All Chapters of จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง: Chapter 131 - Chapter 140

286 Chapters

บทที่ 131

ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นตรงนี้ ดึงดูดความสนใจของหวังเจิ้นที่อยู่อีกด้านขึ้นมาทันที เมื่อเขาเหลียวมองก็พบว่าเป็นเสียงหัวเราะที่ดังขึ้นทางหลี่ชิงเฟิง ดังนั้นเขาจึงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ"โทษทีนะครับ ผมขอไปตรวจสอบดูก่อน" หวังเจิ้นรีบเดินเข้ามาแล้วเห็นจางส่วงกำลังหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังใส่หลี่ชิงเฟิง ขณะที่หลี่ชิงเฟิงกลับมีท่าทีสงบนิ่ง "เกิดเรื่องอะไรขึ้น?" หวังเจิ้นถาม เมื่อจางส่วงเห็นมหาเศรษฐีหวัง เขาก็ไม่กล้าหัวเราะอีกต่อไป จากนั้นเขาก็รีบเดินเข้ามาหามหาเศรษฐีหวังแล้วก้มหน้าพลางกล่าวว่า "ไม่มีอะไรหรอกครับ ก็แค่มีขอทานอยู่ที่นี่ ผมกำลังคิดหาทางไล่มันออกไปอยู่พอดี" "ผมไม่รบกวนด้วยเรื่องเล็ก ๆ แบบนี้หรอกครับ" เมื่อหวังเจิ้นได้ยินเช่นนี้ เขาก็รู้สึกตกใจอยู่บ้าง "ขอทาน? อยู่ที่ไหนงั้นรึ?" จางส่วงยื่นมือออกมาแล้วยิ้มพลางกล่าวว่า "ก็อยู่ตรงนั้นไม่ใช่หรือไงล่ะครับ?" เมื่อเห็นจางส่วงชี้นิ้วใส่หลี่ชิงเฟิง สีหน้าของหวังเจิ้นก็พลันมืดมนขึ้นมาทันที แต่จางส่วงกลับไม่ทันได้สังเกต เขายังคงพูดต่อไปอีกว่า "คุณน่าจะยังไม่รู้จักมัน งั้นผมจะแนะนำให้คุณรู้จัดมันเอง มันชื่อหลี่ชิงเฟิง เป็นเ
Read more

บทที่ 132

หวังเจิ้นแค่นยิ้มเย็นชา "พวกเราได้เซ็นสัญญาที่มีผลผูกพันทางกฎหมายกันไว้หรือเปล่าล่ะ? ตอนนี้ฉันเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา มีปัญหาอะไรไหม? ฉัน หวังเจิ้น จะทำอะไร ยังต้องให้แกมาชี้นิ้วสั่งการด้วยเหรอ?" หวังเจิ้นรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจนัก เขาแค่ไม่รู้ว่าจะหาทางปฏิเสธคำเชิญของจางส่วงอย่างไรดี ดังนั้นเขาจึงฉวยโอกาสจากเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนี้เพื่อหาทางออกให้ตัวเอง จางส่วงส่ายหน้าแล้วกัดฟันพูดขึ้นมาว่า "แต่...ต่อให้คุณไม่พักอยู่กับผม คุณก็ไปที่ตระกูลเซี่ยไม่ได้หรอก! ตอนนี้ตระกูลเซี่ยมีชื่อเสียงเลวร้าย ผมเกรงว่าคุณจะพลอยติดร่างแหไปด้วย!" หวังเจิ้นเลิกคิ้ว "คุณแช่งผมงั้นเหรอ? ใจกล้าไม่เบาเลยนี่!" เมื่อหลี่ชิงเฟิงที่นั่งเก้าอี้คอยชมดูการแสดงได้ยินเช่นนี้เข้า ก็แทบจะหลุดหัวเราะลั่นออกมา สำหรับคนอย่างหวังเจิ้น การหาเรื่องทะเลาะชวนตีช่างเป็นเรื่องที่สุดแสนจะง่ายดาย ก่อนที่จางส่วงจะทันได้พูดอะไรอีก เลขาข้างกายหวังเจิ้นก็เดินเข้ามาตบหน้าเขา! จางส่วงถูกตบเสียจนลงไปนอนกองอยู่กับพื้นโดยไม่พูดอะไรสักคำ "แกขอโทษเขาเดี๋ยวนี้! จากนั้นก็ไสหัวไปจากที่นี่ซะ!" หวังเจิ้นเอ่ยขึ้นด้วยความโกรธจัด จางส่วงไม่มีทา
Read more

