บททั้งหมดของ เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ: บทที่ 31 - บทที่ 40

730

บทที่ 31

ถึงแม้เรือนของเฉินเจียงกับเฉินฝานจะมีแค่กำแพงกั้นกลาง แต่ว่าเรือนของทั้งสองต่างกันฟ้ากับเหวเรือนของเฉินฝานมีห้องที่ปูด้วยกระเบื้องห้าห้อง แต่ด้วยระยะเวลาที่ผ่านมานาน บวกกับไม่มีการทำนุบำรุง เพดานห้องสี่ห้องจึงไม่เหลือแล้ว มีแค่ห้องที่เฉินเซี่ยนอยู่เท่านั้นที่พอจะอยู่อาศัยได้เฉินฝานเป็นห่วง หากฤดูหนาวนี้ เกิดพายุหิมะขึ้นสักสองถึงสามครั้ง ห้องที่เหลืออยู่เพียงห้องเดียวคงไม่อาจอาศัยได้แล้วเรือนของเฉินเจียงก็ปูกระเบื้องห้าห้องเช่นเดียวกัน ทว่าแตกต่างกันอย่างสิ้นเชือง เรือนของเฉินเจียงเพิ่งสร้างใหม่ ปีที่ผ่านมาเฉินฟู่เป็นคนเสียค่าใช้จ่าย จ้างคนมาสร้างเรือนให้เฉินเจียง ในตอนนั้นเงินของเขาไม่พอเล็กน้อย เฉินฟู่ให้เฉินผิงกับเฉินฝานเป็นคนจ่ายส่วนที่เหลือเวลานั้นร่างเดิมไม่มีเงิน จึงขายสินสมรสของฉินเย่ว์เจียวและฉินเย่ว์โหรวจนหมดเกลี้ยง เปลี่ยนสินสมรสเป็นเงินแล้วจ่ายเงินให้เฉินเจียงซ่อมเรือนเดิมทีเฉินฟู่อยู่กับภรรยาสองคน หลังจากสร้างเรือนหลังใหม่เสร็จ คนชราทั้งสองย้ายไปอยู่กับเฉินเจียงหลังจากเฉินฟู่อยู่กับพวกเขา เฉินผิงและเฉินฝานที่อยู่เรือน ก็ไม่กล้าที่จะไม่มาช่วยงานที่เรือนเขา เฉินฟู
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 32

เดิมทีจางเหลียนฮวาคาดหวังว่ายามที่เฉินจินเซียงกลับมาเยี่ยมเฉินฟู่ ให้เฉินเจียงนำเบี้ยที่เฉินจินเซียงนำกลับมา ไปซื้อเนื้อหมูในเมือง คลายความอยากของนางทว่าคิดไม่ถึงเดือนก่อนตอนที่เฉินจินเซียงกลับมา นางนำเพียงข้าวสารห้าจินมาเท่านั้น ไม่มีเนื้อสัตว์ ทั้งยังไม่ให้เงินเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดภัยธรรมชาติขึ้นกับหมู่บ้านเพียงหมู่บ้านเดียว ในปีนี้ผลประกอบการครอบครัวสามีของเฉินจินเซียงก็ไม่ดีนัก กลับมาครั้งนี้ นางไม่มีเงินมาให้เฉินฟู่ตอนกลับ ยังบอกอีกว่าแม่สามีสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง ต้องมีคนคอยดูแล ฤดูเหมันต์นี้นางไม่กลับมาเยี่ยมแล้ว ต้องรอจนกว่าจะกลับก็เข้าฤดูวสันต์ในปีหน้าสำหรับเรื่องนี้ จางเหลียนฮวาโกรธนานกว่าหนึ่งเดือน ยามคุยกับคนชราทั้งสองก็คอยพูดจาเหน็บแนม...ซื้อมันหมูมากขนาดนี้ในครั้งเดียวได้ น่าจะเป็นเหล่าจูที่อยู่บ้านตรงข้ามกระมังเหล่าจูเป็นพ่อค้าหาบเร่ที่ไปตามหมู่บ้านต่างๆ หลายปีมานี้ ลูกชายของเขาก็เริ่มเร่ขายของเช่นเดียวกัน ในตระกูลมีพ่อค้าหาบเร่สองคน แน่นอนว่าฐานะก็ย่อมดีขึ้นทว่าในยุคโบราณชนชั้นพ่อค้าต่ำต้อยโดยเฉพาะพ่อค้าหาบเร่ขายของตามหมู่บ้านต่างๆ อย่างเหล่าจู มีชนชั
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 33

