บททั้งหมดของ มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน: บทที่ 131 - บทที่ 140

507

บทที่ 131

โม่จุนเดิมทีอยากจะพูดเรื่องของเซียวหลิงเย่ว์ แต่พอได้ยินประโยคนี้ เขาก็ได้แต่พูด : "หรือว่าเจ้ายังสามารถช่วยไป๋ฉี่เฟิงได้งั้นเหรอ? แพทย์หลวงเองก็กำลังรักษากันอย่างสุดความสามารถ""ข้าเคยบอกแล้วว่ามีความสามารถหลายอย่าง เพียงแต่เจ้าไม่รู้เท่านั้น" มู่จิ่วซีกรอกตามองบนใส่เขาและก็เข้าไปในจวนไป๋ทันทีองครักษ์ของจวนไป๋เห็นท่านผู้สำเร็จราชการแทนและมู่จิ่วซีอยู่ไกลๆ ตั้งนานแล้ว ซึ่งไม่มีใครกล้าไปขวาง พวกเขาได้แต่คุกเข่าถวายคำนับท่านผู้สำเร็จราชการแทนแต่ว่าคนข้างในรู้ตั้งนานแล้วว่าท่านผู้สำเร็จราชการแทนและมู่จิ่วซีอยู่ที่หน้าประตู ดูเหมือนว่าเพราะเรื่องอะไรสักอย่างและกำลังทะเลาะกันอยู่แต่ถึงกระนั้นสีหน้าของมู่จิ่วซีในตอนแรกเหมือนกับสีหน้าของคนต้องการฆ่าโม่จุนแทบจะไม่มีอะไรต่างกันเลย"ไป๋ฉี่เฟิงอยู่ที่ไหน?" มู่จิ่วซีบุ่มบ่ามเข้าไปพร้อมกับคว้าข้ารับใช้คนหนึ่งมาถาม"คุณหนูใหญ่มู่ คุณชายสามอยู่ อยู่ที่เรือนหลินฟ้านขอรับ" ข้ารับใช้คนนั้นตกใจกับท่าทีดุร้ายของมู่จิ่วซีโม่จุนก็ได้เดินแซงนางเข้าไปข้างในมู่จิ่วซีก็รีบปล่อยข้ารับใช้คนนั้นและเดินตามเข้าไปพร้อมกับกล่าว : "ชื่อดีๆ ไม่รู้จักตั้ง ตั
Read More

บทที่ 132

"เจ้าคือใคร?" มู่จิ่วซีไม่เคยเห็นผู้ชายคนนี้"ข้าน้อยไป๋เอินลู่ เป็นลุงสองของไป๋ฉี่เฟิง" ไป๋เอินลู่รีบกล่าวถึงฐานะของตัวเองโม่จุนก็ถามขึ้นมา : "ข้างในมีใครอยู่? ไป๋ฉี่เฟิงเป็นไงบ้าง?""ทูลท่านผู้สำเร็จราชการแทน ด้านในมีท่านอัครมหาเสนาบดีและฮูหยินรอง รวมไปถึงแพทย์หลวงอีกสองคนขอรับ" ไป๋เอินลู่รีบกล่าวออกมามู่จิ่วซีก็พูดขึ้นมาทันที : "ข้าต้องการเข้าไปดู""คุณหนูใหญ่มู่ แพทย์หลวงกล่าวไว้ว่าห้ามเข้าไปรบกวน" ขณะพูดเขาก็มองไปที่นางอย่างรู้สึกยากลำบากใจ"น่าขำสิ้นดี ไม่ให้เข้าไปรบกวน? ข้างในมีคนตั้งมากมายขนาดนั้น แต่มีเพิ่มอีกสักคนสองคนก็คงไม่เยอะหรอกมั้ง เจ้าหลีกไปได้แล้ว" มู่จิ่วซีโมโหขึ้นมาโม่จุนก็กล่าวขึ้นมาด้วยเสียงทุ้มต่ำ : "หลีกทางไปเถอะ"ท่านผู้สำเร็จราชการแทนเอ่ยปากออกมาแล้ว ไป๋เอินลู่ก็ได้แต่ต้องหลีกทางมู่จิ่วซีก็เดินเข้าไปด้วยฝีเท้าที่เบาที่สุดเพื่อเดินเข้าไปยังด้านใน โม่จุนก็รีบเดินตามไปภายในห้องมีขนาดใหญ่มาก เห็นได้ชัดว่าไป๋ฉี่เฟิงซึ่งเป็นคุณชายสามได้รับการเลี้ยงดูดีมากขนาดไหนทั้งสามด้านของห้องล้วนมีหน้าต่าง แสงสว่างมีมากเพียงพอ อีกทั้งในห้องยังวางเต็มไปด้วยตะเกีย
Read More

