แชร์

บทที่ 8

ผู้เขียน: เยว่รั่วซิงเหอ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-10 17:39:59
ภาพที่มองมืดบอดไปหมด มันมืดมิดจริงๆนะ

รอบๆ มืดมิดจนไม่เห็นอะไรเลย

มีแสงเลือนรางส่องมาจากประตูใหญ่ข้างหลัง ทำให้เขามองเห็นการตกแต่งภายในร้าน มันไม่ใช่ร้านเดิมที่เขาเจอเมื่อวานนี้เลย

เขาตื่นตระหนกอย่างมาก เขากำมือที่ที่จับรถเข็นแน่น จนเส้นเลือดที่ข้อมือปูดขึ้น

นี่มันเรื่องอะไรกัน?

เขาไม่สามารถเข้าไปร้านนั้นได้แล้วหรือ?

หลังจากนี้จะเข้าไปไม่ได้อีกหรือยังไม่ถึงเวลาเข้าไป?

ในช่วงเวลานั้น ความคิดมากมายพุ่งเข้ามาในหัวของเขา เขาถึงกับสงสัยว่าเมื่อวานนี้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นแค่ความฝัน

ทันใดนั้น เสียงดนตรีที่แปลกประหลาดและไพเราะดังขึ้น...

เฉินจินเยว่ถูกปลุกจากเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ เธอจับโทรศัพท์ขึ้นมาดูอย่างรำคาญๆ แต่เมื่อเห็นชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอว่า ‘คุณปู่’ สมองที่มึนๆงงๆก็ได้สติขึ้นมา

"ฮัลโหล?"

เธอกดรับสายอย่างขี้เกียจๆ

เสียงอ่อนโยนและห่วงใยดังมาจากปลายสาย "จาวตี้ ได้ยินว่าเมื่อวานหลานไม่ได้กลับบ้านเหรอ? เงินเดือนคนงานจ่ายหมดแล้วเหรอ?"

นอกหน้าต่างฟ้าเพิ่งจะส่าง เธอลุกขึ้นเปิดไฟอย่างง่วง ๆ พร้อมพูดเสียงเย็นชาว่า "คุณปู่แก่แล้วเลอะเลือนหรือไงคะ? หนูเปลี่ยนชื่อแล้วนะ"

เมื่อไฟเปิดขึ้น ก็มีเงาร่างสูงใหญ่ปรากฏอยู่ไม่ไกลจากเธอ

"หา!"

เฉินจินเยว่ลืมตาตื่นทันที เกือบจะเผลอปล่อยมือถือทิ้งแล้ว

เมื่อเธอมองเห็นใบหน้านั้นชัดๆ เธอก็ยิ่งตกใจจนไม่อยากเชื่อ "ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้?!"

"จาวตี้? เฉินจาวตี้? หลานคุยกับใครน่ะ? หลานเห็นใครเหรอ?"

"…"

น้ำเสียงกระวนกระวายใจที่ทำให้คนรู้สึกสะอิดสะเอียนดังมาจากปลายสาย

เฉินจินเยว่ก็หมดความอดทนทันที "มีอะไรก็พูดมา ตอนนี้หนูไม่มีเวลามาสานสัมพันธ์กับพวกคุณนะ"

ปลายสายเงียบไป

ถ้าเมื่อก่อนเฉินจินเยว่กล้าพูดแบบนี้กับพวกเขา พวกเขาคงเปิดปากด่าทอเธอไปนานแล้วว่าเป็นของไร้ประโยชน์ คิดว่าตัวเองเป็นคุณหนูไปได้

แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้ว

พวกเขาส่งเสียเฉินเจี๋ยแล้ว ยังมอบส่งเงินเก็บทั้งหมดของตระกูลเฉินไปให้ด้วย

ตอนนี้พวกเขาต้องอาศัยอยู่ในบ้านขนาดแปดสิบตร.ม. กับครอบครัวของลูกชายคนรอง สภาพดูไม่สู้ดีนัก แถมบางครั้งก็ถูกข่มขู่จากเจ้าหนี้ที่มาทวงหนี้บ่อยๆ...

ผู้เฒ่ากดความโกรธในใจลงแล้วพูดต่อด้วยเสียงอ่อนโยน "ลุงรองเป็นห่วงหลาน ให้ปู่มาเรียกหลานกลับมากินข้าวกลางวันด้วยกัน พวกเรามาช่วยกันคิดหาวิธีจัดการหนี้สินโรงงานเถอะ"

เฉินจินเยว่ยิ้มมุมปาก "ค่ะ เดี๋ยวหนูกลับไปมืดๆหน่อย รอเลยนะคะ"

หลังจากวางโทรศัพท์ เธอรีบเดินไปข้างหน้าเจียงฉีอัน ก่อนจะจ้องมองเขาด้วยความตกใจ "คุณเข้ามาที่นี่ได้ไง?"

เจียงฉีอันที่ในใจยังคงตกใจอยู่ แต่เมื่อเห็นคนที่คุ้นเคย เขาก็สงบลง

เห็นเธอกำลังพูดกับกล่องสีดำขนาดเล็ก เขาจึงแอบมองสังเกตไปรอบๆ

ห้องนี้ใหญ่กว่าห้องเมื่อวาน ด้านในสุดมืดสนิท ทำให้มองไม่เห็นว่ามีอะไรอยู่

แต่เต็มไปด้วยสิ่งของ

ใกล้กับขอบประตูมีเตียงเล็ก ๆ อยู่ ข้างๆเตียงมีเสาขนาดเท่าแขนคน ข้างบนมีลูกกลมๆกำลังส่ายไปส่ายมาพร้อมส่งเสียงฟู่ๆ...

เมื่อได้ยินคำถาม เขาก็ได้สติ "ข้าเข้ามาจากร้านเดิมก็มาอยู่ที่นี่เลย"

ในหัวเฉินจินเยว่เต็มไปด้วยความสงสัย

เขาเข้ามาจากจุดเดิม แต่ทำไมเขาถึงเข้ามาโผล่คลังสินค้าได้ล่ะ?

หรือว่าเธออยู่ที่ไหน เขาก็จะโผล่ไปที่นั่น?

นี่มันหลักการอะไรกัน?

เจียงฉีอันเห็นเธอไม่พูดอะไร และเขาก็มองไปที่เตียงเล็กๆนั่น แล้วถามอย่างสนใจว่า "ที่นี่คือห้องนอนของแม่นางหรือ?"

เฉินจินเยว่ไม่รู้จะพูดอะไร "นี่คือคลังสินค้าของโรงงาน เมื่อคืนฉันคิดหาวิธีการขนส่งสินค้าที่นี่น่ะ คิดไปคิดมาก็หลับไป..."

