แชร์

ตอนที่ 5 ไปบ้านเจ๊ศรีเดี๋ยวนี้!!

ผู้แต่ง: Kaeru write
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-13 08:16:56

สามปีต่อมา ชายหนุ่มวัยสามสิบพร้อมกับลูกน้องคนสนิทอีกสองคน อย่างจ๊อดกับแจ๊ด เดินทางไปเยี่ยมปู่ที่กำลังนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพราะพึ่งผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบไปเมื่อคืน

            ขณะที่กำลังนั่งรถไปนั้น ลูกน้องก็ได้รายงานความคืบหน้าเรื่องของเจ๊ศรีลูกหนี้ที่ไม่ได้ชำระหนี้ตามสัญญาที่ให้เอาไว้ ไม่จ่ายมาประมาณสามเดือนแล้ว และยังมีแนวโน้มขอผ่อนผันไปเรื่อยๆ ไม่รู้จะได้คืนตอนไหน

            "เจ๊ศรีมันหนีเหรอ ทำไมไม่จ่ายมาสามเดือนแล้ว" เฉินเปิดดูสมุดบันทึกการจ่ายหนี้ของเจ๊ศรีเห็นว่า สามเดือนที่ผ่านมารายการชำระนิ่งสนิทมีเพียงแค่ดอกเบี้ยที่เพิ่มมากขึ้น จากที่กู้ไปแค่หนึ่งล้านบาท ทบไปทบมาตอนนี้ยอดเกือบสิล้านได้ เพียงแค่สามเดือน แน่นอนว่า ดอกเบี้ยพวกนี้เก็บเป็นรายวันไม่เหมือนกับของทางธนาคาร คนกู้ก็ต้องยอมรับข้อตกลงส่วนนี้ด้วย

            "สามเดือนมานี้ แกให้ลูกสาวมารับหน้าตลอดเลย แล้วก็บอกว่าเจ๊ยังป่วยอยู่ครับ"

            "แล้วป่วยจริงหรือแกล้งพวกมึงดูดีๆ หรือยัง"

            "เดือนก่อนผมก็ไปครับ สภาพเจ๊แกก็โทรม ผอมๆ คิดว่าน่าจะป่วยจริงครับลูกพี่" จ๊อดบอกในสิ่งที่ไปเห็นมาตอนไปเก็บเงิน

            "ลูกหนี้พวกนี้มันมุกเยอะจะตายไป เชื่อได้ที่ไหน ป่านนี้ไม่หนีไปแล้วเหรอ" เหนื่อยใจกับลูกน้องสองคนนี้จริงๆ แค่นี้มันก็เชื่อแล้ว

            “พวกมึงนี่ไม่ได้เรื่อง!" เฉินอยู่วงการนี้เขาก็เจอมาเยอะ สารพัดปัญหาของลูกหนี้ ที่พอไม่มีจ่ายก็อ้างโน่น อ้างนี่เยอะแยะมากมาย ยกปัญหาสารพัดร้อยแปดให้ตัวเองดูน่าส่งสารถ้า ใจไม่แข็งจริง ก็คงขาดทุนไปแล้ว

            "แล้วจะเอายังไงต่อดีครับ"

            "พรุ่งนี้กูไปดูเอง" อยากเจอหน้าเจ๊ศรีนี่เหมือนกันสรุปจะเอายังไง จ่ายมาสามปีแล้ว เหลืออีกไม่เท่าไหร่ก็น่าจะหมด แต่กลับมาขาดส่งเอาดื้อๆ กลายเป็นว่าตอนนี้ดอกมากกว่าเงินต้นไปแล้วด้วย สำหรับเฉินเงินมากมายขนาดนี้ จะให้เสียไปง่ายๆ คงไม่ได้

โรงพยาบาล ซีอาร์เค (CRK HOSPITAL)

            จ๊อดจัดการเปิดประตูห้องพักผู้ป่วยให้เจ้านายสุดหล่อ พร้อมผายมือเชิญเฉิน เข้าไปเยี่ยมปู่ของตน โดยที่ลูกน้องยืนรออยู่หน้าประตูห้อง

