แชร์

บทที่ 242

ผู้เขียน: ชวินเป่ยอี๋
เมื่อเขามาถึงงานประชุมกวีนิพนธ์ติ้งหลงไถ น้องเขยที่เขาไม่ชอบก็อยู่ที่โต๊ะตัดสินแล้ว ส่วนเขารออยู่ด้านล่างเพื่อรับการตัดสิน ซึ่งทำให้เขาไม่อาจเงยหน้าขึ้นได้!

ฟึ่บ!

ใบหน้าของหยางว่านหลี่ซีดลง เขาอุตส่าห์ท่องมาหลายครั้ง และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “แม้ว่าถ้อยคำของเขาจะดี แต่ก็เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและไม่พอใจ เขาจะคลายความกังวลของราชสำนักได้อย่างไร… อ๊ะ!”

“แค้นชิงกู่ฝังใจ ยังไม่ชดใช้! เมื่อใด ล้างหนี้ใคร่รู้? ควบรถบดค่ายศัตรู ย่ำเขาปาตี่พินาศไป! กระหายหาญ ฉีกกินเนื้อคนเถื่อน ดื่มเลือดสรวลสันต์ รอก่อนถึงวันกอบกู้แผ่นดินผัน เข้าเฝ้าโห่ร้องฉลองชัย!”

หวังหยวนพูดเสียงดัง ประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ต่างเปลี่ยนไป

ไม่ใช่ว่าเขาต้องการเปลี่ยนคำพูดของงักฮุย แต่เนื่องจากเวลาและสถานที่แตกต่างกัน เขาจึงต้องเปลี่ยนคำสองสามคำให้เหมาะสมกับโอกาส

จบเรียบร้อย!

ทั่วบริเวณเงียบกริบ!

ครู่ต่อมา ผู้แข่งขันแห่กันไปหาหวังหยวน ต่างสูญเสียความยับยั้งชั่งใจ ไม่มีใครรู้สึกว่าเป็นเรื่องน่าละอาย หากจะขอคำแนะนำจากถงเซิง ที่สำคัญกว่านั้น น้ำเสียงของพวกเขาเต็มไปด้วยความเกรงขามและยกย่อง!

“ท่านหมิงถัน, แค้นชิงกู่ ท่านหมายถ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 243

    ฟึ่บ!หวังหยวนไม่รอช้า ดึงดาบราชวงศ์ถังออกมา แล้วมอบให้ต้าหู่เพื่อให้เขาแสดงอานุภาพทันทีต้าหู่ฟาดดาบลงสองครั้ง!เคร้ง!ดาบทหารหักออกเป็นสองท่อน และเกราะหนังหกสิบชั้นบนโต๊ะก็ขาดออกจากกัน!เฮือก!ทั่วบริเวณเงียบลงหวังหยวนคว้าดาบราชวงศ์ถังมา แล้วหมุนข้อมือเพื่อแสดงให้เห็นใบมีดที่ปราศจากความเสียหาย!ต้าหู่ถือมีดที่หักในมือข้างหนึ่ง และเกราะที่หักในมืออีกข้าง ยกขึ้นแสดงให้เห็นอยู่ด้านข้าง“มันสามารถทำลายเกราะได้หกสิบชั้น และตัดเหล็กได้เหมือนตัดดินเหนียว นี่มันทรงพลังยิ่งกว่าดาบอื่น ไม่ถือว่าเกินจริงที่จะเรียกมันว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์!”บัณฑิตส่วนใหญ่ในวงการนี้ไม่สนใจดาบ แต่ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้างขึ้นในขณะนี้ผู้หญิงที่สวมชุดสีม่วงและเสวี่ยผานมองหน้ากันครู่หนึ่ง ราวกับว่าถูกดาบราชวงศ์ถังพรากวิญญาณไปแล้วหลี่ซานซือยิ่งสับสนมากขึ้น สงสัยว่าน้องเขยของเขาไปได้อาวุธวิเศษมาจากไหน!สายตาของไป๋เฟยเฟยกวาดมองดาบราชวงศ์ถัง ในที่สุดก็มองไปที่หวังหยวน และกลายเป็นสนใจมากถ้อยคำที่เขาเพิ่งพูดทำให้ตกตะลึง และตอนนี้เขาก็มีอาวุธวิเศษแล้ว!ชายคนนี้ไม่เคยหยุดทำให้ผู้คนประหลาดใจ!เดิมทีเขาวางแผนท

