Share

บทที่ 9

Author: เยว่รั่วซิงเหอ
last update Last Updated: 2024-12-10 17:39:59
เจียงฉีอันนิ่งชะงัก สายตาพร่าเลือนเพราะรอยยิ้มสดใสนั่น

จากนั้นก็เห็นเฉินจินเยว่ลุกขึ้นจากพื้นอย่างรวดเร็ว "คุณออกไปก่อน อีกห้านาทีค่อยกลับเข้ามา!"

เจียงฉีอันกำลังจะถามว่าห้านาทีนี่นานแค่ไหน แต่เธอพุ่งออกไปราวสายลม และทันทีที่เธอก้าวพ้นประตู เขาก็ถูกพลังที่มองไม่เห็นผลักออกมา

เซียวเฉิงหยู่กำลังสั่งการลูกน้องอยู่ที่หน้าประตูอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

แต่เมื่อเห็นเจียงฉีอันเข้าออกหลายรอบ ทั้งที่เป็นฤดูหนาว แต่เหงื่อกลับซึมออกมาที่หน้าผาก เขาก็มีความรู้สึกมากมายในใจ

เขาแตกต่างจากองค์ชายองค์อื่นๆ

บางที เขาอาจไม่ควรระบายความโกรธต่อราชสำนักใส่เขา

เมื่อได้เห็นเจียงฉีอันออกมาอีกครั้ง เขาไม่ทันสังเกตด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายมามือเปล่า รีบก้าวเข้าไปหาแล้วพูดว่า "ฝ่าบาท ลองพาผู้ใต้บังคับบัญชาเข้าไปลองดูอีกครั้งเถอะพ่ะย่ะค่ะ!"

เจียงฉีอันหันไปมองเขา สายตาเหม่อลอย "เจ้ารู้ไหมว่าห้านาทีมันนานแค่ไหน?"

เซียวเฉิงหยู่ "???"

เฉินจินเยว่อุ้มข้าวของเดินไปที่ออฟฟิศ

วางของไว้บนโต๊ะทำงาน

มันคือบ้านไม้สองห้องที่ไม่สมบูรณ์ ขอบประตูอยู่ใกล้กับรั้วไม้ไผ่ และใช้รั้วไม้ไผ่มาเชื่อมต่อกับประตูใหญ่อีกที

เธอยื่นนิ้วออกไปเปิดประตูไม้บานนั้น แล้วจ้องมองประตูอย่างตั้งใจ

ไม่นานหลังจากนั้น เจียงฉีอันก็เดินเข้ามาจากด้านนอก

ใบหน้ายังคงสงสัยอยู่ "แม่นางเฉิน เจ้า..."

พูดยังไม่ทันจบ เขาก็พบว่าสภาพแวดล้อมรอบๆ เปลี่ยนไปแล้ว มันกลายเป็นร้านค้าแปลกๆเมื่อวานนี้!

สีหน้าเขาบ่งบอกว่าประหลาดใจ "นี่มัน...?"

เฉินจินเยว่ยิ้มให้เขาเหมือนกับบอกว่าเป็นไปตามคาด

ทั้งสองร่วมมือกันลองอยู่หลายครั้ง ในที่สุดเฉินจินเยว่ก็สรุปได้ว่า บ้านสไตล์โบราณที่ไม่สมบูรณ์หลังนี้คือสถานที่แลกเปลี่ยนผ่านมิติ

และคนคนนี้เขาเข้ามาจากประตูของบ้านหลังนั้น

ประตูบ้านนี่อยู่ที่ไหน จุดหมายของเขาคนนี้ก็จะอยู่ที่นั่น

ตอนนี้กำลังยืนอยู่ในคลังสินค้า

เฉินจินเยว่จ้องมองที่กองเครื่องประดับบนพื้น ความคิดบางอย่างก็เกิดขึ้น ถ้าบ้านหลังนั้นเป็นพื้นที่อิสระแล้ว งั้นของเหล่านี้ก็อาจจะใส่เข้าไปได้สินะ?

ในวินาทีนั้น ของทั้งหมดก็หายไปจากที่เดิม

เฉินจินเยว่เบิกตากว้าง เธอเพ่งสมาธิเข้าไปอีกครั้ง ของทั้งหมดต่างถูกเก็บไว้ในห้องของบ้านหลังนั้น

นี่นี่นี่...!

ประตูโกดังถูกผลักเปิดออก พร้อมเจียงฉีอันที่ก้าวขายาวๆเข้ามาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสุข

"แม่นางเฉิน เจ้าหาคำตอบได้หรือยัง? เจ้าทำให้ข้าเข้าไปในที่ต่างๆได้หรือ?" เขาไม่ได้โง่ ให้เขากลับๆมาๆอยู่แบบนี้ เขารู้ทันทีว่าเฉินจินเยว่มีเจตนาอะไร

เฉินจินเยว่กดความตกใจไว้ในใจ แล้วพยักหน้าตอบเขา

เจียงฉีอันกวาดสายตามอง พบว่ากล่องที่อยู่บนพื้นพวกนั้นหายไปหมดแล้ว

นัยน์ตาเขาสั่นไหวเล็กน้อย แต่เพราะเรื่องมารยาทเลยไม่ถามอะไรเพิ่มเติม เพียงแต่ถามว่า "งั้นต่อไปข้ายังมาซื้อของเจ้าได้อีกหรือไม่?"

เฉินจินเยว่พยักหน้าอีกครั้ง "แน่นอนว่าได้ แถมยังมีบริการส่งสินค้าถึงบ้านด้วยนะ!"

เจียงฉีอัน "???"

"ก็คือคุณไม่ต้องขนของแล้ว คุณไปเถอะ ฉันจะส่งของของคุณไปให้ทันที"

"…"

เจียงฉีอันไม่มั่นใจนัก แต่ก็พยักหน้ารับอย่างลังเล แล้วค่อยๆ เดินออกไปทางประตู

เมื่อเขาเดินถึงหน้าประตู เขาก็นึกขึ้นมาได้ "แม่นางเฉิน นอกจากเจ้าจะทำงานด้านเสื้อผ้า ยังมีของอื่นอีกหรือไม่?"

เฉินจินเยว่เข้าใจในทันที "ถ้าคุณต้องการ ฉันก็ทำให้ได้"

พูดเป็นเล่น นี่ลูกค้ารายใหญ่เลยนะ

คำสั่งซื้อมูลค่าหลายสิบล้านของตาเฉินเจี้ยนกั๋วนั่น เทียบกับคนตรงหน้าแล้ว กระจอกไปเลย...

"ข้ายังต้องการถ่านหินและอาหาร" เจียงฉีอันเอ่ยปากพูดอย่างกระชับ

เฉินจินเยว่พยักหน้า แล้วถามต่อ "ปริมาณสำหรับกี่คนคะ?"

