Share

บทที่ 33

Penulis: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“พี่สาม ข้าตักเองเจ้าค่ะ!”

ฉินเย่ว์โหรวยื่นมือไปรับขวดน้ำมันจากฉินเย่ว์เจียว

“เหลวไหล เอามาให้ข้า!”

เฉินฝานแย่งขวดน้ำมันมาจากฉินเย่ว์เจียวก่อน

ก่อนหน้านี้ตอนทำอาหารฉินเย่ว์โหรวไม่ให้เขาเข้าไปยุ่มย่าม เขาก็ไม่ติดใจ แต่ว่าสกัดน้ำมันหรือใส่น้ำมันเช่นนี้ เขาไม่ให้นางทำ

เตาค่อนข้างสูง ฉินเย่ว์โหรวตัวเล็ก ขาดสารอาหารมานาน นางแทบไม่มีเรี่ยวแรงแล้ว

สกัดน้ำมันและใส่น้ำมันมีความอันตรายระดับหนึ่ง

เขาทะลุมิติมาจากที่ดินแดนแสนไกล ภรรยางดงามดั่งดอกไม้เสมือนหยกเช่นนี้ หากน้ำมันกระเด็นใส่หน้าเกิดรอยแผลเป็นขึ้นมา เขาย่อมเสียใจอย่างมาก

อย่างไรก็ตามฉินเย่ว์โหรวอายุยังน้อย ตอนเฉินฝานใส่กากหมู จิตใจของเด็กสาวย่อมเปิดเผยอย่างหมดเปลือก

นางจับจ้องกากหมูในช้อนบนมือของเฉินฝาน ลอบเลียริมฝีปาก ราวกับแมวน้อยจอมตะกละ

แม้ฉินเย่ว์เจียวจะไม่แสดงอาการชัดเจนเหมือนฉินเย่ว์โหรว แต่สายตาที่สื่อออกมาจากดวงตาหงส์คู่นั้น ไม่เคยละจากกากหมูในถ้วย

เฉินฝานมองเห็นทุกอย่าง อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ

เพิ่งกินข้าว หญิงสาวทั้งสองคนหิวอีกแล้วหรือ?

เฉินฝานตักกากหมูใส่ถ้วยเล็กๆ สองถ้วย โรยเกลือ ยื่นไปตรงหน้าสองพี่น้อง “กินสิ!”

“ไ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci
Komen (1)
goodnovel comment avatar
sabading.dingda
ขอเตือนเรื่องเติมเงิน คนที่ยังไม่เติมเงินน่ะดีแล้วนะ มันอัพเดทวันละตอน นี่เลิกอ่านละ คุณเก็บเหรียญฟรีเอาดีกว่า เติมเงินไปก็ไม่ได้อ่าน ตัองรอมันอัพวันละตอน จะรำคาญหงุดหงิดเปล่าๆ เราเลิกอ่านละ รอเบื่อ จนลืมเรื่องราวเดิมละ ไม่ต่อเนื่อง ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ควรเอามาขายนะ เสร็จซัก 80%ขึ้นไปค่อยเอามาข่ยดีกว่า
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terkait

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 34

    มันหมูจินละหกสิบเหวิน เนื้อหมูจินละยี่สิบเหวิน ข้าวสารจินละสิบเหวิน ผักกาดขาวหัวละสิบเหวิน ผ้าฝ้ายและดอกฝ้าย...ราคาสินค้าแพงระดับหนึ่งหากคำนวณตามรายรับ ราคาสินค้าสูงกว่ายุคปัจจุบันหลายเท่าอยากจะให้พวกเขามีชีวิตที่ดี เขาต้องพยายามมากกว่านี้หลังจากกินกากหมูเสร็จ พบว่าเฉินฝานกลับเข้าห้องไปแล้ว ฉินเย่ว์โหรวรีบยกกะละมังใส่น้ำตามเข้าไป“นายท่านเจ้าคะ!”ฉินเย่ว์โหรวเดินไปตรงหน้าเฉินฝาน “ข้าน้อยเช็ดหน้าและล้างเท้าให้ท่านเจ้าค่ะ”“เอ่อ!” เฉินฝานวางพู่กันลง ถลกแขนเสื้อขึ้น “ข้าทำเอง!”งานพวกล้างหน้าล้างเท้าเช่นนี้ เฉินฝานไม่คุ้นชินให้ผู้อื่นช่วยจริงๆ“ไม่ได้เจ้าค่ะ!”ฉินเย่ว์โหรวที่พูดจาอ่อนโยนมาโดยตลอด ส่งเสียงดังขึ้นกะทันหัน น้ำเสียงหนักแน่นยิ่งนัก ทำให้เฉินฝานตกใจอย่างมากเมื่อเห็นว่าตนทำให้เฉินฝานตกใจ ฉินเย่ว์โหรวรีบลดเสียงลงทันที “ขอโทษด้วยเจ้าค่ะ ข้าน้อยทำให้นายท่านตกใจ แต่ว่านายท่านไม่อาจชำระล้างด้วยตนเองเจ้าค่ะ”“ข้าล้างเอง...”“สิ่งที่ข้าทำให้นายท่านได้มีเพียงแค่นี้!”เฉินฝานยังพูดไม่จบ ฉินเย่ว์โหรวพูดขึ้น น้อยครั้งนักที่นางจะพูดแทรกเขาแบบนี้ฉินเย่ว์โหรวที่พูดแทรกเฉิ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 35

