Share

บทที่ 39

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
ปลา...เผา...”

ฉินเย่ว์โหรวอยากจะพูดแล้วเงียบไป

“เย่ว์โหรว เจ้าอยากพูดอะไรก็พูดมาเถอะ”

“ปลาเผาที่นายท่านทำอร่อยมากเจ้าค่ะ แต่ว่า หากจะนำไปขายจริงๆ...อาจจะขายไม่ออกก็ได้ หรือแม้จะขาย ก็ขายไม่ได้ราคาดีเจ้าค่ะ”

ฉินเย่ว์โหรวพยายามพูดเบาที่สุด เพราะไม่อยากให้สะเทือนใจเฉินฝาน

พวกนางชอบกิน เป็นเพราะทานผักป่ามานาน

“เรื่องนี้เจ้าวางใจ ข้าคิดหาวิธีปรับสูตรปลาเผาเรียบร้อยแล้ว”

ตอนกลับมา เปียกไปทั้งตัว จึงไม่ได้เก็บหญ้าชิงเฮา

จริงด้วย คนที่นี่เรียกชิงเฮาว่าหญ้าเซียนนู๋

เข้าเมืองตาหลิ่วต้องลิ่วตาตาม เขาเองก็เรียกว่าหญ้าเซียนนู๋ก็แล้วกัน

เฉินฝานบอกให้ฉินเย่ว์โหรวไปเก็บหญ้าเซียนนู๋ หญ้าเซียนนู๋ในฤดูเหมันต์ แม้คุณภาพไม่ดีเท่าฤดูคิมหันต์ แต่ก็ไม่แย่นัก

หญ้าเซียนนู๋มีอยู่ทุกที่ ฉินเย่ว์โหรวไม่ต้องไปไกลนัก หุบเขาหลังหมู่บ้านก็มีแล้ว

ในหมู่บ้าน ถึงหุบเขาหลังหมู่บ้าน ค่อนข้างปลอดภัย

เฉินฝานเดินไปที่ลานกว้าง เทปลาในตะกร้าออกมา นับปลา พยักหน้าด้วยความพอใจ

ครั้งนี้เฉินฝานไม่ได้เลือกใช้ปลาเฉาฮื้อ

เพราะหากกินปลาเผาจานใหญ่เหมือนยุคปัจจุบัน ต้องใช้วัตถุดิบหลายอย่าง

ปลาจานใหญ่เช่นนั้น ต้องนั่งล้อมวง
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 40

    ออกมาจากร้านขายเหล็ก เฉินฝานไปซื้อถ่านหนึ่งถุงที่ร้านขายฟืนหลังจากนั้นไปร้านขายยาซื้อยี่หราและพริกไทยสองเหลียง ยี่หราและพริกไทยต้องร้องขอให้เด็กในร้านขายยาบดเป็นผง ยุคสมัยนี้ยังไม่มีพริก น่าเสียดายเล็กน้อยของทั้งหมดที่ซื้อเก้าสิบเหวินวันนี้แม้จะขายปลาทั้งหมดได้ เมื่อนำไปหักลบต้นทุน ได้กำไรเพียงเล็กน้อย แต่ค้าขายวันแรก ไม่ขาดทุนก็ถือว่ากำไรแล้ว หลังจากนี้ไม่ต้องซื้อเหล็กแท่ง ก็ดีแล้วเงินเก้าสิบเหวินที่ซื้อเมื่อครู่ มีเจ็ดสิบเหวินมาจากค่าเหล็กสองแท่งกลับถึงตลาด ฟ้าสว่างจ้าแล้วมีค่ามาเก็บค่าแผงลอย แผงลอยเล็กๆ อย่างของเฉินฝานต้องจ่ายสองเหวินแม้แต่ผู้แข็งแกร่งก็ยากจะเอาชนะเจ้าถิ่นได้ ค้าขายวันแรก เฉินฝานไม่อยากให้มีปัญหาตลาดเริ่มครึกครื้นแล้วเช่นเดียวกัน เฉินฝานนำฉินเย่ว์เจียวและฉินเย่ว์โหรวตั้งแผงลอยเฉินฝานตั้งเตาเผา เผาถ่านฉินเย่ว์เจียวและฉินเย่ว์โหรวนำหญ้าเซียนนู๋ไปถูท้องปลาเตาเผาไม่ใหญ่นัก ครั้งหนึ่งเผาปลาได้แค่สามตัวสองสามีภรรยาที่ขายขนมเปี๊ยะข้างๆ ขายของในตลาดมานานหลายสิบปี ไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อน“พ่อหนุ่ม เจ้าขายปลาหรือ?” ชายชราอดไม่ได้ที่จะถาม“ขอรับ ขายปลา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 41