บทที่ 133

เมื่อใบหย่าถูกวางลงบนโต๊ะ สีหน้าของเซี่ยเซียนอินก็เปลี่ยนเป็นซีดขาว! การเอ่ยถึงเรื่องนี้ต่อหน้าคนนอกมากมายขนาดนั้น เห็นได้ชัดว่าคิดจะทำให้หลี่ชิงเฟิงรู้สึกอับอายขายหน้า ทุกคนเฝ้ามองดูหลี่ชิงเฟิงพลางลอบยิ้มแล้วก้มหน้ากระซิบกระซาบกัน เซี่ยเซียนอินอดรนทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วยื่นมือออกมาหมายจะคว้าใบหย่าเอาไว้ แต่กลับถูกเซี่ยหมิงจื้อฉวยเอาไปเสียก่อน "เซียนอิน ไอ้ขี้แพ้มันพูดเองนะ ถ้ามันทำไม่ได้ก็จะหย่ากับแก หลี่ชิงเฟิง ถ้าแกยังเป็นลูกผู้ชายอยู่ล่ะก็ จงยอมรับอย่างตรงไปตรงมาเสียดีกว่า!" เซี่ยหมิงจื้อมีสีหน้ายิ้มเยาะ เพราะหลงคิดว่าหลี่ชิงเฟิงหลงกลเข้าแล้ว เซี่ยเซียนอินพูดด้วยความร้อนใจ "พ่อคะ! ถ้ามีอะไรพวกเราก็ไปคุยกันที่บ้าน ตกลงไหมคะ? ที่นี่คือบริษัทนะ!" เซี่ยหมิงจื้อยิ้มเยาะ "อะไรกัน? มันกลัวเสียหน้างั้นเหรอ? ใคร ๆ ก็รู้เรื่องนี้กันทั้งนั้น ฉันก็แค่อยากจะป่าวประกาศในบริษัท เพราะเกรงว่าพออยู่ที่บ้าน มันจะแกล้งโง่เอาน่ะสิ!" "ยังไงซะมันก็เป็นจอมโกหกหลอกลวง เรื่องพวกนี้ของถนัดมันเชียวล่ะ!" เซี่ยเซียนอินโมโหจนริมฝีปากซีดขาว ในตอนนี้เอง หลี่ชิงเฟิงก็ลุกขึ้นแล้วหัวเราะพลางกล่าวว่า "
Read more

บทที่ 134

หลี่ชิงเฟิงทำได้จริง ๆ เขาเชิญมหาเศรษฐีหวังมาได้ หลังจากเธอยืนตะลึงงันอยู่ตรงนั้นไม่รู้ตั้งนานขนาดไหน เมื่อเซี่ยเซียนอินรู้สึกตัว เธอก็รีบวิ่งไปที่ห้องประชุมแล้วเห็นทุกคนพากันไชโยโห่ร้อง! ​เห็นได้ชัดว่าพวกเขารู้ข่าวกันแล้ว อีกทางหนึ่ง เซี่ยหมิงจื้อกับหร่วนเหมยก็มองหน้ากันด้วยความรู้สึกสับสนสุดขีด ใครจะไปเชื่อว่าเขยไร้ประโยชน์จะทำเรื่องที่ไม่มีทางเป็นไปได้เช่นนี้ให้สำเร็จขึ้นมาได้! แววตาของเซี่ยเซียนอินเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เธอรีบวิ่งเข้าไปหาหลี่ชิงเฟิงแล้วกอดเขาไว้แน่น! "ฉันขอโทษด้วยนะ! ฉันควรจะเชื่อใจคุณ! ฉันขอโทษด้วย..." หลี่ชิงเฟิงยิ้มพลางลูบศีรษะของเธอ "ยัยโง่ ผมจะโทษคุณได้ยังไงกันเล่า? ผมให้สัญญากับคุณเอาไว้แล้วว่าวันข้างหน้าจะจัดการทุกอย่างแทนคุณเอง" "แต่คุณทำได้ยังไงกัน? เมื่อคืนคุณไปพบมหาเศรษฐีหวังจริง ๆ เหรอ?" เซี่ยเซียนอินถามเสียงเบา หลี่ชิงเฟิงหัวเราะ "จริงสิ! ผมใช้วาจาคารมคมคายเกลี้ยกล่อมมหาเศรษฐีหวังจนสำเร็จเชียวนะ แน่นอนว่าก็อาศัยที่คุณไว้เนื้อเชื่อใจผมด้วยแหละครับ คุณประธานคนเก่ง" "คุณช่างน่าทึ่งจริง ๆ!" ทั้งสองคนต่างหยอดคำหวาน ขณะที่เซี่ยหมิงจื้อก
Read more