สินค้าในคลังนี้รวมทั้งหมดมีหนึ่งแสนสี่หมื่นชิ้น แต่ก็เป็นเสื้อผ้ากันหนาว เสื้อผ้าขนสัตว์ เสื้อผ้าฝ้ายและเสื้อคลุมทหารต่างๆ รวมเข้าด้วยกัน

เธอไม่แน่ใจว่าพวกเขามีกันทั้งหมดกี่คน

"เก้าหมื่นแล้วกัน เรื่องเงินเดี๋ยวถึงเวลาข้าเอามาให้ได้หรือไม่" ของที่เก็บมาทั้งหมดอยู่ที่นี่แล้ว

"ไม่มีปัญหา มาเอาวันพรุ่งนี้ตอนมืดได้ไหม?"

การย้ายของต้องใช้เวลา และเธอเองก็ต้องใช้เวลาในการจัดการเรื่องของตัวเองด้วย

ถ้าเกิดเจอเซอร์ไพรแบบเมื่อเช้านี้อีก หัวใจเธอคงรับไม่ไหวแน่

เจียงฉีอัน "ได้"

เจียงฉีอันที่เพิ่งเดินออกจากร้าน ด้านหลังก็มีเสื้อผ้าฝ้ายพวยพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว และกองทับกันอยู่ที่ประตู

เหล่าทหารที่กำลังย้ายของกันอยู่ยืนนิ่งไม่ไหวติง

"พระเจ้า! เสื้อผ้าฝ้ายหมดเลย! เสื้อผ้าฝ้ายลอยออกมาจากประตู!"

"ภาพลวงตา! ภาพลวงตาแน่ๆ!!"

"หรือนี่จะเป็นทักษะเซียน?"

"…"

เจียงฉีอันตกใจเล็กน้อย จากนั้นมุมปากยกขึ้นเบาๆ และอธิบายกับเซียวเฉิงหยู่ที่หน้าตาเต็มไปด้วยความมึนงง "แม่นางเฉินว่า นี่เรียกบริการส่งสินค้าถึงบ้าน"

วิธีการส่งของที่ดุเดือดแบบนี้ เขาชอบมาก!

เฉินจินเยว่ตอนนี้รู้สึกดีใจมากที่เมื่อวานตัดสินใจเก็บประตูบานนี้ไว้ตามสัญชาตญาณและความรู้สึก

การส่งของด้วยพลังจิตนี่ใช้พลังงานไปเยอะ แถมเมื่อคืนเธอก็ไม่ได้หลับเต็มอิ่มด้วย เธอส่งข้อความไปที่โกดังว่าไม่ต้องมาเข้าทำงานวันนี้

จากนั้นกลับไปที่โรงแรม อาบน้ำและนอนตากแอร์เย็นๆ

เธอนอนหลับไปจนถึงเที่ยงวัน

เฉินจินเยว่ถูกปลุกด้วยเสียงโทรศัพท์

เมื่อวานได้จ่ายเงินเดือนบางส่วนไปแล้ว แน่นอนว่าคนจัดซื้อวัสดุก็โทรเข้ามาเพื่อถามอย่างระมัดระวังว่าเมื่อไหร่เธอจะชำระหนี้ แต่พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อม ไม่กล้าพูดแรงนัก

จากที่ดูตอนนี้ สาวน้อยคนนี้ก็โชคร้ายเอามากๆแล้ว แถมรับภาระนี้มาโดยไม่มีบ่น

ถ้าโดนกดดันมากไป เธออาจจะทิ้งงานแล้วหนีไป หรือสภาพจิตใจรับความเครียดได้น้อยทำร้ายตัวเองขึ้นมา แล้วเขาจะไปตามหนี้จากใครล่ะ?

"คุณอาหลี หนูจะบอกตามความเป็นจริงเลยนะคะ ตอนนี้หนูยังเอาเงินออกมาไม่ได้ แต่กำลังคิดวิธีอยู่ค่ะ จะชำระให้ภายในเดือนนี้แน่นอน"

"ปู่เธอไม่ได้เอาของเก่าในบ้านให้เหรอ?"

อาหลีเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

เฉินจินเยว่หายใจเข้าลึกๆ และพยายามกดความหงุดหงิดในใจลง"ค่ะ ให้มาแล้ว แต่หนูก็ยังต้องใช้เวลาในการแปลงมาเป็นเงินนะคะ"

อาหลีพูดด้วยเสียงดีใจ "งั้นเดือนนี้แน่ใจนะว่าจ่ายคืนได้?"

เฉินจินเยว่ตอบกลับ "ได้ค่ะ!"

เสียงของอาหลีฟังดูเหมือนโล่งใจอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นเขาก็เริ่มพูดคำพูดทั่วไปเพื่อกระชับความสัมพันธ์

พูดพวกอะไรนะว่าเขาเองก็แย่เลยต้องมาเร่งเธอ

แล้วก็พูดว่าเธอเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวมันไม่ง่ายเลย ถ้ามีอะไรขอให้บอก เขาจะพยายามช่วยเต็มที่...

"พูดแล้ว หนูก็มีเรื่องจะคุยกับคุณอาหลีพอดี"

"…"

อาหลีกลืนน้ำลายเสียงดัง

เขากำลังพูดตามมารยาทเท่านั้น

เฉินจินเยว่ไม่สนใจท่าทีที่เขาตอบสนองมา "อาหลี คุณมีหุ้นส่วนและยังมีบริษัทถ่านหินอีกบริษัทใช่ไหมคะ? ตอนนี้มีของในสต๊อกไหมคะ?"

บริษัทถ่านหินเล็กๆ ในเทศมณฑลนี้มีช่องทางจัดจำหน่ายไม่มาก จริงๆแล้วเมื่อปีที่แล้วพวกเขาก็มีค้างสต๊อกอยู่

ตอนนี้พวกเขาเองก็กำลังปวดหัวว่าจะจัดการกับมันยังไงดี

เมื่ออาหลีได้ยินที่เธอถาม เขาก็เริ่มรู้สึกกระตือรือร้นตามนิสัยนักธุรกิจ "ก็มี แต่เธอก็รู้ว่ามันเป็นแบบหุ้นส่วน ผมคนเดียวพูดมากไม่ได้ จะซื้อแบบติดเครดิตคงไม่ได้"

"ไม่ติดเครดิต หนูแค่ช่วยคนอื่นซื้อของ เขาจะจ่ายให้หน้างานเลยค่ะ"

"จริงหรือ? เธอต้องการเท่าไหร่ล่ะ?"

