ผมไม่ลืมที่จะพาเธอไปเดินซื้อกระโปรงนักศึกษาตัวใหม่ซึ่งตอนแรกเธอก็งอแงไม่ยอมอยากใส่แค่ที่มีเพราะอีกไม่กี่เดือนก็จะถึงปีสุดท้ายของเธอแล้ว แต่ผมก็ยังดื้อที่จะพาเธอไปให้ได้ทำเธอหน้างอปากเชิดแอบงอนกับความเอาแต่ใจของผม ไม่เป็นไรเกิดมาผมก็ยังไม่เคยลองง้อผู้หญิงคนไหนมาก่อนเหมือนกัน น้องลลิลจะเป็นคนแรกที่ผมยอมเธอ
"หนูใส่ไซต์อะไรคะ" "..." "อ๊ะ" "เอวประมาณยี่สิบสอง" "ไซต์เอสครับ ความยาวประมาณนี้" "ห้าตัวครับ" "..." เพราะเธอไม่ยอมพูดกับผม ทำให้ผมต้องวัดขนาดเอาเองโดยการโอบเอวเธอมายืนด้านหน้าผมใช้สองมือหนาจับเข้าที่เอวเธอเพื่อวัดขนาดเอื้อมมือข้างหนึ่งไปหยิบกระโปรงตัวอย่างที่แขวนไว้มาทาบที่ตัวเธอเพื่อวัดความยาวโดยที่แขนอีกข้างยังไม่ปล่อยจากการโอบกอดเธอที่ยืนแก้มแดงเป็นลูกตำลึงแต่ยังคงบึ้งตึงใส่ผมอยู่ทำผมอดอมยิ้มอย่างเอ็นดูเธอไม่ได้ เหมือนว่าผมจะเจอเด็กดื้อซะแล้วสิ ฟอด "พี่นาวา!" "ครับผม" หลังจากได้ของครบเรียบร้อยผมก็จูงมือเด็กดื้อที่พึ่งเพิ่มข้อหาให้ผมอีกหนึ่งข้อเพราะการกระทำอันอุกอาจของผมที่ก้มลงไปหอมแก้มเธอท่ามกลางสายตาพนักงานในร้านที่พากันมองยิ้มกรุ่มกริ่มมาที่เราสองคนจนเธอหันมาถลึงตากลมโตเหมือนน่ากลัวใส่ผม แล้วผมก็พาเธอไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตต่อเพราะอยากจะทำสเต็กง่ายๆ ให้เธอลองชิมฝีมือผมเย็นนี้และเพื่อง้อเด็กน้อยของผมด้วยที่ผมเอาแต่ใจกับเธอไปนิดหน่อย ซึ่งเธอก็ยอมมากับผมแต่โดยดีคอยช่วยเลือกผักสำหรับทำสลัดและเนื้อสเต็กแบบที่เธออยากกินมีผมคอยเข็นรถเข็นเดินตามหลังแอบมองสาวร่างบางตรงหน้าพูดเจื้อนแจ้วด้วยสายตาหลงไหล มันเป็นช่วงเวลาที่ผมคิดว่าไม่น่าจะได้ใช้กับใครแต่ได้มาใช้กับเธอ "พี่นาวาชอบทานเนื้อแบบไหนคะ" "คะ" "ชอบเนื้อสันหรือทีโบนคะ" "เนื้อสันค่ะ" "ผักสลัดแค่นี้พอมั้ยคะหรือจะไปตักตรงบาร์ดี" "ลลิลว่ามีให้เลือกเยอะกว่า" "ก็ได้ค่ะ" "งั้นเดี๋ยวลลิลเอาอันนี้ไปเก็บก่อนค่ะ" "หนูเอาขนมขบเคี้ยวด้วยมั้ย" "ไว้กินตอนดูหนังกัน" "ลลิลเอาห่อสีเหลืองค่ะ" แล้วผมก็พาเธอไปยังรถสปอร์ตหรูที่จอดไว้ที่โซนซุปเปอร์คาร์ของห้างขับตรงไปยังคอนโดของผมกับเธอทันทีแถมยังมัดมือชกพาเธอขึ้นมาห้องของผมเลยไม่ต้องแวะห้องเธอเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เสียเวลา เพราะผมให้คนนำเสื้อผ้าที่ร้านสำหรับเธอมาไว้ในห้องแต่งตัวผมเรียบร้อยแล้วซึ่งเธอก็งอแงไม่ยอมเปลี่ยนเพราะกลัวว่าจะเป็นของคนอื่นหรือแฟนของผมทำผมต้องงัดหลักฐานขึ้นมายืนยันว่าไม่มีแฟนและเอาสลิปโอนเงินค่าเสื้อผ้าของเธอเมื่อเช้าให้เธอดูทำเธอตาค้างอ้าปากกว้างไม่ห่วงสวยเพราะตกใจกับตัวเลขที่เห็นผมเลยอาศัยจังหวะที่เธอช๊อกอยู่นี้ก้มลงไปอุ้มเธอที่นั่งอยู่ที่โซฟาด้วยท่าเจ้าสาวพาไปส่งที่วอคอินโครเซทให้เธอได้ใช้เวลาส่วนตัวได้ตามสบาย และปลีกตัวมาเตรียมของในครัวรอเธอ "ลลิลช่วยมั้ยคะ" "หนูหายงอนพี่แล้วหรอ" "ลลิลไม่ได้งอนสักหน่อย" "ไม่งอนก็ไม่งอนค่ะ" "ไหน ใส่ได้พอดีมั้ย" "พอดีเลยค่ะ" "ขอบคุณนะคะ" "ขอบคุณแค่นี้เอง?" "..." จุ๊บ แล้วเขาก็ยื่นหน้าหล่อหล่อมามองฉันใกล้ใกล้เอียงหน้าเล็กน้อยทำแก้มป่องข้างหนึ่งเหมือนรออะไรบางอย่าง