พูดถึงที่นี่ จู่ๆเธอก็ปรบมืออย่างแรง "บังเอิญไปไหม? ที่นี่คลังสินค้านี่นะ!"

เจียงฉีอันไม่เข้าใจ "คลังสินค้างั้นหรือ?"

เมื่อเฉินจินเยว่พูดจบ ก็เดินไปที่มุมหนึ่งแล้วเปิดไฟทั้งหมด

ในขณะนั้นเอง โกดังขนาดใหญ่ก็สว่างไสวราวตอนกลางวัน

ในที่สุดเจียงฉีอันก็ได้เห็นชัดเจนแล้วว่าสิ่งที่อยู่ข้างในมืดๆนั่น ของข้าวที่เต็มไปหมดมันคืออะไร

มันคือเสื้อกันหนาวผ้าฝ้ายแบบเดียวกับเมื่อวานทั้งหมดเลย!

แพ็คบรรจุเสร็จสรรพ!

เรียบร้อยและเป็นระเบียบ!

เขารีบผลักรถเข็นมาตรงหน้าของเฉินจินเยว่ และพูดว่า "ยอดเงินส่วนที่เหลือ! แม่นางลองดูว่าพอหรือไม่?"

เฉินจินเยว่เพิ่งจะสังเกตเห็นว่าเขาเข็นรถเข็นที่บรรทุกกล่องรูปร่างต่างๆ มาด้วย

พอเธอเปิดกล่องเล็กที่อยู่ด้านบน ดวงตาของเธอก็เปล่งประกายทันที

"พอค่ะ พอที่สุดแล้ว"

ทั้งหมดเป็นเครื่องประดับเพชรพลอยที่ละเอียดประณีต!

ร่ำรวยแล้วจ้า!

เงินฝากกำลังจะเพิ่มขึ้นแล้ว!

เธอไม่สามารถหยุดที่จะชมมันทีละชิ้นได้ เธอจับมันลงมาอย่างระมัดระวัง แล้วเปิดกล่องที่สองออกซึ่งเต็มไปด้วยเครื่องลายเคลือบและเครื่องปั้นดินเผาทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก!

กล่องที่สามเป็นกล่องที่ใหญ่ที่สุด ด้านบนมีแจกันคู่หนึ่ง ส่วนด้านล่างมีสิ่งของที่แบ่งบรรจุไว้ในกล่องอย่างเป็นระเบียบ ซึ่งทั้งหมดเป็นของประดับตกแต่ง

เฉินจินเยว่ติดใจการเปิดกล่องแบบสุ่มๆดู เธอเปิดดูทีละกล่อง

ทุกกล่องเต็มไปด้วยกลิ่นของเงิน พุ่งกระแทกหัวเธอที่เดิมทีก็ยังไม่ค่อยจะมีสติดี

แต่เมื่อเธอเปิดกล่องที่อยู่มุมที่สุด รูปแบบมันเปลี่ยนไป

ข้างในเป็นเศษไม้กองใหญ่ ทั้งยังมีเขม่าดำๆติดอยู่ เพิ่งดึงออกมาจากกองไฟเหรอ?

สายตาอันเฉียบคมของเธอสังเกตเห็นว่าเนื้อไม้เหล่านี้มีลักษณะพิเศษ เธอหยิบกระเป๋ามา แล้วนำประตูไม้เล็กๆ ที่ขายไม่ออกจากเมื่อวาน พร้อมกับเครื่องมือสำหรับตรวจสอบแบบต่างๆ ออกมา…

เจียงฉีอันที่ได้ยินเธอบอกว่าพอ ขาของเขาก็ขยับเดินตรงไปยังสินค้าที่กองเป็นเนินโดยไม่รู้ตัว

การได้ยินว่ามีหนึ่งแสนสี่หมื่นชุด กับการมาได้เห็นของจริงจำนวนหนึ่งแสนสี่หมื่นชุดนี่ ความรู้สึกที่ได้มันช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ตอนนี้เลือดในร่างกายของเขากำลังเดือดพล่าน!

ทหารและชาวบ้านที่ชายแดนรอดแล้ว!

เมื่อเขาหันกลับไปมองเฉินจินเยว่อีกครั้ง ก็พบว่าเธอกำลังตั้งใจศึกษากองเศษไม้อย่างจริงจัง โดยนั่งอยู่ท่ามกลางกองกล่องลัง

เขาก้าวเข้าไปสองสามก้าวและพูดว่า "นี่คือสิ่งที่ทหารข้าเจอในร้านที่ข้าเข้ามา พวกเขาบอกว่าวัสดุนี่พิเศษมาก เผาไม่ไหม้ ฟันไม่ขาด พอได้ยินมาว่าแม่นางชอบของหายาก ก็เลยส่งมาพร้อมกัน"

เฉินจินเยว่เดาไว้ไม่ผิด ประตูบานนี้ถูกถอดออกมาจากชุดตัวต่อของบ้านสไตล์โบราณ

ส่วนกองไม้ที่เจียงฉีอันนำมา ก็เป็นส่วนหนึ่งของบ้านสไตล์โบราณเช่นกัน

เธอเริ่มลงมือประกอบทันที

"ฉันชอบมากจริงๆเลยค่ะ ฝากขอบคุณลูกน้องคุณด้วยนะ!"

"เช่นนั้น ข้าเริ่มขนของได้เลยใช่หรือไม่?"

"…"

เฉินจินเยว่เงยหน้ามองเขา สัมผัสเข้ากับเสื้อคลุมที่เขาคลุมไว้อย่างแน่นหนา "คุณไม่ร้อนเหรอคะ?"

พอเธอถามแบบนั้น เจียงฉีอันถึงเพิ่งจะรู้สึกว่าจริงๆ แล้วร้อนมาก

ก่อนหน้านี้มัวแต่ตื่นเต้น ไม่ได้สังเกตเห็นว่าห้องนี้แปลกประหลาด ร้อนกว่าห้องเมื่อวาน...