"มีเท่าไหร่เอาหมดค่ะ"

"…"

อาหลีลุกขึ้นอย่างตื่นเต้นทันที "ไม่มีปัญหา! เธอให้เบอร์ติดต่อของคนนั้นมาได้เลย! ถ้าทำธุรกิจครั้งนี้สำเร็จ ผมจะถือว่าติดหนี้บุญคุณเธอไว้เลย!"

เฉินจินเยว่ตอบอย่างตรงไปตรงมา "คุณขนของไปที่โกดังว่างตรงถนนโม่จื้อได้เลย หนูจะจัดคนไปรับของเอง"

สีหน้าของอาหลีตื่นเต้นน้อยลงไปบ้าง ในใจเขาแอบคิดว่าเด็กสาวคนนี้ฉลาดใช้ได้

รู้จักระวังคน

โกดังที่ถนนโม่จื้อของเฉินเจี้ยนกั๋วนั้นเขารู้จัก มันเอาไว้ใช้เก็บกระเบื้อง

เมื่อหลายปีก่อน ตระกูลเฉินยังพอมีฐานะ เปิดโรงงานหลายแห่ง

แต่เฉินเจี้ยนกั๋วไม่มีพรสวรรค์ในการทำธุรกิจ ธุรกิจโรงงานก็เริ่มแย่ลงเรื่อยๆ และล้มเหลวทีละแห่ง

ตอนนี้เหลือแต่ที่ร้างๆ...

เด็กสาวคนนี้มีความสามารถในการสร้างคอนเนคชั่นและนำโรงงานร้างมาใช้ได้ ก็ถือว่าเธอเก่งทีเดียว

"ได้ ผมจะติดต่อให้คนเอาไปให้! บอกไว้ก่อน ผมรับแต่จ่ายเต็มหน้างานนะ!" ไม่มีทางให้ติดเครดิตแน่

"ไม่มีปัญหา ขอบคุณค่ะ อาหลี"

เฉินจินเยว่จัดการสั่งถ่านหินเสร็จแล้ว ก็โทรไปที่ร้านข้าวในเทศมณฑล

บทสนทนาแทบจะเนื้อหาเดียวกัน

ในเทศมณฑลต่างรู้กันหมดว่าเฉินเจี้ยนกั๋วเป็นคนแบบไหน จึงไม่ยอมให้เครดิตกับพวกเขามานานแล้ว แต่เมื่อได้ยินว่าเฉินจินเยว่กำลังหาซื้อของให้คนอื่น แถมจ่ายสดหน้างานพวกเขาถึงเบาใจ

เมื่อจัดการเรื่องพวกนี้เสร็จ เธอก็ส่งข้อความไปยังเบอร์เบอร์หนึ่ง "ท่านจะมาถึงเมื่อไหร่คะ?"

Related chapters

  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 10

    บ่ายสามโมงเฉินจินเยว่ไปจ่ายภาษีที่สำนักงานสรรพากร แล้วก็ไปรับคน จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปบ้านของลุงรอง"ในที่สุดคุณก็เลือกขอความช่วยเหลือทางกฎหมายสักที ศาสตราจารย์เหยียนดีใจมากเลยนะ" ชายหนุ่มพูดกับเฉินจินเยว่ด้วยท่าทีที่สุภาพและยิ้มเบาๆ"ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วเกินไป ฉันก็ไม่ทันตั้งตัวเหมือนกันค่ะ"เฉินจินเยว่ที่นั่งฝั่งข้างคนขับรู้สึกเกร็งเล็กน้อย "เรื่องแค่นี้ต้องรบกวนท่านมาถึงที่นี่ จริงๆ แล้วน่าเกรงใจมากเลยค่ะ"เมื่อคืนนี้เธอติดต่อศาสตราจารย์เหยียน ขอให้เขาช่วยแนะนำทนายความที่น่าเชื่อถือให้แต่เธอไม่คิดว่าศาสตราจารย์เหยียนจะเอาตัวพ่ออย่าง ฉางหงป๋อ ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองมาให้เธอเขาเชี่ยวชาญในเรื่องคดีจัดการทรัพย์สินคดีที่เขาทำนั้นอัตราชนะสูงถึงเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์"ไม่เป็นไรเลยครับ คุณเป็นนักเรียนคนโปรดของศาสตราจารย์เหยียน แถมประธานโจวก็ฝากฝังไว้กับผมด้วย""ประธานโจวเหรอคะ?"เฉินจินเยว่สงสัยเล็กน้อยฉางหงป๋อหันหน้ามามองเธอทีหนึ่ง "โจวยี้ฉวน ลูกค้าเธอไง?"เฉินจินเยว่ "..."เธอจำไม่ได้ว่าทั้งเธอและเฉินเจี้ยนกั๋วจะมีลูกค้ารายใหญ่แซ่โจวด้วยอ๋อใช่แล้ว เมื่อวานตอนอาจ

    Last Updated : 2024-12-10
  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 11

    ก่อนหน้านี้ทนายฉางทำความเข้าใจมาแค่พินัยกรรมที่ไม่เป็นธรรมฉบับนี้เท่านั้นในทางกฎหมายแน่นอนว่ามันไม่ได้รับการยอมรับเขามั่นใจในคดีนี้มากแถมตอนนี้ที่ได้ยินคำพูดของเฉินจินเยว่ เขาก็ยิ่งมั่นใจขึ้นอีก "คำว่าหนี้พ่อ ลูกต้องชดใช้นั้น คำนี้ไม่มีหลักฐานทางกฎหมาย หนี้ของพ่อแม่นั้นเป็นการกระทำส่วนบุคคล ควรให้พ่อแม่รับผิดชอบเอง"เขาใช้โอกาสนี้อธิบายกฎหมายให้ทุกคนฟังอย่างมีเหตุผล"แน่นอนว่าหากลูกได้รับมรดกจากพ่อแม่ จะต้องชำระหนี้ด้วย แต่จะชำระได้แค่ในมูลค่าของมรดกเท่านั้น""หากลูกปฏิเสธการรับมรดก ก็ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบหนี้สิน""เท่าที่ผมทราบ ลูกความของผม คุณเฉิน ยินดีที่จะสละสิทธิ์การรับมรดกโรงงาน ดังนั้นจึงไม่มีภาระหน้าที่ในการชำระหนี้""ส่วนเฉินเจี๋ยที่รับมรดกเงินสดก้อนโตไป จะต้องรับผิดชอบหนี้ในจำนวนที่สอดคล้องกับเงินสดนั้น และบ้านหลังนี้ของผู้อาวุโสรอง ก็เป็นคุณเฉินเจี้ยนกั๋วเพิ่งซื้อมาไม่นานใช่ไหมครับ? ในเมื่อพวกคุณได้ประโยชน์จากหนี้สิน ก็สมควรต้องรับผิดชอบหนี้ส่วนหนึ่งด้วย…"เขาเอ่ยทีละคำ ช้าๆแต่หนักแน่น เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของผู้เชี่ยวชาญ จนทำให้คนฟังรู้สึกเชื่อถือสีหน้าของครอบคร