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 244

    คนจากตระกูลที่ร่ำรวยก็แสดงความคิดเห็นเช่นกัน!อาวุธวิเศษเช่นนี้คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป ไม่ว่าจะซื้อไปเป็นมรดกตกทอดของตระกูลหรือเป็นของกำนัลแม้แต่หยางว่านหลี่ที่เกลียดหวังหยวนจนกัดฟัน ก็ยังขยิบตาให้จู่เหริน แล้วจู่เหรินก็ยืนขึ้นแสดงความตั้งใจว่าจะซื้อมันด้วย!ทันใดนั้น มีคนมากกว่าสิบคนที่แสดงความตั้งใจจะซื้อดาบราชวงศ์ถัง!“ขอบคุณสำหรับความสนใจของทุกคน มีคนอยากได้หลายคน แต่มีอาวุธวิเศษน้อย ดังนั้นเฉพาะผู้ที่เสนอราคาสูงสุดเท่านั้นที่จะได้มันไป!”ปฏิกิริยานี้ทำให้หวังหยวนพอใจมาก แน่นอนว่าเขาเลือกสถานที่ขายดาบได้เหมาะสม!คนหนึ่งเป็นคนแรกที่พูด “หนึ่งพันตำลึงทอง!”ในตลาด ดาบธรรมดาไม่มีค่า แต่ดาบล้ำค่าสามารถขายได้ในราคาหลายร้อยหรือหลายพันตำลึง และอาวุธวิเศษย่อมมีมูลค่ามากกว่าอย่างน้อยสิบเท่า“หนึ่งพันห้าร้อยตำลึงทอง!”“สองพันตำลึงทอง!”“สองพันห้าร้อยตำลึงทอง!”...“ห้าพันตำลึงทอง!”ท่านหลวนชิงยื่นข้อเสนอ แล้วทั่วบริเวณก็เงียบลงห้าพันตำลึงทอง ห้าหมื่นตำลึงเงิน มีตระกูลที่ร่ำรวยมากมายที่สามารถจ่ายได้แต่มีไม่กี่คนที่กล้าแข่งขันกับท่านหลวนชิง จึงต้องยอมแพ้เพื่อรักษาหน้าเขาหลาย

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 245

    หวังหยวนไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี!พี่ไห่เทียนช่วยปั่นราคาให้เขา!ต้องบอกว่าเขาช่วยปั่นราคาได้ดีมาก เพราะเขาได้เพิ่มอีกถึงสี่พันตำลึงทันทีที่มีการขายดาบทั้งสองเล่มเสร็จแล้ว ทุกคนก็จ้องมองดาบราชวงศ์ถังเล่มสุดท้ายบนหลังของต้าหู่ แม้แต่เสวี่ยผานและไป๋เฟยเฟยที่ซื้อไปแล้วก็ไม่มีข้อยกเว้น!สำหรับจวิ้นวั่ง ชนชั้นสูง และขุนนาง พวกเขามีทองคำและเงินมากมาย แต่มีของที่เป็นมรดกสืบทอดไม่มากหลังจากยอมแพ้สองครั้งติดต่อกัน หลายคนก็หยุดสุภาพและต่อสู้เพื่อมันอย่างสุดกำลัง!ราคาของดาบราชวงศ์ถังเล่มที่สามยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดไป๋เฟยเฟยก็ซื้อด้วยหนึ่งหมื่นห้าพันตำลึงทองดาบราชวงศ์ถังสามเล่มขายได้ทั้งสิ้นสามหมื่นเจ็ดพันตำลึงทอง!ไป๋เฟยเฟยที่ครอบครองดาบราชวงศ์ถังสองเล่มพึงพอใจมาก ในขณะที่เสวี่ยผานที่ได้ไปหนึ่งเล่มก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อยส่วนคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้ ต่างมีสีหน้าไม่พอใจ!แม้ว่าจะเคยเห็นเงินมามากมาย แต่หูเมิ่งอิ๋งก็ตกตะลึงกับการประมูลนี้การทำธุรกิจนี้เพียงครั้งเดียว ก็ได้เงินใกล้เคียงกับความมั่งคั่งของตระกูลหูที่สะสมมาตลอดศตวรรษที่ผ่านมาไม่น่าแปลกใจที่คุณชายกล้าพูดว่า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 246

