Share

บทที่ 249

Author: ชวินเป่ยอี๋
สือเหยาเฉียน เจ้ากระทรวงกรมโยธาธิการกล่าวว่า “เสนาบดีฝ่ายซ้าย ท่านกำลังพูดถึงอะไร? เสนาบดีฝ่ายขวาเสนอให้เจรจาสันติภาพเพื่อประโยชน์ของแผ่นดินต้าเย่ หากจะสู้ก็ต้องค้นหาแม่ทัพที่สามารถเอาชนะอ๋องถูหนานได้ หากหาได้ ข้าจะเห็นด้วยทันที!”

ฮ่องเต้ซิงหลงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “สิ่งที่เจ้ากระทรวงสือพูดนั้นสมเหตุสมผล หากต้องการต่อสู้จริง ๆ ก็ต้องหาแม่ทัพที่สามารถเอาชนะอ๋องถูหนานได้ ไม่เช่นนั้น หากจะพึ่งเพียงเสวี่ยผานและหร่วนเฉิงกังอย่างเดียว ก็คงต้องอดทนรอต่อไป”

“การเอาชนะอ๋องถูหนานจะยากเย็นอะไรปานนั้น?”

หยางเฟิ่งกั๋วเงยหน้าขึ้น “ฝ่าบาททรงลืมไปแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ ว่าในการต่อกรกับชาวหวงนั้น เราทิ้งใครไว้ข้างหลังในเมืองจิ่วซาน”

ฉินจ้าน เจ้ากระทรวงกรมกลาโหม และโจวจิงเหย่เจ้ากระทรวงพิธีกรรมกล่าวว่า “ฝ่าบาท โปรดใช้อู๋หลิงเพื่อเอาชนะทหารม้าของอ๋องถูหนาน เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีของแผ่นดินต้าเย่เถอะพ่ะย่ะค่ะ”

อู๋หลิง ลูกชายของแม่ทัพมู่ ซึ่งเป็นแม่ทัพหนุ่มแห่งกองทัพเกราะดำ เข้าร่วมกองทัพกับแม่ทัพมู่เมื่ออายุสิบสามปี เขาได้ฝึกวรยุทธ์และทักษะทางทหารกับแม่ทัพมู่

ครั้งหนึ่งเขาเคยนำทหารม้าร้อยนาย ไปฆ่
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 250

    หยางเฟิ่งกั๋ว โจวจิงเหย่ และฉินจ้านรู้สึกดีใจมากเมื่อได้ยินดังนั้น เพราะคิดว่าคำแนะนำของพวกเขาจะถูกนำไปใช้คาดไม่ถึงว่าฮ่องเต้ซิงหลงจะเปลี่ยนประเด็น “สั่งให้ผู้บัญชาการเสวี่ยผาน และรองผู้บัญชาการหร่วนเฉิงกัง ใช้ด่านหัวมังกรเป็นพื้นฐานในการต่อต้านด้วยกำลังทั้งหมด แล้วชะลอจนกว่าข้าศึกจะล่าถอยไปเองในฤดูหนาว!”หยางเฟิ่งกั๋วขมวดคิ้วพูดว่า “ฝ่าบาท ผู้บัญชาการสูงศักดิ์เสวี่ยผาน ข้าได้ยินมาว่าเขาไม่เคยเป็นแนวหน้าเลย นับตั้งแต่เขาดูแลด่านหัวมังกร แม้ว่าหร่วนเฉิงกังจะมีประสบการณ์การต่อสู้หลายร้อยครั้ง แต่เขาขาดความสามารถในการปรับตัว แล้วเขาจะจัดการกับจิ้งจอกเฒ่าอ๋องถูหนานอย่างไร? โปรดให้อู๋หลิงรับผิดชอบด้วยเถอะพ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้ซิงหลงโบกมือด้วยความไม่พอใจ “มีด่านหัวมังกรคุมอยู่ ข้าไม่เชื่อว่าเราไม่อาจหยุดชาวหวงได้! สำหรับเรื่องสั่งอู๋หลิง เราจะหารือกันในภายหลัง พวกเจ้าออกไปกันได้แล้ว ข้าเหนื่อยแล้ว!”...“คุณชาย เจ้ากำลังทำอะไรอยู่ เหตุใดถึงต้องการช่างฝีมือมากมายถึงเพียงนี้!”ในลานบ้านตระกูลเว่ย หูเมิ่งอิ๋งอยากรู้อยากเห็น ขณะที่นางมองช่างฝีมือทั้งยี่สิบคน“เจ้าจะรู้เมื่อทำเสร็จแล้ว ไม่เพ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 251