            "เป็นยังไงบ้างอากง" เฉินกล่าวทักทายเจ้าสัวมีชัยปู่ของตนเจ้าของธุรกิจทั้งขาวทั้งเทาในและต่างประเทศ เบื้องหน้าคือผู้ก่อตั้งโรงพยาบาล ซีอาร์เค ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการรักษามะเร็งและการศัลยกรรมตกแต่ง แถมยังมีธุรกิจเรือขนส่งสินค้า และธุรกิจเล็กๆ ในเครือมากมาย เบื้องหลังเป็นมาเฟียเก่าแก่ ที่ย้ายมาจากเซี่ยงไฮ้ และเปิดกาสิโนในหลายประเทศ เจ้าสัวมีลูกชายสองคนและ หลานชายแค่สองคนคืออี้ กับเฉิน ความหวังการสืบทอดวงค์ตระกูลก็ขึ้นอยู่กับหลานชายสองคนนี้แล้ว

            "ก็ดี แต่ไม่รู้ว่าอนาคตจะตรงไหนจะอักเสบอีกหรือเปล่า จะทันเห็นเหลนจากแกกับอี้คือเปล่าก็ไม่รู้ อายุก็เยอะแล้ว" คนชราตีหน้าเศร้าพูดตัดพ้อชีวิต เพราะมีหลานชายเพียงแค่สองคน แต่ละคนอายุก็ขึ้นเลขสามกันแล้ว ยังไม่มีเมียเป็นตัวเป็นตนกันสักที ปู่เองก็อยากมั่นใจว่าอย่างน้อยนามสกุล เจริญฤทธิกุล ยังมีคนใช้ต่อ ไม่ได้ขาดตอนเพราะไอ้หลานสองคนนี้ ตอนแรกก็ดีใจที่ได้หลานชาย แต่ตอนนี้คิดหนักแล้ว หรือจะจับพวกมันคลุมถุงชนดีให้จบๆ ไป รอให้มีเมียเองอาจได้ตายก่อนจะได้เห็นหน้าหลานสะใภ้ กับเหลนตัวน้อยๆ

            "ยังจะอยู่รอเห็นหน้าเหลนอีกเหรออากง อยู่เห็นแค่หน้าหลานก็พอแล้วมั้ง" ชายชรามองแรงหลานชายคนเล็ก ดูแต่ละคำพูดของมันสิ แต่จะว่ามันก็ไม่ได้ เลี้ยงมันมาเองกับมือ ตามใจมันสุดๆ แทบจะไม่เคารพกันแล้ว

            "หยอกเล่นหรอกน่า เห็นว่าสุขภาพไม่ดีกลัวจะเครียด หยอกนิดหยอกหน่อยอย่าถือสา"

            "มัวแต่ติดเล่นแบบนี้ไง ถึงไม่มีเมียสักที ระวังไม่มีเมียพวงไข่ลื้อจะฝ่อ" คำพูดปู่ทำเอาชายหนุ่มวัยสามสิบถึงกับสะอึก สภาพของเขาตอนนี้จะว่าแบบนั้นมันก็ไม่เชิงหรอกนี้แล้วเขาจะบอกปู่ว่าไงดีที่ไม่มีเมียทุกวันนี้ก็เพราะไอ้ดาบศักดิ์สิทธิ์มันไม่ยอมลุกขึ้นมาทำหน้าที่ของมันตั้งแต่ตอนที่ถูกตีหัวแตกเมื่อสามปีก่อน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นมันฟาดฟันสตรีงามไม่ซ้ำหน้า แต่ตอนนี้สภาพของมันเหมือนขึ้นสนิม มองไปก็อนาถใจ

            "ก็ผมไม่รีบไง"

            "แต่อั๊วรีบ พ่อลื้อนะแต่งงานมีแกตอนอายุยี่สิบห้าเอง ทำไมลื้อสามสิบแล้วยังไม่มีแม้กระทั่งแฟน"