มาถึงขนาดนี้แล้วฉันเลยทำใจกล้าใช้ปากเล็กเล็กจุ๊บเข้าไปที่แก้มสากกลมกลมหนึ่งทีเป็นการขอบคุณเขาอีกหนึ่งครั้ง ก่อนจะรีบเฉไฉแทรกตัวเข้าไปในแขนแกร่งที่กำลังเตรียมเนื้อสำหรับหมักเครื่องเทศมีฉันทำหน้าที่โรยเกลือสีชมพูกับพริกไทยดำตามที่เขาบอกอย่างเคร่งครัด เนื้อสเต็กจานนี้ต้องอร่อยมากแน่แน่เพราะเราสองคนช่วยกันทำ ระหว่างรอเวลาให้เนื้อเข้าที่ เราสองคนก็พากันมานั่งรอที่โซฟาตรงห้องนั่งเล่นมีเขานั่งเช็คอีเมล์ในไอแพดอยู่โดยที่แขนข้างหนึ่งยังคงโอบกอดเอวบางของฉันเอาไว้ให้เข้าหาตัวเขาจนฉันเกือบจะได้นั่งเกยตักแกร่งส่วนฉันก็นั่งอ่านการ์ตูนรอเพราะกลัวว่าถ้าดูรายการโปรดในยูทูปจะทำเสียงรบกวนเขา โชคดีที่พรุ่งนี้ฉันมีเรียนบ่ายเลยไม่เป็นห่วงเรื่องเวลามากแต่คงไม่อยู่จนดึกเพราะไม่อยากรบกวนเวลาพักผ่อนของพี่เขา พอนาฬิกาที่เราตั้งเวลาไว้ส่งเสียงเตือนว่าเนื้อใช้ได้แล้วพี่เขาก็รีบลุกขึ้นเดินไปเปิดเตาไฟฟ้าเหยาะน้ำมันมะกอกลงกระทะเล็กน้อยรอกระทะร้อนแล้วนำเนื้อสเต็กลงไปย่างทันที ส่วนฉันก็ช่วยเตรียมตักสลัดแบ่งลงจานสองใบสำหรับเราสองคน แล้วพากันมานั่งกินที่หน้าทีวีเพราะพี่นาวาอยากดูหนังที่เข้าใหม่ด้วย ระหว่างที่พี่เขาเปิดหนังในจอยักษ์ฉันก็นั่งหั่นเนื้อสเต็กเป็นชิ้นลูกเต๋า และคอยใช้ส้อมจิ้มป้อนใส่ปากพี่เขาอย่างเอาใจสลับกับป้อนเข้าปากฉันจนหมดจาน "หืม อร่อยมากมากเลยค่ะพี่นาวา" "ฉ่ำมาก" "ดีใจจังที่หนูชอบ" "เหมือนไปทานที่ร้านดังดังเลยนะคะ" "งั้นถ้าวันหลังหนูอยากทานบอกพี่นะ" "พี่ทำให้หนูได้ทุกวันเลย" #อ่านเพลินๆ อินไปกับความน่ารักของพี่นาวาและน้องลลิลกันนะคะเมื่อคืนกว่าฉันจะได้ลงมานอนห้องตัวเองก็เกือบตีสองเพราะเขาพาฉันดูหนังจนจบถึงสองเรื่องทำฉันเกือบจะได้หลับอยู่บนโซฟาหน้าทีวีกับเขาแล้ว ดีที่เสียงข้อความจากพี่ลันดังขึ้นทำฉันที่กำลังสะลึมสะลืมนอนหนุนตักแกร่งอยู่สะดุ้งตัวตื่นเต็มตาหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาดูและเปิดเพลงที่พี่ลันพึ่งอัดเสร็จส่งมาให้ฉันลองฟัง ฉันเลยหยิบแอร์พอร์ตในกระเป๋ามาใส่ที่หูฉันข้างหนึ่งและหูของเขาข้างหนึ่งเปิดผลงานของพี่ชายให้เขาได้ฟังด้วยกัน เขาถึงกับทึ่งในความสามารถของพี่ลันที่อายุเท่ากันกับเขา แถมให้ฉันเปิดรูปพี่ชายสุดหล่อของฉันให้เขาดูอีก ฉันว่าก็สูสีกันอยู่นะ แต่พี่ลันจะเซอร์กว่าหน่อย ส่วนพี่นาวาก็เท่ห์กว่านิดนึง"หนูง่วงยังคะ""นอนห้องพี่ก็ได้นะ""ลลิลคิดถึงหมอนข้างที่ห้องค่ะ""พี่ก็เป็นหมอนข้างให้หนูได้เหมือนกัน""ไว้ลลิลมาดูหนังด้วยอีกนะคะ""..."เท่านั้นแหละเขาก็ชักสีหน้าเป็นบึ้งตึงเหมือนเด็กน้อยเอาแต่ใจใส่ฉันทันทีและเดินล้วงกระเป๋าก้าวขายาวๆ นำฉันออกไปที่ลิฟต์ไม่รอฉันเลยแม้แต่น้อยจนฉันต้องรีบซอยเท้าเพื่อให้ทันเขา ไม่มีเสียงพูดคุยแม้แต่คำเดียวมีเพียงเสียงลิฟต์ให้ได้ยินว่าถึงชั้นของฉันแล้ว ฉันเลยเดินก้ม