    ... ตระกูลหยาง! หยางว่านหลี่ถามหน้านิ่ง “เรื่องการย้ายไปทางใต้เตรียมตัวไปถึงไหนแล้ว?” “ทุกอย่างพร้อมพร้อมแล้วขอรับ!” ผู้ดูแลตระกูลหยางตอบว่า “เราได้เตรียมรถม้าหนึ่งร้อยคัน และคนคุ้มกันสองร้อยคน และจะใช้เวลาอีกสองวันในการขนส่งทองคำและเงินจากบ้านบรรพชน เราสามารถออกเดินทางได้ในวันมะรืนนี้ขอรับ” หยางว่านหลี่กำชับว่า “ต้องเชิญหมอไปด้วย พร้อมทั้งเตรียมยาทุกชนิดให้พร้อม!” ผู้ดูแลยกกำปั้นของเขาแล้วถอยออกไป “แค่ก ๆ!” หยางซั่วที่สวมเสื้อผ้าหนาพร้อมสีหน้าซีดเซียวเดินเข้ามา แล้วมองไปรอบ ๆ อย่างอาวอน “รากฐานเก่าแก่นับศตวรรษของตระกูลหยางของข้ากลับถูกทิ้งร้างเช่นนี้!” หยางว่านหลี่กล่าวว่า “มีคนสนิทและคนรับใช้คอยดูแลบ้านอยู่ หากพวกโจรไม่ตีด่านหัวมังกรแตกได้ เราก็ยังสามารถกลับมาได้หลังจากที่พวกเขาล่าถอย หากพวกโจรโจมตีด่านแตกแล้วบุกเข้ามา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงบ้านเหล่านี้แล้ว แม้แต่กิจการเกลือก็จะจบสิ้น” “กิจการเกลือ!” หยางซั่วหรี่ตาลง “ข้าได้ยินมาว่าในการประชุมกวีนิพนธ์เมื่อวานนี้ แผนการจัดการกับคนต่ำต้อยนั้นล้มเหลวอีกครั้ง นอกจากนี้เขายังขายอาวุธวิเศษสามชิ้น และได้รับเงินเหรียญทองจำน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 252

    ผู้หญิงชุดม่วงแอบโมโหเบา ๆ! เศรษฐีผู้นี้กล้าให้แม่ทัพหนุ่มระบำดาบ นี่กำลังปฏิบัติต่อเขาเหมือนนักเต้นหรือนักแสดงและดูอย่างขบขำ! “ท่านแม่ทัพ ข้าพาคนมาแล้วขอรับ!” พวกเขาทั้งหมดอยู่ที่ถนนหวู่เป้ยทางตอนใต้ของเมือง ไม่นานหลังจากนั้น ชายหนุ่มในชุดขาวก็ก้าวเข้ามาในห้องโถง เขายืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบ ๆ ราวกับหอกแทงทะลุนภาอันกว้างใหญ่ เผยให้เห็นความสามารถที่ได้แสดงออกมาอันน่าทึ่ง ผู้หญิงในชุดสีม่วงตัวสั่นไปทั้งตัว เมื่อมองไปที่ร่างในชุดขาว น้ำตาก็ไหลออกมาในดวงตาของนาง เมื่อมองไปที่ดวงตาของผู้หญิงชุดสีม่วง ดวงตาของอู๋หลิงก็สั่นไหว และเขาก็หันไปหาเสวี่ยผานด้วยสีหน้าว่างเปล่า “มีอันใดหรือ?” “เมื่อวานนี้ ข้าได้อาวุธวิเศษที่สามารถทำลายเกราะได้หกสิบครั้ง และตัดเหล็กได้เหมือนโคลน!” เสวี่ยผานคว้าดาบราชวงศ์ถังแล้วโยนมันออกไปด้วยหลังมือของเขา “ข้าได้ยินมาว่าทักษะดาบของตระกูลหวู่นั้นไม่มีใครเทียมเท่าในใต้หล้านี้ วันนี้ข้าจัดงานเลี้ยงเชิญแขกผู้มีเกียรติ เจ้าสามารถระบำดาบเพื่อสร้างความบันเทิงให้ข้าและแขกผู้มีเกียรติ!” ปัง! อู๋หลิงไม่ได้เข้าไปรับ แต่ปล่อยให้ดาบราชวงศ์ถังล้มลงกับพื้น และพูด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 253

    เสวี่ยผานเพิ่งถอนหายใจด้วยความโล่งอก! เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ... อู๋หลิงคว้าคอเสื้อของเขาแล้วตบเขารัว ๆ ด้วยหลังมือ “เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน เจ้ากล้าเอาแม่และพี่น้องมาข่มขู่ข้า เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าฆ่าเจ้าตอนนี้ได้ และจะไม่มีใครกล้าแตะต้องพวกเขาแม้แต่น้อย!” “เจ้า เจ้า...” ดวงตาของเสวี่ยผานเบิกกว้างแดงก่ำ ราวจะระเบิดออกมาด้วยความโกรธ พรวด! อู๋หลิงผลักกลับและโยนเสวี่ยผานลงบนที่นั่ง เขาเสียบดาบราชวงศ์ถังไว้ข้างคอ แล้วหันหลังกลับและเดินจากไป “อย่ามาท้าทายกับความอดทนของข้าอีก ข้าเกรงว่าวันหนึ่งข้าจะสูญเสียการควบคุมและลงมือทำสิ่งที่ไม่ดี” “ไอ้สารเลว เจ้ากล้าดียังไงมาทำอย่างนี้กับข้า! เด็ก ๆ เข้ามาจับตัวเขาไป!” เสวี่ยผานลุกขึ้น คว้าดาบราชวงศ์ถังแล้วชี้ไปที่เขา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเดือดดาล! นักโทษผู้นี้ทำให้เขาอับอายต่อหน้าคนนอกจริง ๆ พรวด พรวด พรวด... ทหารกลุ่มหนึ่งพุ่งเข้ามาจากทั้งสองฝ่าย! อู๋หลิงมองไปทางซ้าย! ผัวะ ผัวะ ผัวะ! ทหารทางซ้ายเซกลับ! อู๋หลิงมองไปด้านข้างที่ทหารทางขวาอีกครั้ง! ทหารทางขวาตัวสั่นและล่าถอย! อู๋หลิงเอามือไพล่หลังและเดินออกจากบ้า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 254

