บททั้งหมดของ ใต้หล้าสยบรัก: บทที่ 51 - บทที่ 60

1015

บทที่ 51

ปีนี้ถังหยางอายุ 35 ปี แต่ก่อนเขาเคยเป็นทหารผ่านศึกฝีมือดีในสนามรบเฟิงเยว่ ยิ่งกว่านั้นคือเขายังติดสอยห้อยตามอวี่เหวินห่าวมีชีวิตรอดกลับมาด้วยกัน นับว่าเป็นคนมีประสบการณ์โชกโชน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ชายผู้แข็งแกร่งคนนี้ ใบหน้าแดงก่ำ ถอนหายใจตลอด พระชายาจะพูดอ้อมค้อมหน่อยได้ไหม?“ใช่ไหมล่ะ?” หยวนชิงหลิงเมื่อเห็นเขาดูมีทีท่าที่ตกใจถึงกับอึ้งจนพูดไม่ออก แต่นางก็อดไม่ได้ที่จะถามต่อ “ถังหยาง นี่เจ้ากำลังพูดจาเหลวไหลอะไรอยู่?” เสียงตวาดดังขึ้นมาจากด้านใน เสียงตวาดที่ดังสนั่นจนเกือบจะทำให้กำแพงทะลุได้ แน่นอน! มันเป็นสิ่งที่ไม่ยากเกิน ความสามารถของอวี่เหวินห่าวที่เขาจะทำได้ ถังหยางถือกระโถนฉี่วิ่งหนีไปแล้วหยวนชิงหลิงเหม่อมองอย่างลอย ๆ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปอย่างช้า ๆ สีหน้าของอวี่เหวินห่าว ทั้งเก้อเขินทั้งโกรธ ผสมปนเปกันราวกับจานสี ดวงตาลุกโชนไปด้วยความโกรธ จ้องมองไปที่หยวนชิงหลิงอย่างไม่ละสายตา เหมือนกับจะกลืนกินนางทั้งเป็นอย่างไงอย่างงั้น “เอ่อ…” หยวนชิงหลิงไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงโกรธมากขนาดนั้น “ถังหยางบอกว่าพระองค์ยังมีบาดแผลอยู่”“เขาพูดเรื่องไร้สาระ!” อวี่เหวินห่าวกัดฟันพูด หยว
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 52

อันที่จริงในใจหยวนชิงหลิงเองนั้นก็รู้สึกจำใจ นางอยากจะดูหรือ? นางอยากจะรักษาบาดแผลบริเวณตรงนั้นของเขารึไง? แต่หากเกิดการติดเชื้อ แล้วเขาตายไป นางเองก็ไม่รู้จะอธิบายให้ไท่ซ่างหวงหรือกับตัวนางเองเข้าใจได้อย่างไร แม้ว่าเขาจะตายไปจริง ๆ ก็เป็นเพราะเขานั้นหาเรื่องใส่ตัวเอง แต่ก็ยังโชคดีอยู่ที่บาดแผลนั้นเบี่ยงออกห่างจากเส้นเลือดใหญ่ที่ต้นขา ตรวจดูจากด้านข้าง แผลลึกมาก ไม่รู้ว่าวิธีไหนที่จะสามารถห้ามเลือดได้ เขาน่าจะเทผงห้ามเลือดเอง เพราะข้าง ๆ มีผงเหนียว ๆ ติดอยู่ ขณะที่นางกำลังคิดและเงยหน้าเหลือบมองอวี่เหวินห่าว อวี่เหวินห่าวชกหมัดออกไป หยวนชิงหลิงรีบหดหัวกลับอย่างรวดเร็ว และในทันใดนั้นก็เห็นใบหน้าของเขาแดงก่ำราวกับปลอกประทัด “ยังต้องเย็บแผล!” หลังจากหยวนชิงหลิงฆ่าเชื้อเสร็จ ก็พูดอย่างจริงจัง “ไม่!” อวี่เหวินห่าวปฏิเสธเสียงแข็ง อวี่เหวินห่าวรู้สึกโกรธจนขนลุกขนชัน อีกทั้งผมทุกเส้นกำลังถูกไฟความโกรธแผดเผาอยู่ “งั้นเอางี้!” หยวนชิงหลิงหยิบกล่องยาขึ้นมา หายาชาที่ใช้สำหรับทา แล้วพูดว่า “ข้าจะให้ยาห้ามเลือดแก่พระองค์ ซึ่งสามารถช่วยให้แผลนั้นสมานตัวได้โดยเร็วที่สุด” “งั้นก็รี
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 53