    Last Updated : 2024-12-10
  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 12

    เมื่อออกจากประตูอาคารนั่นมา เฉินจินเยว่ก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นไม่น้อยจากมูลค่าของสิ่งของไม่กี่ชิ้นก่อนหน้านี้ เธอมั่นใจว่ากล่องของโบราณในมือเธอนั้น มีมูลค่าหลายพันล้านหนี้สินที่เฉินเจี้ยนกั๋วยังค้างไว้มีอยู่ประมาณหนึ่งร้อยล้าน ไม่นานเธอก็จะสามารถชำระหนี้ได้แล้ว เมื่อถึงตอนนั้นเธอก็จะหลุดพ้นจากบ่อโคลนของตระกูลเฉินและเริ่มต้นชีวิตของตัวเองเธอไม่กังวลเลยว่า ครอบครัวตระกูลเฉินนั่นจะไม่เซ็นเธอได้เอาข้อดีข้อเสียมาอธิบายให้พวกเขาฟังชัดเจนขนาดนั้น จากระดับความเห็นแก่ตัวของพวกเขา พวกเขาต้องวิตกกังวลมากกว่าเธอด้วยซ้ำกลัวว่าเธอเลือดร้อนหายจากไป...กลัวว่าเธอจะเปลี่ยนใจไม่รับช่วงต่อโรงงาน..."คุณไม่คิดที่จะสละสิทธิ์การรับมรดกตั้งแต่แรกใช่ไหมครับ?" ฉางหงป๋อสัมผัสได้ความสุขที่มาจากใจจริงๆของเธอ จึงอดถามไม่ได้ตอนที่เขาร่างสัญญาที่สละสิทธิ์การรับมรดก เขาคิดว่าเธอจะเป็นคนสละสิทธิ์การรับมรดกเขาคิดว่าเธอจะยื่นฟ้อง เพื่อหลีกเลี่ยงหนี้สินไม่ใช่แค่เขา ศาสตราจารย์เหยียนก็คงจะคิดแบบนั้นด้วยเหมือนกันใช่ไหมนะ?ยุ่งมาครึ่งวันเธอกลับทำตรงกันข้าม คือกลับมาเพื่อให้พวกเขาสละสิทธิ์งั้นหรอกเหรอ?เฉินจ

    Last Updated : 2024-12-10
  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 13

    สีหน้าอาหลีไม่สู้ดีนักเขาอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็พูดไม่ออกเฉินจินเยว่โตมากับการต้องพึ่งพาคนอื่น บวกกับช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเห็นสีหน้าเจ้าหนี้บ่อยจนคุ้นเคย ทำไมจะมองสถานการณ์ไม่ออก"อาหลี ถ่านหินทั้งหมดเท่าไหร่ คิดราคายังไงคะ?""ห้าพันตัน ปีที่แล้วราคาตันละสองพันห้า แต่ถ้าเธอเอาหมด ผมจะคิดให้แค่สองพันสองร้อยห้าสิบ""ได้ค่ะ หนูเตรียมเงินไว้ให้แล้ว พอเช็คจำนวนเสร็จแล้วจะจ่ายให้ทันที""…"สายตาที่อาหลีมองเธอเปล่งประกายขึ้นมาทันทีก็บอกแล้ว ยัยหนูนี่เป็นนักศึกษาเลยนะ จะไม่ซื่อสัตย์ได้ไง?เฉินจินเยว่เข้าไปในโกดังเพื่อดูสินค้า แล้วไปยืนยันกับผู้จัดการโกดังว่าไม่ผิดแน่ถ่านหินมีจำนวนห้าพันตัน จากนั้นก็โอนเงินสิบกว่าล้านบาทให้อาหลีทันทีอาหลียังไม่ทันพูดอะไร หุ้นส่วนของเขาก็เป็นฝ่ายเอ่ยยิ้มทักทายก่อน "ยัยหนูเธอนี่เก่งจริงๆ ผมได้ยินมาว่าเธอสั่งข้าวจากบริษัทข้าวอีกแปดร้อยตันด้วยใช่ไหม?"เพราะเหตุนี้แหละ เขาจึงกังวลว่าเธออาจจะอยากเป็นพ่อค้าคนกลางเพื่อจับเสือมือเปล่าจ่ายเงินหน้าร้านอะไรนั่น ก็เอาไว้แค่หลอกคนรู้จัก..."ก็แค่ช่วยคนอื่นสั่งค่ะ หนูแค่เป็นคนเชื่อมเส้นสา

    Last Updated : 2024-12-10
  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 14

    แต่ภายใต้ความหวังนั้นยังคงมีความกังวลซ่อนอยู่ทุกคนมองไปที่กองศพที่รอการเผา ด้วยสายตาที่แฝงความเศร้าและเสียดาย——"จะเผาหมดจริงๆ เหรอ? ข้าวของบ้านเราก็ใกล้จะหมดแล้วนะ""ใครๆ ก็เหมือนกันทั้งนั้น หนาวขนาดนี้ ถึงจะมีเสื้อผ้า แต่ถ้าไม่มีข้าวกิน สุดท้ายก็ต้องอดตายอยู่ดี!""ถ้าไม่เชื่อแม่ทัพเซียว อย่างน้อยก็ต้องเชื่อองค์ชายสิ! ในเมื่อพระองค์อยู่ที่นี่ ราชสำนักคงไม่ทอดทิ้งพวกเราที่ชายแดนหรอก!""แต่ได้ยินมาว่าองค์ชายหกไม่เป็นที่โปรดปรานในวังเลยนะ""…"ทหารลาดตระเวนเห็นชาวบ้านที่ลังเลอยู่ ก็เดินเข้ามาทันที "กำลังคุยอะไรกันอยู่งั้นหรือ? เรื่องแค่นี้ยังจัดการไม่เสร็จอีก?"ชาวบ้านไม่กล้าชักช้า จึงต้องจุดไฟอย่างไม่เต็มใจ...ในค่ายทหารแม่ทัพอาวุโสเซียวเองก็ดูมีขวัญกำลังใจมากขึ้นไม่น้อยเขายืนอยู่หน้ากระดานแผนที่ วิเคราะห์อย่างสงบเคร่งขรึม "กองทัพป่าเถื่อนยังไม่มีการเคลื่อนไหว คงเพราะขาดแคลนเสบียงเป็นแน่ พวกมันหมดขีดสามารถในการรบแล้ว เลยคิดถ่วงเวลาให้เราตายไปเอง!"ชายแดนยากจนอยู่แล้ว การที่ทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากันนั้นก็ไม่ได้มีใครอยู่ในสภาพที่ดีกว่าไปอีกฝ่ายนักความแตกต่างมันอยู่ที่ว่าก