    ฟึ่บฟึ่บฟึ่บ!เสวี่ยผานที่กำลังตื่นเต้นกับดาบราชวงศ์ถังมาก ใบหน้าซีดลงทันที เขาตกใจมากจนถอยหลังไปสามก้าว!ปัง!เจ้าเมืองจางหานเซจนทำโต๊ะข้าง ๆ ล้ม ก่อนที่เขาจะทรงตัวได้!บัณฑิตอาวุโสสี่คน วังไห่เทียน หลวนชิง จิ่วเปียน และถงกู่ต่างก็ดูหนักใจเปรี้ยง!ทุกคนได้ยินเสียงสายฟ้าฟาดดังสนั่นจากท้องฟ้าสีคราม มีสีหน้าไร้ความรู้สึก“ในที่สุดก็มาแล้ว!”คิ้วคมของไป๋เฟยเฟยยกขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าหล่อเหลาของเขาปราศจากความเย่อหยิ่งเหมือนตอนแรกหญิงสาวในชุดสีม่วงขมวดคิ้ว“ชาวหวงมาแล้ว!”ครู่ต่อมา กลุ่มคนที่เร่ขายอยู่ล่างเวทีติ้งหลงไถก็รีบเก็บแผงลอยจากไปผู้ชมตกอยู่ในความสับสนอลหม่าน!“... บ้าเอ๊ย!”หวังหยวนสบถออกมา!ธุรกิจค้าเกลือสงบลง และได้รับทองคำมากกว่าสามหมื่นตำลึง ถึงเวลากลับไปใช้ชีวิตที่ดีอีกครั้งชาวหวงดันกลับมาอีกครั้ง เขาจึงไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอีกต่อไปเมื่อมองผู้คนในกลุ่มผู้ชม มีตั้งแต่ข้าราชการไปจนถึงประชาชนธรรมดาในต้าเย่ และพวกเขาก็กลัวชาวหวงมากจนลึกลงไปในกระดูกดวงตาคู่งามของหูเมิ่งอิ๋งเป็นกังวล ในขณะที่ต้าหู่ดูกระตือรือร้นที่จะลอง!“อ๋องถูหนานหนึ่งในห้าอ๋องของชาวหวง เ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 247