บทที่ 135

เซี่ยเซียนอินพยักหน้า "คุณย่าคะ หนูเข้าใจแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ" หลังจากหยอกล้อกันพอหอมปากหอมคอแล้ว เซี่ยเทากับคุณย่าก็ออกไปจากโรงแรม เซี่ยเซียนอินไม่กล้าเกียจคร้านจึงจัดการเรื่องอาหารและที่พักให้หวังเจิ้นด้วยตัวเอง เพราะเกรงว่าจะเกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นมาอีก บ่ายวันนั้น นักข่าวหลายคนรีบมาที่โรงแรมในเครือตระกูลเซี่ยเพียงเพื่อสัมภาษณ์หวังเจิ้น เมื่อต้องเผชิญหน้ากับบรรดานักข่าว หวังเจิ้นก็พูดด้วยท่าทีมั่นใจและสงบนิ่ง พอนักข่าวบางคนซักถามถึงสาเหตุที่ทำให้เขาเลือกเข้าพักในโรงแรมแห่งนี้ หวังเจิ้นก็เอาแต่ยิ้มจาง ๆ พลางกล่าวว่า "โรงแรมแห่งนี้มีประวัติความเป็นมาในเซี่ยชวนหลายสิบปี การที่อยู่รอดมาได้นานขนาดนั้น ก็ใช่ว่าจะไร้เหตุผลไปเสียทีเดียว” "ผมมีความไว้วางใจเต็มเปี่ยมครับ" จากนั้นนักข่าวก็ถามว่า "ก่อนที่คุณจะมาที่นี่ เคยได้ยินเรื่องยาสีฟันมีพิษในโรงแรมแห่งนี้หรือเปล่าคะ?" หวังเจิ้นคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าพวกเขาต้องถามเช่นนี้ ดังนั้นเขาจึงยิ้มพลางกล่าวว่า "ดูเหมือนว่านักข่าวอย่างพวกคุณยังไม่เป็นมืออาชีพและทำการบ้านมาไม่มากพอนะครับ! เรื่องยาสีฟันเป็นความประสงค์ร้ายของใครสักคน ผมเชื่อว่
Read more

บทที่ 136

คุณย่ายิ้มเยาะขึ้นมา "หลานคิดว่ายังไงล่ะ? หลานคิดว่าย่าจะโง่พอที่จะยกตระกูลเซี่ยให้คนอื่นจริง ๆ เหรอ? คราวนี้ย่าจะเหยียบมันให้เละเป็นโคลนเลย! มันจะไม่มีวันลุกขึ้นมาได้อีกแล้ว!" ในที่สุดเสี่ยวอิ๋งก็เข้าใจเจตนาดีของคุณย่าตัวเอง เธอลุกขึ้นด้วยความตื่นเต้นพลางกุมมือของคุณย่าแล้วเอ่ยน้ำเสียงสั่นเครือว่า "คุณย่าคะ หนูขอโทษ! ก่อนหน้านี้หนูยังพาลโกรธคุณย่า เพราะหนูไม่เข้าใจเจตนาของคุณย่า...” คุณย่าเซี่ยยิ้มพลางลูบศีรษะของเธอแล้วพูดเสียงเบาว่า "หลานควรรู้เอาไว้ว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หลานก็เป็นหลานสาวของย่านะ" เสี่ยวอิ๋งรู้สึกประทับใจมากเสียจนต้องหลั่งน้ำตา จากนั้นเธอก็โถมตัวเข้าในอ้อมแขนของคุณย่าแล้วร้องไห้โฮ... ……. ตกกลางคืน เซี่ยเซียนอินก็จัดการทุกอย่างโดยละเอียดรอบคอบ แม้แต่แปรงสีฟันที่หวังเจิ้นต้องใช้ เธอก็ตรวจสอบด้วยความระมัดระวัง ถ้าหากเกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นมาอีกครั้ง ตระกูลเซี่ยคงได้จบเห่จริง ๆ แน่ เธอยุ่งง่วนอยู่ตลอดทั้งวันจนในที่สุดก็ได้โอกาสพักผ่อน เธอคิดจะพักในโรงแรมสักคืนหนึ่งแทนที่จะกลับบ้าน เมื่อลากสังขารอันเหนื่อยล้ามานั่งลงบนโซฟาแล้ว ขณะที่เซี่ยเซียนอินครึ่งหลับ
Read more