"ค่าตัวลลิลแพงนะคะ" "ลลิลบอกไว้ก่อนเลย""หึ เท่าไหร่คะที่บอกว่าแพง""อืม....""บุฟเฟ่ต์อร่อยอร่อยหนึ่งปีค่ะ""หึ พี่ให้ทั้งชีวิตเลยค่ะ""..."และสุดท้ายฉันก็สู้เขาไม่ได้อีกตามเคย โดนเขาหยอดกลับมาแบบชนะน็อคอีกเหมือนเดิม ไม่ปล่อยโอกาสให้ฉันทำให้เขารู้สึกหวั่นไหวได้บ้างเลย จนฉันต้องเฉไฉเปลี่ยนเรื่องชวนเขาคุยว่าเราจะไปกินอะไรกันดีคุยไปคุยมาอยู่นานเราเลยเลือกที่จะไปซื้อของสดที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตกลับไปทำกินกันที่ห้อง เพราะจริงๆ แล้วเขาไม่ค่อยชอบที่ที่มีคนเยอะเยอะและมีอากาศร้อนเท่าไหร่ ชอบทานรสจัดแต่ต้องไม่เผ็ดมากด้วย ทำฉันแอบรู้สึกผิดที่พาเขาไปทานทั้งผัดกระเพราร้านร้อนร้อนกับซีฟู้ดแซ่บแซ่บเมื่อสองมื้อก่อนเลย มิหน่าละ ตอนนั้นเขาถึงหน้าแดงปากแดงแถมเหงื่อออกเยอะด้วย ฉันเลยขอไถ่โทษโดยการลงมือทำสปาเก็ตตี้คาโบนาร่ากับผักโขมอบชีสให้เขาทาน เพิ่มเฟรนช์ฟรายส์ทอดไว้ให้เขาทานเล่นระหว่างรอฉันด้วย เพราะฉันต้องรีบทำรายงานต่อจึงเลือกใช้ห้องครัวของฉันสำหรับปรุงอาหาร ขืนถ้าหลวมตัวขึ้นไปห้องชั้นบนสุดคงได้เถลไถลจนรายงานไม่เสร็จแน่"น่าทานมากเลยค่ะ""พี่นาวาลองชิมก่อนค่ะ""ถ้าไม่อร่อยค่อยสั่งเดลิเวอรี่กันใหม่
"วันนี้พี่ไปร้องเพลง""หนูไปด้วยกันมั้ยคะ""ลลิลว่าจะไปทำคอนเทนต์ที่เยาวราช""รอพี่ร้องเสร็จแล้วไปด้วยกันนะ" "อืมมม งั้นลลิลค่อยไปพรุ่งนี้ก็ได้ค่ะ""วันนี้ไปลลิลกับพี่ก่อน""กินอะไร ทำไมน่ารัก"หลังจากที่ผมหลอกล่อเด็กน้อยได้เรียบร้อย ผมก็กลับมานั่งรอเธออาบน้ำแต่งตัวที่โซฟาหน้าทีวี หยิบมือถือขึ้นมาเปิดคลิปที่เธอลงเมื่อชั่วโมงก่อนเป็นคลิปทำอาหารสั้นสั้นและเหมือนว่าจะเป็นเมนูที่เธอทำให้ผมกินเมื่อวันก่อนอย่างสปาเก็ตตี้คาโบนาร่า ดูน่ากินไปหมด แต่ในคลิปเธอกลับไม่ยอมบอกวิธีทำเบคอนให้กรุบกรอบอยู่ได้นาน แถมยังทิ้งคำพูดในตอนท้ายไว้ว่าขอเก็บสูตรนี้ไว้ให้คนพิเศษได้ทานเท่านั้น ทำเอาชาวเน็ตพากันคอมเมนต์เป็นรูปหัวใจแตกสลายกันรัวรัว ต่างจากผมที่นั่งยิ้มกริ่มอย่างอารมณ์ดีเมื่อได้ยินก็ผมได้ลองกินแล้วนี่นา เพราะฉะนั้นผมเลยกดหัวใจเต็มดวงสีชมพูส่งให้เธอเป็นการสวนกระแส"พี่นาวาไม่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าหรอคะ""อาบค่ะ ก็พี่รอหนู""ลลิลคิดว่าพี่นาวาจะกลับไปอาบที่ห้อง""เสื้อผ้าพี่ก็มีอยู่ในตู้หนู""มิหน่าล่ะ ค่าน้ำห้องลลิลถึงขึ้น""พี่นาวาแอบมาใช้น้ำตอนที่ลลิลไม่อยู่ใช่มั้ยคะ""หึ""ว่าแต่หนูเถอะ...""ใจคอจะย
และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่เขามารับฉันหลังเลิกเรียนเพื่อไปถ่ายแบบเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ของแบรนด์เขาต่อช่วงบ่าย ซึ่งเขาก็ดูแลจัดคิวไม่ให้กระทบต่อชั่วโมงเรียนของฉัน เรียกว่าใส่ใจรายละเอียดสุดสุด พอมาถึงเขาก็พาฉันเข้ามาในห้องแต่งตัวเพื่อแต่งหน้าทำผมท่ามกลางสีหน้าและสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยและรอยยิ้มกรุ่มกริ่มส่งมาเมื่อเห็นฉัน พี่พี่ทีมงานถูกบรีฟมาว่าขอลุคใสใสเกาหลีเกาใจที่สามารถเข้ากับเสื้อผ้าได้ลุค หลังจากที่ฉันถูกแปลงโฉมจนเสร็จเรียบร้อย ก็รีบเข้าไปเปลี่ยนเป็นชุดจั้มสูทเกาะอกกางเกงขาสั้นผ้าทวิตญี่ปุ่นที่สามารถใส่ได้หลายแบบ คู่กับรองเท้าแมรี่เจนสีแดงและถุงเท้าลายลูกไม้ยาวเลยข้อขึ้นมานิดหน่อยให้ดูน่ารักซุกซนเซ็กซี่เล็กเล็ก และมีเสื้อคุมแขนยาวลุคลูกคุณเข้าชุดกันที่เตรียมไว้สำหรับถ่ายในเซ็ตต่อไป ซึ่งฉันต้องพยายามคลายความตื่นเต้นโดยการสูดลมหายใจเข้าออกลึกลึกและรีบเดินออกมาพร้อมเข้าฉากเพื่อไม่ให้ทุกคนรอนาน แต่สายตาคู่สวยของฉันก็ต้องสะดุดเข้ากับตากล้องหนุ่มสุดหล่อที่อยู่ในกางเกงยีนส์สีดำเสื้อคอกลมสีขาวด้านในสวมแจ๊คเก็ตยีนส์สีเข้ากับกางเกงตามด้วยรองเท้าผ้าใบสีขาวดำยี่ห้อดังราวกับเป็นนายแบบยืนรอ
