All Chapters of ย้อนรักทวงแค้น: Chapter 1 - Chapter 10

769 Chapters

บทที่ 1

ซูชิงอู่กำลังตั้งครรภ์ ทว่าอุ้มท้องมาสามปีกลับไม่เกิดอันใดขึ้นเลยนั่นเพราะทารกตายทั้งกลมไปนานแล้วซูชิงอู่สวมเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง ท้องน้อยนูนป่องมีเลือดปนหนองส่งกลิ่นเน่าเหม็นไหลมิหยุดราวกับสัตว์ประหลาดมีเพียงม่านตาดำขลับคู่นั้นที่ยังคงเด่นชัดสุกสกาว ราวกับน้ำค้างแข็งอันสว่างบริสุทธิ์สุดใต้นภานางเดินพลางใช้สองมือคลึงเคล้าหน้าท้องเบา ๆ พร้อมเสียงแหบฟังไม่รื่นหู“ลูกเอ๋ย แม่มาล้างแค้นให้เจ้าแล้ว”ซูชิงอู่ผู้ถูกจองจำอยู่คุกอันห่างไกลของวังหลวงและต้องกลายเป็นหนูทดลองมาตลอดสามปีเต็มเป็นอิสระแล้ว!ไฟโหมกระหน่ำเบื้องหลังกำลังแผดเผาพระราชวังอันเรืองรองอย่างไม่หยุดยั้ง แสงเพลิงส่องสว่างท่วมฟ้ายามค่ำคืนใบหน้าศพทรมานบิดเบี้ยวนอนราบภายในพระราชวังร่างแล้วร่างเล่า…“ซูชิงอู่ ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ ข้าจะให้เจ้าทุกอย่าง เจ้ามิใช่ว่าชอบพี่อวิ๋นถูหรือ? ข้าจะยกให้เจ้า ข้าจะยกให้เจ้าดีหรือไม่?!”ฮองเฮาซูเชียนหลิงผู้สูงศักดิ์สวมเสื้อคลุมลายหงส์ ศีระซึ่งประดับด้วยปิ่นหงส์โขกกับพื้นอย่างไม่หยุดหย่อน“บุรุษที่เจ้ากำลังพูดถึงน่ะหรือ?”น้ำเสียงซูชิงอู่แหบแห้งฟังไม่รื่นหู ราวกับเส้นเสียงฉีกขาดทั้ง
Read more

บทที่ 2

“พระชายา ยาขับเลือดต้มได้ที่แล้วเพคะ…”เสียงคุ้นเคยระลอกหนึ่งดังข้างหูซูชิงอู่นอนอยู่บนเตียงลืมตาด้วยความตกตะลึง เอียงศีรษะมองไปข้างเตียงอย่างเหลือเชื่อ แม่นมหลินที่ควรจะเสียชีวิตไปนานแล้วกำลังยกยาต้มมาให้นางยันกายลุกขึ้นพลางมองไปรอบตัว ทั่วห้องล้วนเป็นสีแดง บนหน้าต่างแปะอักษรมงคล 'มีสุข' แผ่นใหม่เอี่ยมชุดแต่งงานหลายตัวทิ้งอยู่บนพื้นกระจัดกระจาย ซูชิงอู่รู้กระจ่างได้ทันทีว่าที่นี่คือเรือนหอนางปวดเมื่อยทั้งตัวราวกับโดนหินทับก็มิปานครั้นหวนนึก ความทรงจำในสมองก็ยิ่งปรากฏชัดขึ้นนางย้อนกลับมายังเจ็ดปีก่อน จนวันนี้ที่เพิ่งตบแต่งกับเย่เสวียนถิงไม่นึกฝันว่า…นางจะได้เกิดใหม่!สายตาของซูชิงอู่ทำให้มือที่ยกชามยาของแม่นมหลินสั่นเทาอย่างอดไม่ได้เพราะดวงตาคู่นั้นของนางผิดแผกไปจากเดิม คล้ายสามารถมองทะลุหัวใจนางได้ในพริบตาเดียวแม่นมหลินผืนยิ้มพลางส่งชามยาไปให้ผู้เป็นเจ้านาย “คุณหนู หากยังมิรีบดื่ม ยาจักเย็นนะเจ้าคะ…”ซูชิงอู่มองอย่างไม่ละสายตา ก่อนเอื้อมมือรับชามยาไว้อย่างใจเย็นนางกำลังจะทำบางอย่าง แต่ขณะนั้นเอง ประตูหอนอนก็ถูกคนถีบให้เปิดออกกระทันหัน!ซูชิงอู่เงยหน้ามองก็เห็นช
Read more