    ดวงตาของอู๋หลิงฉายแววเจ็บปวดพร้อมส่ายหัว “ข้าไม่ได้ทำเพื่อราชสำนัก แต่ข้าทำเพื่อสานต่อเจตนาของท่านพ่อ ท่านพ่อบอกว่าหากในใต้หล้านี้ยังมีสงครามไม่จบสิ้น คนที่ถูกสังหารย่อมเป็นประชาชนธรรมดาเสมอ ตราบใดที่ต้าเย่ยังเจริญรุ่งเรือง ใต้หล้านี้ก็จะไม่มีสงครามเกิดขึ้น ยิ่งกว่านั้น ประชาชนก็จะสามารถเป็นอยู่ได้อย่างสงบสุข นี่คือสิ่งที่ท่านพ่อปรารถนา และเป็นสิ่งเดียวที่ข้าสามารถทำเพื่อท่านพ่อได้!” ... ฟ้ามืดแล้ว และช่างฝีมือในสวนหลังบ้านก็กลับบ้านแล้ว โดยทิ้งส่วนประกอบต่าง ๆ ที่ทำเสร็จแล้วไว้มากมาย! หวังหยวนนำภาพวาดและไม้บรรทัดเชือกที่ทำขึ้นเองมาวัดขนาดของแต่ละส่วนประกอบ ข้อดีของการมีเงินคือตราบใดที่เจ้าเสนอความต้องการ ก็จะมีคนช่วยเจ้าทำสิ่งนั้น! ไม่ว่าจะเป็นช่างฝีมือ และวัสดุที่ใช้ล้วนเป็นของชั้นยอดจากเมืองจิ่วซาน หวังหยวนเริ่มประกอบมัน ด้วยความช่วยเหลือของหูเมิ่งอิ๋ง เขาทำงานจนมืดค่ำ และในที่สุดก็ประกอบสำเร็จ “อ๊าก!” ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดร้องดังมาจากสวนหลังบ้าน วี๊ด... วี๊ด... เสียงผิวปากแหลมคมดังขึ้น และเสียงดังกึกก้องนั้นมาจากสวนหลังบ้าน! “ตามหลังข้ามา!” หวังหยวนถือหน้าไ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 255

    “ขอรับ!” องครักษ์เหล่าสือซื่อและเหล่าสือชีต่างพยักหน้า “อ๊าก!” ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดดังมาจากสนามหญ้า “มีเรื่องเกิดขึ้น!” อู๋หลิงขี่ม้าไปที่กำแพงลานบ้าน เมื่อเข้าไปใกล้ก็เหยียบหลังม้าแล้วพุ่งเข้าไป ทั้งสองคนก็รีบพุ่งกระโดดเข้าไปด้วย! ลานบ้านสว่างไสวและมีโคมไฟอยู่ทั่วทุกแห่ง “หัวหน้าสวี่ ข้ารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เราหยุดปล้นเงินนี้กันดีกว่า!” ชายคนหนึ่งถือมีดสีดำที่มีช่องว่างเหลือบมองไปรอบ ๆ เพื่อกล่าวเตือน “ติงสือซาน เจ้าอย่าคิดที่จะยอมแพ้เป็นอันขาด ครอบครัวที่ร่ำรวยมีเงินมากมาย จุดไฟเยอะแล้วอย่างไรเล่า!” ชายสวมหน้ากากที่เป็นผู้นำโบกมีดยาวของเขา “สหายต่างอยู่ที่นี่หมดแล้ว ยังไงก็ต้องกินเนื้ออ้วน ๆ ตัวนี้ให้ได้” ชายสวมหน้ากากคนอื่น ๆ ก็ฉายแววตาอันดุร้ายและมุ่งมั่น ติงสือซานพึมพำ “อย่าโทษข้าที่ไม่เตือนเจ้าแล้วกัน บรรยากาศที่นี่ผิดปกติมาก มันเหมือนกับถูกซุ่มโจมตีระหว่างบุกโจมตี หากพวกเจ้าไม่กลัวตายก็ลุยเลย” “ซุ่มโจมตี?” ชายสวมหน้ากากผู้นำสะดุ้ง และคนกลุ่มหนึ่งก็หยุดแล้วมองไปโดยอชจมรอบอย่างระมัดระวัง! “ยิงธนู!” ด้วยกลัวว่าพวกโจรจะหนีไปไ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 256

