และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่เขามารับฉันหลังเลิกเรียนเพื่อไปถ่ายแบบเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ของแบรนด์เขาต่อช่วงบ่าย ซึ่งเขาก็ดูแลจัดคิวไม่ให้กระทบต่อชั่วโมงเรียนของฉัน เรียกว่าใส่ใจรายละเอียดสุดสุด พอมาถึงเขาก็พาฉันเข้ามาในห้องแต่งตัวเพื่อแต่งหน้าทำผมท่ามกลางสีหน้าและสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยและรอยยิ้มกรุ่มกริ่มส่งมาเมื่อเห็นฉัน พี่พี่ทีมงานถูกบรีฟมาว่าขอลุคใสใสเกาหลีเกาใจที่สามารถเข้ากับเสื้อผ้าได้ลุค หลังจากที่ฉันถูกแปลงโฉมจนเสร็จเรียบร้อย ก็รีบเข้าไปเปลี่ยนเป็นชุดจั้มสูทเกาะอกกางเกงขาสั้นผ้าทวิตญี่ปุ่นที่สามารถใส่ได้หลายแบบ คู่กับรองเท้าแมรี่เจนสีแดงและถุงเท้าลายลูกไม้ยาวเลยข้อขึ้นมานิดหน่อยให้ดูน่ารักซุกซนเซ็กซี่เล็กเล็ก และมีเสื้อคุมแขนยาวลุคลูกคุณเข้าชุดกันที่เตรียมไว้สำหรับถ่ายในเซ็ตต่อไป ซึ่งฉันต้องพยายามคลายความตื่นเต้นโดยการสูดลมหายใจเข้าออกลึกลึกและรีบเดินออกมาพร้อมเข้าฉากเพื่อไม่ให้ทุกคนรอนาน แต่สายตาคู่สวยของฉันก็ต้องสะดุดเข้ากับตากล้องหนุ่มสุดหล่อที่อยู่ในกางเกงยีนส์สีดำเสื้อคอกลมสีขาวด้านในสวมแจ๊คเก็ตยีนส์สีเข้ากับกางเกงตามด้วยรองเท้าผ้าใบสีขาวดำยี่ห้อดังราวกับเป็นนายแบบยืนรอหลังเลนส์เตรียมความพร้อมอยู่ก่อน จะเป็นใครไม่ได้เลยถ้าไม่ใช่เขา เจ้าของแบรนด์ที่จ้างงานฉันมาในวันนี้ ทำฉันรู้สึกเกร็งหนักขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย
"ขอยิ้มร่าเริงกว่านี้นิดนึงค่ะ" "น่ารักมากครับ" "หนู อย่าก้มเยอะค่ะ" "..." "โอเค ดีค่ะ" "อีกรูปนะคะ" "..." "หนู ไม่ต้องยกขาสูงค่ะ" "แค่นี้พอครับ" "โอเค ดีครับ" "..." "ฟิลถ่ายรูปให้แฟนเว่อ" "บอสหวงหนักมาก...ก" "..." ฉันที่กำลังทำงานด้วยความตั้งใจพยายามไม่เขินเวลาที่เขาเดินเข้ามาจัดแขนขาให้แต่เหมือนยิ่งพยายามเท่าไหร่ความเขินอายก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเมื่อได้ยินพี่พี่ทีมงานซุบซิบกันเสียงดังตลอดเวลาทุกครั้งที่เขาเดินเขามากำกับท่าทางของฉันแถมยังทำหน้าดุมองฉันเขม่นคิ้วขมวดผูกโบว์ทันทีถ้าเห็นฉันก้มตัวลงมามากไปหรือจังหวะนั่งแล้วยกขาขึ้นมาสูงเกินไปสำหรับเขาทำฉันแทบจะนั่งเหยียดขาราบไปกับพื้นและยืนตรงเหมือนถ่ายพาสปอร์ตอยู่แล้ว ไม่เหมือนที่ฉันเคยเห็นและทำการบ้านจากคอลเลคชั่นที่ผ่านมาของเขาเลย จนเข้าเซ็ตที่สองพี่เลขาเป็นคนเดินเอาเสื้อคลุมและรองเท้าส้นแหลมสูงเพื่อเตรียมถ่ายชุดต่อไปมาให้ฉันที่กำลังยืนให้พี่ช่างแต่งหน้าซับเหงื่อและเติมเมคอัพให้เข้มขึ้นเล็กน้อยเสริมลุคให้ดูเป็นลูกคุณและเวิร์คกิ้งวูแมนในเวลาเดียวกันแล้วแต่ว่าใครจะเลือกมองมุมไหนเหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวใส่ชุดเดียวเปลี่ยนได้หลายลุคหลายสไตล์ ส่วนเขาก็หายไปกับกลีบเมฆทันทีที่กดชัตเตอร์รูปสุดท้ายเสร็จ ทิ้งฉันไว้คนเดียวท่ามกลางเสียงพูดแซวที่มีมาให้ได้ยินอยู่ไม่ขาด แต่อยู่อยู่เสียงพูดคุยที่ดังอยู่ก็ต้องหยุดทันทีแล้วพากันเดินหนีกันไปด้านหลังกล้องทำฉันอดสงสัยไม่ได้เลยหันกลับไปมองหาสาเหตุด้วยสีหน้างุนงง ก็เห็นเป็นเขาที่กำลังเดินเข้ามามีอเมริกาโน่เย็นกับชานมไข่มุกในมือตรงมาที่ฉัน "เหนื่อยมั้ยคะ" "พี่ไปหาซื้อชานมไข่มุกมาให้" "ขะ ขอบคุณค่ะ" "เป็นอะไรคะ ร้อนหรอ" "หน้าหนูแดงมาก" "มะ ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ" "หึ หรือว่าเขิน" "พี่นาวา!" "พี่ไม่แกล้งแล้วครับ" "อีกสามชุดไหวมั้ย" "ลลิลไหวค่ะ" "แต่ลลิลอยากฟิลฟรีมากกว่านี้" "พี่นาวาอย่าดุลลิลได้มั้ย" "ลลิลอยากให้งานของพี่ออกมาดีที่สุด" "ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด" "ก็พี่หวงนี่" "แต่มันเป็นงานนะคะ" "แล้วพี่นาวาก็เป็นคนเลือกลลิลมาเอง" "จะงอแงแบบนี้ไม่ได้นะคะ" "..." "ไม่ต้องทำหน้างอเลยค่ะ" "รีบถ่ายรีบกลับไปทำอาหารกินกันนะ" "วันนี้ลลิลทำให้ทานเอง" "ครับ" ฟอด "พี่นาวา!" ผมมั่นใจว่าระหว่างที่ผมยืนคุยกับนางแบบคนสวยของผม ทีมงานได้พากันเดินออกไปนอกฉากหมดแล้วปล่อยให้ผมกับน้องได้มีเวลาส่วนตัวอยู่คุยกันสองคน เลยอาศัยจังหวะที่เธอเผลอก้มลงไปกดจมูกมีสันของผมเข้าที่แก้มนุ่มนุ่มของเธอเพียงเบาเบาเพราะกลัวว่าจะทำให้เธอต้องเติมหน้าใหม่ อันที่จริงปกติแบรนด์ของผมจะจ้างช่างภาพมืออาชีพมาถ่ายงานให้ ผมแค่มาคอยดูความเรียบร้อยและบรีฟให้ตรงตามคอนเซ็ปเท่านั้น แต่พอเป็นเธอนางแบบที่ผมเลือกมาเองตามที่เธอว่า ผมกลับอยากเป็นคนกดชัตเตอร์ให้เองคอยสกรีนทุกท่าทุกมุมด้วยตัวเองทำให้ผมมาทำหน้าที่อยู่หลังกล้องอย่างนี้ แต่มันก็อดรู้สึกหงุดหงิดไม่ได้ทุกครั้งเวลาที่เธอก้มตัวจนเห็นเนินภูเขาขาวขาวหรือยกขาไขว่ห้างอวดเรียวขาสวยสวยเพราะเธออยากเป็นไม้แขวนเสื้อที่พรีเซนต์เสื้อผ้าของผมออกมาให้เหมือนมืออาชีพที่สุดและดีที่สุดไม่อยากให้ใครมาว่าผมได้ภายหลัง และอย่างเมื่อครู่นี้เธอก็พยายามอธิบายอย่างใจเย็นโดยใช้น้ำเสียงออดอ้อนราวกับเอาน้ำแข็งเข้าลูบให้ผมเคลิ้มตามเธอ ปล่อยให้เธอโพสต์ท่าทางในอีกสามชุดที่เหลือได้อย่างอิสระตามที่เธอขอซึ่งมันก็ส่งผลดีต่องานของผมจริงๆ ภาพดูเป็นธรรมชาติ นางแบบดูสบายตา เสื้อผ้าดูมีลูกเล่นหลากสไตล์"ทุกคนนน ลลิลพึ่งเอฟชุดมาใหม่ค่ะ""ดูซิคะ แค่แพ็คเก็ตก็ดีงามแล้ว""ลลิลจะเริ่มแล้วนะคะ""เป็นไงคะ ชุดแรกน่ารักเนอะ""ลลิลว่าน่ารัก""ถ้าใส่กับรองเท้าคู่นี้จะเข้ากันมั้ยนะ""เดี๋ยวลลิลลองให้ดูค่ะ""เริ่ดอยู่นะ เป็นเอฟเวอรี่เดย์ลุค""อุ้ยยย เสื้อตัวนี้น่ารักไม่ไหว""แต่ว่าใส่ยังไงละเนี่ย""แบบนี้หรอ หรือว่าแบบนี้""ใครรู้วิธีใส่เสื้อตัวนี้คอมเมนต์มาบอกลลิลหน่อยนะคะ""วอนเจ้าของแบรนด์ส่งฮาวทูมาให้ที พลีชชช"NvCharm ส่งของขวัญ 'ติ๊กต๊อก ยูนิเวอร์ส' x2"ว้าว ขอบคุณ คุณ NvCharm ตามมาส่งของขวัญให้ลลิลถึงติ๊กต๊อกเลย"ผมขึ้นมานั่งดูเธอไลฟ์ในติ๊กต๊อกบนห้องของผมที่อยู่ชั้นบนสุดเพราะกลัวว่าถ้าผมนั่งหลบมุมในห้องของเธอถ้าชาวเน็ตตาดีเห็นเงาผมขึ้นมาอาจส่งผลกระทบกับเธอก็ได้ และอีกอย่างผมจะได้กดส่งของขวัญให้เธอได้สะดวก ซึ่งเสื้อผ้าที่เธอแกะจากห่อมาลองใส่วิ่งเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่หน้าไลฟ์ก็เป็นเสื้อผ้าจากแบรนด์ของผมที่เธอแอบสั่งมาโดยใช้ชื่อและที่อยู่ของหนูมายบ้างน้องมินนี่บ้างเพราะเธอกลัวว่าพนักงานในร้านจะจำชื่อเธอได้แล้วเธอจะไม่ได้อุดหนุนสินค้าของผม ว่าที่แฟนของผมน่ารักใช่มั้ย น่ารักซะจนผมหลงเธอไม
