมาทันที เมื่อตอนที่เธอยังอยู่ที่บ้านของโม่ไป๋ ผู้ช่วยเฉินก็ไม่ได้ปรากฏตัวออกมาหลายวัน จากนั้นเมื่อเธอถามถึงเขา เขาจึงปรากฏตัวขึ้น แต่เมื่อเขาปรากฏตัว เขากลับได้รับบาดเจ็บสาหัส สิ่งสำคัญคืออาการบาดเจ็บของเขาหนักแค่ไหน เสิ่นหยินอู้ไม่สามารถรับรู้ได้เลย เป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะถอดเสื้อของเขาออกมาเพื่อดูว่าเขาได้รับบาดเจ็บแค่ไหน ต่อมาเขาปล่อยเธอและพาเธอออกมา หลังจากที่เขากลับไป โม่ไป๋ก็คงจะยิ่งไม่เกรงใจเขามากขึ้น ตอนนี้... ไม่รู้เลยว่าเขาจะเป็นเช่นไร นอกจากนี้ โม่ไป๋ยังได้รับบาดเจ็บ เขาคงจะโกรธมากและระบายความโกรธทั้งหมดที่มีใส่ผู้ช่วยเฉินหรือไม่? และที่นี่คือที่ต่างประเทศ ถ้าหากว่า... เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้ เสิ่นหยินอู้ก็อดไม่ได้ที่จะลุกขึ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 852

    คาดไม่ถึงเลยว่าผู้ชายจะมีด้านนี้เหมือนกัน เมื่อคิดเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็หันไปมองเขา “ฉันไม่ได้อึดอัด แต่ตอนนี้คุณบาดเจ็บอยู่ คุณไม่ได้ต้องพักผ่อนเหรอ?” "อืม" ฉินเย่พยักหน้า: "ผมอยากให้คุณอยู่เป็นเพื่อนผม" เสิ่นหยินอู้ถอนหายใจ: "เมื่อคืนนี้ฉันอยู่กับคุณทั้งคืนไปแล้วไม่ใช่เหรอ?" เขาคงจะไม่ได้คิดที่จะให้เธออยู่กับเขาไปตลอดใช่ไหม? เธอยังต้องไปดูแลลูกๆ “นั่วนั่ว” เขาดึงเธอเข้ามาใกล้แล้วพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา: "ผมเป็นคนป่วย ต้องการคนอยู่ด้วยในระยะยาว" เมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้ขัดขืน ฉินเย่ก็ดึงเธอขึ้นไปนั่งบนตักเขาแล้วเอามือพยุงไว้ที่เอวของเธอ ก่อนที่เธอจะทันได้โต้ตอบ เธอก็ตกเข้าไปในอ้อมแขนของเขาแล้ว ฉินเย่ก้มศีรษะลงและโน้มตัวเอาหน้าลงไปซุกไว้ที่ซอกคอของเธอ เขาสูดดมกลิ่นของเธอด้วยความละโมบ ลมหายใจอันร้อนรุ่มที่ออกมาทั้งหมดถูกปล่อยออกมาที่ซอกคอของเสิ่นหยินอู้ เธอรู้สึกถึงมันได้อย่างรวดเร็วและกระตุกหลายครั้ง หลังจากนั้นไม่นาน ดูเหมือนว่าฉินเย่จะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เขาประทับริมฝีปากบางที่นุ่มนิ่มของเขาลงไปบนซอกคอของเธอ เมื่อเธอรู้สึกได้ถึงความเปียกชื้น ในที่สุดเสิ่นหยินอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 851