บทที่ 133

โม่จุนพอได้ยินมู่จิ่วซีพูดประโยคนี้ มุมปากเขาก็กระตุกขึ้นเบาๆ จากนั้นเขาก็เบาใจลงได้ผู้หญิงคนนี้สามารถพูดอย่างโอหังได้ขนาดนี้ นางจะต้องมีความสามารถช่วยไป๋ฉี่เฟิงได้แน่เขาตอนนี้เข้าใจนางขึ้นมาบ้างไม่มากก็น้อย"คุณหนูใหญ่มู่ เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นเซียนหรือไง?" อัครมหาเสนาบดีไป๋มองไปที่มู่จิ่วซี เขาถูกนงทำให้โกรธจนแทบอยากจะหัวเราะมู่จิ่วซีก็หัวเราะเยาะออกมา นางหันไปมองแพทย์หลวงอู๋และกล่าว : "แพทย์หลวงอู๋ หลอดเลือดตรงเอวของไป๋ฉี่เฟิงแตกใช่ไหม พอรักษาซ่อมหลอดเลือดได้ไม่สมบูรณ์ เลือดก็จะซึมไหลเข้าไปในช่องท่อง ทำให้เกิดแรงกดดันแน่นในอวัยวะภายใน คนไข้ก็เลยยิ่งวิกฤติขึ้นเรื่อยๆ ใช่ไหม?"เดิมทีแพทย์หลวงอู๋ตกใจตะลึงกับคำพูดของมู่จิ่วซี แต่พอได้ฟังคำพูดของนางไปเรื่อย เขาก็พยักหน้าอย่างประหลาดใจ : "มู่จิ่วซีพูดได้ไม่ผิด คุณหนูใหญ่มู่เข้าใจศาสตร์แพทย์งั้นรึ?""ก็พอรู้อยู่บ้าง ให้ข้าลองเถอะ" มู่จิ่วซีพูด "เตรียมเข็มเงินให้ข้าชุดหนึ่ง"แพทย์หลวงอู๋ก็ไม่ได้หยิงผยอง ถึงอย่างไรพวกเขาก็มือไม้วุ่นวายรักษามาพักหนึ่งแล้ว แต่ก็ไม่อาจหยุดเลือดที่ซึมออกมาจากหลอดเลือดได้ เลยไม่กล้าที่จะปิดปากแผลด้านนอก"ม
Read More

