บททั้งหมดของ มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน: บทที่ 161 - บทที่ 170

507

บทที่ 161

มู่จิ่วซีตาแดงก่ำในทันที "โยนคบเพลิง เผาพวกมันซะ!"คนชุดดำทั้งสามเมื่อได้ยินก็ตะโกนเสียงดังขึ้นมา จากนั้นก็กระจายตัวเพื่อฝ่าวงล้อมออกไปข้างนอกส่วนคนชุดดำคนหนึ่งที่ล้มจนทั้งตัวเต็มไปด้วยน้ำมันก็ถูกไฟเผาทันทีเมื่อคบเพลิงถูกโยนออกมา จากนั้นเขาก็ร้องโหยหวนพร้อมกับไฟที่ลุกท่วมตัว"ไป! รีบหนีไป!" เมื่อคนๆ นั้นถูกเผาก็รีบตะโกนบอกกับคนชุดดำสองคนที่เหลือ จากนั้นเขาก็กางมือวิ่งกระโจนตัวเข้าไปหาทางด้านอาเหยาและทหารซึ่งมีจำนวนคนมากสุดอาเหยาก็พาทหารให้รีบถอย แส้ยาวในมือของมู่จิ่วซีก็สะบัดฟาดออกไปยังขาของคนชุดดำคนหนึ่งที่ถูกฟันคนชุดดำคนนั้นมีพลังแข็งแกร่งสูงมาก เขาหันกลับมาและใช้ดาบฟันไปยังแส้ที่พุ่งมา ทั้งสองปะทะกัน ชายชุดดำตัดสินใจทิ้งดาบของเขาและอาศัยจังหวะที่มู่จิ่วซีดังแส้กลับ เขาก็ลดความเร็วดาบลงเพื่อไม่ให้ทำร้ายตนเองคนชุดดำคนนั้นหันหลังกลับและกระโจนขึ้นกำแพงไปเตรียมที่จะหนีส่วนคนชุดดำอีกคนหนึ่งถูกเย่ฮานพัวพันไว้กัดไม่ปล่อย พวกเขาทั้งสองได้ทะยานขึ้นไปโรมรันกันอยู่บนยอดอาคาร"เจ้านี่ปล่อยข้าจัดการเอง!" มู่จิ่วซีกล่าว จากนั้นนางก็ทะยานข้ามกำแพงไปเพื่อไล่ตามคนชุดดำที่บาดเจ็บคนนั้น"
Read More

บทที่ 162

"คราวก่อน?" ชายคนนั้นชะงักไปสักพัก "คุณหนูใหญ่มู่ เจ้าคงจะมองตัวเจ้าเองดีเกินไปแล้วกระมัง เจ้าไม่ได้อยู่ในรายชื่อของพวกเรา แต่ว่าหลังจากครั้งนี้ บางทีก็อาจต้องมีชื่อเจ้าเสียแล้ว""รายชื่อ? ดูเหมือนพวกเจ้าคงจะหลบซ่อนมาเป็นเวลานาน ในที่สุดก็ลงมือแล้วสินะ เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ข้าจะได้มีส่วนร่วมด้วย แต่ว่าตัวเจ้าเองคงไม่ได้มีโอกาสแล้ว""เจ้าต่างหากที่จะไม่ได้มีโอกาสแล้ว" ชายคนนั้นลงมือจู่โจมในทันที เขาพุ่งมาหามู่จิ่วซีมู่จิ่วซีก็โน้มตัวลง ขาของนางกวาดเตะไปตรงแผลที่เท้าของชายคนนั้น ต่อมาชายคนนี้ก็ส่งเสียงไม่พอใจออกมาในลำคอ ขณะที่เขากำลังล้มลงก็ได้แทงมีดสั้นตรงมาที่หัวใจของมู่จิ่วซีเพียงแต่ปลายดาบเขายังไม่ทันแทงถึง คอของเขาก็รู้สึกเย็นวาบ จากนั้นเลือดสดๆ ก็ได้พุ่งออกมาชายคนนั้นล้มลงไปกองกับพื้น มือพยายามจะกุมไปตรงลำคอ สายตาเขาจ้องมองมู่จิ่วซีอย่างพยาบาท เขาไม่อยากเชื่อว่าตนเองซึ่งเป็นทหารเดนตายวรยุทธสูงล้ำจะต้องมาถูกมู่จิ่วซีจัดการด้วยเพียงกระบวนท่าเดียว"ข้ารู้ว่าเจ้าจะไม่ยอมแพ้ งั้นก็ตายไปเถอะ แต่ว่าข้าจะเอาศพของเจ้าไปโยนทิ้งไว้ที่หน้าประตูเมืองทิศเหนือ ให้คนของแคว้นเป่ยจิ้นได้เ
Read More

