Share

บทที่ 6

Author: เยว่รั่วซิงเหอ
last update Last Updated: 2024-12-10 17:39:59
ผู้เฒ่าเฉียนรับมาอย่างระมัดระวัง และเปิดออกทีละชิ้นๆ

สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ งานที่ทำมาอย่างประณีต สภาพก็สมบูรณ์ และมันก็มาจากยุคเดียวกันกับหยกโบราณจริงๆ

เขาพูดโพล่งออกมาโดยไม่คิดว่า "ทำไมเมื่อตอนบ่ายคุณไม่เอาให้ผมไปพร้อมกันเลยล่ะ?"

เฉินจินเยว่อ้าปากเตรียมจะแก้ตัว ศาสตราจารย์เหยียนก็พูดเสียงเย็นชาว่า "ให้โดนคุณหลอกอีกอะเหรอ?"

ผู้เฒ่าเฉียน "..."

ตาเฒ่าเหยียนไอ้เจ้านี่!

เราสองคนรู้จักมักจี่กันมาครึ่งค่อนชีวิต ดันมาสอนให้นักเรียนตัวเองระวังตัวกับผมเนี่ยนะ!

เสียใจนะ!

แต่ความเสียใจอยู่ได้ไม่ถึงสองนาที เขามองดูศาสตราจารย์เหยียนที่อยู่ข้างๆ กำลังสังเกตสิ่งของนั่นอย่างจริงจัง แล้วกดถ่ายรูปพร้อมส่งออกไป เสียงราวสัญญาณเตือนดังขึ้นในใจเขา

"แหวนหยกทรงยิงธนูนี่ ไหนเธอลองพูดซิเธอคิดว่าไง" จู่ๆ ศาสตราจารย์เหยียนที่เพิ่งส่งรูปเสร็จก็เอ่ยถามเฉินจินเยว่

"…"

เฉินจินเยว่ไม่คิดเลยว่าจะทำธุรกิจยังต้องมาสอบอีก

เธอทำได้เพียงอธิบายคร่าวๆ สองสามประโยคเกี่ยวกับรูปลักษณ์และงานฝีมือ

ศาสตราจารย์เหยียนพยักหน้า "เธอพูดได้ถูกต้อง รูปลักษณ์งดงาม ลวดลายหน้าสัตว์ใช้เทคนิคแกะสลักแบบเส้นบางประณีต บอกถึงความชำนาญสูง หยกทรงแหวนยิงธนูเมื่อพัฒนามาจนถึงสมัยราชวงศ์หนานเป่ย ก็ได้กลายเป็นของเล่นเหล่าเชื้อพระวงศ์และชนชั้นสูงเป็นหลักไปแทน แม้จะมีหลากหลายรูปแบบ แต่ก็สูญเสียวิถีการใช้งานเดิมในฐานะ ‘อุปกรณ์ยิงธนู’ ไปโดยสิ้นเชิง"

พอพูดถึงตรงนี้เขาก็หยุดลงครู่หนึ่ง "แต่แหวนหยกทรงยิงธนูนี่ต่างออกไป"

"ถูกต้อง!"

ผู้เฒ่าเฉียนตอบรับด้วยน้ำเสียงที่ฟังได้ชัดว่าไม่สุขุมเท่าศาสตราจารย์เหยียน มันแฝงไปด้วยความตื่นเต้นที่ยากจะระงับไว้ "แหวนหยกยิงธนูนี่เป็นรูปทรงกระบอก แถมตรงกลางยังมีร่องตะขออยู่ ลองดูตรงนี้ดีๆ การสึกหรอแบบนี้เห็นได้ชัดว่าใช้งานบ่อย!"

"มันไม่ใช่แค่เป็นเครื่องประดับเพื่อความสวยงามนะ แต่ยังรักษาฟังก์ชันการใช้งานไว้ด้วย และประสิทธิภาพไม่มีลดลงเลยแม้แต่น้อย!"

ผู้เฒ่าเฉียนพูดมาถึงตรงนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอย่างทึ่งๆ "ตกลงมันยุคไหนกันแน่ ถึงสามารถดึงเอาข้อดีทั้งสองด้านมาใช้ได้อย่างเต็มที่ถึงขีดสุดแบบนี้!"

เฉินจินเยว่ "..."

เธอรู้ว่าของสิ่งนี้มีความหมายมากในยุคนี้

แต่เธอเป็นแค่คนธรรมดาๆ ที่ยังคงให้ความสนใจกับเรื่องเดิมว่ามันสามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินได้เท่าไหร่...

เห็นเธอไม่สนใจในสิ่งนี้ ศาสตราจารย์เหยียนก็ถอนหายใจเบาๆ อย่างจนปัญญา

ของชิ้นต่อๆมาก็มีแต่ชายชราสองคนที่เริ่มพินิจพิเคราะห์เชยชม พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันไปมาอยู่สองคน

ศาสตราจารย์เหยียนในฐานะที่เป็นครูอยู่แล้ว ถึงจะตื่นเต้นแค่ไหนก็ยังคงรักษาท่าที แต่ผู้เฒ่าเฉียนนั้นกลับตกอกตกใจและตกตะลึงบ่อยๆ จากสีหน้าของเขาก็พอจะเดาได้ถึงมูลค่าของสิ่งของนั้น

ปิ่นปักผมหยกสีขาวไม่มีค่าเท่ากับแหวนหยกยิงธนู

ประตูไม้สำหรับตกแต่งที่ถูกยกขึ้นก็วางลงไปทันที

ส่วนทองคำแท่ง พวกเขาไม่แสดงอารมณ์ออกมา

เมื่อถึงเหรียญทองสัมฤทธิ์ สีหน้าศาสตราจารย์เหยียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย ขณะที่ผู้เฒ่าเฉียนตื่นเต้นจนลุกขึ้นยืน

"ในยุคนั้นมีเทคโนโลยีการหล่อเหรียญของตัวเองด้วยหรือ?!"

"ยังต้องไปเสาะหาหลักฐานข้อมูลเพิ่มเติม"

ศาสตราจารย์เหยียนพยายามรักษาความสุขุม แต่เขาเองก็ตื่นเต้นไม่น้อย

เดิมทีพวกเขาคิดว่ามันเป็นเพียงประเทศเล็กๆที่มีความรุ่งเรืองในยุคประวัติศาสตร์เพียงช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น

มีความเฉพาะตัวและมูลค่าการขุดค้นที่สูง

แต่เมื่อเห็นการปรากฏตัวของเหรียญทองสัมฤทธิ์ พวกเขาก็รู้สึกสะเทือนไม่น้อย

ประเทศเช่นนี้ ในประวัติศาสตร์จะไม่มีบันทึกเลยงั้นหรือ?

