All Chapters of ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์: Chapter 681 - Chapter 690

1168 Chapters

บทที่ 681

ต่อมาก็จะมีการพลิกหน้าหนังสือจำนวนมาก เพื่อค้นหาว่าที่ใดมีการบันทึกเกี่ยวกับละมั่งโลหิตเอาไว้บ้าง อย่างไรก็ตาม พลิกหาไปครึ่งค่อนวัน ก็มองไม่เห็นข้อมูลบันทึกเกี่ยวกับละมั่งโลหิตเลยแม้แต่น้อย ขณะที่กำลังเศร้าหดหู่อยู่นั้น หยวนพ่านก็ออกมาจากวัง เขาได้ยินถึงละมั่งโลหิต ถึงกับตกตะลึงอยู่ชั่วครู่หนึ่ง จึงขมวดคิ้วแล้วครุ่นคิด จากนั้นก็เอ่ยกับมู่หรงเจี๋ยว่า “กระหม่อมได้ยินมาว่าในวังของแคว้นต้าเหลียงมีเขาละมั่งโลหิตอยู่คู่หนึ่ง ในอดีตนั้นเป็นของท่านหมอเวินอี้ ภายหลังมอบให้กับองค์หญิงใหญ่จิงมั่ว ได้ยินมาว่าภายหลังองค์หญิงใหญ่ได้มอบให้กับองค์รัชทายาทของแคว้นต้าเหลียง” คำพูดของหยวนพ่าน ทำให้ทุกคนเลือดสูบฉีดขึ้นโดยที่ไม่ต้องสงสัย เพราะว่าคืนวันนี้องค์รัชทายาทของแคว้นต้าเหลียงก็จะมาถึงเมืองหลวงแล้ว หากว่าเขามีเขาของละมั่งโลหิตจริง และยินยอมที่จะให้หยิบยืม ใช้ม้าเร็วรีบไปยังแคว้นต้าเหลียงแล้วกลับมา ก็คงจะประมาณสิบวัน ตอนนี้แมลงเจ็ดส่วนสามารถอยู่ในร่างกายได้เจ็ดวัน เมื่อนำแมลงเจ็ดส่วนออกมาแล้ว ก็ยังคงฝังเข็มได้อีกครั้ง ก็จะมีเวลาอีกสามวัน รวมกันก็จะเป็นเวลาสิบวัน องค์รัชทายาทแคว้นต้าเหล
Read more

บทที่ 682

พวกเขาวิเคราะห์กันว่า ที่องค์รัชทายาทแคว้นต้าเหลียงร้องขอที่จะมาด้วยตนเอง หากว่ารู้ว่าจ้วงจ้วงฆ่าตัวตายเพื่อชายหนุ่มคนอื่นแล้ว ก็ไม่แน่ว่าเขาจะยอมช่วยเหลือ เพราะฉะนั้นแล้ว ทางเลือกที่ดีที่สุดคือทำให้เขาเมาไปเสียก่อนเจ็ดแปดส่วน ก่อนที่จะเริ่มเอ่ยปาก เมื่อเขาเอ่ยออกมาว่ามอบให้ แล้วเขียนหนังสือออกมาแล้ว จึงสั่งให้คนรีบออกนอกเมือง มุ่งหน้าไปยังแคว้นต้าเหลียงในทันที หนี่หรงและซูชิงเองก็รออยู่ด้านนอกแล้ว รอเมื่อได้รับหนังสือแล้วก็ออกเดินทางไปในทันที แต่เห็นได้ชัดว่าองค์รัชทายาทของต้าเหลียง และองค์รัชทายาทของต้าโจวนั้นแตกต่างกันออกไป เขาดื่มไปแล้วรอบหนึ่ง แต่กลับไม่พบว่ามีอาการมึนเมาใด เมื่อเงยหน้าขึ้น สายตายังคงเปล่งประกายเฉียบคมอยู่ “ท่านอ๋อง มีอันใดเอ่ยออกมาเถิด” เขามองออก งานเลี้ยงในคืนวันนี้ถูกจัดขึ้นอย่างกะทันหัน โดยทั่วไปแล้ว เมื่อมีทูตเข้ามายังแคว้น งานเลี้ยงจะถูกจัดขึ้นในวันรุ่งขึ้น วันแรกจะต้องให้ท่านทูตได้พักผ่อนกันก่อน ทว่าเขานั้นแม้แต่น้ำก็ยังไม่ได้ดื่ม ก็ถูกดึงมาถึงที่นี่ เขาเองก็รู้ ผู้สำเร็จราชการแทนน้อยนักที่จะจัดการงานเลี้ยงเพื่อต้อนรับคน หรือว่าอาจจะไม่มี อีกทั้
Read more