บทที่ 137

หนึ่งหมื่นล้านบาท! ตัวเลขพวกนี้กดทับลงบนอกของเซี่ยเซียนอิน ตอนนี้เธอรู้สึกหายใจติดขัดเสียแล้ว... ตัวเลขพวกนี้ช่างมากมายเหลือเกิน! เมื่อก่อนหากตระกูลเซี่ยได้รับโครงการมูลค่าหลายสิบล้านบาท พวกเขาก็มีความสุขแล้ว ทว่ายามนี้กลับมีมูลค่าถึงหมื่นล้านบาท! ไม่ว่าเป็นใครก็คงยากที่จะยอมรับได้อยู่สักพัก... เมื่อหวังเจิ้นเห็นว่าเธอมีสีหน้าไม่สู้ดี เขาก็หัวเราะพลางกล่าวว่า "มีอะไรงั้นเหรอครับ คุณเซี่ย? คุณคิดว่าน้อยไปหน่อยหรือเปล่า?" "มะ ไม่ ไม่ค่ะ! มะ... มันออกจะมากเกินไปด้วยซ้ำ..." "บอกตามตรงว่า โครงการหมื่นล้านบาทของคุณทำให้ฉันกดดันมากเลยค่ะ..." หวังเจิ้นหัวเราะ "เอาล่ะครับ หากตัดสินจากผลงานวันนี้ ผมก็ไว้วางใจในความสามารถของคุณแล้ว ทำตัวตามสบายเถอะครับ ไม่ต้องห่วงเรื่องเงิน" "ว่าแต่ฉันต้องทำยังไงบ้างคะ?" เซี่ยเซียนอินถาม หวังเจิ้นจึงกล่าวว่า "ในการเปิดโรงแรมสักแห่ง แน่นอนว่าคุณต้องมีที่ดิน ผมเล็งที่ดินผืนหนึ่งเอาไว้แล้ว เดี๋ยวผมจะให้คุณไปเจรจาต่อรองก็แล้วกัน" เซี่ยเซียนอินลังเลอยู่ชั่วขณะแล้วพยักหน้า "ก็ได้ค่ะ! ในเมื่อคุณเชื่อมั่นในตัวฉันมากขนาดนั้น ต่อให้ต้องเสี่ยงชีวิต ฉัน
Read more

บทที่ 138

ทันทีที่พูดจบ ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนก็พลันตื่นตระหนก จนถึงขนาดรู้สึกพลุ่งพล่านเสียด้วยซ้ำไป! "หมื่นล้านบาท! ฉันได้ยินไม่ผิดใช่ไหม?" "โอ้พระเจ้า! เขาสมกับที่เป็นมหาเศรษฐีแห่งเมืองหลวงจริง ๆ! สิ่งที่เขาทำช่างไม่เหมือนใคร!" คุณย่าเซี่ยตบโต๊ะแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงลุ่มลึก "ทุกคน ใจเย็น ๆ ก่อน นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น พวกคุณตื่นเต้นเกินไปแล้ว ขอฉันพูดให้จบก่อน" "สิ่งที่พวกเราต้องทำก็คือ เอาที่ดินในหาดชิงไห่มาให้ได้ในเวลาอันสั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้! เพราะตำแหน่งที่ตั้งของโรงแรมอยู่ตรงนั้น!" หลังจากพูดจบ ทุกคนที่เมื่อสักครู่นี้ยังตื่นเต้นกลับค่อย ๆ เงียบลงอีกครั้ง ในตอนนี้เอง ก็มีคนพูดขึ้นมาว่า "หาดชิงไห่เป็นพื้นที่พัฒนาที่เพิ่งจะเจริญขึ้นมา นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายคนต่างจับจ้องพื้นที่ดังกล่าวกันตาเป็นมัน พวกเราไม่ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ พวกเราจึงไม่มีทั้งประสบการณ์และเส้นสาย เรื่องนี้จึงออกจะยุ่งยากอยู่บ้าง" "พวกเราขอให้มหาเศรษฐีหวังช่วยคิดหาทางแก้เป็นยังไง?" เมื่อคุณย่าเซี่ยได้ยินคำพูดเหล่านี้ เธอก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาทันที จากนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาพลา
Read more