    เขาคว้าโทรศัพท์ไปทั้งเครื่อง เสิ่นหยินอู้ไม่ได้จับโทรศัพท์เลย เธอไม่กล้าแย่งมันคืนมาเพราะกลัวว่าระหว่างการแย่งชิงโทรศัพท์กันจะทำให้บาดแผลของเขาฉีกกว้างขึ้น “บทลงโทษอะไรกัน? ต่อให้คุณจะพูดไม่เหมาะสม แต่ก็มันไม่เกี่ยวอะไรกับบาดแผลของคุณเลย” น่าเสียดายที่ไม่ว่าเธอจะพูดอย่างไร ฉินเย่ก็เหมือนจะไม่ได้ยินเธอ ราวกับว่าเขายินยอมที่จะรับบทลงโทษของตัวเอง เมื่อเห็นท่าทางที่นิ่งเฉยของเขา เสิ่นหยินอู้ก็พูดได้เพียงว่า: "ต่อให้คุณจะลงโทษตัวเอง แต่ก็ใช้วิธีอื่นก็ได้" วิธีอื่นเหรอ? ในที่สุดฉินเย่ก็เงยหน้าขึ้นแล้วมองเธอ “แล้วคุณว่า ต้องลงโทษแบบไหนล่ะ?”เสิ่นหยินอู้คิดอย่างจริงจังอยู่สักพัก "วิธีลงโทษคุณน่ะมี แต่ไม่ใช่ตอนนี้ รอหลังจากที่แผลคุณหายดีแล้วก่อนเถอะ" “งั้นหลังจากลงโทษแล้ว คุณจะยกโทษให้ผมได้ไหม?” “เรื่องนี้ เดี๋ยวค่อยว่ากันอีกทีนะ” คำพูดที่เขาพูดในวันนี้มันทำให้เธอโกรธมากจริงๆ เมื่อเห็นเช่นนั้น สายตาของฉินเย่มืดลงเล็กน้อย แต่เขากลับไม่ได้พูดอะไรอีก “เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน ฉันจะโทรตามคุณหมอมาทำแผลให้คุณใหม่” หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ในที่สุดฉินเย่ก็ยื่นโทรศัพท์ให้เธอหลังจ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 850

    รวมถึงโม่ไป๋ด้วย การที่เขาลักพาตัวเธอไปอย่างกะทันหันก็เป็นสิ่งที่เธอคาดไม่ถึงเช่นกัน แต่สิ่งที่ฉินเย่พูดในตอนนี้ทำให้เสิ่นหยินอู้ตื่นตระหนกขึ้นมา แต่ในไม่ช้าเธอก็สงบลง “เรื่องนี้ยังไม่ได้เกิดขึ้นเลยนะ มันไม่เหมาะสมที่คุณที่จะยกตัวอย่างแบบนี้ขึ้นมา” คำตอบของเธอทำให้สายตาของฉินเย่มืดลงเล็กน้อย “เป็นเพราะผมยกตัวอย่างที่ไม่เหมาะสมหรือเพราะคุณไม่สามารถตอบคำถามของผมได้เลย หรือจะบอกว่าคำตอบของคุณก็เหมือนกับที่ผมคิดไว้” เมื่อได้ยิน เสิ่นหยินอู้ก็เม้มริมฝีปาก เธอพยายามจินตนาการถึงภาพนี้ในหัว หากฉินเย่ลักพาตัวเธอ และให้เธอกับลูกๆอยู่ด้วยกันกับเขาไปตลอดชีวิตเท่านั้น ไม่ได้ ต่อให้จะเป็นเขา แต่เธอก็รับไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นใคร ไม่ว่าพวกเขาจะสนิทสนมเพียงใด เธอก็ไม่สามารถยอมรับเรื่องที่พวกเขาทำผิดกฎหมายได้ เมื่อคิดเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็ไม่สนใจว่าคำพูดถัดไปจะทำร้ายจิตใจของฉินเย่หรือไม่ เธอพูดออกมาตรงๆ “ใช่ คุณพูดถูก ถ้าคุณลักพาตัวฉัน ฉันก็จะไม่อยู่กับคุณ” ดวงตาของฉินเย่มืดลง “แต่ในอีกความหมายหนึ่ง การที่ฉันไม่อยู่กับคุณมันก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะไปอยู่กับเขา ถ้าฉันจะอยู่กับคุณมัน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 849