    เรือนข้างเคียงเฉินเจียงเพิ่งจะกลับถึงบ้านเวลานี้ตอนเปิดม่านเข้าไปในห้อง ภายในห้องค่อนข้างมืด เขาสะดุดกลองป๋องแป๋งบนพื้น จนเกือบหกล้ม“หญิงชั่ว!”เฉินเจียงเตะกลองป๋องแป๋งบนพื้น สบถหยาบ “ไม่จุดตะเกียงแม้แต่ดวงเดียว อยากให้ข้าสะดุดล้มตายหรืออย่างไร”วันนี้เขาอารมณ์ไม่ดีเดิมทีวันนี้เป็นวันที่เขาต้องได้รับเบี้ยหวัด แต่กลับไม่ได้รับอีกแล้วตอนเย็นขณะนั่งเรียนในสถานศึกษา บทกลอนที่เขาเขียน ถูกท่านอาจารย์ในสถานศึกษาวิจารณ์ บอกว่าเขาเขียนแย่ยิ่งกว่าเด็กสิบสองขวบในสถานศึกษาเดียวกันกลับมาด้วยความโมโหที่อัดอั้นอยู่ในใจ เมื่อเข้ามาให้ห้องยังสะดุดอีก เขาโมโหขึ้นมาทันทีภรรยาอีกคนหนึ่งของเฉินเจียงกำลังง่วนอยู่ในครัว ในห้องมีเพียงจางเหลียนฮวานอนอยู่บนเตียงเตา นางกำลังให้นมลูก ไม่ได้รับประทานเนื้อสัตว์มานาน ทำให้น้ำนมของนางไม่พอ ทารกน้อยกินไม่อิ่ม จึงร้องไห้ไม่หยุด จางเหลียนฮวากล่อมอยู่นาน ทารกน้อยเพิ่งผล็อยหลับไป เมื่อเฉินเจียงตะโกนเสียงดังเช่นนี้ ทารกจึงร้องไห้อีกราชวงศ์ต้าชิงให้เกียรติบุรุษดูแคลนสตรี ยามสามีโมโห โดยทั่วไปภรรยาไม่กล้าโต้เถียง แต่เมื่อทารกน้อยในอ้อมกอดร้องไห้ จางเหลียนฮว

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 36

    “พอแล้ว!”เห็นจางเหลียนฮวายอมรับความผิด เฉินเจียงพูด “รอข้าได้เบี้ยหวัด ข้าจะซื้อเนื้อกลับมาให้เจ้าครึ่งจินเพื่อบำรุงร่างกาย”“จริงหรือเจ้าคะ?”เมื่อได้ยินว่าเฉินเจียงจะซื้อเนื้อให้นาง หัวใจที่เศร้าหมองของจางเหลียนฮวาทอประกายทันที“ข้าจะหลอกเจ้าได้อย่างไร แต่งงานกับข้า ดีกว่าสองพี่น้องตระกูลฉินมากแล้ว”“นายท่านพูดถูกเจ้าค่ะ อนาคตข้างหน้านายท่านก็คือผู้ที่ร่ำรวยเงินทองและมีอำนาจ” จางเหลียนฮวาลุกขึ้นนั่ง เริ่มวาดฝันถึงอนาคตฮูหยินขุนนางใหญ่เฉินเจียงเงียบ ทว่าแววตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความหยิ่งผยองนักพรตในวัดซานชิงกวนบอกแล้วไม่ใช่หรือ? ในสิบปีตระกูลเฉินของพวกเขาจะมีขุนนางใหญ่ที่เก่งทั้งบุ๋นและบู๊ สิบปี ลูกชายของเขายังเล็ก เช่นนั้นก็หมายถึงเขาไม่ใช่หรือ?จอหงวนไม่กล้าอาจเอื้อม แต่บัณฑิตชั้นสูงนั้น เฉินเจียงคิดว่าตนทำได้อย่างไม่มีปัญหาแน่นอนราชวงศ์ต้าชิง บัณฑิตชั้นสูงเป็นขุนนางประจำจังหวัดได้ในหมู่บ้านเล็กๆ อย่างหมู่บ้านซานเหอ มีคนได้เป็นขุนนางประจำการในจังหวัด เป็นเรื่องที่ใหญ่มากๆเพราะว่า ในระแวกนี้ ไม่เคยมีแม้กระทั่งนายอำเภอเวลานี้นายอำเภอของอำเภอผิงอันย้ายมาจากที่อื่นสำห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 37