    ปลาบนเตาเผา หนังปลาด้านนอกเริ่มเหลืองแล้ว เฉินฝานทาน้ำมันลงบนหนังปลาไม่ต้องทาเยอะ ตัวปลาก็มีไขมัน โดยเฉพาะส่วนท้องของปลาปลาเผาที่ทาน้ำมันแล้ว กลิ่นหอมอบอวลคนที่ล้อมวงดู หลังจากได้กลิ่นหอม สูดลมหายใจฟุดฟิดอย่างไม่อาจควบคุมตนเองได้คนที่หัวเราะเยาะ คนที่มาดูว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น สีหน้าของพวกเขาค่อยๆ เปลี่ยนไปฉงนงุนงง แปลกใจ“วิธีการทำปลาแบบนี้ไม่ค่อยเหมือนกับที่ข้าคิด ดูเหมือนจะอร่อยมาก”“ข้าเองก็รู้สึกว่าอร่อยมาก ไม่เคยรู้มาก่อนว่าจะขจัดกลิ่นคาวของปลาได้”“ไม่มีกลิ่นคาวแม้แต่น้อย ดมแล้วก็หอมมาก ไม่รู้ว่ารสชาติเป็นอย่างไร?”เมื่อพูดถึงรสชาติ ผู้คนดึงสติมาจากกลิ่นหอมยั่วยวน“ข้าเคยกินปลา ไม่อร่อยจริงๆ!”“ข้าเองก็เคยกิน ไม่ใช่แค่ไม่อร่อย ก้างก็เยอะ”“พูดถึงก้าง ก้างปลาเคยติดคอข้าด้วย ปวดไปตั้งหลายวัน”“ข้าเองก็เคยเหมือนกัน ให้กินโดยไม่เสียสักแดงข้าก็ไม่กิน”ประสบการณ์ที่เจ็บปวด ทำให้ผู้คนเริ่มหมดความสนใจปลาเผาของเฉินฝาน มีคนเริ่มเดินออกไปหนังปลาเหลืองอร่ามงดงาม ใกล้จะสุกแล้ว เฉินฝานเร่งมือ โรยผงพริกไทยและผงยี่หราลงบนปลาที่อยู่บนเตาเผาผงพริกไทย ผงยี่หรา น้ำมัน ปลา มาเจ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 42

    “อร่อยจริงๆ พวกเจ้าลองดูสิ!”“ลองดูสิ ลองกันให้หมด!”“หากไม่อร่อย ข้าหลิวต้าชุ่ยวันนี้จะเปลี่ยนชื่อเป็นหลิวเสี่ยวชุ่ยเลย!”โบราณกล่าวไว้ รับของผู้อื่นมืออ่อน กินของผู้อื่นปากหวานยิ่งไปกว่านั้นปลาเผาอร่อยจริงๆ หลิวต้าชุ่ยตะโกนขายของขึ้นมา ตั้งใจยิ่งกว่าเฉินฝาน คนไม่รู้ นึกว่าเขาเป็นคนขายปลาเผาเสียอีก“นี่ หลิวต้าชุ่ย เจ้าเป็นหน้าม้าที่พ่อหนุ่มจ้างมาหรือเปล่า? พวกเจ้าเป็นพวกเดียวกันหรือเปล่า?”เห็นผู้คนเริ่มหวั่นไหว อยากชิมปลาของเฉินฝาน หลี่ซื่อร้องตะโกนเสียงดังผู้คนลังเลอีกแล้ว หลี่ซื่อรีบใส่สีตีไข่ “ไม่ว่าจะทำอย่างไร มันก็ยังเป็นปลา ทุกคนล้วนมีช่วงเวลายากลำบาก ใครบ้างที่ไม่เคยถูกบังคับให้กินปลา! แค่ใส่น้ำมันไม่กี่หยด บวกกับส่วนผสมต่างๆ ก็กลายเป็นอาหารของเทพเซียนเชียวหรือ?”“คิดว่าพวกข้าเป็นเด็กสามขวบหรืออย่างไร?”“หลี่ซื่อ”หลิวต้าชุ่ยไม่ยอมแพ้เช่นเดียวกัน เขาเอาร่างอ้วนท้วมของเขา เดินไปตรงหน้าหลี่ซื่อ“อย่าคิดว่าเจ้ากับหลี่ฟาคนดูแลสถานที่มาจากหมู่บ้านเดียวกัน เจ้าคิดอยากจะทำอะไรในตลาดนี้ก็ได้ ข้าหลิวต้าชุ่ยคนนี้ไม่กลัวเจ้า”แม้หลิวต้าชุ่ยกับหลี่ซื่อไม่ได้อยู่หมู่บ้านเดีย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 43

