เมื่อคืนกว่าฉันจะได้ลงมานอนห้องตัวเองก็เกือบตีสองเพราะเขาพาฉันดูหนังจนจบถึงสองเรื่องทำฉันเกือบจะได้หลับอยู่บนโซฟาหน้าทีวีกับเขาแล้ว ดีที่เสียงข้อความจากพี่ลันดังขึ้นทำฉันที่กำลังสะลึมสะลืมนอนหนุนตักแกร่งอยู่สะดุ้งตัวตื่นเต็มตาหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาดูและเปิดเพลงที่พี่ลันพึ่งอัดเสร็จส่งมาให้ฉันลองฟัง ฉันเลยหยิบแอร์พอร์ตในกระเป๋ามาใส่ที่หูฉันข้างหนึ่งและหูของเขาข้างหนึ่งเปิดผลงานของพี่ชายให้เขาได้ฟังด้วยกัน เขาถึงกับทึ่งในความสามารถของพี่ลันที่อายุเท่ากันกับเขา แถมให้ฉันเปิดรูปพี่ชายสุดหล่อของฉันให้เขาดูอีก ฉันว่าก็สูสีกันอยู่นะ แต่พี่ลันจะเซอร์กว่าหน่อย ส่วนพี่นาวาก็เท่ห์กว่านิดนึง
"หนูง่วงยังคะ" "นอนห้องพี่ก็ได้นะ" "ลลิลคิดถึงหมอนข้างที่ห้องค่ะ" "พี่ก็เป็นหมอนข้างให้หนูได้เหมือนกัน" "ไว้ลลิลมาดูหนังด้วยอีกนะคะ" "..." เท่านั้นแหละเขาก็ชักสีหน้าเป็นบึ้งตึงเหมือนเด็กน้อยเอาแต่ใจใส่ฉันทันทีและเดินล้วงกระเป๋าก้าวขายาวๆ นำฉันออกไปที่ลิฟต์ไม่รอฉันเลยแม้แต่น้อยจนฉันต้องรีบซอยเท้าเพื่อให้ทันเขา ไม่มีเสียงพูดคุยแม้แต่คำเดียวมีเพียงเสียงลิฟต์ให้ได้ยินว่าถึงชั้นของฉันแล้ว ฉันเลยเดินก้มหน้าก้มตาออกมาโดยไม่ได้ทันสังเกตว่าเขาเดินกอดอกตามมาข้างหลังฉันเงียบเงียบจนถึงหน้าหัอง พอฉันกดรหัสผ่านประตูเสร็จเป็นเขาที่แทรกตัวเข้ามาในห้องก่อนฉันแล้วมุ่งตรงไปล้มตัวนอนที่เตียงลายการ์ตูนเจ้าหญิงทันทีไม่ถามฉันเลยสักคำทำฉันที่กำลังจะปิดประตูยืนมองอย่างหน้าเหวอให้กับความหน้ามึนของเขา เมื่อกี้ยังตีหน้าบึ้งตึงใส่ฉันอยู่เลย แต่เวลานี้ฉันเองก็ง่วงสุดสุดเลยพาตัวเองขึ้นมานอนบนเตียงข้างข้างเขาเพียงไม่นานร่างของฉันก็เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขาราวกับเป็นหมอนข้างเหมือนที่เขาบอกจริงๆ ฟอด "หนู พี่ไปประชุมก่อนนะ" "เลิกเรียนพี่ไปรับ" "ลลิลกลับเองก็ได้นะคะ" "พี่จะได้ไม่ต้องวนไปวนมา" "..." "โอเคค่ะ โอเค ไปรับก็ไปรับ" "ไม่เห็นต้องขมวดคิ้วเลย" ฉันที่กำลังนอนหลับฝันหวานอยู่ก็ต้องตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงียเพราะมีแรงมากระทบเข้าที่แก้มนุ่มของฉันอย่างแรงทำให้ฉันต้องพยายามปรับโฟกัสมองคนตรงหน้าที่ก้มลงมาขโมยหอมแก้มฉันและพูดคุยกับเขาด้วยน้ำเสียงแหบเล็กน้อยเพราะยังไม่ตื่นดี จนสัมผัสได้ถึงความเงียบประท้วงของเขาอีกครั้งและเป็นอีกครั้งที่ฉันต้องตามใจเขา ฉันไม่เคยคิดเลยว่าคนที่ฉันตั้งใจจะจีบในตอนแรกเอาแต่ใจตัวเองขนาดนี้อยากได้อะไรต้องได้ถ้าไม่ได้ดั่งใจคิ้วคมเข้มก็จะขมวดเข้าหากันทันทีเหมือนอย่างตอนนี้ ฉันเริ่มไม่แน่ใจแล้วสิว่าตอนนี้ฉันตกเขาได้แล้วหรือเป็นเขาที่อยากทำให้ฉันตกหลุม ถ้าไม่ติดว่าช่วงเช้าผมมีประชุมสำคัญเกี่ยวกับคอลเลคชั่นใหม่ของแบรนด์และต้องเลือกเนื้อผ้าด้วยตัวเอง ผมคงขอนอนต่ออีกสักหน่อยเพราะอุตส่าห์หาเรื่องทำเนียนได้มานอนกอดเธอจนหลับสนิท แล้วค่อยตื่นมารอกินข้าวเช้าพร้อมกันและไปส่งเธอที่มหาวิทยาลัยฯ ในตอนกลางวัน แต่หน้าที่ความรับผิดชอบก็เป็นสิ่งสำคัญไม่อย่างนั้นคุณแม่คนสวยของผมได้ยกหูมาเทศน์ผมชุดใหญ่แน่ พอพูดถึงคุณแม่แล้วผมก็อยากจะพาเด็กน้อยของผมไปให้ท่านรู้จักซะแล้วสิ 