บททั้งหมดของ ใต้หล้าสยบรัก: บทที่ 121 - บทที่ 130

1015

บทที่ 121

“ได้ๆ ข้าจะถอยไป” อวี่ เหวินห่าวถอยหลังอย่างช้า ๆ ถอยไปถึงด้านเตียงข้างจริง ๆ ถึงนั่งลงบนเตียง หยวน ชิงหลิงเดินโซซัดโซเซไปที่โต๊ะข้างหน้า มองม้านั่งแล้วก็หย่อนก้นนั่งลงไป นั่งได้ไม่เท่าไหร่ กลิ้งตกเก้าอี้ลงมา เก้าอี้พลิกคว่ำล้มอยู่ตรงเข่าของเธอเธอเตะมันออกไปด้วยความโมโห ค่อยเรียกท่าทีดุดันกลับมาได้ มีดอีโต้นี้ก็หนักซะเหลือเกิน ข้อมือเจ็บจะแย่อยู่แล้ว ไม่มีแรงจะถืออีก เสียงมีดตกลง กระเด้งไปกับพื้น มือของเธอที่ลูบใบมีดที่มีเลือดเปื้อนกระเซ็นเธอนั่งลงกับพื้นอยู่สองนาที คิดถึงตัวเองที่เอามีดอีโต้จะมาทำร้ายคน สุดท้ายคนที่เจ็บมีแต่เธอคนเดียว ความโกรธที่อัดแน่นแปรเปลี่ยนเป็นความโศกเศร้าเสียใจ เธอสูดปากแล้วร้องไห้เสียงดังออกมา อวี่ เหวินห่าวเห็นนางนั่งร้องไห้เสียงดังกับพื้นแบบไม่รักษาอากัปกริยา เหมือนเด็กถูกรังแก ในใจก็รู้สึกเหมือนจี้ใจดำตัวเอง นางเอามือเปื้อนเลือดนั้นปาดน้ำตาออกคราบเลือดที่เปื้อนบนใบหน้า เขารู้สึกทำตัวไม่ถูกเหมือนหมาป่าที่พ่ายแพ้ เขาเดินเข้าไปอย่างเงียบ ๆ หยิบผ้าก๊อชที่เหลือมาช่วยนางทำแผล อวี่ เหวินห่าวถอนหายใจเบา ๆ “ข้าผิดเอง ดีไหม? อย่าร้องไห้เลย ที่เป็นอยู่ก็ขี้
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 122

หยวน ชิงหลิงทั้งตีทั้งกัดจนเริ่มหายโกรธไปบ้างแล้ว เธอเวียนหัวมากจริง ๆ สายตาก็สั่นจนจับโฟกัสไม่ได้ เธอจึงหมดสติบนร่างของ อวี่ เหวินห่าวด้วยความเวียนหัวอวี่ เหวินห่าวพบว่าจู่ ๆ นางก็หยุดขยับเขยือนไป อวี่ เหวินห่าวเลยเขย่านาง “นี่!”หยวน ชิงหลิงพึมพัมเบา ๆ หัวเธอซบบนไหล่ของเขา บ่นเสียงเบาว่า “ข้าอยากกลับบ้าน หลับคราวนี้คงได้กลับบ้านแล้ว” อวี่ เหวินห่าวรู้สึกเคืองขึ้นมา เมาอาละวาดจนนอนหลับไปแล้ว กลับบ้านเหรอ? ได้สิ พรุ่งนี้จะพากลับบ้าน แต่ก็แปลกจริง ๆ จวนจิ้งโฮ่วเลวร้ายขนาดนั้น มีอะไรให้น่าคิดถึง?เขาผลักนางออกไปแล้วลุกขึ้น เห็นนางนอนอยู่บนพื้นเย็น ๆ แบบนั้นแล้วขดตัวให้อุ่น อวี่ เหวินห่าวแม้ว่าจะโกรธ แต่ก็อดรู้สึกเห็นใจไม่ได้เขาจึงค่อย ๆ ก้มลงไปอุ้มนางขึ้นมา ตัวนางไม่ได้หนักสักเท่าไหร่ ถึงอาการบาดเจ็บจะยังสาหัส แต่อุ้มนางขึ้นมาแบบนี้ไม่รู้สึกยากลำบากเลยสักนิดอุ้มนางไปไว้บนเตียง คิดแล้วคิดอีก แต่ก็ยังห่มผ้าห่มให้ มองดูใบหน้าที่เคยโกรธจัดจนเป็นสีแดงก่ำของนาง เขาส่ายหน้าเบา ๆ “เป็นหญิงบ้าจริง ๆ”เขาลุกขึ้นมาไปเปิดประตู กู้ซือ, ถังหยางและสวี่อีรีบเข้ามา โผล่หัวเข้าไปมองในห้อง“ไม่
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 123

