แชร์

บทที่ 242

ผู้แต่ง: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
เมื่อเขามาถึงงานประชุมกวีนิพนธ์ติ้งหลงไถ น้องเขยที่เขาไม่ชอบก็อยู่ที่โต๊ะตัดสินแล้ว ส่วนเขารออยู่ด้านล่างเพื่อรับการตัดสิน ซึ่งทำให้เขาไม่อาจเงยหน้าขึ้นได้!

ฟึ่บ!

ใบหน้าของหยางว่านหลี่ซีดลง เขาอุตส่าห์ท่องมาหลายครั้ง และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “แม้ว่าถ้อยคำของเขาจะดี แต่ก็เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและไม่พอใจ เขาจะคลายความกังวลของราชสำนักได้อย่างไร… อ๊ะ!”

“แค้นชิงกู่ฝังใจ ยังไม่ชดใช้! เมื่อใด ล้างหนี้ใคร่รู้? ควบรถบดค่ายศัตรู ย่ำเขาปาตี่พินาศไป! กระหายหาญ ฉีกกินเนื้อคนเถื่อน ดื่มเลือดสรวลสันต์ รอก่อนถึงวันกอบกู้แผ่นดินผัน เข้าเฝ้าโห่ร้องฉลองชัย!”

หวังหยวนพูดเสียงดัง ประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ต่างเปลี่ยนไป

ไม่ใช่ว่าเขาต้องการเปลี่ยนคำพูดของงักฮุย แต่เนื่องจากเวลาและสถานที่แตกต่างกัน เขาจึงต้องเปลี่ยนคำสองสามคำให้เหมาะสมกับโอกาส

จบเรียบร้อย!

ทั่วบริเวณเงียบกริบ!

ครู่ต่อมา ผู้แข่งขันแห่กันไปหาหวังหยวน ต่างสูญเสียความยับยั้งชั่งใจ ไม่มีใครรู้สึกว่าเป็นเรื่องน่าละอาย หากจะขอคำแนะนำจากถงเซิง ที่สำคัญกว่านั้น น้ำเสียงของพวกเขาเต็มไปด้วยความเกรงขามและยกย่อง!

“ท่านหมิงถัน, แค้นชิงกู่ ท่านหมายถ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 243

    ฟึ่บ!หวังหยวนไม่รอช้า ดึงดาบราชวงศ์ถังออกมา แล้วมอบให้ต้าหู่เพื่อให้เขาแสดงอานุภาพทันทีต้าหู่ฟาดดาบลงสองครั้ง!เคร้ง!ดาบทหารหักออกเป็นสองท่อน และเกราะหนังหกสิบชั้นบนโต๊ะก็ขาดออกจากกัน!เฮือก!ทั่วบริเวณเงียบลงหวังหยวนคว้าดาบราชวงศ์ถังมา แล้วหมุนข้อมือเพื่อแสดงให้เห็นใบมีดที่ปราศจากความเสียหาย!ต้าหู่ถือมีดที่หักในมือข้างหนึ่ง และเกราะที่หักในมืออีกข้าง ยกขึ้นแสดงให้เห็นอยู่ด้านข้าง“มันสามารถทำลายเกราะได้หกสิบชั้น และตัดเหล็กได้เหมือนตัดดินเหนียว นี่มันทรงพลังยิ่งกว่าดาบอื่น ไม่ถือว่าเกินจริงที่จะเรียกมันว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์!”บัณฑิตส่วนใหญ่ในวงการนี้ไม่สนใจดาบ แต่ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้างขึ้นในขณะนี้ผู้หญิงที่สวมชุดสีม่วงและเสวี่ยผานมองหน้ากันครู่หนึ่ง ราวกับว่าถูกดาบราชวงศ์ถังพรากวิญญาณไปแล้วหลี่ซานซือยิ่งสับสนมากขึ้น สงสัยว่าน้องเขยของเขาไปได้อาวุธวิเศษมาจากไหน!สายตาของไป๋เฟยเฟยกวาดมองดาบราชวงศ์ถัง ในที่สุดก็มองไปที่หวังหยวน และกลายเป็นสนใจมากถ้อยคำที่เขาเพิ่งพูดทำให้ตกตะลึง และตอนนี้เขาก็มีอาวุธวิเศษแล้ว!ชายคนนี้ไม่เคยหยุดทำให้ผู้คนประหลาดใจ!เดิมทีเขาวางแผนท

