Share

บทที่ 47

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
last update Last Updated: 2024-05-29 19:11:27
“ครอบครัวเฉินฝาน มาถึงแล้ว มัยยืนนิ่งอยู่ข้างผู้ชายทำไม รีบไปช่วยงานในครัวเร็วเข้า!”

สตรีคนหนึ่ง ตะคอกใส่ฉินเย่ว์เจียวและฉินเย่ว์โหรว

คนๆ นี้คือนางโจวย่าของเฉินฝาน

“เจ้าค่ะ ท่านย่า หลานสะใภ้ไปช่วยงานเดี๋ยวนี้เลยเจ้าค่ะ”

ฉินเย่ว์เจียวและฉินเย่ว์โหรวรีบไปจากเฉินฝาน มุ่งหน้าไปที่ครัว

เฉินฝานไม่ห้าม ยุคสมัยนี้ คำพูดของผู้อาวุโสยิ่งใหญ่เหนือสวรรค์ สลึกลึกอยู่ในใจของทุกคน สภาพแวดล้อมเช่นนี้ เขาที่เพิ่งมาถึง ทำตัวกลืนกับทุกคนก่อน

หลังจากพวกภรรยาไป เฉินฝานสังเกตย่าของตน

หน้าตาประมาณห้าสิบกว่า หน้าผาก หางตา ล้วนมีริ้วรอยที่เกิดจากกาลเวลา มือทั้งสองข้างมีร่องรอยการทำงานหนักสมัยสาวๆ แต่ว่าแต่งเนื้อแต่งตัวได้สะอาดสะอ้าน

สวมเสื้อและโปรงโทนสีเทาเป็นหลัก คอเสื้อปักลายด้วยสีเหลือง บนผม ปักปิ่นทองคำหนึ่งอันด้วย

ดูออกว่า นางโจวให้ความสำคัญกับงานเลี้ยงในวันนี้มาก

ในฐานะชาวนาคนหนึ่ง นี่คือทรงผมที่ดีที่สุดเท่าที่นางทำได้แล้ว

คนโบราณอายุสั้น อายุสิบกว่าก็แต่งงานแล้ว นางโจวอายุห้าสิบกว่าก็ได้เป็นย่าถือเป็นเรื่องปกติ

เฉินเจียงเป็นลูกหลงของเฉินฟู่และนางโจว อายุเท่าเฉินฝาน

ทั้งสองอายุสิบเก้า

เฉินเ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 48

    เฉินฝานความทรงจำดีมาก เมื่อครู่ฉินเย่ว์โหรวพูดเพียงรอบเดียว เขาจำชื่อและแซ่ของคนเหล่านี้ได้หมดแล้วอาหารบนโต๊ะของผู้ชาย มีมากมายและหลากหลายยิ่งกว่าบนโต๊ะของผู้หญิงแม้เวลานี้เฉินเจียงอยู่ในช่วงรุ่งโรจน์ แต่คนที่นั่งเก้าอี้ตัวหลักก็คือบิดาของเขา เฉินฟู่มองดูแล้วอายุของเฉินฟู่ มากกว่านางโจวภรรยาของเขา คาดว่าประมาณหกสิบแล้ว แต่ว่าสุขภาพร่างกายยังถือว่าแข็งแรงดีทางด้านซ้ายและด้านขวาของเฉินฟู่ แบ่งเป็นหลี่เจิ้งและผู้ใหญ่บ้านนั่งเวลานี้รวมตัวกัน แน่นอนว่าเป็นเพราะจางเหลียนฮวาให้กำเนิดลูกชาย แต่เหตุผลที่มากไปกว่านั้นแน่นอนว่าเป็นเพราะคำทำนายของนักพรตวัดซานชิงกวนใครบ้างที่ไม่อยากประจบ ขุนนางใหญ่ก่อนที่จะกลายเป็นขุนนางใหญ่ รอวันที่เขาประสบความสำเร็จได้เป็นขุนนางใหญ่ พวกเขาก็ไม่มีโอกาสแล้วเฉินเจียงนั่งข้างหลี่เจิ้ง วันนี้เขาสวมชุดชิงจินตัวใหม่ชิงจิน คือเสื้อสีน้ำเงินคอปกไขว้กัน เป็นชุดเครื่องแบบของนักเรียนในสมัยโบราณ สื่อให้รู้ว่าเป็นนักเรียนราชวงศ์ต้าชิงมีกฎว่า มีเพียงนักเรียนที่ผ่านการสอบระดับท้องถิ่นเท่านั้นจึงจะสวมชุดชิงจินได้การสอบระดับท้องถิ่น คือปัญญาชนที่ยังสอบซิ่วไฉไม่

    Last Updated : 2024-05-29
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 49