"ทุกคนนน ลลิลพึ่งเอฟชุดมาใหม่ค่ะ""ดูซิคะ แค่แพ็คเก็ตก็ดีงามแล้ว""ลลิลจะเริ่มแล้วนะคะ""เป็นไงคะ ชุดแรกน่ารักเนอะ""ลลิลว่าน่ารัก""ถ้าใส่กับรองเท้าคู่นี้จะเข้ากันมั้ยนะ""เดี๋ยวลลิลลองให้ดูค่ะ""เริ่ดอยู่นะ เป็นเอฟเวอรี่เดย์ลุค""อุ้ยยย เสื้อตัวนี้น่ารักไม่ไหว""แต่ว่าใส่ยังไงละเนี่ย""แบบนี้หรอ หรือว่าแบบนี้""ใครรู้วิธีใส่เสื้อตัวนี้คอมเมนต์มาบอกลลิลหน่อยนะคะ""วอนเจ้าของแบรนด์ส่งฮาวทูมาให้ที พลีชชช"NvCharm ส่งของขวัญ 'ติ๊กต๊อก ยูนิเวอร์ส' x2"ว้าว ขอบคุณ คุณ NvCharm ตามมาส่งของขวัญให้ลลิลถึงติ๊กต๊อกเลย"ผมขึ้นมานั่งดูเธอไลฟ์ในติ๊กต๊อกบนห้องของผมที่อยู่ชั้นบนสุดเพราะกลัวว่าถ้าผมนั่งหลบมุมในห้องของเธอถ้าชาวเน็ตตาดีเห็นเงาผมขึ้นมาอาจส่งผลกระทบกับเธอก็ได้ และอีกอย่างผมจะได้กดส่งของขวัญให้เธอได้สะดวก ซึ่งเสื้อผ้าที่เธอแกะจากห่อมาลองใส่วิ่งเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่หน้าไลฟ์ก็เป็นเสื้อผ้าจากแบรนด์ของผมที่เธอแอบสั่งมาโดยใช้ชื่อและที่อยู่ของหนูมายบ้างน้องมินนี่บ้างเพราะเธอกลัวว่าพนักงานในร้านจะจำชื่อเธอได้แล้วเธอจะไม่ได้อุดหนุนสินค้าของผม ว่าที่แฟนของผมน่ารักใช่มั้ย น่ารักซะจนผมหลงเธอไม
ผมค่อยๆ ถอยริมฝีปากออกโดยที่ยังวางทาบไว้ตรงริมฝีปากหวานเปิดโอกาสให้เธอได้พักหายใจสักหน่อยแต่เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้นผมก็จัดการส่งลิ้นร้อนเข้าไปรุกล้ำในโพรงปากเล็กเพื่อควานหาน้ำหวานอีกครั้ง พอยิ่งได้ยินเสียงครางประท้วงเล็กเล็กของเธอก็ยิ่งทำให้อารมณ์ภายในที่ซ่อนไว้มานานพลุ่งพล่านมากขึ้น ผมค่อยๆ ดันตัวเธอให้นอนราบไปกับโซฟานุ่มนุ่มโดยที่มือข้างหนึ่งทำหน้าที่ประคองศีรษะเธอเอาไว้คอยนวดผ่อนคลายให้เธอไปด้วย ส่วนอีกข้างก็ทำหน้าที่บีบนวดลูกบอลนิ่มนิ่มให้เธอไม่ห่างนานนับนาทีเพื่อให้เธอปรับตัวและปล่อยใจไปกับผมก่อนจะค่อยๆ เลื่อนริมฝีปากร้อนลงมากดจูบที่คางหนึ่งทีซุกไซร้ตามลำคอหอมหอมด้วยความหลงไหล มืออันแสนซุกซนของผมค่อยๆ เลื่อนลูบไล้ตามผิวเนียนลื่นตั้งแต่หน้าท้องเรื่อยลงมาจนถึงต้นขาขาว แล้วค่อยๆ เลื่อนนิ้วร้ายเข้าไปใกล้จุดสั่นไหวของเธอทีละนิดทีละนิด จนสามารถแทรกเข้าไปภายใต้แพนตี้ตัวจิ๋วของเธอ ได้สัมผัสเนินนุ่มนิ่มจนผมอยากจะลองดันนิ้วเข้าไปหาเกสรดอกไม้เล็กเล็กสักหน่อยแล้วกดซ้ำๆ อยู่อย่างนั้นจนมีน้ำหวานไหลปริ่มออกมา เบี่ยงเบนความสนใจจากนิ้วเรียวที่กำลังแทรกตัวเข้าไปในช่องคับแคบโดยการเลื่อนตัวขึ้นไป
