บททั้งหมดของ บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่: บทที่ 241 - บทที่ 250

1862

บทที่ 241

สีหน้าเคร่งขรึมและดูหมดความอดทนเช่นนี้ ทำให้ผู้ชมทุกคนเบิกตากว้างทันทีหูเมิ่งอิ๋งก้มหน้าลง หากเป็นเรื่องอื่น นางมั่นใจในตัวคุณชายมาก!แต่เมื่อต้องแต่งบทกวี ไม่มีความมั่นใจเลยจริง ๆ!การแต่งบทกวีเป็นความสามารถทางวรรณกรรม หากมีพรสวรรค์ด้านนี้ ก็คงมีชื่อเสียงไปนานแล้ว!แต่คุณชายไม่ได้โด่งดังเลยในเมืองฝู!ทุกอย่างเป็นไปตามแผน หยางว่านหลี่ก็ได้ใจ “เพื่อให้ยุติธรรม เรามาขอให้เจ้าเมืองถามคำถามดีกว่า แล้วทุกคนก็ร่วมกันแต่ง!”หวังหยวนโบกมือ “ตกลง!”เจ้าเมืองจางหานกล่าวว่า “ทุกคนคือบัณฑิตแห่งต้าเย่ หากก้าวไปข้างหน้าอีกหนึ่งก้าว จะกลายเป็นขุนนางในราชสำนัก แต่แม้กระทั่งตอนนี้ ก็สามารถรับใช้ราชสำนักได้ บัดนี้ศัตรูต่างแดนเพ่งเล็งราชสำนักก็อยู่ ทำให้ราชสำนักตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เราถูกหักเงินเดือน ความภักดีต่อฮ่องเต้เริ่มสั่นคลอน หัวข้อการประชุมกวีนิพนธ์ในวันนี้ จะเป็นการคลายความกังวลของราชสำนัก!”ทุกคนขมวดคิ้ว!ตามที่เจ้าเมืองคาดไว้ ไม่ลืมที่จะประจบสอพลอราชสำนักในงานประชุมกวีบทกวีเช่นนี้แต่งยากที่สุด!หากเขียนยกย่องโจ่งแจ้งเกินไป จะถูกตำหนิว่าประจบประแจงได้ง่าย และสูญเสียจุดยืนทา
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 242

เมื่อเขามาถึงงานประชุมกวีนิพนธ์ติ้งหลงไถ น้องเขยที่เขาไม่ชอบก็อยู่ที่โต๊ะตัดสินแล้ว ส่วนเขารออยู่ด้านล่างเพื่อรับการตัดสิน ซึ่งทำให้เขาไม่อาจเงยหน้าขึ้นได้!ฟึ่บ!ใบหน้าของหยางว่านหลี่ซีดลง เขาอุตส่าห์ท่องมาหลายครั้ง และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “แม้ว่าถ้อยคำของเขาจะดี แต่ก็เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและไม่พอใจ เขาจะคลายความกังวลของราชสำนักได้อย่างไร… อ๊ะ!”“แค้นชิงกู่ฝังใจ ยังไม่ชดใช้! เมื่อใด ล้างหนี้ใคร่รู้? ควบรถบดค่ายศัตรู ย่ำเขาปาตี่พินาศไป! กระหายหาญ ฉีกกินเนื้อคนเถื่อน ดื่มเลือดสรวลสันต์ รอก่อนถึงวันกอบกู้แผ่นดินผัน เข้าเฝ้าโห่ร้องฉลองชัย!”หวังหยวนพูดเสียงดัง ประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ต่างเปลี่ยนไปไม่ใช่ว่าเขาต้องการเปลี่ยนคำพูดของงักฮุย แต่เนื่องจากเวลาและสถานที่แตกต่างกัน เขาจึงต้องเปลี่ยนคำสองสามคำให้เหมาะสมกับโอกาสจบเรียบร้อย!ทั่วบริเวณเงียบกริบ!ครู่ต่อมา ผู้แข่งขันแห่กันไปหาหวังหยวน ต่างสูญเสียความยับยั้งชั่งใจ ไม่มีใครรู้สึกว่าเป็นเรื่องน่าละอาย หากจะขอคำแนะนำจากถงเซิง ที่สำคัญกว่านั้น น้ำเสียงของพวกเขาเต็มไปด้วยความเกรงขามและยกย่อง!“ท่านหมิงถัน, แค้นชิงกู่ ท่านหมายถ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 243