หยวนชิงหลิงฟุบหลับไป ในความฝัน เธอถูกไล่ฆ่า ถูกมีดดาบไล่ฟันตลอดทาง นางวิ่งหาที่หลบซ่อน ในที่สุดก็ถูกไล่ไปถึงทางตัน ดาบเล่มใหญ่ถูกยกขึ้น เธอมองผ่านนิ้วมือที่บังใบหน้าไป เห็นใบหน้าอันน่าสะพรึงของอวี่เหวินห่าว เมื่อดาบถูกฟันลงมา เลือดก็สาดกระเซ็นบนใบหน้าของเธอ เธอกรีดร้องและตื่นขึ้น มีความรู้สึกเปียกบนใบหน้า เมื่อใช้มือลูบ ๆ เป็นน้ำนี่เอง เธอเงยหน้าขึ้นเห็นอวี่เหวินห่าวถือถ้วยอยู่ในมือ ปากชามคว่ำลง ในชามนั้นคือว่างเปล่า หน้าของเขาดูเย่อหยิ่งและร้ายกาจ บนหัวเตียงจะมีถ้วยน้ำวางอยู่ตลอด เพื่อให้เขาสามารถเอื้อมมือไปเอามาดื่มได้เมื่อกระหาย หยวนชิงหลิงโกรธมาก เธอปรนนิบัติรับใช้เขา รักษาเขาอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แทนที่จะกล่าวขอบคุณ แต่กลับถูกเขากลั่นแกล้ง แต่ว่า นางก็ไม่ได้แสดงความโกรธออกมา กลับกัน นางมองเขาด้วยความเห็นใจ “น่าสงสารจริง ๆ เป็นถึงท่านอ๋องผู้สูงส่ง สู้รบกับศัตรูมานับไม่ถ้วน และตอนนี้กลับทำได้แค่สาดน้ำใส่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เพื่อแก้แค้นเท่านั้น” อวี่เหวินห่าวสีหน้าโกรธเคือง ยกมือขึ้นขว้างถ้วยใส่นาง ถ้วยนั้นไม่ได้โดนตัวของหยวนชิงหลิงแต่กลับหล่นลงที่หัวของเขาเอง
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 54

หยวนชิงหลิงตามถังหยางไปที่ห้องโถงใหญ่ ระหว่างทาง ถังหยางได้บอกเหตุผลกับนางแล้ว เรื่องที่นางแอบรักษาไท่ซ่างหวงโดยพลการฮ่องเต้ทรงทราบเรื่องแล้ว ทรงโกรธมาก จึงสั่งให้ขันทีมู่หรูพาคนมาเชิญนางเข้าไปในวังเพื่อไตร่สวนด้วยตนเอง ในใจของหยวนชิงหลิงรู้สึกกังวลอยู่บ้าง นางเข้าใจกฏของวังหลวงดี นางไม่ใช่หมอหลวง ไม่ใช่หมอ ไม่มีคุณสมบัติที่จะรักษาไท่ซ่างหวงได้ ขันทีมู่หรูนั่งรออยู่ที่ห้องโถงใหญ่ด้วยท่าทางเคร่งขรึม เมื่อเห็นหยวนชิงหลิงเข้ามา เขาก็ลุกขึ้นยืน และพูดอย่างเบา ๆ “พระชายาฉู่ ฮ่องเต้ให้มาเชิญพระองค์เข้าวัง” หยวนชิงหลิงเอ่ยถามเพียงคำถามเดียวว่า "ไท่ซ่างหวงเป็นอย่างไรบ้าง?" “ไท่ซ่างหวงถูกวางยาพิษและหมดสติไป” ขันทีมู่หรูกล่าวอย่างเย็นชา หยวนชิงหลิงหลับตาลง ไม่แปลกใจเลยที่ฮ่องเต้จะทรงหาผู้ทำผิด หากเป็นเพียงแค่การให้การรักษาโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็ย่อมไม่มีความผิด เช่นนั้นนางก็ไม่มีทั้งความผิดและความชอบ แต่หากมีบางอย่างผิดพลาดขึ้น เช่นนั้นโทษทั้งหมดจะต้องตกเป็นของนาง ทั้งยัง เป็นการถูกวางยาพิษ เมื่อเดินตามขันทีมู่หรูออกไปถึงประตูจวน จึงเห็นหัวหน้าองครักษ์กู้ซีก็อยู่ด้วย แววตา
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 55