บทที่ 163

มู่จิ่วซีเบือนหน้าอย่างฉงนและยักคิ้วถาม : "ข้าไม่อาจยืนยันมั่นใจได้ 100% คนที่เจ้าสู้ด้วยก่อนหน้านี้หกคนไม่สามารถยืนยันได้เลยเหรอ?"โม่จุนส่ายหัวและก็กล่าว : "แม้พวกเราจะคาดคิดว่าคือคนของแคว้นเป่ยจิ้น แต่ก็ไม่มีอะไรยืนยันให้มั่นใจ ถึงอย่างไรแต่ละอาณาจักรก็ล้วนมีไส้ศึกของอาณาจักรศัตรูเข้ามาแทรกซึม ถ้าไม่มีหลักฐานที่แท้จริงก็คงไม่อาจยืนยันมั่นใจได้ พวกเขาจะกัดเหมือนหมากัดกัน"มู่จิ่วซีก็กล่าว : "แม่นมหรงได้สารภาพแล้วว่าจ้วงชิงเหมยคือไส้ศึกแคว้นเป่ยจิ้น ผนวกกับพิษของเงาหอมนิโลบล ป้าสะใภ้รองของข้าก็คงจะใช่เหมือนกัน จินเป้ยก็เป็นไส้ศึกแคว้นเป่ยจิ้น ฉีเล่อฉี่ก็คงจะใช่เหมือนกัน เจ้าคิดว่าคนที่มาฆ่าเจ้ากลุ่มนี้ไม่ใช่งั้นเหรอ? ถ้าจะให้พูด เจ้าไปถูกหลุ่มพรางคนพวกนี้ได้อย่างไร?"สีหน้าของโม่จุนก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขึมขึ้นมาในทันที แววตาสีดำก็ย้อมไปด้วยประกายของความโมโหและโหดเหี้ยม"เมื่อคืนวาน ข้าเตรียมจะไปที่จวนอัครมหาเสนาบดี พอเห็นว่ารอบๆ มีคนเ้าสังเกตจวนอัครมหาเสนาบดี แน่นอนว่าข้าเลยไล่ตามจับคนพวกนั้น แต่ไม่คาดคิดว่าวรยุทธจะสูงส่ง โดยเฉพาะวิชาตัวเบา ผนวกกับข้าเองกลัวว่าจะต้องลงมือจนบาดเจ็บโดย
Read More

บทที่ 164

"แต่ว่าโม่จุน ในเมื่อเจ้ามีทหารมังกรดำในมือ 1,000 นาย ทำไมเจ้าไม่ให้พวกเขามาปกป้องเจ้า?"ใบหน้าหล่อเหลาของโม่จุนก็แดงขึ้นมาเล็กน้อย จากนั้นเขาก็พูดอย่างหงุดหงิด : "ข้าไม่คิดว่าศัตรูจะมียอดฝีมือถึง 6 คน""ข้าว่าแล้ว! เจ้ามันจองหองทระนงตน" มู่จิ่วซีหัวเราะใส่เขา"พวกมันอวดดี เจ้าเองก็พูดถูก เอาศพของพวกมันไปแขวนไว้สัก 3 วันให้พวกมันได้ดู" โม่จุนก็ตัดสินใจในทันทีวิธีการเอาศพไปแขวนโดยปกติจะทำตอนศึกสงคราม มักจะเกิดขึ้นมาสองแคว้นต้องมาเผชิญหน้ากัน"ข้าจะให้คนเอากลับไปแขวน ส่วนบาดแผลเจ้าพรุ่งนี้คงจะขยับได้แล้ว เดี๋ยวเรานั่งรถม้าค่อยๆ กลับพระนคร" มู่จิ่วซีกล่าว "อ้อ ก่อนหน้านี้ข้าได้บังคับถามชายชุดดำคนนั้น มันบอกว่าพวกมันมีรายชื่อสังหาร""รายชื่อสังหาร?" โม่จุนตกใจ"ใช่ แต่ว่าก่อนหน้านี้ข้าไม่ได้อยู่ในรายชื่อ คาดว่าหลังจากครั้งนี้ไปข้าคงถูกเพิ่มชื่อลงไป" มู่จิ่วซีหัวเราะยิ้มแห้งๆ "ก่อนหน้านี้ที่ใต้เท้ากู้ถูกลอบสังหาร คาดว่าเขาคงอยู่ในรายชื่อ"มู่จิ่วซีลุกขึ้นมาเดิน : "โม่จุน เจ้าต้องแบ่งเอาทหารมังกรดำของเจ้าไปแอบคุ้มกันองคมนตรีสำคัญสิ""ปกติข้างกายองคมนตรีจะมีองครักษ์ฝีมือดีอยู่แล้ว ใ
Read More