    ชายสวมหน้ากากกัดฟันแล้วพูดว่า “มีวิธีต่อกรหรือไม่?” ติงสือซานมองไปรอบ ๆ “ก่อนอื่นให้ดับโคมไฟแล้วกระจายทุกคนออกไป หากพวกเขามองเห็นไม่ชัดเจน พวกเขาจะไม่สามารถเล็งและยิงได้อย่างแม่นยำ!”“สมแล้วที่เคยต่อสู้ในสงคราม ให้ตายเถอะ สมองของเขาทำงานได้ดี ดับไฟ!” ชายสวมหน้ากากที่เป็นผู้นำเหวี่ยงมีดออกมาแล้วทุบโคมจนแตก ทันใดนั้นลานบ้านก็มืดลง! ชายสวมหน้ากากคนอื่น ๆ ก็ทำตาม และในไม่ช้าลานบ้านก็ตกอยู่ในความมืดมิด! “ถอย!” ในเมื่อไม่สามารถเล็งได้ กัวเหลียงก็ไม่ตื่นตระหนก เขาโบกมือ จากนั้นคนกลุ่มหนึ่งก็ถอยกลับ “ลุย!” ชายสวมหน้ากากกลุ่มหนึ่งไล่ล่าเข้าไปในลานด้านใน และพบกับชายสวมหน้ากากอีกกลุ่มหนึ่ง! ความสูญเสียของพวกเขารุนแรงยิ่งขึ้น เดิมทีเหลือกลุ่มคนอีกสามสิบคน แต่ตอนนี้กลับเหลือเพียงครึ่งหนึ่ง คนสองกลุ่มรวมกันมีจำนวนสามสิบห้าคน ทุกคนต่างรวมตัวกันรอบลานด้านในที่มีแสงสว่างจ้า โดยไม่กล้าก้าวเข้าไปข้างใน ในบ้าน หวังหยวนเอามือไพล่หลัง โดยมีหูเมิ่งอิ๋งยืนอยู่ข้างเขา กัวเหลียงและกัวเฉียงซึ่งถือหน้าไม้แปลกประหลาดยืนอยู่ทั้งสองด้าน เช่นเดียวกับต้าหู่และเอ้อหู่ที่สวมชุดเกราะสีดำ “เป็นพวก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 257

    พวกเขารู้สึกว่าชายผู้นี้อันตรายเป็นอย่างยิ่ง ซ้ำยังแข็งแกร่งยิ่งกว่าตอนที่พ่อของพวกเขามีเจตนาสังหาร! ติงสือซานพูดอย่างรวดเร็ว “ต้าหู่ เอ้อหู่ อย่าไร้มารยาท บุรุษผู้นี้คือแม่ทัพหนุ่มของกองทัพเกราะดำ!” อู๋หลิงยิ้มให้ต้าหู่และเอ้อหู่ จากนั้นเขาก็เดินตรงไปที่หวังหยวน และยกกำปั้นขึ้นพร้อมโค้งคำนับ “อู๋หลิง บุตรชายของอู๋มู่ ขอพบคุณชายหมิงถัน ขอบคุณคุณชายยิ่งนักที่แต่งบทกวีให้ท่านพ่อของข้า ที่ประชุมกวีนิพนธ์ติ้งหลงไถ” หวังหยวนเดินเลี่ยงและพูดว่า “แม่ทัพหนุ่มไม่ต้องมากพิธี พูดตามตรง ข้าก็ชื่นชมมู่ซ่วยเช่นกัน ทว่าคำบทกวีเหล่านั้นไม่ได้ถูกแต่งขึ้นมาเพื่อมู่ซ่วยจริง ๆ!” อู๋หลิงส่ายหัวและพูดอย่างเคร่งขรึม “ไม่ว่าท่านจะนึกถึงใครในตอนเขียนบทกวีก็ตาม เมื่อมีคำว่า 'รำลึกอู๋มู่' และบทกวีอันโด่งดังนั้นจะถูกส่งต่อไปยังยุคสมัย ผู้คนก็ย่อมคิดถึงท่านพ่อเมื่อพวกเขาอ่านมัน ท่านสมควรได้รับการเคารพ!” หวังหยวนเปลี่ยนหัวข้อ “เช่นนั้นท่านแม่ทัพหนุ่มมาที่นี่คืนนี้ เพียงเพื่อจะกล่าวขอบคุณหรือ!” “ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ไว้คุยกันคราวหลัง เรามาจัดการกับเรื่องพวกนี้ก่อนเถอะขอรับ!” เมื่อชี้ไปที่ลานบ้าน อู๋หลิง