ผมค่อยๆ ถอยริมฝีปากออกโดยที่ยังวางทาบไว้ตรงริมฝีปากหวานเปิดโอกาสให้เธอได้พักหายใจสักหน่อยแต่เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้นผมก็จัดการส่งลิ้นร้อนเข้าไปรุกล้ำในโพรงปากเล็กเพื่อควานหาน้ำหวานอีกครั้ง พอยิ่งได้ยินเสียงครางประท้วงเล็กเล็กของเธอก็ยิ่งทำให้อารมณ์ภายในที่ซ่อนไว้มานานพลุ่งพล่านมากขึ้น ผมค่อยๆ ดันตัวเธอให้นอนราบไปกับโซฟานุ่มนุ่มโดยที่มือข้างหนึ่งทำหน้าที่ประคองศีรษะเธอเอาไว้คอยนวดผ่อนคลายให้เธอไปด้วย ส่วนอีกข้างก็ทำหน้าที่บีบนวดลูกบอลนิ่มนิ่มให้เธอไม่ห่างนานนับนาทีเพื่อให้เธอปรับตัวและปล่อยใจไปกับผมก่อนจะค่อยๆ เลื่อนริมฝีปากร้อนลงมากดจูบที่คางหนึ่งทีซุกไซร้ตามลำคอหอมหอมด้วยความหลงไหล มืออันแสนซุกซนของผมค่อยๆ เลื่อนลูบไล้ตามผิวเนียนลื่นตั้งแต่หน้าท้องเรื่อยลงมาจนถึงต้นขาขาว แล้วค่อยๆ เลื่อนนิ้วร้ายเข้าไปใกล้จุดสั่นไหวของเธอทีละนิดทีละนิด จนสามารถแทรกเข้าไปภายใต้แพนตี้ตัวจิ๋วของเธอ ได้สัมผัสเนินนุ่มนิ่มจนผมอยากจะลองดันนิ้วเข้าไปหาเกสรดอกไม้เล็กเล็กสักหน่อยแล้วกดซ้ำๆ อยู่อย่างนั้นจนมีน้ำหวานไหลปริ่มออกมา เบี่ยงเบนความสนใจจากนิ้วเรียวที่กำลังแทรกตัวเข้าไปในช่องคับแคบโดยการเลื่อนตัวขึ้นไป
"หนูเป็นแฟนพี่นะคะ""...""...คะ ค่ะ"ฉันนั่งเปิดดูสตอรี่ที่เขาลงให้ตอนอยู่ร้านอาหารญี่ปุ่นเมื่อสองชั่วโมงก่อนวนไปซ้ำๆ เพื่อให้แน่ใจว่าฉันไม่ได้ฝันไปหรือว่าฟังผิดจนคิดเข้าข้างตัวเอง แต่ก็มีหลักฐานอย่างข้อความไดเรคที่เพื่อนๆ ส่งเข้ามาแซวไม่หยุด แถมห้องแชทกลุ่มก็ดังรัวจนแทบระเบิดเป็นสิ่งยืนยันช่วยให้ฉันมั่นใจว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นคือเรื่องจริง จนเสียงประตูห้องน้ำเปิดขึ้นฉันเลยหันไปตามเสียง แต่ภาพที่เห็นไม่อ่อนโยนต่อใจฉันเลยเพราะเขาเล่นเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพที่ท่อนบนเปลือยเปล่าโชว์แผงอกขาวขาวกล้ามหน้าท้องแน่นๆ พาสายตาฉันมองไล่ลงมาเรื่อยๆ จนเห็นไลน์วีเชฟดูเซ็กซี่มากมาก แต่ต้องมาหยุดอยู่ตรงปมผ้าขนหนูสีขาวที่ผูกปมไว้อย่างหมิ่นเหม่ เลยทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นไปมองใบหน้าหล่อหล่อที่กำลังยืนเช็ดผมและมองฉันด้วยสายตากรุ่มกริ่มแอบอมยิ้มอยู่ก่อน น่าขายหน้าชะมัดเลยลลิลเอ้ย"หนูเช็ดผมให้พี่หน่อยสิ""แต่พี่ยืนเช็ดจนจะแห้งแล้วนะ""พี่อยากให้หนูเช็ดให้""งั้นก็นั่งสิคะ ลลิลเช็ดให้ไม่ถึง"ฉันเลยต้องเดินเข้าไปหาเขาที่นั่งอยู่บนเ
"พูดมากเหมือนกันนะมึงอะ""ดูร้อนเหมือนกันนะพี่อะ""ดีดีนะเว้ยพี่ ผมสามคนดูแลเพื่อนมาเป็นอย่างดี""เออ" "ถ้าทำเพื่อนผมเสียใจ เพจร้านพี่ปลิวทุกแพลทฟอร์มในสองนาที""...""เตอร์ไม่ต้องขู่พี่เขาเลยนะ" "พี่นาวาต้องขอบคุณมายน๊า ที่มายกล้าเดินไปหาพี่""คับ ขอบคุณคับผม หึ""น้องมายกับน้องมินนี่เข้าไปเลือกชุดที่ร้านพี่ได้เลยนะ""จุ้นจ้านสุดสุด""นี่หิวอาหารเม็ดหรอ"ที่ผมเคยได้ยินว่าหนูมายกับไอ้นายเป็นคู่กัดกัน ไม่เกินจริงเลยสักนิด เพราะหลังจากที่ผมปะทะคารมและตอบรับคำไอ้เตอร์กับไอ้กายเสร็จ ก็กลายมาเป็นผู้ชมนั่งดูเด็กสองคนนี้ตีกันจนผมแอบสงสารแฟนคนสวยกับไอ้กายที่นั่งรถมาคันเดียวกันสี่คนคงจะปวดหัวน่าดู ก่อนจะหันมาสนใจเธอที่กำลังนั่งกินครัวซองค์กับชาเย็นอย่างเอร็ดอร่อย แต่ท่านั่งของเธอทำผมรู้สึกขัดใจอยู่ไม่น้อยเพราะเธอเล่นนั่งไม่ระวัง จนผมต้องเอื้อมไปหยิบกระเป๋าโน๊ตบุ้คมาวางปิดที่ต้นขาขาวให้และมองด้วยสายตาเอ็ดดุใส่เธอไปเพียงแวบเดียวเท่านั้นก็ต้องแพ้ให้กับลูกอ้อนของเธอที่ส่งยิ้มตาหยีตั