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 244

    คนจากตระกูลที่ร่ำรวยก็แสดงความคิดเห็นเช่นกัน!อาวุธวิเศษเช่นนี้คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป ไม่ว่าจะซื้อไปเป็นมรดกตกทอดของตระกูลหรือเป็นของกำนัลแม้แต่หยางว่านหลี่ที่เกลียดหวังหยวนจนกัดฟัน ก็ยังขยิบตาให้จู่เหริน แล้วจู่เหรินก็ยืนขึ้นแสดงความตั้งใจว่าจะซื้อมันด้วย!ทันใดนั้น มีคนมากกว่าสิบคนที่แสดงความตั้งใจจะซื้อดาบราชวงศ์ถัง!“ขอบคุณสำหรับความสนใจของทุกคน มีคนอยากได้หลายคน แต่มีอาวุธวิเศษน้อย ดังนั้นเฉพาะผู้ที่เสนอราคาสูงสุดเท่านั้นที่จะได้มันไป!”ปฏิกิริยานี้ทำให้หวังหยวนพอใจมาก แน่นอนว่าเขาเลือกสถานที่ขายดาบได้เหมาะสม!คนหนึ่งเป็นคนแรกที่พูด “หนึ่งพันตำลึงทอง!”ในตลาด ดาบธรรมดาไม่มีค่า แต่ดาบล้ำค่าสามารถขายได้ในราคาหลายร้อยหรือหลายพันตำลึง และอาวุธวิเศษย่อมมีมูลค่ามากกว่าอย่างน้อยสิบเท่า“หนึ่งพันห้าร้อยตำลึงทอง!”“สองพันตำลึงทอง!”“สองพันห้าร้อยตำลึงทอง!”...“ห้าพันตำลึงทอง!”ท่านหลวนชิงยื่นข้อเสนอ แล้วทั่วบริเวณก็เงียบลงห้าพันตำลึงทอง ห้าหมื่นตำลึงเงิน มีตระกูลที่ร่ำรวยมากมายที่สามารถจ่ายได้แต่มีไม่กี่คนที่กล้าแข่งขันกับท่านหลวนชิง จึงต้องยอมแพ้เพื่อรักษาหน้าเขาหลาย

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 245

    หวังหยวนไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี!พี่ไห่เทียนช่วยปั่นราคาให้เขา!ต้องบอกว่าเขาช่วยปั่นราคาได้ดีมาก เพราะเขาได้เพิ่มอีกถึงสี่พันตำลึงทันทีที่มีการขายดาบทั้งสองเล่มเสร็จแล้ว ทุกคนก็จ้องมองดาบราชวงศ์ถังเล่มสุดท้ายบนหลังของต้าหู่ แม้แต่เสวี่ยผานและไป๋เฟยเฟยที่ซื้อไปแล้วก็ไม่มีข้อยกเว้น!สำหรับจวิ้นวั่ง ชนชั้นสูง และขุนนาง พวกเขามีทองคำและเงินมากมาย แต่มีของที่เป็นมรดกสืบทอดไม่มากหลังจากยอมแพ้สองครั้งติดต่อกัน หลายคนก็หยุดสุภาพและต่อสู้เพื่อมันอย่างสุดกำลัง!ราคาของดาบราชวงศ์ถังเล่มที่สามยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดไป๋เฟยเฟยก็ซื้อด้วยหนึ่งหมื่นห้าพันตำลึงทองดาบราชวงศ์ถังสามเล่มขายได้ทั้งสิ้นสามหมื่นเจ็ดพันตำลึงทอง!ไป๋เฟยเฟยที่ครอบครองดาบราชวงศ์ถังสองเล่มพึงพอใจมาก ในขณะที่เสวี่ยผานที่ได้ไปหนึ่งเล่มก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อยส่วนคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้ ต่างมีสีหน้าไม่พอใจ!แม้ว่าจะเคยเห็นเงินมามากมาย แต่หูเมิ่งอิ๋งก็ตกตะลึงกับการประมูลนี้การทำธุรกิจนี้เพียงครั้งเดียว ก็ได้เงินใกล้เคียงกับความมั่งคั่งของตระกูลหูที่สะสมมาตลอดศตวรรษที่ผ่านมาไม่น่าแปลกใจที่คุณชายกล้าพูดว่า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 246