คลังสินค้าไม่มีเครื่องปรับอากาศ

เฉินจินเยว่ลุกขึ้น ช่วยยกพัดมาให้คุณลูกค้ารายใหญ่อย่างกระตือรือร้น ก่อนจะวางข้างเขาแล้วกดเปิดเครื่อง "รถเข็นอยู่ทางนั้นนะคะ คุณยกไปก่อน เดี๋ยวฉันทำงานเสร็จแล้วจะมาช่วย"

พูดจบเธอก็กลับไปทุ่มเทกับการประกอบอีกครั้ง

เจียงฉีอันไม่ได้สนใจคำพูดท้ายๆ ของเธอ สายตาจับจ้องอยู่ที่สิ่งประหลาดที่กำลังหมุนไปมา

ข้างในมันปล่อยลมออกมาได้ด้วย เย็นสบายมาก

เขามองอยู่สักพัก ก็คิดได้ว่าร้านนี้และแม่นางผู้นี้แปลกพิกลอยู่แล้ว เขาเลยไม่คิดอะไรมาก เขาปลดเสื้อคลุมออก วางไว้ข้างๆ

ทำงานกันเถอะ!

เฉินจินเยว่ต่อไม้ชิ้นสุดท้ายเสร็จ อยู่ๆ ในหัวก็ปรากฏภาพบ้านสไตล์โบราณสองชั้นที่มีลานบ้าน แต่มีเพียงห้องสองห้องและประตูรั้วไม้ไผ่เท่านั้นที่เห็นได้ชัดๆ

ส่วนที่เหลือทั้งหมดเป็นเพียงเงาลางๆ ริบหรี่ มองเห็นเพียงโครงร่างรางๆ เท่านั้น

เมื่อเธอจดจ่อสมาธิ ก็สัมผัสได้ถึงสิ่งต่างๆ ภายในนั้น…

เจียงฉีอันที่ยกของเสร็จไปอีกหนึ่งรอบ ก็เห็นแม่นางผู้นั้นอ้าปากค้างเล็กน้อยเหม่อลอยนั่งอยู่กับพื้น

เขาเอ่ยปากถามอย่างอดไม่ได้ "แม่นางเฉิน? เจ้าเป็นอะไรงั้นหรือ?"

เฉินจินเยว่เงยหน้าขึ้น พร้อมยิ้มสดใสให้กับใบหน้าหล่อเหลาคมคายของเขา "ฉันเหมือนจะเจอสาเหตุที่คุณเข้ามาที่นี่ได้แล้วล่ะ!"

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 9

    เจียงฉีอันนิ่งชะงัก สายตาพร่าเลือนเพราะรอยยิ้มสดใสนั่นจากนั้นก็เห็นเฉินจินเยว่ลุกขึ้นจากพื้นอย่างรวดเร็ว "คุณออกไปก่อน อีกห้านาทีค่อยกลับเข้ามา!"เจียงฉีอันกำลังจะถามว่าห้านาทีนี่นานแค่ไหน แต่เธอพุ่งออกไปราวสายลม และทันทีที่เธอก้าวพ้นประตู เขาก็ถูกพลังที่มองไม่เห็นผลักออกมาเซียวเฉิงหยู่กำลังสั่งการลูกน้องอยู่ที่หน้าประตูอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยแต่เมื่อเห็นเจียงฉีอันเข้าออกหลายรอบ ทั้งที่เป็นฤดูหนาว แต่เหงื่อกลับซึมออกมาที่หน้าผาก เขาก็มีความรู้สึกมากมายในใจเขาแตกต่างจากองค์ชายองค์อื่นๆบางที เขาอาจไม่ควรระบายความโกรธต่อราชสำนักใส่เขาเมื่อได้เห็นเจียงฉีอันออกมาอีกครั้ง เขาไม่ทันสังเกตด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายมามือเปล่า รีบก้าวเข้าไปหาแล้วพูดว่า "ฝ่าบาท ลองพาผู้ใต้บังคับบัญชาเข้าไปลองดูอีกครั้งเถอะพ่ะย่ะค่ะ!"เจียงฉีอันหันไปมองเขา สายตาเหม่อลอย "เจ้ารู้ไหมว่าห้านาทีมันนานแค่ไหน?"เซียวเฉิงหยู่ "???"เฉินจินเยว่อุ้มข้าวของเดินไปที่ออฟฟิศวางของไว้บนโต๊ะทำงานมันคือบ้านไม้สองห้องที่ไม่สมบูรณ์ ขอบประตูอยู่ใกล้กับรั้วไม้ไผ่ และใช้รั้วไม้ไผ่มาเชื่อมต่อกับประตูใหญ่อีกทีเธอยื่นนิ้วอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-10
  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 10

    บ่ายสามโมงเฉินจินเยว่ไปจ่ายภาษีที่สำนักงานสรรพากร แล้วก็ไปรับคน จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปบ้านของลุงรอง"ในที่สุดคุณก็เลือกขอความช่วยเหลือทางกฎหมายสักที ศาสตราจารย์เหยียนดีใจมากเลยนะ" ชายหนุ่มพูดกับเฉินจินเยว่ด้วยท่าทีที่สุภาพและยิ้มเบาๆ"ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วเกินไป ฉันก็ไม่ทันตั้งตัวเหมือนกันค่ะ"เฉินจินเยว่ที่นั่งฝั่งข้างคนขับรู้สึกเกร็งเล็กน้อย "เรื่องแค่นี้ต้องรบกวนท่านมาถึงที่นี่ จริงๆ แล้วน่าเกรงใจมากเลยค่ะ"เมื่อคืนนี้เธอติดต่อศาสตราจารย์เหยียน ขอให้เขาช่วยแนะนำทนายความที่น่าเชื่อถือให้แต่เธอไม่คิดว่าศาสตราจารย์เหยียนจะเอาตัวพ่ออย่าง ฉางหงป๋อ ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองมาให้เธอเขาเชี่ยวชาญในเรื่องคดีจัดการทรัพย์สินคดีที่เขาทำนั้นอัตราชนะสูงถึงเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์"ไม่เป็นไรเลยครับ คุณเป็นนักเรียนคนโปรดของศาสตราจารย์เหยียน แถมประธานโจวก็ฝากฝังไว้กับผมด้วย""ประธานโจวเหรอคะ?"เฉินจินเยว่สงสัยเล็กน้อยฉางหงป๋อหันหน้ามามองเธอทีหนึ่ง "โจวยี้ฉวน ลูกค้าเธอไง?"เฉินจินเยว่ "..."เธอจำไม่ได้ว่าทั้งเธอและเฉินเจี้ยนกั๋วจะมีลูกค้ารายใหญ่แซ่โจวด้วยอ๋อใช่แล้ว เมื่อวานตอนอาจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-10
  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 11