จะว่าไปตลอดหลายวันที่ผ่านมาฉันแอบคิดสิ่งที่สงสัยมาตลอดว่าคนที่เป็นแฟนตัวยงของฉันในทุกช่องทางโซเชี่ยล คนที่คอยส่งของขวัญราคาแพงแพงให้ใช่เขาหรือป่าว เพราะฉันพึ่งสังเกตเห็นชื่อแบรนด์เสื้อผ้าของเขา 'CHARM' เมื่อวันที่ฉันไปถ่ายแบบ ป้ายโลโก้บนถุงแพ็คเก็ตที่ฉันแอบเอฟมา มันตรงกับชื่อต่อท้ายของใครคนนั้น แถมอักษรย่อ 'Nvcharm' ก็ต้องเป็นชื่อเขาไม่ผิดแน่ เป็นคนเดียวกับที่พึ่งส่งซุปเปอร์แต๊งค์และคอมเมนต์ที่ชาวเน็ตพากันกดโกรธ แต่ที่ฉันพึ่งสงสัยก็เพราะทุกช่องทางการติดต่อและโซเชี่ยลส่วนตัวของเขาที่ใช้คุยกับฉัน เขาใช้ชื่อจริง 'nava.nutthakorn' ถ้าเป็นเขาจริงๆ ฉันคงตื่นเต้นมากแน่ๆ เพราะมันเป็นพรมหมลิขิตชัดชัดเลย"พี่นาวาขา วันนี้แฟนตัวยงของลลิลน่าสงสารมาก""ยังไงคะ""เพราะโดนแฟนคลับของลลิลพากันรุมกดโกรธคอมเมนต์ของเขาเป็นพันคนเลยค่ะ""หึ แล้วหนูจะปลอบใจเขายังไงดี""ลลิลว่าส่งข้อความไปหาหน่อยดีกว่า""ตั้งแต่ทำช่องมาลลิลไม่เคยขอบคุณเขาอย่างจริงจังเลยค่ะ""..."ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง"ไม่ดูมือถือหน่อยหรอคะ""เผื่อมีธุระด่วน
"ยัยมาย ฉันชอบนักร้องคนนี้จัง""ฉันไปขอคอนแทคให้เอามั้ย""จะดีหรอ""แหมมมม ลลิล"วันนี้ฉันมาฉลองยอดไลค์และยอดซับสไครบของช่อง LALIL ครบหนึ่งแสน มีหนูมายกับยัยมินคนสำคัญของช่องมาร่วมฉลองให้กับฉันด้วย เพราะมีเพื่อนรักอย่างสองคนนี้คอยช่วยคิดคอนเทนต์ ช่วยคอมเมนต์ และหลายครั้งที่มาเป็นแขกรับเชิญให้กับฉันทำให้อีพีนั้นยอดวิวสูงสุดสุดเพราะความน่ารักสวยสดใสและเป็นธรรมชาติของพวกนางสองคน โดยร้านที่พวกเราเลือกมาก็มีเพื่อนอย่างติวเตอร์เป็นเจ้าของ ถ้าเกิดฉันเมาเกินไปยังไงก็ปลอดภัยห่างห่วงที่จริงฉันก็มาร้านเตอร์อยู่หลายครั้งหรือเรียกว่าเป็นขาประจำเลยจะดีกว่า แต่ยังไม่เคยเจอ นักร้องคนนี้เลย เขาเสียงแหบมีเสน่ห์ สูง ผิวสองสีกำลังดี ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำลงมาสามเม็ดเผยให้เห็นแผงอกแกร่งดูมีกล้ามแน่นๆ ซ่อนอยู่ ใส่ต่างหูสีดำหนึ่งข้าง ให้ลุคเพลย์บอยนิดๆ เจ้าชู้หน่อยๆ สายตาคมกรุ่มกริ่มที่ส่งลงมาจากเวทีดูขี้เล่น แต่คงไม่ซุกซนเท่าสายตาของฉันที่มองเขาอยู่ตอนนี้ น้องลลิลอยากได้คนนี้... ติ๊งnava.nutthakorn : ทักครับ 😙nava.nutthakorn : พี่นาวาคับผมnava.nutthakorn : ไปหาที่เงียบๆ คุยกันมั้ยคับน้องลลิ
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความบังเอิญหรือพรหมลิขิตที่พาให้ฉันเข้ามาใกล้เขามากขนาดนี้ เพราะระหว่างทางที่เขากำลังขับรถไปส่งฉัน กลับกลายเป็นเราใช้เส้นทางเดียวกัน ถนนเดียวกัน เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาเหมือนกัน และเราอยู่คอนโดเดียวกัน ต่างกันแค่ชั้นบนสุดเป็นของเขา ส่วนฉันอยู่ชั้นกลางกลางเท่านั้นเอง ห่างกันแค่นี้เองยัยลลิล โชคชะตานำพาสุดสุดไปเลยระหว่างที่ฉันกำลังจะออกจากลิฟต์โดยสารที่ขึ้นมาพร้อมกับเขา แต่สองขาก็ต้องหยุดชะงัก