หลังจากเงียบสงบอยู่นาน ผู้เฒ่าเฉียนก็มองไปที่เฉินจินเยว่ "เสี่ยวเยว่ ของพวกนี้บรรพบุรุษเธอตกทอดมาหรือเปล่า? แน่ใจนะว่ามาจากยุคเดียวกัน"

เฉินจินเยว่ส่ายหัวเหมือนเดิม ก่อนจะโยนคำถามกลับ "ไม่ทราบ ไม่แน่ใจเลยค่ะ คุณคิดว่าไงล่ะคะ?"

ผู้เฒ่าเฉียน "..."

เขาเสมอรู้สึกว่าสาวน้อยคนนี้ไม่ง่ายเหมือนที่เห็น เธอมีความลับ

ตัวอย่างเช่นเหรียญทองสัมฤทธิ์ที่ยังคงสภาพดี ส่วนทองคำแท่งนั้นใหม่เอี่ยมราวกับเพิ่งถูกผลิตออกมาไม่นาน

แต่เทคนิคการทำก็ยังคงมีความคล้ายคลึงกับวัตถุอื่น ๆ ในยุคเดียวกัน...

ตามที่ศาสตราจารย์เหยียนกล่าว เหรียญทองสัมฤทธิ์ยังต้องการการพิสูจน์ และมูลค่าจริงๆก็ไม่สูงมาก แค่หนึ่งหมื่นต่อเหรียญเท่านั้น

ทองคำแท่งผ่านการชั่งน้ำหนักแล้ว เป็นแบบสิบสองท่อน ราคาแท่งละสี่แสนห้า

ปิ่นปักผมโบราณหยกสีขาวมูลค่าประมาณหกล้าน

ประตูไม้สำหรับตกแต่งที่ระบุวัสดุไม่ได้ราคาหนึ่งหมื่นห้าพัน

ผู้เฒ่าเฉียนมองแหวนหยกยิงธนูอยู่นานแต่ไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมา ซ้ำยังลอบมองศาสตราจารย์เหยียนเป็นระยะ ๆ

"ยี่สิบห้าล้าน"

ศาสตราจารย์เหยียนเขาไปครึ่งวันแล้วไม่พูดอะไร โดยไม่คาดคิดเลยเปิดปากพูด

เฉินจินเยว่เบิกตากว้าง

ผู้เฒ่าเฉียนกระโดดตัวลอยทันที "ไม่ปล้นกันไปเลยล่ะ?! ของชิ้นนี้หายาก มูลค่าการสะสมสูงมาก แต่ต่อให้เอาไปเข้าประมูลมันก็..."

"เมื่อครู่ผมส่งให้พ่อหนุ่มตระกูลโจวนั่น เขาให้ผมเสนอราคาเลย เขาไม่ต่อรอง"

"เขาจะไปรู้อะไร? เขาก็แค่มีเงินไม่เท่าไหร่! ซื้อของไม่ต่อรองราคา ถูกคนอื่นเอาเปรียบราวคนโง่ก็ยังไม่รู้ตัว! ถ้าผมเป็นปู่เขานะ ผมจะไล่เขาออกจากวงศ์ตระกูลไปเลย!"

"คุณไม่ใช่ปู่เขา เขาซื้อก็เพื่อให้ปู่เขา เขาปู่เขารู้เข้าใจประวัติศาสตร์มากกว่าใคร คุณแน่ใจไหมว่าจะไม่เอา?"

"…"

ผู้เฒ่าเฉียนหุบปากทันที

เขารู้ดีว่าถ้าเขาบอกไม่เอา ตาเฒ่านี่คงเอาให้คนอื่นจริงๆแน่

ถ้าหลุดถึงมือตระกูลโจวแล้ว ต่อไปของในยุคนี้คงไม่มีทางหลุดออกสู่ตลาดอีก

ราคานี้สูงไปหน่อย โอกาสที่จะทำกำไรจากส่วนต่างมีไม่มาก แต่ก่อนหน้านั้นเขาเก็บหยกขาวหยางจือมาแล้ว

เมื่อเทียบกันแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขาคาดว่าในมือของเด็กสาวน่าจะยังมีของอยู่อีกมาก เขาพูดอย่างหนักแน่นว่า "ยี่สิบห้าก็ยี่สิบห้า!"

เขาคิดจะโอนเงินทันที แต่เฉินจินเยว่หยุดเขาไว้

"รอเดี๋ยวค่ะ!"

"รออะไร?"

ผู้เฒ่าเฉียนลนลาน "เธอเอาออกมาแล้ว ไม่ใช่ว่าจะไม่ขายนะ?"

เฉินจินเยว่ส่ายหัว จ้องไปที่ประตูไม้แล้วถามอย่างไม่ยอมแพ้ "ของตกแต่งชิ้นนี้มีมูลค่าเพียงหนึ่งหมื่นห้าพันบาทเท่านั้นเหรอคะ?"

ผู้เฒ่าเฉียนพอได้ยินว่าเธอแค่ไม่พอใจกับราคาประตูไม้ตกแต่ง ก็ถอนหายใจโล่งอก "ของชิ้นนี้วัสดุแปลกมาก แถมยังมีตำหนิอีก ถือเป็นข้อเสียสำคัญ ถ้าเธอชอบก็เก็บไว้เป็นที่ระลึกเถอะ ยังไงแค่หมื่นห้าก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเธออยู่แล้วนี่"

เขาไม่ได้สนใจของเล็กๆ น้อยๆ นี้เลย เขาเพียงคิดว่าไหนๆก็มาแล้ว จึงคิดเอาติดกลับไปด้วย

เฉินจินเยว่รู้สึกว่าเขาพูดมีเหตุผล อีกทั้งเธอก็รู้สึกถูกชะตากับของชิ้นนี้อยู่ไม่น้อย จึงตัดสินใจเก็บมันกลับมา...

หลังจากทานอาหารเสร็จ เฉินจินเยว่ก็ขอตัวก่อน

คราวนี้เป็นผู้เฒ่าเฉียนที่หน้าบูดบึ้ง ก่อนพูดจาเหน็บแนมศาสตราจารย์เหยียน "มีมิตรภาพกันมาหลายสิบปี สุดท้ายกลับสู้ลูกศิษย์คนเดียวไม่ได้ ผมพอจะเข้าใจละ"

ศาสตราจารย์เหยียนไม่แสดงอารมณ์ใดๆ "คุณแค่มีรายได้น้อยลงมันไม่ตายหรอก แต่สถานการณ์ของเธอตอนนี้ ถ้าไม่มีเงินคงได้ตายจริงแน่"

ตระกูลเฉินไม่ได้เป็นหนี้แค่ธนาคารและเหล่าช่องทางจัดจำหน่ายของเท่านั้น แต่ยังมีหนี้สินจากการกู้เงินนอกระบบดอกเบี้ยสูงอีกด้วย

ผู้เฒ่าเฉียนได้ยินแบบนั้น ก็หายใจเบาๆ อย่างจำใจ

เจอครอบครัวแบบนั้นนี่ก็ถือว่าโชคร้ายอยู่นะ

แต่ไม่นานเขาก็เปลี่ยนเรื่องทันที เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสงสัย‘เฉินเจี้ยนกั๋ว เถ้าแก่ร้านเล็กๆ ในเมืองเล็ก ๆ ไม่คิดเลยว่าจะมีของดีแบบนี้ด้วย! แถมยังเก็บรักษาได้ดีมากอีก ไม่มีฝุ่นหรือเสื่อมสภาพเลย…’"

พอพูดถึงตรงนี้ จู่ๆเขาก็สงสัย "แต่แค่ของไม่กี่ชิ้นก็มีมูลค่ามากกว่าหลายสิบล้านแล้ว ทำไมพวกเขาก่อนหน้านี้ถึงไม่ขายของเก่าใช้หนี้ล่ะ?"

