หลินเสวี่ยฮุ่ยยิ้มอย่างเก้กัง: “พอใช้ได้มั้ง”แม้แต่เธอก็ไม่รู้รายละเอียดว่าหลินเฟิงทำอะไรแต่เธอมั่นใจได้ว่า หลินเฟิงน่าจะเป็นบุคคลใหญ่โตคนหนึ่งผู้หญิงที่ไว้ผมลอน ที่นั่งอยู่ด้านข้างผู้หญิงหมวกแก๊ปพูดเยาะหยัน: “เปิดบริษัทสุดยอดตรงไหนกัน คุณชายหลี่ว์ตระกูลก็เปิดบริษัท”“ใช่ไหมคะคุณชายหลี่ว์?”หลี่ว์เจิ้งหยางที่นั่งอยู่ด้านข้างหลินเฟิงก็พูดด้วยใบหน้าถ่อมตัว: “เห้อ นั่นเป็นความดีความชอบของคุณพ่อคุณแม่ ไม่นับเป็นส่วนของผม”สาวผมลอนกลับพูดด้วยใบหน้าประจบประแจง: “คุณชายหลี่ว์เป็นลูกคนเดียว ของพ่อแม่ก็คือของคุณไม่ใช่เหรอ”หลี่ว์เจิ้งหยางก็สะกิดหลินเฟิงอีกครั้งแล้วพูดขึ้น: “สหาย เราสองคนแลกที่นั่งกัน”หลินเฟิงถึงนึกขึ้นได้ว่า ตัวเองจะเปลี่ยนที่นั่งกับเขา อย่างไรซะพวกเขาสามสี่คนก็เป็นเพื่อนนักเรียนกัน เขานั่งตรงไหนก็ไม่มีปัญหายังไม่รอให้เขาลุกขึ้น หลินเสวี่ยฮุ่ยกลับจับแขนของเขาเอาไว้“หลินเฟิง คุณนั่งตรงนี้แหละ”เธอหันหน้ามองไปทางหลี่ว์เจิ้งหยางแล้วพูดขึ้น: “คุณชายหลี่ว์ ฉันกับหลินเฟิงไม่ได้เจอกันนานแล้ว อยากจะพูดคุยถึงความหลังกันหน่อยพอดี คุณนั่งตรงนั้นเถอะค่ะ”“เอ่อ...นี่ ก็ได้
อ่านเพิ่มเติม