    เฉินฝานมองจนใจลอยภรรยาผู้มีรูปโฉมงดงาม สวยสะพรั่งดั่งดอกไม้ ทั้งยังเป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมายที่ทางการส่งมาให้ กล่าวว่าเฉินฝานไม่หวั่นไหวคงเป็นเรื่องโกหกแต่ว่าเท้าของฉินเย่ว์โหรวในเวลานี้ห่อด้วยสมุนไพร มิหนำซ้ำนางเพิ่งเข้าพิธีปักปิ่นเมื่อปีกลาย อายุยังน้อยนักเลี้ยง...อีกหน่อยเถอะอย่างน้อยต้องรอหลังจากที่เท้าของนางหายดีก่อนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เฉินฝานหันไปมองนอกประตู “เย่ว์เจียว เจ้าเดินวนไปมาด้านนอกทำไม รีบกลับมาพักผ่อน”เฉินฝานมัวแต่ไม่อาจทำใจ เขาไม่ทันสังเกตเห็น แววตาเสียใจของร่างบางในผ้าห่มสุดท้าย นายท่านก็รังเกียจนางหลังจากฉินเย่ว์เจียวเข้ามา มองเฉินฝานแล้วมองฉินเย่ว์โหรว ขยับริมฝีปาก สุดท้ายไม่ได้พูดอะไร คลานขึ้นเตียงเตา นอนอีกฟากหนึ่งซึ่งไกลจากเฉินฝานที่สุด“นายท่านเจ้าคะ ข้าน้อยอุ่นใต้ผ้าห่มให้แล้วเจ้าค่ะ”ตอนฉินเย่ว์โหรวออกมาจากใต้ผ้าห่มของเฉินฝาน น้ำเสียงของนางแผ่วเบา ไม่มีความโมโห นางกลับไปอีกฟากหนึ่งของเตียง ซุกตัวเข้าในผ้าห่ม มุดหน้าเข้าไปในอ้อมกอดของฉินเย่ว์เจียวเฉินฝานคิดว่านางเขินอาย ไม่ได้คิดอะไรมากกลางดึกเวลาประมาณตีสองตีสาม เฉินฝานลืมตาขึ้นตอนหัน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 38

    ไม่ทันสังเกตเห็นว่าน้ำแข็งใต้ฝ่าเท้าตนเอง เริ่มเคลื่อนไหวแล้วเสียงแครกดังขึ้น ชั้นน้ำแข็งแตก เฉินฝานตกลงไปในน้ำทันทีโชคดีที่เขาว่ายน้ำเก่ง เพียงครู่หนึ่งก็ว่ายขึ้นมาได้ตอนอยู่ในน้ำไม่รู้สึกถึงความหนาวเย็น หลังโผล่พ้นน้ำ ลมเหนือพัดผ่านร่างกาย เฉินฝานหนาวจนตัวสั่นอุณหภูมิบนหุบเขาต่ำ เขาต้องรีบกลับไป มิเช่นนั้นหากเป็นไข้ขึ้นมา เขาเกรงว่าตนไปเฝ้าพระอินทร์เหมือนเจ้าของร่างเดิมแล้วตกลงไปในน้ำ มือจับตะกร้าไว้ ทำให้ปลาตกกระจัดกระจายไปครึ่งหนึ่ง พลั่วก็ตกลงไปในน้ำเช่นเดียวกันปลาครึ่งตะกร้าก็ครึ่งตะกร้าแล้วกัน ก็ไม่น้อยแล้ว ส่วนพลั่วก็ไม่เอาแล้วเฉินฝานสะพายปลาครึ่งตะกร้า คล้ายเมื่อก่อนสมัยฝึกทหารในค่าย วิ่งเหยาะๆ กลับเรือนไม่อาจวิ่งเร็วเกินไปได้ วิ่งเร็วเกินไปหมดแรง วิ่งเหยาะๆ ก็กลับถึงเรือนอย่างรวดเร็วได้ ทั้งยังทำให้ร่างกายอบอุ่น...ฉินเย่ว์เจียวที่อยู่บนเตียงเตาเด้งตัวลุกขึ้นมาอย่างกะทันหัน สายตาจับจ้องไปที่ม่านประตูบอกว่าไปเพียงประเดี๋ยวเดียวไม่ใช่หรือ? เหตุใดครั้งนี้จึงนานเช่นนี้ยามค่ำคืนมืดมิดทุกแห่งหน อากาศก็หนาว เขาจะไปที่ใด ทำอะไร?รออีกครู่หนึ่งจู่ๆ ฉินเย่ว์เจ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 39

    ปลา...เผา...”ฉินเย่ว์โหรวอยากจะพูดแล้วเงียบไป“เย่ว์โหรว เจ้าอยากพูดอะไรก็พูดมาเถอะ”“ปลาเผาที่นายท่านทำอร่อยมากเจ้าค่ะ แต่ว่า หากจะนำไปขายจริงๆ...อาจจะขายไม่ออกก็ได้ หรือแม้จะขาย ก็ขายไม่ได้ราคาดีเจ้าค่ะ”ฉินเย่ว์โหรวพยายามพูดเบาที่สุด เพราะไม่อยากให้สะเทือนใจเฉินฝานพวกนางชอบกิน เป็นเพราะทานผักป่ามานาน“เรื่องนี้เจ้าวางใจ ข้าคิดหาวิธีปรับสูตรปลาเผาเรียบร้อยแล้ว”ตอนกลับมา เปียกไปทั้งตัว จึงไม่ได้เก็บหญ้าชิงเฮาจริงด้วย คนที่นี่เรียกชิงเฮาว่าหญ้าเซียนนู๋เข้าเมืองตาหลิ่วต้องลิ่วตาตาม เขาเองก็เรียกว่าหญ้าเซียนนู๋ก็แล้วกันเฉินฝานบอกให้ฉินเย่ว์โหรวไปเก็บหญ้าเซียนนู๋ หญ้าเซียนนู๋ในฤดูเหมันต์ แม้คุณภาพไม่ดีเท่าฤดูคิมหันต์ แต่ก็ไม่แย่นักหญ้าเซียนนู๋มีอยู่ทุกที่ ฉินเย่ว์โหรวไม่ต้องไปไกลนัก หุบเขาหลังหมู่บ้านก็มีแล้วในหมู่บ้าน ถึงหุบเขาหลังหมู่บ้าน ค่อนข้างปลอดภัยเฉินฝานเดินไปที่ลานกว้าง เทปลาในตะกร้าออกมา นับปลา พยักหน้าด้วยความพอใจครั้งนี้เฉินฝานไม่ได้เลือกใช้ปลาเฉาฮื้อเพราะหากกินปลาเผาจานใหญ่เหมือนยุคปัจจุบัน ต้องใช้วัตถุดิบหลายอย่างปลาจานใหญ่เช่นนั้น ต้องนั่งล้อมวง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 40