บทที่ 165

มู่จิ่วซีก็รีบขยับโม่จุนที่อยู่บนเตียงมาอย่างระมัดระวัง บาดแผลของโม่จุนได้รับความกระทบกระเทือน เขาเจ็บจนต้องกัดฟันพน้อมกับเหงื่อไหลตรงหน้าผาก แต่เขาก็ให้ความร่วมมือกับมู่จิ่วซีอย่างตั้งใจกระเบื้องหลังคาด้านบนถูกคนเปิดออก จากนั้นมู่จิ่วซีก็เห็นของมีคมจำนวนมากพุ่งบินลงมามู่จิ่วซีและโม่จุนก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที มู่จิ่วซีร่ายรำแส้ของนางอย่างทันท่วงที แส้โบกเหวี่ยงจนเป็นวงกลม ความเร็วที่โบกสะพัดเร็วอย่างมาก มีดบินทั้งหมดถูกนางปัดจนกระจายไปรอบทิศ เสียงเกร้งเกร้งของของมีคมโดนปัดก็ดังอย่างต่อเนื่องเมื่อหยุดลงมองดู กำแพงและชั้นวางรอบด้านของห้องก็ถูกปักเต็มไปด้วยมีดบินที่ส่องแสงสะท้อน"คุณหนูใหญ่!" ด้านนอกเสียงของเย่ฮานก็เรียกดังขึ้นมา ภายในเสียงของเขามีความเป็นห่วงอย่างมาก"บนหลังคา!" มู่จิ่วซีตะโกนเสียงดัง จากนั้นนางก็เห็นเป็นเงาอะไรสักอย่างยาวๆ ตกลงมาจากด้านบนหลายเส้น"งู!" มู่จิ่วซีก็ขนลุกชันในทันที ด้านบนได้โยนงูพิษลงมา นางในฐานผู้หญิงคนหนึ่งก็รู้สึกกลัวงูมาโดยตลอดแต่ว่าในฐานะราชินีแห่งราตรี เมื่อออกทำภารกิจ นางก็ปะทะกับงูมาไม่น้อยครั้งเหมือนกันโม่จุนเองก็สะดุ้งตกใจ เขาออกแรง
Read More

บทที่ 166

"หนีอะไร หนีไปด้วยกันสิ แค่เพียงใช้กำลังภายในของเจ้ากับข้าช่วยกัน" ขณะพูดนางก็ใช้ผ้าห่มคลุมที่หัวของทั้งสองคน จากนั้นนางก็เหลือบมองเขาครู่หนึ่งและอุ้มขึ้นมาโม่จุนพยักหน้า ทั้งสองคนกระแทกหน้าต่างไม้ตรงหน้าเพื่อออกไปทั้งสองคนระเบิดกำลังภายในพร้อมกัน จนหน้าต่างก็ถูกกระแทกเปิดออก มู่จิ่วซีรีบอุ้มโม่จุนที่กระอักเลือดสดๆ ออกมา"มันหนีออกมาได้แล้ว ยิงธนู!" ชายร่างสูงกำยำเหี้ยมโหดก็ตะโกนเสียงดังออกมามู่จิ่วซีแอบพูดกับตัวเองว่าแย่แล้ว โม่จุนบาดเจ็บมากจนเกือบจะหมดสติไป บนตัวของเขามีเลือดซึมออกมาจนเต็ม"เจ้ารีบหนีไป!" โม่จุนยังคงต้องการให้มู่จิ่วซีรีบหนีเอาตัวรอดไปก่อนมู่จิ่วซีพลิกตัวลุกขึ้นมา ขาทั้งสองข้างของนางมายืนขวางโม่จุนไว้จากนั้นมือของนางก็ปรากฎแส้ออกมาอีกครั้ง ดอกธนูได้เล็งมามาที่พวกเขาสองคนอย่างเย็นเยียบราวกับปืนน้ำแข็งมู่จิ่วซีก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ แส้ยาวในมือราวกับเต้นรำและแกว่งโบกจนเร็วอีกครั้งแม้แต่ลมก็ยากที่ผ่านเข้ามา ส่วนโม่จุนนั่งอยู่ตรงขาของนางเลยไม่ถูกธนูยิงเข้าใส่ตอนนี้สภาพมู่จิ่วซียับเยินอย่างมาก ผมของนางปล่อยกระเซิง แต่รอบกายของนางกลับแผ่ซ่ายไปด้วยบรรยากาศอันชั
Read More