'หึ' แต่ผมคงต้องทำใจให้เย็นก่อนตามคำโบราณที่ว่าไว้ ช้าช้าได้พร้าเล่มงาม "บอสคะ อันนี้ภาพน้องๆ นางแบบสำหรับคอลเลคชั่นนี้ค่ะ" "เดี๋ยวผมเลือกเองครับ ผมมีในใจบ้างแล้ว" "ค่ะบอส" "ถ้าไม่มีอะไรแล้ววันนี้พอแค่นี้ครับ" "ขอบคุณทุกคนมาก" และภาพนางแบบในใจของผมก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นเธอยูทูปเบอร์สาวน้อยน่ารักที่ผมติดตามอยู่ เพราะผมอยากให้คอลเลคชั่นนี้มีความสดใสดูเบาเบาสบายตาเซ็กซี่นิดหน่อยให้พอดูซุกซน และเธอก็จะได้เป็นที่รู้จักมากขึ้นเป็นอีกทางให้ช่อง LALIL ของเธอมีคนติดตามเพิ่มขึ้นนั่นคือความใฝ่ฝันของเธอเด็กน้อยของผม ถึงแม้ว่าลึกลึกผมจะรู้สึกแอบหวงมากก็ตามทำให้ผมมีความลังเลที่จะชวนเธอมาร่วมงานอยู่ไม่น้อยแต่จะลองเก็บไปถามความสมัครใจเธอดูก่อนแล้วกันและถ้าเธอตกลงผมคงต้องลงมาแสกนเสื้อผ้าที่จะให้เธอใส่อย่างเข้มงวดด้วยตัวเอง ผมนั่งเคลียร์งานอีกนิดหน่อยก่อนจะออกไปดูหน้าร้านเพื่อเช็คเรทติ้งของแบรนด์และความสนใจของลูกค้า และออกไปหาซื้อชอกโกแลตให้เธอไว้กินคลายเครียดตอนตัดต่อคลิปและไม่ลืมที่จะซื้อโฟลทตี้ชาไทยเจ้าดังไปรอรับเธอด้วย "สวัสดีค่ะพี่นาวา" "ค่ะ นี่โฟลทตี้ชาไทยของหนู" "ว้าว ขอบคุณค่ะ" "น่าอร่อยจังเลย" "หึ ลองชิมสิ" "อร่อยมากกกก" "แต่ร้านยัยมินอร่อยกว่าค่ะ" "ช่วยเพื่อนขายของสุดสุด" "ลลิลพูดจริงๆ นี่คะ" "สนใจมาช่วยพี่ขายของบ้างมั้ย" "ให้ลลิลใส่รีวิวหรอคะ" "สบายมากค่ะ คลิปหน้าเลยดีมั้ยคะ" "พี่หมายถึงมาเป็นนางแบบให้คอลเลคชั่นใหม่ของพี่" "ยากจังเลยค่ะ ลลิลเคยเห็นนางแบบของพี่หุ่นแซ่บทั้งนั้นเลย" "หนูพูดผิดนะ" "..." "นั่นนางแบบของแบรนด์ แต่หนูนางแบบคนแรกของพี่""ค่าตัวลลิลแพงนะคะ" "ลลิลบอกไว้ก่อนเลย""หึ เท่าไหร่คะที่บอกว่าแพง""อืม....""บุฟเฟ่ต์อร่อยอร่อยหนึ่งปีค่ะ""หึ พี่ให้ทั้งชีวิตเลยค่ะ""..."และสุดท้ายฉันก็สู้เขาไม่ได้อีกตามเคย โดนเขาหยอดกลับมาแบบชนะน็อคอีกเหมือนเดิม ไม่ปล่อยโอกาสให้ฉันทำให้เขารู้สึกหวั่นไหวได้บ้างเลย จนฉันต้องเฉไฉเปลี่ยนเรื่องชวนเขาคุยว่าเราจะไปกินอะไรกันดีคุยไปคุยมาอยู่นานเราเลยเลือกที่จะไปซื้อของสดที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตกลับไปทำกินกันที่ห้อง เพราะจริงๆ แล้วเขาไม่ค่อยชอบที่ที่มีคนเยอะเยอะและมีอากาศร้อนเท่าไหร่ ชอบทานรสจัดแต่ต้องไม่เผ็ดมากด้วย ทำฉันแอบรู้สึกผิดที่พาเขาไปทานทั้งผัดกระเพราร้านร้อนร้อนกับซีฟู้ดแซ่บแซ่บเมื่อสองมื้อก่อนเลย มิหน่าละ ตอนนั้นเขาถึงหน้าแดงปากแดงแถมเหงื่อออกเยอะด้วย ฉันเลยขอไถ่โทษโดยการลงมือทำสปาเก็ตตี้คาโบนาร่ากับผักโขมอบชีสให้เขาทาน เพิ่มเฟรนช์ฟรายส์ทอดไว้ให้เขาทานเล่นระหว่างรอฉันด้วย เพราะฉันต้องรีบทำรายงานต่อจึงเลือกใช้ห้องครัวของฉันสำหรับปรุงอาหาร ขืนถ้าหลวมตัวขึ้นไปห้องชั้นบนสุดคงได้เถลไถลจนรายงานไม่เสร็จแน่"น่าทานมากเลยค่ะ""พี่นาวาลองชิมก่อนค่ะ""ถ้าไม่อร่อยค่อยสั่งเดลิเวอรี่กันใหม่