เพราะเขาไม่ยอมปล่อยมือหนาออกจากมือของฉันที่เขาจับเล่นมาตลอดทางตั้งแต่อยู่ในรถราวกับเป็นสกุชชี่ให้เขาคอยบีบเล่น ฉันหันกลับไปมองเขาที่ยืนไขว้ขาใช้หลังแกร่งพิงกระจกในลิฟต์เอามือล้วงกระเป๋ากางเกงข้างหนึ่งด้วยสายตางุนงงแฝงความสงสัย ก่อนที่หัวใจดวงน้อยจะเต้นระรัวอีกครั้งกับคำถามของเขา"หนูคะ" "คะ พี่นาวา""หนูง่วงรึยัง""ยังไม่ง่วงค่ะ ปกติลลิลนอนดึก""ขึ้นไปดูหนังห้องพี่มั้ยคะ""..." ติ๊งผมที่ไม่อยากเสียโอกาสไป จึงใช้จังหวะเธอเผลอหันมาคุยกับผมเนียนพาเธอขึ้นมาชั้นบนสุดที่ผมอยู่ ชั้นนี้มีแค่ห้องผมคนเดียวเท่านั้น จนเสียงลิฟต์ที่ดังขึ้นทำเธอตกใจจนหน้าสวยสวยของเธอแสดงความเลิ่กลั่กออกมาโดย
เช้าวันใหม่ที่แสนสดใสของฉันกับอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของเขา ฉันพยายามค่อยๆ ขยับตัวทีละนิดทีละนิด เพื่อจะได้ไม่รบกวนเขาและฉันก็กลัวว่าเขาจะตื่นขึ้นมาเจอหน้าสดไร้เครื่องสำอางของฉันด้วย แต่ที่ไม่มั่นใจสุดสุดไปเลยก็คือกลิ่นปากตอนตื่นนอนที่ยังไม่ได้แปรงฟันไม่ได้ทำความสะอาดนี่แหละ รีบไปจัดการตัวเองก่อนดีกว่า ไม่อย่างนั้นอายแน่เลยยัยลลิลหลังจากฉันล้างหน้าล้างตาบ้วนปากเสร็จ พี่เขาก็ยังคงนอนคว่ำหน้าหลับตาพริ้มอยู่บนที่นอนขนาดใหญ่สีเทาเข้ม ฉันอยากจะกลับไปห้องตัวเองแต่ก็ไม่รู้รหัสเปิดประตู ครั้งจะปลุกแต่ก็ไม่กล้า เลยขอแอบเดินดูวิวตรงกระจกที่เห็นวิวเมืองมุมกว้างมีแสงพระอาทิตย์ยามเช้าสอดส่อง สวยจัง ห้องนี้คงราคาสูงริบน่าดู รอไปรอมาท้องก็เริ่มส่งเสียงร้องประท้วงด้วยความหิว ไหนๆ ก็ไหนๆแล้วฉันเลยถือวิสาสะไปดูในตู้เย็นหน่อยแล้วกันเผื่อจะมีของสดติดตู้ไว้บ้างจะได้ทำอาหารเช้าเป็นการตอบแทนสำหรับการดูแลเป็นอย่างดีตลอดสิบชั่วโมงที่เรารู้จักกัน โชคดีที่ในตู้เย็นมีไข่ไก่กับไส้กรอกพอสำหรับสองที่ ฉันเลยทำไข่ตุ๋นสไตล์ญี่ปุ่นแบบง่ายๆ สองถ้วยทานรองท้องเป็นมื้อเช้าของเราสองคน"หอมจังเลยค่ะ""อุ้ย ตื่นแล้วหรอคะ" "ลล
จะว่าไปตลอดหลายวันที่ผ่านมาฉันแอบคิดสิ่งที่สงสัยมาตลอดว่าคนที่เป็นแฟนตัวยงของฉันในทุกช่องทางโซเชี่ยล คนที่คอยส่งของขวัญราคาแพงแพงให้ใช่เขาหรือป่าว เพราะฉันพึ่งสังเกตเห็นชื่อแบรนด์เสื้อผ้าของเขา 'CHARM' เมื่อวันที่ฉันไปถ่ายแบบ ป้ายโลโก้บนถุงแพ็คเก็ตที่ฉันแอบเอฟมา มันตรงกับชื่อต่อท้ายของใครคนนั้น แถมอักษรย่อ 'Nvcharm' ก็ต้องเป็นชื่อเขาไม่ผิดแน่ เป็นคนเดียวกับที่พึ่งส่งซุปเปอร์แต๊งค์และคอมเมนต์ที่ชาวเน็ตพากันกดโกรธ แต่ที่ฉันพึ่งสงสัยก็เพราะทุกช่องทางการติดต่อและโซเชี่ยลส่วนตัวของเขาที่ใช้คุยกับฉัน เขาใช้ชื่อจริง 'nava.nutthakorn' ถ้าเป็นเขาจริงๆ ฉันคงตื่นเต้นมากแน่ๆ เพราะมันเป็นพรมหมลิขิตชัดชัดเลย"พี่นาวาขา วันนี้แฟนตัวยงของลลิลน่าสงสารมาก""ยังไงคะ""เพราะโดนแฟนคลับของลลิลพากันรุมกดโกรธคอมเมนต์ของเขาเป็นพันคนเลยค่ะ""หึ แล้วหนูจะปลอบใจเขายังไงดี""ลลิลว่าส่งข้อความไปหาหน่อยดีกว่า""ตั้งแต่ทำช่องมาลลิลไม่เคยขอบคุณเขาอย่างจริงจังเลยค่ะ""..."ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง"ไม่ดูมือถือหน่อยหรอคะ""เผื่อมีธุระด่วน