            เฉินรู้ตัวตั้งแต่หลังจากพักฟื้นจนแผลหายดี ก็ได้ชวนเพื่อนรักอย่างไอ้ฟีนิกซ์เรียกเด็กเอนมาที่สนามแข่งรถที่ร่วมหุ้นเปิดกับฟีนิกซ์ และเพื่อนอีกสองคนคือทิศเหนือ และอากิระ แต่ตอนนี้อากิยังอยู่ที่ญี่ปุ่น ส่วนทิศเหนือพอศึกออกมาก็รักษาศีลห้าอย่างเคร่งครัดไม่ดื่มเหล้า ไม่เอาหญิง

            ฟีนิกซ์และเฉินดื่มเหล้าปาร์ตี้เหล้าสาวๆ เหมือนที่เคยทำมาตลอด แต่ว่าพอลากเด็กเข้าห้องถึงตอนที่จะต้องเผด็จศึก ท่อนซุงขนาดหกสิบก็เล่นไม่แข็งขึ้นมาเอาเสียดื้อๆ จะงัดจะสาวยังไง มันก็ไม่ตื่น เรียกว่าหลับเป็นตายเลยดีกว่า เลยต้องรีบให้ตังค์เด็กส่วนตัวเขาก็รีบกลับบ้านมาเช็กของให้แน่ใจอีกที

            ตอนแรกก็แค่คิดว่าเป็นเพราะผู้หญิงอาจจะยังไม่ตอบโจทย์หรือไม่ใช่สเปค แต่พอเปิดหนังโป๊ของดาราในดวงใจดูแล้วจะช่วยตัวเอง สภาพของท่อนซุงช่างดูไร้เรี่ยวแรงจนส่งผลให้จิตใจพลันห่อเหี่ยวไม่ต่างจากภาพไข่ที่เห็นอยู่ตรงหน้า หรือบางทีอาจจะเสื่อมสมรรถภาพไปแล้วก็ได้ คนตัวโตนั่งมองของรักของตัวเองแล้วหยาดน้ำสีใสก็หยดเผาะนั่งไม่คิดว่าจะต้องมานั่งไว้อาลัยให้มันเร็วขนาดนี้ ทำเอาซึมไปเป็นเดือนๆ กว่าจะทำใจยอมรับได้ก็ใช้เวลาเป็นปี ทุกวันเลยต้องอยู่แบบไม่ได้แตะต้องหญิง แม้จะอยากทำแค่ไหนก็ตาม

            "เลิกพูดเรื่องนี้เหอะอากง อยากมีหลานก็ไปถามไอ้อี้ ผมไม่มี ถ้ามีเดียวอากงก็เห็นเอง"

            “เมื่อไหร่”

            “ไม่รู้" แต่งไปเดี๋ยวเขาก็รู้หมดว่ามันหมดสภาพ รู้ถึงไหนอายถึงนั่นคนตัวโตทำหน้างอนเดินนอกจากห้องไปให้ไว ตอนนี้ไม่อยากคุยเรื่องแต่งงานหรือ มีแฟนอะไรทั้งนั้น จนกว่าร่างกายจะกลับมาปกติ อีกนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ตอนนั้นทางโรงพยาบาลก็ตรวจดูทุกอย่างแล้วก็ปกติดี แต่หมอก็สันนิษฐานว่าอาจเป็นเพราะสมองได้รับการกระทบกระเทือนตอนถูกทำร้าย และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ต้องตามหาตัวไอ้เสี่ยทรงเกียรติมารับโทษให้ได้ ทำร้ายร่างกายยังไม่พอยังทำร้ายจิตรใจกันอีก

            คนตัวโตทำหน้าไม่สบอารมณ์ออกมาจากห้องก่อนจะบอกลูกน้องที่รออยู่ 

            "ไปบ้านเจ๊ศรีเดี๋ยวนี้!!" รู้สึกอยากหนีไปให้ไกลๆปู่ เดี๋ยวเจอหน้าก็คอยมาถามอีก ยิ่งทำให้เจ็บใจ อย่างน้อยห่างกันสักระยะคงจะดี อีกอย่างระหว่างทางได้เห็นวิวข้างทางก็คงทำให้อารมณ์ดีขึ้นบ้าง

            "ไหนว่าไปวันพรุ่งนี้ไงครับ" 