"วันนี้พี่ไปร้องเพลง""หนูไปด้วยกันมั้ยคะ""ลลิลว่าจะไปทำคอนเทนต์ที่เยาวราช""รอพี่ร้องเสร็จแล้วไปด้วยกันนะ" "อืมมม งั้นลลิลค่อยไปพรุ่งนี้ก็ได้ค่ะ""วันนี้ไปลลิลกับพี่ก่อน""กินอะไร ทำไมน่ารัก"หลังจากที่ผมหลอกล่อเด็กน้อยได้เรียบร้อย ผมก็กลับมานั่งรอเธออาบน้ำแต่งตัวที่โซฟาหน้าทีวี หยิบมือถือขึ้นมาเปิดคลิปที่เธอลงเมื่อชั่วโมงก่อนเป็นคลิปทำอาหารสั้นสั้นและเหมือนว่าจะเป็นเมนูที่เธอทำให้ผมกินเมื่อวันก่อนอย่างสปาเก็ตตี้คาโบนาร่า ดูน่ากินไปหมด แต่ในคลิปเธอกลับไม่ยอมบอกวิธีทำเบคอนให้กรุบกรอบอยู่ได้นาน แถมยังทิ้งคำพูดในตอนท้ายไว้ว่าขอเก็บสูตรนี้ไว้ให้คนพิเศษได้ทานเท่านั้น ทำเอาชาวเน็ตพากันคอมเมนต์เป็นรูปหัวใจแตกสลายกันรัวรัว ต่างจากผมที่นั่งยิ้มกริ่มอย่างอารมณ์ดีเมื่อได้ยินก็ผมได้ลองกินแล้วนี่นา เพราะฉะนั้นผมเลยกดหัวใจเต็มดวงสีชมพูส่งให้เธอเป็นการสวนกระแส"พี่นาวาไม่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าหรอคะ""อาบค่ะ ก็พี่รอหนู""ลลิลคิดว่าพี่นาวาจะกลับไปอาบที่ห้อง""เสื้อผ้าพี่ก็มีอยู่ในตู้หนู""มิหน่าล่ะ ค่าน้ำห้องลลิลถึงขึ้น""พี่นาวาแอบมาใช้น้ำตอนที่ลลิลไม่อยู่ใช่มั้ยคะ""หึ""ว่าแต่หนูเถอะ...""ใจคอจะย
และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่เขามารับฉันหลังเลิกเรียนเพื่อไปถ่ายแบบเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ของแบรนด์เขาต่อช่วงบ่าย ซึ่งเขาก็ดูแลจัดคิวไม่ให้กระทบต่อชั่วโมงเรียนของฉัน เรียกว่าใส่ใจรายละเอียดสุดสุด พอมาถึงเขาก็พาฉันเข้ามาในห้องแต่งตัวเพื่อแต่งหน้าทำผมท่ามกลางสีหน้าและสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยและรอยยิ้มกรุ่มกริ่มส่งมาเมื่อเห็นฉัน พี่พี่ทีมงานถูกบรีฟมาว่าขอลุคใสใสเกาหลีเกาใจที่สามารถเข้ากับเสื้อผ้าได้ลุค หลังจากที่ฉันถูกแปลงโฉมจนเสร็จเรียบร้อย ก็รีบเข้าไปเปลี่ยนเป็นชุดจั้มสูทเกาะอกกางเกงขาสั้นผ้าทวิตญี่ปุ่นที่สามารถใส่ได้หลายแบบ คู่กับรองเท้าแมรี่เจนสีแดงและถุงเท้าลายลูกไม้ยาวเลยข้อขึ้นมานิดหน่อยให้ดูน่ารักซุกซนเซ็กซี่เล็กเล็ก และมีเสื้อคุมแขนยาวลุคลูกคุณเข้าชุดกันที่เตรียมไว้สำหรับถ่ายในเซ็ตต่อไป ซึ่งฉันต้องพยายามคลายความตื่นเต้นโดยการสูดลมหายใจเข้าออกลึกลึกและรีบเดินออกมาพร้อมเข้าฉากเพื่อไม่ให้ทุกคนรอนาน แต่สายตาคู่สวยของฉันก็ต้องสะดุดเข้ากับตากล้องหนุ่มสุดหล่อที่อยู่ในกางเกงยีนส์สีดำเสื้อคอกลมสีขาวด้านในสวมแจ๊คเก็ตยีนส์สีเข้ากับกางเกงตามด้วยรองเท้าผ้าใบสีขาวดำยี่ห้อดังราวกับเป็นนายแบบยืนรอ
"ทุกคนนน ลลิลพึ่งเอฟชุดมาใหม่ค่ะ""ดูซิคะ แค่แพ็คเก็ตก็ดีงามแล้ว""ลลิลจะเริ่มแล้วนะคะ""เป็นไงคะ ชุดแรกน่ารักเนอะ""ลลิลว่าน่ารัก""ถ้าใส่กับรองเท้าคู่นี้จะเข้ากันมั้ยนะ""เดี๋ยวลลิลลองให้ดูค่ะ""เริ่ดอยู่นะ เป็นเอฟเวอรี่เดย์ลุค""อุ้ยยย เสื้อตัวนี้น่ารักไม่ไหว""แต่ว่าใส่ยังไงละเนี่ย""แบบนี้หรอ หรือว่าแบบนี้""ใครรู้วิธีใส่เสื้อตัวนี้คอมเมนต์มาบอกลลิลหน่อยนะคะ""วอนเจ้าของแบรนด์ส่งฮาวทูมาให้ที พลีชชช"NvCharm ส่งของขวัญ 'ติ๊กต๊อก ยูนิเวอร์ส' x2"ว้าว ขอบคุณ คุณ NvCharm ตามมาส่งของขวัญให้ลลิลถึงติ๊กต๊อกเลย"ผมขึ้นมานั่งดูเธอไลฟ์ในติ๊กต๊อกบนห้องของผมที่อยู่ชั้นบนสุดเพราะกลัวว่าถ้าผมนั่งหลบมุมในห้องของเธอถ้าชาวเน็ตตาดีเห็นเงาผมขึ้นมาอาจส่งผลกระทบกับเธอก็ได้ และอีกอย่างผมจะได้กดส่งของขวัญให้เธอได้สะดวก ซึ่งเสื้อผ้าที่เธอแกะจากห่อมาลองใส่วิ่งเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่หน้าไลฟ์ก็เป็นเสื้อผ้าจากแบรนด์ของผมที่เธอแอบสั่งมาโดยใช้ชื่อและที่อยู่ของหนูมายบ้างน้องมินนี่บ้างเพราะเธอกลัวว่าพนักงานในร้านจะจำชื่อเธอได้แล้วเธอจะไม่ได้อุดหนุนสินค้าของผม ว่าที่แฟนของผมน่ารักใช่มั้ย น่ารักซะจนผมหลงเธอไม