    ตัวละสามเหวิน เหตุใด...”เฉินฝานยังพูดไม่จบ หลี่ซื่อโยนเงินสี่เหวินที่เมื่อครู่เฉินฝานให้เขากลับมา เฉินฝานรับไว้ตามสัญชาตญาณ“ข้าเอาหนึ่งตัว หนึ่งเหวินที่เกินมานี้ ไม่ต้องทอนแล้ว!”“ขอรับ ขอบคุณพี่หลี่!”ไม่ทอนก็ไม่ทอน คนหยิ่งในศักดิ์ศรีอย่างหลี่ซื่อ หากทอนให้เขาจริงๆ เขาคงอึดอัด“เย่ว์โหรว ยืนนิ่งอยู่ทำไม ห่อให้พี่หลี่หนึ่งตัว”เฉินฝานเองก็คิดไม่ถึง การค้าขายแรกของเขาจะสำเร็จด้วยรูปแบบนี้ อีกทั้งคนที่ซื้อปลาของเขากลับเป็นหลี่ซื่อที่ขับไล่เขา“น้องชาย” หลิวต้าชุ่ยหยิบเงินออกมาจากกระเป๋าสามเหวิน “ปลาของเจ้าข้าก็ไม่อาจเอามาโดยไม่จ่ายเงิน นี่เงิน!”เฉินฝานโบกมือติดต่อกัน “พี่หลิว ข้าบอกแล้วว่าให้ท่าน!”เมื่อหลิวต้าชุ่ยได้ฟัง เขาก็ไม่สบอารมณ์ “เจ้าพูดอะไรเนี่ย ข้าหลิวต้าชุ่ยไม่ใช่คนกินแล้วไม่จ่ายเงิน เจ้ารับเงินไว้ เงินสามเหวินข้าหลิวต้าชุ่ยคนนี้จ่ายไหว”หลี่ซื่อให้แล้ว เขาจะยอมแพ้ได้อย่างไร“เช่นนั้น...ขอบคุณพี่หลิวมากขอรับ”เฉินฝานจำต้องรับเงินของหลิวต้าชุ่ย“อร่อยจริงๆ พวกเจ้าก็ชิมดู!”จ่ายเงินเฉินฝานเสร็จ หลิวต้าชุ่ยนำเนื้อปลาเผาที่แยกเป็นชิ้นๆจากมือเฉินฝานยื่นไปตรงหน้าฝู

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 44

    ยุคสมัยนี้ไม่มีการเชื่อมเหล็ก ไม่อาจทำเตาเผาเหมือนยุคปัจจุบันได้อย่างแน่นอน แต่ว่าน่าจะทำตะแกรงเหล็กได้กระมังเฉินฝานถามว่าจ่ายค่ามัดจำก่อนสิบเหวินได้หรือไม่เงินที่หาในวันนี้ ไม่พอซื้อตะแกรงเหล็กแน่นอน อีกทั้งไม่ได้เห็นสินค้า แม้จะมีเงินมากพอ เฉินฝานก็ไม่อยากจ่ายหมดในครั้งเดียวยุคสมัยนี้ ยังไม่มีแนวคิดเรื่องการจ่ายค่ามัดจำ แต่เถ้าแก่ตอบตกลงทันทีล้วนเป็นคนทำการค้า ปลาเผาของเฉินฝานขายดีในตลาด เถ้าแก่ได้ยินเรื่องนี้ตั้งแต่เช้าแล้วอีกทั้งเขาก็ซื้อแล้ว ปลาเผาของเฉินฝานอร่อยจริงๆ ตัวเขาเองก็ดูเป็นคนซื่อตรง เขาไม่กลัวว่าเฉินฝานจะไม่จ่ายเงินตอนเฉินฝานกลับมาจากร้านขายเหล็ก พบว่าสองพี่น้องเก็บทุกอย่างเสร็จแล้ว เวลานี้กำลังนั่งกระซิบกระซาบคุยกันเห็นเฉินฝานกลับมา รีบหยุดทันที ลุกขึ้นต้อนรับเฉินฝาน“นายท่าน ท่านกลับมาแล้ว!”“อื้ม เมื่อครู่ข้าเห็นพวกเจ้าพูดคุยกันอย่างมีความสุข กำลังคุยอะไร?”“นายท่าน!” ฉินเย่ว์โหรววิ่งไปตรงหน้าเฉินฝาน หลังจากมองซ้ายมองขวาพูดกระซิบเสียงเบา “นายท่านเจ้าคะ ท่านรู้หรือไม่ว่าวันนี้เราได้เงินเท่าไหร่?”“เท่าไหร่?”ในตอนหลังมีลูกค้าให้ราคาปลาเผาเพิ่ม ฉินเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 45