บทที่ 683

คำพูดของซ่งรุ่ยหยาง เป็นเหมือนกับน้ำเย็นในจาน ทำลายความหวังของทุกคนลงไป จื่ออันยังคงไม่ยอมแพ้ “เขาละมั่งโลหิตมีเป็นคู่ ถูกหลิวเย่ว์ขโมยไปข้างหนึ่ง ยังคงเหลืออีกข้างหนึ่ง?” คำพูดของซ่งรุ่ยหยาง ดับความฝันสุดท้ายของจื่ออัน “นางขโมยออกไปคู่หนึ่ง” ความหวังที่เพิ่งจะเกิดขึ้น ถูกทำลายลงไปอีกครั้ง ความรู้สึกเช่นนี้ช่างยากจะรับได้ อ๋องเหลียงรู้สึกแย่มากที่สุด อ๋องเหลียงเป็นผู้ที่ต้องทนทุกข์มาโดยตลอด ซ่งรุ่ยหยางยังคงถามถึงเรื่องของจ้วงจ้วงต่อ จื่ออันไม่ได้ปิดบังใด นำเรื่องที่นางฆ่าตัวตายและเซียวเซียวสละชีพเล่าออกมา ซ่งรุ่ยหยางได้ฟังแล้วก็รู้สึกซาบซึ้งใจ ถอนหายใจออกมาติดต่อกัน ก่อนที่จะแสดงออกมาว่าต้องการจะไปเยี่ยมจ้วงจ้วง ทุกคนต่างก็รู้สึกชื่นชมเขา เพราะอย่างไรแล้วในปีนั้น เขาและจ้วงจ้วงก็มีสัญญาหมั้นหมายกันอยู่ แต่กลับถูกต้าโจวยกเลิกงานอภิเษกเสีย คราวนี้ยังคงยืนกรานที่จะมาขออภิเษก ทว่าก็เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น เขาไม่แม้แต่จะมีความโมโหเพียงนิด จื่ออันรู้สึกว่ารัชทายาทของต้าเหลียงผู้นี้ก็ดูจะเป็นคนเจ้าอารมณ์ งานเลี้ยงครั้งนี้จนถึงท้ายที่สุดแล้ว ทุกคนต่างก็ไม่มีใจที่จะดื่มเหล้ากันอีก
Read more

บทที่ 684

หวงไท่โฮ่วตกตะลึง จ้วงจ้วงเป็นองค์ถึงองค์หญิงเจิ้นกั๋ว และยังเป็นอาแท้ ๆ ของหนานหวายอ๋อง หากว่านางจากไป หนานหวายอ๋องก็ต้องกลับมา ตามกฎเกณฑ์ของบรรพชน จักรพรรดิฮุ่ยทรงสนับสนุนการปกครองด้วยกฎของความเมตตาและกตัญญู หากว่าไม่ออกพระราชเสาวนีย์เรียกเขากลับมาแล้ว ก็จะขัดต่อกฎของความเมตตาและกตัญญูของจักรพรรดิฮุ่ย แต่ว่าเมื่อเกลับมาแล้ว จะก่อให้เกิดคลื่นลมพายุขึ้นอีกหรือไม่? กุ้ยไท่เฟยเอ่ยออกมาเสียงเบา “ข้ารู้ว่าในใจของท่านพี่กังวลเรื่องใดอยู่ แต่วางใจเถิด ข้าจะจับตาดูเขา เขาเองก็ถือว่าเติบโตขึ้นมาพร้อมกับองค์หญิง มีความสัมพันธ์กันเหนียวแน่น หากว่าไม่ให้เขากลับมาส่งองค์หญิงแล้ว เกรงว่าเขาจะเสียใจไปตลอดชีวิต” หวงไท่โฮ่วเอ่ย “เรื่องนี้ ข้าจะเก็บไว้คิด” กุ้ยไท่เฟยเองก็ไม่ได้บีบบังคับต่อ เพียงแต่เอ่ยออกมาเสียงเบา “ใช่แล้ว ท่านก็ค่อย ๆ คิด เพราะอย่างไรแล้ว ท่านถึงจะเป็นเสด็จแม่เขา” หวงไท่โฮ่วเงยหน้าขึ้นมา ค่อย ๆ ขมวดคิ้วออกมา คำพูดนี้ไม่ใช่บีบคับ แต่ก็ทำให้นางต้องคิดอย่างรอบคอบ อีกทั้งต่อให้ไปถามสำนักพิธีการ ไปถามอ๋องหลี่แล้วนั้น ตามกฎเกณฑ์แล้ว เขาก็สมควรกลับมา กุ้ยไท่เฟยออกจากวังไป
Read more