ผมค่อยๆ ถอยริมฝีปากออกโดยที่ยังวางทาบไว้ตรงริมฝีปากหวานเปิดโอกาสให้เธอได้พักหายใจสักหน่อยแต่เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้นผมก็จัดการส่งลิ้นร้อนเข้าไปรุกล้ำในโพรงปากเล็กเพื่อควานหาน้ำหวานอีกครั้ง พอยิ่งได้ยินเสียงครางประท้วงเล็กเล็กของเธอก็ยิ่งทำให้อารมณ์ภายในที่ซ่อนไว้มานานพลุ่งพล่านมากขึ้น ผมค่อยๆ ดันตัวเธอให้นอนราบไปกับโซฟานุ่มนุ่มโดยที่มือข้างหนึ่งทำหน้าที่ประคองศีรษะเธอเอาไว้คอยนวดผ่อนคลายให้เธอไปด้วย ส่วนอีกข้างก็ทำหน้าที่บีบนวดลูกบอลนิ่มนิ่มให้เธอไม่ห่างนานนับนาทีเพื่อให้เธอปรับตัวและปล่อยใจไปกับผมก่อนจะค่อยๆ เลื่อนริมฝีปากร้อนลงมากดจูบที่คางหนึ่งทีซุกไซร้ตามลำคอหอมหอมด้วยความหลงไหล มืออันแสนซุกซนของผมค่อยๆ เลื่อนลูบไล้ตามผิวเนียนลื่นตั้งแต่หน้าท้องเรื่อยลงมาจนถึงต้นขาขาว แล้วค่อยๆ เลื่อนนิ้วร้ายเข้าไปใกล้จุดสั่นไหวของเธอทีละนิดทีละนิด จนสามารถแทรกเข้าไปภายใต้แพนตี้ตัวจิ๋วของเธอ ได้สัมผัสเนินนุ่มนิ่มจนผมอยากจะลองดันนิ้วเข้าไปหาเกสรดอกไม้เล็กเล็กสักหน่อยแล้วกดซ้ำๆ อยู่อย่างนั้นจนมีน้ำหวานไหลปริ่มออกมา เบี่ยงเบนความสนใจจากนิ้วเรียวที่กำลังแทรกตัวเข้าไปในช่องคับแคบโดยการเลื่อนตัวขึ้นไป
"หนูเป็นแฟนพี่นะคะ""...""...คะ ค่ะ"ฉันนั่งเปิดดูสตอรี่ที่เขาลงให้ตอนอยู่ร้านอาหารญี่ปุ่นเมื่อสองชั่วโมงก่อนวนไปซ้ำๆ เพื่อให้แน่ใจว่าฉันไม่ได้ฝันไปหรือว่าฟังผิดจนคิดเข้าข้างตัวเอง แต่ก็มีหลักฐานอย่างข้อความไดเรคที่เพื่อนๆ ส่งเข้ามาแซวไม่หยุด แถมห้องแชทกลุ่มก็ดังรัวจนแทบระเบิดเป็นสิ่งยืนยันช่วยให้ฉันมั่นใจว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นคือเรื่องจริง จนเสียงประตูห้องน้ำเปิดขึ้นฉันเลยหันไปตามเสียง แต่ภาพที่เห็นไม่อ่อนโยนต่อใจฉันเลยเพราะเขาเล่นเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพที่ท่อนบนเปลือยเปล่าโชว์แผงอกขาวขาวกล้ามหน้าท้องแน่นๆ พาสายตาฉันมองไล่ลงมาเรื่อยๆ จนเห็นไลน์วีเชฟดูเซ็กซี่มากมาก แต่ต้องมาหยุดอยู่ตรงปมผ้าขนหนูสีขาวที่ผูกปมไว้อย่างหมิ่นเหม่ เลยทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นไปมองใบหน้าหล่อหล่อที่กำลังยืนเช็ดผมและมองฉันด้วยสายตากรุ่มกริ่มแอบอมยิ้มอยู่ก่อน น่าขายหน้าชะมัดเลยลลิลเอ้ย"หนูเช็ดผมให้พี่หน่อยสิ""แต่พี่ยืนเช็ดจนจะแห้งแล้วนะ""พี่อยากให้หนูเช็ดให้""งั้นก็นั่งสิคะ ลลิลเช็ดให้ไม่ถึง"ฉันเลยต้องเดินเข้าไปหาเขาที่นั่งอยู่บนเ