    งานในฤดูเหมันต์น้อยจริงๆ หลี่เจิ้งว่างแล้ว นับประสาอะไรกับผู้ช่วยอย่างเฉินเจียงตั้งแต่เมื่อวาน จวบจนเข้าสู่ฤดูวสันต์ หลี่เจิ้งบอกให้เฉินเจียงไม่ต้องไปทำงานแล้ว ให้เขาไปตั้งใจเรียนในสถานศึกษา เตรียมความพร้อมสำหรับการสอบระดับท้องถิ่นสอบระดับท้องถิ่นผ่านจึงจะสามารถสอบระดับซิ่วไฉได้ การสอบระดับท้องถิ่นไม่จำกัดอายุความจริงเฉินเจียงอายุไม่มากคนสมัยโบราณแต่งงานเร็ว เฉินเจียงและเฉินฝานเกิดปีเดียวกัน ปีนี้ทั้งสองเพิ่งอายุสิบเก้าวันนี้ได้รับเบี้ยหวัด หลี่เจิ้งนำเบี้ยหวัดและเงินขวัญถุงที่เขาได้ลูกชายไปให้เฉินเจียงที่หมู่บ้านซานเหอเป็นพิเศษ ตอนเขาออกมากลับถูกภรรยาหัวเราะเยาะ “ท่านหลี่เจิ้งนำเบี้ยหวัดและเงินไปให้ผู้ช่วยด้วยตนเอง ไม่รู้สึกขายหน้าหรือเจ้าคะ?”หลี่เจิ้งตำหนิทันที “เจ้าเป็นแค่สตรีในเรือน จะเข้าใจอะไร ปกติเจ้าชอบออกไปสอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้านไม่ใช่หรือ หรือเจ้าไม่ได้ยินสิ่งที่นักพรตวัดซานชิงกวนพูด”“ได้ยินสิ บอกว่าตระกูลเฉินฟู่หมู่บ้านซานเหอ ในสิบปีจะมีขุนนางใหญ่ที่ได้ทั้งบุ๋นและบู๊ปรากฎตัว” ฮูหยินหลี่เจิ้งพูดอย่างไม่ใส่ใจ“รู้แล้วเจ้ายังจะพูดมากอีก!”“แต่นักพรกไม่ได้บอกว

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 46

    ฉินเย่ว์โหรวก้มหน้าลง ท่าทีอ่อนน้อมเฉินฝานเห็นเช่นนั้น เปลวไฟแห่งความโมโหภายในจิตใจปะทุขึ้นมาสตรีคนนี้เป็นใคร? เหตุใดวิ่งแจ้นมาเอะอะโวยวายที่เรือนของเขา“นายท่าน ท่านกลับมาแล้ว!”เห็นเฉินฝานเปิดประตูเข้ามา ฉินเย่ว์โหรวคล้ายได้รับการช่วยเหลือนางวิ่งไปหาเฉินฝานสตรีเชิดหน้าแสนโอหังคนนั้นเป็นใคร ฉินเย่ว์เจียวที่อยู่ด้านหลังของเขาพูดก่อนที่เขาจะถาม“อาสะใภ้หง!”“หึ!” จ้าวเสี่ยวหงทำเสียงฮึดฮัด วางมาดยิ่งใหญ่ไม่คลอดลูกชาย จ้าวเสี่ยวหงถูกจางเหลียนฮวารังแกเป็นเวลานาน จ้าวเสี่ยวหงที่ถูกรังแกมักจะใช้ฉินเย่ว์โหรวและฉินเย่ว์เจียวเป็นที่รองรับอารมณ์เพราะเจ้าของร่างเดิมไม่เอาถ่าน ตำแหน่งของเขาในตระกูลเฉินจึงต่ำต้อย แม้จ้าวเสี่ยวหงและจางเหลียนฮวาจะรังแกสองพี่น้องตระกูลฉินมาโดยตลอด เจ้าของร่างเดิมก็ทำเป็นมองไม่เห็นหากสองพี่น้องตระกูลฉินบ่น คร่ำครวญไม่กี่ประโยค เจ้าของร่างเดิมยังทุบตีพวกนาง ให้พวกนางเชื่อฟังคำสั่งสอนของอาสะใภ้อาสะใภ้?เฉินฝานควานหาความทรงจำเกี่ยวกับจ้าวเสี่ยวหงในความคิด จ้าวเสี่ยวหงพูดอีก “ตอนกลางคืนมากินข้าวที่เรือนข้า พวกเจ้า...”สายตาของจ้าวเสี่ยวหงมองไปยังตะกร้าท

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 47

    “ครอบครัวเฉินฝาน มาถึงแล้ว มัยยืนนิ่งอยู่ข้างผู้ชายทำไม รีบไปช่วยงานในครัวเร็วเข้า!”สตรีคนหนึ่ง ตะคอกใส่ฉินเย่ว์เจียวและฉินเย่ว์โหรวคนๆ นี้คือนางโจวย่าของเฉินฝาน“เจ้าค่ะ ท่านย่า หลานสะใภ้ไปช่วยงานเดี๋ยวนี้เลยเจ้าค่ะ”ฉินเย่ว์เจียวและฉินเย่ว์โหรวรีบไปจากเฉินฝาน มุ่งหน้าไปที่ครัวเฉินฝานไม่ห้าม ยุคสมัยนี้ คำพูดของผู้อาวุโสยิ่งใหญ่เหนือสวรรค์ สลึกลึกอยู่ในใจของทุกคน สภาพแวดล้อมเช่นนี้ เขาที่เพิ่งมาถึง ทำตัวกลืนกับทุกคนก่อนหลังจากพวกภรรยาไป เฉินฝานสังเกตย่าของตนหน้าตาประมาณห้าสิบกว่า หน้าผาก หางตา ล้วนมีริ้วรอยที่เกิดจากกาลเวลา มือทั้งสองข้างมีร่องรอยการทำงานหนักสมัยสาวๆ แต่ว่าแต่งเนื้อแต่งตัวได้สะอาดสะอ้านสวมเสื้อและโปรงโทนสีเทาเป็นหลัก คอเสื้อปักลายด้วยสีเหลือง บนผม ปักปิ่นทองคำหนึ่งอันด้วยดูออกว่า นางโจวให้ความสำคัญกับงานเลี้ยงในวันนี้มากในฐานะชาวนาคนหนึ่ง นี่คือทรงผมที่ดีที่สุดเท่าที่นางทำได้แล้วคนโบราณอายุสั้น อายุสิบกว่าก็แต่งงานแล้ว นางโจวอายุห้าสิบกว่าก็ได้เป็นย่าถือเป็นเรื่องปกติเฉินเจียงเป็นลูกหลงของเฉินฟู่และนางโจว อายุเท่าเฉินฝานทั้งสองอายุสิบเก้าเฉินเ