“พี่สาม ข้าตักเองเจ้าค่ะ!”ฉินเย่ว์โหรวยื่นมือไปรับขวดน้ำมันจากฉินเย่ว์เจียว“เหลวไหล เอามาให้ข้า!”เฉินฝานแย่งขวดน้ำมันมาจากฉินเย่ว์เจียวก่อนก่อนหน้านี้ตอนทำอาหารฉินเย่ว์โหรวไม่ให้เขาเข้าไปยุ่มย่าม เขาก็ไม่ติดใจ แต่ว่าสกัดน้ำมันหรือใส่น้ำมันเช่นนี้ เขาไม่ให้นางทำเตาค่อนข้างสูง ฉินเย่ว์โหรวตัวเล็ก ขาดสารอาหารมานาน นางแทบไม่มีเรี่ยวแรงแล้วสกัดน้ำมันและใส่น้ำมันมีความอันตรายระดับหนึ่งเขาทะลุมิติมาจากที่ดินแดนแสนไกล ภรรยางดงามดั่งดอกไม้เสมือนหยกเช่นนี้ หากน้ำมันกระเด็นใส่หน้าเกิดรอยแผลเป็นขึ้นมา เขาย่อมเสียใจอย่างมากอย่างไรก็ตามฉินเย่ว์โหรวอายุยังน้อย ตอนเฉินฝานใส่กากหมู จิตใจของเด็กสาวย่อมเปิดเผยอย่างหมดเปลือกนางจับจ้องกากหมูในช้อนบนมือของเฉินฝาน ลอบเลียริมฝีปาก ราวกับแมวน้อยจอมตะกละแม้ฉินเย่ว์เจียวจะไม่แสดงอาการชัดเจนเหมือนฉินเย่ว์โหรว แต่สายตาที่สื่อออกมาจากดวงตาหงส์คู่นั้น ไม่เคยละจากกากหมูในถ้วยเฉินฝานมองเห็นทุกอย่าง อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเพิ่งกินข้าว หญิงสาวทั้งสองคนหิวอีกแล้วหรือ?เฉินฝานตักกากหมูใส่ถ้วยเล็กๆ สองถ้วย โรยเกลือ ยื่นไปตรงหน้าสองพี่น้อง “กินสิ!”“ไ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 34

มันหมูจินละหกสิบเหวิน เนื้อหมูจินละยี่สิบเหวิน ข้าวสารจินละสิบเหวิน ผักกาดขาวหัวละสิบเหวิน ผ้าฝ้ายและดอกฝ้าย...ราคาสินค้าแพงระดับหนึ่งหากคำนวณตามรายรับ ราคาสินค้าสูงกว่ายุคปัจจุบันหลายเท่าอยากจะให้พวกเขามีชีวิตที่ดี เขาต้องพยายามมากกว่านี้หลังจากกินกากหมูเสร็จ พบว่าเฉินฝานกลับเข้าห้องไปแล้ว ฉินเย่ว์โหรวรีบยกกะละมังใส่น้ำตามเข้าไป“นายท่านเจ้าคะ!”ฉินเย่ว์โหรวเดินไปตรงหน้าเฉินฝาน “ข้าน้อยเช็ดหน้าและล้างเท้าให้ท่านเจ้าค่ะ”“เอ่อ!” เฉินฝานวางพู่กันลง ถลกแขนเสื้อขึ้น “ข้าทำเอง!”งานพวกล้างหน้าล้างเท้าเช่นนี้ เฉินฝานไม่คุ้นชินให้ผู้อื่นช่วยจริงๆ“ไม่ได้เจ้าค่ะ!”ฉินเย่ว์โหรวที่พูดจาอ่อนโยนมาโดยตลอด ส่งเสียงดังขึ้นกะทันหัน น้ำเสียงหนักแน่นยิ่งนัก ทำให้เฉินฝานตกใจอย่างมากเมื่อเห็นว่าตนทำให้เฉินฝานตกใจ ฉินเย่ว์โหรวรีบลดเสียงลงทันที “ขอโทษด้วยเจ้าค่ะ ข้าน้อยทำให้นายท่านตกใจ แต่ว่านายท่านไม่อาจชำระล้างด้วยตนเองเจ้าค่ะ”“ข้าล้างเอง...”“สิ่งที่ข้าทำให้นายท่านได้มีเพียงแค่นี้!”เฉินฝานยังพูดไม่จบ ฉินเย่ว์โหรวพูดขึ้น น้อยครั้งนักที่นางจะพูดแทรกเขาแบบนี้ฉินเย่ว์โหรวที่พูดแทรกเฉิ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 35