"พูดมากเหมือนกันนะมึงอะ""ดูร้อนเหมือนกันนะพี่อะ""ดีดีนะเว้ยพี่ ผมสามคนดูแลเพื่อนมาเป็นอย่างดี""เออ" "ถ้าทำเพื่อนผมเสียใจ เพจร้านพี่ปลิวทุกแพลทฟอร์มในสองนาที""...""เตอร์ไม่ต้องขู่พี่เขาเลยนะ" "พี่นาวาต้องขอบคุณมายน๊า ที่มายกล้าเดินไปหาพี่""คับ ขอบคุณคับผม หึ""น้องมายกับน้องมินนี่เข้าไปเลือกชุดที่ร้านพี่ได้เลยนะ""จุ้นจ้านสุดสุด""นี่หิวอาหารเม็ดหรอ"ที่ผมเคยได้ยินว่าหนูมายกับไอ้นายเป็นคู่กัดกัน ไม่เกินจริงเลยสักนิด เพราะหลังจากที่ผมปะทะคารมและตอบรับคำไอ้เตอร์กับไอ้กายเสร็จ ก็กลายมาเป็นผู้ชมนั่งดูเด็กสองคนนี้ตีกันจนผมแอบสงสารแฟนคนสวยกับไอ้กายที่นั่งรถมาคันเดียวกันสี่คนคงจะปวดหัวน่าดู ก่อนจะหันมาสนใจเธอที่กำลังนั่งกินครัวซองค์กับชาเย็นอย่างเอร็ดอร่อย แต่ท่านั่งของเธอทำผมรู้สึกขัดใจอยู่ไม่น้อยเพราะเธอเล่นนั่งไม่ระวัง จนผมต้องเอื้อมไปหยิบกระเป๋าโน๊ตบุ้คมาวางปิดที่ต้นขาขาวให้และมองด้วยสายตาเอ็ดดุใส่เธอไปเพียงแวบเดียวเท่านั้นก็ต้องแพ้ให้กับลูกอ้อนของเธอที่ส่งยิ้มตาหยีตั
จะว่าไปตลอดหลายวันที่ผ่านมาฉันแอบคิดสิ่งที่สงสัยมาตลอดว่าคนที่เป็นแฟนตัวยงของฉันในทุกช่องทางโซเชี่ยล คนที่คอยส่งของขวัญราคาแพงแพงให้ใช่เขาหรือป่าว เพราะฉันพึ่งสังเกตเห็นชื่อแบรนด์เสื้อผ้าของเขา 'CHARM' เมื่อวันที่ฉันไปถ่ายแบบ ป้ายโลโก้บนถุงแพ็คเก็ตที่ฉันแอบเอฟมา มันตรงกับชื่อต่อท้ายของใครคนนั้น แถมอักษรย่อ 'Nvcharm' ก็ต้องเป็นชื่อเขาไม่ผิดแน่ เป็นคนเดียวกับที่พึ่งส่งซุปเปอร์แต๊งค์และคอมเมนต์ที่ชาวเน็ตพากันกดโกรธ แต่ที่ฉันพึ่งสงสัยก็เพราะทุกช่องทางการติดต่อและโซเชี่ยลส่วนตัวของเขาที่ใช้คุยกับฉัน เขาใช้ชื่อจริง 'nava.nutthakorn' ถ้าเป็นเขาจริงๆ ฉันคงตื่นเต้นมากแน่ๆ เพราะมันเป็นพรมหมลิขิตชัดชัดเลย"พี่นาวาขา วันนี้แฟนตัวยงของลลิลน่าสงสารมาก""ยังไงคะ""เพราะโดนแฟนคลับของลลิลพากันรุมกดโกรธคอมเมนต์ของเขาเป็นพันคนเลยค่ะ""หึ แล้วหนูจะปลอบใจเขายังไงดี""ลลิลว่าส่งข้อความไปหาหน่อยดีกว่า""ตั้งแต่ทำช่องมาลลิลไม่เคยขอบคุณเขาอย่างจริงจังเลยค่ะ""..."ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง"ไม่ดูมือถือหน่อยหรอคะ""เผื่อมีธุระด่วน
หลังจากวันนั้นที่เราสองคนคุยกันเรื่องแต่งงาน ผมก็เข้าไปหาอนุญาตคุณพ่อคุณแม่ของขิมทันทีที่เดินทางถึงกรุงเทพ ซึ่งท่านทั้งสองคนก็อนุญาตและไม่รับเงินค่าสินสอด อยากให้เราสองคนเก็บเงินไว้สร้างครอบครัวกันมากกว่า แถมยังช่วยหาฤกษ์ให้เราสองคนได้รวดเร็วทันใจผมด้วย"บี๋คะ ลูกค้าเพิ่มข้าวหมูทรงคัตสึกลับบ้านสองที่นะ""ครับบี๋""บี๋เหนื่อยมั้ย"ฟอด"กำลังใจจากขิมค่ะ"จุ๊บ"ขอบคุณครับ"ใช่ครับ หลังจากแต่งงานกันเธอก็ขอเรียกแทนกันว่าเบบี๋เพื่อให้ดูพิเศษกว่าตอนเป็นแฟนกันซึ่งผมก็ไม่ได้ติดกลับมองว่าน่ารักมากด้วยซ้ำ"บี๋ คิดเห็นเงินเสร็จยัง""สะ เสร็จแล้ว""ขอบคุณที่มาอุดหนุนนะครับ""เชิญ""บี๋!""คืนนี้โดนแน่ตัวเล็ก""..."มีเมียน่ารักมันก็น่าหงุดหงิดหัวใจเหมือนกันนะ ผมเห็นไอ้ผู้ชายคนนี้มาฝากท้องที่ร้านของเราหลายวันแล้ว คอยส่งยิ้มหวานให้เมียผมตลอด สงสัยคงต้องเจอสลอดสักที 'หึ' คิดแล้วก็ของขึ้น! ได้แต่ทดโทษเอาไว้จัดการฟาดก้นกลมคนตัวเล็กสักทีสองทีในคืนนี้ ผมใช้เงินเก็บส่วนหนึ่งมาซื้อบ้านเก่าและรีโนเวทใหม่เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นสาขาที่สองของครอบครัวเธอ โดยที่สาขานี้มีผมเป็นพ่อครัวผ่านการฝึกฝนกับเจ้าของสูตรอย่