Latest chapter

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2122

    “ท่านขุนพล ท่านเจี๋ยง!”“พวกท่านหมายความว่าอย่างไร?”ไป๋อวิ๋นเฟยรีบเดินเข้ามาในฝูงชน ไป๋ลั่วหลีที่เดินตามหลังมาแบกกล่องใบใหญ่ ไม่มีใครรู้ว่าข้างในมีอะไร แต่ดูจากขนาดแล้ว หวังหยวนรู้ว่าข้างในต้องเป็นปืนไรเฟิลซุ่มยิง!มีผู้ช่วยมาแล้ว เขาไม่ต้องกังวล!“ท่านหวังเป็นแขกของข้า!”“เป็นแขกคนสำคัญของเสด็จแม่ด้วย!”“ข้าเชิญท่านหวังมาปรึกษาหารือ แต่พวกท่านกลับจะทำร้ายท่านหวัง นี่หรือคือมารยาทการต้อนรับแขกของราชวงศ์ต้าเย่?”ไป๋อวิ๋นเฟยมองซือฟางและเจี๋ยงโฉ่วอีอย่างเย็นชา พลางตะโกนตำหนิ โดยไม่สนใจฐานะของคนทั้งสอง!“องค์ชายใหญ่! คงเป็นการเข้าใจผิดกันพ่ะย่ะค่ะ!”เจี๋ยงโฉ่วอีไม่ใช่แค่ที่ปรึกษาคนสำคัญของราชวงศ์ต้าเย่ แต่ยังเป็นคนเจ้าเล่ห์หน้าตายอีกด้วย ในชั่วพริบตา เขาก็ตีหน้ายิ้มแย้ม เดินไปหาไป๋อวิ๋นเฟย“พวกกระหม่อมคิดว่าท่านหวังออกจากเมืองหลวงไปแล้ว บังเอิญมาพบกันที่นี่ จึงอยากเชิญท่านหวังไปที่จวน ส่วนที่พาทหารมาด้วยก็เพื่อคุ้มครองท่านหวัง!”“ไม่ว่าใครก็รู้ว่าท่านหวังเป็นบุคคลสำคัญ หากท่านประสบปัญหาในเมืองหลวง แล้วข่าวแพร่กระจายออกไป คงไม่เป็นผลดีต่อพวกกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ!”“กระหม่อมทำเช่นนี

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2121

    “ข้าพูดดี ๆ กับท่านหวัง หวังว่าท่านจะให้เกียรติพวกข้า เพื่อรักษาหน้าตาของกันและกัน”“แต่หากท่านหวังยังดื้อรั้น ก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือน...”“แม้ว่าข้าจะไม่อยากมีเรื่องกับท่าน แต่ผู้ใต้บัญชาของข้าล้วนเป็นคนใจร้อน!”นี่เป็นการข่มขู่ หวังหยวนจะไม่เข้าใจได้อย่างไร?หึหวังหยวนไม่โกรธ กลับหัวเราะ แล้วหยิบปืนคาบศิลาออกมา มองซือฟางก่อนกล่าวว่า “ดูเหมือนว่าเจ้ายินดีพร้อมจะสู้กับข้าแล้วจริง ๆ กระมัง?”“เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องเสแสร้งอีกต่อไป”“ข้าอยากรู้ว่าผู้ใต้บัญชาของเจ้า หรือปืนคาบศิลาของข้า ใครจะแน่กว่ากัน!”ซือฟางกัดฟันแน่น เขาไม่คิดว่าหวังหยวนจะกล้าหาญถึงเพียงนี้!มีคนมากมายอยู่ตรงหน้า แต่หวังหยวนกลับไม่เกรงกลัว ซ้ำยังจะลงมือต่อสู้อีกด้วย?ช่างน่าเจ็บใจ!คิดว่าทุกคนในต้าเย่จะถูกรังแกได้ง่าย ๆ หรืออย่างไร?“หวังหยวน!”“ท่านอวดดีเกินไปแล้วหรือไม่?”“ในเมื่อท่านอยากเล่น ข้าก็จะเล่นกับท่าน!”ซือฟางโกรธมากจนตะโกนลั่น ก่อนจะโบกมือสั่งผู้ใต้บัญชา เห็นได้ชัดว่าจะให้ผู้ใต้บัญชารุมหวังหยวน!เจี๋ยงโฉ่วอีไม่ได้เอ่ยคำใดสถานการณ์เลวร้ายเกินควบคุมแล้วทำได้เพียงรอดูสถานการณ์!“พี่ใหญ่!