    ออกมาจากร้านขายเหล็ก เฉินฝานไปซื้อถ่านหนึ่งถุงที่ร้านขายฟืนหลังจากนั้นไปร้านขายยาซื้อยี่หราและพริกไทยสองเหลียง ยี่หราและพริกไทยต้องร้องขอให้เด็กในร้านขายยาบดเป็นผง ยุคสมัยนี้ยังไม่มีพริก น่าเสียดายเล็กน้อยของทั้งหมดที่ซื้อเก้าสิบเหวินวันนี้แม้จะขายปลาทั้งหมดได้ เมื่อนำไปหักลบต้นทุน ได้กำไรเพียงเล็กน้อย แต่ค้าขายวันแรก ไม่ขาดทุนก็ถือว่ากำไรแล้ว หลังจากนี้ไม่ต้องซื้อเหล็กแท่ง ก็ดีแล้วเงินเก้าสิบเหวินที่ซื้อเมื่อครู่ มีเจ็ดสิบเหวินมาจากค่าเหล็กสองแท่งกลับถึงตลาด ฟ้าสว่างจ้าแล้วมีค่ามาเก็บค่าแผงลอย แผงลอยเล็กๆ อย่างของเฉินฝานต้องจ่ายสองเหวินแม้แต่ผู้แข็งแกร่งก็ยากจะเอาชนะเจ้าถิ่นได้ ค้าขายวันแรก เฉินฝานไม่อยากให้มีปัญหาตลาดเริ่มครึกครื้นแล้วเช่นเดียวกัน เฉินฝานนำฉินเย่ว์เจียวและฉินเย่ว์โหรวตั้งแผงลอยเฉินฝานตั้งเตาเผา เผาถ่านฉินเย่ว์เจียวและฉินเย่ว์โหรวนำหญ้าเซียนนู๋ไปถูท้องปลาเตาเผาไม่ใหญ่นัก ครั้งหนึ่งเผาปลาได้แค่สามตัวสองสามีภรรยาที่ขายขนมเปี๊ยะข้างๆ ขายของในตลาดมานานหลายสิบปี ไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อน“พ่อหนุ่ม เจ้าขายปลาหรือ?” ชายชราอดไม่ได้ที่จะถาม“ขอรับ ขายปลา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 41

    ปลาบนเตาเผา หนังปลาด้านนอกเริ่มเหลืองแล้ว เฉินฝานทาน้ำมันลงบนหนังปลาไม่ต้องทาเยอะ ตัวปลาก็มีไขมัน โดยเฉพาะส่วนท้องของปลาปลาเผาที่ทาน้ำมันแล้ว กลิ่นหอมอบอวลคนที่ล้อมวงดู หลังจากได้กลิ่นหอม สูดลมหายใจฟุดฟิดอย่างไม่อาจควบคุมตนเองได้คนที่หัวเราะเยาะ คนที่มาดูว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น สีหน้าของพวกเขาค่อยๆ เปลี่ยนไปฉงนงุนงง แปลกใจ“วิธีการทำปลาแบบนี้ไม่ค่อยเหมือนกับที่ข้าคิด ดูเหมือนจะอร่อยมาก”“ข้าเองก็รู้สึกว่าอร่อยมาก ไม่เคยรู้มาก่อนว่าจะขจัดกลิ่นคาวของปลาได้”“ไม่มีกลิ่นคาวแม้แต่น้อย ดมแล้วก็หอมมาก ไม่รู้ว่ารสชาติเป็นอย่างไร?”เมื่อพูดถึงรสชาติ ผู้คนดึงสติมาจากกลิ่นหอมยั่วยวน“ข้าเคยกินปลา ไม่อร่อยจริงๆ!”“ข้าเองก็เคยกิน ไม่ใช่แค่ไม่อร่อย ก้างก็เยอะ”“พูดถึงก้าง ก้างปลาเคยติดคอข้าด้วย ปวดไปตั้งหลายวัน”“ข้าเองก็เคยเหมือนกัน ให้กินโดยไม่เสียสักแดงข้าก็ไม่กิน”ประสบการณ์ที่เจ็บปวด ทำให้ผู้คนเริ่มหมดความสนใจปลาเผาของเฉินฝาน มีคนเริ่มเดินออกไปหนังปลาเหลืองอร่ามงดงาม ใกล้จะสุกแล้ว เฉินฝานเร่งมือ โรยผงพริกไทยและผงยี่หราลงบนปลาที่อยู่บนเตาเผาผงพริกไทย ผงยี่หรา น้ำมัน ปลา มาเจ