"พูดมากเหมือนกันนะมึงอะ""ดูร้อนเหมือนกันนะพี่อะ""ดีดีนะเว้ยพี่ ผมสามคนดูแลเพื่อนมาเป็นอย่างดี""เออ" "ถ้าทำเพื่อนผมเสียใจ เพจร้านพี่ปลิวทุกแพลทฟอร์มในสองนาที""...""เตอร์ไม่ต้องขู่พี่เขาเลยนะ" "พี่นาวาต้องขอบคุณมายน๊า ที่มายกล้าเดินไปหาพี่""คับ ขอบคุณคับผม หึ""น้องมายกับน้องมินนี่เข้าไปเลือกชุดที่ร้านพี่ได้เลยนะ""จุ้นจ้านสุดสุด""นี่หิวอาหารเม็ดหรอ"ที่ผมเคยได้ยินว่าหนูมายกับไอ้นายเป็นคู่กัดกัน ไม่เกินจริงเลยสักนิด เพราะหลังจากที่ผมปะทะคารมและตอบรับคำไอ้เตอร์กับไอ้กายเสร็จ ก็กลายมาเป็นผู้ชมนั่งดูเด็กสองคนนี้ตีกันจนผมแอบสงสารแฟนคนสวยกับไอ้กายที่นั่งรถมาคันเดียวกันสี่คนคงจะปวดหัวน่าดู ก่อนจะหันมาสนใจเธอที่กำลังนั่งกินครัวซองค์กับชาเย็นอย่างเอร็ดอร่อย แต่ท่านั่งของเธอทำผมรู้สึกขัดใจอยู่ไม่น้อยเพราะเธอเล่นนั่งไม่ระวัง จนผมต้องเอื้อมไปหยิบกระเป๋าโน๊ตบุ้คมาวางปิดที่ต้นขาขาวให้และมองด้วยสายตาเอ็ดดุใส่เธอไปเพียงแวบเดียวเท่านั้นก็ต้องแพ้ให้กับลูกอ้อนของเธอที่ส่งยิ้มตาหยีตั
"หนูเป็นแฟนพี่นะคะ""...""...คะ ค่ะ"ฉันนั่งเปิดดูสตอรี่ที่เขาลงให้ตอนอยู่ร้านอาหารญี่ปุ่นเมื่อสองชั่วโมงก่อนวนไปซ้ำๆ เพื่อให้แน่ใจว่าฉันไม่ได้ฝันไปหรือว่าฟังผิดจนคิดเข้าข้างตัวเอง แต่ก็มีหลักฐานอย่างข้อความไดเรคที่เพื่อนๆ ส่งเข้ามาแซวไม่หยุด แถมห้องแชทกลุ่มก็ดังรัวจนแทบระเบิดเป็นสิ่งยืนยันช่วยให้ฉันมั่นใจว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นคือเรื่องจริง จนเสียงประตูห้องน้ำเปิดขึ้นฉันเลยหันไปตามเสียง แต่ภาพที่เห็นไม่อ่อนโยนต่อใจฉันเลยเพราะเขาเล่นเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพที่ท่อนบนเปลือยเปล่าโชว์แผงอกขาวขาวกล้ามหน้าท้องแน่นๆ พาสายตาฉันมองไล่ลงมาเรื่อยๆ จนเห็นไลน์วีเชฟดูเซ็กซี่มากมาก แต่ต้องมาหยุดอยู่ตรงปมผ้าขนหนูสีขาวที่ผูกปมไว้อย่างหมิ่นเหม่ เลยทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นไปมองใบหน้าหล่อหล่อที่กำลังยืนเช็ดผมและมองฉันด้วยสายตากรุ่มกริ่มแอบอมยิ้มอยู่ก่อน น่าขายหน้าชะมัดเลยลลิลเอ้ย"หนูเช็ดผมให้พี่หน่อยสิ""แต่พี่ยืนเช็ดจนจะแห้งแล้วนะ""พี่อยากให้หนูเช็ดให้""งั้นก็นั่งสิคะ ลลิลเช็ดให้ไม่ถึง"ฉันเลยต้องเดินเข้าไปหาเขาที่นั่งอยู่บนเ
ผมค่อยๆ ถอยริมฝีปากออกโดยที่ยังวางทาบไว้ตรงริมฝีปากหวานเปิดโอกาสให้เธอได้พักหายใจสักหน่อยแต่เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้นผมก็จัดการส่งลิ้นร้อนเข้าไปรุกล้ำในโพรงปากเล็กเพื่อควานหาน้ำหวานอีกครั้ง พอยิ่งได้ยินเสียงครางประท้วงเล็กเล็กของเธอก็ยิ่งทำให้อารมณ์ภายในที่ซ่อนไว้มานานพลุ่งพล่านมากขึ้น ผมค่อยๆ ดันตัวเธอให้นอนราบไปกับโซฟานุ่มนุ่มโดยที่มือข้างหนึ่งทำหน้าที่ประคองศีรษะเธอเอาไว้คอยนวดผ่อนคลายให้เธอไปด้วย ส่วนอีกข้างก็ทำหน้าที่บีบนวดลูกบอลนิ่มนิ่มให้เธอไม่ห่างนานนับนาทีเพื่อให้เธอปรับตัวและปล่อยใจไปกับผมก่อนจะค่อยๆ เลื่อนริมฝีปากร้อนลงมากดจูบที่คางหนึ่งทีซุกไซร้ตามลำคอหอมหอมด้วยความหลงไหล มืออันแสนซุกซนของผมค่อยๆ เลื่อนลูบไล้ตามผิวเนียนลื่นตั้งแต่หน้าท้องเรื่อยลงมาจนถึงต้นขาขาว แล้วค่อยๆ เลื่อนนิ้วร้ายเข้าไปใกล้จุดสั่นไหวของเธอทีละนิดทีละนิด จนสามารถแทรกเข้าไปภายใต้แพนตี้ตัวจิ๋วของเธอ ได้สัมผัสเนินนุ่มนิ่มจนผมอยากจะลองดันนิ้วเข้าไปหาเกสรดอกไม้เล็กเล็กสักหน่อยแล้วกดซ้ำๆ อยู่อย่างนั้นจนมีน้ำหวานไหลปริ่มออกมา เบี่ยงเบนความสนใจจากนิ้วเรียวที่กำลังแทรกตัวเข้าไปในช่องคับแคบโดยการเลื่อนตัวขึ้นไป