“เพราะเหตุใดกัน?” กู้ซือไม่เข้าใจเลย ถ้าแต่งกับคุณหนูรองตระกูลฉู่ ถึงจะไม่ได้ช่วยสนับสนุน แต่ก็อาจจะไม่ลงมือกันได้ อย่างน้อยศัตรูที่แข็งแกร่งหายไปหนึ่ง และที่สำคัญเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดด้วยแววตาของ อวี่ เหวินห่าวดูเย็นลง “ข้าไม่เคยคิดอยากแต่งงานกับฉู่หมิงหยาง” “นาง...ได้ยินมาว่าเติบโตมาคล้ายพระชายาฉีมาก” กู้ซือพูดเสียงเบาและมองไปที่เขาดวงตาของ อวี่ เหวินห่าวมีประกายเล็กน้อย “โตมาเหมือนแล้วยังไง? สุดท้ายก็ไม่ใช่นาง”กู้ซืออดพูดขึ้นมาไม่ได้ว่า “ถึงเป็นนาง ก็แต่งไม่ได้อยู่ดี”อวี่ เหวินห่าวเงียบไปสองสามวินาทีและค่อย ๆ หันไปมองกู้ซืออย่างช้า ๆ “เจ้าจุ้นจ้านเกินไปแล้ว”กู้ซือส่ายหัว “กระหม่อมจุ้นจ้าน ก็เพราะมีเจตนาดี การคิดถึงคนที่ไม่ควรคิดถึง มันจะทำให้ท่านเสี่ยงอันตรายได้ อีกทั้งยังจะทำร้ายความรู้สึกระหว่างท่านกับท่านอ๋องฉีอีกด้วย” ถังหยางอยากจะตบมือยกย่องชมเชยให้กู้ซือมาก ๆ แต่พอเห็นสีหน้าของท่านอ๋องฉู่ดำเข้มเสียขนาดนั้น เขาต้องอดกลั้นไว้“โปรดปล่อยวางตัวท่านเองด้วย!” กู้ซือกล่าวอวี่ เหวินห่าวไม่พูดไม่จา สีหน้าก็ดูไม่สู้ดีกู้ซือรู้ว่าคงไม่อาจกล่าวอะไรได้อีก เลยลุกขึ้
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 124

มีของสองสิ่งอยู่ในกระเป๋าแขนเสื้อกล่องไม้ใบเล็กใบหนึ่งที่ทำขึ้นอย่างประณีต เขาเคยเห็นมันมาก่อนแล้ว แต่ตอนที่เขาเห็นกล่องไม่ได้ใบเล็กขนาดนี้นอกจากนี้ยังมีกระดาษอีกหนึ่งใบ กระดาษแผ่นนั้นพับมีลายพิมพ์ตรานกกระเรียน เขาเลยเปิดดู พบว่าเป็นตั๋วเงินที่เสด็จพ่อพระราชทานให้นางจำนวนสองพันตำลึงทอง พร้อมตราประทับขนาดใหญ่ด้านล่างในใจของเขารู้สึกยุ่งยาก ผู้หญิงคนนั้นที่ใคร ๆ ต่างก็เมิน ทำให้ใคร ๆ ก็เกลียดเช่นนั้น ทำไมทำให้เสด็จพ่อและเสด็จปู่รักใคร่เอ็นดูถึงเพียงนี้?เขาค่อย ๆ เปิดกล่องอย่างระมัดระวัง มีปุ่มเล็ก ๆ ซ่อนอยู่ เขากดมันลงไป ได้ยินเสียงปลดสลักเสียงเบาดังกริ้ก ด้านในว่างเปล่า ไม่มีอะไรแปลกประหลาด น่าจะมีอะไรอยู่ในกล่องใบนี้ นางบอกว่าคือยาและนางหยิบเข็มฉีดยาจากในกล่องนี้ด้วย หรือว่าใช้หมดแล้ว?ใช้หมดแล้วก็ดี ทีหลังจะได้มาจับเขาฉีดไม่ได้อีกแต่ทว่านางซ่อนมันทำราวกับกล่องใบนี้เป็นสมบัติล้ำค่า ต้องซ่อนเอาไว้ หากนางเมาอาละวาดอีกคงเอามีดไล่ฟันคนอีกครั้งแน่ เขาจึงหยิบกล่องนั้นขึ้นมา รีบยัดมันไว้ข้างล่างเตียงหลังจากนั้นเขาก็ตกใจเป็นอย่างมากทันทีที่เจ้ากล่องนี้แตะพื้นมันก็ใหญ่ขึ้นแม้
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 125