    ก่อนหน้านี้ทนายฉางทำความเข้าใจมาแค่พินัยกรรมที่ไม่เป็นธรรมฉบับนี้เท่านั้นในทางกฎหมายแน่นอนว่ามันไม่ได้รับการยอมรับเขามั่นใจในคดีนี้มากแถมตอนนี้ที่ได้ยินคำพูดของเฉินจินเยว่ เขาก็ยิ่งมั่นใจขึ้นอีก "คำว่าหนี้พ่อ ลูกต้องชดใช้นั้น คำนี้ไม่มีหลักฐานทางกฎหมาย หนี้ของพ่อแม่นั้นเป็นการกระทำส่วนบุคคล ควรให้พ่อแม่รับผิดชอบเอง"เขาใช้โอกาสนี้อธิบายกฎหมายให้ทุกคนฟังอย่างมีเหตุผล"แน่นอนว่าหากลูกได้รับมรดกจากพ่อแม่ จะต้องชำระหนี้ด้วย แต่จะชำระได้แค่ในมูลค่าของมรดกเท่านั้น""หากลูกปฏิเสธการรับมรดก ก็ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบหนี้สิน""เท่าที่ผมทราบ ลูกความของผม คุณเฉิน ยินดีที่จะสละสิทธิ์การรับมรดกโรงงาน ดังนั้นจึงไม่มีภาระหน้าที่ในการชำระหนี้""ส่วนเฉินเจี๋ยที่รับมรดกเงินสดก้อนโตไป จะต้องรับผิดชอบหนี้ในจำนวนที่สอดคล้องกับเงินสดนั้น และบ้านหลังนี้ของผู้อาวุโสรอง ก็เป็นคุณเฉินเจี้ยนกั๋วเพิ่งซื้อมาไม่นานใช่ไหมครับ? ในเมื่อพวกคุณได้ประโยชน์จากหนี้สิน ก็สมควรต้องรับผิดชอบหนี้ส่วนหนึ่งด้วย…"เขาเอ่ยทีละคำ ช้าๆแต่หนักแน่น เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของผู้เชี่ยวชาญ จนทำให้คนฟังรู้สึกเชื่อถือสีหน้าของครอบคร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-10
  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 12

    เมื่อออกจากประตูอาคารนั่นมา เฉินจินเยว่ก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นไม่น้อยจากมูลค่าของสิ่งของไม่กี่ชิ้นก่อนหน้านี้ เธอมั่นใจว่ากล่องของโบราณในมือเธอนั้น มีมูลค่าหลายพันล้านหนี้สินที่เฉินเจี้ยนกั๋วยังค้างไว้มีอยู่ประมาณหนึ่งร้อยล้าน ไม่นานเธอก็จะสามารถชำระหนี้ได้แล้ว เมื่อถึงตอนนั้นเธอก็จะหลุดพ้นจากบ่อโคลนของตระกูลเฉินและเริ่มต้นชีวิตของตัวเองเธอไม่กังวลเลยว่า ครอบครัวตระกูลเฉินนั่นจะไม่เซ็นเธอได้เอาข้อดีข้อเสียมาอธิบายให้พวกเขาฟังชัดเจนขนาดนั้น จากระดับความเห็นแก่ตัวของพวกเขา พวกเขาต้องวิตกกังวลมากกว่าเธอด้วยซ้ำกลัวว่าเธอเลือดร้อนหายจากไป...กลัวว่าเธอจะเปลี่ยนใจไม่รับช่วงต่อโรงงาน..."คุณไม่คิดที่จะสละสิทธิ์การรับมรดกตั้งแต่แรกใช่ไหมครับ?" ฉางหงป๋อสัมผัสได้ความสุขที่มาจากใจจริงๆของเธอ จึงอดถามไม่ได้ตอนที่เขาร่างสัญญาที่สละสิทธิ์การรับมรดก เขาคิดว่าเธอจะเป็นคนสละสิทธิ์การรับมรดกเขาคิดว่าเธอจะยื่นฟ้อง เพื่อหลีกเลี่ยงหนี้สินไม่ใช่แค่เขา ศาสตราจารย์เหยียนก็คงจะคิดแบบนั้นด้วยเหมือนกันใช่ไหมนะ?ยุ่งมาครึ่งวันเธอกลับทำตรงกันข้าม คือกลับมาเพื่อให้พวกเขาสละสิทธิ์งั้นหรอกเหรอ?เฉินจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-10
  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 13

    สีหน้าอาหลีไม่สู้ดีนักเขาอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็พูดไม่ออกเฉินจินเยว่โตมากับการต้องพึ่งพาคนอื่น บวกกับช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเห็นสีหน้าเจ้าหนี้บ่อยจนคุ้นเคย ทำไมจะมองสถานการณ์ไม่ออก"อาหลี ถ่านหินทั้งหมดเท่าไหร่ คิดราคายังไงคะ?""ห้าพันตัน ปีที่แล้วราคาตันละสองพันห้า แต่ถ้าเธอเอาหมด ผมจะคิดให้แค่สองพันสองร้อยห้าสิบ""ได้ค่ะ หนูเตรียมเงินไว้ให้แล้ว พอเช็คจำนวนเสร็จแล้วจะจ่ายให้ทันที""…"สายตาที่อาหลีมองเธอเปล่งประกายขึ้นมาทันทีก็บอกแล้ว ยัยหนูนี่เป็นนักศึกษาเลยนะ จะไม่ซื่อสัตย์ได้ไง?เฉินจินเยว่เข้าไปในโกดังเพื่อดูสินค้า แล้วไปยืนยันกับผู้จัดการโกดังว่าไม่ผิดแน่ถ่านหินมีจำนวนห้าพันตัน จากนั้นก็โอนเงินสิบกว่าล้านบาทให้อาหลีทันทีอาหลียังไม่ทันพูดอะไร หุ้นส่วนของเขาก็เป็นฝ่ายเอ่ยยิ้มทักทายก่อน "ยัยหนูเธอนี่เก่งจริงๆ ผมได้ยินมาว่าเธอสั่งข้าวจากบริษัทข้าวอีกแปดร้อยตันด้วยใช่ไหม?"เพราะเหตุนี้แหละ เขาจึงกังวลว่าเธออาจจะอยากเป็นพ่อค้าคนกลางเพื่อจับเสือมือเปล่าจ่ายเงินหน้าร้านอะไรนั่น ก็เอาไว้แค่หลอกคนรู้จัก..."ก็แค่ช่วยคนอื่นสั่งค่ะ หนูแค่เป็นคนเชื่อมเส้นสา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-10
  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 14