    เขาคือเฉินเฟยอวี๋ลูกชายของอาสามในมือเฉินเฟยอวี๋ถือตำรา ‘บทกวี’ น้ำเสียงและท่าทีโอหังมาก ในฐานะรุ่นเด็กคนหนึ่ง ไม่เคารพเฉินฝานและเฉินผิงแม้แต่น้อย“ขอโทษด้วย ขอโทษ พวกเราหลีกทางให้เดี๋ยวนี้ หลีกให้เดี๋ยวนี้” ใบหน้าแก่ชราของเฉินผิง เผยรอยยิ้มอ่อนน้อม เขาดึงเฉินฝานขยับถอยหลัง“คนไม่เอาไหนไม่ควรปรากฏตัวที่นี่ ทำให้ตระกูลเฉินขายหน้า!”ขณะเดินผ่านเฉินฝานและเฉินผิง เฉินเฟยอวี๋ยังด่าทอ“ไอ้หนู เจ้าพูดอะไร?” เฉินฝานลุกพรวดขึ้นมา“ข้าพูดอะไร หึ!” เฉินเฟยอวี๋หัวเราะเยาะอย่างไร้เยื่อใย “งานเลี้ยงดำเนินมาถึงเวลานี้ ก็จะเริ่มโต้วาทีบทกวีแล้ว ไม่ไสหัวไป เจ้าเข้าใจหรือ?”“พวกทำตัวขายขี้หน้า ไสหัวไป!”เฉินฝานยังไม่ทันพูด เฉินฟู่โมโหด่าทอเฉินฝานเสียงดัง“เสี่ยวฝาน อย่าสร้างปัญหา พวกเราถอยไปอยู่อีกที่หนึ่งกันเถอะ” เฉินผิงรีบพาเฉินฝานไปยังมุมหนึ่งที่ต่ำกว่าโต๊ะอาหารของพวกผู้หญิงเฉินเฟยอวี๋ยกมุมปากขึ้นยิ้มด้วยความเย้ยหยัน “แบบนี้สิถึงจะถูก พวกคนไม่เอาไหนควรจะอยู่มุมๆ”สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับทางเฉินฝาน เฉินเจียงนั่งอยู่ตรงนั้น ไม่สนใจ มองด้วยความเหนือกว่าหัวข้อหลักในวันนี้คือบทกวี รุ่นผ

    Last Updated : 2024-05-29
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 50

    เจ้าหมอนี่ใจกล้าเกินไปแล้วคำพูดของเขาไม่ได้เย้ยหยันแค่เฉินเฟยอวี๋ แต่เย้ยหยันเฉินเจียงด้วยการเรียนของเฉินเจียงไม่เพียงเป็นอันดับหนึ่งของตระกูล ในสถานศึกษาก็เป็นอันดับต้นๆ เช่นเดียวกันแต่เฉินฝาน คือคนไม่รู้หนังสือ คนไม่เอาไหนที่เที่ยวเล่นไปวันๆคนไม่เอาไหนบอกว่าคนเรียนดีสอนผิดเนี่ยนะคนที่สีหน้าย่ำแย่ที่สุดคือเฉินฟู่ เขาโยนแก้วน้ำชาลงบนพื้นอย่างแรง “สารเลว พวกอาเจียงกำลังพูดคุยเรื่องบทกวี เจ้าจะเข้าใจอะไร ขัดจังหวะมั่วซั่ว”“ข้าไม่เข้าใจอะไร แต่หน้าที่ยี่สิบ...”“ฮ่าๆ หน้าที่ยี่สิบอะไร นั่นคือบทที่ยี่สิบ แค่คำว่าบทยังอ่านไม่ออก”“ไม่รู้หนังสืออยู่แล้ว ยังจะแกล้งทำเป็นรู้อีก” เฉินฝานเพิ่งพูด พวกเด็กหนุ่มในตระกูลก็เริ่มหัวเราะเยาะเขาทุกคนในตระกูลเฉินมั่นใจว่าเฉินฝานเป็นคนผิด ไม่มีใครสืบหาความจริง“ไสหัวไป ไม่ต้องอยู่ที่นี่ให้ข้าขายหน้า” เฉินฟู่ที่รังเกียจเฉินฝาน เริ่มขับไล่เขา“เสี่ยวฝาน เจ้าทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ วันนี้อาชวนเจ้ามา เดิมทีอยากให้เจ้าเปิดหูเปิดตา คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะบ้าดีเดือดเช่นนี้”เฉินเจียงทำสีหน้าเหมือนผู้ใหญ่มองเด็กที่ไม่เอาไหนด้วยความปวดใจ“เหมือนว่าเขาจ

    Last Updated : 2024-05-29
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 51