            "กูจะไปวันนี้ พวกมึงมีปัญหาอะไรไหม" สายตาคมกริบสาดใส่ลูกน้องจนจ๊อดแจ๊ดขนลุกเกลียว ใครจะกล้ามีปัญหากับลูกพี่ได้ล่ะ

            "ไม่มีครับลูกพี่" คนหล่อเดินฟึดฟัดไปยังลานจอดรถ พอเข้าไปนั่งในรถได้ก็ปิดประตูเสียงดัง จนลูกน้องสงสัย ลูกพี่ไปทำอะไรมาถึงได้หงุดหงิดขนาดนั้น ถ้าหากว่าโดนเจ้าสัวดุ ด่า ก็ไม่น่าใช่ เพราะลูกพี่ไม่สนใจอยู่แล้ว แถมไม่เคยเก็บคำด่าของปู่เข้าสมองเลยด้วยซ้ำ

            "เร็วดิวะ!" คนโมโหนั่งรอในรถไอ้ลูกน้องสองคนมันก็ไม่ยอมตามเข้ามาสักทีจนรำคาญ 

            "ครับๆ " ไอ้จ๊อดไอ้แจ๊ดรีบขึ้นรถไปก่อนที่ลูกพี่จะมีน้ำโหมากกว่านี้

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 6 แม่หนูคงหาเงินมาคืนคุณไม่ได้แล้ว

    รถยนต์หรูมุ่งหน้าสู่ต่างจังหวัด ตอนแรกคิดว่านั่งชมวิวข้างทางจะทำให้ใจเย็นลงบ้าง สรุปโมโหกว่าเดิม เมื่อเจอคนขับรถปาดซ้ายปาดขวา จนเฉินต้องปล่อยสัตว์หลากหลายชนิดมาตลอดทาง เหี้ยบ้าง ควายบ้าง จ๊อดแจ๊ดทำได้เพียงนั่งเงียบๆ ขืนปริปากพูดอะไรไม่เข้าหูคงถูกด่าไปด้วย หลายชั่วโมงผ่านไปก็มาถึงจุดหมายปลายทางคือบ้านของเจ๊ศรีเจ้ามือหวยที่บ้านหนองนาน้อย ตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มเกือบสามทุ่มแต่กลับไม่มีใครอยู่ที่บ้านไฟก็ไม่เปิด มีเพียงแสงไฟกิ่งหน้าบ้านที่สาดส่องไปบนถนนเท่านั้น แถวนี้แทบจะอยู่ในตัวเมืองปกติก็ไม่น่าจะหลับกันเร็วขนาดนี้บ้านอื่นก็เปิดไฟกันปกติมีแต่บ้านที่ที่มืดสนิท จ๊อดกับแจ๊ดลงจากรถพยายามกดกริ่งที่หน้าบ้านพร้อมกับตะโกนเรียกชื่อของเจ๊ศรี อยู่นานสองนานแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับมีแต่เสียงหมาในซอยที่เห่าเพราะพวกเขาทำเสียงดัง เฉินที่นั่งรอในรถพอเห็นแบบนั้นก็ยิ่งโมโหหนัก เลยออกไปจัดการเขกกบาลลูกน้องคนละที เพราะคิดว่าลูกหนี้อย่างเจ๊ศรีคงหนีไปอย่างที่เขาคาดการเอาไว้แน่ๆ “พวกมึงไม่ได้เรื่องจริงๆ กูจะหักเงินเดือนของมึงสองคน ให้เท่ากับเงินที่เจ๊ศรีติดหนี้กูตอนนี