    แต่ภายใต้ความหวังนั้นยังคงมีความกังวลซ่อนอยู่ทุกคนมองไปที่กองศพที่รอการเผา ด้วยสายตาที่แฝงความเศร้าและเสียดาย——"จะเผาหมดจริงๆ เหรอ? ข้าวของบ้านเราก็ใกล้จะหมดแล้วนะ""ใครๆ ก็เหมือนกันทั้งนั้น หนาวขนาดนี้ ถึงจะมีเสื้อผ้า แต่ถ้าไม่มีข้าวกิน สุดท้ายก็ต้องอดตายอยู่ดี!""ถ้าไม่เชื่อแม่ทัพเซียว อย่างน้อยก็ต้องเชื่อองค์ชายสิ! ในเมื่อพระองค์อยู่ที่นี่ ราชสำนักคงไม่ทอดทิ้งพวกเราที่ชายแดนหรอก!""แต่ได้ยินมาว่าองค์ชายหกไม่เป็นที่โปรดปรานในวังเลยนะ""…"ทหารลาดตระเวนเห็นชาวบ้านที่ลังเลอยู่ ก็เดินเข้ามาทันที "กำลังคุยอะไรกันอยู่งั้นหรือ? เรื่องแค่นี้ยังจัดการไม่เสร็จอีก?"ชาวบ้านไม่กล้าชักช้า จึงต้องจุดไฟอย่างไม่เต็มใจ...ในค่ายทหารแม่ทัพอาวุโสเซียวเองก็ดูมีขวัญกำลังใจมากขึ้นไม่น้อยเขายืนอยู่หน้ากระดานแผนที่ วิเคราะห์อย่างสงบเคร่งขรึม "กองทัพป่าเถื่อนยังไม่มีการเคลื่อนไหว คงเพราะขาดแคลนเสบียงเป็นแน่ พวกมันหมดขีดสามารถในการรบแล้ว เลยคิดถ่วงเวลาให้เราตายไปเอง!"ชายแดนยากจนอยู่แล้ว การที่ทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากันนั้นก็ไม่ได้มีใครอยู่ในสภาพที่ดีกว่าไปอีกฝ่ายนักความแตกต่างมันอยู่ที่ว่าก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-10
  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 15

    หนึ่งกล่องมีเงินเกือกม้าทั้งหมดสิบชิ้นเฉินจินเยว่เอาเหรียญมาดูอย่างระมัดระวัง ด้านหน้าเป็นรูปรี ด้านล่างเป็นรูปวงกลมซึ่งมีรูกลางเป็นความว่างเปล่า รูปร่างโดยรวมคล้ายรูปเท้าม้า บนเหรียญยังมีตัวอักษร 'สวย' อยู่ด้วยตามที่เธอทราบ มัทจินเป็นที่มาจากสมัยต้นของจีน ถูกมองเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดี ใช้ในงานสำคัญที่เกี่ยวกับการทำพิธีสำคัญทันใดนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นด้วยความสงสัย "ที่ประเทศคุณ ของชิ้นนี้ใช้จ่ายได้ไหมคะ?"เจียงฉีอันส่ายหัว "ไม่ได้""นั่นก็คล้ายกับที่ผู้เชี่ยวชาญลูกหลานคาดคะเนไว้เลยนะคะ ทองม้วนนี้ที่มีตรา 'ขึ้น' ใช้ในการบูชาที่เมืองหลวงหรือให้กับผู้ร่วมบูชาทั้งหลายในสมัยนั้น...เสด็จพ่อของคุณสั่งให้คุณพากล่องนี้ไปยังชายแดนใช่ไหมคะ? เมื่ออาหารจิตใจหรือ?""…"ครั้งแรกที่เฉินจินเยว่หลุดปากพูดออกไปว่าเขาถูกเนรเทศไปชายแดน เขายังเผลอปกป้องตัวเองอย่างไม่รู้ตัวครั้งนี้ที่ได้ยินคำพูดแบบนี้ เขากลับก็เงียบสงบลงทันทีแววตาอดกลั้นและอ่อนไหวของชายหนุ่ม ทำให้เฉินจินเยว่รู้ทันทีว่า คนตรงหน้านี้ไม่ใช่แค่คนในประวัติศาสตร์ที่เธอจะวิเคราะห์โดยใช้เหตุผลและภววิสัยได้เขาคือคนที่มีชีวิต ยืนอยู่ตร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-10
  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 16

    เฉินจินเยว่แนะนำแบบหนึ่งเรียบร้อย ก็ให้อีกแบบหนึ่งไปอย่างไรก็ตามขอแค่พวกแขกอยู่ในตลาดแห่งนี้ งั้นของที่เธอส่งออกไปก็ต้องไปยังโลกของเขาเมื่อแนะนำเสร็จ สิ่งของก็ได้ส่งออกไปหมด"เจ้ากลับไปก่อนนะ 10 นาทีหลังจากนั้นเข้ามา ข้าจะพาคุณไปเอาถ่ายเผ่า""สิบนาทีคือนานเท่าไหร่?"เจียงฉีอันก็ได้รีบถามออกไปเฉินจินเยว่ถึงได้รู้สึกตัวว่าตนได้พูดศัพท์สมัยใหม่ที่เขาไม่เข้าใจออกไป จึงเปลี่ยนมาพูด "15 นาที" แทนเจียงฉีอันตอบได้แล้วพยักหน้า ก่อนที่จะเดินออกไปเฉินจินเยว่มองแผ่นหลังของเขา แววตาสั่นไหวเล็กน้อยเธอคิดว่าเขาจะถามว่าสินค้าถูกส่งเมื่อไหร่ ส่งยังไงอะไรแบบนี้…โกดังสินค้าทั้งสองอยู่ใกล้กันมาก เดินไม่เกินสิบนาทีก็ถึงเฉินจินเยว่นำของโบราณสองลังเก็บไว้ในห้องเล็กๆ แล้วเตรียมกลับไปค่อยๆ ศึกษา แล้วล็อคโกดังสินค้าก่อนออกไปไฟถนนสองข้างก็ได้สว่างขึ้น ร้านค้าข้างทางบนถนนคนเดินก็ได้คึกคักเฉินจินเยว่เห็นว่าร้านปิ้งย่างมีคนไม่เยอะ ลังเลสักพักก็ได้สั่งปิ้งย่าง และซื้อไก่ทอดและอื่นๆ จากร้านข้างๆ เอาโค้กสองกระป๋อง เย็นกระป๋องหนึ่ง ธรรมดากระป๋องหนึ่งถึงโกดังก็สายไปเกือบสิบนาที ดังนั้นตอนที่พึ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-10