    ไม่ควรชวนเขา จะทำให้เสียเรื่อง!”“ตระกูลของพวกเรามีอันธพาลไม่เอาไหนเช่นนี้ ทำให้คนในตระกูลขายหน้าจริงๆ!”“ใครว่าไม่ใช่ล่ะ ยามออกไป เมื่อพูดถึงตระกูลเฉิน ผู้อื่นก็จะถาม ใช่ตระกูลเฉินอันธพาลเฉินฝานหรือไม่ ข้าไม่รู้จะตอบอย่างไร”
“เขาคือปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งข้อง”คนในตระกูลที่อยู่รอบๆ เฉินฝาน เริ่มกระซิบกระซาบพวกเขาตำหนิเฉินฝานที่ทำให้พวกเขาต้องลำบากอย่างไม่มีข้อยกเว้นเฉินเจียงขมวดคิ้วเป็นปม วันนี้เขาชวนเฉินฝานมา อยากโอ้อวดเท่านั้น ให้เฉินฝานคำนับเขาคิดไม่ถึงสุดท้ายเจ้าเด็กนี่จะทำให้เขาขายหน้า เรื่องขายหน้าที่เกิดขึ้นตรงหน้า เขายังไม่คิดบัญชีก่อน หากเฉินฝานก่อเรื่องอีก เช่นนั้นซวยจริงๆ แล้ว“คนไม่เอาไหน คุกเข่าซะ ไม่ว่าเจ้าทำเรื่องอะไร รีบขอโทษหลี่เจิ้งเดี๋ยวนี้”เฉินฟู่หันไปตำหนิเฉินฝาน“ข้าทำอะไร ให้ข้าคุกเข่า ท่านผิดปกติหรือไม่!” เฉินฝานมองเฉินฟู่อย่างหมดคำจะพูด โต้กลับทันทีท่าทีของเฉินฝาน ทำให้ทุกคนในตระกูลเฉินตกตะลึงเมื่อก่อนตอนอยู่ข้างนอกไม่ว่าเขาจะใจกล้าเพียงใด เมื่อกลับถึงตระกูลเฉิน เขาไม่กล้าแม้แต่จะผายลมกลัวเฉินฟู่และเฉินเจียงมาก“เฉินฝาน พูดแบบนี้กับท่านปู

    Last Updated : 2024-05-29
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 52

    เจ้านี่ กล้าส่งเสียงเวลานี้เนี่ยนะเฉินเจียงมองเฉินฝานอย่างตักเตือนเฉินฝานลืมตากว้าง ทำทีใสซื่อ เขายิ้มแล้วเผชิญหน้ากับสายตาของเฉินเจียง คำตักเตือนในแววตาของเฉินเจียง เขามองไม่เห็นแม้แต่น้อย“ก็จริงขอรับ!” เฉินฝานไม่รอเฉินเจียงตอบ พูดต่อ “อาเจียงเป็นปัญญาชน ทั้งยังสวมชุดชิงจิน จะหลอกกันได้อย่างไร”เฉินฝานพูด ยื่นมือไปให้เฉินเจียงเฉินเจียงขมวดคิ้วมองมือของเฉินฝานที่ยื่นมาให้เขา “อะไร?”“เงินอย่างไรขอรับ!” เฉินเจียงเขย่าฝ่ามือของตนเอง “อาเจียง เวลานี้หลานชายต้องการเงินสามร้อยเหวินเพื่อผ่านฤดูเหมันต์”เฉินเจียงอยากอาเจียนเป็นเลือดก่อนหน้านี้เบี้ยหวัดของเขาเดือนละแค่ยี่สิบเหวิน วันนี้หลี่เจิ้งบอกเขาว่า นายอำเภอบอกว่าเขาทำงานดี เพิ่มให้เป็นหนึ่งร้อยเหวิน สามร้อยเหวินเท่ากับเบี้ยหวัดสามเดือนของเขาสายตาของเฉินเจียงจับจ้องไปที่เฉินฝาน พูดลอดไรฟัน “เจ้าหนู เจ้าอย่าเรียกร้องเกินเหตุ!”รอยยิ้มบนใบหน้าเฉินฝานกว้างขึ้น สบตาเฉินเจียงอย่างไม่หวาดกลัวสามร้อยเหวินมากหรือ? ไม่มากแม้แต่น้อยก่อนจะมา ฉินเย่ว์เจียวและฉินเย่ว์โหรวบอกเขาว่า เฉินเจียงปลูกเรือนเมื่อปีกลาย เงินไม่พอ เฉินฟู่บอกใ

    Last Updated : 2024-05-29
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 53

    ร่างเดิมในอดีตยามอยู่ต่อหน้าคนตระกูลเฉิน ไม่กล้าแม้กระทั่งผายลม แต่ยามอยู่ข้างนอกกับจูต้าอัน โอหังในหมู่บ้านอย่างมากคนในหมู่บ้านลับหลังเรียกเขาว่าเทพแห่งโรคระบาด“คนที่จะเข้าร่วมการสอบขุนนาง พบเจอเทพแห่งโรคระบาดอย่างพวกข้า คงไม่ดีแน่!”เฉินฝานเองก็คิดไม่ถึงว่า จูต้าอันช่วยเขาทางอ้อมครั้งใหญ่ หากไม่มีจูต้าอัน คนในหมู่บ้านจะกลัวร่างเดิมได้อย่างไร ร่างเดิมก็คงไม่มีฉายาเทพแห่งโรคระบาดนี้แล้ว และเขาในตอนนี้คงไม่อาจได้ เงินสินเดิมและเงินน้ำพักน้ำแรงของฉินเย่ว์เจียวและฉินเย่ว์โหรวเป็นจริงตามคาด เมื่อได้ยินคำว่าเทพแห่งโรคระบาด สีหน้าของเฉินเจียงและเฉินฟู่แปรเปลี่ยนทันทีคนสมัยโบราณงมงายจางเหลียนฮวาที่อยู่ไกลๆ อุ้มลูกพร้อมกับสาวเท้ามา“ให้เจ้าสามร้อยเหวิน เสี่ยวฝาน เพื่ออาเจียงของเจ้า และเพื่อตระกูลเฉินของเรา ก่อนอาเจียงสอบระดับท้องถิ่น วันข้างหน้าหากในเรือนข้ามีงาน เจ้าและน้องสะใภ้ไม่ต้องมาช่วยงานแล้ว”“ขอบคุณอาสะใภ้ขอรับ!” เฉินฝานรับเงินที่จางเหลียนฮวายื่นให้อย่างมีความสุขสีหน้าของเฉินเจียง เหยเกราวกับกินแมลงวันเข้าไปเบี้ยหวัดสามเดือนแต่...เทพแห่งโรคระบาดเขาเองก็กลัว“ห้