"กรี๊ด/กรี๊ด"ฟิ้ววว ตุบ"เฮ้ย!""พี่ลันตามลลิลมาเร็วๆ นะคะ""..."ไปงานแต่งงานมาก็หลายงานแต่มาได้ช่อดอกไม้ที่งานแต่งของน้องสาวตัวเองอย่างไม่ได้ตั้งใจ ผมเลยต้องคว้ามากอดไว้ด้วยแขนล่ำๆ ของผมข้างหนึ่ง หันไปมองสาวข้างๆ ที่ผมล็อคมงไว้สักพัก กำลังยืนบิดไปบิดมาเอานิ้วชี้จิ้มเข้าหากันอย่างเขินอาย หรือว่านี่จะเป็นสัญญาณบอกว่าถึงเวลาของผมกับเธอแล้ว ก่อนจะเอื้อมไปโอบเอวเล็กเข้ามากอดข้างกายและก้มลงไปกระซิบข้างหูหอมๆ"สงสัยต้องรีบตามลลิลไปจริงๆ แล้วสิ" "ไปไหน ปาร์ตี้หรอ ไปสิ""หึ" ฟอด"พี่ลัน ทำอะไรเนี่ย คนมองใหญ่แล้ว เห็นมั้ย""หมันเขี้ยว""อะไรเล่า""ไม่ต้องเลย ห้ามหมันเขี้ยวขิม""ไปกันเลยมั้ย""ขิมจะได้มีเวลาแต่งตัวเยอะๆ""อืม"มีเวลาอีกตั้งหลายชั่วโมงกว่าจะถึงงานปาร์ตี้ริมหาดฉลองแต่งงานของคู่รัก เหลือมากพอที่จะให้ผมทำอะไรอะไรได้สองสามรอบให้หายหมันเขี้ยวคนตัวเล็กสักหน่อย ยิ่งวันนี้ชุดที่ตัวเล็กใส่เป็นชุดเดรสกระโปรงยาวผ้าซาตินแขนตุ๊กตาคอกว้างสีชมพูถึงจะเป็นชุดเรียบๆ แต่มันดูเซ็กซี่มากสำหรับผมพอดับเครื่องยนต์ปุ๊บไฟข้างในของผมก็ติดปั๊บจนรู้สึกปวดหนึบ รีบจูงมือเล็กเดินไปยังห้องพักส่ว
"น่ารักแบบนี้นี่เอง พี่ลันถึงหวง""ไม่ยอมพามาเจอลลิลเลย""ลลิลก็สวยมากๆ""สวยกว่าพี่ลันอีก""แปลกๆ นะตัวเล็ก""ว่าแต่เป็นคนเดียวกันกับที่ลลิลแอบเห็นที่ทะเลรึป่าวคะพี่ลัน""ห๊ะ พี่ลันมีหลายคนงั้นหรอ""เฮ้อ อยู่ดีดีงานก็เข้า""หึ""ขำอะไรมึง"หลังจากฉันพาพี่ลันไปเปิดตัวกับครอบครัวฉันอย่างเป็นทางการ พี่ลันก็ผลันตัวเองจากลูกค้าขาประจำเป็นพนักงานเสิร์ฟมือโปร จนขึ้นแท่นเป็นพนักงานดีเด่นของร้าน ทำให้พี่ๆ พนักงานในร้านพากันแซวยกใหญ่ขออย่ามาแย่งงานกันเลย ทำเอาคุณพ่อคุณแม่หัวเราะชอบใจกันใหญ่ และเอ็นดูพี่ลันเพิ่มขึ้นอีกสิบเท่า แต่ขิมคนนี้จะไม่ยอมให้มาแย่งตำแหน่งลูกรักไปได้แน่นอน ขิมไม่ยอม! มาวันนี้ก็ถึงตาเขาบ้าง เขาพาฉันมาแนะนำให้รู้จักกับลลิลน้องสาวคนสวยอายุเท่ากันกับฉัน สวยมากอัธยาศัยดีมากด้วย ทำให้ความเกร็งที่ฉันมีหมดไปได้อย่างง่ายดายตั้งแต่ไม่กี่นาทีแรกที่เราเจอกันและเพราะเราอายุเท่ากันด้วยแหละเลยคุยกันถูกคอสนิทกันเร็วมาก แถมพี่นาวาแฟนลลิลก็หล่อมากดูเหมาะสมเข้ากันสุดสุดเราสี่คนพากันมาลองบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดเจ้าดังที่บางแสน เพราะพี่ลันอยากกินปูนึ่งกับปลาหมึกกระดองย่าง ส่วนลลิลกับฉันก็อยากกินกุ้
สามเดือนแล้วที่ผมกับตัวเล็กเป็นแฟนกันแบบที่ผมยัดเยียดสถานะตัวเองให้เธอทุกวัน คิดแล้วก็ขำตัวเองเหมือนกันนะ แต่ผมอยากได้คนนี้และไม่อยากปล่อยให้หลุดมือไปด้วย แค่นี้ผมก็คิดว่าเราเจอกันช้าเกินไปสำหรับผมด้วยซ้ำ"ครบโปรแล้ว ตัวเล็กพาพี่ไปเจอคุณพ่อคุณแม่ได้ยัง""พี่ลันก็ไปเจอคุณแม่ขิมทุกวันอยู่แล้วนี่""มันเหมือนกันมั้ย"ใช่ครับ...ที่เธอพูดไม่ผิด ผมไปเจอคุณแม่เธอทุกวัน ในฐานะลูกค้าประจำของร้านมื้อกลางวันบ้างมื้อเย็นบ้างกินจนครบทุกเมนู บางวันก็เจอคุณพ่อเธอด้วย แต่เราเพียงแค่ยิ้มทักทายกันเท่านั้นอันที่จริง ผมขอไปเจออยากจะแนะนำตัวเองในฐานะลูกเขยตั้งแต่วันแรกหลังจากที่ผมขอเธอเป็นแฟนแล้ว แต่เป็นเธอที่ไม่มั่นใจเพราะความสัมพันธ์แบบก้าวกระโดดของเรา เลยกลัวว่าผมจะหมดโปรเหมือนกับเพื่อนๆ ของเธอที่เจอ ผมเลยพยายามทำให้เธอเห็นตามรับตามส่งอยู่ด้วยกันทุกวันห้องเธอบ้างห้องผมบ้างถ้าถามว่ามีงอนกันมั้ยก็ต้องยอมรับว่ามี มันเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งน่าจะเหมือนกับคู่อื่นๆ ส่วนใหญ่จะเป็นความดื้อเงียบของเธอมากกว่า แต่ที่งอนกันหลายชั่วโมงที่สุดก็น่าจะเป็นต