เขาถึงขั้นสิ้นหวังคิดยอมแพ้ชีวิต และหาวิธีที่โหดร้ายทำลายลูกสาวเพื่อช่วยลูกชาย

ศาสตราจารย์เหยียนคิดครู่หนึ่ง แล้วทว่าก็แสดงท่าทีสงสัยออกมาเช่นกัน

แต่เมื่อเห็นผู้เฒ่าเฉียนยังคงพูดจาอยากรู้อยากเห็นไม่หยุด เขาจึงตอบแบบขอไปทีไป

"ในเมืองเล็กๆ อาจไม่มีคนที่รู้คุณค่าของของพวกนี้ก็ได้ เรื่องส่วนตัวของคนอื่น เลิกพูดไปทั่วเถอะ"

"คุณพูดอะไรของคุณ! ผมเป็นคนแบบนั้นเหรอ?

เฉินจินเยว่พยายามรักษาความสุขุมต่อหน้าผู้เป็นอาจารย์ แต่พอเดินออกจากร้านอาหาร ความตื่นเต้นที่กดไว้ก็พุ่งขึ้นมาทันที

เธอนับจำนวนเลขศูนย์ในบัญชีธนาคารหลายรอบจนหัวใจเต้นเร็วขึ้น

ชั่วชีวิตนี้เธอไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้มาก่อน

พรุ่งนี้ต้องรีบไปจ่ายภาษี จากนั้นจ่ายเงินเดือนพนักงาน คืนเงินกู้ธนาคาร และเคลียร์ค่าช่องทางการขาย

คิดดูแล้วเหมือนจะไม่เหลือเงินเท่าไหร่เลย

จริงๆคือยังไม่พอด้วยซ้ำ

ยังมีเงินกู้ส่วนตัวบางส่วน และเงินกู้นอกระบบอีกก้อนหนึ่งด้วย

เงินกู้นอกระบบจากห้าล้าน ตอนนี้พอกพูนจนเกือบสิบห้าล้านแล้ว

เฉินจินเยว่ไม่อยากจะจ่ายคืนเท่าไหร่ เพราะเงินก้อนนั้นเป็นเงินที่เฉินเจี้ยนกั๋วกู้ไว้ก่อนเสียชีวิต เพื่อให้เฉินเจี๋ยไว้เป็นสินสอด...

ระหว่างทาง เฉินจินเยว่ครุ่นคิดไปเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าประตูทางเข้าชุมชนเก่าโดยไม่รู้ตัว

ปกติเธอใช้ทางเข้าข้างลัดกลับบ้าน เพราะใกล้ประตูอาคารมากกว่า แต่อาจจะเพราะวันนี้พกเงินจำนวนมาก เธอจึงเลือกเดินเข้าทางประตูใหญ่ที่สว่างและปลอดภัยกว่า

ยังไม่ทันเดินเข้าไปใกล้ เธอก็เห็นชายรูปร่างกำยำหลายคน ที่มีรอยสักบนแขน ยืนสูบบุหรี่ขวางอยู่หน้าประตูอาคาร

ปากก็กร่นด่าอย่างหยาบคายไปด้วย——

"ให้ตายเถอะ! ยายแก่บ้านั่นบอกไม่ใช่เหรอว่าหลานสาวอาศัยอยู่ที่นี่?"

"ขายของเก่าไปตั้งหลายอย่างแล้ว แต่ก็ยังไม่คืนเงินให้เรา ยัยหนูนี่กล้าดีนักนะ!"

"อย่าให้กูเจอนะ!"

Related chapters

  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 7

    เฉินจินเยว่หน้าซีดเผือด แอบหลบเข้าไปในซอยมืดอย่างเงียบเชียบแม้จะวิ่งออกมาจากชุมชนแล้ว ร่างกายของเธอก็ยังคงสั่นไม่หยุดบ้านทั้งหมดถูกขายทอดตลอดไปแล้วที่พักแห่งนี้เธอเพิ่งเช่า มีเพียงพ่อแม่เท่านั้นที่เคยมาพอนึกถึงสีหน้าดุดันของพวกผู้ชายเมื่อครู่ ความหนาวเย็นก็แผ่ซ่านไปทั่วร่าง งั้นที่พวกเขาขนของเก่าไปที่บริษัทอย่างเปิดเผยวันนี้ ไม่ใช่แค่เพื่อให้คนงานเห็นแต่เพื่อให้พวกเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบเห็นด้วยสินะ?ดี!ก็ดี!คนตระกูลเฉินเลือดเย็นเหมือนกันหมด งั้นอย่าโทษเธอที่ไร้เมตตาแล้วกัน!เฉินจินเยว่จองที่พักโรงแรม หลังอาบน้ำเสร็จ เธอกลับนอนไม่หลับพลิกตัวไปมา สุดท้ายตัดสินใจไปที่โรงงานทันที คิดหาวิธีจัดส่งของในวันพรุ่งนี้…อีกฝั่ง ณ ค่ายทหารเหล่าทหารต่างดีใจจนลืมตัว ลืมไปหมดว่าเคยดูถูกองค์ชายจากเมืองหลวงผู้ไม่ได้เรื่องคนนี้ แต่ละคนรุมล้อมถามเขาเรื่องร้านค้าจากนั้นพวกเขาก็ได้รู้ว่า เจ้าของร้านเป็นสตรีผู้เลอโฉม และในร้านของเธอนั้นอบอุ่นราวกับฤดูใบไม้ผลินอกจากร้านค้าแล้ว เธอยังมีโรงงานเล็ก ๆ ที่สามารถผลิตเสื้อกันหนาวจำนวนมากได้อีกด้วย..."นั่นมันดินแดนที่เหล่าเทพอยู่หรืออย่างไร

    Last Updated : 2024-12-10
  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 8