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 730

    เหอกังนิ่งเงียบไปเพียงหนึ่งวินาที“ทหารทั้งหมดจงฟังคำสั่ง!” เหอกังยกป้ายสั่งการทหารขึ้นสูง “ถอยทัพกลับลำไปทางเดิม!”ระหว่างที่ถอยกลับทางเดิม เฉินฝานยังให้เหอกังออกคำสั่งอีกสองเรื่องคำสั่งแรก นายทหารทุกคนถอดชุดเกราะเครื่องหัวออก ก็คือให้ทุกคนถอดหมวกเหล็กบนหัวออก นำเสื้อผ้าห่อไว้ มัดไว้ที่เอวกองกำลังยุคโบราณ เพื่อที่แยกมิตรและศัตรู ชุดเกราะเครื่องหัวจะมีสัญลักษณ์สัญลักษณ์บนชุดเกราะเครื่องหัวของกองกำลังลาดตระเวนคือพู่ระย้าสีแดงสีแดงสะดุดตาเกินไป ไม่สะดวกในการหลบหลีกคำสั่งที่สอง ทุกคนต้องเก็บกิ่งที่มีใบไม้มาสองสามชิ้น มัดรวมให้เป็นวงกลม สวมไว้บนศีรษะตอนที่ออกคำสั่งทั้งสองนี้ เหอกังก็ตัดหัวนายทหารไปอีกหนึ่งคนเพราะสองคำสั่งนี้ ก็ไม่ต่างอันใดกับการล่าถอยกลับทางเดิม เหลวไหลสิ้นดีไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าหรือลูกน้องในกองกำลังลาดตระเวนทั้งหมด คิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจที่คาดหัวใบไม้หนึ่งชิ้น จะสามารถรักษาชีวิตได้กว่าชุดเกราะเครื่องหัวที่ทำจากเหล็กงั้นหรือ?เฉินฝานไม่ได้ผิดปกติจริงๆใช่หรือไม่?กลับไปถึงสถานที่กวาดล้างพลทหารม้าสามพันคนของเหยียนอิง เฉินฝานออกคำสั่งให้หยุดเคลื่อนทัพในขณ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 729

    เฉินฝานอมยิ้มพลางพยักหน้า “ถูกต้อง หากไม่ยั่วโมโหอ๋องเจิ้งหนาน หลี่เทียนจะออกมาได้อย่างไร”“ทว่า ทำเช่นนี้เป็นการทำให้พวกเราเข้าสู่สภาวะจนตรอกมิใช่หรือ?”“ท่านแม่ทัพ ทำเช่นนี้ สามารถทำให้พวกเรามีชีวิตต่อไปได้!”“เช่นนี้พวกเราจึงสามารถมีชีวิตต่อไปได้งั้นหรือ? ใต้เท้าเฉิน...”เหอกังที่อยู่ด้านข้างหยุดพูดไปครู่หนึ่ง “เจ้าต้องการล่อกองกำลังเมืองเตียนที่เมืองฝูตูให้ออกมา หลังจากนั้นพวกเราก็กลับลำไปยึดโจมตีเมืองฝูตูงั้นหรือ?”“ปิดบังท่านแม่ทัพไม่ได้จริงๆ ข้าน้อยก็มีความประสงค์เช่นนี้ มีเพียงการทำเช่นนี้ เมืองหรงตูและพวกเราจึงยังมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่”“น้องฝาน วิธีนี้น่าอัศจรรย์ก็จริง ทว่า...” สีหน้าของเหอจื่อหลินเปลี่ยนจากสดใสเป็นหม่นหมอง “กองกำลังสามหมื่นคนของหลี่เทียนนั้น ห่างจากพวกเราไม่ถึงห้าสิบลี้แล้ว อิงจากความเร็วของกองกำลังเตียนตู ต้านทานไว้ครึ่งชั่วยาม ก็จะไล่ตามพวกเราทัน พวกเราต้องการโจมตีโต้กลับเมืองฝูตู ก็ต้องหลบหลีกพวกเขาก่อน”“กองกำลังลาดตระเวนมีสองหมื่นเจ็ดพันกว่าคน และมีม้าสงครามที่ไปยึดครองมาเมื่อครู่สามพันตัว เป้าหมายยิ่งใหญ่เช่นนี้ ความยากในหลบหลีกหลี่เทียนยากยิ่งนั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 728