    ในชั่วพริบตา มีเพียงหวังหยวน วังไห่เทียน ไป๋เฟยเฟย และหลี่ซานซือเท่านั้นที่ถูกทิ้งไว้บนเวทีติ้งหลงไถหวังหยวนขมวดคิ้วและพูดว่า “พี่ชาย พิจารณาจากข่าวที่มาถึง ต้าเย่จะหยุดวิกฤตินี้ได้หรือไม่!”เสวี่ยผานเป็นผู้บัญชาการสูงสุดที่ควบคุมชายแดน เขาตื่นตระหนกมากเมื่อได้ยินเรื่องการโจมตีต้าเย่เรื่องนี้ทำให้เขากังวลมากสีหน้าของวังไห่เทียนเคร่งขรึม “ตอนนี้เป็นฤดูหนาวแล้ว ต้าเย่ยังถือว่าได้เปรียบ อีกทั้งประตูหัวมังกรยังแข็งแกร่ง และต้าเย่ก็อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ตอนนี้ตราบใดที่มีผู้บัญชาการที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เวลาและสถานที่เหมาะสม ต้าเย่ก็จะแข็งแกร่ง แล้วการไล่ล่าข้าศึกก็เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น!”หวังหยวนถอนหายใจ “เมื่ออาณาจักรเดือดร้อน ก็คิดถึงแม่ทัพที่ดี!”ไป๋เฟยเฟยถือพัดลงมาจากเวที “มีแม่ทัพที่ดีอยู่ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าราชสำนักยินดีใช้หรือไม่!”“ใครกัน?”หวังหยวนรู้สึกประหลาดใจ ในช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้ หากมีนายพลที่ดีจริง ราชสำนักจะไม่ใช้ได้อย่างไร!“ถามท่านไห่เทียนสิ!”ไป๋เฟยเฟยยิ้มอ่อน แล้วออกจากติ้งหลงไถพร้อมกับหญิงสาวในชุดสีม่วงหวังหยวนหันหน้าไปมองวังไห่เทียนส่ายหน้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 248

    ในระยะไกล กลุ่มชาวหวงกำลังควบคุมแผนการสู้รบ ถือดาบตะโกนอย่างเย็นชา “พวกเจ้าทุกคนมีความผิดในต้าเย่ ใครก็ตามที่โจมตีเมืองได้ ท่านอ๋องจะประทานสถานะชาวหวง ที่ดิน และผู้หญิงให้”เมื่อทหารที่ปิดล้อมอยู่ได้ยินดังนั้น ก็มีกำลังใจและโจมตีอย่างดุเดือดต่อไป!บนกำแพงเมือง รองผู้บัญชาการหร่วนเฉิงกังขมวดคิ้ว มองลงไปด้วยสายตาหดหู่ทหารที่มาปิดล้อมเหมือนมดงานเหล่านี้ ไม่ใช่ชาวหวงที่แท้จริง แต่เป็นชาวเมืองโจวซึ่งอยู่ในต้าเย่น่าเสียดายที่เมืองโจวกบฏ พวกเขากลายเป็นตัวล่อเป้าสำหรับชาวหวง จึงหันมาโจมตีต้าเย่สำหรับทหารม้าชาวหวงตัวจริง กำลังตั้งค่ายอยู่ในระยะไกล และยังไม่ได้ถูกส่งออกไปเลย!และอ๋องถูหนานผู้ดุร้ายก็ไม่ปรากฏตัวด้วยซ้ำ!แค่การโจมตีของมดปลวกเหล่านี้ ก็ทำให้ทหารชายแดนตื่นตระหนกแล้วชื่อเสียงของชาวหวงนั้นดุร้ายเกินไป นอกจากแม่ทัพมู่ผู้ล่วงลับแล้ว ก็ไม่มีใครสามารถเอาชนะพวกเขาได้!ทันใดนั้นทหารก็รีบก้าวเข้ามารายงาน “ท่านใต้เท้า มีข่าวจากทางเมืองหลวง ผู้บัญชาการเสวี่ยได้ออกคำสั่ง กำลังจะเข้าสู่ฤดูหนาว และอากาศจะหนาวขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ให้เรายึดเมืองไว้ไม่ออกไปข้างนอก สู้ได้ตามใจ เมื่อ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 249