บทที่ 685

ซุนชั่นส่ายศีรษะออกมา “มีเท่าใดกัน?” กุ้ยไท่เฟยเหลือบมองเขา “ที่ตระกูลซุนของพวกเรามียังไม่เท่ากับนิ้วก้อยของนางเลย” ซุนชั่นตื่นตกใจขึ้นมา “มีมากมายถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?” “ตอนนี้เจ้ายังคิดว่าแต่งงานกับนางเป็นเรื่องที่น่าน้อยเนื้อต่ำใจอยู่อีกหรือไม่?” กุ้ยไท่เฟยเหลือบมองไปยังเขา ซุนชั่นหัวเราะออกมาเบา ๆ “ยังคงเป็นท่านป้าเล็กที่รักข้าอยู่ ได้ วันพรุ่งนี้ข้าจะเข้าวังไปบอกกับหวงไท่โฮ่ว” “อืม ไปเถิด!” กุ้ยไท่เฟยโบกมือออกไป ซุนชั่นจากไปด้วยความขอบคุณ ท่าทางการเดินของเขาดูบางเบาขึ้น องค์รัชทายาทแคว้นต้าเหลียงไปเยี่ยมจ้วงจ้วง จ้วงจ้วงยังคงสวมชุดแต่งงานชุดนั้นอยู่ เขาถอนหายใจออกมาเบา ๆ “ในปีนั้น ข้ากับนางทำการหมั้นหายกัน แต่จริง ๆ แล้วก็รู้ว่าในใจของนางมีคนอื่นอยู่ ทว่าข้าเองก็ไม่ได้ใส่ใจ เพราะว่าข้าเองก็มีคนในใจอยู่แล้ว เพียงแค่ร่วมมือกัน สองแคว้นแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กัน อย่างไรแล้วก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุนี้ จึงจำให้เกิดเรื่องตามมามากมาย” จื่ออันได้ยินคำพูดนี้แล้ว ก็นึกถึงเรื่องหัวหน้าพรรคหลิวเย่ว์ที่เขาเอ่ยถึงขึ้นมาได้ ไม่รู้ว่าคนที่เขาบอกว่าชอบคนนั้นจะเป็นนา
Read more

บทที่ 686

จากนั้นฉินจือก็ยังคงนำแม่นางคนนั้นเข้ามา ก็พบเข้ากับตาวเหล่าต้าที่กำลังรีบพุ่งเข้ามาเอ่ย “คุณหนูใหญ่ เฉินไท่จวินขอเชิญท่านรีบไปสักรอบ บอกว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลเฉินล้มลงขาหักแล้ว” จื่ออันตื่นตกใจ “ทำไมถึงได้เป็นเช่นนี้ไปได้?” ตาวเหล่าต้าเอ่ยออกมา “ทางด้านตระกูลเฉินส่งคนมาบอกว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลเฉินรู้ว่าองค์หญิงใหญ่เกิดเรื่องขึ้น รีบวิ่งหนีปีนขึ้นกำแพงออกมา แต่ก็ไม่คิดว่าจะตกลงมา” จื่ออันส่งเสียงร้องออกมา “ช่วงนี้ช่างมีเรื่องให้กังวลใจน้อยเสียเมื่อใดกัน” นางเอ่ยสั่งหมอหลวงที่คอยรับใช้อยู่ด้านหลัง “อีกประเดี๋ยวเมื่อฉินจือนำแม่นางคนนั้นเข้ามา เจ้าตรวจสอบให้ดี ๆ ว่าที่นางนำมานั้นคือเขาละมั่งโลหิตหรือไม่ อย่าเพิ่งรีบร้อนให้รางวัล” “พ่ะย่ะค่ะ เข้าใจแล้วพระชายา!” หมอหลวงเอ่ย หลังจากที่จื่ออันสั่งหมอหลวงเอาไว้แล้ว ก็นำกล่องยาและตาวเหล่าต้าออกจากประตูไป ในตอนที่นางออกจากประตูไปนั้น นางก็ได้พบกับแม่นางคนนั้นที่ฉินจือนำเข้ามา เมื่อเห็นว่านางอายุราวสิบห้าสิบหกปี ท่าทางดูอ่อนหวาน มวยผมสองข้าง ดวงตากลมโต เมื่อพบจื่ออันแล้ว ก็มองมายังจื่ออันด้วยความประหลาดใจ จื่ออันหยุดลง เอ่ยสั่งกับฉินจื
Read more