บทที่ 134

ผ่านไปสักอึดใจหนึ่งก็หยิบเอาสำลีที่ซับออกมา ก็เห็นว่าเป็นเลือดที่ถูกดูดซึมออกมา จนสามารถเห็นรอยแปลตรงเส้นเลือดได้อย่างชัดเจน เนื่องจากแพทย์หลวงจัดการแผลได้ไม่สมบูรณ์ เลยมีผลให้เลือดยังคงใหลซึมออกมาภายใต้ความดันเลือดอันที่จริงไม่ใช่ว่าแพทย์หลวงไม่อยากจัดการให้สมบูรณ์ แต่เนื่องจากตำแหน่งแผลอยู่ลึกมาก ตอนจัดการเลยแทบจะไม่มีวิธีที่จะดูแผลที่อยู่ลึกด้านในได้ถึงแต่พอเห็นมู่จิ่วซีหยิบมีดขึ้นมา พร้อมกับกรีดหลอดเลือดที่ติดอยู่กับเนื้อให้ออกจากกัน พอเป็นแบบนี้ เนื้อที่ติดอยู่กับหลอดเลือดตรงปากแผลก็จะถูกยกขึ้นมาให้สูงขึ้นจากนั้นนางก็หยิบเข็มที่ร้อยด้ายแล้วเอามาเย็บตรงหลอดเลือดที่มีเลือดไหลออกมาให้ติดเข้าด้วยกันในตอนท้ายก็เย็บเนื้อ จากนั้นก็เอาเนื้อที่ติดอยู่กับหลอดเลือดเย็บเข้ากับเนื้อที่ถูกเฉือนด้านล่างเข้าด้วยกันหลายเข็ม (การอ้างอิงถึงความเฉพาะทาง เป็นการสมมุติล้วนๆ โปรดผู้อ่านจงแยกแยะจากความเป็นจริงๆ)ตอนนี้ เลือดก็ยิ่งไหลมากขึ้นมา เลยสงผลต่อการมองเห็น แต่มู่จิ่วซีเหมือนจะสามารถมองทะลุเลือดได้ นางลงมือได้อย่างรวดเร็วไม่นานนักก็จัดการหลอดเลือดเสร็จ นางใช้สำลีกดลงไปอีกครั้ง พอนางเห็นว
Read More

บทที่ 135

สายตาเย็นชาของโม่จุนก็มองไปที่จ้วงชิงเหมยพร้อมกับกล่าว : "ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ ก่อนหน้านี้มู่จิ่วซีก็ช่วยแม่ของนางเองให้รอด นางได้ร่ำเรียนกับหมอเทวดาในยุทธภพมาบ้าง""เป็นไปได้ยังไง?" จ้วงชิงเหมยมองอัครมหาเสนาบดีไป๋ด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ มือข้างหนึ่งของนางก็ได้จับคว้าไปที่แขนของอัครมหาเสนาบดีไป๋ อัครมหาเสนาบดีไป๋เจ็บจนคิ้วขมวด"เหมยเอ๋อร์ ฉี่เฟิงไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว คุณหนูใหญ่มู่ช่วยชีวิตฉี่เฟิงเอาไว้ได้" อัครมหาเสนาบดีไป๋ก็คล้องไปที่แขนของนางที่จับเขาไว้อยู่พร้อมกับพูดอย่างนุ่มนวลตอนนั้น มู่จิ่วซีก็ได้เดินออกมาจากข้างใน สองมือของนางที่เพิ่งล้างจนสะอาดก็กำลังเช็ดด้วยผ้าอยู่"ทำไม ฮูหยินรองไม่ได้หวังให้ข้าช่วยไป๋ฉี่เฟิงได้หรอกเหรอ?" มู่จิ่วซีพอเอ่ยปากก็เหน็บแนมในทันที"มู่จิ่วซี เจ้าพูดไร้สาระอะไร ข้าก็แค่ไม่คาดคิดว่าเจ้าจะช่วยเขาเอาไว้ได้" จ้วงชิงเหมยก็ถลึงตาสองข้างจ้องไปที่นางพร้อมกับกล่าว"เรื่องที่เจ้าคาดไม่ถึงมีอีกเยอะเลยล่ะ" มู่จิ่วซีกล่าวออกมาอย่างเยาะเย้ย "เอาล่ะ ไป๋ฉี่เฟิงก็ดีขึ้นมาแล้ว งั้นเรื่องของไป๋ชิงล่ะ?"นางหันไปมองโม่จุนโม่จุนก็หันไปมองอัครมหาเสนาบดีไป๋และพูด
Read More