    ฟึ่บฟึ่บฟึ่บ!เสวี่ยผานที่กำลังตื่นเต้นกับดาบราชวงศ์ถังมาก ใบหน้าซีดลงทันที เขาตกใจมากจนถอยหลังไปสามก้าว!ปัง!เจ้าเมืองจางหานเซจนทำโต๊ะข้าง ๆ ล้ม ก่อนที่เขาจะทรงตัวได้!บัณฑิตอาวุโสสี่คน วังไห่เทียน หลวนชิง จิ่วเปียน และถงกู่ต่างก็ดูหนักใจเปรี้ยง!ทุกคนได้ยินเสียงสายฟ้าฟาดดังสนั่นจากท้องฟ้าสีคราม มีสีหน้าไร้ความรู้สึก“ในที่สุดก็มาแล้ว!”คิ้วคมของไป๋เฟยเฟยยกขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าหล่อเหลาของเขาปราศจากความเย่อหยิ่งเหมือนตอนแรกหญิงสาวในชุดสีม่วงขมวดคิ้ว“ชาวหวงมาแล้ว!”ครู่ต่อมา กลุ่มคนที่เร่ขายอยู่ล่างเวทีติ้งหลงไถก็รีบเก็บแผงลอยจากไปผู้ชมตกอยู่ในความสับสนอลหม่าน!“... บ้าเอ๊ย!”หวังหยวนสบถออกมา!ธุรกิจค้าเกลือสงบลง และได้รับทองคำมากกว่าสามหมื่นตำลึง ถึงเวลากลับไปใช้ชีวิตที่ดีอีกครั้งชาวหวงดันกลับมาอีกครั้ง เขาจึงไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอีกต่อไปเมื่อมองผู้คนในกลุ่มผู้ชม มีตั้งแต่ข้าราชการไปจนถึงประชาชนธรรมดาในต้าเย่ และพวกเขาก็กลัวชาวหวงมากจนลึกลงไปในกระดูกดวงตาคู่งามของหูเมิ่งอิ๋งเป็นกังวล ในขณะที่ต้าหู่ดูกระตือรือร้นที่จะลอง!“อ๋องถูหนานหนึ่งในห้าอ๋องของชาวหวง เ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 247

    ในชั่วพริบตา มีเพียงหวังหยวน วังไห่เทียน ไป๋เฟยเฟย และหลี่ซานซือเท่านั้นที่ถูกทิ้งไว้บนเวทีติ้งหลงไถหวังหยวนขมวดคิ้วและพูดว่า “พี่ชาย พิจารณาจากข่าวที่มาถึง ต้าเย่จะหยุดวิกฤตินี้ได้หรือไม่!”เสวี่ยผานเป็นผู้บัญชาการสูงสุดที่ควบคุมชายแดน เขาตื่นตระหนกมากเมื่อได้ยินเรื่องการโจมตีต้าเย่เรื่องนี้ทำให้เขากังวลมากสีหน้าของวังไห่เทียนเคร่งขรึม “ตอนนี้เป็นฤดูหนาวแล้ว ต้าเย่ยังถือว่าได้เปรียบ อีกทั้งประตูหัวมังกรยังแข็งแกร่ง และต้าเย่ก็อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ตอนนี้ตราบใดที่มีผู้บัญชาการที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เวลาและสถานที่เหมาะสม ต้าเย่ก็จะแข็งแกร่ง แล้วการไล่ล่าข้าศึกก็เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น!”หวังหยวนถอนหายใจ “เมื่ออาณาจักรเดือดร้อน ก็คิดถึงแม่ทัพที่ดี!”ไป๋เฟยเฟยถือพัดลงมาจากเวที “มีแม่ทัพที่ดีอยู่ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าราชสำนักยินดีใช้หรือไม่!”“ใครกัน?”หวังหยวนรู้สึกประหลาดใจ ในช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้ หากมีนายพลที่ดีจริง ราชสำนักจะไม่ใช้ได้อย่างไร!“ถามท่านไห่เทียนสิ!”ไป๋เฟยเฟยยิ้มอ่อน แล้วออกจากติ้งหลงไถพร้อมกับหญิงสาวในชุดสีม่วงหวังหยวนหันหน้าไปมองวังไห่เทียนส่ายหน้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 248