บทที่ 3

วันนี้ที่นางได้แต่งงานกับเย่เสวียนถิงเป็นเพราะนางถูกโจรลักพาตัวเมื่อหนึ่งเดือนก่อนหลังถูกช่วยกลับมา จู่ ๆ แต้มพรหมจรรย์ก็หายไปเสียอย่างนั้นฮองเฮาทรงพิโรธหนัก มีพระราชเสาวนีย์ถอนหมั้นนางกับเย่อวิ๋นถูด้วยพระองค์เองทันใดนั้นนางที่เป็นบุตรีภรรยาเอกจากตระกูลผู้ลากมากดีอันเลื่องชื่อแห่งจวนอัครเสนาบดีก็ผันเปลี่ยนกลายเป็นขี้ปากทุกคน…อย่างไรเสียเมื่อนางตกอยู่ในคำครหาเหล่านั้น จู่ ๆ เย่เสวียนถิงก็ขอพระราชโองการอภิเษกสมรส มิรู้ว่าเขาใช้วิธีใดให้ฝ่าบาทผ่อนปรนตกปากรับคำอย่างเหนือความคาดหมายทุกคนในเมืองหลวงต่างทราบว่าองค์ชายใหญ่กับองค์ชายสามคือผู้มีโอกาสเป็นว่าที่ฮ่องเต้ที่สุดส่วนอ๋องเย่อวิ๋นถิง บัดนี้เป็นได้เพียงคนขาพิการ ทั้งยังเป็นคนไร้ค่าที่สูญเสียอำนาจทางการทหารไปอีกด้วยมารดาผู้ให้กำเนิดเขามีฐานะเพียงสนมผู้ต่ำต้อย หากไม่ถูกส่งต่อให้พระชายาตำแหน่งซูเฟยที่ไร้ทายาทตั้งแต่ครั้งวัยเยาว์ เกรงว่าคงไม่อาจเงยหน้าอ้าปากได้ชั่วชีวิต!ซูชิงอู่ยกมือขึ้นพลางไล้ปลายนิ้วไปที่คิ้วตาของเย่อวิ๋นถิงอย่างแผ่วเบา“คนเดียวไม่พอหรอก อนาคตพวกเราจะให้กำเนิดสักสองสามคน ไม่รู้ว่าท่านชอบลูกชายหรือลูกสาว...”
Read more

บทที่ 4

ซูชิงอู่อดรนทนเกี่ยวพันตัวเองกับเย่เสวียนถิงไม่ไหว แต่ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าแผ่มานอกประตูหญิงรับใช้คนหนึ่งรายงานอยู่นอกประตู“กราบทูลท่านอ๋องและพระชายา ภายในวังได้จัดเตรียมรถม้าให้แก่ท่านและพระชายาเพื่อเข้าวังร่วมคารวะบรรดาพระสนมยามเช้าเพคะ!”ในชาติก่อน เมื่อคืนในครานั้นนางถูกคนวางยานอนทรมานทั้งคืน ครั้นรุ่งเช้าเกือบดื่มยาหยุดครรภ์คร่าชีวิต เพิ่งแต่งงานวันแรกก็ไม่ได้ไปวังหลวงน้อมคารวะตามประเพณีตามธรรมเนียมในวัง เจ้าสาวของราชวงศ์ที่เพิ่งอภิเษกเข้า วันแรกต้องเยี่ยมเยียน คารวะพระสนมทุกตำหนัก นางไม่เพียงฝ่าฝืนประเพณียังทำให้เย่เสวียนถิงแบกรับแรงกดดันมากโขซูชิงอู่เพิ่งจะลุกขึ้นกลับได้ยินเย่เสวียนถิงเปิดปากตอบ“ประเดี๋ยวข้าจะไปคารวะท่านแม่เอง”นางรับใช้รายงานต่อเนื่อง เย่เสวียนถิงบ่ายหน้ามองยังซูชิงอู่ “อยู่จวนพักผ่อนให้ดี ข้าจะรีบไปรีบกลับ”ซูชิงอู่ฉงนพักหนึ่ง “สุขภาพข้าดีขึ้นแล้ว”เย่เสวียนถิงเงียบลง แต่ยังคงยืนกราน “ในวังมีแต่เรื่องหยุมหยิมยุ่งยาก ข้าไม่อยากให้เจ้ารู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ”ถึงอย่างไรชื่อเสียงของซูชิงอู่ก่อนตบแต่งกับเขาก็ถูกทำลายจนไม่เหลือชิ้นดี เข้าวังเที่ยว
Read more