หยวนชิงหลิงไม่กล้าปฏิเสธ โดยรู้ว่าเขาต้องมีหลักฐานแน่ ๆ จึงตอบกลับว่า “ทูลฝ่าบาท ใช่ เพคะ” “เจ้าเรียนทักษะทางการแพทย์มาจากไหน” จักรพรรดิหมิงหยวนถามอีกครั้ง ขณะที่หยวนชิงหลิงเข้ามาในวัง นางคิดอยู่แล้วว่าจักรพรรดิหมิงหยวนจะต้องถามแน่ ดังนั้น นางจึงคิดข้อแก้ตัวไว้ก่อนแล้ว “ทูลฝ่าบาท เมื่อหม่อมฉันยังเด็ก พบกับหญิงสาวเจียงหูท่านนึ่ง นางอาศัยอยู่ที่เมืองปักกิ่งมาระยะหนึ่งแล้ว นางถูกชะตาหม่อมฉันมาก จึงขอให้หม่อมฉันเรียนรู้ทักษะทางการแพทย์จากนาง” “เจ้าเรียนนานหรือยัง?” “หนึ่งปี” “ท่านอาจารย์ของเจ้าชื่ออะไร” จักรพรรดิหมิงหยวนกดดันทุกย่างก้าว และถามคำถามให้ถึงที่สุด หยวนชิงหลิงกล่าวว่า “หม่อมฉันไม่รู้ ท่านอาจารย์ไม่เคยเปิดเผย” ฮ่องเต้รู้สึกรำคาญมากกับคำพูดที่ไม่มีความโน้มน้าวใจ แต่ยังไงก็ยังไม่หลุดออกมา “เจ้ารักษาอาการป่วยไท่ซ่างหวง เป็นคำสั่งของเจ้าห้า?”หยวนชิงหลิงส่ายหัว “ท่านอ๋องไม่รู้เรื่องนี้” “ไม่รู้?” จักรพรรดิหมิงหยวนเม้มริมฝีปาก หรี่ตา และพูดอย่างเย็นชา “ครั้งแรกที่เจ้าให้ไท่ซ่างหวงทานยา คือเจ้
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 56

หากครั้งนี้เกี่ยวโยงไปถึงจวนพระยาจิ้ง นางเกรงว่านางจะต้องกลายเป็นคนที่คนทั้งตระกูลประนามด่าทอเป็นแน่นางค่อย ๆ นั่งลง องครักษ์กู้ซีก็ยืนอยู่ตรงข้ามนาง สองมือกอดอกมองนาง เป็นการมองอย่างที่เรียกว่า จ้องเขม็งอย่างไม่ละสายตา นางเงยหน้าขึ้นถามกู้ซี “บอกข้าได้หรือไม่ ไท่ซ่างหวงถูกพิษอะไรกันแน่?” กู้ซีปิดปากสนิท ไม่มีคำพูดอะไรหลุดออกมาแม้แต่คำเดียวหยวนชิงหลิงเองนั้นรู้ดีว่าพวกที่เป็นองครักษ์นั้นมักจะปากแข็งยิ่งกว่าเหล็กกล้าเสียอีก หากไม่ยอมที่จะพูด ต่อให้ง้างยังไงก็ง้างไม่ขึ้น นางจึงไม่สงสัยเลยสักนิดที่ไท่ซ่างหวงจะถูกวางยาพิษนับตั้งแต่เรื่องของฟูเป่าก็พอมองออก ไท่ซ่างหวงคงจะไปขัดหูขัดตาใครบางคนเข้า จึงคิดที่จะกำจัดพระองค์ทิ้งเพียงแต่ว่า พระตำหนักเฉียนคุนนั้นมิดชิดแม้แต่ลมก็ยังผ่านเข้าไปไม่ได้ หากจะลงมือวางยาในอาหาร แทบเป็นไปไม่ได้เลยจะวางยาพิษลงในพระโอสถก็เป็นไปได้น้อยมาก เพราะหมอหลวงต้มยาล้วนมีคนทดสอบยาก่อน ถ้าจะวางยาพิษในพระโอสถ คน ๆ นั้นต้องเป็น ฉางกงกงกับแม่นมสี่ ทั้งคู่เองก็เป็นคนทดลองยา หลังจากลองเสร็จแล้วถึงจะส่งเข้าตำหนักให้ไท่ซ่างหวงเสวยได้อยู่ตำหนักเฉียนคุนสามวันมานี้
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 57