    ในระยะไกล กลุ่มชาวหวงกำลังควบคุมแผนการสู้รบ ถือดาบตะโกนอย่างเย็นชา “พวกเจ้าทุกคนมีความผิดในต้าเย่ ใครก็ตามที่โจมตีเมืองได้ ท่านอ๋องจะประทานสถานะชาวหวง ที่ดิน และผู้หญิงให้”เมื่อทหารที่ปิดล้อมอยู่ได้ยินดังนั้น ก็มีกำลังใจและโจมตีอย่างดุเดือดต่อไป!บนกำแพงเมือง รองผู้บัญชาการหร่วนเฉิงกังขมวดคิ้ว มองลงไปด้วยสายตาหดหู่ทหารที่มาปิดล้อมเหมือนมดงานเหล่านี้ ไม่ใช่ชาวหวงที่แท้จริง แต่เป็นชาวเมืองโจวซึ่งอยู่ในต้าเย่น่าเสียดายที่เมืองโจวกบฏ พวกเขากลายเป็นตัวล่อเป้าสำหรับชาวหวง จึงหันมาโจมตีต้าเย่สำหรับทหารม้าชาวหวงตัวจริง กำลังตั้งค่ายอยู่ในระยะไกล และยังไม่ได้ถูกส่งออกไปเลย!และอ๋องถูหนานผู้ดุร้ายก็ไม่ปรากฏตัวด้วยซ้ำ!แค่การโจมตีของมดปลวกเหล่านี้ ก็ทำให้ทหารชายแดนตื่นตระหนกแล้วชื่อเสียงของชาวหวงนั้นดุร้ายเกินไป นอกจากแม่ทัพมู่ผู้ล่วงลับแล้ว ก็ไม่มีใครสามารถเอาชนะพวกเขาได้!ทันใดนั้นทหารก็รีบก้าวเข้ามารายงาน “ท่านใต้เท้า มีข่าวจากทางเมืองหลวง ผู้บัญชาการเสวี่ยได้ออกคำสั่ง กำลังจะเข้าสู่ฤดูหนาว และอากาศจะหนาวขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ให้เรายึดเมืองไว้ไม่ออกไปข้างนอก สู้ได้ตามใจ เมื่อ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 249