วันนี้ฉันเลิกเรียนเสร็จก็รีบแยกจากเพื่อนๆ นั่งรถมาหาคุณพ่อคุณแม่ที่ร้าน ไม่รู้ว่าวันนี้มีลูกค้าเยอะรึป่าวและก็คิดถึงกุ้งเทมปุระที่คุณพ่อทำด้วย เอากลับไปฝากพี่ลันด้วยดีกว่าพอมาถึงคุณแม่ก็ให้ฉันไปรับออเดอร์จากลูกค้าในห้องวีไอพี เพราะพี่พี่พนักงานกำลังยุ่งอยู่กับการเสิร์ฟอาหารให้ลูกค้าสองสามโต๊ะ ฉันจึงรีบเอากระเป๋าไปเก็บในตู้และหยิบผ้ากันเปื้อนสีดำที่สีโลโก้ร้านขึ้นมาใส่ถือแท็บเล็ตไปรับออเดอร์ทันที"ขอโทษที่ทำให้รอนะคะ" "ลูกค้ารับอะไรดีคะ""พะ พี่ลัน" "..." "ราเมนหนึ่งที่ค่ะ""ลันละคะ""ข้าวหน้าเนื้อ" "เพิ่มกุ้งเทมปุระกับเกี๊ยวซ่ามาแชร์กันมั้ยลัน""ได้""รับเครื่องดื่มอะไรดีคะ""ชาเขียวเย็นสองค่ะ""กรุณารอสักครู่นะคะ" ลมหายใจของฉันแทบหยุดชะงักมันอึ้งจนทำตัวไม่ถูกไม่คิดว่าลูกค้าในห้องวีไอพีจะเป็นคนคุ้นหน้าที่นั่งหันหลังให้ ฉันจำเขาได้ทันทีทั้งกลิ่นน้ำหอมเสื้อผ้าแม้แต่ทรงผม เขาอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสาวสวย สวยมากดูเหมาะสมกับพี่ลันมากๆ เลย แถมดูสนิทสนมกันด้วย ฉันพยายามตั้งสติแล้วเดินออกมาด้วยสีหน้าท่าทางปกติเพราะไม่อยากให้คุณแม่สงสัย พยายามทำตัวให้ยุ่งๆ ไม่ให้ตัวเองคิดฟุ้งซ่านไปต่างต่าง
"พี่ลันนน""อย่าวิ่ง เดี๋ยวล้ม"พรึ่บ ฟอด"ตัวเล็กหิวมั้ย""ไม่หิวค่ะ""งั้นไปนั่งรอพี่ทำงานอีกนิดนึงนะ""ได้ค่ะ"หลังจากวางสายจากเขาไม่นาน ฉันก็มาถึงสถานีจุดหมายปลายทางของวันนี้ ทันทีที่ฉันแตะบัตรโดยสารออกมาเรียบร้อย ฉันก็เห็นพี่ลันยืนใส่หูฟังไร้สายสีขาวสองมือล้วงกระเป๋ารออยู่ ผู้ชายอะไรขนาดแค่ใส่เสื้อฮู้ดสีดำกับกางเกงยีนส์รองเท้าผ้าใบยังหล่อเท่ห์ชะมัดเลย แอบถ่ายรูปไว้หน่อยดีกว่าฉันยืนตกอยู่ในภวังค์ความหล่ออยู่ไม่นาน ก็รีบวิ่งเข้าไปหาคนที่มายืนรอรับฉัน พอพี่ลันหันมาเห็นก็เอ็ดดุเบาเบาด้วยความเป็นห่วงนั่นแหละ ก่อนจะใช้แขนแกร่งคล้องคอฉันเข้าไปหาและก้มลงมาหอมผมสีน้ำตาลฟอดใหญ่ ทำหน้ากลมๆ ของฉันร้อนผ่าวใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างไม่ต้องสืบหาสาเหตุ ก้มหน้าก้มตาเดินไปกับเขาโดยที่แขนแกร่งยังคงโอบไหล่ฉันอยู่อย่างนั้นท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่มองมาทางเราสองคน"ตัวเล็กอยากฟังงานพี่มั้ย""ขิมฟังได้หรอ""ฟังได้""ถ้าเป็นตัวเล็ก พี่อนุญาต""..."เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เข้ามาห้องอัดเสียงแบบนี้ บรรยากาศต่างจากกองถ่ายที่ฉันเคยไปถ่ายโฆษณาโดยสิ้นเชิง กองถ่ายมีผู้คนพลุกพล่านแต่ที่นี่เวลานี้มีแค่เขาที่กำล
"ถ้าสนใจสมัครเป็นแฟนลูกสาวเจ้าของร้านต้องทำยังไงครับ""..."ตึก ตึก ตึก"...""ทะ ทั้งหมดหนึ่งพันสี่ร้อยห้าสิบบาทค่ะ""หึ นี่ครับ ไม่ต้องทอน""พี่ลัน!""