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 7 คืนนี้ฉันจะนอนที่บ้านเธอ

    “คืนนี้ฉันจะนอนที่บ้านเธอ พอดีไม่ได้จองโรงแรมไว้ คงไม่เป็นไรใช่ไหม” ใบหน้าของเต้าหู้เต็มไปด้วยความงุนงง ไม่ต่างจากลูกน้องอีกสองคนที่ไม่เข้าใจเจ้านายว่าพูดแบบนั้นทำไม ทั้งๆ ที่พี่แกมีบ้านพักตากอากาศที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ขับรถไปไม่นานก็ถึงแล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะต้องจองโรงแรมเลย หรือนี่จะเป็นข้ออ้างขอค้างบ้านผู้หญิง “คิดอะไรกับหนูปะเนี่ย” จู่ๆ ผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ ทำทีจะมาขอนอนที่บ้านด้วย รู้อยู่ว่าเธอสวยคงจะมีแต่คนหมายปอง ถึงเจ้าหนี้คนนี้จะหล่อก็เถอะ แต่เธอก็เป็นผู้หญิงจะให้อยู่ใต้ชายคาเดียวกับผู้ชายมันก็จะดูไม่งามเอานะ “หรือจะให้หนูขัดดอก บังคับขืนใจให้เป็นนางบำเรอ ก็พวกคุณสามคนตัวโตอย่างกับยักษ์อุ้มปิดปากหนูก็ทำได้สบาย เพราะหนูไม่มีทางสู้อยู่แล้ว” เคยอ่านหนังสือเคยดูละครมาเยอะ ถ้านางเอกติดหนี้ไม่มีเงินจ่ายจะต้องเอาตัวเองไปขัดดอกเพื่อใช้หนี้ อย่าบอกนะว่าเขาจะให้เธอทำแบบนั้น “แค่มองเธอฉันก็หมดอารมณ์แล้ว ไม่ได้สวยขนาดนั้น” เอาจริงๆ ตอนนี้ เขาก็ไม่มีอารมณ์กับใครทั้งนั้นแหละ ไม่ว่ากับเธอหรือกับใคร ไม่รู้ว่าจะกลับมาใช้งานได้ตอนไหน หรืออาจต้องอยู่อย่างเหี่ย

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 8 มาทางไหนก็กลับไปทางนั้น

    เต้าหู้ และจ๊อดแจ๊ดที่ได้ยินทั้งเสียงโครมครามและเสียงร้องโอดครวญขอความช่วยเหลือดังมาจากห้องที่เฉินนอนอยู่จึงรีบเข้าไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ห้องเธอไม่ได้ล็อกเอาไว้จึงเปิดเข้าไปได้ง่าย เต้าหู้เปิดไฟในห้องให้สว่างเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น สภาพที่เห็นคือ เฉินกำลังกระทืบและบูมกับอาร์มสลับกัน จนสองคนนั้นอยู่ในสภาพที่เรียกว่าอ่วม เต้าหู้รีบเดินไปหยุดเฉินก่อนที่สองคนนั้นจะตายจริงๆ “ไอ้จ๊อดไอ้แจ๊ด จับพวกมันนั่งดีๆ ซิ” เฉินออกคำสั่งกับลูกน้องตน ทั้งสองก็ทำตามอย่างไม่อิดออดรีบจับอาร์มและบูมที่นอนขดโอดครวญ ให้นั่งคุกเข่าต่อหน้าเฉิน “นี่มันอะไรกันเนี่ย ไอ้บูม ไอ้อาร์ม พวกแกสองคนมาอยู่ในห้องฉันได้ยังไง” เต้าหู้ที่กำลังสับสนว่านี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น แล้วพวกมันเข้ามาทำอะไรในห้องของเธอ อีกอย่างเฉินทำร้ายสองคนนี้ทำไม หรือจะขึ้นมาขโมยของ แต่ก่อนหน้านี้บูมกับอาร์มก็ไม่เคยทำพฤติกรรมแบบนี้เลย "เอ่อ..." ทั้งอารมณ์และบูมต่างไม่มีใครกล้าปริปากยอมรับความผิดในสิ่งที่คิดจะทำ จนเฉินชักจะมีน้ำโห "มึงจะให้กูใช้ตีนง้างปากพวกมึงให้พูดไหม ว่าพวกมึงวางแผนจะทำอะไรเต้าหู้" พึ