เรือนข้างเคียงเฉินเจียงเพิ่งจะกลับถึงบ้านเวลานี้ตอนเปิดม่านเข้าไปในห้อง ภายในห้องค่อนข้างมืด เขาสะดุดกลองป๋องแป๋งบนพื้น จนเกือบหกล้ม“หญิงชั่ว!”เฉินเจียงเตะกลองป๋องแป๋งบนพื้น สบถหยาบ “ไม่จุดตะเกียงแม้แต่ดวงเดียว อยากให้ข้าสะดุดล้มตายหรืออย่างไร”วันนี้เขาอารมณ์ไม่ดีเดิมทีวันนี้เป็นวันที่เขาต้องได้รับเบี้ยหวัด แต่กลับไม่ได้รับอีกแล้วตอนเย็นขณะนั่งเรียนในสถานศึกษา บทกลอนที่เขาเขียน ถูกท่านอาจารย์ในสถานศึกษาวิจารณ์ บอกว่าเขาเขียนแย่ยิ่งกว่าเด็กสิบสองขวบในสถานศึกษาเดียวกันกลับมาด้วยความโมโหที่อัดอั้นอยู่ในใจ เมื่อเข้ามาให้ห้องยังสะดุดอีก เขาโมโหขึ้นมาทันทีภรรยาอีกคนหนึ่งของเฉินเจียงกำลังง่วนอยู่ในครัว ในห้องมีเพียงจางเหลียนฮวานอนอยู่บนเตียงเตา นางกำลังให้นมลูก ไม่ได้รับประทานเนื้อสัตว์มานาน ทำให้น้ำนมของนางไม่พอ ทารกน้อยกินไม่อิ่ม จึงร้องไห้ไม่หยุด จางเหลียนฮวากล่อมอยู่นาน ทารกน้อยเพิ่งผล็อยหลับไป เมื่อเฉินเจียงตะโกนเสียงดังเช่นนี้ ทารกจึงร้องไห้อีกราชวงศ์ต้าชิงให้เกียรติบุรุษดูแคลนสตรี ยามสามีโมโห โดยทั่วไปภรรยาไม่กล้าโต้เถียง แต่เมื่อทารกน้อยในอ้อมกอดร้องไห้ จางเหลียนฮว
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 36

“พอแล้ว!”เห็นจางเหลียนฮวายอมรับความผิด เฉินเจียงพูด “รอข้าได้เบี้ยหวัด ข้าจะซื้อเนื้อกลับมาให้เจ้าครึ่งจินเพื่อบำรุงร่างกาย”“จริงหรือเจ้าคะ?”เมื่อได้ยินว่าเฉินเจียงจะซื้อเนื้อให้นาง หัวใจที่เศร้าหมองของจางเหลียนฮวาทอประกายทันที“ข้าจะหลอกเจ้าได้อย่างไร แต่งงานกับข้า ดีกว่าสองพี่น้องตระกูลฉินมากแล้ว”“นายท่านพูดถูกเจ้าค่ะ อนาคตข้างหน้านายท่านก็คือผู้ที่ร่ำรวยเงินทองและมีอำนาจ” จางเหลียนฮวาลุกขึ้นนั่ง เริ่มวาดฝันถึงอนาคตฮูหยินขุนนางใหญ่เฉินเจียงเงียบ ทว่าแววตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความหยิ่งผยองนักพรตในวัดซานชิงกวนบอกแล้วไม่ใช่หรือ? ในสิบปีตระกูลเฉินของพวกเขาจะมีขุนนางใหญ่ที่เก่งทั้งบุ๋นและบู๊ สิบปี ลูกชายของเขายังเล็ก เช่นนั้นก็หมายถึงเขาไม่ใช่หรือ?จอหงวนไม่กล้าอาจเอื้อม แต่บัณฑิตชั้นสูงนั้น เฉินเจียงคิดว่าตนทำได้อย่างไม่มีปัญหาแน่นอนราชวงศ์ต้าชิง บัณฑิตชั้นสูงเป็นขุนนางประจำจังหวัดได้ในหมู่บ้านเล็กๆ อย่างหมู่บ้านซานเหอ มีคนได้เป็นขุนนางประจำการในจังหวัด เป็นเรื่องที่ใหญ่มากๆเพราะว่า ในระแวกนี้ ไม่เคยมีแม้กระทั่งนายอำเภอเวลานี้นายอำเภอของอำเภอผิงอันย้ายมาจากที่อื่นสำห
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 37