บทที่ 136

"คุณท่าน เมื่อก่อนท่านสัญญาจะให้ข้าได้เป็นคุณหญิงใหญ่ พระพันปีหลวงทรงไม่อนุญาต ข้าเองก็ถือซะว่าช่างมัน แต่ตอนนี้ฉี่เฟิงสภาพหนักขนาดนี้ ท่านก็ยังทำกับข้าเช่นนี้อีก หรือว่าลูกที่เกิดจากอนุภรรยาจะไม่ใช่ลูกของท่าน" จ้วงชิงเหมยร้องไห้ออกมา"จ้วงชิงเหมย เจ้าพอได้แล้ว!" มู่จิ่วซีพูดขัดขึ้นมาในทันที "เป็นอนุภรรยาก็ควรสำเหนียกในฐานะอนุภรรยา ตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะใต้เท้าอัครมหาเสนาบดีหมายปองเจ้าที่หอชิงหยา พาเจ้ากลับมาที่จวน เจ้าจะได้มีวันนี้งั้นเหรอ? เจ้าไม่รู้จักตอบแทนบุญคุณยังไม่เท่าไหร่ แต่นี่เป็นแค่แขกสะเออะมาเป็นเจ้าบ้าน อัครมหาเสนาบดีไป๋ วันนี้ข้ามู่จิ่วซีขอบอกท่านไว้สักประโยค ฮูหยินใหญ่ไม่ได้จากไปเพราะป่วยอาการสาหัส แต่เพราะนางถูกพิษเรื้อรังของเงาดอกนิโลบลต่างหาก!"อัครมหาเสนาบดีไป๋และจ้วงชิงเหมยก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากทันที"อะไรนะ? มู่จิ่วซี เจ้าพูดว่าอะไรนะ?" อัครมหาเสนาบดีไป๋ตกใจอย่างมาก ร่างกายของเขาสั่นสะท้าน จากนั้นก็หันไปมองโม่จุนทันทีโม่จุนก็พยักหน้าพร้อมกับกล่าว : "ไม่ผิดหรอก ฮูหยินใหญ่ถูกพิษของเงาดอกนิโลบลจนเสียชีวิต ใต้เท้าอัครมหาเสนาบดีคงเจ้ารู้จักพิษเรื้อรังเงาดอกนิโ
Read More

บทที่ 137

มู่จิ่วซีและโม่จุนต่างก็ชะงักอึ้งไป แต่มู่จิ่วซีก็รีบพูดขึ้นมา : "น่าขำจริงๆ จ้วงชิงเหมยก็แค่หญิงสาวจากหอนางโลมคนหนึ่ง ถ้าฮูหยินใหญ่ไม่อยากให้นางเข้ามาในจวน ถ้าฮูหยินใหญ่ต้องการฆ่านาง มีหรือจะถูกเจ้าจับได้? ให้เจ้าต้องมาพบ? เจ้าอย่าลืมว่าตระกูลของฮูหยินใหญ่เดิมทีคือลูกสาวของมหาราชครูของจักรพรรดิองค์ก่อน มีความรู้ความสามารถ นางมีหรือจะสู้ไม่ชนะกับแค่นางจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ตัวหนึ่ง?"นี่ถึงกับทำให้ไป๋ชินเตี่ยนตะลึงค้างไปจากนั้นในหัวของเขาก็ปรากฎภาพในตอนสมัยยังหนุ่มสาว ว่าฮูหยินใหญ่นั้นงดงามเก่งกาจและฉลาดหลักแหลมมากแค่ไหน พร้อมกับให้คำแนะนำเขาอย่างมากมายจนเขาเองได้ขึ้นสู่ตำแหน่งสูงในราชสำนักไม่ว่าจะลูกไม้แผนการไหน ฮูหยินใหญ่ไม่มีทางที่จะวางแผนการจนมีช่องโหว่ได้มากมายขนาดนี้อีกอย่างการรับอนุภรรยาเข้ามาก็เป็นเรื่องปกติ ฮูหยินใหญ่ตอนที่ตั้งครรภ์ไป๋ชิง ก็เป็นนางเองที่ให้เขารับอนุภรรยาเข้ามา ซึ่งไม่จำเป็นเลยที่นางจะต้องพยายามฆ่าจ้วงชิงเหมยที่เป็นผู้หญิงคนหนึ่งจากหอนางโลมไป๋ชินเตี่ยนตอนนี้พอคิดดูแล้วก็พบว่าตนเองไม่ได้สังเกตเรื่องพวกนี้เลย เขามัวแต่ถูกจ้วงชิงเหมยปั่นหัว จนเขาไม่สนใจใยดีฮูหย
Read More