    Last Updated : 2024-12-10
  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 15

    หนึ่งกล่องมีเงินเกือกม้าทั้งหมดสิบชิ้นเฉินจินเยว่เอาเหรียญมาดูอย่างระมัดระวัง ด้านหน้าเป็นรูปรี ด้านล่างเป็นรูปวงกลมซึ่งมีรูกลางเป็นความว่างเปล่า รูปร่างโดยรวมคล้ายรูปเท้าม้า บนเหรียญยังมีตัวอักษร 'สวย' อยู่ด้วยตามที่เธอทราบ มัทจินเป็นที่มาจากสมัยต้นของจีน ถูกมองเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดี ใช้ในงานสำคัญที่เกี่ยวกับการทำพิธีสำคัญทันใดนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นด้วยความสงสัย "ที่ประเทศคุณ ของชิ้นนี้ใช้จ่ายได้ไหมคะ?"เจียงฉีอันส่ายหัว "ไม่ได้""นั่นก็คล้ายกับที่ผู้เชี่ยวชาญลูกหลานคาดคะเนไว้เลยนะคะ ทองม้วนนี้ที่มีตรา 'ขึ้น' ใช้ในการบูชาที่เมืองหลวงหรือให้กับผู้ร่วมบูชาทั้งหลายในสมัยนั้น...เสด็จพ่อของคุณสั่งให้คุณพากล่องนี้ไปยังชายแดนใช่ไหมคะ? เมื่ออาหารจิตใจหรือ?""…"ครั้งแรกที่เฉินจินเยว่หลุดปากพูดออกไปว่าเขาถูกเนรเทศไปชายแดน เขายังเผลอปกป้องตัวเองอย่างไม่รู้ตัวครั้งนี้ที่ได้ยินคำพูดแบบนี้ เขากลับก็เงียบสงบลงทันทีแววตาอดกลั้นและอ่อนไหวของชายหนุ่ม ทำให้เฉินจินเยว่รู้ทันทีว่า คนตรงหน้านี้ไม่ใช่แค่คนในประวัติศาสตร์ที่เธอจะวิเคราะห์โดยใช้เหตุผลและภววิสัยได้เขาคือคนที่มีชีวิต ยืนอยู่ตร

    Last Updated : 2024-12-10
  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 16

    เฉินจินเยว่แนะนำแบบหนึ่งเรียบร้อย ก็ให้อีกแบบหนึ่งไปอย่างไรก็ตามขอแค่พวกแขกอยู่ในตลาดแห่งนี้ งั้นของที่เธอส่งออกไปก็ต้องไปยังโลกของเขาเมื่อแนะนำเสร็จ สิ่งของก็ได้ส่งออกไปหมด"เจ้ากลับไปก่อนนะ 10 นาทีหลังจากนั้นเข้ามา ข้าจะพาคุณไปเอาถ่ายเผ่า""สิบนาทีคือนานเท่าไหร่?"เจียงฉีอันก็ได้รีบถามออกไปเฉินจินเยว่ถึงได้รู้สึกตัวว่าตนได้พูดศัพท์สมัยใหม่ที่เขาไม่เข้าใจออกไป จึงเปลี่ยนมาพูด "15 นาที" แทนเจียงฉีอันตอบได้แล้วพยักหน้า ก่อนที่จะเดินออกไปเฉินจินเยว่มองแผ่นหลังของเขา แววตาสั่นไหวเล็กน้อยเธอคิดว่าเขาจะถามว่าสินค้าถูกส่งเมื่อไหร่ ส่งยังไงอะไรแบบนี้…โกดังสินค้าทั้งสองอยู่ใกล้กันมาก เดินไม่เกินสิบนาทีก็ถึงเฉินจินเยว่นำของโบราณสองลังเก็บไว้ในห้องเล็กๆ แล้วเตรียมกลับไปค่อยๆ ศึกษา แล้วล็อคโกดังสินค้าก่อนออกไปไฟถนนสองข้างก็ได้สว่างขึ้น ร้านค้าข้างทางบนถนนคนเดินก็ได้คึกคักเฉินจินเยว่เห็นว่าร้านปิ้งย่างมีคนไม่เยอะ ลังเลสักพักก็ได้สั่งปิ้งย่าง และซื้อไก่ทอดและอื่นๆ จากร้านข้างๆ เอาโค้กสองกระป๋อง เย็นกระป๋องหนึ่ง ธรรมดากระป๋องหนึ่งถึงโกดังก็สายไปเกือบสิบนาที ดังนั้นตอนที่พึ

    Last Updated : 2024-12-10
  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 17

    เจียงฉีอันดีใจ แต่ไม่นานเขาก็คิดอะไรบางอย่าง "ตอนนี้การที่คนในชายแดนสามารถกินอิ่มก็ดีมากแล้ว งานง่ายๆ แบบนี้ ให้ประชาชนไปทำ..."เฉินจินเยว่ผิดหวังตาย ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ ของตัวหย่างที่เธอเตรียมไว้ไม่ได้เตะใจเขาไม่แปลกก่อนหน้านี้เขาไม่ได้ถามอะไรเลยแม้ว่าเขาจะประหลาดใจมากก็ตาม"แต่เจ้าบอกว่าเร็ว มันเร็วแค่ไหน? "สามารถทำปริมาณของหลายหมื่นคนได้ในเวลาสองวันหรือไม่?" เจียงฉีอันดูเหมือนจะคิดอะไรได้ ก็ได้เปลี่ยนคำพูดเฉินจินเยว่ก็เข้าใจ "ต้องการทำการศึกรบหรือ?"เจียงฉีอันพยักหน้าแม่ทัพเซียวบอกว่าการรบครั้งนี้ได้เปรียบอยู่ เขารอคอยมากเพียงแค่ชนะ เสด็จพ่อคงจะมองแม่ทัพเซียวในางที่ดีขึ้น?เขาจะได้ใช้โอกาสนี้เพื่อรายงานสถานการณ์ที่แท้จริงของชายแดนกับเสด็จพ่อ..."ถ้าสองวัน มันยากหน่อย" ก็เพราะว่าโรงงานยังไม่ได้เริ่มทำงาน "แต่ถ้าจะสู้รบล่ะก็ ข้าแนะนำอาหารแห้งอีกแบบหนึ่งให้เจ้า มันทั้งอิ่มและสะดวกต่อการพกพา""อะไร?""สักครู่ ข้าจะออกไปซื้อตัวอย่างให้เจ้า""…"เฉินจินเยว่ออกไปสักพักก็กลับมาพร้อมกันบิสกิตอัดสิบห่อ เธอฉีกห่อหนึ่งแล้วส่งให้เขาชิมเจียงฉีอันก็รับมาแล้วชิมท่ามกลางสายตาท