ฟึ่บ!หวังหยวนไม่รอช้า ดึงดาบราชวงศ์ถังออกมา แล้วมอบให้ต้าหู่เพื่อให้เขาแสดงอานุภาพทันทีต้าหู่ฟาดดาบลงสองครั้ง!เคร้ง!ดาบทหารหักออกเป็นสองท่อน และเกราะหนังหกสิบชั้นบนโต๊ะก็ขาดออกจากกัน!เฮือก!ทั่วบริเวณเงียบลงหวังหยวนคว้าดาบราชวงศ์ถังมา แล้วหมุนข้อมือเพื่อแสดงให้เห็นใบมีดที่ปราศจากความเสียหาย!ต้าหู่ถือมีดที่หักในมือข้างหนึ่ง และเกราะที่หักในมืออีกข้าง ยกขึ้นแสดงให้เห็นอยู่ด้านข้าง“มันสามารถทำลายเกราะได้หกสิบชั้น และตัดเหล็กได้เหมือนตัดดินเหนียว นี่มันทรงพลังยิ่งกว่าดาบอื่น ไม่ถือว่าเกินจริงที่จะเรียกมันว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์!”บัณฑิตส่วนใหญ่ในวงการนี้ไม่สนใจดาบ แต่ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้างขึ้นในขณะนี้ผู้หญิงที่สวมชุดสีม่วงและเสวี่ยผานมองหน้ากันครู่หนึ่ง ราวกับว่าถูกดาบราชวงศ์ถังพรากวิญญาณไปแล้วหลี่ซานซือยิ่งสับสนมากขึ้น สงสัยว่าน้องเขยของเขาไปได้อาวุธวิเศษมาจากไหน!สายตาของไป๋เฟยเฟยกวาดมองดาบราชวงศ์ถัง ในที่สุดก็มองไปที่หวังหยวน และกลายเป็นสนใจมากถ้อยคำที่เขาเพิ่งพูดทำให้ตกตะลึง และตอนนี้เขาก็มีอาวุธวิเศษแล้ว!ชายคนนี้ไม่เคยหยุดทำให้ผู้คนประหลาดใจ!เดิมทีเขาวางแผนท
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 244

คนจากตระกูลที่ร่ำรวยก็แสดงความคิดเห็นเช่นกัน!อาวุธวิเศษเช่นนี้คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป ไม่ว่าจะซื้อไปเป็นมรดกตกทอดของตระกูลหรือเป็นของกำนัลแม้แต่หยางว่านหลี่ที่เกลียดหวังหยวนจนกัดฟัน ก็ยังขยิบตาให้จู่เหริน แล้วจู่เหรินก็ยืนขึ้นแสดงความตั้งใจว่าจะซื้อมันด้วย!ทันใดนั้น มีคนมากกว่าสิบคนที่แสดงความตั้งใจจะซื้อดาบราชวงศ์ถัง!“ขอบคุณสำหรับความสนใจของทุกคน มีคนอยากได้หลายคน แต่มีอาวุธวิเศษน้อย ดังนั้นเฉพาะผู้ที่เสนอราคาสูงสุดเท่านั้นที่จะได้มันไป!”ปฏิกิริยานี้ทำให้หวังหยวนพอใจมาก แน่นอนว่าเขาเลือกสถานที่ขายดาบได้เหมาะสม!คนหนึ่งเป็นคนแรกที่พูด “หนึ่งพันตำลึงทอง!”ในตลาด ดาบธรรมดาไม่มีค่า แต่ดาบล้ำค่าสามารถขายได้ในราคาหลายร้อยหรือหลายพันตำลึง และอาวุธวิเศษย่อมมีมูลค่ามากกว่าอย่างน้อยสิบเท่า“หนึ่งพันห้าร้อยตำลึงทอง!”“สองพันตำลึงทอง!”“สองพันห้าร้อยตำลึงทอง!”...“ห้าพันตำลึงทอง!”ท่านหลวนชิงยื่นข้อเสนอ แล้วทั่วบริเวณก็เงียบลงห้าพันตำลึงทอง ห้าหมื่นตำลึงเงิน มีตระกูลที่ร่ำรวยมากมายที่สามารถจ่ายได้แต่มีไม่กี่คนที่กล้าแข่งขันกับท่านหลวนชิง จึงต้องยอมแพ้เพื่อรักษาหน้าเขาหลาย
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 245

หวังหยวนไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี!พี่ไห่เทียนช่วยปั่นราคาให้เขา!ต้องบอกว่าเขาช่วยปั่นราคาได้ดีมาก เพราะเขาได้เพิ่มอีกถึงสี่พันตำลึงทันทีที่มีการขายดาบทั้งสองเล่มเสร็จแล้ว ทุกคนก็จ้องมองดาบราชวงศ์ถังเล่มสุดท้ายบนหลังของต้าหู่ แม้แต่เสวี่ยผานและไป๋เฟยเฟยที่ซื้อไปแล้วก็ไม่มีข้อยกเว้น!สำหรับจวิ้นวั่ง ชนชั้นสูง และขุนนาง พวกเขามีทองคำและเงินมากมาย แต่มีของที่เป็นมรดกสืบทอดไม่มากหลังจากยอมแพ้สองครั้งติดต่อกัน หลายคนก็หยุดสุภาพและต่อสู้เพื่อมันอย่างสุดกำลัง!ราคาของดาบราชวงศ์ถังเล่มที่สามยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดไป๋เฟยเฟยก็ซื้อด้วยหนึ่งหมื่นห้าพันตำลึงทองดาบราชวงศ์ถังสามเล่มขายได้ทั้งสิ้นสามหมื่นเจ็ดพันตำลึงทอง!ไป๋เฟยเฟยที่ครอบครองดาบราชวงศ์ถังสองเล่มพึงพอใจมาก ในขณะที่เสวี่ยผานที่ได้ไปหนึ่งเล่มก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อยส่วนคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้ ต่างมีสีหน้าไม่พอใจ!แม้ว่าจะเคยเห็นเงินมามากมาย แต่หูเมิ่งอิ๋งก็ตกตะลึงกับการประมูลนี้การทำธุรกิจนี้เพียงครั้งเดียว ก็ได้เงินใกล้เคียงกับความมั่งคั่งของตระกูลหูที่สะสมมาตลอดศตวรรษที่ผ่านมาไม่น่าแปลกใจที่คุณชายกล้าพูดว่า
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 246

ฟึ่บฟึ่บฟึ่บ!เสวี่ยผานที่กำลังตื่นเต้นกับดาบราชวงศ์ถังมาก ใบหน้าซีดลงทันที เขาตกใจมากจนถอยหลังไปสามก้าว!ปัง!เจ้าเมืองจางหานเซจนทำโต๊ะข้าง ๆ ล้ม ก่อนที่เขาจะทรงตัวได้!บัณฑิตอาวุโสสี่คน วังไห่เทียน หลวนชิง จิ่วเปียน และถงกู่ต่างก็ดูหนักใจเปรี้ยง!ทุกคนได้ยินเสียงสายฟ้าฟาดดังสนั่นจากท้องฟ้าสีคราม มีสีหน้าไร้ความรู้สึก“ในที่สุดก็มาแล้ว!”คิ้วคมของไป๋เฟยเฟยยกขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าหล่อเหลาของเขาปราศจากความเย่อหยิ่งเหมือนตอนแรกหญิงสาวในชุดสีม่วงขมวดคิ้ว“ชาวหวงมาแล้ว!”ครู่ต่อมา กลุ่มคนที่เร่ขายอยู่ล่างเวทีติ้งหลงไถก็รีบเก็บแผงลอยจากไปผู้ชมตกอยู่ในความสับสนอลหม่าน!“... บ้าเอ๊ย!”หวังหยวนสบถออกมา!ธุรกิจค้าเกลือสงบลง และได้รับทองคำมากกว่าสามหมื่นตำลึง ถึงเวลากลับไปใช้ชีวิตที่ดีอีกครั้งชาวหวงดันกลับมาอีกครั้ง เขาจึงไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอีกต่อไปเมื่อมองผู้คนในกลุ่มผู้ชม มีตั้งแต่ข้าราชการไปจนถึงประชาชนธรรมดาในต้าเย่ และพวกเขาก็กลัวชาวหวงมากจนลึกลงไปในกระดูกดวงตาคู่งามของหูเมิ่งอิ๋งเป็นกังวล ในขณะที่ต้าหู่ดูกระตือรือร้นที่จะลอง!“อ๋องถูหนานหนึ่งในห้าอ๋องของชาวหวง เ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 247

