แชร์

บทที่ 5

ภายในตำหนักจิ้งอี๋

"ท่านอ๋องเสวียนและพระชายาเสวียนเสด็จแล้ว!"

ซูเฟยหลินหรงเสวี่ยที่ประทับอยู่ตรงที่นั่งตำแหน่งประธานรอคอยมาได้สักพักแล้ว พยักหน้าเบา ๆ "เรียกให้เข้าเฝ้าได้"

คนทั้งสองเดินเข้าประตูมาพร้อมกัน

เย่เสวียนถิงได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ขาข้างซ้าย ดังนั้นเขาจึงเดินกะโผลกกะเผลกอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้ว่าจะมิได้ส่งผลต่อการเคลื่อนไหว แต่ก็ทำให้เขากลายเป็นคนร่างกายไม่สมประกอบไปเสียแล้ว

ซูชิงอู่ที่แต่งกายด้วยชุดของราชสำนักอันงามวิจิตร ช่วยประคองแขนของเย่เสวียนถิงด้วยท่าทีใกล้ชิดสนิทสนม

เมื่อมีนางคอยช่วยประคับประคอง ก็ทำให้เย่เสวียนถิงเดินเหินได้สะดวกขึ้นอย่างมาก

ยามที่ผู้คนรอบตำหนักเห็นคนทั้งคู่รักใคร่ลึกซึ้งกันเพียงนั้น พวกเขาก็ตะลึงงันไปชั่วครู่

สตรีแต่งกายงดงามทั้งสองนางที่ยืนอยู่ข้างหลังซูเฟย ดวงตาเบิกกว้างด้วยความเหลือเชื่อ

ขณะที่ซูชิงอู่เดินเข้ามาในตำหนัก นางก็มองประเมินคนทั้งสองคนที่อยู่ตรงหน้า

สตรีวัยกลางคนท่าทางสูงศักดิ์สง่างาม สวมชุดกระโปรงดอกกุหลาบสีแดงพร้อมแถบคาดศีรษะสีทอง ผู้นั่งอยู่ตรงตำแหน่งประธานคือซูเฟย ซึ่งเป็นตำแหน่งพระชายาลำดับที่สอง

โดยมีสตรีสองนางยืนอยู่ข้างหลัง

สตรีนางหนึ่งสวมชุดกระโปรงสีชมพูอมเหลืองอันงดงามหรูหรา ทั้งยังมีดวงหน้างามล้ำเลิศเปี่ยมชีวิตชีวา

นางคือหลินเสวี่ยอิ๋ง หลานสาวแท้ ๆ ของซูเฟยและเป็นญาติผู้น้องแต่เพียงในนามของเย่เสวียนถิง

ยิ่งไปกว่านั้น... ยังเป็นคนสนิทของซูเชียนหลิงอีกด้วย

ส่วนสตรีที่ยืนห่างออกไปอีกหน่อย เห็นได้ชัดว่าเป็นซูเชียนหลิง พี่สาวของซูชิงอู่ นางอ่อนกว่าซูเชียนหลิงผู้เป็นพี่แค่เพียงสองเดือนเท่านั้น!

ในวันนี้ซูเชียนหลิงยังแต่งกายอย่างงดงามอ่อนเยาว์ หาได้หรูหรางามสง่าดังเช่นเมื่อเจ็ดปีก่อนไม่

ยามที่ทั้งสองคนสบตากัน ซูชิงอู่ยังทันสังเกตเห็นแววตาประหลาดใจที่ซูเชียนหลิงปกปิดเอาไว้ไม่ได้อยู่

ซูชิงอู่ค่อย ๆ กำมือพลางยกยิ้มมุมปาก จากนั้นก็พลันเบิกบานใจขึ้นมาทันที

คงจะดีมิใช่น้อยหากมีโอกาสได้บดขยี้คนผู้นี้ให้ตายอย่างช้า ๆ

นางจึงลอบหยิกเอวของเย่เสวียนถิง

เย่เสวียนถิงหันหน้ามองมาที่นางโดยไม่รู้ตัว จากนั้นซูชิงอู่ก็แลบลิ้นอ่อนนุ่มออกมาไล้เลียมุมปาก

รอยแดงที่หลงเหลืออยู่ตรงนั้นทำให้เย่เสวียนถิงลำคอแดงก่ำ ใบหน้าราวหยกเย็นของเขาจึงอดร้อนซู่ไม่ได้

เมื่อซูชิงอู่เห็นเช่นนี้เข้า นางก็อดมิได้ที่จะปิดปากหัวเราะ

อย่างไรเสียที่นี่ก็มีคนอยู่ตั้งมากมาย ดังนั้นเย่เสวียนถิงจึงหักห้ามความคิดของตนเองแล้วพาซูชิงอู่ไปคำนับซูเฟย

"ลูกขอคารวะเสด็จแม่"

"ชิงอู่ถวายบังคมซูเฟย ขอจงทรงพระเกษมสำราญเพคะ"

ซูเฟยพยักหน้าพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนโดยไร้ซึ่งแววโทสะ

"ลุกขึ้นเถิด"

สายตาของนางทอดมองมาที่ดวงหน้าของซูชิงอู่

ซูชิงอู่มีริมฝีปากแดงฟันขาวจัด นางเป็นสตรีงาม อีกทั้งเรือนร่างงดงามล้ำเลิศและมีรอยยิ้มดึงดูดใจคน

โดยเฉพาะตอนนี้ เสน่ห์แห่งวัยสาวสะพรั่งที่แผ่ออกมาจากตัวนาง ก็ทำให้แม้แต่ซูเฟยที่เป็นสตรีด้วยกันยังอดมิได้ที่จะเผลอมองนางอีกหลายครั้ง

มิน่าเล่า เช่นนี้เย่เสวียนถิงถึงได้หลงรักปักใจในตัวสตรีนางนี้ ต่อให้นางจะชื่อเสียงป่นปี้ เขาก็ยืนกรานที่จะอภิเษกกับนางอยู่ดี เพราะนางงดงามมากจริง ๆ

เมื่อซูชิงอู่ละความสนใจ นางกำนัลอาวุโสที่เตรียมน้ำชาเอาไว้แล้ว ยกน้ำชามาส่งให้นาง

นางรับถ้วยน้ำชาแล้วยกมาให้ซูเฟยด้วยท่าทีเคารพนอบน้อม

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ต้องขอบคุณซูเฟยที่คอยดูแลเย่เสวียนถิง ดังนั้นซูชิงอู่จึงยกน้ำชาให้พระนางด้วยความเต็มใจ

ซูเฟยยังคงเอาแต่นิ่งเงียบ สีหน้าไม่เปลี่ยนไปจากเดิม ขณะที่นางกำลังจะรับถ้วยน้ำชาก็ถูกหลินเสวี่ยอิ๋งที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รั้งเอาไว้

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status