    “ข่าวที่ข้าได้รับมาเมื่อครู่ กองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งแสนคนที่เหยียนเชียงนำทัพไม่ได้ข้ามฝั่งมา”“ไม่ได้ข้ามฝั่งรึ?” เหอกังตกใจอย่างมาก กล่าวด้วยความโมโหทันที “เวลาครึ่งก้านธูปที่แล้วพลส่งข่าวมารายงานว่ากองกำลังหนึ่งแสนคนนั้นของเหยียนเชียงเริ่มข้ามฝั่งแล้วมิใช่หรือ? พลส่งข่าวของเจ้าเป็นอันใดไป จึงรายงานไม่แม่นยำเช่นนี้!”“ท่านพ่อ เมื่อครู่กองกำลังเมืองเตียนข้ามฝั่งจริงๆ ทว่าผ่านไปไม่นานพวกเขาทั้งหมดก็กลับลำ ตอนนี้เดินทางมุ่งสู่เมืองหรงตูแล้ว”“กล่าวเช่นนี้...” สีหน้าของเหอกังเปลี่ยนเป็นเข้มงวด “กองกำลังเตียนตูไม่คิดที่จะสนใจพวกเรา ทว่ามุ่งตรงไปบุกโจมตีเมืองหรงตู หากสูญเสียเมืองหรงตูไป เช่นนั้นพวกเรา...”เช่นนั้นกองกำลังลาดตระเวนก็เหมือนกับเด็กกำพร้าไร้บ้านหากไปเยือนหรงตูมิได้ พวกเขาก็เป็นทหารเร่ร่อนกลุ่มหนึ่งที่ไม่กำลังสนับสนุนใดๆจากแนวหลัง“เร็วเข้า พวกเราต้องเร่งฝีเท้าในการเคลื่อนทัพ” เหอกังกล่าวเสียงดัง “แผนการเดียวในตอนนี้ พวกเราทำได้เพียงแข่งความเร็วกับเหยียนเชียง”“ข้าว่าวิธีนี้ก็ไร้ผล” เย่ว์หนูที่อยู่ด้านข้างเฉินฝานส่ายหน้ากล่าวเสียงเบา “พละกำลังของกองกำลังเมืองเตียนตูมีม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 727

    เฉินฝานเดินอยู่ด้านหน้า ฉินเย่ว์เจียวลากศพของเหยียนอิง สองคนเรียงรายเดินออกจากกระโจมไปสถานการณ์รบด้านนอกจวนจะเข้าใกล้จุดสิ้นสุดแล้วห่าธนูในคราเดียว กองกำลังเมืองเตียนตูสามพันกว่าคนนี้ ทุกคนล้วนถูกลูกธนูของกองกำลังลาดตระเวนปักราวกับเม่นเหอจื่อหลินพาคนไปตรวจสอบว่ามีกองกำลังเมืองเตียนตูที่ยังตายไม่สนิทหรือไม่ ดังนั้นจึงเกิดเสียงการแทงซ้ำและเสียงโอดครวญเป็นครั้งคราว“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”เมื่อเห็นเฉินฝานแล้ว เหล่านายทหารพากันคุกเข่าเฉินฝานลนลานรีบทำท่าขอให้ลุกขึ้น “ทุกท่านไม่ต้องมากพิธี รีบลุกขึ้นเถอะ”นายทหารเหล่านั้นโน้มศีรษะติดกับพื้นจึงยอมลุกขึ้นยืนนับตั้งแต่ที่เข้ากระโจมจนมาถึงตอนที่ออกจากกระโจมมา ห่างกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เหล่ากองกำลังลาดตระเวนด้านหน้าเฉินฝาน ทุกคนล้วนมีชีวิตชีวาพวกเขาทหารผู้ดีทหารไร้ประโยชน์ที่ถูกฝูงชนหัวเราะเยาะ ในเวลาสั้นๆครึ่งชั่วโมง สามารถกำจัดพลทหารม้าของกองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งกลุ่มได้ทั้งหมดต่อจากนี้ จะคอยดูว่าผู้ใดจะกล้ากล่าวว่าพวกเขาไร้ประโยชน์ได้อีก!เหล่าทหารเพิ่งจะลุกขึ้นยืน เหอกังรีบรุดหน้าเข้ามาทันที สีหน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 726