    ภาพที่มองมืดบอดไปหมด มันมืดมิดจริงๆนะรอบๆ มืดมิดจนไม่เห็นอะไรเลยมีแสงเลือนรางส่องมาจากประตูใหญ่ข้างหลัง ทำให้เขามองเห็นการตกแต่งภายในร้าน มันไม่ใช่ร้านเดิมที่เขาเจอเมื่อวานนี้เลยเขาตื่นตระหนกอย่างมาก เขากำมือที่ที่จับรถเข็นแน่น จนเส้นเลือดที่ข้อมือปูดขึ้นนี่มันเรื่องอะไรกัน?เขาไม่สามารถเข้าไปร้านนั้นได้แล้วหรือ?หลังจากนี้จะเข้าไปไม่ได้อีกหรือยังไม่ถึงเวลาเข้าไป?ในช่วงเวลานั้น ความคิดมากมายพุ่งเข้ามาในหัวของเขา เขาถึงกับสงสัยว่าเมื่อวานนี้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นแค่ความฝันทันใดนั้น เสียงดนตรีที่แปลกประหลาดและไพเราะดังขึ้น...เฉินจินเยว่ถูกปลุกจากเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ เธอจับโทรศัพท์ขึ้นมาดูอย่างรำคาญๆ แต่เมื่อเห็นชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอว่า ‘คุณปู่’ สมองที่มึนๆงงๆก็ได้สติขึ้นมา"ฮัลโหล?"เธอกดรับสายอย่างขี้เกียจๆเสียงอ่อนโยนและห่วงใยดังมาจากปลายสาย "จาวตี้ ได้ยินว่าเมื่อวานหลานไม่ได้กลับบ้านเหรอ? เงินเดือนคนงานจ่ายหมดแล้วเหรอ?"นอกหน้าต่างฟ้าเพิ่งจะส่าง เธอลุกขึ้นเปิดไฟอย่างง่วง ๆ พร้อมพูดเสียงเย็นชาว่า "คุณปู่แก่แล้วเลอะเลือนหรือไงคะ? หนูเปลี่ยนชื่อแล้วนะ"เมื่

    Last Updated : 2024-12-10
  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 9

    เจียงฉีอันนิ่งชะงัก สายตาพร่าเลือนเพราะรอยยิ้มสดใสนั่นจากนั้นก็เห็นเฉินจินเยว่ลุกขึ้นจากพื้นอย่างรวดเร็ว "คุณออกไปก่อน อีกห้านาทีค่อยกลับเข้ามา!"เจียงฉีอันกำลังจะถามว่าห้านาทีนี่นานแค่ไหน แต่เธอพุ่งออกไปราวสายลม และทันทีที่เธอก้าวพ้นประตู เขาก็ถูกพลังที่มองไม่เห็นผลักออกมาเซียวเฉิงหยู่กำลังสั่งการลูกน้องอยู่ที่หน้าประตูอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยแต่เมื่อเห็นเจียงฉีอันเข้าออกหลายรอบ ทั้งที่เป็นฤดูหนาว แต่เหงื่อกลับซึมออกมาที่หน้าผาก เขาก็มีความรู้สึกมากมายในใจเขาแตกต่างจากองค์ชายองค์อื่นๆบางที เขาอาจไม่ควรระบายความโกรธต่อราชสำนักใส่เขาเมื่อได้เห็นเจียงฉีอันออกมาอีกครั้ง เขาไม่ทันสังเกตด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายมามือเปล่า รีบก้าวเข้าไปหาแล้วพูดว่า "ฝ่าบาท ลองพาผู้ใต้บังคับบัญชาเข้าไปลองดูอีกครั้งเถอะพ่ะย่ะค่ะ!"เจียงฉีอันหันไปมองเขา สายตาเหม่อลอย "เจ้ารู้ไหมว่าห้านาทีมันนานแค่ไหน?"เซียวเฉิงหยู่ "???"เฉินจินเยว่อุ้มข้าวของเดินไปที่ออฟฟิศวางของไว้บนโต๊ะทำงานมันคือบ้านไม้สองห้องที่ไม่สมบูรณ์ ขอบประตูอยู่ใกล้กับรั้วไม้ไผ่ และใช้รั้วไม้ไผ่มาเชื่อมต่อกับประตูใหญ่อีกทีเธอยื่นนิ้วอ

    Last Updated : 2024-12-10
  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 10

    บ่ายสามโมงเฉินจินเยว่ไปจ่ายภาษีที่สำนักงานสรรพากร แล้วก็ไปรับคน จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปบ้านของลุงรอง"ในที่สุดคุณก็เลือกขอความช่วยเหลือทางกฎหมายสักที ศาสตราจารย์เหยียนดีใจมากเลยนะ" ชายหนุ่มพูดกับเฉินจินเยว่ด้วยท่าทีที่สุภาพและยิ้มเบาๆ"ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วเกินไป ฉันก็ไม่ทันตั้งตัวเหมือนกันค่ะ"เฉินจินเยว่ที่นั่งฝั่งข้างคนขับรู้สึกเกร็งเล็กน้อย "เรื่องแค่นี้ต้องรบกวนท่านมาถึงที่นี่ จริงๆ แล้วน่าเกรงใจมากเลยค่ะ"เมื่อคืนนี้เธอติดต่อศาสตราจารย์เหยียน ขอให้เขาช่วยแนะนำทนายความที่น่าเชื่อถือให้แต่เธอไม่คิดว่าศาสตราจารย์เหยียนจะเอาตัวพ่ออย่าง ฉางหงป๋อ ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองมาให้เธอเขาเชี่ยวชาญในเรื่องคดีจัดการทรัพย์สินคดีที่เขาทำนั้นอัตราชนะสูงถึงเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์"ไม่เป็นไรเลยครับ คุณเป็นนักเรียนคนโปรดของศาสตราจารย์เหยียน แถมประธานโจวก็ฝากฝังไว้กับผมด้วย""ประธานโจวเหรอคะ?"เฉินจินเยว่สงสัยเล็กน้อยฉางหงป๋อหันหน้ามามองเธอทีหนึ่ง "โจวยี้ฉวน ลูกค้าเธอไง?"เฉินจินเยว่ "..."เธอจำไม่ได้ว่าทั้งเธอและเฉินเจี้ยนกั๋วจะมีลูกค้ารายใหญ่แซ่โจวด้วยอ๋อใช่แล้ว เมื่อวานตอนอาจ

    Last Updated : 2024-12-10
  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 11