"หนูเป็นแฟนพี่นะคะ""...""...คะ ค่ะ"ฉันนั่งเปิดดูสตอรี่ที่เขาลงให้ตอนอยู่ร้านอาหารญี่ปุ่นเมื่อสองชั่วโมงก่อนวนไปซ้ำๆ เพื่อให้แน่ใจว่าฉันไม่ได้ฝันไปหรือว่าฟังผิดจนคิดเข้าข้างตัวเอง แต่ก็มีหลักฐานอย่างข้อความไดเรคที่เพื่อนๆ ส่งเข้ามาแซวไม่หยุด แถมห้องแชทกลุ่มก็ดังรัวจนแทบระเบิดเป็นสิ่งยืนยันช่วยให้ฉันมั่นใจว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นคือเรื่องจริง จนเสียงประตูห้องน้ำเปิดขึ้นฉันเลยหันไปตามเสียง แต่ภาพที่เห็นไม่อ่อนโยนต่อใจฉันเลยเพราะเขาเล่นเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพที่ท่อนบนเปลือยเปล่าโชว์แผงอกขาวขาวกล้ามหน้าท้องแน่นๆ พาสายตาฉันมองไล่ลงมาเรื่อยๆ จนเห็นไลน์วีเชฟดูเซ็กซี่มากมาก แต่ต้องมาหยุดอยู่ตรงปมผ้าขนหนูสีขาวที่ผูกปมไว้อย่างหมิ่นเหม่ เลยทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นไปมองใบหน้าหล่อหล่อที่กำลังยืนเช็ดผมและมองฉันด้วยสายตากรุ่มกริ่มแอบอมยิ้มอยู่ก่อน น่าขายหน้าชะมัดเลยลลิลเอ้ย"หนูเช็ดผมให้พี่หน่อยสิ""แต่พี่ยืนเช็ดจนจะแห้งแล้วนะ""พี่อยากให้หนูเช็ดให้""งั้นก็นั่งสิคะ ลลิลเช็ดให้ไม่ถึง"ฉันเลยต้องเดินเข้าไปหาเขาที่นั่งอยู่บนเ
"พูดมากเหมือนกันนะมึงอะ""ดูร้อนเหมือนกันนะพี่อะ""ดีดีนะเว้ยพี่ ผมสามคนดูแลเพื่อนมาเป็นอย่างดี""เออ" "ถ้าทำเพื่อนผมเสียใจ เพจร้านพี่ปลิวทุกแพลทฟอร์มในสองนาที""...""เตอร์ไม่ต้องขู่พี่เขาเลยนะ" "พี่นาวาต้องขอบคุณมายน๊า ที่มายกล้าเดินไปหาพี่""คับ ขอบคุณคับผม หึ""น้องมายกับน้องมินนี่เข้าไปเลือกชุดที่ร้านพี่ได้เลยนะ""จุ้นจ้านสุดสุด""นี่หิวอาหารเม็ดหรอ"ที่ผมเคยได้ยินว่าหนูมายกับไอ้นายเป็นคู่กัดกัน ไม่เกินจริงเลยสักนิด เพราะหลังจากที่ผมปะทะคารมและตอบรับคำไอ้เตอร์กับไอ้กายเสร็จ ก็กลายมาเป็นผู้ชมนั่งดูเด็กสองคนนี้ตีกันจนผมแอบสงสารแฟนคนสวยกับไอ้กายที่นั่งรถมาคันเดียวกันสี่คนคงจะปวดหัวน่าดู ก่อนจะหันมาสนใจเธอที่กำลังนั่งกินครัวซองค์กับชาเย็นอย่างเอร็ดอร่อย แต่ท่านั่งของเธอทำผมรู้สึกขัดใจอยู่ไม่น้อยเพราะเธอเล่นนั่งไม่ระวัง จนผมต้องเอื้อมไปหยิบกระเป๋าโน๊ตบุ้คมาวางปิดที่ต้นขาขาวให้และมองด้วยสายตาเอ็ดดุใส่เธอไปเพียงแวบเดียวเท่านั้นก็ต้องแพ้ให้กับลูกอ้อนของเธอที่ส่งยิ้มตาหยีตั
จะว่าไปตลอดหลายวันที่ผ่านมาฉันแอบคิดสิ่งที่สงสัยมาตลอดว่าคนที่เป็นแฟนตัวยงของฉันในทุกช่องทางโซเชี่ยล คนที่คอยส่งของขวัญราคาแพงแพงให้ใช่เขาหรือป่าว เพราะฉันพึ่งสังเกตเห็นชื่อแบรนด์เสื้อผ้าของเขา 'CHARM' เมื่อวันที่ฉันไปถ่ายแบบ ป้ายโลโก้บนถุงแพ็คเก็ตที่ฉันแอบเอฟมา มันตรงกับชื่อต่อท้ายของใครคนนั้น แถมอักษรย่อ 'Nvcharm' ก็ต้องเป็นชื่อเขาไม่ผิดแน่ เป็นคนเดียวกับที่พึ่งส่งซุปเปอร์แต๊งค์และคอมเมนต์ที่ชาวเน็ตพากันกดโกรธ แต่ที่ฉันพึ่งสงสัยก็เพราะทุกช่องทางการติดต่อและโซเชี่ยลส่วนตัวของเขาที่ใช้คุยกับฉัน เขาใช้ชื่อจริง 'nava.nutthakorn' ถ้าเป็นเขาจริงๆ ฉันคงตื่นเต้นมากแน่ๆ เพราะมันเป็นพรมหมลิขิตชัดชัดเลย"พี่นาวาขา วันนี้แฟนตัวยงของลลิลน่าสงสารมาก""ยังไงคะ""เพราะโดนแฟนคลับของลลิลพากันรุมกดโกรธคอมเมนต์ของเขาเป็นพันคนเลยค่ะ""หึ แล้วหนูจะปลอบใจเขายังไงดี""ลลิลว่าส่งข้อความไปหาหน่อยดีกว่า""ตั้งแต่ทำช่องมาลลิลไม่เคยขอบคุณเขาอย่างจริงจังเลยค่ะ""..."ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง"ไม่ดูมือถือหน่อยหรอคะ""เผื่อมีธุระด่วน