Bab terbaru

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1238

    เถียนเสี่ยวอวี่ก็พยักหน้าเช่นกัน “ถูกต้องแล้ว ปกติแล้วประตูบานนั้นจะไม่เปิดออก และยังล็อกกลอนไว้ด้วย จู่ ๆก็บังเอิญ...” เถียนเสี่ยวอวี่หยุดพูดทันที สีหน้าค่อย ๆ มืดมนลง“หรือว่าคนจงใจเปิดออกงั้นรึ? มีคนที่ไม่อยากเจ้าอาวาสพูดต่อ ดูแล้ว อาของคงจิ้งจะต้องทำเรื่องหายนะอย่างใหญ่หลวงเป็นแน่”“เสี่ยวอวี่!” เฉินฝานหยุดชะงักฝีเท้าทันที สีหน้าเคร่งเครียด “สวี่ซื่อเจี๋ยเป็นผู้ว่าการมณฑลเมืองหรงตู เป็นขุนนางขั้นหกระดับสูงในราชสำนัก เรื่องนี้จะคาดเดาส่งเดชไม่ได้”“ใต้เท้า ข้า...”“พอเถอะ ช่างเรื่องนี้ก่อน”เฉินฝานพูดตัดบทเถียนเสี่ยวอวี่อย่างไม่เกรงใจหลิงอวี้ไม่ให้เถียนเสี่ยวอวี่รู้เรื่องของสวี่ซื่อเจี๋ย ก็เพื่อที่จะปกป้องนางเรื่องบางเรื่อง ไม่รู้จึงปลอดภัยที่สุดเฉินฝานอยากรักษาความพยายามที่หวังดีของหลิงอวี้ให้คงอยู่ต่อไปไม่ว่าสวี่ซื่อเจี๋ยจะทำเรื่องอันใด จะเกี่ยวข้องกับเถียนเสี่ยวอวี่หรือไม่ เฉินฝานก็ไม่ยอมให้นางเข้าไปเกี่ยวข้องอยู่ดี“ชิงหนิง พานางกลับเรือนไปพักผ่อนเถอะ”“เจ้าค่ะ!”ชิงหนิงรีบหิ้วตัวเถียนเสี่ยวอวี่ที่ไม่ยอมกลับจากไปทันที นางคิดเหมือนกับเฉินฝานคือ ไม่อยากให้เถียนเสี่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1237

    “มีเรื่องอันใดซื่อไท่พูดออกมาตรง ๆ เถิด แก้ปัญหาทุกเรื่องเพื่อราษฎรเพื่อขุนนางอย่างถูกทำนองคลองธรรม ไม่จำเป็นต้องขอร้อง”ได้ยินเฉินฝานพูดเช่นนี้ หลิงอวี้ยืนตัวแข็งทื่อน้ำตาไหลพรั่งพรูออกมาจากตาของนางคำพูดของเฉินฝาน นางไม่เคยได้ยินผู้ใดพูดเช่นนี้มานานแล้วใช่แล้ว เดิมทีก็ควรจะเป็นเช่นนี้อยู่แล้ว แก้ปัญหาทุกเรื่องเพื่อราษฎรเพื่อขุนนางอย่างถูกทำนองคลองธรรมทว่า ขุนนางส่วนใหญ่ของต้าชิ่งลืมคำพูดนี้ไปนานแล้ว หลายปีผ่านมานี้เสิ่นหมิงหยวนขุนนางกังฉินกุมอำนาจ ขุนนางต้าชิ่งส่วนใหญ่คิดเพียงว่าจะใช้อำนาจรังแกประชาชนอย่างไรเท่านั้น“ใต้เท้า ท่านโปรดจัดการผู้ว่าการมณฑลสวี่ซื่อเจี๋ยด้วยตนเองนะเจ้าค่ะ เขาเป็นคนที่...”“แค่ก ๆ ๆ ๆ”เฉินฝานไออย่างรุนแรงทันที จู่ ๆ ประตูฝั่งตะวันตกของพระตำหนักก็ถูกลมพัดจนเปิดออก ลมพัดโชยควันธูปมาปะทะหน้าเฉินฝานและหลิงอวี้ขนาดเฉินฝานยังทนไม่ไหว นับประสาอันใดกับหลิงอวี้ที่ป่วยหนัก“แค่ก...”หลังจากที่ไอออกมาอย่างรุนแรง หลิงอวี้ก็รู้ตัวว่าอ่อนแอลงอย่างมาก“แม่นางหวง เจ้ายังมียาอายุวัฒนะอีกหรือไม่” เฉินฝานตะโกนไปด้านนอกตำหนักด้วยน้ำเสียงรีบร้อน เขารู้อยู่แล้วห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1236