    Last Updated : 2024-05-29
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 54

    หึ!แล้วอย่างไรเล่า ชีวิตของเฉินฝาน ไม่ว่าจะเป็นลำดับตระกูล หรือว่าหน้าที่การงาน ชีวิต ล้วนถูกลิขิตให้ต่ำต้อยกว่าเขา“อื้ม!”หลี่เจิ้งพยักหน้า ตามเฉินเจียงออกไปนอกประตูมีรถม้าจอดไว้หนึ่งคัน เป็นรถม้าที่เฉินเจียงจ้างมาส่งหลี่เจิ้งหมู่บ้านเล็กๆ หมู่บ้านหนึ่ง เกิดเรื่องอะไรขึ้นเพียงเล็กน้อย คนทั้งหมู่บ้านล้วนรู้กันหมด ยิ่งไปกว่านั้นหลี่เจิ้งมาด้วยตนเอง ทั้งยังนำเงินขวัญถุงจากทางราชสำนักมาให้หน้าเรือนเฉินเจียง มีคนมาล้อมวงดูส่งไปถึงประตูใหญ่ คนส่วนมากกลับเข้าไปในเรือนของเฉินเจียงแล้ว มีเพียงเฉินเจียงคนเดียวเท่านั้นที่ยืนกรานจะส่งไปถึงหน้าหมู่บ้าน“เฉินเจียงเก่งจริงๆ”“ได้ลูกชายสองคนติดต่อกัน วาสนาดีจริงๆ”“ไม่เพียงแค่นี้ ไม่เพียงได้ลูกชาย ทั้งยังเรียนเก่งอีกด้วย!”“นักพรตวัดซานชิงกวน เคยโกหกเมื่อไหร่”นี่คือเหตุผลที่เฉินเจียงยืนกรานส่งหลี่เจิ้งถึงหน้าหมู่บ้าน ไม่ส่งไปถึงหน้าหมู่บ้าน จะได้รับสายตาอิจฉาจากชาวบ้านมากขึ้นได้อย่างไร“เฮ้อ ด้านวิชาการ ข้าพยายามเพียงใดก็ไร้ประโยชน์ ทำได้เพียงดูเรื่องลูกชาย เทียบเฉินเจียงได้หรือไม่“เจ้าช่างโลภมากจริงๆ เฉินเจียงมีลูกชายสองคน ข้าไ

    Last Updated : 2024-05-29
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 55

    เฉินฝานเพิ่งหันหน้ากลับไป เฉินฟู่สั่งเขาทันที “คืนเงินสามร้อยเหวินนั้นให้อาเจียง อันธพาลคนหนึ่ง ไม่คู่ควรที่จะมีเงินมากขนาดนั้น”“ไม่ให้!”เฉินฝานพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเรื่องนี้ไม่อาจต่อรองได้แม้แต่น้อยเพราะเงินสามร้อยเหวินนี้ เป็นของฉินเย่ว์เจียวและฉินเย่ว์โหรวเขาเพียงช่วยพวกนางทวงคืนกลับมาเท่านั้นเฉินฟู่ชี้หน้าเฉินฝานด้วยความโมโห “เจ้า!”เฉินฝานผลักมือของเฉินฟู่ที่ชี้เขา “ปู่ทวดและย่าทวดของข้าไม่เคยสอนท่านหรือ? ชี้หน้าคนเช่นนี้ไร้มารยาทยิ่งนัก”คิดไม่ถึงว่าจะถูกหลานชายของตนเองด่าว่าไม่มีมารยาท เฉินฟู่โมโหจนหน้าแดงก่ำ “สารเลว ทิ้งเงินไว้เดี๋ยวนี้”“แล้วถ้าข้าไม่ให้ล่ะ”
เฉินฝานกำหมัด เขาออกแรงเล็กน้อยนิ้วมือส่งเสียงดัง“เจ้า เจ้าคิดจะทำอะไร? ข้าเป็นปู่ของเจ้า” เฉินฟู่ถอยหลังหลังจากหลานคนนี้ตกหน้าผา กลายเป็นต่อสู้เก่ง เรื่องนี้เขาได้ยินมาเมื่อหลายวันก่อน จูต้าอันถูกเฉินฝานทำร้ายจนลุกไม่ขึ้น ต้องยกออกจากเรือน“ไม่มีอะไร แค่ว่าหลายวันนี้ข้าทำงานเยอะ ก็เลยเจ็บนิ้วเท่านั้น”“ท่านปู่ ข้ายังมีงานที่เรือน ไปล่ะ!”กระทั่งเฉินฝานเดินไปไกล เฉินฟู่เพิ่งดึงสติกลับมาเจ็บใจ