บทที่ 687

อ๋องเหลียงคิดจะดึงมือกลับมา ทว่าอี๋เอ๋อร์กลับจับมือของเขาแน่นไม่ยอมปล่อยออกมา ท่าทีดูตื่นเต้นยินดียิ่งนัก อ๋องเหลียงทำได้เพียงเอ่ยออกมา “เอาล่ะ อี๋เอ๋อร์ เจ้ากลับไปก่อน ข้ายังมีเรื่องให้ต้องทำอีก รอข้าจัดการธุระเสร็จแล้ว ค่อยไปเที่ยวเล่นหาเจ้า” อี๋เอ๋อร์ปล่อยเขา พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “เจ้าค่ะ ท่านรีบเข้าไปเถิด องค์หญิงรอความช่วยเหลืออยู่” อ๋องเหลียงมองยังนางด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง เอ่ยเคร่งขรึมออกมา “แล้วค่อยพบกัน!” เมื่อเอ่ยจบ ก็นำพ่อบ้านเข้าไป อี๋เอ๋อร์มองเขาเข้าไปด้วยความชื่นชอบ เดิมทีคิดจะจากไป ทว่าก็คิดว่าไม่ได้พบกับเขามานานแล้ว ไม่สู้รอเขาออกมาพูดคุยกันแล้วค่อยจากไป เพราะฉะนั้น นางจึงนั่งลงตรงขั้นบันได อย่างต้องการจะรออ๋อง เหลียงให้ออกมา ภาพฉากนี้ ล้วนแต่ตกลงในสายตาขององค์รัชทายาท เขามาถึงช้าไปกว่าอ๋องเหลียงเพียงครู่เดียว เป็นฮองเฮาที่ให้เขามา ในตอนที่เขาไม่รู้ว่าจะไปที่ใด ก็เลยมาที่แห่งนี้สักครู่ แล้วค่อยกลับไปรายงาน เขาไม่เคยพบกับสายตาของเจ้าเศษสวะนั้นมองหญิงสาวเช่นนี้มาก่อนเลย เขาคิดว่าหญิงสาวผู้นี้จะต้องมีความหมายไม่ง่ายดายต่อเขาอย่างแน่นอน “รู้หรือไม่ว่านางเป็น
Read more

บทที่ 688

เขาเคยพบกับอี๋เอ๋อร์มาก่อน ในตอนที่อ๋องเหลียงรู้จักกับอี๋เอ๋อร์นั้น เขาเองก็อยู่ด้วยพอดี ทว่าเขาก็ส่ายศีรษะออกมาทันที อี๋เอ๋อร์จะมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน? และต่อให้มา ก็ไม่มีทางที่จะขึ้นรถม้าขององค์รัชทายาท เขาผูกม้าเสร็จแล้วก็เข้าไป เมื่อมองเห็นอ๋องเหลียง ก็ยิ้มแล้วเอ่ยออกมา “เมื่อครู่นี้ข้ายังคิดว่ามองเห็นอี๋เอ๋อร์เสียอีก” อ๋องเหลียงไม่ได้ตอบกลับ ท่าที่สูญเสียอย่างเห็นได้ชัด ส่วนจื่ออันที่ไปยังจวนตระกูลเฉินนั้น เมื่อมองเห็นหลิวหลิ่ว นางก็ตื่นตกใจขึ้นมา บาดแผลนั้นไม่ได้สาหัสนัก แต่ทว่านางกลับดูซูบผอมไปอย่างมาก ใบหน้ารูปไข่กลมนั้นผอมจนกลายเป็นใบหน้าเมล็ดแตงโม คางแหลมคมราวใบมีด เดิมที่มีดวงตาโตอยู่แล้ว มาตอนนี้กลับโตเสียจนน่าตกใจ หลิวหลิ่วเมื่อเห็นนางเข้าก็กอดเอาไว้ แล้วร้องไห้ออกมา “จื่ออัน ข้ารู้เรื่องขององค์หญิงกับพี่ใหญ่เซียวเซียวแล้ว ทำไมถึงได้เป็นเช่นนี้? ในใจของข้ารู้สึกแย่ยิ่งนัก” เสียงร้องไห้ของหลิวหลิ่วนั้นดูเหมือนว่าจะติดต่อกันได้ ร้องไห้ออกมาอย่างรุนแรง และแทบจะไม่ปกปิดใด ๆ นางร้องไห้เสียจนทำให้น้ำตาของจื่ออันไหลรินลงมา เฉินไท่จวินที่นั่งสูบบุหรี่ไอน้ำอยู่
Read more