"พูดมากเหมือนกันนะมึงอะ""ดูร้อนเหมือนกันนะพี่อะ""ดีดีนะเว้ยพี่ ผมสามคนดูแลเพื่อนมาเป็นอย่างดี""เออ" "ถ้าทำเพื่อนผมเสียใจ เพจร้านพี่ปลิวทุกแพลทฟอร์มในสองนาที""...""เตอร์ไม่ต้องขู่พี่เขาเลยนะ" "พี่นาวาต้องขอบคุณมายน๊า ที่มายกล้าเดินไปหาพี่""คับ ขอบคุณคับผม หึ""น้องมายกับน้องมินนี่เข้าไปเลือกชุดที่ร้านพี่ได้เลยนะ""จุ้นจ้านสุดสุด""นี่หิวอาหารเม็ดหรอ"ที่ผมเคยได้ยินว่าหนูมายกับไอ้นายเป็นคู่กัดกัน ไม่เกินจริงเลยสักนิด เพราะหลังจากที่ผมปะทะคารมและตอบรับคำไอ้เตอร์กับไอ้กายเสร็จ ก็กลายมาเป็นผู้ชมนั่งดูเด็กสองคนนี้ตีกันจนผมแอบสงสารแฟนคนสวยกับไอ้กายที่นั่งรถมาคันเดียวกันสี่คนคงจะปวดหัวน่าดู ก่อนจะหันมาสนใจเธอที่กำลังนั่งกินครัวซองค์กับชาเย็นอย่างเอร็ดอร่อย แต่ท่านั่งของเธอทำผมรู้สึกขัดใจอยู่ไม่น้อยเพราะเธอเล่นนั่งไม่ระวัง จนผมต้องเอื้อมไปหยิบกระเป๋าโน๊ตบุ้คมาวางปิดที่ต้นขาขาวให้และมองด้วยสายตาเอ็ดดุใส่เธอไปเพียงแวบเดียวเท่านั้นก็ต้องแพ้ให้กับลูกอ้อนของเธอที่ส่งยิ้มตาหยีตั
"หนูเป็นแฟนพี่นะคะ""...""...คะ ค่ะ"ฉันนั่งเปิดดูสตอรี่ที่เขาลงให้ตอนอยู่ร้านอาหารญี่ปุ่นเมื่อสองชั่วโมงก่อนวนไปซ้ำๆ เพื่อให้แน่ใจว่าฉันไม่ได้ฝันไปหรือว่าฟังผิดจนคิดเข้าข้างตัวเอง แต่ก็มีหลักฐานอย่างข้อความไดเรคที่เพื่อนๆ ส่งเข้ามาแซวไม่หยุด แถมห้องแชทกลุ่มก็ดังรัวจนแทบระเบิดเป็นสิ่งยืนยันช่วยให้ฉันมั่นใจว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นคือเรื่องจริง จนเสียงประตูห้องน้ำเปิดขึ้นฉันเลยหันไปตามเสียง แต่ภาพที่เห็นไม่อ่อนโยนต่อใจฉันเลยเพราะเขาเล่นเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพที่ท่อนบนเปลือยเปล่าโชว์แผงอกขาวขาวกล้ามหน้าท้องแน่นๆ พาสายตาฉันมองไล่ลงมาเรื่อยๆ จนเห็นไลน์วีเชฟดูเซ็กซี่มากมาก แต่ต้องมาหยุดอยู่ตรงปมผ้าขนหนูสีขาวที่ผูกปมไว้อย่างหมิ่นเหม่ เลยทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นไปมองใบหน้าหล่อหล่อที่กำลังยืนเช็ดผมและมองฉันด้วยสายตากรุ่มกริ่มแอบอมยิ้มอยู่ก่อน น่าขายหน้าชะมัดเลยลลิลเอ้ย"หนูเช็ดผมให้พี่หน่อยสิ""แต่พี่ยืนเช็ดจนจะแห้งแล้วนะ""พี่อยากให้หนูเช็ดให้""งั้นก็นั่งสิคะ ลลิลเช็ดให้ไม่ถึง"ฉันเลยต้องเดินเข้าไปหาเขาที่นั่งอยู่บนเ
ผมค่อยๆ ถอยริมฝีปากออกโดยที่ยังวางทาบไว้ตรงริมฝีปากหวานเปิดโอกาสให้เธอได้พักหายใจสักหน่อยแต่เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้นผมก็จัดการส่งลิ้นร้อนเข้าไปรุกล้ำในโพรงปากเล็กเพื่อควานหาน้ำหวานอีกครั้ง พอยิ่งได้ยินเสียงครางประท้วงเล็กเล็กของเธอก็ยิ่งทำให้อารมณ์ภายในที่ซ่อนไว้มานานพลุ่งพล่านมากขึ้น ผมค่อยๆ ดันตัวเธอให้นอนราบไปกับโซฟานุ่มนุ่มโดยที่มือข้างหนึ่งทำหน้าที่ประคองศีรษะเธอเอาไว้คอยนวดผ่อนคลายให้เธอไปด้วย ส่วนอีกข้างก็ทำหน้าที่บีบนวดลูกบอลนิ่มนิ่มให้เธอไม่ห่างนานนับนาทีเพื่อให้เธอปรับตัวและปล่อยใจไปกับผมก่อนจะค่อยๆ เลื่อนริมฝีปากร้อนลงมากดจูบที่คางหนึ่งทีซุกไซร้ตามลำคอหอมหอมด้วยความหลงไหล มืออันแสนซุกซนของผมค่อยๆ เลื่อนลูบไล้ตามผิวเนียนลื่นตั้งแต่หน้าท้องเรื่อยลงมาจนถึงต้นขาขาว แล้วค่อยๆ เลื่อนนิ้วร้ายเข้าไปใกล้จุดสั่นไหวของเธอทีละนิดทีละนิด จนสามารถแทรกเข้าไปภายใต้แพนตี้ตัวจิ๋วของเธอ ได้สัมผัสเนินนุ่มนิ่มจนผมอยากจะลองดันนิ้วเข้าไปหาเกสรดอกไม้เล็กเล็กสักหน่อยแล้วกดซ้ำๆ อยู่อย่างนั้นจนมีน้ำหวานไหลปริ่มออกมา เบี่ยงเบนความสนใจจากนิ้วเรียวที่กำลังแทรกตัวเข้าไปในช่องคับแคบโดยการเลื่อนตัวขึ้นไป