“รอดูท่าที แล้วสถานการณ์มันจะพลิกผันได้รึไง?” อวี่เหวินห่าวถามออกมาอย่างเย็นชา“ไม่พ่ะย่ะค่ะ แต่อย่างน้อยก็สามารถเตรียมที่จะรับมือกับสถานการณ์ได้” ถังหยาง ถอนหายใจออกมา “ท่านอ่องในตอนนี้ไม่สามารถต้องลมได้ มันจะส่งผลต่ออาการบาดเจ็บหนักของท่าน ถึงไม่เข้าวังไปอธิบายเรื่องราว ยังไงฮ่องเต้ก็ให้อภัยโทษ แต่ถ้าท่านอ๋องเข้าวังด้วยสภาพนี้ มันจะทำให้ฮ่องเต้คิดว่าท่านใช้อาการบาดเจ็บท่านมาเล่นละครแสดงความบริสุทธิ์ใจ” “ซูยี่ไปเตรียมเกี้ยว” อวี่เหวินห่าวพูดกับซูยี่ซูยี่มองหน้าถังหยางอย่างลำบากใจ อาการบาดเจ็บของท่านอ๋องก็หนักเหลือเกิน ลงจากเตียงยังทำไม่ได้เลย แล้วท่านจะเข้าวังได้อย่างไร? “ท่านอ๋อง โปรดไตร่ตรองด้วย!” ถังหยางกล่าวด้วยน้ำเสียงขรึมอวี่เหวินห่าวไตร่ตรองซ้ำแล้วซ้ำอีก น่าจะเกินสามสิบรอบไปแล้วด้วยซ้ำตั้งแต่ที่หยวนชิงหลิงถูกขันทีมู่หรูเชิญตัวไป สมองของเขาหยุดที่จะคิดไม่ได้เลยเขาคิดคำแก้ต่างต่าง ๆ นานา แต่ว่า ไม่ว่าจะเป็นคำแก้ต่างอะไร เขาก็ไม่สามารถที่จะแก้ต่างให้ตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ได้เขาคำนึงถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่เป็นไปได้ นั่นก็คือ เพื่อที่จะหนีเอาตัวรอด
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 58

ตำหนักเสี้ยวเย่วตกอยู่ในภวังค์ความเงียบอวี่เหวินห่าวคิดไตร่ตรองซ้ำแล้วซ้ำเล่าและเงยหน้าขึ้นมองถังหยาง “เจ้าไปสืบมาไท่ซ่างหวงโดนพิษอะไร?”“ท่านอ๋อง เกรงว่าจะไม่ได้พะยะคะ”“กู้ซี เขาต้องรู้แน่!” อวี่เหวินห่าวกล่าว“ในตอนนี้กู้ซีได้รับคำสั่งให้อยู่ในวังหลวง และไม่สามารถออกมาได้ อย่างไรก็ตามกู้ซีเองก็คงอยากออกมา แต่ถ้าให้พูดสถานการณ์ของเขาตอนนี้ไม่สามารถหาทางออกมาส่งข่าวบอกได้เลย” ถังหยางพูดโดยคำนึงถึงสถานการณ์ที่รัดกุมในตอนนี้แววตาของอวี่เหวินห่าวปรากฏความโหดเหี้ยมออกมา “ข้าจะเข้าวังไปกราบทูล ข้าจะสารภาพ”“ท่านอ๋อง!” ซูยี่และถังหยางร้องตกใจเสียงหลงพร้อมกัน ท่านอ๋องบ้าไปแล้ว? จะสารภาพจริง ๆ“ข้าจะสารภาพ เรื่องทั้งหมดที่หยวนชิงหลิงทำทั้งหมด ข้าเป็นคนบงการ” ใบหน้าของอวี่เหวินห่าวว่างเปล่าไร้ความรู้สึกซูยี่ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ถ้าอย่างนั้นก็เท่ากับว่าท่านอ๋องบงการคนร้ายให้มาทำร้ายตัวเองแต่ว่า การบอกว่าตัวเองเป็นคนบงการให้พระชายารักษาไท่ซ่างหวง ก็ไม่สมเหตุสมผล“ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง ตอนนี้ท่านเองก็ตกเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยแล้ว” ซูยี่กล่าวถังหยางคิดแล้วคิดอีกก่อนจะพูดออกมา “ท่า
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 59