    เหยียนอิงถูกฉินเย่ว์เจียวนำน้ำเย็นหนึ่งถังราดใส่จนตื่น“อ้าก!”“ใครกัน? ชาติชั่วผู้ใดรนหาที่ตาย บังอาจใช้น้ำราดใส่ข้า!”เหยียนอิงที่ถูกปลุกให้ตื่นด้วยความตกใจเด้งตัวกระโดดลงจากเตียง คว้าดาบใหญ่ข้างกายขึ้นมา ต้องการจะฟันออกไปตอนที่เขาเห็นชัดเจนว่าคนที่ยืนข้างเตียงเขาคือฉินแย่ว์เจียว วางดาบลงทันที พลันปรากฏรอยยิ้มสัปดน“เจ้าหนุ่มหน้าปลาเก๋านั้น สามารถจัดการเรื่องต่างๆ เพราะถวิลหาสาวน้อยที่งดงามเช่นนี้ ข้าก็แปลกใจหรอก”“แม่สาวน้อย เจ้าจะมาด้วยตนเองหรือต้องการให้ข้าช่วย!”“ข้าว่าข้าช่วยเจ้าดีกว่า เจ้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อย”เหยียนอิงหัวเราะร่าลุกขึ้นยืน กำลังจะโถมตัวใส่ร่างของฉินเย่ว์เจียว“ปึก!”จอกสุราหนึ่ง ลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียว ชนเข้ากับใบหน้าของเหยียนอิงอย่างรุนแรง“อ้าก!”เหยียนอิงที่ได้รับบาดเจ็บตะโกนลั่น ยื่นมือออกไปคิดที่จะคว้าดาบใหญ่ของเขาอีกครั้ง“ปึก!”มีวัตถุหนึ่งชิ้นลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียวอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่จอกสุรา ทว่าเป็นเกาทัณฑ์ดอกเหมยหนึ่งลูกนี่เป็นหนึ่งในอาวุธลับมากมายที่ฉินเย่ว์เหมยมอบให้เฉินฝาน เกาทัณฑ์ดอกเหมยใช้งานง่ายที่สุด วันที่สองข

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 725

    ฉกฉวยโอกาสยามราตรี กองกำลังลาดตระเวนสองหมื่นนาย สามารถข้ามแม่น้ำลวี่สุ่ยครั้งที่สองได้แล้วคนมากมายเพียงนี้ กล่าวไม่มีลาดเลาอันใดแม้แต่น้อย นั้นเป็นเรื่องโกหกตอนที่กองกำลังลาดตระเวนข้ามฝั่ง ทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูที่ลาดตระเวนผู้หนึ่งพบเห็น“คน มีคนจำนวนมากกำลังข้ามฝั่ง” กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นกล่าวกับสหายร่วมรบของตนคำพูดของกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้น ไม่เพียงไม่ได้รับความใส่ใจจากสหายร่วมรบเท่านั้น ยังถูกสหายร่วมเขกกะโหลกหนึ่งที“เป็นเพราะไม่นอน ตาพร่ามัวไปแล้วหรือ ข้ามฝั่งอันใดกัน?” สหายร่วมรบชี้ไปที่แม่น้ำ “ดูสิ ด้านบนมีเรือหรือไม่? ไม่มีเรือจะข้ามฝั่งมาได้เยี่ยงไร”“ทว่า...”กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นหันกลับไปชำเลืองมองอีกครั้ง “ข้าเห็นจริงๆ เหมือนว่าพวกเขาไม่ได้นั่งเรือข้ามมา ทว่าเดินบนผิวน้ำมา”สะพานลอยไม่โผล่ขึ้นมาผิวน้ำทั้งหมด ดูแล้วก็เหมือนกับคนกำลังเดินผิวน้ำจริงๆกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นถูกสหายร่วมรบของตนเขกกะโหลกอีกครั้ง “เดินบนผิวน้ำ? นับถือที่เจ้าพูดเช่นนี้ออกมาได้ ที่เจ้าเห็นมิใช่คน แต่เจ้าเห็นผีแล้วต่างหาก!”“ที่ข้าเห็นเป็นผีงั้นรึ?”“จะไม่ใช่ได้อย่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 724

    “สร้างสะพานลอยเช่นนี้ กองกำลังเมืองเตียนตูฝั่งตรงข้ามคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆหรอกกระมัง”“พวกเจ้าพูดถูก” เฉินฝานกล่าว “กองกำลังเมืองเตียนตูคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆ ดังนั้นที่พวกเราสามารถสร้างได้เป็นสะพานลอยใต้น้ำ”เฉินฝานนำแผนที่ออกมา มือวางไว้ที่แม่น้ำลวี่สุ่ย “ตรงส่วนนี้ พื้นที่แม่น้ำค่อนข้างแคบ สายน้ำก็ค่อนข้างไหลเชี่ยวเช่นกัน กองกำลังเมืองเตียนตูจะต้องคาดไม่ถึงว่าพวกเราจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวเป็นแน่ ดังนั้นช่วงนี้การลาดตระเวนของกองกำลังเตียนตูต้องไม่เข้มงวดเพียงนั้นเป็นแน่ ความสามารถทางน้ำของกองกำลังหญิงยอดเยี่ยม พวกนางสามารถฉกฉวยโอกาสยามราตรี ดำน้ำลงไปในแม่น้ำสร้างสะพาน”ในตอนแรกที่ฝึกกองกำลังหญิง ตามปกติแล้วก็ฝึกตามที่หน่วยรบพิเศษฝึกฝน ดังนั้นการดำน้ำสร้างสะพานประเภทนี้ชำนาญเป็นธรรมดาอยู่แล้ว“สหายกองกำลังลาดตระเวน เพียงแค่ตระเตรียมเถาวัลย์และกิ่งไม้ให้พร้อมก็ใช้ได้แล้ว”ขั้นตอนในการสร้างสะพาน เป็นดังที่เฉินฝานคาดการณ์ไว้ กองกำลังเมืองเตียนตูคาดไม่ถึงว่าพวกเฉินฝานจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว และสิ่งที่คาดไม่ถึง คิดเหนือชั้นไปอีก คือพวกเฉินฝ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 723