"ทุกคนนน ลลิลพึ่งเอฟชุดมาใหม่ค่ะ""ดูซิคะ แค่แพ็คเก็ตก็ดีงามแล้ว""ลลิลจะเริ่มแล้วนะคะ""เป็นไงคะ ชุดแรกน่ารักเนอะ""ลลิลว่าน่ารัก""ถ้าใส่กับรองเท้าคู่นี้จะเข้ากันมั้ยนะ""เดี๋ยวลลิลลองให้ดูค่ะ""เริ่ดอยู่นะ เป็นเอฟเวอรี่เดย์ลุค""อุ้ยยย เสื้อตัวนี้น่ารักไม่ไหว""แต่ว่าใส่ยังไงละเนี่ย""แบบนี้หรอ หรือว่าแบบนี้""ใครรู้วิธีใส่เสื้อตัวนี้คอมเมนต์มาบอกลลิลหน่อยนะคะ""วอนเจ้าของแบรนด์ส่งฮาวทูมาให้ที พลีชชช"NvCharm ส่งของขวัญ 'ติ๊กต๊อก ยูนิเวอร์ส' x2"ว้าว ขอบคุณ คุณ NvCharm ตามมาส่งของขวัญให้ลลิลถึงติ๊กต๊อกเลย"ผมขึ้นมานั่งดูเธอไลฟ์ในติ๊กต๊อกบนห้องของผมที่อยู่ชั้นบนสุดเพราะกลัวว่าถ้าผมนั่งหลบมุมในห้องของเธอถ้าชาวเน็ตตาดีเห็นเงาผมขึ้นมาอาจส่งผลกระทบกับเธอก็ได้ และอีกอย่างผมจะได้กดส่งของขวัญให้เธอได้สะดวก ซึ่งเสื้อผ้าที่เธอแกะจากห่อมาลองใส่วิ่งเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่หน้าไลฟ์ก็เป็นเสื้อผ้าจากแบรนด์ของผมที่เธอแอบสั่งมาโดยใช้ชื่อและที่อยู่ของหนูมายบ้างน้องมินนี่บ้างเพราะเธอกลัวว่าพนักงานในร้านจะจำชื่อเธอได้แล้วเธอจะไม่ได้อุดหนุนสินค้าของผม ว่าที่แฟนของผมน่ารักใช่มั้ย น่ารักซะจนผมหลงเธอไม
และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่เขามารับฉันหลังเลิกเรียนเพื่อไปถ่ายแบบเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ของแบรนด์เขาต่อช่วงบ่าย ซึ่งเขาก็ดูแลจัดคิวไม่ให้กระทบต่อชั่วโมงเรียนของฉัน เรียกว่าใส่ใจรายละเอียดสุดสุด พอมาถึงเขาก็พาฉันเข้ามาในห้องแต่งตัวเพื่อแต่งหน้าทำผมท่ามกลางสีหน้าและสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยและรอยยิ้มกรุ่มกริ่มส่งมาเมื่อเห็นฉัน พี่พี่ทีมงานถูกบรีฟมาว่าขอลุคใสใสเกาหลีเกาใจที่สามารถเข้ากับเสื้อผ้าได้ลุค หลังจากที่ฉันถูกแปลงโฉมจนเสร็จเรียบร้อย ก็รีบเข้าไปเปลี่ยนเป็นชุดจั้มสูทเกาะอกกางเกงขาสั้นผ้าทวิตญี่ปุ่นที่สามารถใส่ได้หลายแบบ คู่กับรองเท้าแมรี่เจนสีแดงและถุงเท้าลายลูกไม้ยาวเลยข้อขึ้นมานิดหน่อยให้ดูน่ารักซุกซนเซ็กซี่เล็กเล็ก และมีเสื้อคุมแขนยาวลุคลูกคุณเข้าชุดกันที่เตรียมไว้สำหรับถ่ายในเซ็ตต่อไป ซึ่งฉันต้องพยายามคลายความตื่นเต้นโดยการสูดลมหายใจเข้าออกลึกลึกและรีบเดินออกมาพร้อมเข้าฉากเพื่อไม่ให้ทุกคนรอนาน แต่สายตาคู่สวยของฉันก็ต้องสะดุดเข้ากับตากล้องหนุ่มสุดหล่อที่อยู่ในกางเกงยีนส์สีดำเสื้อคอกลมสีขาวด้านในสวมแจ๊คเก็ตยีนส์สีเข้ากับกางเกงตามด้วยรองเท้าผ้าใบสีขาวดำยี่ห้อดังราวกับเป็นนายแบบยืนรอ
"วันนี้พี่ไปร้องเพลง""หนูไปด้วยกันมั้ยคะ""ลลิลว่าจะไปทำคอนเทนต์ที่เยาวราช""รอพี่ร้องเสร็จแล้วไปด้วยกันนะ" "อืมมม งั้นลลิลค่อยไปพรุ่งนี้ก็ได้ค่ะ""วันนี้ไปลลิลกับพี่ก่อน""กินอะไร ทำไมน่ารัก"หลังจากที่ผมหลอกล่อเด็กน้อยได้เรียบร้อย ผมก็กลับมานั่งรอเธออาบน้ำแต่งตัวที่โซฟาหน้าทีวี หยิบมือถือขึ้นมาเปิดคลิปที่เธอลงเมื่อชั่วโมงก่อนเป็นคลิปทำอาหารสั้นสั้นและเหมือนว่าจะเป็นเมนูที่เธอทำให้ผมกินเมื่อวันก่อนอย่างสปาเก็ตตี้คาโบนาร่า