    ฉินเย่เม้มริมฝีปาก สีหน้าไม่พอใจปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าที่หล่อเหลา ราวกับว่าเขาไม่เห็นด้วยกับคำพูดของเธอ เสิ่นหยินอู้ทำได้เพียงใช้แรงดึงมือของเธอออกมาเท่านั้น ทันใดนั้นสายตาของฉินเย่ก็แสดงความเจ็บปวดออกมาเล็กน้อย เสิ่นหยินอู้: "..." ขณะที่เธอพยายามจะเอามือออกมา เผยจ้าวเหิงก็พูดขึ้นว่า: "ประธานฉิน คุณหนูเสิ่น เราต้องรีบไปสนามบิน ขอตัวก่อนนะครับ" ทันทีที่เขาพูดจบ เผยจ้าวเหิงก็ถือโอกาสนี้จับมือของโจวชวงชวงและพาเธอออกไป "เฮ้เฮ้..." โจวชวงชวงคิดไม่ถึงว่าเขาจะจูงเธอออกไปเช่นนี้ หลังจากตอบสนองได้แล้ว เธอก็ตะโกนบอกเสิ่นหยินอู้: "หยินอู้ งั้นไว้เจอกันที่จีนนะ ฉันจะไปหาเธอหลังจากที่ฉันจัดการเรื่องทุกอย่างเสร็จแล้ว"เสิ่นหยินอู้โบกมือให้เธอ “โอเค ไว้เจอกันที่จีนนะ” โจวชวงชวงถูกเผยจ้าวเหิงพาออกไป เหลือเพียงฉินเย่กับเสิ่นหยินอู้เท่านั้นที่อยู่ ณ ตรงนั้น หลังจากเงียบไปหลายวินาที เสิ่นหยินอู้ก็อดไม่ได้ที่จะพูดกับเขาว่า: "พวกเขาไปกันแล้ว ทำไมคุณยังไม่ปล่อยมือล่ะ?" หลังจากได้ยิน ฉินเย่ก็ก้มศีรษะลงไปมองมือที่ทั้งสองจับกันอยู่ จากนั้นก็ยกมุมปากขึ้นอย่างน่ามอง “แล้วทำไมต้องปล่อยมือด้ว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 848

    ในเวลานี้หญิงสาวทั้งสองดูเศร้ามาก ดังนั้นฉินเย่จึงยืนเงียบๆอยู่ที่ประตูและไม่ได้เข้าไปรบกวนพวกเธอ หนึ่งนาที... สองนาที... จนกระทั่งห้านาทีผ่านไป ฉินเย่เลิกคิ้วอย่างเหลืออดเล็กน้อย ต้องกอดกันนานขนาดนั้นเลยเหรอ? เธอคงไม่ได้คิดจะแย่งหยินอู้ไปจากเขาจริงๆใช่ไหม? "อะแฮ่ม" เสียงกระแอมที่ดังขึ้นมาอย่างกะทันหันดึงให้ทั้งสองกลับมาจากความคิด เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย เสิ่นหยินอู้จึงเงยหน้าขึ้นไปมองที่ต้นเสียงและพบว่าคนที่ทำเสียงนั้นออกมาคือฉินเย่ เขายืนอยู่ตรงนั้น สายตามองตรงมาที่พวกเธอ ท่าทางราวกับว่าเขาอยู่ที่นี่มาสักพักหนึ่งแล้ว ในเวลานี้ โจวชวงชวงรีบคลายอ้อมกอดอย่างรวดเร็ว "ประธานฉิน" "อืม" ฉินเย่ก้าวไปข้างหน้าแล้วเดินเข้าไป "พวกคุณกำลังคุยอะไรกันอยู่?" แม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิง แต่โจวชวงชวงก็รู้สึกได้ถึงความหึงหวงที่แผ่ออกมาจากร่างกายของฉินเย่อย่างอธิบายไม่ได้ เธอรู้สึกตกใจเล็กน้อย แต่เธอยังคงตอบเขาด้วยความจริงใจ: "ไม่ได้พูดอะไร ฉันแค่จะไปแล้ว ก็เลยมาบอกลาเธอ" ในตอนนี้ ฉินเย่ประหลาดใจเล็กน้อย “คุณจะไปแล้วเหรอ?” อาจเป็นเพราะเธอเพิ่งได้เจอหยินอู้เมื่อคืนนี้ แต่วันนี

DMCA.com Protection Status