"ทุกคนนน ลลิลพึ่งเอฟชุดมาใหม่ค่ะ""ดูซิคะ แค่แพ็คเก็ตก็ดีงามแล้ว""ลลิลจะเริ่มแล้วนะคะ""เป็นไงคะ ชุดแรกน่ารักเนอะ""ลลิลว่าน่ารัก""ถ้าใส่กับรองเท้าคู่นี้จะเข้ากันมั้ยนะ""เดี๋ยวลลิลลองให้ดูค่ะ""เริ่ดอยู่นะ เป็นเอฟเวอรี่เดย์ลุค""อุ้ยยย เสื้อตัวนี้น่ารักไม่ไหว""แต่ว่าใส่ยังไงละเนี่ย""แบบนี้หรอ หรือว่าแบบนี้""ใครรู้วิธีใส่เสื้อตัวนี้คอมเมนต์มาบอกลลิลหน่อยนะคะ""วอนเจ้าของแบรนด์ส่งฮาวทูมาให้ที พลีชชช"NvCharm ส่งของขวัญ 'ติ๊กต๊อก ยูนิเวอร์ส' x2"ว้าว ขอบคุณ คุณ NvCharm ตามมาส่งของขวัญให้ลลิลถึงติ๊กต๊อกเลย"ผมขึ้นมานั่งดูเธอไลฟ์ในติ๊กต๊อกบนห้องของผมที่อยู่ชั้นบนสุดเพราะกลัวว่าถ้าผมนั่งหลบมุมในห้องของเธอถ้าชาวเน็ตตาดีเห็นเงาผมขึ้นมาอาจส่งผลกระทบกับเธอก็ได้ และอีกอย่างผมจะได้กดส่งของขวัญให้เธอได้สะดวก ซึ่งเสื้อผ้าที่เธอแกะจากห่อมาลองใส่วิ่งเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่หน้าไลฟ์ก็เป็นเสื้อผ้าจากแบรนด์ของผมที่เธอแอบสั่งมาโดยใช้ชื่อและที่อยู่ของหนูมายบ้างน้องมินนี่บ้างเพราะเธอกลัวว่าพนักงานในร้านจะจำชื่อเธอได้แล้วเธอจะไม่ได้อุดหนุนสินค้าของผม ว่าที่แฟนของผมน่ารักใช่มั้ย น่ารักซะจนผมหลงเธอไม
และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่เขามารับฉันหลังเลิกเรียนเพื่อไปถ่ายแบบเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ของแบรนด์เขาต่อช่วงบ่าย ซึ่งเขาก็ดูแลจัดคิวไม่ให้กระทบต่อชั่วโมงเรียนของฉัน เรียกว่าใส่ใจรายละเอียดสุดสุด พอมาถึงเขาก็พาฉันเข้ามาในห้องแต่งตัวเพื่อแต่งหน้าทำผมท่ามกลางสีหน้าและสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยและรอยยิ้มกรุ่มกริ่มส่งมาเมื่อเห็นฉัน พี่พี่ทีมงานถูกบรีฟมาว่าขอลุคใสใสเกาหลีเกาใจที่สามารถเข้ากับเสื้อผ้าได้ลุค หลังจากที่ฉันถูกแปลงโฉมจนเสร็จเรียบร้อย ก็รีบเข้าไปเปลี่ยนเป็นชุดจั้มสูทเกาะอกกางเกงขาสั้นผ้าทวิตญี่ปุ่นที่สามารถใส่ได้หลายแบบ คู่กับรองเท้าแมรี่เจนสีแดงและถุงเท้าลายลูกไม้ยาวเลยข้อขึ้นมานิดหน่อยให้ดูน่ารักซุกซนเซ็กซี่เล็กเล็ก และมีเสื้อคุมแขนยาวลุคลูกคุณเข้าชุดกันที่เตรียมไว้สำหรับถ่ายในเซ็ตต่อไป ซึ่งฉันต้องพยายามคลายความตื่นเต้นโดยการสูดลมหายใจเข้าออกลึกลึกและรีบเดินออกมาพร้อมเข้าฉากเพื่อไม่ให้ทุกคนรอนาน แต่สายตาคู่สวยของฉันก็ต้องสะดุดเข้ากับตากล้องหนุ่มสุดหล่อที่อยู่ในกางเกงยีนส์สีดำเสื้อคอกลมสีขาวด้านในสวมแจ๊คเก็ตยีนส์สีเข้ากับกางเกงตามด้วยรองเท้าผ้าใบสีขาวดำยี่ห้อดังราวกับเป็นนายแบบยืนรอ