    Last Updated : 2024-05-29

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 850

    “ผู้จัดสรร มิสามารถแบ่งให้คนนอกที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าเช่นนี้ได้เด็ดขาด!”“ถูกต้องแล้ว แบ่งให้คนที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้ามิได้!”คนรับใช้สองสามคนข้างกายเหลยหย่งอัน พูดเสริมทันที“เช่นนั้นนายน้อยเหลยคิดว่าผู้ใดเป็นผู้จัดสรรจึงจะเหมาะสม?”มีคนตะโกนถามท่ามกลางผู้เหลือรอดเหลยหย่งอันเลิกคิ้วขึ้นทันที ประโยคที่เขารอก็คือประโยคนี้ผู้นั้นเพิ่งจะกล่าวจบ เหลยหย่งอันก็ส่งสายตาไปที่คนรับใช้ข้างกายทันที“ร้านค้าตระกูลเหลยมากมายมหาศาล นายน้อยของพวกเราก็มีส่วนร่วมดูแล ไปตรวจสอบที่ร้านค้าทุกเดือน”ตรวจสอบแบบใดกัน ไปเกี้ยวพาราสีสตรีในร้านเสียมากกว่าเรื่องนี้ทุกคนในเมืองเซียนตูทราบดี เพียงแต่มิอยากให้เหลยหย่งอันมิพอใจ จึงมิมีผู้ใดกล้าพูดเปิดโปง“ดังนั้น...” คนใช้ผู้นั้นกล่าวต่อ “ผู้จัดสรรนี้ นายน้อยของข้าเป็นคนที่เหมาะสมที่สุด “ทุกคนลงเรือลำเดียวกันแล้ว พวกเจ้า...” เหลยหย่งอันยกมือขึ้นทำท่าทางแบกรับรับความผิดชอบไว้เพียงผู้เดียว “คนที่ร่วมทุกข์กับข้าทุกคน ขอเพียงแค่สามารถมีชีวิตรอดออกไปได้ ก็สามารถไปรับเงินหนึ่งร้อยตำลึงได้ที่ตระกูลเหลยของพวกเรา”เพื่อที่จะได้ตำแหน่งผู้จัดสรรนี้ เหลยห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 849

    “ต่อให้เสบียงอาหารทั้งหมดต้องถูกจัดสรรปันส่วนอย่างเท่าเทียม เช่นนั้นไฉนอำนาจในการจัดการจัดแบ่งต้องเป็นเจ้าคนเดียวงั้นหรือ? เจ้าเป็นใครกัน?”ชายหนุ่มที่สวมชุดผ้าไหมอย่างดี ศีรษะสวมหมวกสีทองประดับด้วยไข่มุกเดินเข้ามากล่าวถามเฉินฝานด้วยท่าทีโอหังบุคคลนี้คือลูกชายคนโตของตระกูลเหลยเก่าแก่อันดับหนึ่งของเมืองเซียนตู เหลยหย่งอันด้วยความที่ชาติตระกูลมีเงินและอำนาจ เหลยหย่งอันได้รับสมญานามให้เป็นอันธพาลอันดับหนึ่งในเมืองเซียนตู ปกติก็มักจะรังแกผู้ชายข่มเหงผู้หญิง กระทำชั่วทุกรูปแบบสำหรับวีรกรรมของเหลยหย่งอันแล้ว เจ้าเมืองซื่อต้าเผิงต้องยอมปล่อยผ่านไปเหลยหย่งอันรู้สึกว่ามิถูกชะตาเฉินฝานอยู่ก่อนแล้วเรือนเซียนผาสุกมีกฎว่านอกจากผู้ฟังโชคดี่ถูกเมี่ยวอวี่สุ่มเลือกมา บุคคลที่ให้เงินรางวัลจำนวนมากที่สุด เมี่ยวอวี่ก็จะบรรเลงพิณเป็นการส่วนตัวเช่นกันทว่า ทุกปีจะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นต้นปีเหลยหย่งอันก็เริ่มให้เงินรางวัลจำนวนมหาศาล ในที่สุดเมื่อมาถึงเดือนท้ายปีก็ได้ลำดับที่หนึ่งมาครองเห็นว่าตนเองสามารถเข้าไปในกระท่อมหิมะพบกับเมี่ยวอวี่ ได้ฟังพิณที่นางบรรเลงให้ตนเองโดยเฉพาะ กลับคาดมิถึงว่าอย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 848