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2120

    เขายังรู้จักชื่อของข้าด้วยงั้นหรือ?“พี่ใหญ่ไม่ต้องแปลกใจหรอกขอรับ”“ท่านอาจจะไม่รู้ตัว แต่ท่านมีชื่อเสียงโด่งดังไปไกล!”“แม้ว่าที่นี่จะเป็นดินแดนของราชวงศ์ต้าเย่ แต่พวกเราก็เคยได้ยินเรื่องราวของท่าน”“ไม่ใช่แค่ข้า แต่ชาวบ้านแถวนี้ก็รู้จักท่านกันทั้งนั้นขอรับ!”“ท่านคือวีรบุรุษในดวงใจของพวกเขา!”“หากไม่มีท่าน คงเกิดสงครามไม่หยุดหย่อน!”“พี่ใหญ่คือผู้มีพระคุณของชาวโลก ใครจะลืมท่านได้เล่าขอรับ?”ไฉจวิ้นกล่าวอย่างภาคภูมิใจที่แท้เป็นเช่นนี้หวังหยวนเข้าใจแล้ว ดูเหมือนว่าการกระทำของเขาทำให้ผู้คนประทับใจ!ก็คงเป็นเช่นนั้น หากไม่มีเขา ดินแดนทั้งเก้าคงไม่สงบสุข และสี่ผู้นำคงไม่ได้เจรจากันที่หอหลิวหลีจนสำเร็จ!ช่างเป็นเรื่องราวที่ดี!“การได้ติดตามพี่ใหญ่นับเป็นบุญของข้า!”ไฉจวิ้นกล่าวต่อ “เมื่อคืนท่านปู่ได้สั่งเสียข้าไว้ว่าให้ติดตามท่าน แล้วท่านจะพาข้าไปสู่ความสำเร็จ”“ข้าเชื่อมั่นในท่านปู่ และเชื่อมั่นในตัวท่านมากด้วยขอรับ!”“พี่ใหญ่โปรดวางใจ ต่อไปข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง หากท่านต้องการสิ่งใด ข้ายินดีตอบแทนด้วยชีวิต!”“แม้ว่าข้าจะไม่มีความสามารถอะไร แต่ข้าก็มีพละกำลัง ข้าคงช่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2119

    “ข้ารู้อยู่แล้วว่าต้องเกี่ยวข้องกับพวกมัน!”หวังหยวนกำหมัดแน่น แล้วถามต่อ “เจ้ารู้หรือไม่ว่าพวกมันมาที่นี่เพื่ออะไร?”ทหารมากมายขนาดนี้สามารถบุกเข้าเมืองได้ในทันที!ไป๋อวิ๋นเฟยถูกลดอำนาจไปแล้ว เหลือเพียงตำแหน่งองค์ชาย แต่ไม่มีอำนาจใด หากสู้รบกันจริง พวกเขาคงจะเสียเปรียบ!สุดท้ายหวังหยวนคงต้องหนีไปจากที่นี่!แต่หากเป็นเช่นนั้น ราชวงศ์ต้าเย่ก็จะวุ่นวายไร้การควบคุม!ยิ่งกว่านั้น การกระทำของเขาคงทำให้ซือฟางกับเจี๋ยงโฉ่วอีเกลียดชัง สุดท้ายก็จะยิ่งยุ่งยากกว่าเดิม!นี่ไม่ใช่สิ่งที่หวังหยวนต้องการ!“ข้ารู้ว่าท่านผู้นำกังวลเรื่องนี้”“ก่อนมาที่นี่ ข้าได้จับทหารสองสามคนมาสอบถามแล้ว!”“พวกเขาบอกว่ายกทัพมาเพื่อปราบกบฏ ไม่ได้คิดก่อกบฏ!”“ดังนั้น ข้าคิดว่าพวกเขาแค่เตรียมแผนสำรอง ไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่ท่านคิดขอรับ”เกาเล่อรีบตอบที่แท้เป็นเช่นนี้หวังหยวนเข้าใจ ซือฟางกับเจี๋ยงโฉ่วอีเป็นคนรอบคอบจริง ๆ“เช่นนั้นเจ้าก็กลับไปเถิด”“จำไว้! ต้องจับตาดูความเคลื่อนไหวของพวกเขาให้ดี!”“หากเกิดเหตุฉุกเฉิน ข้าจะติดต่อเจ้าให้เจ้าพาข้าออกจากเมืองโดยเร็วที่สุด!”หวังหยวนกำชับซือฟางกับเจี๋ยงโฉ่วอ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2118