    เฉินฝานโบกมือ “เอาล่ะ คารวะเรียบร้อยแล้ว พวกเจ้าทั้งหมดจงกลับไปเถอะ”กลุ่มคนโหวกเหวกโวยวาย เฉินฝานไม่ชอบเสียงดังหากไม่ใช่เพราะเถียนเสี่ยวอวี่ เขาคงจะไม่ให้คนเหล่านี้รู้ว่าเขามาที่แห่งนี้มีผู้พิทักษ์สองสามคนติดตามเฉินฝานมาโดยตลอด พวกเขาคือทหารรักษาพระองค์ที่ได้รับคำสั่งจากฉินเย่ว์เหมยให้มาปกป้องเฉินฝานอย่างลับ ๆก่อนรุ่งสาง เขาเรียกผู้พิทักษ์คนหนึ่งออกมา ให้เขาไปป่าวประกาศเส้นทางของตนเองในเมืองหรงตูเฉินฝานคะเนไว้ว่าขุนนางกลุ่มนั้นคงจะมาอย่างรวดเร็ว ไม่คิดว่าจะมาเร็วปานนี้“ใต้เท้า พักที่สำนักชีคงไม่สะดวกนัก ท่านตามข้าน้อยกลับไปพักในเมืองหรงตูจะดีกว่าขอรับ”จางหย่งเชาและขุนนางเมืองหรงตูคนอื่น สีหน้าเปี่ยมไปด้วยความอาลัยอาวรณ์และไม่ยินยอม ในกลุ่มขุนนางเหล่านี้นอกจากจางหย่งเชาที่มาจากเมืองหลวงแล้ว คนอื่นล้วนไม่เคยออกจากเมืองหรงตูไม่ใช่เรื่องง่ายที่ท่านอัครเสนาบดีมาเยือน พวกเขาพยายามอย่างสุดชีวิตเพื่อจะโผล่หน้ามาให้เฉินฝานเห็น เพื่อเพิ่มโอกาสเลื่อนตำแหน่งของตนเองแม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดี“ถูกต้องแล้ว ใต้เท้าจางพูดถูก ท่านอัครเสนาบดีท่านกลับเมืองหรงตูไปกับพวกเราเถอะ”“ปกติท่านทำ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1235

    จางหย่งเชาเจ้าเมืองหรงตูพุ่งตัววิ่งด้วยความเร็วดั่งวิ่งแข่งร้อยเมตรมาเฉินฝาน ด้านหลังเขามีขุนนางเมืองหรงตูกลุ่มหนึ่งตามมาด้วยขุนนางเมืองหรงตูกลุ่มนี้เป็นขุนนางที่เพิ่งได้รับตำแหน่งใหม่หลังจากที่เฉินฝานไปเมืองหลวงแล้ว เฉินฝานรู้จักเพียงจางหย่งเชา เขารู้จักจางหย่งเชาเพราะก่อนที่ออกจากเมืองหลวงมาไม่นาน ฉินเย่ว์เหมยรับสั่งให้เขามาทำภารกิจที่เมืองหรงตูจึงเคยเห็นเขาคนที่ตามหลังจางหย่งเชามาติด ๆคือ ผู้ว่าการมณฑลเมืองหรงตู สวี่ซื่อเจี๋ย เพียงครู่เดียวคงจิ้งก็สามารถมองเห็นอาตนเองได้ นางรีบรุดหน้าเข้าไปหาทันที“ท่านอา!”เห็นคงจิ้งวิ่งมาเช่นนี้ สวี่ซื่อเจี๋ยเหงื่อเย็นผุดขึ้นเต็มหน้าผาก นางตาบอดหรือกระไร? ต่อให้นางไม่รู้จักเฉินฝาน เช่นนั้นนางไม่เห็นจางหย่งเชารึ?เขาร้อนรนใจดั่งไฟสุมอกดึงคงจิ้งลงมาด้านข้าง ในขณะเดียวกันก็ตวาดลั่นไปด้วย “มาทางนี้!”คงจิ้งสีหน้างงงันทันที ผ่านไปครู่เดียวก็วิ่งออกมาอีกแล้ว“ท่านอา คนผู้นั้น!” คงจิ้งยกมือชี้นิ้วออกไป “ไม่รู้ว่ามาจากที่ใด บอกว่าตนเองเป็นสามัญชนมาก่อความวุ่นวายที่สำนักชีชิงเมี่ยว ทำร้ายร่างกายเหล่าแม่ชีในสำนัก หลานก็ถูกทำร้ายเช่นกัน ท่านดูสิ...