ดูน่ากินไปหมด แต่ในคลิปเธอกลับไม่ยอมบอกวิธีทำเบคอนให้กรุบกรอบอยู่ได้นาน แถมยังทิ้งคำพูดในตอนท้ายไว้ว่าขอเก็บสูตรนี้ไว้ให้คนพิเศษได้ทานเท่านั้น ทำเอาชาวเน็ตพากันคอมเมนต์เป็นรูปหัวใจแตกสลายกันรัวรัว ต่างจากผมที่นั่งยิ้มกริ่มอย่างอารมณ์ดีเมื่อได้ยินก็ผมได้ลองกินแล้วนี่นา เพราะฉะนั้นผมเลยกดหัวใจเต็มดวงสีชมพูส่งให้เธอเป็นการสวนกระแส"พี่นาวาไม่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าหรอคะ""อาบค่ะ ก็พี่รอหนู""ลลิลคิดว่าพี่นาวาจะกลับไปอาบที่ห้อง""เสื้อผ้าพี่ก็มีอยู่ในตู้หนู""มิหน่าล่ะ ค่าน้ำห้องลลิลถึงขึ้น""พี่นาวาแอบมาใช้น้ำตอนที่ลลิลไม่อยู่ใช่มั้ยคะ""หึ""ว่าแต่หนูเถอะ...""ใจคอจะย
"ค่าตัวลลิลแพงนะคะ" "ลลิลบอกไว้ก่อนเลย""หึ เท่าไหร่คะที่บอกว่าแพง""อืม....""บุฟเฟ่ต์อร่อยอร่อยหนึ่งปีค่ะ""หึ พี่ให้ทั้งชีวิตเลยค่ะ""..."และสุดท้ายฉันก็สู้เขาไม่ได้อีกตามเคย โดนเขาหยอดกลับมาแบบชนะน็อคอีกเหมือนเดิม ไม่ปล่อยโอกาสให้ฉันทำให้เขารู้สึกหวั่นไหวได้บ้างเลย จนฉันต้องเฉไฉเปลี่ยนเรื่องชวนเขาคุยว่าเราจะไปกินอะไรกันดีคุยไปคุยมาอยู่นานเราเลยเลือกที่จะไปซื้อของสดที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตกลับไปทำกินกันที่ห้อง เพราะจริงๆ แล้วเขาไม่ค่อยชอบที่ที่มีคนเยอะเยอะและมีอากาศร้อนเท่าไหร่ ชอบทานรสจัดแต่ต้องไม่เผ็ดมากด้วย ทำฉันแอบรู้สึกผิดที่พาเขาไปทานทั้งผัดกระเพราร้านร้อนร้อนกับซีฟู้ดแซ่บแซ่บเมื่อสองมื้อก่อนเลย มิหน่าละ ตอนนั้นเขาถึงหน้าแดงปากแดงแถมเหงื่อออกเยอะด้วย ฉันเลยขอไถ่โทษโดยการลงมือทำสปาเก็ตตี้คาโบนาร่ากับผักโขมอบชีสให้เขาทาน เพิ่มเฟรนช์ฟรายส์ทอดไว้ให้เขาทานเล่นระหว่างรอฉันด้วย เพราะฉันต้องรีบทำรายงานต่อจึงเลือกใช้ห้องครัวของฉันสำหรับปรุงอาหาร ขืนถ้าหลวมตัวขึ้นไปห้องชั้นบนสุดคงได้เถลไถลจนรายงานไม่เสร็จแน่"น่าทานมากเลยค่ะ""พี่นาวาลองชิมก่อนค่ะ""ถ้าไม่อร่อยค่อยสั่งเดลิเวอรี่กันใหม่
เมื่อคืนกว่าฉันจะได้ลงมานอนห้องตัวเองก็เกือบตีสองเพราะเขาพาฉันดูหนังจนจบถึงสองเรื่องทำฉันเกือบจะได้หลับอยู่บนโซฟาหน้าทีวีกับเขาแล้ว ดีที่เสียงข้อความจากพี่ลันดังขึ้นทำฉันที่กำลังสะลึมสะลืมนอนหนุนตักแกร่งอยู่สะดุ้งตัวตื่นเต็มตาหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาดูและเปิดเพลงที่พี่ลันพึ่งอัดเสร็จส่งมาให้ฉันลองฟัง ฉันเลยหยิบแอร์พอร์ตในกระเป๋ามาใส่ที่หูฉันข้างหนึ่งและหูของเขาข้างหนึ่งเปิดผลงานของพี่ชายให้เขาได้ฟังด้วยกัน เขาถึงกับทึ่งในความสามารถของพี่ลันที่อายุเท่ากันกับเขา แถมให้ฉันเปิดรูปพี่ชายสุดหล่อของฉันให้เขาดูอีก ฉันว่าก็สูสีกันอยู่นะ แต่พี่ลันจะเซอร์กว่าหน่อย ส่วนพี่นาวาก็เท่ห์กว่านิดนึง"หนูง่วงยังคะ""นอนห้องพี่ก็ได้นะ""ลลิลคิดถึงหมอนข้างที่ห้องค่ะ""พี่ก็เป็นหมอนข้างให้หนูได้เหมือนกัน""ไว้ลลิลมาดูหนังด้วยอีกนะคะ""..."เท่านั้นแหละเขาก็ชักสีหน้าเป็นบึ้งตึงเหมือนเด็กน้อยเอาแต่ใจใส่ฉันทันทีและเดินล้วงกระเป๋าก้าวขายาวๆ นำฉันออกไปที่ลิฟต์ไม่รอฉันเลยแม้แต่น้อยจนฉันต้องรีบซอยเท้าเพื่อให้ทันเขา ไม่มีเสียงพูดคุยแม้แต่คำเดียวมีเพียงเสียงลิฟต์ให้ได้ยินว่าถึงชั้นของฉันแล้ว ฉันเลยเดินก้ม