    เรือนเซียนผาสุกมีชื่อเสียงเงินทองมหาศาลดังคาด จำนวนเสบียงที่กักตุนไว้ตอนฤดูหนาว มากกว่าเสบียงครึ่งปีของครอบครัวสามัญชนเสียอีกตรงข้ามกับผู้เหลือรอดเหล่านั้น เฉินฝานยิ่งฟัง คิ้วยิ่งขมวดหนักขึ้นเรื่อย ๆน้อยไป น้อยเกินไปแล้วคนสามร้อยกว่าคน ต่อให้กินอาหารวันละหนึ่งมื้อ เสบียงอาหารเหล่านี้ก็หมดเกลี้ยงเพียงในพริบตาเดียว“เสบียงอาหารของกระท่อมหิมะนำออกมาไว้ที่แห่งนี้ทั้งหมดแล้วใช่หรือไม่?” เฉินฝานหันหน้ากล่าวถามเมี่ยวอวี่“กระท่อมหิมะแห่งนี้ของข้ามิได้ใหญ่โตเสียหน่อย ตุนไว้จำนวนมากเพียงนั้น ยังมินับว่าเยอะอีกหรือ?” เมี่ยวอวี่ย้อนถามเฉินฝาน“ก็จริง” เฉินฝานหัวเราะสมเพชตนเองในส่วนลึกของหัวใจ หวังว่าจะมีเยอะกว่านี้“ตอนนี้นับเสบียงเรียบร้อยแล้ว รีบแบ่งให้ทุกคนเถอะ”มีคนเร่งเร้าหิวจนทนมิไหวแล้วจริง ๆ“แบ่งมิได้!” เฉินฝานกล่าว“มิแบ่งงั้นหรือ?”สายตาสามร้อยกว่าคนจับจ้องไปที่เฉินฝานอย่างพร้อมเพียงมิเข้าใจ มิเชื่อเสบียงอาหารทั้งหมดถูกขนย้ายออกมานับจำนวนแล้ว ไม่เพียงแต่จำนวนเสบียงเท่านั้น จำนวนคนก็นับแล้วเช่นกันทำถึงเพียงนี้แล้ว เฉินฝานกลับกล่าวว่ามิแบ่งแล้ว“เจ้าหมายความว่าอย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 847

    เขายืนกรานไม่ยอมนำเสบียงออกมามิใช่หรือ ไฉนตอนนี้ต้องการเอาออกมา และยังต้องนำออกมาทั้งหมดอีกด้วยเขากำลังคิดสิ่งใดอยู่กันแน่?“ทำไมล่ะ? แม่นางเมี่ยวอวี่มิเห็นด้วยงั้นหรือ?” เฉินฝานกล่าวถาม“โอ้ ไม่ใช่หรอก!” เมี่ยวอวี่กล่าวอย่างรีบร้อน “แน่นอนว่าข้าต้องเห็นด้วยอยู่แล้ว เจ้ารีบพาคนไปนำเสบียงอาหารในคลังออกมาทั้งหมด”“ช้าก่อน!” เฉินฝานเรียกยายจ้าวไว้ “เพื่อให้มั่นใจว่าเสบียงอาหารทั้งหมดจะถูกขนย้ายออกมา เย่ว์เจียวเจ้าไปตามยายจ้าวไปด้วย พวกเจ้า... ”เฉินฝานหันไปกล่าวกับผู้เหลือรอดเหล่านั้น “ก็ส่งหนึ่งคนตามไปด้วย”ผ่านไปครู่เดียว เสบียงอาหารทั้งหมดในกระท่อมหิมะถูกขนมาไว้ด้านหน้าฝูงชนเฉินฝานมองดูเสบียงอาหารที่กองเป็นพะเนินด้านหน้า กล่าวอย่างเนิบนาบ “โอ้ จำนวนมิน้อยเลยนะเนี่ย”“อากาศเย็น คร้านออกไปจับจ่าย ดังนั้นจึงซื้อจำนวนมากในคราวเดียว” เมี่ยวอวี่กล่าวอย่างมิใส่ใจมากนักเสบียงอาหารเหล่านั้นมีจำนวนมากก็จริงทว่าเป็นเรื่องยากที่จะทำให้คนจำนวนมากเพียงนี้อยู่รอด!ท้ายที่สุด ก็ยังคงต้องตายอยู่ดีเหล่าผู้เหลือรอด มิได้มองการณ์ไกลเช่นนั้น พวกเขาที่หิวมาหนึ่งวันหนึ่งคืนแล้ว มองเสบียงอาห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 846