    “เรื่องอะไร?”หวังหยวนพูดด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้เราเป็นพี่น้องกันแล้ว เรื่องของเจ้าก็คือเรื่องของข้า ไม่ต้องเกรงใจ พูดมาตามตรงได้เลย”“ท่านก็รู้ว่าบ้านข้ายากจน ข้าไม่มีเงิน...”“แม้แต่เมื่อวานตอนซื้อยาให้ท่านปู่ ท่านก็เป็นคนออกเงินให้...”“ตอนนี้ท่านปู่จากไป ข้ากลับไม่มีเงินซื้อโลงศพดี ๆ ให้ท่าน ช่างอกตัญญูนัก!”“ข้าหวังว่าท่านจะให้ข้าหยิบยืมเงินเพื่อฝังท่านปู่ นับเป็นการทำหน้าที่ครั้งสุดท้ายของข้า...”ไฉจวิ้นกล่าวนี่เป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาทำได้ไฉปิ่งอี้เลี้ยงดูเขามาอย่างดี เขาเห็นมาโดยตลอดแต่ตอนนี้เขาไม่มีอะไรตอบแทน ทำได้เพียงซื้อโลงศพอย่างดีให้ไฉปิ่งอี้จากไปอย่างสงบ นับเป็นการตอบแทนครั้งสุดท้าย...หวังหยวนพยักหน้า “ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นคนกตัญญู เรื่องนี้ข้าจะจัดการเอง”“ข้าจะกลับเข้าเมืองไปจัดการงานศพให้ท่านไฉ จะให้เขาได้จากไปอย่างสมเกียรติ!”ไฉจวิ้นพยักหน้าด้วยความซาบซึ้ง ในที่สุดก็ไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้อีกต่อไป...เขายังโชคดี แม้ว่าไฉปิ่งอี้ ญาติคนเดียวของเขาจะจากไป แต่เขาก็ได้พบกับหวังหยวนสวรรค์ยังเมตตาเขา!ทันใดนั้นมีเสียงฝีเท้าดังมาจากข้างหลังหวังหยวนหันกลับไปมอง ป

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2117

    “ดูเหมือนว่าพวกมันจะเล่นงานพวกเรา!”“พวกเราคงออกจากเมืองไม่ได้แล้ว ต้องกลับไปที่ตำหนักองค์ชายก่อน แล้วปรึกษาหารือแผนการรับมือ!”หลิ่วหรูเยียนรีบกล่าวสถานการณ์ไม่สู้ดี ตัวตนของหวังหยวนถูกเปิดเผยแล้ว อีกทั้งพวกเขายังมีกำลังพลน้อยนิดด้วย หากติดอยู่ในเมืองหลวง ผลลัพธ์คงเลวร้าย!หวังหยวนเป็นถึงเจ้าแห่งเมืองหลิง ไม่อาจเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นได้!หากเขาเป็นอะไรไปในต้าเย่ ต้าหู่และคนอื่น ๆ คงจะยกทัพมา ความสงบสุขของดินแดนทั้งเก้าก็จะพังทลายลงนี่ไม่ใช่สิ่งที่หวังหยวนต้องการ!“ข้าจะติดต่อเกาเล่อเพื่อสอบถามสถานการณ์”“แต่ข้ารู้สึกว่าซือฟางกับเจี๋ยงโฉ่วอีไม่น่าจะเป็นคนใจร้อน”“คนทั้งสองเป็นขุนนางคนสำคัญ ซือฟางคงไม่กล้าใช้กำลังในตอนนี้ เพราะจะขัดต่อกฎหมาย”“ถึงตอนนั้นเขาจะกลายเป็นกบฏ!”หวังหยวนไม่เข้าใจ เขาให้ไป๋อวิ๋นเฟยสงบนิ่งไว้ก่อน เหตุใดซือฟางถึงได้ตื่นตระหนก?ตอนนี้สถานการณ์ในเมืองหลวงยิ่งควบคุมยาก หากพลาดพลั้งไป ทุกอย่างจะพังทลาย!“ไม่ต้องไปหาองค์ชายใหญ่แล้ว”“พวกเราไปหาไฉจวิ้นก่อน ดูว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง”“มีไป๋ลั่วหลีอยู่กับไป๋อวิ๋นเฟย หากเกิดเรื่องอะไรขึ้น นางคงช่วยไกล่เกลี่ยได

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2116

    ซือฟางจ้องมองชายที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้า กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ในเมื่อภารกิจล้มเหลว แล้วเจ้ายังกลับมาเพื่ออะไร? เจ้ามันขยะไร้ประโยชน์ เก็บเจ้าไว้ไม่ได้!”ชายคนนั้นยังไม่ทันได้ตอบ พลันมีทหารสองคนกระโจนเข้ามาฟันคอเขาจนขาดกระเด็น!ซือฟางเตะเก้าอี้ล้ม ชี้ไปยังศพที่นอนจมกองเลือด แล้วกล่าวว่า “มากำจัดให้เรียบร้อยด้วย”เมื่อทุกคนออกไป เจี๋ยงโฉ่วอีที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดจึงเดินออกมาคืนนี้พวกหวังหยวนถูกเล่นงาน แต่ซือฟางกับเจี๋ยงโฉ่วอีกลับไม่ได้พักผ่อน คอยฟังข่าวอยู่ตลอด!“แผนถูกเปิดโปงแล้วหรือ?”เจี๋ยงโฉ่วอีถาม“ชายคนนั้นบอกว่าไม่ได้บอกว่าเป็นพวกเราที่สั่งการ แต่ไป๋อวิ๋นเฟยไม่ใช่คนโง่ ยิ่งหวังหยวนยังอยู่ในเมืองหลวง คงเดาได้ว่าพวกเรามีส่วนเกี่ยวข้องเป็นแน่!”“นั่นหมายความว่า พวกเขาคงสงสัยพวกเราแล้ว”“ดูเหมือนว่าพวกเราต้องเปลี่ยนแผน...”“พอฟ้าสาง ไป๋อวิ๋นเฟยคงจะมาเอาเรื่องพวกเราใช่หรือไม่?”ซือฟางมีสีหน้ากังวล ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะเปิดเผยตัว แต่สถานการณ์กลับเลวร้ายเกินคาด เขาจะทำอย่างไรดี?เจี๋ยงโฉ่วอีมีสีหน้าเคร่งขรึม ไม่ได้เอ่ยคำใด“ท่านไม่ใช่ที่ปรึกษาอัจฉริยะอันดับหนึ่งหรอกหรื