    ก่อนหน้านี้ทนายฉางทำความเข้าใจมาแค่พินัยกรรมที่ไม่เป็นธรรมฉบับนี้เท่านั้นในทางกฎหมายแน่นอนว่ามันไม่ได้รับการยอมรับเขามั่นใจในคดีนี้มากแถมตอนนี้ที่ได้ยินคำพูดของเฉินจินเยว่ เขาก็ยิ่งมั่นใจขึ้นอีก "คำว่าหนี้พ่อ ลูกต้องชดใช้นั้น คำนี้ไม่มีหลักฐานทางกฎหมาย หนี้ของพ่อแม่นั้นเป็นการกระทำส่วนบุคคล ควรให้พ่อแม่รับผิดชอบเอง"เขาใช้โอกาสนี้อธิบายกฎหมายให้ทุกคนฟังอย่างมีเหตุผล"แน่นอนว่าหากลูกได้รับมรดกจากพ่อแม่ จะต้องชำระหนี้ด้วย แต่จะชำระได้แค่ในมูลค่าของมรดกเท่านั้น""หากลูกปฏิเสธการรับมรดก ก็ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบหนี้สิน""เท่าที่ผมทราบ ลูกความของผม คุณเฉิน ยินดีที่จะสละสิทธิ์การรับมรดกโรงงาน ดังนั้นจึงไม่มีภาระหน้าที่ในการชำระหนี้""ส่วนเฉินเจี๋ยที่รับมรดกเงินสดก้อนโตไป จะต้องรับผิดชอบหนี้ในจำนวนที่สอดคล้องกับเงินสดนั้น และบ้านหลังนี้ของผู้อาวุโสรอง ก็เป็นคุณเฉินเจี้ยนกั๋วเพิ่งซื้อมาไม่นานใช่ไหมครับ? ในเมื่อพวกคุณได้ประโยชน์จากหนี้สิน ก็สมควรต้องรับผิดชอบหนี้ส่วนหนึ่งด้วย…"เขาเอ่ยทีละคำ ช้าๆแต่หนักแน่น เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของผู้เชี่ยวชาญ จนทำให้คนฟังรู้สึกเชื่อถือสีหน้าของครอบคร

    Last Updated : 2024-12-10
  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 12

    เมื่อออกจากประตูอาคารนั่นมา เฉินจินเยว่ก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นไม่น้อยจากมูลค่าของสิ่งของไม่กี่ชิ้นก่อนหน้านี้ เธอมั่นใจว่ากล่องของโบราณในมือเธอนั้น มีมูลค่าหลายพันล้านหนี้สินที่เฉินเจี้ยนกั๋วยังค้างไว้มีอยู่ประมาณหนึ่งร้อยล้าน ไม่นานเธอก็จะสามารถชำระหนี้ได้แล้ว เมื่อถึงตอนนั้นเธอก็จะหลุดพ้นจากบ่อโคลนของตระกูลเฉินและเริ่มต้นชีวิตของตัวเองเธอไม่กังวลเลยว่า ครอบครัวตระกูลเฉินนั่นจะไม่เซ็นเธอได้เอาข้อดีข้อเสียมาอธิบายให้พวกเขาฟังชัดเจนขนาดนั้น จากระดับความเห็นแก่ตัวของพวกเขา พวกเขาต้องวิตกกังวลมากกว่าเธอด้วยซ้ำกลัวว่าเธอเลือดร้อนหายจากไป...กลัวว่าเธอจะเปลี่ยนใจไม่รับช่วงต่อโรงงาน..."คุณไม่คิดที่จะสละสิทธิ์การรับมรดกตั้งแต่แรกใช่ไหมครับ?" ฉางหงป๋อสัมผัสได้ความสุขที่มาจากใจจริงๆของเธอ จึงอดถามไม่ได้ตอนที่เขาร่างสัญญาที่สละสิทธิ์การรับมรดก เขาคิดว่าเธอจะเป็นคนสละสิทธิ์การรับมรดกเขาคิดว่าเธอจะยื่นฟ้อง เพื่อหลีกเลี่ยงหนี้สินไม่ใช่แค่เขา ศาสตราจารย์เหยียนก็คงจะคิดแบบนั้นด้วยเหมือนกันใช่ไหมนะ?ยุ่งมาครึ่งวันเธอกลับทำตรงกันข้าม คือกลับมาเพื่อให้พวกเขาสละสิทธิ์งั้นหรอกเหรอ?เฉินจ

    Last Updated : 2024-12-10
  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 13

    สีหน้าอาหลีไม่สู้ดีนักเขาอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็พูดไม่ออกเฉินจินเยว่โตมากับการต้องพึ่งพาคนอื่น บวกกับช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเห็นสีหน้าเจ้าหนี้บ่อยจนคุ้นเคย ทำไมจะมองสถานการณ์ไม่ออก"อาหลี ถ่านหินทั้งหมดเท่าไหร่ คิดราคายังไงคะ?""ห้าพันตัน ปีที่แล้วราคาตันละสองพันห้า แต่ถ้าเธอเอาหมด ผมจะคิดให้แค่สองพันสองร้อยห้าสิบ""ได้ค่ะ หนูเตรียมเงินไว้ให้แล้ว พอเช็คจำนวนเสร็จแล้วจะจ่ายให้ทันที""…"สายตาที่อาหลีมองเธอเปล่งประกายขึ้นมาทันทีก็บอกแล้ว ยัยหนูนี่เป็นนักศึกษาเลยนะ จะไม่ซื่อสัตย์ได้ไง?เฉินจินเยว่เข้าไปในโกดังเพื่อดูสินค้า แล้วไปยืนยันกับผู้จัดการโกดังว่าไม่ผิดแน่ถ่านหินมีจำนวนห้าพันตัน จากนั้นก็โอนเงินสิบกว่าล้านบาทให้อาหลีทันทีอาหลียังไม่ทันพูดอะไร หุ้นส่วนของเขาก็เป็นฝ่ายเอ่ยยิ้มทักทายก่อน "ยัยหนูเธอนี่เก่งจริงๆ ผมได้ยินมาว่าเธอสั่งข้าวจากบริษัทข้าวอีกแปดร้อยตันด้วยใช่ไหม?"เพราะเหตุนี้แหละ เขาจึงกังวลว่าเธออาจจะอยากเป็นพ่อค้าคนกลางเพื่อจับเสือมือเปล่าจ่ายเงินหน้าร้านอะไรนั่น ก็เอาไว้แค่หลอกคนรู้จัก..."ก็แค่ช่วยคนอื่นสั่งค่ะ หนูแค่เป็นคนเชื่อมเส้นสา

    Last Updated : 2024-12-10
  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 14

    แต่ภายใต้ความหวังนั้นยังคงมีความกังวลซ่อนอยู่ทุกคนมองไปที่กองศพที่รอการเผา ด้วยสายตาที่แฝงความเศร้าและเสียดาย——"จะเผาหมดจริงๆ เหรอ? ข้าวของบ้านเราก็ใกล้จะหมดแล้วนะ""ใครๆ ก็เหมือนกันทั้งนั้น หนาวขนาดนี้ ถึงจะมีเสื้อผ้า แต่ถ้าไม่มีข้าวกิน สุดท้ายก็ต้องอดตายอยู่ดี!""ถ้าไม่เชื่อแม่ทัพเซียว อย่างน้อยก็ต้องเชื่อองค์ชายสิ! ในเมื่อพระองค์อยู่ที่นี่ ราชสำนักคงไม่ทอดทิ้งพวกเราที่ชายแดนหรอก!""แต่ได้ยินมาว่าองค์ชายหกไม่เป็นที่โปรดปรานในวังเลยนะ""…"ทหารลาดตระเวนเห็นชาวบ้านที่ลังเลอยู่ ก็เดินเข้ามาทันที "กำลังคุยอะไรกันอยู่งั้นหรือ? เรื่องแค่นี้ยังจัดการไม่เสร็จอีก?"ชาวบ้านไม่กล้าชักช้า จึงต้องจุดไฟอย่างไม่เต็มใจ...ในค่ายทหารแม่ทัพอาวุโสเซียวเองก็ดูมีขวัญกำลังใจมากขึ้นไม่น้อยเขายืนอยู่หน้ากระดานแผนที่ วิเคราะห์อย่างสงบเคร่งขรึม "กองทัพป่าเถื่อนยังไม่มีการเคลื่อนไหว คงเพราะขาดแคลนเสบียงเป็นแน่ พวกมันหมดขีดสามารถในการรบแล้ว เลยคิดถ่วงเวลาให้เราตายไปเอง!"ชายแดนยากจนอยู่แล้ว การที่ทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากันนั้นก็ไม่ได้มีใครอยู่ในสภาพที่ดีกว่าไปอีกฝ่ายนักความแตกต่างมันอยู่ที่ว่าก