เฉินฝานมองจนใจลอยภรรยาผู้มีรูปโฉมงดงาม สวยสะพรั่งดั่งดอกไม้ ทั้งยังเป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมายที่ทางการส่งมาให้ กล่าวว่าเฉินฝานไม่หวั่นไหวคงเป็นเรื่องโกหกแต่ว่าเท้าของฉินเย่ว์โหรวในเวลานี้ห่อด้วยสมุนไพร มิหนำซ้ำนางเพิ่งเข้าพิธีปักปิ่นเมื่อปีกลาย อายุยังน้อยนักเลี้ยง...อีกหน่อยเถอะอย่างน้อยต้องรอหลังจากที่เท้าของนางหายดีก่อนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เฉินฝานหันไปมองนอกประตู “เย่ว์เจียว เจ้าเดินวนไปมาด้านนอกทำไม รีบกลับมาพักผ่อน”เฉินฝานมัวแต่ไม่อาจทำใจ เขาไม่ทันสังเกตเห็น แววตาเสียใจของร่างบางในผ้าห่มสุดท้าย นายท่านก็รังเกียจนางหลังจากฉินเย่ว์เจียวเข้ามา มองเฉินฝานแล้วมองฉินเย่ว์โหรว ขยับริมฝีปาก สุดท้ายไม่ได้พูดอะไร คลานขึ้นเตียงเตา นอนอีกฟากหนึ่งซึ่งไกลจากเฉินฝานที่สุด“นายท่านเจ้าคะ ข้าน้อยอุ่นใต้ผ้าห่มให้แล้วเจ้าค่ะ”ตอนฉินเย่ว์โหรวออกมาจากใต้ผ้าห่มของเฉินฝาน น้ำเสียงของนางแผ่วเบา ไม่มีความโมโห นางกลับไปอีกฟากหนึ่งของเตียง ซุกตัวเข้าในผ้าห่ม มุดหน้าเข้าไปในอ้อมกอดของฉินเย่ว์เจียวเฉินฝานคิดว่านางเขินอาย ไม่ได้คิดอะไรมากกลางดึกเวลาประมาณตีสองตีสาม เฉินฝานลืมตาขึ้นตอนหัน
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 38

ไม่ทันสังเกตเห็นว่าน้ำแข็งใต้ฝ่าเท้าตนเอง เริ่มเคลื่อนไหวแล้วเสียงแครกดังขึ้น ชั้นน้ำแข็งแตก เฉินฝานตกลงไปในน้ำทันทีโชคดีที่เขาว่ายน้ำเก่ง เพียงครู่หนึ่งก็ว่ายขึ้นมาได้ตอนอยู่ในน้ำไม่รู้สึกถึงความหนาวเย็น หลังโผล่พ้นน้ำ ลมเหนือพัดผ่านร่างกาย เฉินฝานหนาวจนตัวสั่นอุณหภูมิบนหุบเขาต่ำ เขาต้องรีบกลับไป มิเช่นนั้นหากเป็นไข้ขึ้นมา เขาเกรงว่าตนไปเฝ้าพระอินทร์เหมือนเจ้าของร่างเดิมแล้วตกลงไปในน้ำ มือจับตะกร้าไว้ ทำให้ปลาตกกระจัดกระจายไปครึ่งหนึ่ง พลั่วก็ตกลงไปในน้ำเช่นเดียวกันปลาครึ่งตะกร้าก็ครึ่งตะกร้าแล้วกัน ก็ไม่น้อยแล้ว ส่วนพลั่วก็ไม่เอาแล้วเฉินฝานสะพายปลาครึ่งตะกร้า คล้ายเมื่อก่อนสมัยฝึกทหารในค่าย วิ่งเหยาะๆ กลับเรือนไม่อาจวิ่งเร็วเกินไปได้ วิ่งเร็วเกินไปหมดแรง วิ่งเหยาะๆ ก็กลับถึงเรือนอย่างรวดเร็วได้ ทั้งยังทำให้ร่างกายอบอุ่น...ฉินเย่ว์เจียวที่อยู่บนเตียงเตาเด้งตัวลุกขึ้นมาอย่างกะทันหัน สายตาจับจ้องไปที่ม่านประตูบอกว่าไปเพียงประเดี๋ยวเดียวไม่ใช่หรือ? เหตุใดครั้งนี้จึงนานเช่นนี้ยามค่ำคืนมืดมิดทุกแห่งหน อากาศก็หนาว เขาจะไปที่ใด ทำอะไร?รออีกครู่หนึ่งจู่ๆ ฉินเย่ว์เจ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 39