    สือเหยาเฉียน เจ้ากระทรวงกรมโยธาธิการกล่าวว่า “เสนาบดีฝ่ายซ้าย ท่านกำลังพูดถึงอะไร? เสนาบดีฝ่ายขวาเสนอให้เจรจาสันติภาพเพื่อประโยชน์ของแผ่นดินต้าเย่ หากจะสู้ก็ต้องค้นหาแม่ทัพที่สามารถเอาชนะอ๋องถูหนานได้ หากหาได้ ข้าจะเห็นด้วยทันที!”ฮ่องเต้ซิงหลงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “สิ่งที่เจ้ากระทรวงสือพูดนั้นสมเหตุสมผล หากต้องการต่อสู้จริง ๆ ก็ต้องหาแม่ทัพที่สามารถเอาชนะอ๋องถูหนานได้ ไม่เช่นนั้น หากจะพึ่งเพียงเสวี่ยผานและหร่วนเฉิงกังอย่างเดียว ก็คงต้องอดทนรอต่อไป”“การเอาชนะอ๋องถูหนานจะยากเย็นอะไรปานนั้น?”หยางเฟิ่งกั๋วเงยหน้าขึ้น “ฝ่าบาททรงลืมไปแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ ว่าในการต่อกรกับชาวหวงนั้น เราทิ้งใครไว้ข้างหลังในเมืองจิ่วซาน”ฉินจ้าน เจ้ากระทรวงกรมกลาโหม และโจวจิงเหย่เจ้ากระทรวงพิธีกรรมกล่าวว่า “ฝ่าบาท โปรดใช้อู๋หลิงเพื่อเอาชนะทหารม้าของอ๋องถูหนาน เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีของแผ่นดินต้าเย่เถอะพ่ะย่ะค่ะ”อู๋หลิง ลูกชายของแม่ทัพมู่ ซึ่งเป็นแม่ทัพหนุ่มแห่งกองทัพเกราะดำ เข้าร่วมกองทัพกับแม่ทัพมู่เมื่ออายุสิบสามปี เขาได้ฝึกวรยุทธ์และทักษะทางทหารกับแม่ทัพมู่ครั้งหนึ่งเขาเคยนำทหารม้าร้อยนาย ไปฆ่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 250

    หยางเฟิ่งกั๋ว โจวจิงเหย่ และฉินจ้านรู้สึกดีใจมากเมื่อได้ยินดังนั้น เพราะคิดว่าคำแนะนำของพวกเขาจะถูกนำไปใช้คาดไม่ถึงว่าฮ่องเต้ซิงหลงจะเปลี่ยนประเด็น “สั่งให้ผู้บัญชาการเสวี่ยผาน และรองผู้บัญชาการหร่วนเฉิงกัง ใช้ด่านหัวมังกรเป็นพื้นฐานในการต่อต้านด้วยกำลังทั้งหมด แล้วชะลอจนกว่าข้าศึกจะล่าถอยไปเองในฤดูหนาว!”หยางเฟิ่งกั๋วขมวดคิ้วพูดว่า “ฝ่าบาท ผู้บัญชาการสูงศักดิ์เสวี่ยผาน ข้าได้ยินมาว่าเขาไม่เคยเป็นแนวหน้าเลย นับตั้งแต่เขาดูแลด่านหัวมังกร แม้ว่าหร่วนเฉิงกังจะมีประสบการณ์การต่อสู้หลายร้อยครั้ง แต่เขาขาดความสามารถในการปรับตัว แล้วเขาจะจัดการกับจิ้งจอกเฒ่าอ๋องถูหนานอย่างไร? โปรดให้อู๋หลิงรับผิดชอบด้วยเถอะพ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้ซิงหลงโบกมือด้วยความไม่พอใจ “มีด่านหัวมังกรคุมอยู่ ข้าไม่เชื่อว่าเราไม่อาจหยุดชาวหวงได้! สำหรับเรื่องสั่งอู๋หลิง เราจะหารือกันในภายหลัง พวกเจ้าออกไปกันได้แล้ว ข้าเหนื่อยแล้ว!”...“คุณชาย เจ้ากำลังทำอะไรอยู่ เหตุใดถึงต้องการช่างฝีมือมากมายถึงเพียงนี้!”ในลานบ้านตระกูลเว่ย หูเมิ่งอิ๋งอยากรู้อยากเห็น ขณะที่นางมองช่างฝีมือทั้งยี่สิบคน“เจ้าจะรู้เมื่อทำเสร็จแล้ว ไม่เพ