เกี้ยวเคลื่อนมาหยุดจอดหน้าประตูหอตำราหลวงอ๋องรุ่ยชิงกล่าวกับถังหยาง “พวกเจ้ากับท่านอ๋องรออยู่ที่นี่ ข้าจะเข้าไปพบฮ่องเต้”“พ่ะย่ะค่ะ!”เพียงแค่ชายเสื้อสะบัด อ๋องรุ่ยชิงก็ได้เข้าไปในหอตำราหลวงแล้วถังหยางเห็นพระยาจิ้งอยู่หน้าหอตำราหลวงยืนตัวสั่นหงึกหงัก หน้าถอดสีจนยืนแทบไม่ไหวเขาเดินไปข้างหน้า “ท่านพระยา”พระยาจิ้งสะดุ้งตกใจเมื่อเห็นถังหยาง เมื่อตั้งสติมองดูดี ๆ “นี่ใต้เท้าหยาง”“ท่านพระยา มาทำอะไรที่นี่?” ถังหยางกล่าวถามพระยาจิ้งมีสีหน้าเศร้าสร้อยพูดกับถังหยาง “รอฮ่องเต้เรียกเข้าพบ แต่ก็ไม่รู้ว่าพระองค์มีเรื่องอะไรจึงได้ให้คนไปตามข้า แต่กลับไม่พบข้า เพียงแต่ให้คนมาถามไม่กี่คำเกี่ยวกับเรื่องหยวน ชิง...พระชายา และบอกให้ข้ารออยู่ด้านนอก” ตอนที่พูดอยู่ ขันทีมู่หรูเดินออกมา “ท่านอ๋องฉู่ เชิญเข้าเฝ้า”ถังหยางกับซูยี่ช่วยประคองอวี่เหวินห่าวออกมา พระยาจิ้งเห็นอวี่เหวินห่าวก็ตกใจ รีบถอยตัว กลัวจะไปโดนตัวอีกฝ่าย เขาซีดเซียวราวกับกระดาษจริง ๆ ถ้ามีลมพัดก็อาจจะปลิวไปตามลมได้ด้วยซ้ำ“ฝ่าบาทให้ท่านอ๋องฉู่เข้าเฝ้าคนเดียว” ขันทีมู่หรู ขวางทางซูยี่กับถังหยางและกล่าวอย่างเรียบเฉยถังหย
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 60

อ๋องรุ่ยชิงเองก็ทนรอเฉย ๆ ไม่ได้ นำยาเม็ดที่ตัวเองพกมาออกจากแขนเสื้อ และนำใส่ปากของอวี่เหวินห่าว หลังจากนั้นก็หันมาคุกเข่า “ฮ่องเต้ กระหม่อมเองก็ไม่เชื่อว่าเจ้าห้าจะทำร้ายตัวเอง แต่อาการบาดเจ็บขนาดนี้ กระหม่อมเกรงว่าหมอหลวงเองก็ยากจะช่วยได้ ถ้าเพียงแค่แสดงละครให้พระองค์เห็น ไม่จำเป็นต้องลงทุนทำให้ตัวเองอาการหนักขนาดนี้”หยวนชิงหลิงที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกตกใจมาก ฮ่องเต้คิดว่าเขาทำร้ายตัวเองงั้นเหรอ?แต่เดิมกู้ซีที่จับตามองหยวนชิงหลิง เขาก็ออกปากขอร้องด้วยเช่นกัน “ฝ่าบาท กระหม่อมเองก็คิดว่ามันไม่สมเหตุสมผล หมอหลวงเองก็พูดว่าอาการของท่านอ๋องสาหัสมาก ต้องเตรียมตัวจัดงานศพ แต่ไท่ซ่างหวงรับสั่งให้พระชายารีบออกจากวังเพื่อมาช่วยท่านอ๋อง กระหม่อมเองก็เป็นผู้ฝึกวิทยายุทธ์ รู้ว่าดาบหอกนั้นไร้ซึ่งความเมตตา ไม่เพียงแต่จะทำให้ตนบาดเจ็บแต่ยังเป็นอันตรายถึงชีวิตได้พ่ะย่ะค่ะ”จักรรรดิหมิงหยวน พูดด้วยเสียงราบเรียบ “ทั้งหมดลุกขึ้นมาเถอะ”ในแววตาของกู้ซือมีความขุ่นมัวอยู่บ้าง ฮ่องเต้ยังคงไม่แสดงท่าทีอะไรออกมาเลยหมอหลวงที่รีบเข้ามายังวังหลวง เขารับใช้ไท่ซ่างหวงด้วยใจภักดีมาเป็นเวลาหลายปี เขาได้ฝึก
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
45678
...
102
DMCA.com Protection Status