พี่รอตัวเล็กที่รถนะ""อื้ม"เสียงหัวใจของฉันมันดังระรัวจนแทบจะทะลุออกมาข้างนอกเพราะคำถามของเขา ฉันไม่แน่ใจว่าที่พี่ลันถามนั้นเป็นคำถามที่ต้องการคำตอบจริงๆ หรือเพียงแค่หยอกล้อกันเล่นเท่านั้น แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรเพียงแค่เป็นเขาใจฉันก็พร้อมจะหวั่นไหวได้อย่างง่ายดายกว่าฉันจะเรียกสติตัวเองกลับมาได้ก็ตอนที่กำลังยืนม้วนไปมาจนหันไปเห็นคุณแม่ยืนมองมาจากเคาน์เตอร์ด้วยสีหน้างุนงง ฉันจึงรีบแจ้งค่าอาหารกับเขาอย่างร้อนรน แต่เขาก็ยังแกล้งกันโดยการเอามือมาสัมผัสมือฉันเข้าอย่างจังตอนที่ฉันเอื้อมมือไปรับเงินจากเขา คอยดูนะ ถ้าขิมมีโอกาสเมื่อไหร่จะเอาคืนพี่ลันให้หนักเลยเพราะวันนี้คุณพ่ออนุญาตให้พนักงานในร้านเลิกงานเร็วเป็นการตอบแทนที่ช่วยทำงานอย่างขยันขันแข็งกันมาทั้งวัน ฉันเลยอยู่ช่วยคุณพ่อคุณแม่เก็บร้านจนเสร็จ ดีที่พวกท่านรีโนเวทชั้นสองและชั้นสามเป็นห้องนั่งเล่นและห้องนอนไว้เป็นเหมือนบ้านเลยไม่ต้องเหนื่อยเดินทางไปเดินทางมาปิดร้านเรียบร้อยก็ขึ้นไ
(เสียงเพลงนาฬิกาปลุก)"งื้อ" "ขออีกห้านาทีอย่าพึ่งปลุกได้มั้ย""...""ขิมง่วง""หึ""อย่ามาหัวเราะนะ""..." "เอ๊ะ เสียงใคร""พี่ลัน""พี่ลัน...ไม่รู้จัก""รู้จัก""ห๊ะ"ผมตื่นตั้งแต่ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกของเธอดัง คงจะตั้งไว้เพราะเธอบอกว่าวันนี้จะเข้าไปช่วยงานที่ร้าน เลยมีโอกาสได้นอนมองคนในอ้อมแขนพลิกตัวไปมาอย่างงัวเงียบ่นงุ้งงิ้งเหมือนเด็กขี้เซาไม่ยอมตื่น แถมยังพูดคนเดียวเถียงคนเดียวอีกจนผมต้องคุยตอบเธอด้วย ทำผมหลุดขำออกมาให้กับท่าทางตลกแต่น่าเอ็นดูของเธอคนตัวเล็กจะรู้มั้ย ว่าเวลานี้ภาพของเธอมันดูเซ็กซี่ขนาดไหน ปากเล็กเล็กสีชมพูเหมือนทาลิป แก้มป่องป่องสีพีชดูสุขภาพดี ผมยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง ในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำที่พอดีตัวสำหรับผมแต่กลับตัวใหญ่โคร่งสำหรับเธอ จนคอเสื้อเปิดกว้างเห็นเนินภูเขาลูกโตที่ผมเคยสัมผัสมาแล้ว นั่งมองผมตาแป๋วอยู่บนเตียง"บราก็ไม่ใส่""อุ้ย ก็ขิมซักไว้นี่"จุ๊บ"อื้อ""พะ พี่ลัน""หืม""ดะ เดี๋ยวขิมไปร้านสาย""ไม่นาน""อ๊ะ อื้อ"ด้วยท่านั่งที่ไม่ระวังทำให้ชายเสื้อล่นขึ้นสูง ยิ่งเธอยกสองแขนเล็กขึ้นไปปิดด้านบน ด้านล่างก็วับวับแวมแวมอยากออกมาทักทาย ทำผมหายใจไม่ทั่วท้อง
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด"เย่ พี่ลันกลับมาแล้ว""ขิมหิวจนกินไส้กรอกหมดตู้เย็นแล้วค่ะ""หึ มีข้าวหน้าเนื้อ กับซูชิโรล""พี่ลันกินเป็นเพื่อนขิมได้มั้ยคะ""แค่ซูชิก็ได้ นะคะ""อ่าฮะ" "ใจดีกับขิมที่สุด""..."และแล้วพี่ลันก็กลับมาภายในเวลาสองชั่วโมงพอดีเป๊ะไม่ขาดไม่เกิน มาพร้อมอาหารญี่ปุ่นร้านดังที่ฉันรู้จักเป็นอย่างดีเพราะเป็นร้านของคุณพ่อคุณแม่ฉันเอง แล้วเชื่อมั้ยข้าวกล่องที่เขาหิ้วกลับมาฝากฉัน เป็นเมนูโปรดที่คุณพ่อทำให้ฉันกินตั้งแต่เด็กๆ เลย บังเอิญจัง... แอบรู้สึกแปลกๆ เหมือนกันนะ ที่ต้องมานั่งกินข้าวต่อหน้าคนที่พึ่งรู้จักกันเพียงข้ามคืนแบบก้าวกระโดดด้วยนี่แหละ แต่ขอกินเติมพลังก่อนแล้วกัน เพราะตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้มีเพียงไส้กรอกหนึ่งถุงเล็กตกถึงท้องเอง ขิมหิวไม่ไหวแล้ว..."ทะ ทำไม พี่ลันมองขิมแบบนั้นละ""เรามาทำความรู้จักกันหน่อยมั้ย""คะ ได้ค่ะ""งั้นขิมแนะนำตัวเลยนะคะ""はじめまして 私は雪村ケミカです。" (Hajimemashite. Watashi wa Yukimura Khemika desu.)(ยินดีที่ได้พบคุณ ฉันชื่อ เขมิกา ยูกิมูระ ค่ะ)"Khim と呼んでください。" (Khim to yonde kudasai.)(โปรดเรียกฉันว่า 'ขิม')"ขิม อายุ 20ปี เรียนนิเทศน์ เอก