บทล่าสุด

  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 40

    เธอคิดมานานขนาดนี้แต่ก็คิดแผนที่จะหลอกถามอีกฝ่ายโดยไม่ให้รู้ด้วได้ อีกฝ่ายฉลาดมาก ไม่ได้โง่เหมือนคู่ค้าของเฉินเจี้ยนกั๋วเธอตัดสินใจถามตรงๆว่า "พี่รองคุณมีแผนจะจัดการกับสินค้าที่ถูกเรียกคืนยังไง?""ทำลาย" โจวยี้ฉวนง่ายๆเฉินจินเยว่ถามอีกครั้งว่า "ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องคุณภาพ ทำลายก็เสียดายมาก ขายให้ฉันได้ไหม?"โจวยี้ฉวนมองเธอด้วยความแปลกใจเล็กน้อย จากนั้นก็กลืนมาม่าที่อยู่ในปากลงไป คิดไปสักพัก แล้วสายตาตกอยู่ที่กล่องเล็กที่เธอเอาออกมาจากโกดัง"คุณถือกล่องนี้ไว้ตลอดเวลา เป็นสมบัติเหรอ?""ค่ะ เป็นสมบัติ"เฉินจินเยว่ตอบส่งๆ แล้วพูดต่อว่า "ฉันสามารถจ่ายเป็นสองเท่า เงินชดเชยในการเอาคืนฉันก็ออกให้"โจวยี้ฉวนเหมือนไม่ได้ยิน แต่ถามต่อไปว่า "สมบัติอะไร? โบราณวัตถุ?"เฉินจินเยว่ "..."เธอมองเขานิ่ง เหมือนกำลังอ่านความคิดเขาจากนั้นโจวยี้ฉวนก็ได้เปลี่ยนคำถาม "เธอต้องการยามากขนาดนั้นทำไม?"เฉินจินเยว่เม้มปาก ตอบคำถามก่อนหน้านี้ "เป็นของโบราณ น่าจะได้ราคาไม่น้อยค่ะ"ในสงครามยามีค่ามาก จะไม่มีทางที่ของมัดจำที่เจียงฉีอันส่งมาจะใช่ย่อย"น่าจะ?""ฉันเป็นนักศึกษาที่อ่อนแอและขี้ขลาด ในเรื่องร

  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 39

    บุกรบเมืองซิ่วหรงก็ได้ชนะอย่างงดงาม แต่ก็เสียหายไม่น้อยยาที่เอากลับมาก็ได้ใช้ไปกว่าครึ่ง นอกจากนี้ทหารที่บาดเจ็บหนักยังต้องรับประทานยาต่อเนื่อง การรบต่อต้านนี้เพิ่งเริ่มต้นเซียวเฉิงหยู่ได้ยิน เขาเลยมองไปทางเจียงฉีอัน"ฝ่าบาท...""ข้าได้ยินมาว่าเจ้าได้ยึดเงินทองของพวกเผ่ากองทัพศัตรูที่มีอยู่ในเมืองนี้? ได้อะไรมาได้?" จู่ๆเจียงฉีอันพูดออกมา"พะยะค่ะ!"เซียวเฉิงหยู่สีหน้าตึ้นตัน "ท่านตามข้ามา!"เซียวเฉิงหยู่พาเจียงฉีอันไปที่เรือนหลังหนึ่ง ในนั้นได้มีรังไม้เต็มไปหมดเขาเดินเข้าไป แล้วเปิดรังหลายรัง "ทอง เงิน อัญมณี อยู่ที่นี่ทั้งหมด! แล้วก็ ยังมีไม้ที่แม่นางเฉินต้องการมาก่อนหน้า ข้าคิดว่าคล้ายพวกนี้!"พูดไป เขาก็ได้เอากล่องที่งดงามออกมาจากรังกล่องใหญ่เจียงฉีอันเปิดออกมา แน่นอนว่าเป็นวัสดุเหมือนกับชิ้นไม้ก่อนหน้าเขาก็ได้ดีใจ แต่ก็พูดออกมาอย่างมีเหตุผล "แม่นางเฉินตกลงที่จะช่วยเราสั่งซื้อยาอีก แต่ความสามารถของนางมีจำกัด ให้เราอย่าคาดหวังมากนัก และนางไม่ได้กำหนดราคา"พ่อค้าที่ไม่คุยเรื่องราคา ก็หมายความว่าค้าขายนี้ไม่มีกำไลพวกเขาแบกหน้าของอีกครั้ง ต้องมีความจริงใจในการให้มากท

  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 38

    เจียงฉีอันได้เอายาและบิสกิตอัดออกมาจากร้าน รองแม่ทัพหยางและพวกทหารก็เกือบร้องไห้ก็ได้รีบเดินทางไปเมืองซิ่วหรง เมื่อถึงก็สองชั่วยามต่อมารถก็ได้เต็มไปด้วยยา ทำให้ทหารที่สิ้นหวังได้ดีใจเมื่อเจียงฉีอันได้สั่งให้แพทย์ทหารอธิบายว่ายาเหล่านี้ใช้ยังไงและใช้ปริมาณเท่าไรแล้วพวกเขาก็เริ่มทำงานอย่างไม่รู้จักเหนื่อยแม่ทัพเซียวกินยาแล้ว ก็ยังหลับไม่ตื่นหมอทหารที่ไม่ค่อยชำนาญการใช้แอลกอฮอล์ทำความสะอาดแผลก็ได้พูดออกมา "ยาเหล่านี้พวกข้าไม่เคยเห็นมาก่อน ถึงแม้จะไม่มีพิษ แต่เราก็ไม่รู้ว่ามันจะมีประสิทธิภาพอย่างไร! ถ้ามีไข้สูงไม่หาย เกรงว่า..."ไม่สามารถทำอะไรได้เขาไม่พูดออกมาในความเป็นจริงแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะมียาที่ดีที่สุด แต่ถ้าเกินเวลาที่เหมาะสมในการใช้ยา ก็ไม่สามารถรับประกันว่าแม่ทัพเซียวจะปลอดภัยแต่เม็ดยาเล็กๆ นี้จะมีผลก็คงเป็นปาฏิหาริย์สีหน้าเจียงฉีอันเคร่งเสียงเท้าข้างนอกก็ได้ดัง เซียวเฉิงหยู่ก็ได้รีบเข้ามา มองไปทางหมอทหารด้วยความกลัว"เป็นอย่างไรบ้าง? รองแม่ทัพดีขึ้นหรือเปล่า?"หมอทหารทึ่งสักครู่ กำลังจะคิดว่าจะพูดยังไง แต่ทหารที่ดูแลก็พูดออกมา "แม่ทัพเซียวมีเหงื่อออกมาเยอะ