    Last Updated : 2024-12-10

Latest chapter

  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 40

    เธอคิดมานานขนาดนี้แต่ก็คิดแผนที่จะหลอกถามอีกฝ่ายโดยไม่ให้รู้ด้วได้ อีกฝ่ายฉลาดมาก ไม่ได้โง่เหมือนคู่ค้าของเฉินเจี้ยนกั๋วเธอตัดสินใจถามตรงๆว่า "พี่รองคุณมีแผนจะจัดการกับสินค้าที่ถูกเรียกคืนยังไง?""ทำลาย" โจวยี้ฉวนง่ายๆเฉินจินเยว่ถามอีกครั้งว่า "ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องคุณภาพ ทำลายก็เสียดายมาก ขายให้ฉันได้ไหม?"โจวยี้ฉวนมองเธอด้วยความแปลกใจเล็กน้อย จากนั้นก็กลืนมาม่าที่อยู่ในปากลงไป คิดไปสักพัก แล้วสายตาตกอยู่ที่กล่องเล็กที่เธอเอาออกมาจากโกดัง"คุณถือกล่องนี้ไว้ตลอดเวลา เป็นสมบัติเหรอ?""ค่ะ เป็นสมบัติ"เฉินจินเยว่ตอบส่งๆ แล้วพูดต่อว่า "ฉันสามารถจ่ายเป็นสองเท่า เงินชดเชยในการเอาคืนฉันก็ออกให้"โจวยี้ฉวนเหมือนไม่ได้ยิน แต่ถามต่อไปว่า "สมบัติอะไร? โบราณวัตถุ?"เฉินจินเยว่ "..."เธอมองเขานิ่ง เหมือนกำลังอ่านความคิดเขาจากนั้นโจวยี้ฉวนก็ได้เปลี่ยนคำถาม "เธอต้องการยามากขนาดนั้นทำไม?"เฉินจินเยว่เม้มปาก ตอบคำถามก่อนหน้านี้ "เป็นของโบราณ น่าจะได้ราคาไม่น้อยค่ะ"ในสงครามยามีค่ามาก จะไม่มีทางที่ของมัดจำที่เจียงฉีอันส่งมาจะใช่ย่อย"น่าจะ?""ฉันเป็นนักศึกษาที่อ่อนแอและขี้ขลาด ในเรื่องร

  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 39

    บุกรบเมืองซิ่วหรงก็ได้ชนะอย่างงดงาม แต่ก็เสียหายไม่น้อยยาที่เอากลับมาก็ได้ใช้ไปกว่าครึ่ง นอกจากนี้ทหารที่บาดเจ็บหนักยังต้องรับประทานยาต่อเนื่อง การรบต่อต้านนี้เพิ่งเริ่มต้นเซียวเฉิงหยู่ได้ยิน เขาเลยมองไปทางเจียงฉีอัน"ฝ่าบาท...""ข้าได้ยินมาว่าเจ้าได้ยึดเงินทองของพวกเผ่ากองทัพศัตรูที่มีอยู่ในเมืองนี้? ได้อะไรมาได้?" จู่ๆเจียงฉีอันพูดออกมา"พะยะค่ะ!"เซียวเฉิงหยู่สีหน้าตึ้นตัน "ท่านตามข้ามา!"เซียวเฉิงหยู่พาเจียงฉีอันไปที่เรือนหลังหนึ่ง ในนั้นได้มีรังไม้เต็มไปหมดเขาเดินเข้าไป แล้วเปิดรังหลายรัง "ทอง เงิน อัญมณี อยู่ที่นี่ทั้งหมด! แล้วก็ ยังมีไม้ที่แม่นางเฉินต้องการมาก่อนหน้า ข้าคิดว่าคล้ายพวกนี้!"พูดไป เขาก็ได้เอากล่องที่งดงามออกมาจากรังกล่องใหญ่เจียงฉีอันเปิดออกมา แน่นอนว่าเป็นวัสดุเหมือนกับชิ้นไม้ก่อนหน้าเขาก็ได้ดีใจ แต่ก็พูดออกมาอย่างมีเหตุผล "แม่นางเฉินตกลงที่จะช่วยเราสั่งซื้อยาอีก แต่ความสามารถของนางมีจำกัด ให้เราอย่าคาดหวังมากนัก และนางไม่ได้กำหนดราคา"พ่อค้าที่ไม่คุยเรื่องราคา ก็หมายความว่าค้าขายนี้ไม่มีกำไลพวกเขาแบกหน้าของอีกครั้ง ต้องมีความจริงใจในการให้มากท

  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 38

    เจียงฉีอันได้เอายาและบิสกิตอัดออกมาจากร้าน รองแม่ทัพหยางและพวกทหารก็เกือบร้องไห้ก็ได้รีบเดินทางไปเมืองซิ่วหรง เมื่อถึงก็สองชั่วยามต่อมารถก็ได้เต็มไปด้วยยา ทำให้ทหารที่สิ้นหวังได้ดีใจเมื่อเจียงฉีอันได้สั่งให้แพทย์ทหารอธิบายว่ายาเหล่านี้ใช้ยังไงและใช้ปริมาณเท่าไรแล้วพวกเขาก็เริ่มทำงานอย่างไม่รู้จักเหนื่อยแม่ทัพเซียวกินยาแล้ว ก็ยังหลับไม่ตื่นหมอทหารที่ไม่ค่อยชำนาญการใช้แอลกอฮอล์ทำความสะอาดแผลก็ได้พูดออกมา "ยาเหล่านี้พวกข้าไม่เคยเห็นมาก่อน ถึงแม้จะไม่มีพิษ แต่เราก็ไม่รู้ว่ามันจะมีประสิทธิภาพอย่างไร! ถ้ามีไข้สูงไม่หาย เกรงว่า..."ไม่สามารถทำอะไรได้เขาไม่พูดออกมาในความเป็นจริงแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะมียาที่ดีที่สุด แต่ถ้าเกินเวลาที่เหมาะสมในการใช้ยา ก็ไม่สามารถรับประกันว่าแม่ทัพเซียวจะปลอดภัยแต่เม็ดยาเล็กๆ นี้จะมีผลก็คงเป็นปาฏิหาริย์สีหน้าเจียงฉีอันเคร่งเสียงเท้าข้างนอกก็ได้ดัง เซียวเฉิงหยู่ก็ได้รีบเข้ามา มองไปทางหมอทหารด้วยความกลัว"เป็นอย่างไรบ้าง? รองแม่ทัพดีขึ้นหรือเปล่า?"หมอทหารทึ่งสักครู่ กำลังจะคิดว่าจะพูดยังไง แต่ทหารที่ดูแลก็พูดออกมา "แม่ทัพเซียวมีเหงื่อออกมาเยอะ