    Last Updated : 2024-12-10

Latest chapter

  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 40

    เธอคิดมานานขนาดนี้แต่ก็คิดแผนที่จะหลอกถามอีกฝ่ายโดยไม่ให้รู้ด้วได้ อีกฝ่ายฉลาดมาก ไม่ได้โง่เหมือนคู่ค้าของเฉินเจี้ยนกั๋วเธอตัดสินใจถามตรงๆว่า "พี่รองคุณมีแผนจะจัดการกับสินค้าที่ถูกเรียกคืนยังไง?""ทำลาย" โจวยี้ฉวนง่ายๆเฉินจินเยว่ถามอีกครั้งว่า "ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องคุณภาพ ทำลายก็เสียดายมาก ขายให้ฉันได้ไหม?"โจวยี้ฉวนมองเธอด้วยความแปลกใจเล็กน้อย จากนั้นก็กลืนมาม่าที่อยู่ในปากลงไป คิดไปสักพัก แล้วสายตาตกอยู่ที่กล่องเล็กที่เธอเอาออกมาจากโกดัง"คุณถือกล่องนี้ไว้ตลอดเวลา เป็นสมบัติเหรอ?""ค่ะ เป็นสมบัติ"เฉินจินเยว่ตอบส่งๆ แล้วพูดต่อว่า "ฉันสามารถจ่ายเป็นสองเท่า เงินชดเชยในการเอาคืนฉันก็ออกให้"โจวยี้ฉวนเหมือนไม่ได้ยิน แต่ถามต่อไปว่า "สมบัติอะไร? โบราณวัตถุ?"เฉินจินเยว่ "..."เธอมองเขานิ่ง เหมือนกำลังอ่านความคิดเขาจากนั้นโจวยี้ฉวนก็ได้เปลี่ยนคำถาม "เธอต้องการยามากขนาดนั้นทำไม?"เฉินจินเยว่เม้มปาก ตอบคำถามก่อนหน้านี้ "เป็นของโบราณ น่าจะได้ราคาไม่น้อยค่ะ"ในสงครามยามีค่ามาก จะไม่มีทางที่ของมัดจำที่เจียงฉีอันส่งมาจะใช่ย่อย"น่าจะ?""ฉันเป็นนักศึกษาที่อ่อนแอและขี้ขลาด ในเรื่องร

  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 39

    บุกรบเมืองซิ่วหรงก็ได้ชนะอย่างงดงาม แต่ก็เสียหายไม่น้อยยาที่เอากลับมาก็ได้ใช้ไปกว่าครึ่ง นอกจากนี้ทหารที่บาดเจ็บหนักยังต้องรับประทานยาต่อเนื่อง การรบต่อต้านนี้เพิ่งเริ่มต้นเซียวเฉิงหยู่ได้ยิน เขาเลยมองไปทางเจียงฉีอัน"ฝ่าบาท...""ข้าได้ยินมาว่าเจ้าได้ยึดเงินทองของพวกเผ่ากองทัพศัตรูที่มีอยู่ในเมืองนี้? ได้อะไรมาได้?" จู่ๆเจียงฉีอันพูดออกมา"พะยะค่ะ!"เซียวเฉิงหยู่สีหน้าตึ้นตัน "ท่านตามข้ามา!"เซียวเฉิงหยู่พาเจียงฉีอันไปที่เรือนหลังหนึ่ง ในนั้นได้มีรังไม้เต็มไปหมดเขาเดินเข้าไป แล้วเปิดรังหลายรัง "ทอง เงิน อัญมณี อยู่ที่นี่ทั้งหมด! แล้วก็ ยังมีไม้ที่แม่นางเฉินต้องการมาก่อนหน้า ข้าคิดว่าคล้ายพวกนี้!"พูดไป เขาก็ได้เอากล่องที่งดงามออกมาจากรังกล่องใหญ่เจียงฉีอันเปิดออกมา แน่นอนว่าเป็นวัสดุเหมือนกับชิ้นไม้ก่อนหน้าเขาก็ได้ดีใจ แต่ก็พูดออกมาอย่างมีเหตุผล "แม่นางเฉินตกลงที่จะช่วยเราสั่งซื้อยาอีก แต่ความสามารถของนางมีจำกัด ให้เราอย่าคาดหวังมากนัก และนางไม่ได้กำหนดราคา"พ่อค้าที่ไม่คุยเรื่องราคา ก็หมายความว่าค้าขายนี้ไม่มีกำไลพวกเขาแบกหน้าของอีกครั้ง ต้องมีความจริงใจในการให้มากท

  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 38

    เจียงฉีอันได้เอายาและบิสกิตอัดออกมาจากร้าน รองแม่ทัพหยางและพวกทหารก็เกือบร้องไห้ก็ได้รีบเดินทางไปเมืองซิ่วหรง เมื่อถึงก็สองชั่วยามต่อมารถก็ได้เต็มไปด้วยยา ทำให้ทหารที่สิ้นหวังได้ดีใจเมื่อเจียงฉีอันได้สั่งให้แพทย์ทหารอธิบายว่ายาเหล่านี้ใช้ยังไงและใช้ปริมาณเท่าไรแล้วพวกเขาก็เริ่มทำงานอย่างไม่รู้จักเหนื่อยแม่ทัพเซียวกินยาแล้ว ก็ยังหลับไม่ตื่นหมอทหารที่ไม่ค่อยชำนาญการใช้แอลกอฮอล์ทำความสะอาดแผลก็ได้พูดออกมา "ยาเหล่านี้พวกข้าไม่เคยเห็นมาก่อน ถึงแม้จะไม่มีพิษ แต่เราก็ไม่รู้ว่ามันจะมีประสิทธิภาพอย่างไร! ถ้ามีไข้สูงไม่หาย เกรงว่า..."ไม่สามารถทำอะไรได้เขาไม่พูดออกมาในความเป็นจริงแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะมียาที่ดีที่สุด แต่ถ้าเกินเวลาที่เหมาะสมในการใช้ยา ก็ไม่สามารถรับประกันว่าแม่ทัพเซียวจะปลอดภัยแต่เม็ดยาเล็กๆ นี้จะมีผลก็คงเป็นปาฏิหาริย์สีหน้าเจียงฉีอันเคร่งเสียงเท้าข้างนอกก็ได้ดัง เซียวเฉิงหยู่ก็ได้รีบเข้ามา มองไปทางหมอทหารด้วยความกลัว"เป็นอย่างไรบ้าง? รองแม่ทัพดีขึ้นหรือเปล่า?"หมอทหารทึ่งสักครู่ กำลังจะคิดว่าจะพูดยังไง แต่ทหารที่ดูแลก็พูดออกมา "แม่ทัพเซียวมีเหงื่อออกมาเยอะ