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2115

    หวังหยวนรู้สึกเสียดาย เกือบจะจับคนร้ายได้แล้วเชียว แต่ก็ยังปล่อยให้หนีไปได้...ช่างยุ่งยากนัก!ไป๋อวิ๋นเฟยและไป๋ลั่วหลีที่ซ่อนตัวอยู่ก็เดินออกมา“ข้าจะรีบส่งคนออกไปตามล่า! คงจะพบร่องรอยอยู่!”“พวกมันคงหนีไปได้ไม่ไกลใช่หรือไม่?”“ที่นี่คือเมืองหลวง ข้าจะออกประกาศจับ แม้ว่าข้าจะไม่ได้เป็นไท่จื่อ แต่ข้าก็เป็นถึงองค์ชาย พวกเขาต้องให้เกียรติข้าบ้าง!”ไป๋อวิ๋นเฟยกล่าวอย่างเย็นชาหวังหยวนขมวดคิ้วกล่าว “ไม่จำเป็นต้องตามแล้ว พวกมันคงหนีไปไกลแล้ว”“และอย่าเพิ่งออกประกาศจับเลย ประเดี๋ยวจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น!”ไป๋อวิ๋นเฟยลังเลครู่หนึ่ง ในที่สุดก็พยักหน้าในเมื่อเขาจะร่วมมือกับหวังหยวนก็ต้องเชื่อมั่นในแผนการของหวังหยวน จึงจะมั่นใจได้ว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาด“ข้าคิดว่าพวกเขาคงเป็นคนของซือฟางกับเจี๋ยงโฉ่วอี ทุกคนล้วนเป็นยอดฝีมือ ดูเหมือนว่าครั้งนี้พวกเขาจะฆ่าข้าจริง ๆ”สีหน้าของไป๋อวิ๋นเฟยยิ่งดูแย่ลงเขาเป็นถึงองค์ชาย แต่ไม่คิดว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ช่างน่าเจ็บใจนัก!ยิ่งกว่านั้นคือขุนนางสองคนนั้นกลับไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา เสด็จแม่ของเขายังมีพระชนม์ชีพอยู่ พวกเขาก็ยังกล้าทำเช่นน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2114

    ไป๋อวิ๋นเฟยกำลังจะพูด แต่หวังหยวนกล่าวขัดขึ้นโดยไม่หันมามอง “องค์ชาย รีบออกไปจากที่นี่! ข้าจะช่วยถ่วงเวลาพวกมันไว้!”“แม้จะไม่มีปืนคาบศิลา! พวกมันก็ฆ่าข้าไม่ได้ในเวลาอันสั้นหรอก!”ว่าแล้วหวังหยวนก็กระโจนเข้าใส่คนร้ายสามคนไป๋อวิ๋นเฟยคือตัวแปรสำคัญ หากต้องการเดินหมากให้สำเร็จ ไม่อาจปล่อยให้เขาเป็นอันตรายได้!เพื่อไม่ให้กระทบแผนการใหญ่!ไป๋อวิ๋นเฟยลังเลครู่หนึ่ง เขารู้ว่าหากอยู่ต่อก็จะเป็นภาระให้หวังหยวน สุดท้ายจึงกัดฟันกล่าว “ในเมื่อท่านหวังกล่าวเช่นนั้น ข้าขอตัวก่อน!”“ท่านแค่ถ่วงเวลาไว้ ข้าจะไปตามคนมาช่วย เมื่อคนของเรามาถึง พวกมันก็หนีไม่รอด!”หวังหยวนพยักหน้า แล้วเข้าต่อสู้กับคนร้ายหัวหน้าคนร้ายเบิกตากว้าง เขานึกอะไรขึ้นได้จึงมองหวังหยวนแล้วถาม “ท่านคือหวังหยวนหรือ?”แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าอาวุธลับในมือหวังหยวนคืออะไร แต่เขาก็เคยได้ยินชื่อปืนคาบศิลามาก่อน!นับเป็นอาวุธร้ายแรง เป็นหนึ่งในอาวุธลับของหวังหยวน!บนโลกนี้มีเพียงหวังหยวนเท่านั้นที่มี!ในเมื่อหวังหยวนมีอาวุธนี้ แถมไป๋อวิ๋นเฟยยังเรียกเขาว่าท่านหวังด้วยก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ว่า...ชายตรงหน้าคือหวังหยวน ผู้ที่ทำให้ดิน

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status