ในชั่วพริบตา มีเพียงหวังหยวน วังไห่เทียน ไป๋เฟยเฟย และหลี่ซานซือเท่านั้นที่ถูกทิ้งไว้บนเวทีติ้งหลงไถหวังหยวนขมวดคิ้วและพูดว่า “พี่ชาย พิจารณาจากข่าวที่มาถึง ต้าเย่จะหยุดวิกฤตินี้ได้หรือไม่!”เสวี่ยผานเป็นผู้บัญชาการสูงสุดที่ควบคุมชายแดน เขาตื่นตระหนกมากเมื่อได้ยินเรื่องการโจมตีต้าเย่เรื่องนี้ทำให้เขากังวลมากสีหน้าของวังไห่เทียนเคร่งขรึม “ตอนนี้เป็นฤดูหนาวแล้ว ต้าเย่ยังถือว่าได้เปรียบ อีกทั้งประตูหัวมังกรยังแข็งแกร่ง และต้าเย่ก็อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ตอนนี้ตราบใดที่มีผู้บัญชาการที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เวลาและสถานที่เหมาะสม ต้าเย่ก็จะแข็งแกร่ง แล้วการไล่ล่าข้าศึกก็เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น!”หวังหยวนถอนหายใจ “เมื่ออาณาจักรเดือดร้อน ก็คิดถึงแม่ทัพที่ดี!”ไป๋เฟยเฟยถือพัดลงมาจากเวที “มีแม่ทัพที่ดีอยู่ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าราชสำนักยินดีใช้หรือไม่!”“ใครกัน?”หวังหยวนรู้สึกประหลาดใจ ในช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้ หากมีนายพลที่ดีจริง ราชสำนักจะไม่ใช้ได้อย่างไร!“ถามท่านไห่เทียนสิ!”ไป๋เฟยเฟยยิ้มอ่อน แล้วออกจากติ้งหลงไถพร้อมกับหญิงสาวในชุดสีม่วงหวังหยวนหันหน้าไปมองวังไห่เทียนส่ายหน้
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 248

ในระยะไกล กลุ่มชาวหวงกำลังควบคุมแผนการสู้รบ ถือดาบตะโกนอย่างเย็นชา “พวกเจ้าทุกคนมีความผิดในต้าเย่ ใครก็ตามที่โจมตีเมืองได้ ท่านอ๋องจะประทานสถานะชาวหวง ที่ดิน และผู้หญิงให้”เมื่อทหารที่ปิดล้อมอยู่ได้ยินดังนั้น ก็มีกำลังใจและโจมตีอย่างดุเดือดต่อไป!บนกำแพงเมือง รองผู้บัญชาการหร่วนเฉิงกังขมวดคิ้ว มองลงไปด้วยสายตาหดหู่ทหารที่มาปิดล้อมเหมือนมดงานเหล่านี้ ไม่ใช่ชาวหวงที่แท้จริง แต่เป็นชาวเมืองโจวซึ่งอยู่ในต้าเย่น่าเสียดายที่เมืองโจวกบฏ พวกเขากลายเป็นตัวล่อเป้าสำหรับชาวหวง จึงหันมาโจมตีต้าเย่สำหรับทหารม้าชาวหวงตัวจริง กำลังตั้งค่ายอยู่ในระยะไกล และยังไม่ได้ถูกส่งออกไปเลย!และอ๋องถูหนานผู้ดุร้ายก็ไม่ปรากฏตัวด้วยซ้ำ!แค่การโจมตีของมดปลวกเหล่านี้ ก็ทำให้ทหารชายแดนตื่นตระหนกแล้วชื่อเสียงของชาวหวงนั้นดุร้ายเกินไป นอกจากแม่ทัพมู่ผู้ล่วงลับแล้ว ก็ไม่มีใครสามารถเอาชนะพวกเขาได้!ทันใดนั้นทหารก็รีบก้าวเข้ามารายงาน “ท่านใต้เท้า มีข่าวจากทางเมืองหลวง ผู้บัญชาการเสวี่ยได้ออกคำสั่ง กำลังจะเข้าสู่ฤดูหนาว และอากาศจะหนาวขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ให้เรายึดเมืองไว้ไม่ออกไปข้างนอก สู้ได้ตามใจ เมื่อ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 249