  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 37

    เฉินจินเยว่ "???"สองคนพูดคุยกันไปก็ได้เดินมาถึงประตูโกดังสินค้าแล้วก็พอดีกับพนักงานที่ได้ขับรถเอาของที่เหลือมาส่งเฉินจินเยว่ไม่ให้คนเข้าโกดัง แต่ให้เธอเอาของบนรถวางที่หน้าประตูแล้วขอบคุณไปโจวยี้ฉวนมองไปที่รถเข็นที่เต็มไปด้วยยาสามคัน ตาก็ได้หรี่ลง มองไปที่สายตาของเธอ พร้อมกับการสืบสวนอย่างเงียบ ๆ...เฉินจินเยว่ความประหม่าเหมือนถูกโดนจับผิด แต่เมื่อคิดใหม่เธอก็ไม่ได้แย่งประโยชน์ของเขา ดังนั้นก็เลยพูดไปอย่างตรงไปตรงมา"คุณรอฉันตรงนี้สักครู่ ฉันจะนำของเหล่านี้เก็บในโกดังก่อน""ต้องการความช่วยเหลือไหม?""ไม่ต้องไม่ต้อง คุณรอฉันข้างนอกก็พอแล้ว""…"โจวยี้ฉวนมองหน้าเธอเหมือนกับว่าป้องกันขโมย กลัวว่าเขาจะตามเข้าโกดัง หัวเราะเบาๆ แล้วยืนขึ้นและไปยังฝั่งถนนตรงข้ามแล้วจุดบุหรี่เฉินจินเยว่ถอนหายใจ และเลื่อนประตูเหล็กขึ้นไปเล็กน้อยเพียงพอที่เธอจะเข้าไปได้เธอเดินไปกลับหลายรอบและเอารถเข็นเล็กทั้งหมดเข้าไปเจียงฉีอันกำลังรอคอยอย่างตึงเครียด เพราะเฉินจินเยว่ไม่ได้ให้คำตอบที่แน่ชัด เขาก็ไม่มั่นใจไม่รู้ว่าเธอสามารถนำยากลับมาได้หรือไม่ และสามารถนำกลับมาได้เท่าไหร่เห็นรถเข็นเต็มไปด้ว

  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 36

    คุณภาพที่ไม่เสถียรไม่ได้เป็นผลข้างเคียงที่น่ากลัว มันก็ดีกว่าไม่มียาแล้วรอตายจริงไหม?เธอเดินทางไปหายาที่ร้านขายยาหลายแห่งอาจไม่เพียงพอ ตอนนี้มีโอกาสแบบนี้ก็ถือว่าโชคดี"ยาเหล่านั้นไม่น้อยเลย คุณจะเอาหมดเลย?" พนักงานร้านไม่ได้ตอบทันที แต่ตกใจเฉินจินเยว่มีเงินมากพอ "ฉันมีงบประมาณเพียงพอ ต้องเตรียมให้เขาครบถ้วน!"พนักงานขายยกนิ้วโป้งให้เธอร้านขายยาขายยาได้ก็มีค่าคอมมิชชั่นให้กับพนักงานขายเมื่อขายยาไปแล้วสาวน้อยที่เพิ่งจบและได้ฝึกงานไม่นาน นอกจากนี้ยังมีความสัมพันธ์ในวงการและกล้าพอ เธอตอบรับเสนอนี้โดยไม่ลังเลเลย…สินค้าชุดนั้นไม่น้อยเลย แต่เฉินจินเยว่สามารถเอาไปได้เพียงบางส่วนเท่านั้น และได้ทิ้งที่อยู่คลังสินค้าไว้ ส่วนที่เหลือให้พนักงานร้านส่งมาให้ภายหลังเธอกำลังดันรถเข็นเต็มไปด้วยแอลกอฮอล์ บนรถเข็นยังมีกล่องยาที่สูงกว่าตัวเธอเอง และเธอกำลังเดินไปทางคลังสินค้าอย่างยากลำบาก"ติ๊ดๆ"เสียงรถที่ดังก็ทำให้เฉินจินเยว่ตกใจเกือบล้มโกรธพร้อมหันหน้า พอดีรถยนต์หนึ่งขับมาข้างๆ เธอ หน้าต่างรถลดลง ใบหน้าที่หล่อเข้มของเขาปรากฏอยู่หน้าเธอ"คุณเฉิน กลางดึกก็ยังยุ่ง?"โจวยี้ฉวนเฉินจิ

  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 35

    ความเงียบของเธอทำให้หัวใจของเจียงฉีอันหวาดหวั่น เหมือนรองรองแม่ทัพว่าไว้ ในช่วงสงครามยาแพงมากๆ แม่นางอาจจะไม่ช่วยเขาถือกล่องด้วยมือเดียว มืออีกข้างเปิดคลุมเสื้อคลุม คุกเข่าลงไปก่อน"ถ้าแม่นางยินดีช่วยเหลือ ข้ายอมทุกเงื่อนไข...""อย่าๆๆ!"เฉินจินเยว่รีบยื่นมือไปประคองเขาเธอเติบโตกับสังคมสังคมนิยมมีในการคิดเห็นเท่าเทียมกัน อยู่ๆมีคนคุกเข้าลงมาทก็ตกใจมากมองสายตาที่เต็มด้วยความวิงวร เธอยื่นมือไปรับกล่อง"ข้ารับของมัดจำแล้ว แต่ข้าไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะซื้อได้เท่าไหร่! เพราะถ้าข้าไปซื้อยาจำนวนมากตอนกลางคืนมันโดนเด่นเกินไป!"ตอนนี้เธอเป็นคนที่ 'มีชื่อในเมือง การรับซื้อของอย่างอื่นยังพอพูดได้ ตุนยามันเป็นที่สงสัยเจียงฉีอันรู้ว่ายาทาแผลหายาก แต่ได้ยินนางรับปาก ก็ได้รู้สึกขอบคุณ"ขอบพระคุณแม่นาง!""เจ้ารอตรงนี้ ขออกไปดดเดี๋ยวกลับมา"ตั้งแต่โกดังนี้กลายเป็นจุดซื้อขายปกติ เฉินจินเยว่ก็เลยเอาเรือนเล็กไว้ที่นี่เฉินจินเยว่ไม่เปิดประตูเจียงฉีอันก็เข้าไม่ได้ แล้วเมื่อเข้ามาแล้ว ถ้าประตูไม่เอาออก เจียงฉีอันก็สามารถอยู่ในนี้มองเฉินจินเยว่ออกจากบ้านอย่างรวดเร็ว ไม่ได้มองกล่องของเขาเล