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1862

    “ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1861

    “ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1860

    ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1859

    “ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1857

    หวังหยวนประหลาดใจ ที่นี่มีกฎเกณฑ์ด้วยงั้นหรือ? ขณะที่เกาเล่อกำลังจะแสดงความไม่พอใจ แต่หวังหยวนรีบส่งสัญญาณให้เขาด้วยสายตา เกาเล่อจึงไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ยังคงยืนแข็งทื่อราวกับรูปปั้นอยู่ด้านหลังของหวังหยวน แต่ดวงตาของเกาเล่อแสดงถึงความไม่สบอารมณ์“เหตุใด?”“หรือว่าเจ้าจะคิดทำร้ายคน?”หญิงสาวที่เพิ่งสนทนากับหวังหยวนเบ้ปากใส่เกาเล่อ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “หากไม่ได้มาเพื่อความสนุกสนานก็จงรีบออกไปจากที่นี่เสีย!”“อย่ามาขวางทาง อย่าทำให้พวกข้าเสียเวลา!”“พวกข้ายังต้องทำมาหากิน!”หญิงคนนั้นก็ชนไหล่ของหวังหยวนแล้วเดินผ่านไปที่หน้าประตู หญิงสาวคนอื่น ๆ ที่ตามมาก็ทำเช่นเดียวกัน“พวกนางช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!”“หากพวกนางรู้ถึงตัวตนของท่าน คงต้องคุกเข่าขอความเมตตาจากท่าน”เกาเล่อบ่นพึมพำ“เช่นนั้นอย่าให้พวกนางรู้ถึงตัวตนของข้าดีกว่า”“ข้าไม่อยากมีเรื่องกับพวกนาง”หวังหยวนกล่าวติดตลกแล้วเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเกาเล่อ เลือกที่นั่งแล้วมองไปยังเวทีกลางพลางพิจารณาหอชิงสุ่ยอย่างละเอียดต้องยอมรับว่าที่นี่ตกแต่งได้อย่างหรูหราอลังการอาคารหลังนี้มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นล่าง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1856

    แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จได้ในวันเดียวหากต้องการให้เมืองอู่เจียงกลายเป็นเมืองสำคัญทางคมนาคมคงต้องใช้เวลาอีกสองสามปีจึงจะสมบูรณ์หวังหยวนเองก็ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เขาพยายามค้นหาคนที่เหมาะจะเป็นผู้ว่าราชการคนใหม่ในเมืองอู่เจียง แต่ก็ยังหาไม่พบณ หอชิงสุ่ยเมื่อค่ำคืนนี้มาเยือน หวังหยวนกำลังไปเดินเล่นชมเมืองและบังเอิญมาถึงหอชิงสุ่ยที่นั่นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและผู้คนพลุกพล่าน“ที่นี่คือที่ใด?” หวังหยวนถามเกาเล่อผู้ติดตามอยู่ข้างกาย“ที่นี่คือสถานที่แห่งความสุขทางโลกขอรับ”“ท่านผู้นำสนใจจะเข้าไปดูหรือไม่ขอรับ?”เกาเล่อตอบด้วยรอยยิ้ม“ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านี้...”“อีกอย่างซื่อหานก็รอข้าอยู่ที่บ้าน หากข้ามมัวเมาสุราอยู่ที่นี่ แล้วพวกผู้หญิงในบ้านรู้เข้าคงต้องมีเรื่องวุ่นวายเป็นแน่”หวังหยวนส่ายหน้า หลี่ซื่อหานนั้นยังเข้าใจได้และจะไม่พูดอะไรมาก แต่สำหรับหวงเจียวเจียว...นั่นคือคนที่ยากจะรับมือเกาเล่อหัวเราะ แล้วกล่าวต่อ “ท่านผู้นำอาจเข้าใจผิด ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ธรรมดาอย่างที่ท่านคิดหรอกนะขอรับ”“ข้าเคยสืบเรื่องที่นี่มาแล้ว”“เท่าที่ข้าทราบ เจ้าของที่นี่มีเบื้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1855