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 9 บอกลาครั้งสุดท้าย

    เฉินตื่นมาในเช้าอันสดใสพร้อมกับรอยยิ้ม ที่เมื่อคืนมีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นกับตัวเอง แม้ว่ามันจะตื่นตัวได้พักหนึ่งแล้วก็กลับสภาพเดิม แต่ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี เขาเจอผู้หญิงมามากมายแต่ร่างกายก็ไม่ตอบสนองกับใครเลย จนกระทั่งมาเจอ เต้าหู้ เขาจึงเกิดสนใจในตัวเธอขึ้นมา และต้องการพิสูจน์ให้แน่ใจว่ามันเป็นเพราะเธอจริงๆ หรือเปล่า แต่จะให้บุ่มบ่ามไม่ได้เพราะเธออาจจะกลัว อีกอย่างถ้าผู้หญิงไม่ยินยอมเขาเองก็ไม่ทำ เขาเริ่มสำรวจไปรอบๆ ห้องนอนสีชมพูหวานแหววของเธอ ก่อนหันไปเห็นรูปที่ติดบนบอร์ดเล็กๆ ใกล้กับโต๊ะเขียนหนังสือ บนนั้นมีรูปที่เธอถ่ายกับครอบครัว ถ่ายกับเพื่อนแปะอยู่ ทุกอย่างก็ดูปกติดีจนกระทั่ง ไปสะดุดกับรูปผู้ชายคนหนึ่งในชุดนักเรียนถือพวกช่อดอกไม้ มีพวงมาลัยคล้องคอ จากการคาดเดาน่าจะเป็นรูปในวันปัจฉิม บนรูปเขียนไว้ว่า พี่ภีม พร้อมกับวาดรูปหัวใจสีแดงเอาไว้ โคตรรู้สึกไม่ถูกชะตาไอ้ขี้เก๊กนี่เอาซะเลย แล้วมันเป็นใครวะ? แฟนเต้าหู้เหรอ? เลิกกันหรือยังวะ? หรือคบกันอยู่? คำถามมากมายผุดขึ้นในหัวเต็มไปหมด ไม่รู้ว่ามันเป็นยังไง แต่ที่รู้คือ ไม่ชอบขี้หน้าไอ้คนนี้ไม่ได้การจะต้องสืบให้

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 10 เต้าหู้กูอยู่ไหน!!!

    ในเย็นวันที่เผาศพแม่ของเต้าหู้ เฉินบอกว่าเขามีธุระด่วนจะต้องรีบไปจัดการเลยไม่ได้อยู่ค้างต่อที่บ้านของเต้าหู้อย่างที่ตั้งใจเอาไว้ ใบหน้าหล่อแสดงออกถึงความเสียดาย แต่ถ้าไม่ไปจัดการด้วยตัวเองมันก็ไม่มีความหมาย เพราะเขาเองก็รอเวลานี้มาถึงสามปีแล้วเมื่อลูกน้องแจ้งมาว่าเจอเสี่ยทรงเกียรติแล้ว แต่ถึงตัวเองไม่อยู่ ก็ยังคงให้ลูกน้องอย่างจ๊อดกับแจ๊ดคอยเฝ้าเวรยามที่หน้าบ้านให้ตอนกลางคืนคอยดูแลเรื่องความปลอดภัย หลายวันต่อมาเต้าหู้สอบปลายภาคเสร็จแล้ว และเรียนจบมัธยมปลายอย่างสมบูรณ์ เหลือเพียงแค่รอฟังประกาศผลการสอบเข้ามหาลัยที่เธอกับเพื่อนๆ ตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่แรก คือการสอบเข้าไปเรียนบัญชี ในคณะบริหารในมหาลัยเดียวกันกับรุ่นพี่ที่เธอเคยแอบชอบและปลื้มมากๆ อย่าง ภีม ส่วนเฉินที่ยังไม่กลับมาก็ให้จ๊อดกับแจ๊ดคอยอยู่ดูแลเต้าหู้ คอยซื้อข้าวมาให้เธอตลอดเวลาเธอจะทำอาหารกินเองจ๊อดกับแจ๊ดนั้นจะมาขัดตลอด ไม่รู้ทำไมสรุปวันนั้นเธอทำอร่อยจริงไหม แล้วไอ้รสชาติที่เข้มข้นนั้นมันรสชาติยังไง ระหว่างนี้เธอก็ไม่ได้อยู่เฉยออกไปหางานทำเก็บเงิน เพราะตอนนี้ทุกนาทีมีค่า