บทที่ 167

โม่จุนนอนแผ่บนพื้นพร้อมกับใจที่ฟุ้งซ่าน ถึงอย่างไรท่าของเขาที่นั่งอยู่ตรงพื้นตอนนี้ไม่ว่าจะดูยังไงก็แปลก เขาเหมือนถูกมู่จิ่วซีเหยียบเอาไว้อย่างใดอย่างนั้นอีกอย่างเขาเป็นถึงท่านผู้สำเร็จราชการแทนอันมีเกียรติกลับถูกผู้หญิงคนหนึ่งเหยียบขวางไว้แบบนี้ เลยทำให้เขารู้สึกลำบากใจอย่างมากถ้าไม่ใช่เพราะเขาถือดีทระนงตนขนาดนั้นจนไม่ต้องหลุมพรางของคนพวกนั้น เรื่องแบบนี้จะไปเกิดขึ้นได้อย่างไร?เจ้าพวกไส้ศึกสมควรตาย ถ้าวันนี้พวกมันไม่ตาย เขาจะจับพวกมันเอาไว้ ให้พวกมันได้ลิ้มรสความเจ็บปวดจากการถูกดาบมีดฟันแล่เป็นหมื่นเล่มพวกชุดดำหกคนที่เหลือก็บุกสลับโจมตีกันเข้ามา มู่จิ่วซีก็ดีดเข็มในมือออกไปเล่มหนึ่งด้วยระยะห่างที่ใกล้ พวกมันสามคนถูกเข็มดีดปักจนร้องเสียงดังออกมาและถอยกลับไปส่วนมู่จิ่วซียังคงบุกอย่างไม่หยุด นางบุกจู่โจมพวกชุดดำซ้ายขวาและคนที่อยู่ข้างหลังทั้งหมดสามคนจากนั้นก็เห็นเพียงแต่การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วของนางพร้อมกับร่างกายที่คล่องแคล่ว ดูเหมือนนอกจากขอสองข้างของนางที่ราวกับตะปูยึดแน่นตรงพื้นแล้ว ร่างกายท่อนบนของนางสามารถเบี่ยงพลิ้วได้อย่างคล่องแคล่วจนน่ากลัว เหมือนกับเป็นสัตว์ตัวนิ่
Read More

บทที่ 168

"จิ่วซี!" โม่จุนสะดุ้งตกใจ เขาเห็นชายชุดดำทั้งแปดคนเพียงพริบตาก็ถูกนางฆ่าไปแล้วสี่คน สองคนบาดเจ็บสาหัสและอีกสองคนที่บาดเจ็บไม่ค่อยจะสู้ดีนักจนตอนนี้ไม่กล้าเข้ามาเพราะว่ามู่จิ่วซีตอนนี้ช่างเหมือนกับเทพอสูรที่กำลังปีนขึ้นมาจากขุมนรกอย่างใดอย่างนั้นทั่วทั้งตัวและใบหน้าของนางล้วนเต็มไปด้วยเลือดสด แต่ทุกคนกลับมองเห็นชัดเจนดีว่าเลือดพวกนั้นไม่ใช่ของนาง นางแข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไรอันที่จริงเพราะมู่จิ่วซีโชคดีที่ตนเองตั้งใจฝึกฝนเฟิงเหยียนหยูเฟย ถ้าหากนางไม่มีพลิงพิเศษอย่างกำลังภายใน นางคงไม่สามารถรวดเร็วและมีพละกำลังขนาดนี้ได้เลยถึงอย่างไรฝีมือของทหารเดนตายพวกนี้ก็ไม่ได้อ่อนแอ ส่วนนางชนะได้เพราะการต่อสู้ระยะประชิดและความรวดเร็วทักษะพื้นฐานของพวกมือสังหารทั้งรวดเร็ว รุนแรง แม่นยำ ซึ่งนางในฐานะราชินีแห่งราตรีได้บรรลุถึงขั้นสูงสุดแล้ว ดังนั้นนางจึงไม่กลัวการต่อสู้ระยะประชิด ที่นางกลัวคือศัตรูมีกำลังภายใน ความเร็วที่เพิ่มขึ้นและพละกำลังที่มากยิ่งกว่าแต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว นางเองก็มีอย่างที่ว่าไปเหมือนกัน แม้ว่าคนพวกนี้จะแกร่งกว่านาง แต่ประสบการณ์กลับไม่เท่านาง เรื่องทักษะยิ่งห่าง
Read More