    “ใต้เท้าเฉิน ไยเจ้ายังคิดที่จะล้อเล่นอีก!” เหอกังสีหน้าจริงจัง เขาออกคำสั่งกับเหอจื่อหลิน “จื่อหลิน เจ้าปกป้องใต้เท้าเฉินให้ออกจากป่าไปในคืนนี้ มุ่งหน้าสู่หรงตู”“ท่านแม่ทัพใหญ่ ข้า...”“ใต้เท้าเฉิน ข้ารู้ว่าเจ้าอยากอยู่ ทว่าพวกเราไม่สามารถเสี่ยงอันตรายเรื่องนี้ได้ หากสูญเสียเจ้าไป ต้าชิ่งของพวกเราก็ถึงจุดจบจริงๆแล้ว”เหอกังพูดขัดคำพูดเฉินฝานก่อนที่จะออกเดินทางครั้งนี้ ฉินเย่ว์เหมยลอบนัดพบพ่อลูกตระกูลเหอลับๆ ไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้นให้พ่อลูกตระกูลเหอต้องปกป้องชีวิตของเฉินฝานไว้กล่าวว่า หากไร้ซึ่งเฉินฝาน ต้าชิ่งก็สูญสลายเช่นกันคำพูดของฉินเย่ว์เหมย เหอกังเห็นด้วยทั้งหมดตอนนี้ต้าชิ่งมีทั้งศึกภายในและภายนอก ขุนนางทุจริตกุมอำนาจ หากไม่มีเฉินฝาน ก็มิมีใครสามารถต่อกรกับเสิ่นหมิงหยวนได้“ท่านแม่ทัพใหญ่!” เฉินฝานทำมือเคารพให้เหอกัง “ขอบคุณความไว้วางใจของท่านแม่ทัพใหญ่ที่มีต่อข้าน้อย ในเมื่อท่านแม่ทัพคิดว่าข้าน้อยสามารถช่วยต้าชิ่งให้รอดพ้นได้ เช่นนั้นไยไม่เชื่อมั่นให้ข้าน้อยทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูพ่ายแพ้กันล่ะ?”“ใต้เท้าเฉิน ข้าเชื่อมั่นว่าท่านมีความสามารถเช่นนั้นอยู่แล้ว ทว่าการจะหล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 722

    ระเบิดดินที่ฝังไว้ จวนจะได้แผลงฤทธิ์แล้ว ม้าและพลทหารที่ถูกระเบิดจนลอยขึ้นจะบรรเทาการปิดล้อมของกองกำลังเมืองเตียนตูได้ชั่วคราวผ่านไปไม่นานนัก ท้องฟ้าก็มืดสนิทเมื่อท้องฟ้ามืดแล้ว เหล่าทหารลาดตระเวนล้วนถอนหายใจอย่างโล่งอกพวกเขาปลอดภัยชั่วคราวแล้วต่อให้กองกำลังเมืองเตียนตูจะเก่งกาจเพียงใด ก็ไม่สามารถจะหาญกล้าบุกโจมตีเข้ามาในป่าตอนกลางคืนเหยียนเชียงที่เป็นผู้นำกองกำลังหนึ่งแสนคนของเมืองเตียนอันก็ไม่ได้รีบร้อน ตอนที่ฟ้ายังไม่ทันมืด เขาก็ออกคำสั่งให้คนไปตั้งค่ายทหารแล้ว“ท่านเจ้านครฝ่ายขวา เส้นทางที่จะระเบิด จวนจะไม่มีแล้ว กองทัพของข้าสามารถโจมตีตามไปได้ จัดการพวกเขาให้หมด เพื่อขจัดอุปสรรคในการเข้าเมืองหลวงของท่านอ๋อง”แม่ทัพสองสามคนเป็นฝ่ายขอออกทัพกับเหยียนเชียงก่อนปัญญาชนหน้าใสเฉินฝานอยู่ในป่า จับเป็นเขาได้สามารถได้เงินห้าหมื่นตำลึงทองการบุกเข้าป่ายามราตรีเรื่องต้องห้ามเช่นนี้ กองทัพเมืองเตียนตูมิได้หวาดกลัวอย่างไรเสียก็เป็นเงินห้าหมื่นตำลึงทองเชียวนะใครจะไม่อยากได้กันเหยียนเชียงจ้องแม่ทัพที่มาขอออกรบก่อนเหล่านั้น “เรื่องที่ว่าจะขจัดอุปสรรคทางไปเมืองหลวงให้ท่านอ๋องอะไ

DMCA.com Protection Status