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 11 หรือว่าคุณ….ชอบหนูคะ

    “แก่แล้วก็ควรเข้าวัด แต่ถ้าอยากโดนซัดก็เข้ามา” สายตาเฉินดูเอาจริงทำให้เสี่ยแก่ไม่กล้ารั้งต่อ แถมจ๊อดกับแจ๊ดยังเข้ามาเป็นกำลังเสริมให้ดูน่ากลัวอีก มันเลยต้องยอมแพ้ไป เฉินถอดเสื้อโค้ตของตัวเองออกมาคลุมให้คนตัวเล็กเพราะชุดที่มันสั้นจนน่ารำคาญสำหรับเขา ก่อนจะอุ้มช้อนตัวของเธอขึ้น แล้วจึงพาเธอกลับไปที่บ้าน พอไปถึงบ้านเธอเกิดอยากอ้วกขึ้นมา หญิงสาวนั่งกอดคอชักโครกเอาสิ่งที่กินเข้าไปออกมาจนหมด โดยที่มีเจ้าหนี้คอยลูบหลังให้พร้อมคอยถามไถ่เป็นระยะ “ดีขึ้นไหม” เธอพยักหน้าก่อนจะล้างหน้าล้างตาบ้วนปากให้ตัวเองสดชื่นขึ้น แล้วจึงออกมานั่งพักที่โซฟา เฉินให้จ๊อดแจ๊ดแวะซื้อพวกเครื่องดื่มและยาที่ช่วยลดอาการแฮงค์มาให้ พร้อมกับที่เฉินก็ไล่สองคนนี้ไปนอนในสวนนอกบ้าน โทษฐานที่ปล่อยให้เธอเปลี่ยนตำแหน่งงานเป็นพีอาร์โดยไม่ช่วยกันห้าม “คุณไล่พี่จ๊อดกับพี่แจ๊ดออกไปนอนข้างนอกทำไมคะ เดี๋ยวก็โดนยุงกัดไม่สบายเอาหรอก” “ถ้าแค่กับยุงมันยังสู้ไม่ได้ ก็ให้มันลาออกจากการเป็นบอดี้การ์ดไปซะ” ว่าพร้อมกับที่พยุงตัวเธอมาจนถึงโซฟาหน้าทีวีพอเต้าหู้ได้นั่งพักอาก

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 12 ช่วยทำเป็นลืมมันไปได้ไหม

    เจ้าของใบหน้าสวยลืมตาตื่นขึ้นบนเตียงนอนพร้อมกับอาการปวดหัว คงเป็นผลจากสิ่งที่กินเข้าไปเมื่อคืน นี่ขนาดอ้วกออกมาจนหมดกระเพาะแล้วนะยังจะเมาค้างได้อีก ก่อนจะตั้งใจไว้ว่าจะไม่ดื่มจนเมาแบบนั้นอีกแล้ว ไม่ว่าใครจะจ้างเท่าไหร่ก็ตาม เต้าหู้เปิดประตูออกมาเจอเข้ากับเฉินที่มายืนรออยู่ตรงหน้าประตูพร้อมกับส่งยิ้มหวานพาลให้ใจสั่น จะว่าไปแล้ว เขาหล่อมากแบบนี้เป็นปกติหรือเปล่า ทำไมวันนี้รู้สึกว่าเขาดูหล่อกว่าทุกวันกันนะ ก่อนที่ภาพทุกอย่างเมื่อคืนจะไหลเข้ามาในหัวเต็มไปหมด ไม่ใช่ว่าเราก็มีใจให้เขาแล้วเหรอ ไม่ได้ๆ พยายามห้ามใจไว้ เพราะเขาคือเจ้าหนี้ และเรายังไม่รู้จักเขาดีพอ “มีอะไรเหรอคะ” “อยากคุยเรื่องเมื่อคืน” หญิงสาวตีหน้าซื่อทำเป็นไม่รู้เรื่อง แต่ความจริงแล้วเธอจำได้ทุกฉากทุกตอนจำได้แม้กระทั่งความรู้สึกที่กำลังถูกเขาสัมผัส บางทีถ้าทำเหมือนว่าลืมๆ ไปอาจจะเข้าหน้ากันง่ายกว่า “หนูเมามากหนูจำอะไรไม่ได้เลยค่ะ” เฉินถึงกับแค่นหัวเราะในลำคอ เขารู้ว่าเธอไม่ได้ลืมแต่แค่ทำเป็นจำไม่ได้สงสัยต้องหลอกล่อสักหน่อย “ก็เมื่อคืนฉันคุยเรื่องหนี้ จะใ