    สือเหยาเฉียน เจ้ากระทรวงกรมโยธาธิการกล่าวว่า “เสนาบดีฝ่ายซ้าย ท่านกำลังพูดถึงอะไร? เสนาบดีฝ่ายขวาเสนอให้เจรจาสันติภาพเพื่อประโยชน์ของแผ่นดินต้าเย่ หากจะสู้ก็ต้องค้นหาแม่ทัพที่สามารถเอาชนะอ๋องถูหนานได้ หากหาได้ ข้าจะเห็นด้วยทันที!”ฮ่องเต้ซิงหลงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “สิ่งที่เจ้ากระทรวงสือพูดนั้นสมเหตุสมผล หากต้องการต่อสู้จริง ๆ ก็ต้องหาแม่ทัพที่สามารถเอาชนะอ๋องถูหนานได้ ไม่เช่นนั้น หากจะพึ่งเพียงเสวี่ยผานและหร่วนเฉิงกังอย่างเดียว ก็คงต้องอดทนรอต่อไป”“การเอาชนะอ๋องถูหนานจะยากเย็นอะไรปานนั้น?”หยางเฟิ่งกั๋วเงยหน้าขึ้น “ฝ่าบาททรงลืมไปแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ ว่าในการต่อกรกับชาวหวงนั้น เราทิ้งใครไว้ข้างหลังในเมืองจิ่วซาน”ฉินจ้าน เจ้ากระทรวงกรมกลาโหม และโจวจิงเหย่เจ้ากระทรวงพิธีกรรมกล่าวว่า “ฝ่าบาท โปรดใช้อู๋หลิงเพื่อเอาชนะทหารม้าของอ๋องถูหนาน เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีของแผ่นดินต้าเย่เถอะพ่ะย่ะค่ะ”อู๋หลิง ลูกชายของแม่ทัพมู่ ซึ่งเป็นแม่ทัพหนุ่มแห่งกองทัพเกราะดำ เข้าร่วมกองทัพกับแม่ทัพมู่เมื่ออายุสิบสามปี เขาได้ฝึกวรยุทธ์และทักษะทางทหารกับแม่ทัพมู่ครั้งหนึ่งเขาเคยนำทหารม้าร้อยนาย ไปฆ่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 250

    หยางเฟิ่งกั๋ว โจวจิงเหย่ และฉินจ้านรู้สึกดีใจมากเมื่อได้ยินดังนั้น เพราะคิดว่าคำแนะนำของพวกเขาจะถูกนำไปใช้คาดไม่ถึงว่าฮ่องเต้ซิงหลงจะเปลี่ยนประเด็น “สั่งให้ผู้บัญชาการเสวี่ยผาน และรองผู้บัญชาการหร่วนเฉิงกัง ใช้ด่านหัวมังกรเป็นพื้นฐานในการต่อต้านด้วยกำลังทั้งหมด แล้วชะลอจนกว่าข้าศึกจะล่าถอยไปเองในฤดูหนาว!”หยางเฟิ่งกั๋วขมวดคิ้วพูดว่า “ฝ่าบาท ผู้บัญชาการสูงศักดิ์เสวี่ยผาน ข้าได้ยินมาว่าเขาไม่เคยเป็นแนวหน้าเลย นับตั้งแต่เขาดูแลด่านหัวมังกร แม้ว่าหร่วนเฉิงกังจะมีประสบการณ์การต่อสู้หลายร้อยครั้ง แต่เขาขาดความสามารถในการปรับตัว แล้วเขาจะจัดการกับจิ้งจอกเฒ่าอ๋องถูหนานอย่างไร? โปรดให้อู๋หลิงรับผิดชอบด้วยเถอะพ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้ซิงหลงโบกมือด้วยความไม่พอใจ “มีด่านหัวมังกรคุมอยู่ ข้าไม่เชื่อว่าเราไม่อาจหยุดชาวหวงได้! สำหรับเรื่องสั่งอู๋หลิง เราจะหารือกันในภายหลัง พวกเจ้าออกไปกันได้แล้ว ข้าเหนื่อยแล้ว!”...“คุณชาย เจ้ากำลังทำอะไรอยู่ เหตุใดถึงต้องการช่างฝีมือมากมายถึงเพียงนี้!”ในลานบ้านตระกูลเว่ย หูเมิ่งอิ๋งอยากรู้อยากเห็น ขณะที่นางมองช่างฝีมือทั้งยี่สิบคน“เจ้าจะรู้เมื่อทำเสร็จแล้ว ไม่เพ

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2257

    “พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2256

    “เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2255

    หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2254

    กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2253

    “เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2252

    การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2251

    “ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2250

    แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2249

    เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status