สือเหยาเฉียน เจ้ากระทรวงกรมโยธาธิการกล่าวว่า “เสนาบดีฝ่ายซ้าย ท่านกำลังพูดถึงอะไร? เสนาบดีฝ่ายขวาเสนอให้เจรจาสันติภาพเพื่อประโยชน์ของแผ่นดินต้าเย่ หากจะสู้ก็ต้องค้นหาแม่ทัพที่สามารถเอาชนะอ๋องถูหนานได้ หากหาได้ ข้าจะเห็นด้วยทันที!”ฮ่องเต้ซิงหลงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “สิ่งที่เจ้ากระทรวงสือพูดนั้นสมเหตุสมผล หากต้องการต่อสู้จริง ๆ ก็ต้องหาแม่ทัพที่สามารถเอาชนะอ๋องถูหนานได้ ไม่เช่นนั้น หากจะพึ่งเพียงเสวี่ยผานและหร่วนเฉิงกังอย่างเดียว ก็คงต้องอดทนรอต่อไป”“การเอาชนะอ๋องถูหนานจะยากเย็นอะไรปานนั้น?”หยางเฟิ่งกั๋วเงยหน้าขึ้น “ฝ่าบาททรงลืมไปแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ ว่าในการต่อกรกับชาวหวงนั้น เราทิ้งใครไว้ข้างหลังในเมืองจิ่วซาน”ฉินจ้าน เจ้ากระทรวงกรมกลาโหม และโจวจิงเหย่เจ้ากระทรวงพิธีกรรมกล่าวว่า “ฝ่าบาท โปรดใช้อู๋หลิงเพื่อเอาชนะทหารม้าของอ๋องถูหนาน เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีของแผ่นดินต้าเย่เถอะพ่ะย่ะค่ะ”อู๋หลิง ลูกชายของแม่ทัพมู่ ซึ่งเป็นแม่ทัพหนุ่มแห่งกองทัพเกราะดำ เข้าร่วมกองทัพกับแม่ทัพมู่เมื่ออายุสิบสามปี เขาได้ฝึกวรยุทธ์และทักษะทางทหารกับแม่ทัพมู่ครั้งหนึ่งเขาเคยนำทหารม้าร้อยนาย ไปฆ่
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 250

หยางเฟิ่งกั๋ว โจวจิงเหย่ และฉินจ้านรู้สึกดีใจมากเมื่อได้ยินดังนั้น เพราะคิดว่าคำแนะนำของพวกเขาจะถูกนำไปใช้คาดไม่ถึงว่าฮ่องเต้ซิงหลงจะเปลี่ยนประเด็น “สั่งให้ผู้บัญชาการเสวี่ยผาน และรองผู้บัญชาการหร่วนเฉิงกัง ใช้ด่านหัวมังกรเป็นพื้นฐานในการต่อต้านด้วยกำลังทั้งหมด แล้วชะลอจนกว่าข้าศึกจะล่าถอยไปเองในฤดูหนาว!”หยางเฟิ่งกั๋วขมวดคิ้วพูดว่า “ฝ่าบาท ผู้บัญชาการสูงศักดิ์เสวี่ยผาน ข้าได้ยินมาว่าเขาไม่เคยเป็นแนวหน้าเลย นับตั้งแต่เขาดูแลด่านหัวมังกร แม้ว่าหร่วนเฉิงกังจะมีประสบการณ์การต่อสู้หลายร้อยครั้ง แต่เขาขาดความสามารถในการปรับตัว แล้วเขาจะจัดการกับจิ้งจอกเฒ่าอ๋องถูหนานอย่างไร? โปรดให้อู๋หลิงรับผิดชอบด้วยเถอะพ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้ซิงหลงโบกมือด้วยความไม่พอใจ “มีด่านหัวมังกรคุมอยู่ ข้าไม่เชื่อว่าเราไม่อาจหยุดชาวหวงได้! สำหรับเรื่องสั่งอู๋หลิง เราจะหารือกันในภายหลัง พวกเจ้าออกไปกันได้แล้ว ข้าเหนื่อยแล้ว!”...“คุณชาย เจ้ากำลังทำอะไรอยู่ เหตุใดถึงต้องการช่างฝีมือมากมายถึงเพียงนี้!”ในลานบ้านตระกูลเว่ย หูเมิ่งอิ๋งอยากรู้อยากเห็น ขณะที่นางมองช่างฝีมือทั้งยี่สิบคน“เจ้าจะรู้เมื่อทำเสร็จแล้ว ไม่เพ
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
2324252627
...
187
DMCA.com Protection Status