"วันนี้พี่ไปร้องเพลง""หนูไปด้วยกันมั้ยคะ""ลลิลว่าจะไปทำคอนเทนต์ที่เยาวราช""รอพี่ร้องเสร็จแล้วไปด้วยกันนะ" "อืมมม งั้นลลิลค่อยไปพรุ่งนี้ก็ได้ค่ะ""วันนี้ไปลลิลกับพี่ก่อน""กินอะไร ทำไมน่ารัก"หลังจากที่ผมหลอกล่อเด็กน้อยได้เรียบร้อย ผมก็กลับมานั่งรอเธออาบน้ำแต่งตัวที่โซฟาหน้าทีวี หยิบมือถือขึ้นมาเปิดคลิปที่เธอลงเมื่อชั่วโมงก่อนเป็นคลิปทำอาหารสั้นสั้นและเหมือนว่าจะเป็นเมนูที่เธอทำให้ผมกินเมื่อวันก่อนอย่างสปาเก็ตตี้คาโบนาร่า ดูน่ากินไปหมด แต่ในคลิปเธอกลับไม่ยอมบอกวิธีทำเบคอนให้กรุบกรอบอยู่ได้นาน แถมยังทิ้งคำพูดในตอนท้ายไว้ว่าขอเก็บสูตรนี้ไว้ให้คนพิเศษได้ทานเท่านั้น ทำเอาชาวเน็ตพากันคอมเมนต์เป็นรูปหัวใจแตกสลายกันรัวรัว ต่างจากผมที่นั่งยิ้มกริ่มอย่างอารมณ์ดีเมื่อได้ยินก็ผมได้ลองกินแล้วนี่นา เพราะฉะนั้นผมเลยกดหัวใจเต็มดวงสีชมพูส่งให้เธอเป็นการสวนกระแส"พี่นาวาไม่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าหรอคะ""อาบค่ะ ก็พี่รอหนู""ลลิลคิดว่าพี่นาวาจะกลับไปอาบที่ห้อง""เสื้อผ้าพี่ก็มีอยู่ในตู้หนู""มิหน่าล่ะ ค่าน้ำห้องลลิลถึงขึ้น""พี่นาวาแอบมาใช้น้ำตอนที่ลลิลไม่อยู่ใช่มั้ยคะ""หึ""ว่าแต่หนูเถอะ...""ใจคอจะย
"ค่าตัวลลิลแพงนะคะ" "ลลิลบอกไว้ก่อนเลย""หึ เท่าไหร่คะที่บอกว่าแพง""อืม....""บุฟเฟ่ต์อร่อยอร่อยหนึ่งปีค่ะ""หึ พี่ให้ทั้งชีวิตเลยค่ะ""..."และสุดท้ายฉันก็สู้เขาไม่ได้อีกตามเคย โดนเขาหยอดกลับมาแบบชนะน็อคอีกเหมือนเดิม ไม่ปล่อยโอกาสให้ฉันทำให้เขารู้สึกหวั่นไหวได้บ้างเลย จนฉันต้องเฉไฉเปลี่ยนเรื่องชวนเขาคุยว่าเราจะไปกินอะไรกันดีคุยไปคุยมาอยู่นานเราเลยเลือกที่จะไปซื้อของสดที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตกลับไปทำกินกันที่ห้อง เพราะจริงๆ แล้วเขาไม่ค่อยชอบที่ที่มีคนเยอะเยอะและมีอากาศร้อนเท่าไหร่ ชอบทานรสจัดแต่ต้องไม่เผ็ดมากด้วย ทำฉันแอบรู้สึกผิดที่พาเขาไปทานทั้งผัดกระเพราร้านร้อนร้อนกับซีฟู้ดแซ่บแซ่บเมื่อสองมื้อก่อนเลย มิหน่าละ ตอนนั้นเขาถึงหน้าแดงปากแดงแถมเหงื่อออกเยอะด้วย ฉันเลยขอไถ่โทษโดยการลงมือทำสปาเก็ตตี้คาโบนาร่ากับผักโขมอบชีสให้เขาทาน เพิ่มเฟรนช์ฟรายส์ทอดไว้ให้เขาทานเล่นระหว่างรอฉันด้วย เพราะฉันต้องรีบทำรายงานต่อจึงเลือกใช้ห้องครัวของฉันสำหรับปรุงอาหาร ขืนถ้าหลวมตัวขึ้นไปห้องชั้นบนสุดคงได้เถลไถลจนรายงานไม่เสร็จแน่"น่าทานมากเลยค่ะ""พี่นาวาลองชิมก่อนค่ะ""ถ้าไม่อร่อยค่อยสั่งเดลิเวอรี่กันใหม่
เมื่อคืนกว่าฉันจะได้ลงมานอนห้องตัวเองก็เกือบตีสองเพราะเขาพาฉันดูหนังจนจบถึงสองเรื่องทำฉันเกือบจะได้หลับอยู่บนโซฟาหน้าทีวีกับเขาแล้ว ดีที่เสียงข้อความจากพี่ลันดังขึ้นทำฉันที่กำลังสะลึมสะลืมนอนหนุนตักแกร่งอยู่สะดุ้งตัวตื่นเต็มตาหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาดูและเปิดเพลงที่พี่ลันพึ่งอัดเสร็จส่งมาให้ฉันลองฟัง ฉันเลยหยิบแอร์พอร์ตในกระเป๋ามาใส่ที่หูฉันข้างหนึ่งและหูของเขาข้างหนึ่งเปิดผลงานของพี่ชายให้เขาได้ฟังด้วยกัน เขาถึงกับทึ่งในความสามารถของพี่ลันที่อายุเท่ากันกับเขา แถมให้ฉันเปิดรูปพี่ชายสุดหล่อของฉันให้เขาดูอีก ฉันว่าก็สูสีกันอยู่นะ แต่พี่ลันจะเซอร์กว่าหน่อย ส่วนพี่นาวาก็เท่ห์กว่านิดนึง"หนูง่วงยังคะ""นอนห้องพี่ก็ได้นะ""ลลิลคิดถึงหมอนข้างที่ห้องค่ะ""พี่ก็เป็นหมอนข้างให้หนูได้เหมือนกัน""ไว้ลลิลมาดูหนังด้วยอีกนะคะ""..."เท่านั้นแหละเขาก็ชักสีหน้าเป็นบึ้งตึงเหมือนเด็กน้อยเอาแต่ใจใส่ฉันทันทีและเดินล้วงกระเป๋าก้าวขายาวๆ นำฉันออกไปที่ลิฟต์ไม่รอฉันเลยแม้แต่น้อยจนฉันต้องรีบซอยเท้าเพื่อให้ทันเขา ไม่มีเสียงพูดคุยแม้แต่คำเดียวมีเพียงเสียงลิฟต์ให้ได้ยินว่าถึงชั้นของฉันแล้ว ฉันเลยเดินก้ม