อวี่ เหวินห่าวพูดตอบอย่างเฉยชาว่า “ถ้าเจ้าไม่เชื่อ เจ้าก็ลองเอากล่องนี้เข้าวัง ข้าจะดูว่าหัวของเจ้าจะวางบนคอเจ้าได้อย่างปลอดภัยไหม?”ที่จริงแล้ว หยวน ชิงหลิงไม่เคยคิดเลยว่าการเป็นพระชายาในยุคสมัยโบราณ จะเป็นงานที่อันตรายเช่นนี้ ในประวัติศาสตร์ พวกพระชายาทั้งหลายไม่ใช่ว่าใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบสุขร่ำรวยหรือ? ทำไมเธอช่างน่าอเนจอนาถถึงเพียงนี้?ย้อนอดีตมาไม่ถึงครึ่งเดือน เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะเป็นบ้าให้มันรู้แล้วรู้รอดอย่างไรเสีย เมื่อนึกถึงความตาย ชั่วขณะเดียวนั้นในใจเธอก็รู้สึกท้อแท้ขึ้นมา เธอยกกล่องยาขึ้น กล่องยาหดจนเหลือขนาดเล็กเธอเก็บกล่องนั้นใส่แขนเสื้อ แล้วเงยหน้ามอง “ข้ายอมหักไม่ยอมงอ ภายหลังถ้าท่านรังแกข้า ข้าจะบีบท่านให้ตายเลย”กล่องยาที่เล็กลงนั้นทำให้ อวี่ เหวินห่าวตกใจอีกครั้ง เขาสัมผัสคำพูดของนางดูเย่อหยิ่ง รู้สึกไม่ค่อยน่าโกรธ “เจ้าเอามีดหั่นผักมาไล่ฟันคนอื่น ฟันคนอื่นก็ไม่ได้ ยังกล้ามาขู่ข้า? เจ้านี่หน้าไม่อายเลยหรือ?”“ไม่อาย ข้ามีอะไรต้องอายอีก หน้าไม่อาย ไร้อารยะ ไร้ศีลธรรม สรุปคือถ้าข้าตายหัวหลุดจากบ่า ท่านเองต้องเป็นคนแรกที่จะซวยก่อนใคร” อวี่ เหวินห่าวรู้ส
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 126

แน่นอนว่า หยวน ชิงหลิงไม่รู้ว่าในใจเขาคิดอะไรอยู่ แต่ก็คิดว่าเขาเองก็ไม่ได้ไร้จริยธรรมไปซะทีเดียว มองดูจากรูปการณ์แล้ว เขาแต่งกับฉู่หมิงหยางก็ไม่ได้ทำให้เขาเสียหาย แต่เขาเอง ก็ไม่ได้อยากทำลายทั้งชั่วชีวิตของฉู่หมิงหยางไป ดังนั้นถือว่าเหมือนสละอำนาจวาสนาที่ยิ่งใหญ่ทิ้งในตอนนี้ก็ไม่ถือว่าเป็นผู้ชายเลวร้าย แต่ก็เป็นผู้ชายที่ชอบใช้ความรุนแรงในบ้าน “หายกัน ตกลงไหม?” อวี่ เหวินห่าวมอง หยวน ชิงหลิงแล้วถามนางน้ำเสียงของเขาให้ความรู้สึกดีมาก ไม่มีการแสดงอำนาจยกตนข่มกัน หยวน ชิงหลิงมองไปที่ อวี่ เหวินห่าวด้วยความจริงใจเธอในตอนนี้เต็มไปด้วยศัตรูรอบด้าน ตอนนี้เธอไม่จำเป็นต้องสู้รบกับ อวี่ เหวินห่าวอีก เธอจับหน้าตัวเองตั้งสติปรับสายตามอง อวี่ เหวินห่าวชัดแล้วพูดกับเขาอย่างจริงจังว่า “คืนดีก็ได้ แต่ข้ามีเงื่อนไข”“ว่ามา!” อวี่ เหวินห่าวพูดออกมาอย่างง่าย ๆ สบาย ๆ“ข้อแรก อย่าลงไม้ลงมือทำร้ายข้า”“ตกลง!”“ข้อสอง อย่าเอาข้าไปเป็นโล่รับหน้าเรื่องการแต่งสนมอีก ถ้าเรื่องนี้ทางนั้นยังคงต้องการ”อวี่ เหวินห่าวคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ตกลง!”“ข้อสาม อย่ามาก้าวก่ายในอิสระของข้า”“นั่นมันก็ได้” เขาเองก
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 127