  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 34

    ก็ได้รวบรวมสมาธิไปสัมผัสเรือนบ้านในหัว ประตูเรือนได้ปิดเพราะเธอออกมา ตอนนี้เหมือนว่า เธอสามารถได้ยินเสียงเคาะประตูนอกนั้น?คิดไปสักพัก ไม่นานก็เดาได้ว่า เจียงฉีอันน่าจะมาแล้ว"คุณเป็นอะไร?"ฉางหงป๋อมองเธอที่เป็แหหมอลอยก็ได้ถามเฉินจินเยว่ตั้งสติอย่างรวดเร็ว "ขอโทษทนายฉาง ฉันจำได้ว่าฉันลืมปิดประตูโกดังเมื่อกี้!"ถ้าจู่ๆเจียงฉีอันปรากฏตัในห้อฝงอาหารอย่างไม่คาดคิด งั้นน่าตกใจแน่ความสำคัญตกใจเป็นเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าความลับของเธอถูกคนอื่นๆ รู้ก็เป็นเรื่องหนึ่งเธอใช้ข้ออ้างนเพื่อรีบกลับบ้านปฏิเสธฉางหงป๋อที่จะส่งเธอและขอโทษไม่หยุด และสัญญาครั้งหน้าจะเลี้ยงข้าวเขาต่อ แล้วก็ออกไปฉางหงป๋อ "???"สับสนเล็กน้อยมื้อนี้พวกเขาสองคนนัดกันเองไม่ใช่เหรอ?สรุปคือคนหนึ่งไม่มา อีกคนกลับก่อน ทำให้เขาดูว่างมาก!…เจียงฉีอัน กลับเมืองก็ตรงไปที่ร้านนั่นแต่เปิดประตูเข้าไป ร้านก็ว่างเปล่าไม่มีอะไรเลยเหมือนครั้งที่แล้วแม่นางเฉินไม่อยู่ในร้าน เขาเข้าไม่ได้เขาจำได้ว่าวันนี้เขาสัญญากับแม่นางเฉินเพื่อมารับอาหารแห้งตอนฟ้ามืดแต่ฟ้าก็ได้มืดไปหนึ่งชั่วยามแล้วเขาไม่มาตามสัญญาเขาเปิดประตูซ้ำแล

  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 33

    รองแม่ทัพตื่นตะหนก "ฝ่าบาท! ท่านจะทิ้งทหารที่ได้รับบาดเจ็บไม่ได้นะพะยะคะ!"เจียงฉีอันพูด "เรียกเขากลับมา ข้าจะคิดวิธีหายาเอง"รองแม่ทัพอยากขัดขวาง แม้ว่าเจียงฉีอันจะสามารถสั่งให้เมืองหลวงส่งยามา แต่ระยะทางก็ไกล ทหารและแม่ทัพเซียวรอไม่ไหวรองแม่ทัพก็รู้สึกตัวทันที"ฝ่าบาทนต้องการไปร้านของแม่นางเฉิน?"ตื่นเต้นดีใจสักพัก นัยน์ตาของเราก็หม่องลง"ยาในช่วงสงครามมีมูลค่ามากกว่าทองคำ แม่นางคนนั้นไม่รับทองคำ จะยอมเอายาให้เราเหรอ?"ใช่ว่าพวกเขาพวกเขาไม่เควคิดที่จะให้เจียงฉีอัน ซื้อ แต่ยาที่ช่วยชีวิตเหล่านั้น ไม่เหมือนกับอาหารพวกเขาได้รับของมากมายจากอีกฝ่าย จะโลภจนอีกฝ่ายรังเกียงก็ไม่ได้"ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ต้องลองดู"ถ้าเซียวเฉิงหยู่หายาเจอ ก็คงกลับมาแล้วสถานการณ์ของเมืองซิ่วหรงก็ไม่ดีกว่าเมืองเล็กที่พวกเขาเฝ้ารองแม่ทัพมองหน้าเขาอย่างตื่นเต้นและรับคำสั่ง "พะยะค่ะ!"เซียวเฉิงหยู่รู้แผนของเจียงฉีอัน ลังเลอยู่ครู่เขาก็กลับ ก่อนส่งเจียงฉีอันออกจากเมือง หนุ่มจ้องมองอย่างจริงจังพร้อมตาที่แดง"ถ้าฝ่าบาทสามารถนำยากลับมา เซียวเฉิงหยู่ คนนี้จะภักดีต่อท่านจนสิ้นชีพ!"ภักดีต่อฝ่าบาท แต่ไม่

  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 32

    ในขณะนี้ชายแดนได้ผ่านการสงครามใหญ่แม่ทัพเซียวคาดการณ์ได้ถูกภัยพิบัตินี้ ศัตรูก็ไม่ได้ดีกว่าพวกเขามากนักในทางกลับกัน เพราะเจียงฉีอันได้เปิดประตูสู่โลกอื่น ก็ได้มอบความหวังใหม่ให้กับทหารของตระกูลเซียว ในขณะที่ในกองทัพศัตรูก็เริ่มเกิดความวุ่นวายแล้วแม่ทัพเซียวได้นำทัพสามพันคน แอบเข้าบุกฐานกองศัตรทัพศัตรูกลางดึกในช่วงที่คนไม่ระวังศัตรูได้วุ่นวาย ไม่นานก็พ่ายแพ้ไม่สามารถรวมกำลังได้ทหารตระกูลเซียวไล่ล่า คืนนั้นก็ได้ตีทัพทหารศัตรูที่บุกเมืองซิ่วหรงราวจุดจบได้กำหนดไว้แล้วแต่ความเสียหายก็มากเช่นกันเมื่อเจียงฉีอันมาถึงที่ซิ่วหรง ก็ใกล้ค่ำแล้วภายในเมืองเงียบสงบมาก บ้านเก่าพนังผุ ที่รื้อถอดได้ก็ได้รื้อไปหมด บนถนนจะสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนประตูบ้านที่ปิดประตู ก็เป็นบ้านที่ฐานะดี แต่ก็มีไม่กี่หลังทหารกำลังทำความสะอาดสนามรบ เก็บกวาดทางที่มีหิมะสะสม ศพที่ตายบนสนามรบไม่มากนัก ศพที่ถูกแข็งตายมีมากกว่ายังมีกระดูกสีขาวที่มีเลือดเนื้อติดบ้างราวมีอะไรมาแทะจนสะอาดเจียงฉีอันมองไปทางอื่น กดดันความรู้สึกคลื้นใส้ลงไป เดินไปยังค่ายทหารหลักหมอทหารทำงานอย่างหนัก เพราะแม่ทัพเซียวก็ได้ร

DMCA.com Protection Status