บทที่ 138

"เจ้าไปหาเย่อู๋เหิงทำไม?" โม่จุนไม่เข้าใจเล็กน้อย"ข้าจะไปถามศาลต้าหลี่ว่าในห้องลับมีพิษชนิดนี้อยู่หรือไม่ ถ้ามี ข้าก็จะรู้ที่มาที่ไป" มู่จิ่วซีก็มองเขาอย่างอารมณ์เสีย "เจ้าคงจะไม่รู้จักพิษชนิดนี้"ใบหน้าหล่อเหลาของโม่จุนก็เศร้าขึ้นมาเล็กน้อยพร้อมกับกล่าว : "ข้าก็ไม่เคยเห็นพิษนี้จริงๆ"ชั่วขณะนั้น แพทย์หลวงอู๋ก็รีบวิ่งมา ส่วนไป๋ฉี่เฟิงมีแพทย์หลวงหวังคอยดูแลอยู่"ใต้เท้าอัครมหาเสนาบดีเป็นอะไรไป?" แพทย์หลวงอู๋ถามอย่างเร่งร้อน"เขาโกรธโมโหจนกระทบกระเทือนหัวใจ" มู่จิ่วซีรีบคว้ากล่องยาของเขามาและหยิบเข็มเงินที่อยู่ในกล่องออกมา อันที่จริงบนตัวของมู่จิ่วซีได้มีของหลายอย่างแฝงเอาไว้ในร่างกาย ซึ่งถ้าไม่ถึงตาจนจริงๆ นางก็จะไม่หยิบออกมาใช้ถึงอย่างไรนางก็เคยถูกลอบฆ่ามาแล้วครั้งหนึ่ง ไม่มีทางที่นางจะไม่เตรียมของไว้ป้องกันตัวเองแพทย์หลวงอู๋เคารพมู่จิ่วซีอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงไม่ถามอะไรมาก เขาก็เลยได้แต่นั่งยองมองมู่จิ่วซีหยิบเข็มออกมาและฝังเข้าตรงหัวของใต้เท้าอัครมหาเสนาบดีหลายเข็ม จากนั้นเพียงนางกดไปที่อกของเขาไม่กี่ครั้ง ใต้เท้าอัครมหาเสนาบดีก็ค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมามู่จิ่วซีรีบพยุงเขาใ
Read More