    เมื่อมีคนเปิดประเด็นแล้วคนอื่นก็พากันทำตาม คนกลุ่มใหญ่จำนวนมหาศาลคุกเข่าต่อหน้าเฉินฝานเฉินฝานมิได้กล่าวอันใด เมี่ยวอวี่ที่อยู่ด้านข้างชิงพูดก่อน“เหอะ!” เมี่ยวอวี่เยาะเย้ยออกมาทันที กล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ช่างเป็นชายที่ใจดำอำมหิตเสียจริง คิดว่าตนเองมีผู้มากฝีมือที่เก่งกาจอยู่ข้างกาย ก็สามารถมิสนใจชีวิตของผู้คนรอบตัว แม้กระทั่งเด็กและคนชราก็ยังมิยอมช่วย”เมี่ยวอวี่จงใจกล่าวเช่นนี้จงใจที่พัดความโมโหของฝูงชนให้ลุกฮือดังคาด...“เขาใจดำอำมหิตเพียงนั้น แม้กระทั่งเด็กน้อยคนแก่ก็ยังมิยอมให้อาหารกินแม้แต่น้อย เช่นนั้นเรายังต้องกลัวสิ่งใดอีก?”เมื่อมีคนเริ่มก็มีคนตาม“ถูกต้อง อย่างไรเสียก็ถูกขังจนตายอยู่ที่นี้อยู่ดี ก่อนที่จะจากโลกนี้ไป ทุกคนต้องได้กินให้อิ่มท้อง!”“พวกเรามิต้องมาอ้อนวอนอยู่ตรงนี้และ ไปสืบเสาะ ไปค้นหา กระท่อมหิมะอาจจะใหญ่ไปเสียหน่อย แต่พวกเรามีจำนวนคนเยอะจะหาที่ซ่อนของเสบียงอาหารมิได้เชียวหรือ?”กลุ่มคนจำนวนมหาศาลในกระท่อมแต่เดิม รีบออกไปอย่างรวดเร็วราวกับกระแสน้ำลงของมหาสมุทร“เจี้ยนฮวง!” เฉินฝานกล่าวเกรงว่าเซียนเจี้ยนหวงจะเข้าใจผิด เฉินฝานจึงพูดเสริมอีกห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 845

    เซียนเจี้ยนหวงมิลงมือทำร้ายสามัญชน ชายรอยบาดแผลคิดว่าชื่อเสียงของเซียนเจี้ยนหวงเป็นสิ่งจอมปลอม และเขาคิดว่าตนเองมีจำนวนมากมาย ต่อให้เซียนเจี้ยนหวงจะเก่งกาจเพียงใดก็มิสามารถลุยเดี่ยวกับคนหนึ่งร้อยคนได้และเฉินฝานก็ดูจะเป็นคนสุภาพเรียบร้อย ดังนั้นชายรอยบาดแผลมิได้รู้สึกเกรงกลัวอันใด ท่าทียโสโอหังยิ่งเขาต้องการเสบียงอาหารในกระท่อมหิมะทั้งหมด และประสงค์ที่จะคุมชะตาคนหลายคนไว้ในกำมือ ในขณะเดียวกันก็สามารถช่วยเมี่ยวอวี่ให้หลุดพ้นได้ด้วยอำนาจ สาวงาม เสบียงอาหารเขาต้องการทั้งหมดเฉินฝานเงยหน้าขึ้น เหลือบมองชายรอยบาดแผลอย่างเรียบนิ่ง “ดูเจ้าพูดเข้าสิ เจ้าเก่งกาจมากสินะ”“เยี่ยนหลิ่งผู้ยิ่งใหญ่!” ชายรอยบาดแผลวางท่าทีใหญ่โต“ว้าว!” เฉินฝานยกนิ้วโป้ง “ชื่อนี้ช่างน่าเกรงขามเสียจริง!”สุดยอด!เซียนเจี้ยนหวงต้องเก็บอาการอยู่ด้านข้างนี่คงจะเป็นความสนุกเพียงอย่างเดียวตอนที่ถูกกักขังอยู่ที่แห่งนี้ดูคนโง่ ที่จริงแล้วก็เป็นเรื่องที่น่าสนุก“เพียงแต่...” เฉินฝานเปลี่ยนเรื่องทันที “มิทราบว่าชื่อที่น่าเกรงขามเช่นนี้ จะชำนาญในการต่อสู้หรือไม่?”ระหว่างที่พูด เฉินฝานหันไปด้านข้างเล็กน้อย “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 844

    “ตุ้บ ๆ ๆ ๆ!”เสียงทุบประตูหน้าต่างด้านนอกดังขึ้นเรื่อย ๆ เซียนเจี้ยนหวงฝึกวรยุทธ์จนชำนาญแล้ว สถานการณ์ฝั่งเขานั้นค่อนข้างไปในทิศทางที่ดีฝั่งฉินเย่ว์เจียวและเย่ว์หนูนี้ค่อนข้างลำบาก“เย่ว์หนู เจ้ากันไว้ก่อน ข้าจะไปย้ายเตียงมากันไว้!”“มิจำเป็นหรอก!” เฉินฝานโบกมือเล็กน้อย เขาให้ฉินเย่ว์เจียวและเย่ว์หนูเปิดประตูออก“เปิดประตูงั้นหรือ?” ฉินเย่ว์เจียวส่ายหน้าทันที “ไม่ได้เจ้าค่ะ นายท่าน”คนด้านนอกทุกคนล้วนโกรธเฉินฝานจนกัดฟันกรอด ตะโกนอย่างดุเดือดเพื่อให้ต้องการพวกเขาผ่านเข้าไป เฉินฝานเสี่ยงอันตรายเกินไปแล้ว“พวกเจ้าสามารถกันไว้ได้หนึ่งชั่วยาม จะสามารถกันได้ถึงสองชั่วยามงั้นหรือ?”เมื่อคนตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงตาย มิว่าสิ่งใดก็สามารถทำได้ความเลวทรามของมนุษย์ เป็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวที่สุดในโลกใบนี้“นายท่าน ขอเพียงข้ายังอยู่ ข้าก็จะยังคงกันต่อไปเรื่อย ๆ จะมิยอมให้คนด้านนอกเหล่านั้นทำร้ายท่านแม้แต่ปลายเล็บ”ฉินเย่ว์เจียวกำหมัดไว้แน่นขนัดเฉินฝานมองท่าทีที่เศร้าสลดทว่าเข้มแข็งของฉินเย่ว์เจียว รู้สึกซาบซึ้งและหงุดหงิด“นายท่าน บ่าวก็เช่นกันเจ้าค่ะ”เย่ว์หนูเพิ่มแรงในการกันประต