บทที่ 5

ภายในตำหนักจิ้งอี๋ "ท่านอ๋องเสวียนและพระชายาเสวียนเสด็จแล้ว!" ซูเฟยหลินหรงเสวี่ยที่ประทับอยู่ตรงที่นั่งตำแหน่งประธานรอคอยมาได้สักพักแล้ว พยักหน้าเบา ๆ "เรียกให้เข้าเฝ้าได้" คนทั้งสองเดินเข้าประตูมาพร้อมกัน เย่เสวียนถิงได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ขาข้างซ้าย ดังนั้นเขาจึงเดินกะโผลกกะเผลกอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้ว่าจะมิได้ส่งผลต่อการเคลื่อนไหว แต่ก็ทำให้เขากลายเป็นคนร่างกายไม่สมประกอบไปเสียแล้ว ซูชิงอู่ที่แต่งกายด้วยชุดของราชสำนักอันงามวิจิตร ช่วยประคองแขนของเย่เสวียนถิงด้วยท่าทีใกล้ชิดสนิทสนม เมื่อมีนางคอยช่วยประคับประคอง ก็ทำให้เย่เสวียนถิงเดินเหินได้สะดวกขึ้นอย่างมาก ยามที่ผู้คนรอบตำหนักเห็นคนทั้งคู่รักใคร่ลึกซึ้งกันเพียงนั้น พวกเขาก็ตะลึงงันไปชั่วครู่ สตรีแต่งกายงดงามทั้งสองนางที่ยืนอยู่ข้างหลังซูเฟย ดวงตาเบิกกว้างด้วยความเหลือเชื่อ ขณะที่ซูชิงอู่เดินเข้ามาในตำหนัก นางก็มองประเมินคนทั้งสองคนที่อยู่ตรงหน้า สตรีวัยกลางคนท่าทางสูงศักดิ์สง่างาม สวมชุดกระโปรงดอกกุหลาบสีแดงพร้อมแถบคาดศีรษะสีทอง ผู้นั่งอยู่ตรงตำแหน่งประธานคือซูเฟย ซึ่งเป็นตำแหน่งพระชายาลำดับที่สอง โดยมีสตรีสองนาง
Read more

บทที่ 6

นางเอ่ยด้วยท่าทีกระชดกระช้อยว่า "ท่านป้าเจ้าคะ โปรดรอสักครู่ เสวี่ยอิ๋งมีเรื่องจะบอกท่าน" การขัดจังหวะระหว่างพิธียกน้ำชานับเป็นเรื่องเสียมารยาท แต่หลินเสวี่ยอิ๋งเป็นบุตรีเพียงคนเดียวของจวนมหาราชาจารย์ มิหนำซ้ำนางยังเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นท่านหญิงมาตั้งแต่เมื่อครั้งเยาว์วัย ดังนั้นนางย่อมมีสิทธิ์ที่จะกระทำเช่นนี้ได้ ซูเฟยเอ่ยถามด้วยความสับสน "ยัยหนู ถ้าหากเจ้ามีอันใดจะพูดก็จงพูดมาเถิด ป้าอย่างข้ายังจะอุดปากเจ้าได้อีกหรือ?" วาจาเพียงแค่ประโยคเดียว ซูชิงอู่ก็รู้ชัดถึงความโปรดปรานที่แฝงอยู่ในวาจา ถึงแม้ว่าซูเฟยจะมิได้ก่อกวนงานมงคลของเย่เสวียนถิง แต่หลังจากรู้ตื้นลึกหนาบางแล้ว ก็เห็นได้ชัดว่าพระนางไม่พอใจในตัวซูชิงอู่ เพราะในสายตาของพระนาง ต่อให้เย่เสวียนถิงจะพิการ แต่เขาก็ยังเป็นถึงท่านอ๋องที่สร้างคุณูปการในสนามรบเอาไว้มากมาย ซูชิงอู่เป็นแค่สตรีท้ายเรือนที่ชื่อเสียงป่นปี้อันแสนจะไร้ค่า ซูชิงอู่ถือถ้วยน้ำชาเอาไว้โดยมิได้ขยับเขยื้อน เพราะนางเองก็อยากจะรู้ว่าท่านหญิงจะเอ่ยวาจาอันใด ถึงแม้ว่าทางด้านของซูเชียนหลิงจะมิได้เอ่ยวาจาใด แต่นางกลับขยิบต
Read more