ที่จริงสองสามวันมานี้ หยวน ชิงหลิงเองก็คิดถึงเรื่องของกล่องยานี้ กล่องยาจะใหญ่จะเล็กขึ้นอยู่กับความคิดของเธอ คงพูดได้ว่าเป็นการสั่งการทางจิต เธอในยุคปัจจุบันได้ตายไปแล้ว เพราะเธอฉีดยากระตุ้นพัฒนาสมองให้ตัวเองตอนทดลองยาตัวนี้ ทดลองฉีดกับลิงแล้วพบว่าลิงสามารถฟังภาษามนุษย์เข้าใจได้ ในระหว่างการค้นคว้าเพิ่มเติม เพราะลิงตัวนี้ไปขโมยกินไวน์นำเข้าที่ส่งมาให้ผู้อำนวยการ เมาแล้ววิ่งออกไปถูกรถชนตาย เธอกล้าสรุปได้เลยว่า สมองของเธอเองอาจพัฒนาจนไปถึงขั้นเป็นจิตวิญญาณ ที่หลุดมาในอยู่ในยุคนี้ เรื่องนี้ยังคงต้องศึกษาสังเกตุการณ์ต่อไปแน่นอนอย่างไรก็ตามก็ไม่มีกรณีศึกษาให้ได้ศึกษา และไม่มีแผนสังเกตการณ์ อีกทั้งยุคนี้การใช้ชีวิตมันยุ่งยากซับซ้อน ความเป็นตายเท่ากันเจ้ากล่องยาที่น่าประหาดใจนี่ ทำให้ทั้งคู่เลิกโต้เถียงกันไม่ว่าอย่างไรก็ตาม บรรยากาศจวนอ๋องฉู่กลับรู้สึกกลมกลืนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สามีภรรยาคู่นี้ได้ร่วมโต๊ะทานอาหารด้วยกันเป็นครั้งแรกบรรยากาศกลมกลืนรื่นรมย์เช่นนี้ แต่บรรยากาศที่จวนฉู่กลับดุเดือดเสียเหลือเกินวันนี้ พระชายาฉีกลับบ้านแม่ อ๋องฉีออกไปธุระโดยไม่มีผู้ติดตาม ฉู่โซ่วฝ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 128

ใบหน้าโกรธเกรี้ยวของฉู่โซ่วฝูค่อย ๆ จางหายไป เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวประธานของห้องนี้ สีหน้าดูมืดมน “นี่จะเป็นโอกาสสุดท้ายของเจ้า ถ้าเจ้าไม่พูด เจ้าก็เตรียมตัวกระเด็นออกจากตำแหน่งพระชายาฉีของเจ้าไปได้เลย ในตระกูลฉู่ยังมีคุณหนูที่เชื่อฟังข้าอีก”“ท่านปู่ฟังหลานก่อน หลานไม่ได้ตั้งใจ” นางร้องไห้สะอึกสะอื้น น้ำตาที่ไหลออกจากหางตา ดูแล้วน่าสงสารอย่างบอกไม่ถูก ใครเห็นก็คงไม่อาจทำใจแข็งอยู่ได้ช่างน่าเสียดาย ฉู่โซ่วฝูไม่รู้สึกเช่นนั้นเลย เขาไม่เคยเชื่อน้ำตานางอยู่แล้ว “เก็บน้ำตาเจ้าไว้ แล้วไสหัวออกไปซะ!” ฉู่โซ่วฝูพูดไล่อย่างเย็นชาฉู่ หมิงชุ่ยแสดงสีหน้าหวาดกลัวและเสียใจออกมา และรีบพูดกับท่านปู่ “ท่านปู่ ข้าผิดไปแล้ว ข้าผิดเอง ข้าไม่ควรใช้ประโยชน์จากมิตรภาพของท่านกับนางข้าหลวงสี่ เรื่องนี้หลานเป็นคนสั่งให้นางวางยาไท่ซ่างหวงเอง หลานแค่กลัวว่าไท่ซ่างหวงดีขึ้น อ๋องฉู่ได้ขึ้นมามีอำนาจอีกครั้ง หลานก็แค่คิดถึงสถานการณ์โดยรวมเท่านั้น”“เจ้ารู้ความสัมพันธ์ของนางข้าหลวงสี่กับข้าได้อย่างไร?” ฉู่โซ่วฝูพูดด้วยน้ำเสียงดำมืดและเย็นชา ทุกคนในนี้ตกลงในบรรยากาศดำมืดเย็นยะเยือกฉู่ หมิงชุ่ยไม่เคยเจอสีหน้า
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 129