  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 37

    เฉินจินเยว่ "???"สองคนพูดคุยกันไปก็ได้เดินมาถึงประตูโกดังสินค้าแล้วก็พอดีกับพนักงานที่ได้ขับรถเอาของที่เหลือมาส่งเฉินจินเยว่ไม่ให้คนเข้าโกดัง แต่ให้เธอเอาของบนรถวางที่หน้าประตูแล้วขอบคุณไปโจวยี้ฉวนมองไปที่รถเข็นที่เต็มไปด้วยยาสามคัน ตาก็ได้หรี่ลง มองไปที่สายตาของเธอ พร้อมกับการสืบสวนอย่างเงียบ ๆ...เฉินจินเยว่ความประหม่าเหมือนถูกโดนจับผิด แต่เมื่อคิดใหม่เธอก็ไม่ได้แย่งประโยชน์ของเขา ดังนั้นก็เลยพูดไปอย่างตรงไปตรงมา"คุณรอฉันตรงนี้สักครู่ ฉันจะนำของเหล่านี้เก็บในโกดังก่อน""ต้องการความช่วยเหลือไหม?""ไม่ต้องไม่ต้อง คุณรอฉันข้างนอกก็พอแล้ว""…"โจวยี้ฉวนมองหน้าเธอเหมือนกับว่าป้องกันขโมย กลัวว่าเขาจะตามเข้าโกดัง หัวเราะเบาๆ แล้วยืนขึ้นและไปยังฝั่งถนนตรงข้ามแล้วจุดบุหรี่เฉินจินเยว่ถอนหายใจ และเลื่อนประตูเหล็กขึ้นไปเล็กน้อยเพียงพอที่เธอจะเข้าไปได้เธอเดินไปกลับหลายรอบและเอารถเข็นเล็กทั้งหมดเข้าไปเจียงฉีอันกำลังรอคอยอย่างตึงเครียด เพราะเฉินจินเยว่ไม่ได้ให้คำตอบที่แน่ชัด เขาก็ไม่มั่นใจไม่รู้ว่าเธอสามารถนำยากลับมาได้หรือไม่ และสามารถนำกลับมาได้เท่าไหร่เห็นรถเข็นเต็มไปด้ว

  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 36

    คุณภาพที่ไม่เสถียรไม่ได้เป็นผลข้างเคียงที่น่ากลัว มันก็ดีกว่าไม่มียาแล้วรอตายจริงไหม?เธอเดินทางไปหายาที่ร้านขายยาหลายแห่งอาจไม่เพียงพอ ตอนนี้มีโอกาสแบบนี้ก็ถือว่าโชคดี"ยาเหล่านั้นไม่น้อยเลย คุณจะเอาหมดเลย?" พนักงานร้านไม่ได้ตอบทันที แต่ตกใจเฉินจินเยว่มีเงินมากพอ "ฉันมีงบประมาณเพียงพอ ต้องเตรียมให้เขาครบถ้วน!"พนักงานขายยกนิ้วโป้งให้เธอร้านขายยาขายยาได้ก็มีค่าคอมมิชชั่นให้กับพนักงานขายเมื่อขายยาไปแล้วสาวน้อยที่เพิ่งจบและได้ฝึกงานไม่นาน นอกจากนี้ยังมีความสัมพันธ์ในวงการและกล้าพอ เธอตอบรับเสนอนี้โดยไม่ลังเลเลย…สินค้าชุดนั้นไม่น้อยเลย แต่เฉินจินเยว่สามารถเอาไปได้เพียงบางส่วนเท่านั้น และได้ทิ้งที่อยู่คลังสินค้าไว้ ส่วนที่เหลือให้พนักงานร้านส่งมาให้ภายหลังเธอกำลังดันรถเข็นเต็มไปด้วยแอลกอฮอล์ บนรถเข็นยังมีกล่องยาที่สูงกว่าตัวเธอเอง และเธอกำลังเดินไปทางคลังสินค้าอย่างยากลำบาก"ติ๊ดๆ"เสียงรถที่ดังก็ทำให้เฉินจินเยว่ตกใจเกือบล้มโกรธพร้อมหันหน้า พอดีรถยนต์หนึ่งขับมาข้างๆ เธอ หน้าต่างรถลดลง ใบหน้าที่หล่อเข้มของเขาปรากฏอยู่หน้าเธอ"คุณเฉิน กลางดึกก็ยังยุ่ง?"โจวยี้ฉวนเฉินจิ

  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 35

    ความเงียบของเธอทำให้หัวใจของเจียงฉีอันหวาดหวั่น เหมือนรองรองแม่ทัพว่าไว้ ในช่วงสงครามยาแพงมากๆ แม่นางอาจจะไม่ช่วยเขาถือกล่องด้วยมือเดียว มืออีกข้างเปิดคลุมเสื้อคลุม คุกเข่าลงไปก่อน"ถ้าแม่นางยินดีช่วยเหลือ ข้ายอมทุกเงื่อนไข...""อย่าๆๆ!"เฉินจินเยว่รีบยื่นมือไปประคองเขาเธอเติบโตกับสังคมสังคมนิยมมีในการคิดเห็นเท่าเทียมกัน อยู่ๆมีคนคุกเข้าลงมาทก็ตกใจมากมองสายตาที่เต็มด้วยความวิงวร เธอยื่นมือไปรับกล่อง"ข้ารับของมัดจำแล้ว แต่ข้าไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะซื้อได้เท่าไหร่! เพราะถ้าข้าไปซื้อยาจำนวนมากตอนกลางคืนมันโดนเด่นเกินไป!"ตอนนี้เธอเป็นคนที่ 'มีชื่อในเมือง การรับซื้อของอย่างอื่นยังพอพูดได้ ตุนยามันเป็นที่สงสัยเจียงฉีอันรู้ว่ายาทาแผลหายาก แต่ได้ยินนางรับปาก ก็ได้รู้สึกขอบคุณ"ขอบพระคุณแม่นาง!""เจ้ารอตรงนี้ ขออกไปดดเดี๋ยวกลับมา"ตั้งแต่โกดังนี้กลายเป็นจุดซื้อขายปกติ เฉินจินเยว่ก็เลยเอาเรือนเล็กไว้ที่นี่เฉินจินเยว่ไม่เปิดประตูเจียงฉีอันก็เข้าไม่ได้ แล้วเมื่อเข้ามาแล้ว ถ้าประตูไม่เอาออก เจียงฉีอันก็สามารถอยู่ในนี้มองเฉินจินเยว่ออกจากบ้านอย่างรวดเร็ว ไม่ได้มองกล่องของเขาเล