บทที่ 7

บุรุษผู้นั้นสายตาเย็นชา จากนั้นริมฝีปากบางเฉียบก็ค่อย ๆ เอ่ยขึ้นมาว่า "พอได้แล้ว!" หลินเสวี่ยอิ๋งรู้สึกคับข้องใจอยู่ไม่น้อยที่ถูกตวาดใส่ ยามที่นางมองเย่เสวียนถิง สายตาของนางที่เผยออกมาจึงผสมปนเประหว่างความชื่นชมและเคารพยำเกรง จากนั้นก็เอ่ยขึ้นมาว่า "สิ่งที่เสวี่ยอิ๋งพูดมาเป็นเรื่องจริงนะเจ้าคะ การแต่งงานกับสตรีที่มีราคีรังแต่จะทำให้ญาติผู้พี่ถูกคนทั้งโลกหัวเราะเยาะเอาได้! " เย่เสวียนถิงจ้องมองนางด้วยสายตาเย็นชาแล้วหันมาคำนับซูเฟย "เสด็จแม่ อย่าได้ฟังนางกล่าววาจาเลื่อนเปื้อน ยกเข้ามาได้!" นอกประตูพลันมีคนขานตอบขึ้นมาทันที เมื่อซูชิงอู่เห็นเย่เสวียนถิงยืนหยัดเพื่อนาง ก็ใหรู้สึกใจเต้นแรง ถึงแม้ว่านางจะสามารถรับมือกับสถานการณ์นี้ได้ ทว่าการที่มีบุรุษผู้นี้ยืนหยัดเคียงข้างก็ทำให้นางรู้สึกปลอดภัยได้น่าเหลือเชื่อ ข้าหลวงเฝ้าประตูก้มหน้าแล้วยกถาดเข้ามา มีผ้าคลุมเอาไว้ชั้นหนึ่ง ทำให้ซูชิงอู่เดาไม่ออกว่าเป็นสิ่งใดกันแน่ แม่นมข้างกายซูเฟยเปิดผ้าคลุมออก แล้วคลี่กางผ้าซับเลือดพรหมจรรย์ที่พับเอาไว้เรียบร้อยอยู่ในนั้นออกมา รอยสีแดงสดบนนั้นสร้างความตื่นตะลึงให้แก่ทุกคนที่อยู่ ณ ท
Read more

บทที่ 8

หน้าตาของนางพลันขาวซีดลงทันที จากนั้นก็มีเหงื่อเย็น ๆ ผุดซึมหน้าผาก "เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไรกัน? แต้มพรหมจรรย์ของข้าเล่า? แต้มพรหมจรรย์ของข้าหายไปไหนกัน?" ม่านตาของนางหดวูบราวกับนางรู้สึกตื่นตกใจอย่างถึงที่สุด แม้แต่ผู้อื่นในห้องก็แทบไม่อยากเชื่อสายตาเช่นกัน ซูเชียนหลิงไม่อยากเชื่อเลยว่าซูชิงอู่จะมีวิธีการเช่นนี้ด้วย นางเองก็รู้สึกกังวลใจขึ้นมาบ้างแล้ว "ท่านหญิง อย่าเพิ่งร้อนใจ ซูชิงอู่คงจะทำอะไรสักอย่างเป็นแน่ ข้าจะสั่งให้นางคืนแต้มพรหมจรรย์ให้ท่านเอง!" ซูชิงอู่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะลั่น "เมื่อสูญเสียสิ่งนี้ไปแล้ว ก็ย่อมต้องเสียไปถาวร ท่านจะเอากลับคืนมาได้อย่างไรเล่า?" ในแคว้นหนานเย่ คงไม่ต้องบอกว่าแต้มพรหมจรรย์มีความสำคัญต่อสตรีเพียงใด พวกนางล้วนเป็นเชื้อพระวงศ์ที่วันข้างหน้าย่อมถูกลิขิตให้แต่งงานกับผู้ทรงอำนาจและทรงอิทธิพล เมื่อหลินเสวี่ยอิ๋งได้ยินคำพูดของซูชิงอู่ นางก็โมโหมากเสียจนไม่อาจระงับโทสะ ราวกับว่าคิดจะพุ่งเข้าไปฉีกทึ้งซูชิงอู่ให้เป็นชิ้น ๆ "นางสารเลว!" นางแค้นใจมากเสียจนยกมือขึ้นหมายจะตบหน้าซูชิงอู่ เมื่อซูชิงอู่เห็นหลินเสวี่ยอิ๋งเป็นเช่นนั้นก็ยืนนิ
Read more