  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 37

    เฉินจินเยว่ "???"สองคนพูดคุยกันไปก็ได้เดินมาถึงประตูโกดังสินค้าแล้วก็พอดีกับพนักงานที่ได้ขับรถเอาของที่เหลือมาส่งเฉินจินเยว่ไม่ให้คนเข้าโกดัง แต่ให้เธอเอาของบนรถวางที่หน้าประตูแล้วขอบคุณไปโจวยี้ฉวนมองไปที่รถเข็นที่เต็มไปด้วยยาสามคัน ตาก็ได้หรี่ลง มองไปที่สายตาของเธอ พร้อมกับการสืบสวนอย่างเงียบ ๆ...เฉินจินเยว่ความประหม่าเหมือนถูกโดนจับผิด แต่เมื่อคิดใหม่เธอก็ไม่ได้แย่งประโยชน์ของเขา ดังนั้นก็เลยพูดไปอย่างตรงไปตรงมา"คุณรอฉันตรงนี้สักครู่ ฉันจะนำของเหล่านี้เก็บในโกดังก่อน""ต้องการความช่วยเหลือไหม?""ไม่ต้องไม่ต้อง คุณรอฉันข้างนอกก็พอแล้ว""…"โจวยี้ฉวนมองหน้าเธอเหมือนกับว่าป้องกันขโมย กลัวว่าเขาจะตามเข้าโกดัง หัวเราะเบาๆ แล้วยืนขึ้นและไปยังฝั่งถนนตรงข้ามแล้วจุดบุหรี่เฉินจินเยว่ถอนหายใจ และเลื่อนประตูเหล็กขึ้นไปเล็กน้อยเพียงพอที่เธอจะเข้าไปได้เธอเดินไปกลับหลายรอบและเอารถเข็นเล็กทั้งหมดเข้าไปเจียงฉีอันกำลังรอคอยอย่างตึงเครียด เพราะเฉินจินเยว่ไม่ได้ให้คำตอบที่แน่ชัด เขาก็ไม่มั่นใจไม่รู้ว่าเธอสามารถนำยากลับมาได้หรือไม่ และสามารถนำกลับมาได้เท่าไหร่เห็นรถเข็นเต็มไปด้ว

  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 36

    คุณภาพที่ไม่เสถียรไม่ได้เป็นผลข้างเคียงที่น่ากลัว มันก็ดีกว่าไม่มียาแล้วรอตายจริงไหม?เธอเดินทางไปหายาที่ร้านขายยาหลายแห่งอาจไม่เพียงพอ ตอนนี้มีโอกาสแบบนี้ก็ถือว่าโชคดี"ยาเหล่านั้นไม่น้อยเลย คุณจะเอาหมดเลย?" พนักงานร้านไม่ได้ตอบทันที แต่ตกใจเฉินจินเยว่มีเงินมากพอ "ฉันมีงบประมาณเพียงพอ ต้องเตรียมให้เขาครบถ้วน!"พนักงานขายยกนิ้วโป้งให้เธอร้านขายยาขายยาได้ก็มีค่าคอมมิชชั่นให้กับพนักงานขายเมื่อขายยาไปแล้วสาวน้อยที่เพิ่งจบและได้ฝึกงานไม่นาน นอกจากนี้ยังมีความสัมพันธ์ในวงการและกล้าพอ เธอตอบรับเสนอนี้โดยไม่ลังเลเลย…สินค้าชุดนั้นไม่น้อยเลย แต่เฉินจินเยว่สามารถเอาไปได้เพียงบางส่วนเท่านั้น และได้ทิ้งที่อยู่คลังสินค้าไว้ ส่วนที่เหลือให้พนักงานร้านส่งมาให้ภายหลังเธอกำลังดันรถเข็นเต็มไปด้วยแอลกอฮอล์ บนรถเข็นยังมีกล่องยาที่สูงกว่าตัวเธอเอง และเธอกำลังเดินไปทางคลังสินค้าอย่างยากลำบาก"ติ๊ดๆ"เสียงรถที่ดังก็ทำให้เฉินจินเยว่ตกใจเกือบล้มโกรธพร้อมหันหน้า พอดีรถยนต์หนึ่งขับมาข้างๆ เธอ หน้าต่างรถลดลง ใบหน้าที่หล่อเข้มของเขาปรากฏอยู่หน้าเธอ"คุณเฉิน กลางดึกก็ยังยุ่ง?"โจวยี้ฉวนเฉินจิ

  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 35

    ความเงียบของเธอทำให้หัวใจของเจียงฉีอันหวาดหวั่น เหมือนรองรองแม่ทัพว่าไว้ ในช่วงสงครามยาแพงมากๆ แม่นางอาจจะไม่ช่วยเขาถือกล่องด้วยมือเดียว มืออีกข้างเปิดคลุมเสื้อคลุม คุกเข่าลงไปก่อน"ถ้าแม่นางยินดีช่วยเหลือ ข้ายอมทุกเงื่อนไข...""อย่าๆๆ!"เฉินจินเยว่รีบยื่นมือไปประคองเขาเธอเติบโตกับสังคมสังคมนิยมมีในการคิดเห็นเท่าเทียมกัน อยู่ๆมีคนคุกเข้าลงมาทก็ตกใจมากมองสายตาที่เต็มด้วยความวิงวร เธอยื่นมือไปรับกล่อง"ข้ารับของมัดจำแล้ว แต่ข้าไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะซื้อได้เท่าไหร่! เพราะถ้าข้าไปซื้อยาจำนวนมากตอนกลางคืนมันโดนเด่นเกินไป!"ตอนนี้เธอเป็นคนที่ 'มีชื่อในเมือง การรับซื้อของอย่างอื่นยังพอพูดได้ ตุนยามันเป็นที่สงสัยเจียงฉีอันรู้ว่ายาทาแผลหายาก แต่ได้ยินนางรับปาก ก็ได้รู้สึกขอบคุณ"ขอบพระคุณแม่นาง!""เจ้ารอตรงนี้ ขออกไปดดเดี๋ยวกลับมา"ตั้งแต่โกดังนี้กลายเป็นจุดซื้อขายปกติ เฉินจินเยว่ก็เลยเอาเรือนเล็กไว้ที่นี่เฉินจินเยว่ไม่เปิดประตูเจียงฉีอันก็เข้าไม่ได้ แล้วเมื่อเข้ามาแล้ว ถ้าประตูไม่เอาออก เจียงฉีอันก็สามารถอยู่ในนี้มองเฉินจินเยว่ออกจากบ้านอย่างรวดเร็ว ไม่ได้มองกล่องของเขาเล