  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 34

    ก็ได้รวบรวมสมาธิไปสัมผัสเรือนบ้านในหัว ประตูเรือนได้ปิดเพราะเธอออกมา ตอนนี้เหมือนว่า เธอสามารถได้ยินเสียงเคาะประตูนอกนั้น?คิดไปสักพัก ไม่นานก็เดาได้ว่า เจียงฉีอันน่าจะมาแล้ว"คุณเป็นอะไร?"ฉางหงป๋อมองเธอที่เป็แหหมอลอยก็ได้ถามเฉินจินเยว่ตั้งสติอย่างรวดเร็ว "ขอโทษทนายฉาง ฉันจำได้ว่าฉันลืมปิดประตูโกดังเมื่อกี้!"ถ้าจู่ๆเจียงฉีอันปรากฏตัในห้อฝงอาหารอย่างไม่คาดคิด งั้นน่าตกใจแน่ความสำคัญตกใจเป็นเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าความลับของเธอถูกคนอื่นๆ รู้ก็เป็นเรื่องหนึ่งเธอใช้ข้ออ้างนเพื่อรีบกลับบ้านปฏิเสธฉางหงป๋อที่จะส่งเธอและขอโทษไม่หยุด และสัญญาครั้งหน้าจะเลี้ยงข้าวเขาต่อ แล้วก็ออกไปฉางหงป๋อ "???"สับสนเล็กน้อยมื้อนี้พวกเขาสองคนนัดกันเองไม่ใช่เหรอ?สรุปคือคนหนึ่งไม่มา อีกคนกลับก่อน ทำให้เขาดูว่างมาก!…เจียงฉีอัน กลับเมืองก็ตรงไปที่ร้านนั่นแต่เปิดประตูเข้าไป ร้านก็ว่างเปล่าไม่มีอะไรเลยเหมือนครั้งที่แล้วแม่นางเฉินไม่อยู่ในร้าน เขาเข้าไม่ได้เขาจำได้ว่าวันนี้เขาสัญญากับแม่นางเฉินเพื่อมารับอาหารแห้งตอนฟ้ามืดแต่ฟ้าก็ได้มืดไปหนึ่งชั่วยามแล้วเขาไม่มาตามสัญญาเขาเปิดประตูซ้ำแล

  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 33

    รองแม่ทัพตื่นตะหนก "ฝ่าบาท! ท่านจะทิ้งทหารที่ได้รับบาดเจ็บไม่ได้นะพะยะคะ!"เจียงฉีอันพูด "เรียกเขากลับมา ข้าจะคิดวิธีหายาเอง"รองแม่ทัพอยากขัดขวาง แม้ว่าเจียงฉีอันจะสามารถสั่งให้เมืองหลวงส่งยามา แต่ระยะทางก็ไกล ทหารและแม่ทัพเซียวรอไม่ไหวรองแม่ทัพก็รู้สึกตัวทันที"ฝ่าบาทนต้องการไปร้านของแม่นางเฉิน?"ตื่นเต้นดีใจสักพัก นัยน์ตาของเราก็หม่องลง"ยาในช่วงสงครามมีมูลค่ามากกว่าทองคำ แม่นางคนนั้นไม่รับทองคำ จะยอมเอายาให้เราเหรอ?"ใช่ว่าพวกเขาพวกเขาไม่เควคิดที่จะให้เจียงฉีอัน ซื้อ แต่ยาที่ช่วยชีวิตเหล่านั้น ไม่เหมือนกับอาหารพวกเขาได้รับของมากมายจากอีกฝ่าย จะโลภจนอีกฝ่ายรังเกียงก็ไม่ได้"ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ต้องลองดู"ถ้าเซียวเฉิงหยู่หายาเจอ ก็คงกลับมาแล้วสถานการณ์ของเมืองซิ่วหรงก็ไม่ดีกว่าเมืองเล็กที่พวกเขาเฝ้ารองแม่ทัพมองหน้าเขาอย่างตื่นเต้นและรับคำสั่ง "พะยะค่ะ!"เซียวเฉิงหยู่รู้แผนของเจียงฉีอัน ลังเลอยู่ครู่เขาก็กลับ ก่อนส่งเจียงฉีอันออกจากเมือง หนุ่มจ้องมองอย่างจริงจังพร้อมตาที่แดง"ถ้าฝ่าบาทสามารถนำยากลับมา เซียวเฉิงหยู่ คนนี้จะภักดีต่อท่านจนสิ้นชีพ!"ภักดีต่อฝ่าบาท แต่ไม่

  • ยัยล้มละลายกับประตูสู่การค้าทะลุมิติ   บทที่ 32

    ในขณะนี้ชายแดนได้ผ่านการสงครามใหญ่แม่ทัพเซียวคาดการณ์ได้ถูกภัยพิบัตินี้ ศัตรูก็ไม่ได้ดีกว่าพวกเขามากนักในทางกลับกัน เพราะเจียงฉีอันได้เปิดประตูสู่โลกอื่น ก็ได้มอบความหวังใหม่ให้กับทหารของตระกูลเซียว ในขณะที่ในกองทัพศัตรูก็เริ่มเกิดความวุ่นวายแล้วแม่ทัพเซียวได้นำทัพสามพันคน แอบเข้าบุกฐานกองศัตรทัพศัตรูกลางดึกในช่วงที่คนไม่ระวังศัตรูได้วุ่นวาย ไม่นานก็พ่ายแพ้ไม่สามารถรวมกำลังได้ทหารตระกูลเซียวไล่ล่า คืนนั้นก็ได้ตีทัพทหารศัตรูที่บุกเมืองซิ่วหรงราวจุดจบได้กำหนดไว้แล้วแต่ความเสียหายก็มากเช่นกันเมื่อเจียงฉีอันมาถึงที่ซิ่วหรง ก็ใกล้ค่ำแล้วภายในเมืองเงียบสงบมาก บ้านเก่าพนังผุ ที่รื้อถอดได้ก็ได้รื้อไปหมด บนถนนจะสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนประตูบ้านที่ปิดประตู ก็เป็นบ้านที่ฐานะดี แต่ก็มีไม่กี่หลังทหารกำลังทำความสะอาดสนามรบ เก็บกวาดทางที่มีหิมะสะสม ศพที่ตายบนสนามรบไม่มากนัก ศพที่ถูกแข็งตายมีมากกว่ายังมีกระดูกสีขาวที่มีเลือดเนื้อติดบ้างราวมีอะไรมาแทะจนสะอาดเจียงฉีอันมองไปทางอื่น กดดันความรู้สึกคลื้นใส้ลงไป เดินไปยังค่ายทหารหลักหมอทหารทำงานอย่างหนัก เพราะแม่ทัพเซียวก็ได้ร

DMCA.com Protection Status