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 843

    ฉินเย่ว์เจียวง้างมือขึ้นทันที เดิมทีต้องการจะตบหน้าเมี่ยวอวี่เป็นครั้งที่สองพลันยั้งมือกะทันหันกลั้นหายใจ รอฟังคำตอบของเมี่ยวอวี่ด้วยความกังวลเฉินฝานก็อดมิได้ที่จะเงี่ยหูฟังจะรู้ร่องรอยของเย่ว์ฉินแล้ว รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย“หยกห้อยเอวชิ้นนี้...”“ตุ้บ!”อยู่ ๆ ก็มีก้อนหิมะลอยก้อนหนึ่งลอยทะลุหน้าต่างเข้ามา“โอ๊ย!”เมี่ยวอวี่อยู่ใกล้หน้าต่างอย่างมาก ก้อนหิมะขว้างโดนหัวหน้า ทำให้นางตกใจจึงร้องออกมาทันที“ตุ้บ”ครั้งนี้สิ่งที่ขว้างมาคือก้อนหิน“ระวัง!”เมี่ยวอวี่รู้สึกเพียงว่าร่างกายทรงตัวมิอยู่ ตัวไปชนกับอ้อมอกที่ล่ำสันหัวสมองว่างเปล่าราวกับถูกจี้จุด เมี่ยวอวี่มองเฉินฝานด้วยความมึนงงดวงตากลมโตที่เปล่งประกายแวววับดังดวงดารา สภาพอารมณ์แปรเปลี่ยนอย่างรวดเร็วหาคำตอบมิได้ มิเชื่อ มิเข้าใจ“เจ้า...” เมี่ยวอวี่กลอกตาไปมา “ไยเจ้าจึงช่วยข้า?”หากมิใช่เฉินฝานดึงนางหลบได้ทัน ตอนนี้นางก็คงหัวแตกเลือดไหลนองไปนานแล้วเฉินฝานผลักเมี่ยวอวี่ในอ้อมอกออก เขาที่พลังภายในยังฟื้นฟูมิสมบูรณ์เอนตัวล้มพิงเรือนร่างของฉินเย่ว์เจียว น้ำเสียงเยือกเย็น “อย่าคิดเข้าตัวเอง ข้าทำไปตามสัญชาตญาณเท

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 842

    ถึงแม้ในทุกวันนางมักจะรับคำเยินยอจากบุรุษเพศอยู่แล้ว ทว่าท่าทางที่รักใคร่หวานยิ่งกว่าน้ำผึ้งราวภาพวาดนี้ นางมิเคยพบเห็นมาก่อนเมี่ยวอวี่ที่สงสัยว่าตัวเองมองผิดไป จึงตั้งใจหันกลับไปดูอีกครั้งภาพที่เฉินฝานช่วยปัดไรผมบนหน้าผากของฉินเย่ว์เจียวออก และฉินเย่ว์เจียวยิ้มตอบกลับให้เฉินฝานอย่างหวานหยาดเยิ้ม เมี่ยวอวี่เหลือบไปเห็นพอดีไม่จริงหรอก!เมี่ยวอวี่รีบหันหน้ากลับไปด้วยความรวดเร็ว ตีหน้าอกตนเองเบา ๆสองสามทีคาดมิถึงว่าจะเป็นเรื่องจริงใต้หล้านี้มีสามีภรรยาที่รักใคร่กันเช่นนี้จริงหรือ ? เป็นเรื่องจริงหรือว่าผู้ชายจะอ่อนโยนกับภรรยาตนเองได้เพียงนั้น?เฉินฝานเป็นชายที่เลวทรามต่ำช้ามิใช่หรือ?เย่ว์หนูชะเง้อมองมาจากทางเข้าเห็นว่าเฉินฝานตื่นแล้ว รีบวิ่งกลับไปที่ในห้อง ยกโจ๊กครึ่งชามที่วางไว้ในห้องไปอุ่นที่ห้องครัว หลังจากที่อุ่นจนร้อนแล้วก็วิ่งกลับมา“โจ๊กมาแล้วเจ้าค่ะ”“เอามาให้ข้า!” ฉินเย่ว์เจียวรับโจ๊กในมือเย่ว์หนูมาทันที“ลำบากเจ้าแล้ว” เฉินฝานหันไปพยักหน้ากับเย่ว์หนู“บ่าวมิลำบากเลยเจ้าค่ะ ขอเพียงนายท่านหายดีก็เพียงพอแล้ว” เย่ว์หนูหน้าแดง ส่ายหน้าอย่างแรงกล่าวว่าตนเองมิลำ

DMCA.com Protection Status