  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 34

    ก็ได้รวบรวมสมาธิไปสัมผัสเรือนบ้านในหัว ประตูเรือนได้ปิดเพราะเธอออกมา ตอนนี้เหมือนว่า เธอสามารถได้ยินเสียงเคาะประตูนอกนั้น?คิดไปสักพัก ไม่นานก็เดาได้ว่า เจียงฉีอันน่าจะมาแล้ว"คุณเป็นอะไร?"ฉางหงป๋อมองเธอที่เป็แหหมอลอยก็ได้ถามเฉินจินเยว่ตั้งสติอย่างรวดเร็ว "ขอโทษทนายฉาง ฉันจำได้ว่าฉันลืมปิดประตูโกดังเมื่อกี้!"ถ้าจู่ๆเจียงฉีอันปรากฏตัในห้อฝงอาหารอย่างไม่คาดคิด งั้นน่าตกใจแน่ความสำคัญตกใจเป็นเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าความลับของเธอถูกคนอื่นๆ รู้ก็เป็นเรื่องหนึ่งเธอใช้ข้ออ้างนเพื่อรีบกลับบ้านปฏิเสธฉางหงป๋อที่จะส่งเธอและขอโทษไม่หยุด และสัญญาครั้งหน้าจะเลี้ยงข้าวเขาต่อ แล้วก็ออกไปฉางหงป๋อ "???"สับสนเล็กน้อยมื้อนี้พวกเขาสองคนนัดกันเองไม่ใช่เหรอ?สรุปคือคนหนึ่งไม่มา อีกคนกลับก่อน ทำให้เขาดูว่างมาก!…เจียงฉีอัน กลับเมืองก็ตรงไปที่ร้านนั่นแต่เปิดประตูเข้าไป ร้านก็ว่างเปล่าไม่มีอะไรเลยเหมือนครั้งที่แล้วแม่นางเฉินไม่อยู่ในร้าน เขาเข้าไม่ได้เขาจำได้ว่าวันนี้เขาสัญญากับแม่นางเฉินเพื่อมารับอาหารแห้งตอนฟ้ามืดแต่ฟ้าก็ได้มืดไปหนึ่งชั่วยามแล้วเขาไม่มาตามสัญญาเขาเปิดประตูซ้ำแล

  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 33

    รองแม่ทัพตื่นตะหนก "ฝ่าบาท! ท่านจะทิ้งทหารที่ได้รับบาดเจ็บไม่ได้นะพะยะคะ!"เจียงฉีอันพูด "เรียกเขากลับมา ข้าจะคิดวิธีหายาเอง"รองแม่ทัพอยากขัดขวาง แม้ว่าเจียงฉีอันจะสามารถสั่งให้เมืองหลวงส่งยามา แต่ระยะทางก็ไกล ทหารและแม่ทัพเซียวรอไม่ไหวรองแม่ทัพก็รู้สึกตัวทันที"ฝ่าบาทนต้องการไปร้านของแม่นางเฉิน?"ตื่นเต้นดีใจสักพัก นัยน์ตาของเราก็หม่องลง"ยาในช่วงสงครามมีมูลค่ามากกว่าทองคำ แม่นางคนนั้นไม่รับทองคำ จะยอมเอายาให้เราเหรอ?"ใช่ว่าพวกเขาพวกเขาไม่เควคิดที่จะให้เจียงฉีอัน ซื้อ แต่ยาที่ช่วยชีวิตเหล่านั้น ไม่เหมือนกับอาหารพวกเขาได้รับของมากมายจากอีกฝ่าย จะโลภจนอีกฝ่ายรังเกียงก็ไม่ได้"ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ต้องลองดู"ถ้าเซียวเฉิงหยู่หายาเจอ ก็คงกลับมาแล้วสถานการณ์ของเมืองซิ่วหรงก็ไม่ดีกว่าเมืองเล็กที่พวกเขาเฝ้ารองแม่ทัพมองหน้าเขาอย่างตื่นเต้นและรับคำสั่ง "พะยะค่ะ!"เซียวเฉิงหยู่รู้แผนของเจียงฉีอัน ลังเลอยู่ครู่เขาก็กลับ ก่อนส่งเจียงฉีอันออกจากเมือง หนุ่มจ้องมองอย่างจริงจังพร้อมตาที่แดง"ถ้าฝ่าบาทสามารถนำยากลับมา เซียวเฉิงหยู่ คนนี้จะภักดีต่อท่านจนสิ้นชีพ!"ภักดีต่อฝ่าบาท แต่ไม่

  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 32

    ในขณะนี้ชายแดนได้ผ่านการสงครามใหญ่แม่ทัพเซียวคาดการณ์ได้ถูกภัยพิบัตินี้ ศัตรูก็ไม่ได้ดีกว่าพวกเขามากนักในทางกลับกัน เพราะเจียงฉีอันได้เปิดประตูสู่โลกอื่น ก็ได้มอบความหวังใหม่ให้กับทหารของตระกูลเซียว ในขณะที่ในกองทัพศัตรูก็เริ่มเกิดความวุ่นวายแล้วแม่ทัพเซียวได้นำทัพสามพันคน แอบเข้าบุกฐานกองศัตรทัพศัตรูกลางดึกในช่วงที่คนไม่ระวังศัตรูได้วุ่นวาย ไม่นานก็พ่ายแพ้ไม่สามารถรวมกำลังได้ทหารตระกูลเซียวไล่ล่า คืนนั้นก็ได้ตีทัพทหารศัตรูที่บุกเมืองซิ่วหรงราวจุดจบได้กำหนดไว้แล้วแต่ความเสียหายก็มากเช่นกันเมื่อเจียงฉีอันมาถึงที่ซิ่วหรง ก็ใกล้ค่ำแล้วภายในเมืองเงียบสงบมาก บ้านเก่าพนังผุ ที่รื้อถอดได้ก็ได้รื้อไปหมด บนถนนจะสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนประตูบ้านที่ปิดประตู ก็เป็นบ้านที่ฐานะดี แต่ก็มีไม่กี่หลังทหารกำลังทำความสะอาดสนามรบ เก็บกวาดทางที่มีหิมะสะสม ศพที่ตายบนสนามรบไม่มากนัก ศพที่ถูกแข็งตายมีมากกว่ายังมีกระดูกสีขาวที่มีเลือดเนื้อติดบ้างราวมีอะไรมาแทะจนสะอาดเจียงฉีอันมองไปทางอื่น กดดันความรู้สึกคลื้นใส้ลงไป เดินไปยังค่ายทหารหลักหมอทหารทำงานอย่างหนัก เพราะแม่ทัพเซียวก็ได้ร

DMCA.com Protection Status