บทที่ 169

ก่อนรุ่งอรุณที่ดำมืดที่สุดก็ได้ผ่านพ้นไป แสงอาทิตย์เริ่มขึ้นทิศตะวันออก แสงเริ่มส่องผ่านทะลุชั้นเมฆ ในป่าเต็มไปด้วยหมอกทั้งวัดเป้ากั๋วถูกเผาหายไปครึ่งหนึ่ง ควันลอยคลุ้งไปหมด ภายในเต็มไปด้วยเสียงคร่ำครวญร้องไห้ยังดีตอนที่อานเย่และมู่จิ่วซีแบกโม่จุนมาถึงปากประตูของวัดเป้ากั๋ว เย่อู๋เหิงก็ได้คนกลุ่มมาถึงอย่างรวดเร็วพอดีนี่เป็นครั้งที่สองที่ถูกลอบโจมตี อาเหยารีบส่งคนกลับไปก่อนเป็นอันดับแรกเพื่อนำกำลังเสริมมาทันทีเพราะพวกเขาไม่มีใครคาดคิดว่าศัตรูจะเยอะมากขนาดนี้ ตอนแรกคิดว่าระลอกแรกพวกมันมาสามคน หากระลอกสองมาอีกสิบกว่าคนก็ถือเยอะมากแล้วไม่คาดคิดว่าจะส่งมามากถึงสามสี่สิบคน อีกทั้งแต่ละคนก็มีวรยุทธสูง พวกนักบวชก็ได้แต่ออกไปสู้ ไหนจะต้องทั้งช่วยคนทั้งดับไฟ ความเสียหายยิ่งรุนแรงมากขึ้นแต่ว่าเมื่อทุกคนรู้ว่าท่านผู้สำเร็จราชการแทนยังมีชีวิตอยู่ ทุกคนต่างก็ล้วนถอนหายใจโล่งอกตอนนั้นสถานการณ์เร่งด่วนมากจริงๆ มีแค่มู่จิ่วซีที่ปกป้องโม่จุนคนเดียว พวกเขาคิดว่าว่าสองคนนี้ต้องตายแล้วแน่ๆ ไม่คาดคิดว่าคุณหนูใหญ่มู่จะทำได้ขนาดนี้จริงๆแต่ว่าทำได้อย่างไรนั้น พวกเขาไม่มีใครเห็นเลย มู่จิ่วซีเองก
Read More

บทที่ 170

นางเปลี่ยนผ้าชุบน้ำบนหน้าผากของโม่จุนไม่หยุดเพื่อให้อุณหภูมิเขาเย็นลง พวกเขาเดินทางกลับพระนครตลอดทางไม่หยุดเขาถูกส่งไปที่สถาบันแพทย์หลวงโดยตรงทันที มู่จิ่วซีที่เหนื่อยอย่างมากก็ถอนหายใจออกมา นางเข้าไปที่สถาบันแพทย์หลวงและงีบหลับพักผ่อนพอมู่จิ่วซีตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ข้างกลับมืดและเงียบสงบมาก ช่วงขณะนั้นนางเหมือนไม่รู้ตัวเองว่าอยู่ในปีไหนนางรีบจัดการเก็บข้าวของและเดินออกมา พอเห็นว่าด้านนอกเป็นเวลาเช้าตรู่ นางก็กังวลเรื่องของโม่จุนทันทีปากประตูมีทหารมังกรดำเฝ้าป้องกันไว้ หนึ่งในนั้นมีคนชื่อจี๋เฟิง เขาเป็นคนของทหารมังกรดำพวกเขาก่อนหน้านี้ได้ไปเห็นสภาพของวัดเป้ากั๋วมาแล้ว พวกเขาได้ยินมาว่ามู่จิ่วซีเป็นคนปกป้องท่านอ๋อง อีกทั้งในตอนท้ายยังจัดการพวกศัตรูให้หนีไปได้ แต่ทุกคนล้วนไม่อยากจะเชื่อและรู้สึกเรื่องราวเกินจริงไปหน่อย คงจะเพราะศัตรูอ่อนแอเกินไปมากกว่าแต่ว่าพวกเขาก็ยังเคารพมู่จิ่วซีมาก ถึงอย่างไรนางก็ไม่ได้ทอดทิ้งท่านอ๋องในช่วงที่อันตรายวิกฤติที่สุด"ท่านอ๋องตื่นขึ้นมาหรือยัง?" มู่จิ่วซีถาม"ตื่นแล้วขอรับ แพทย์หลวงทั้งสองกำลังเฝ้าดูอาการรักษา" จี๋เฟิงพูดมู่จิ่วซีก็พูดออกมาอ
Read More
ก่อนหน้า
1
...
1516171819
...
51
DMCA.com Protection Status