บทที่ 9

ซูเชียนหลิงร้อนใจเพราะเกรงว่าหลินเสวี่ยอิ๋งจะโทษว่าเป็นความผิดของตน ดังนั้นจึงรีบไล่ตามออกไป เมื่อซูชิงอู่เห็นหลินเสวี่ยอิ๋งตกอยู่ในสภาพน่าอนาถ นางก็เลิกคิ้วแทบกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่ เมื่อเห็นเย่เสวียนถิงที่อยู่ข้าง ๆ กำลังมองมาที่นาง ซูชิงอู่ก็รีบปั้นหน้าเคร่งขรึมพลางกล่าวว่า "ยามที่มาถึง ชะรอยท่านหญิงคงจะมีอาการท้องเสียเป็นแน่" เย่เสวียนถิงถอนสายตากลับโดยไม่ได้เอ่ยวาจาใด อันที่จริงแล้วซูชิงอู่ใช้เข็มเงินร่วมกับการฝังเข็มเพื่อช่วยขับพิษให้แก่หลินเสวี่ยอิ๋ง แต้มพรหมจรรย์ที่ว่าเป็นแค่แผนการที่ใช้ควบคุมสตรีก็เท่านั้น เมื่อขับพิษออกไปแล้ว ย่อมส่งผลข้างเคียงบางอย่าง ในเมื่อหลินเสวี่ยอิ๋งถูกหามออกไปแล้ว ซูเชียนหลิงที่มาพร้อมกับหลินเสวี่ยอิ๋งย่อมไร้เหตุผลให้อยู่ที่นี่อีกต่อไป ซูชิงอู่มองดูเงาร่างที่กำลังล่าถอยกลับไปพร้อมรอยยิ้มขม นางจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าท่านหญิงผู้นี้จัดฉากเล่นงานตน? แม้แต่ความคิดเรื่องสมุดภาพเหล่านั้นก็น่าจะเป็นแผนการของอีกฝ่ายเช่นกัน ซูเฟยสงบสติอารมณ์อยู่พักใหญ่ แล้วจิบน้ำชาไปหลายอึกกว่าจะระงับอาการคลื่นเหียนลงได้ ใบหน้างามประณีตกลับซีดขาวเล็กน้อ
Read more

บทที่ 10

มือนุ่มกดเข้ากับหลังมือของเขา จากนั้นก็ดึงฝ่ามือของเขามาประคองนวลแก้มของตน ซูชิงอู่เลิกคิ้วนิด ๆ พลางกล่าวว่า "หากท่านอยากจะสัมผัสก็เชิญเถิด ตอนนี้ข้าเป็นของท่านแล้วนี่เจ้าคะ" เย่เสวียนถิงพลันหูแดงก่ำ คล้ายว่าเขาจะได้ยินเสียงหัวใจของตนเต้นไม่ได้หยุดเลย อารมณ์ความรู้สึกนับไม่ถ้วนปริ่มล้นที่สะกดกลั้นเอาไว้ในใจดูเหมือนจะไม่อาจหาทางออกได้ เย่เสวียนถิงจึงได้แต่ยืนทื่ออยู่ตรงนั้น ถึงแม้ซูชิงอู่หาได้ล่วงรู้ถึงสิ่งที่เย่เสวียนถิงกำลังครุ่นคิดอยู่ ทว่ายามนี้นางกลับมีความสุขยิ่งนัก ขอเพียงนางได้เห็นบุรุษผู้นี้อยู่ตรงหน้า นางก็รู้สึกสบายใจเป็นที่สุดแล้ว อารมณ์ร้อนรนกระวนกระวายใจทั้งมวลของนางที่สุดก็มลายสิ้น ราวกับว่าบรรยากาศระหว่างคนทั้งคู่ยากที่คนนอกจะเข้ามาแทรกกลางได้ ทว่าในยามนี้เอง ก็มีเสียงฝีเท้าดังรบกวนบรรยากาศในห้องโถง จากนั้นเสียงขององค์ชายสาม เย่อวิ๋นถูก็ดังขึ้นมาจากนอกประตู "ชิงอู่!" ท่าทียามเขาร้องเรียกซูชิงอู่ช่างแลดูคลุมเครือนัก ซูชิงอู่ที่อยู่ในโถงหลักหันหน้าไปมองโดยไม่รู้ตัว นางเห็นซูเชียนหลิงตามรั้งท้ายกลับมาพร้อมองค์ชายสามเย่อวิ๋นถู ก่อนที่เขาจะเดินมาหานาง
Read more
PREV
123456
...
77
DMCA.com Protection Status