    ในไม่ช้าหวังหยวนพร้อมคณะก็กลับมายังที่ว่าการเมืองอู่เจียงฉุนอวี๋อันเฝ้ารอมาพักใหญ่แล้ว“ท่านผู้นำ ข้าสั่งให้เหล่าแรงงานเตรียมพร้อมแล้ว พวกเขาพร้อมจะเริ่มงานได้ทุกเมื่อขอรับ!”“ข้าได้แจกจ่ายแบบแปลนให้แก่พวกเขาแล้ว แต่ว่าตอนนี้ยังมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง...”ฉุนอวี๋อันพูดเพียงเท่านี้ก็เงียบไป สีหน้าบ่งบอกถึงความลำบากใจ“ต้องการเงินเท่าใด?”หวังหยวนทราบความคิดของเขาในทันทีจึงเอ่ยถามออกไป“ท่านผู้นำฉลาดหลักแหลมยิ่งนักขอรับ!”“ใช่แล้วขอรับ เพียงแค่ต้องการเงินจำนวนหนึ่ง!”“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมืองอู่เจียงไม่ได้มีเงินทองมากมาย จึงไม่เพียงพอที่จะใช้ในการก่อสร้างครั้งนี้”“ข้าจึงจำต้องมาแจ้งเรื่องนี้กับท่านผู้นำขอรับ...”ฉุนอวี๋อันรีบกล่าว“เจ้าไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว ต้องการเงินเท่าใดก็บอกมาเถิด เรื่องนี้ข้าจะจัดการให้”หวังหยวนไม่ได้ขาดแคลนเงินทองนั่นคือเรื่องเดียวที่เขาได้เปรียบในบรรดาอาณาจักรทั้งสี่ฉุนอวี๋อันรีบนำบัญชีรายรับรายจ่ายที่รวบรวมไว้มาให้หวังหยวน “ข้าได้รวบรวมรายละเอียดทั้งหมดไว้แล้ว ท่านผู้นำโปรดพิจารณา หากไม่มีปัญหาอะไรก็โปรดอนุมัติตามจำนวนนี้ด้วยขอรับ”หวังหยวนรับม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1854

    ถ้อยคำของตงฟางฮั่นมีความหมายแฝงอยู่ แต่หวังหยวนก็เข้าใจในทันที“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านหมายถึงพรรคทมิฬใช่หรือไม่?”ตงฟางฮั่นยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้า“ดูเหมือนว่าท่านจะไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนที่ข้าคิด สามารถสังเกตเห็นพรรคทมิฬได้เร็วถึงเพียงนี้!”เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้ สีหน้าของเกาเล่อก็เปลี่ยนไปเช่นกันหลังจากจับกุมสาวกของพรรคทมิฬได้หลายคน เกาเล่อและหวังหยวนก็รู้เรื่องของพรรคทมิฬมากขึ้น และในช่วงนี้เกาเล่อก็ได้ส่งคนจำนวนมากไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพรรคทมิฬแต่ก็ยังไม่มีประโยชน์มากนักแสดงให้เห็นว่าคนของพรรคทมิฬนั้นเหมือนพวกหนูที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด!การขุดคุ้ยเรื่องคนเหล่านี้ต้องใช้เวลา!“แล้วเหตุใดคนของพรรคทมิฬถึงได้ทำร้ายท่านเล่า?” “หรือว่าพวกท่านเคยมีเรื่องขัดแย้งกัน?”หวังหยวนเคาะโต๊ะเบา ๆ สายตาจ้องมองไปที่ตงฟางฮั่นอีกครั้งตงฟางฮั่นส่ายหน้าแล้วยิ้มเยาะ “ข้าจะไปเข้าร่วมกับคนพวกนั้นได้อย่างไร?” “ไม่รู้ว่าพวกเขาได้ยินชื่อของข้ามาจากไหน จึงได้มาติดต่อข้า หวังว่าข้าจะเข้าร่วมพรรคทมิฬ!” “แต่ข้าได้ปฏิเสธพวกเขามาหลายครั้งแล้ว” “แต่พวกเขาก็ยังคงตามติดไม่เลิก ก่อนหน้านี้พวกเขาย

DMCA.com Protection Status