บทที่ 139

เสี่ยวอิ๋งไม่กังวลใจเลยสักนิด เธอยืดอกพลางจ้องมองหลี่ชิงเฟิง "ฉันอยากจะรู้นักว่าคราวนี้แกยังจะโชคดีอยู่อีกไหม!" เซี่ยเซียนอินที่คั่นอยู่ตรงกลางก็ถอนหายใจอย่างอับจนหนทาง หลังจากการประชุม คุณย่าเซี่ยก็จงใจรั้งเสี่ยวอิ๋งเอาไว้ในห้องประชุม คราวนี้เหลือเพียงแค่พวกเธอสองคนอยู่ในห้องประชุม จากนั้นคุณย่าเซี่ยก็เอ่ยเสียงเบาขึ้นมาว่า "ที่ดินในหาดชิงไห่อยู่ในมือของนายท่านลิ่ว ย่าสนิทสนมกับเขามาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นย่าจึงบอกเขาไว้แล้ว หลานต้องรีบไปหาเขาแต่โดยเร็วเข้าล่ะ" เสี่ยวอิ๋งยิ้มพลางผงกศีรษะ "คุณย่าคะ ที่แท้คุณย่าก็เตรียมพร้อมเอาไว้ตั้งนานแล้วนี่เอง" คุณย่าเซี่ยถอนหายใจ "เซี่ยเซียนอินออกจะชั่วร้ายอยู่บ้าง ดูเหมือนว่ามันจะฉกฉวยสิ่งดี ๆ ไปหมดเลย ย่าเลยกังวลอยู่บ้าง คราวนี้หลานห้ามแพ้มันเด็ดขาดเชียวนะ! ขอเพียงหลานได้ที่ดินผืนนี้มา ย่าจะได้ยกเรื่องนี้ให้หลานจัดการได้สะดวกหน่อย" เสี่ยวอิ๋งยิ้มพลางพยักหน้า "วางใจได้เลยค่ะ คุณย่า หนูเอาชนะนังแพศยานั่นได้โดยไม่ต้องให้คุณย่าช่วยหรอกค่ะ!" "สองวันที่ผ่านมานี้ หนูครุ่นคิดอยู่หลายเรื่อง! หนูรู้สึกว่าความสามารถของตัวเองไม่ด้อยไปกว่ามันเลย เพีย
Read more

บทที่ 140

เสียงประตูปิดทำเอาเสี่ยวอิ๋งสะดุ้งตกใจ "แปลกชะมัดเลย คน ๆ นี้เป็นใครกัน..." เสี่ยวอิ๋งบ่นอย่างเหลืออด ไม่กี่นาทีต่อมา ชายคนนั้นก็เปิดประตูอีกครั้ง เขาเป็นชายร่างสูงแกร่งกำยำคนหนึ่ง เขาจ้องมองเสี่ยวอิ๋งแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "เข้ามาสิ" เมื่อเดินเข้ามาในห้องรับแขก เสี่ยวอิ๋งก็พลันลมหายใจสะดุดอยู่บ้าง... เธอนึกว่าดึกดื่นป่านนี้แล้ว คงจะไม่มีใครอยู่ในคฤหาสน์ของเจิ้งเหล่าลิ่ว แต่กลับไม่คาดคิดเลยว่าห้องรับแขกจะเต็มไปด้วยผู้คน! ดูเหมือนว่าจะเป็นบรรดาลูกน้องของเขาเอง บางคนถือมีดเอาไว้ในมือและบางคนกำลังเช็ดปืนลูกซอง แววตาของทุกคนเต็มเปี่ยมไปด้วยเจตนาสังหาร! ใครที่ไม่รู้ คงไม่มีใครคิดว่านี่คือบ้านของชายชราคนหนึ่ง... "เสี่ยวอิ๋งใช่ไหม?" เสียงของชายชราดังขึ้นมาจากข้างบน เสี่ยวอิ๋งรีบหันไปมองก็เห็นชายชราผู้มีหนวดเคราและผมขาวในวัยราว ๆ หกสิบเจ็ดสิบปีสวมชุดลำลองบุรุษยุคสาธารณรัฐสีเทา กำลังเดินลงมา "สวัสดีค่ะ นายท่านลิ่ว หนูคือเสี่ยวอิ๋งค่ะ!" ชายชราเดินเข้ามาหาเสี่ยวอิ๋ง จากนั้นก็ยิ้มพลางมองเธอแล้วเอ่ยยเสียงเบาขึ้นมาว่า "คาดไม่ถึงเลยว่าหนูจะโตขนาดนี้แล้ว ครั้งล่าสุดที่เห็น
Read more
PREV
1
...
1213141516
...
29
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status