ปลา...เผา...”ฉินเย่ว์โหรวอยากจะพูดแล้วเงียบไป“เย่ว์โหรว เจ้าอยากพูดอะไรก็พูดมาเถอะ”“ปลาเผาที่นายท่านทำอร่อยมากเจ้าค่ะ แต่ว่า หากจะนำไปขายจริงๆ...อาจจะขายไม่ออกก็ได้ หรือแม้จะขาย ก็ขายไม่ได้ราคาดีเจ้าค่ะ”ฉินเย่ว์โหรวพยายามพูดเบาที่สุด เพราะไม่อยากให้สะเทือนใจเฉินฝานพวกนางชอบกิน เป็นเพราะทานผักป่ามานาน“เรื่องนี้เจ้าวางใจ ข้าคิดหาวิธีปรับสูตรปลาเผาเรียบร้อยแล้ว”ตอนกลับมา เปียกไปทั้งตัว จึงไม่ได้เก็บหญ้าชิงเฮาจริงด้วย คนที่นี่เรียกชิงเฮาว่าหญ้าเซียนนู๋เข้าเมืองตาหลิ่วต้องลิ่วตาตาม เขาเองก็เรียกว่าหญ้าเซียนนู๋ก็แล้วกันเฉินฝานบอกให้ฉินเย่ว์โหรวไปเก็บหญ้าเซียนนู๋ หญ้าเซียนนู๋ในฤดูเหมันต์ แม้คุณภาพไม่ดีเท่าฤดูคิมหันต์ แต่ก็ไม่แย่นักหญ้าเซียนนู๋มีอยู่ทุกที่ ฉินเย่ว์โหรวไม่ต้องไปไกลนัก หุบเขาหลังหมู่บ้านก็มีแล้วในหมู่บ้าน ถึงหุบเขาหลังหมู่บ้าน ค่อนข้างปลอดภัยเฉินฝานเดินไปที่ลานกว้าง เทปลาในตะกร้าออกมา นับปลา พยักหน้าด้วยความพอใจครั้งนี้เฉินฝานไม่ได้เลือกใช้ปลาเฉาฮื้อเพราะหากกินปลาเผาจานใหญ่เหมือนยุคปัจจุบัน ต้องใช้วัตถุดิบหลายอย่างปลาจานใหญ่เช่นนั้น ต้องนั่งล้อมวง
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 40

ออกมาจากร้านขายเหล็ก เฉินฝานไปซื้อถ่านหนึ่งถุงที่ร้านขายฟืนหลังจากนั้นไปร้านขายยาซื้อยี่หราและพริกไทยสองเหลียง ยี่หราและพริกไทยต้องร้องขอให้เด็กในร้านขายยาบดเป็นผง ยุคสมัยนี้ยังไม่มีพริก น่าเสียดายเล็กน้อยของทั้งหมดที่ซื้อเก้าสิบเหวินวันนี้แม้จะขายปลาทั้งหมดได้ เมื่อนำไปหักลบต้นทุน ได้กำไรเพียงเล็กน้อย แต่ค้าขายวันแรก ไม่ขาดทุนก็ถือว่ากำไรแล้ว หลังจากนี้ไม่ต้องซื้อเหล็กแท่ง ก็ดีแล้วเงินเก้าสิบเหวินที่ซื้อเมื่อครู่ มีเจ็ดสิบเหวินมาจากค่าเหล็กสองแท่งกลับถึงตลาด ฟ้าสว่างจ้าแล้วมีค่ามาเก็บค่าแผงลอย แผงลอยเล็กๆ อย่างของเฉินฝานต้องจ่ายสองเหวินแม้แต่ผู้แข็งแกร่งก็ยากจะเอาชนะเจ้าถิ่นได้ ค้าขายวันแรก เฉินฝานไม่อยากให้มีปัญหาตลาดเริ่มครึกครื้นแล้วเช่นเดียวกัน เฉินฝานนำฉินเย่ว์เจียวและฉินเย่ว์โหรวตั้งแผงลอยเฉินฝานตั้งเตาเผา เผาถ่านฉินเย่ว์เจียวและฉินเย่ว์โหรวนำหญ้าเซียนนู๋ไปถูท้องปลาเตาเผาไม่ใหญ่นัก ครั้งหนึ่งเผาปลาได้แค่สามตัวสองสามีภรรยาที่ขายขนมเปี๊ยะข้างๆ ขายของในตลาดมานานหลายสิบปี ไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อน“พ่อหนุ่ม เจ้าขายปลาหรือ?” ชายชราอดไม่ได้ที่จะถาม“ขอรับ ขายปลา
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
123456
...
73
DMCA.com Protection Status