บทที่ 689

เหล่าไท่จวินเมื่อเอ่ยแล้วก็ทำตามนั้น เมื่อจื่ออันเพิ่งจะจากไป นางก็สั่งคนให้เตรียมรถม้าไปจวนโหว การกระทำที่กล้าหาญบางคราวก็ดูน่ากลัว โดยเฉพาะคนที่เคยอยู่ในสนามรบมาก่อน จื่ออันกลับมายังจวนองค์หญิง ระยะนี้นางถือว่าจวนองค์หญิงนั้นเป็นบ้านของตนเองเสียแล้ว เข้าจวนมาก็ถามกับหมอหลวง “ที่แม่นางคนนั้นนำมาเป็นเขาละมั่งโลหิตหรือไม่?” หมอหลวงเอ่ย “ทูลพระชายา นางไม่ได้นำมา เพียงแต่บอกว่ามารดาของนางมีเขาละมั่งโลหิต ภายหลังให้นางดูรูปภาพ นางบอกว่าสีไม่ถูกต้อง เช่นนั้นก็คงจะไม่ถูกต้องแล้ว” “สีไม่ถูกต้อง? นางบอกว่าสีมันเป็นอย่างไร?” จื่ออันเอ่ยถาม “นางบอกว่าเป็นสีเหลือง ที่มีร่องรอยของสีโลหิต” หมอหลวงเอ่ยตอบกลับ จื่ออันคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาละมั่งโลหิตเป็นเพราะปัญหาทางด้านการจัดเก็บ ก็อาจจะทำให้เกิดสถานการณ์ของการเปลี่ยนสีขึ้น ควรจะตรวจสอบสักเล็กน้อยจะเป็นการดี “นางทิ้งที่อยู่เอาไว้หรือไม่? จะต้องไปดูด้วยตนเอง” หมอหลวงเอ่ย “ไม่มีพ่ะย่ะค่ะ แต่รู้ชื่อของนาง เหมือนจะเรียกว่าหวังอี๋เอ๋อร์” หวังอี๋เอ๋อร์? ชื่อนี้ช่างคุ้นเคยนัก เซียวท่าที่เพิ่งจะเดินเข้ามา เมื่อได้ยินคำของหมอหลวง เขาก็รีบร้
Read more

บทที่ 690

จื่ออันเอ่ยออกมา “เจ้าเห็นนางเพียงแค่ครั้งเดียว เป็นไปได้หรือไม่ที่จะจำนางผิดได้? เพราะอย่างไรแล้วเจ้าเพียงแค่เห็นจากแผ่นหลังว่านางขึ้นรถม้าไป” เดิมทีเซียวท่านั้นก็ไม่ค่อยจะแน่ใจอยู่แล้ว ตอนนี้เมื่อจื่ออันเอ่ยออกมาเช่นนี้ ก็ยิ่งแน่ใจว่าคนผู้นั้นไม่ใช่อี๋เอ๋อร์ เพียงแต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ในตอนนั้นเพียงมองออกไปก็รู้สึกว่าเป็นอี๋เอ๋อร์ อ๋องเหลียงเอ่ยออกมาอย่างอารมณ์ไม่ดีนัก “ข้ายิ่งไม่อยากจะไปยั่วยุคนผู้นั้น เจ้าก็ยังจะมองพลาดไปอีก วันนี้วุ่นวายเช่นนี้ ไม่แน่ว่าวันพรุ่งนี้ก็อาจจะต้องเข้าวังไปทูลเสด็จแม่แล้ว” จื่ออันเอ่ยออกมาอย่างเรียบเฉย “ท่านจะกลัวเขาไปทำไมกัน? ท่านก็ไม่ได้ติดค้างอะไรเขาเสียหน่อย” นางยังคงรู้สึกไม่พอใจที่อ๋องเหลียงไม่ยินยอมรับการรักษา รู้สึกว่าเขาแข็งแกร่งไม่พอ อ๋องเหลียงรู้ว่าในใจของนางยังคงกรุ่นโกรธอยู่ จึงไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา จื่ออันเมื่อเห็นท่าทีของเขาเช่นนี้ ก็ไม่อยากจะเอ่ยว่าเขา “เอาล่ะ ท่านส่งคนไปถามหาบ้านของอี๋เอ๋อร์ ดูว่านางกลับไปแล้วหรือไม่ พร้อมทั้งดูว่าเขาละมั่งของมารดานางมีสีโลหิตหรือไม่” อ๋องเหลียงตะลึงไปครู่หนึ่ง “ข้าไม่รู้ว่านางพักอยู่ที่ใด
Read more
PREV
1
...
6768697071
...
117
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status