คน ๆ นั้นเป็นชายชรารูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าผอมเรียว เมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาก็หลุบตาลง “เช่นนั้นพระชายาล่ะขอรับ?”“นางเป็นคนฉลาด นางจะหุบปากแน่น เมื่อได้เห็นจุดจบของย่านาง” ฉู่โซ่วฝูหลับตาข่มความโกรธและรังสีอมหิตในแววตาตัวเอง ฉู่ หมิงชุ่ยออกจากห้องหนังสือ ก็ไม่ได้ออกไปทันที แต่นางไปหาน้องสาวฉู่หมิงหยางที่เรือนของนางเมื่อต้นปีที่ผ่านมาฉู่หมิงหยางอายุครบสิบห้าปีพึ่งผ่านพิธีปักปิ่นไป มีส่วนละม้ายคล้ายฉู่หมิงชุ่ยมากนัก แต่ฉู่หมิงหยางมีความเหย่อหยิ่งมากกว่า ต่างจากฉู่หมิงชุ่ยที่นิ่งสงบและอดทนมากกว่ามากตอนที่ฉู่หมิงหยางเกิด ท่านปู่ที่เพิ่งหายป่วย รีบลุกขึ้นมาดูหลาน ดังนั้น ตั้งแต่เด็กฉู่หมิงหยางเป็นที่รักใคร่โปรดปรานไม่น้อยไปกว่าลูกชาย ที่เกิดจากภรรยาเอกในจวนเลยฉู่ หมิงชุ่ยนึกสงสัย จริง ๆ แล้วท่านปู่ตั้งแต่เริ่มก็ไม่คิดให้น้องสาวไปแต่งเป็นพระชายารอง ถ้าน้องสาวแต่งเข้าจวนอ๋องฉู่ ไม่ช้าหรือเร็ว น้องสาวนางต้องได้ตำแหน่งพระชายารองมาอยู่ในมือแน่ดังนั้น นางไม่สามารถให้ฉู่หมิงหยางแต่งมาเป็นพระชายารองอ๋องฉีได้ นั้นคือภัยคุกคามต่อตำแหน่งพระชายาของนาง ท่านปู่ใช้งานนางเพราะนางสงบเสงี่ยม ถ้าตอนน
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 130

ฉู่หมิงหยางรู้สึกโศกเศร้า “วันก่อนท่านแม่พูดให้ข้าแต่งกับอ๋องฉู่ แต่ข้าไม่อยากแต่งกับอ๋องฉู่ และไม่อยากแต่งเป็นพระชายารอง ข้าไม่อยากแต่ง”ฉู่ หมิงชุ่ยกระพริบตาแล้วพูดต่อไปว่า “อ๋องฉู่ไม่เป็นไรหรอก ไทเฮาเองก็ไม่กล่าวอะไรสร้างความยากลำบากให้พระชายาฉู่ พระมารดาของอ๋องฉู่ พระสนมเสียนเฟยเองก็เป็นหลานของไทเฮา ในความสัมพันธ์นี้ ไทเฮาใจกว้างต่อคนในจวนอ๋องฉู่มากนัก เจ้าดูพระชายาฉู่สิ หลังจากแต่งงานแล้ว เข้าไปถวายพระพรในวังน้อยมาก ไทเฮาเองไม่ได้พูดอะไร”“อ๋องฉู่...” ภาพชายหนุ่มรูปงามที่ปรากฏในความทรงจำของฉู่หมิงหยาง ครั้งสุดท้ายที่เห็นเขา ที่ประตูเมือง ตอนนั้นเขากลับมาอย่างผู้มีชัย ขี่ม้าศึกตัวสูงใหญ่ สวมชุดเกราะทองคำ ช่างสง่างามยิ่งนักที่จริงนางก็รู้จักอ๋องฉู่มาตั้งแต่เด็ก เขามาที่จวนนี้บ่อย ๆ แต่ใคร ๆ ก็รู้ว่าเขามาพบพี่สาวนางพูดตอบอย่างเรียบไปว่า “ข้าไม่ตกลงแต่งกับอ๋องฉู่”ฉู่ หมิงชุ่ยตกใจ “ทำไมหรือ?” ที่จริงนางรู้ความในใจของน้องสาวนาง ย้อนไปตอนที่อ๋องฉู่มาหา น้องก็จะแอบมองจากหลังประตูเสมอ“เขาแต่งกับลูกสาวตระกูลหยวน เขาแต่งกับ หยวน ชิงหลิงผู้หญิงพรรค์นั้น ข้ารับไม่ได้” ฉู่หมิงหยางพูดต
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
1112131415
...
102
DMCA.com Protection Status