บทที่ 139

ไป๋ชินเตี่ยนมู่จิ่วซีหันมองไปที่และกล่าว : "ข้าต้องการแม่นมหรงคนนั้น"พอพูดแบบนี้ออกไป ไป๋ชินเตี่ยน โม่จุนและแพทย์หลวงอู๋ก็ไม่เข้าใจอย่างมาก"ได้!" ไป๋ชินเตี่ยนคิดอยู่พักหนึ่งก็อนุญาต ภายในแววตาอันแก่ชราของเขาก็ฉายประกายไปด้วยความเฉลียวฉลาดเขารู้ฮูหยินใหญ่ถูกวางยาพิษเป็นเวลาหลายสิบปี เกรงว่าปัญหาจะต้องอยู่ที่แม่นมหรงคนนี้นี่เป็นครั้งแรก ที่เขาไป๋ชินเตี่ยนรู้สึกว่ามู่จิ่วซีคุณหนูใหญ่ลูกผู้ดีคนนี้ไม่ใช่คนที่ไม่มีอะไรดีเหมือนที่พวกเขาคิดกันแบบนั้นมาโดยตลอดก่อนหน้านี้ที่เขาไปยังวัง พอได้ยินว่ามู่จิ่วซีชนะการวาดภาพจากการแข่งกับคุณหนูสามตระกูลฉีได้ เขาก็ไม่เชื่อเล็กน้อยและรู้สึกว่าคงจะเป็นเรื่องบังเอิญโชคดีเท่านั้นแต่ว่าครั้งนี้เมื่อมู่จิ่วซีมาถึงก็ช่วยไป๋ฉี่เฟิงไว้ทันที และยังช่วยเขาไว้ด้วย ทั้งหมดนี้เป็นการพิสูจน์แล้วว่ามู่จิ่วซีไม่ใช่พวกไร้ค่าเลยแม้แต่น้อยมู่เทียนซิงนะมู่เทียนซิง ช่างละเอียดรอบคอบลึกซึ้งมากจริงๆ ถึงให้ลูกสาวตัวเองเก็บซ่อนความสามารถเอาไว้ได้ลึกถึงขนาดนี้แค่ไม่แสดงออก แต่ถ้าคนได้เห็นต้องได้รู้รับรองตะลึงงัน !ขณะนั้นมู่เทียนซิงที่อยู่กับมู่เจินจูในศาลต้าหลี่ก
Read More

บทที่ 140

ในใจของมู่จิ่วซีมั่นใจแน่นอนว่าคือลู่เวยหย่า แต่นางไม่มีหลักฐาน อีกอย่างผู้หญิงคนนั้นช่วงนี้ก็ทำท่าเชื่องสะขนาดนั้น ผนวกกับสุขภาพแม่ของนางเพิ่งจะดีขึ้นมา นางเองก็มีเรื่องมากมายต้องจัดการ นางจึงไม่ได้มีเวลาไปจัดการให้นางผู้หญิงคนนั้นโผล่หางจิ้งจอกออกมา"ดังนั้นเจ้าเลยรู้สึกว่าจ้วงชิงเหมย..."โม่จุนถาม"องค์กรที่น่าสะพรึงกลัวแบบนี้แทรกซึมเข้ามาในระหว่างแคว้น อีกอย่างจำนวนคนก็คงจะไม่ใช่น้อยๆ คนพวกนั้นคงจะร่วมมือกันปกปิดอำพรางซึ่งกันและกัน หากช้ากว่านี้อีกไม่กี่ปี แคว้นเกาอวิ๋นจะต้องพังทลายจากภายในแน่นอน"มู่จิ่วซีsหันไปมองโม่จุนพร้อมกับกล่าวอย่างหนักแน่นสีหน้าของโม่จุนเคร่งขึมและจริงจังขึ้นมา เขาพยักหน้าเบาๆ และกล่าว : "สามปีก่อน หลังจากข้าปราบปรามท่านอ๋องสามไป ข้าก็ต้องเผชิญกับการรุกรานของแคว้นศัตรู ในราชสำนักทั้งหมดก็ได้พระพันปีหลวงและองคมนตรีหลายคนเป็นคนดูแล แม้ว่าคนที่ส่งให้ไปจัดการจะเป็นคนที่สนิทไว้ใจ แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งการแทรกซึมเข้ามาของศัตรูได้"โม่จุนพูดความรู้สึกของเขาออกมาพร้อมกับมองมู่จิ่วซีที่เผยสีหน้าตื่นตกใจและก็กล่าวต่อ : "จิ่วซี คราวนี้ต้องขอบคุณเจ้าจริงๆ ถ้าไม่ใช่เจ
Read More
ก่อนหน้า
1
...
1213141516
...
51
DMCA.com Protection Status