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1234

    “ใต้เท้า ท่านสบายดีหรือไม่?” หลูเฉิงกวงถูมือด้วยความตื่นเต้นอยู่นาน จึงพูดประโยคนี้ออกมาอย่างทุลักทุเล“ข้าสบายดี!” เมื่อเจอคนสนิท เฉินฝานก็ยินดีมากเช่นกันหลิงอวี้พากลุ่มแม่ชีสำนักชีชิงเมี่ยวมาคุกเข่าต่อหน้าเหล่าขุนนางเมืองหรงตูเฉินฝานเดิมอ้อมมา คนด้านข้างจึงยังไม่มีผู้ใดเห็นเขา“พี่หญิงใหญ่ ท่านดูสิ” ชิงผิงตาดี เพียงครู่เดียวก็สังเกตเห็นได้ว่าหลูเฉิงกวงวิ่งมาด้านหน้าเฉินฝานคงจิ้งมองตาม นางขมวดคิ้ว “นั้นคือนายกองหลูเฉิงกวงไม่ใช่รึ?”“คิดว่าใช่นะเจ้าคะ พี่หญิงใหญ่ นายกองเคารพนอบน้อมให้ชายผู้นั้นตลอด ชายผู้นั้นคงจะไม่ใช่สามัญชนแล้วกระมัง?”เมื่อฟังคำพูดของชิงผิงแล้ว ใจของคงจิ้งตึงเครียดทันทีชายผู้นี้ที่เถียนเสี่ยวอวี่พามา เป็นเสนาบดีใหญ่จริงหรือ?ทางเฉินฝาน“ใต้เท้า ข้าจะรายงานท่านเจ้าเมืองจางให้ทราบว่าท่านอยู่ที่นี้” หลูเฉิงกวงกำลังจะไปแจ้งข่าวเจ้าเมืองหรงตูด้วยความยินดี“ตอนนี้ยังไม่ต้อง!” เฉินฝานโบกมือ เขารีบก้าวเท้าฉับเดินไปทางมุมซ้ายของพระอุโบสถมีคนที่เขาอยากเจออย่างมากอยู่ที่นั่น“พี่ฝาน”เป็นต้ายาและสามีของนางโจวถง“ท่านพี่ เร็วเข้าสิ รีบมาคารวะใต้เท้า” ต้ายาท

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1233

    “เจ้าอาวาส เหล่าท่านผู้ว่าการมณฑลมาเจ้าค่ะ” คงจิ้งตอบกลับหลิงอวี้ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความภูไม่ใจและหยิ่งผยอง“ท่านผู้ว่าการมณฑลมางั้นรึ?” หลิงอวี้ตกตะลึงทันที ความหดหู่และความรังเกียจเกิดขึ้นเพียงชั่วขณะจากนั้นก็จางหายไป ฝีเท้าที่เร่งรีบเมื่อครู่จึงเริ่มผ่อนความเร็วลงหลิงอวี้ไม่ชอบผู้ว่าการมณฑลคนนี้อย่างมาก คงจิ้งอาศัยการที่อาของนางเป็นผู้ว่าการมณฑล มาโอ้อวดอำนาจตัวเองที่สำนักชี ทำให้บรรยากาศในสำนักชีชิงเมี่ยวอึมครึมยิ่งนักหลิงอวี้ป่วยหนักไร้ทางรักษาอยู่ก่อนแล้ว นางพยายามยื้อชีวิตไว้ เพราะไม่อยากให้ตัวเองจากไปเร็วนัก ไม่อยากให้สำนักชีชิงเมี่ยวตกไปเป็นของคงจิ้งเช่นนี้หลิงอวี้คิดว่าเรื่องที่ตนเองทำผิดมหันต์ที่สุดในชีวิตนี้คือการให้คงจิ้งเข้ามาในสำนักชีชิงเมี่ยวคงจิ้งหน้าตาสะสวย ภูไม่หลังครอบครัวดี กลับไม่มีผู้ใดมาสู่ขอ แม่ของนางกลับส่งนางมาที่สำนักชีชิงเมี่ยว แต่ไม่ได้ให้อยากให้คงจิ้งถือศีลกินเจแต่อย่างใด เป้าหมายที่แท้จริงคือ...เมื่อคิดถึงกลุ่มคนวิปริตเหล่านั้น แววตาที่เมตตาอ่อนโยนทอประกาย พลันปรากฏความเดือดดาลทันทีเพื่อจะเติมเต็มความต้องการที่เพิ่มขึ้นทุกวันไม่มีสิ้นสุดขอ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1232

    “ช่างเป็นพวกที่ชอบรนหาที่ตายเสียจริง!” เสียงเดือดดาลดังขึ้น ชิงหนิงผ่อนฝีเท้าลงเล็กน้อย นางทะยานตัวบินไปด้านนอกบ้าน ฝูงชนไม่ทันมีการตอบสนองใด นางก็บินกลับมาแล้ว ตอนที่กลับมา นางก็ถือแส้หนังหนึ่งเส้นมาด้วยชิงหนิงยกมือขึ้นสะบัดแส้หนังออกไป“เพียะ!”เสียงกังวานดังขึ้นจากพื้นที่ถูกแส้หนังฟาดลงไป“อ้าก!”คงจิ้งส่งเสียงแล้วจึงล้มลงไป นางจับหน้าตนเองกลิ้งไปกลิ้งมาบนพื้นด้วยความเจ็บปวด“โถ่เว้ย...”คงจิ้งยังคิดที่จะออกคำสั่งให้แม่ชีเหล่านั้นใช้กำลังบีบบังคับชิงหนิง ปรากฏว่านางเพิ่งจะปริปาก ก็มีเสียงฟาดแส้หนังลงมาอีกหลายครั้ง“อ้าก ๆ ๆ ๆ!”แม่ชีสิบกว่าคนส่งเสียงแล้วจึงล้มลงไป พวกนางล้มลงกลิ้งตัวไปมาด้วยความเจ็บปวดอยู่ข้าง ๆ คงจิ้ง ในที่สุดพวกเขาก็ตระหนักได้ว่า วรยุทธ์ของชิงหนิงไม่ธรรมดาหลังจากที่โกนหัวบวชชีแล้ว ชิงหนิงก็เชื่อฟังคำพูดเถียนเสี่ยวอวี่มาโดยตลอด ละทิ้งอาวุธ ละทิ้งความคิดฟุ้งซ่าน ละทิ้งความแค้น ตั้งใจศึกษาพระธรรมด้วยจิตใจแน่วแน่หากไม่ใช่เพราะคงจิ้งยั่วโมโหเช่นนี้ ทั้งชีวิตนี้ชิงหนิงคงไม่คิดจะแตะต้องแส้หนังของนางอีก“ชิงหยวน เจ้าจงรีบไปในเมืองเดี๋ยวนี้ ไปบอกท่านอาข้า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1231

    เฉินฝานสีหน้าถมึงทึงทันที ปกติแล้วหากเป็นเรื่องเล็กน้อยเขาย่อมไม่ถือสา ทว่าทำให้เสบียงอาหารได้รับเสียหาย เช่นนั้นก็...“เพียะๆ!”เฉินฝานกำลังเตรียมจะยกเท้าถีบออกไป ก็มีเสียงดังกังวานสองครั้งดังขึ้น“เจ้าคนไร้ประโยชน์!”ตามมาด้วยเสียงเดือดดาลของชิงหนิง ชิงผิงล้มลงต่อหน้านางด้วยความเร็วประดุจแสง“โอ๊ย!” ชิงผิงที่ล้มลงไปอย่างรุนแรง โอดครวญด้วยความเจ็บปวดทันที“ชิงหนิง!” ชิงผิงลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล ชี้นิ้วกัดฟันกรอดด่าทอชิงหนิง “เจ้ากล้าเตะข้ารึ ข้าจะไปฟ้องศิษย์พี่หญิงของเจ้า”ชิงหนิงกวาดสายตามองชิงผิง “ไปสิ เจ้าให้คงจิ้งมาด้วย ข้าจะได้จัดการพร้อมกันทีเดียว!”ชิงผิงตวาดด้วยความโมโห “เจ้ากล้างั้นรึ?”ชิงหนิงยกยิ้มมุมปาก “ไฉนข้าจะไม่กล้า? เจ้าไม่กล้าไปเรียกเองล่ะสิ หรือจะบอกว่านางไม่กล้ามาดีล่ะ?”“หึ ช่างปากดียิ่งนัก อยู่กับคนที่ไม่รู้ผิดชอบชั่วดีผู้นั้น จึงกลายเป็นคนไม่รู้ผิดชอบชั่วดีเหมือนกันไปแล้ว”คงจิ้งมาพร้อมกับแม่ชีสิบกว่าคนอย่างยิ่งใหญ่อลังการตอนที่เดินผ่านชิงผิง คงจิ้งหยุดฝีเท้ากล่าวถาม “เกิดเรื่องอันใดขึ้น?”“พี่หญิงใหญ่ พวกเขา...” ชิงผิงมองไปที่เฉินฝานและชิงหนิง ค

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1230

    “...แม่นางหวง?”เฉินฝานที่พลิกตัวลุกขึ้นมานั่ง มองไปยังข้างเตียงที่ว่างเปล่าไม่มีใครสักคนอย่างตะลึงงันถ้าไม่ใช่เพราะม่านประตูส่ายไหว เฉินฝานยังนึกว่าเมื่อครู่นี้เขาตาฝาดไปเฉินฝานเหลือบมองม่านประตูที่สั่นไหว แล้วแย้มยิ้ม “ก็แค่สาวน้อยปากแข็ง”ไม่สนนางแล้ว เฉินฝานดึงเสื้อผ้าท่อนล่างขึ้นมา แล้วล้มตัวลงไปนอนต่อนอนเร็วก็เลยตื่นเช้าฟ้าเพิ่งสว่าง เฉินฝานก็ตื่นแล้ว เมื่อเขาพลิกตัวขึ้นมา เฉินฝานรู้สึกว่าความเจ็บที่บั้นท้ายหายไปมากกว่าครึ่งแล้ว เฉินฝานพอใจมาก ยาสมุนไพรของสำนักชีชิงเมี่ยวนี้มีประสิทธิภาพมากเลย วันนี้ก็ออกเดินทางกลับเมืองหลวงเถิดหวงหวั่นเอ๋อร์รีบร้อนไปเมืองหลวง เขาเองก็รีบเช่นกันแคว้นต้าฉิ่งเป็นแคว้นที่บุรุษสูงส่งสตรีต่ำต้อยอย่างยิ่ง ยามนี้ฉินเย่ว์เหมยเพิ่งขึ้นเป็นฮ่องเต้หญิงอีกครั้ง ขุนนางเหล่านั้นจะต้องลอบกัดนางทั้งในที่ลับและที่แจ้งอย่างแน่นอนอย่างไรก็ตาม...แววตาของเฉินฝานดูลุ่มลึกเย็นชา เขาต้องจัดการเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนที่จะจากไปขณะที่สวมเสื้อผ้า ก็มีเสียงคนเคาะประตูห้อง“เข้ามาสิ”“เสี่ยวอวี่เจ้ามาได้เวลาพอดี รีบมาช่วยข้าหน่อยเถิด” เฉินฝานเอ่ยกับค

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status