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 13 ครั้งแรก (มีฉาก+)

    เฉินอุ้มเอาคนตัวเล็กที่เมาไม่ได้สติพาขึ้นรถกลับมาที่บ้าน หลังจากที่โชว์ห้าวดื่มเหล้าติดกันไปทั้งหมดเจ็ดซ็อตจนภาพตัด นอนหลับเอาหัวหนุนตักเขา เฉินนั่งดื่มรอกระทั่งร้านปิดจึงพาเธอขึ้นรถยนต์คันหรูกลับมาที่บ้าน “คืนนี้พวกมึงสองคนไปนอนบ้านนู้นแล้วกัน” บ้านที่เฉินซื้อไว้เป็นบ้านพักตากอากาศเวลาที่เขามาเก็บหนี้ หรือมาดูบ่อนใกล้ๆ แถวนี้ คืนนี้เลยให้พวกมันสองคนไปนอนที่นั่นตัดปัญญา เดี๋ยวเกิดปวดท้อง ปวดไส้ขึ้นมาอีก “ผมเอาใจช่วยลูกพี่นะครับ” จ๊อดกำมือสู้ๆ บอกเจ้านายแต่เหมือนเฉินยังเคืองที่ถูกขัดจังหวะเมื่อวานอยู่ “เมื่อวานเสียเรื่องเพราะมึงนั่นแหละ ไปไกลๆ เลยนะ คืนนี้มึงจะปวดห่าอะไรก็ปวดไป ไม่ต้องมาเคาะประตูบ้านเข้าใจไหม” จ๊อดทำหน้าจ๋อยเพราะวันนี้เฉินก็ตึงใส่ทั้งวัน เรียกว่าทำอะไรไปก็ขัดหูขัดตาเฉินไปหมด “ขอโทษครับ วันนี้ผมจะไม่กวนลูกพี่แล้วครับ” “ไม่ต้องดูเรื่องความปลอดภัยเหรอครับ” แจ๊ดถามเฉินถึงเรื่องความปลอดภัยเพราะไม่มีใครอยู่คอยเฝ้ายามให้กลัวว่าจะมีคนไม่หวังดีจะลอบทำร้าย “ไม่ต้อง ถ้ามีอะไรกูจัดการเองได้” “ครับล

บทล่าสุด

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 47 ตอนจบ

    หลังจากเหตุการณ์นั้นตำรวจก็จับตัวของภีมไปรับโทษตามกฎหมาย และยังค้นพบหลักฐานที่ภีมและพ่อร่วมกันทำความผิด ปิดบัง อำพรางมาตลอดหลายปีอีกมากมาย ภาพที่เห็นว่าภีมนั้นเป็นสุภาพบุรุษไม่ยุ่งกับผู้หญิงคนไหน หรือไม่เคยมีข่าวเสียหายเป็นเพราะว่าภีมมักจะอัดคลิปที่ตนมีอะไรกับผู้หญิงที่คบกันอยู่เอาไว้สำหรับข่มขู่หากพวกเธอคิดจะเปิดโปงเรื่องของเขาและเธอ จึงไม่มีใครกล้าปริปากเอาเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไปแพร่งพรายให้ใครรู้ หากคนไหนที่ยังรั้นและไม่ยอมทำตามก็จะถูกภีมและพ่อจัดการปิดปากพวกเธอ แถมภีมก็มีรสนิยมที่ชอบถ่ายคลิปเอาไว้เวลาที่ทรมานเหยื่อนั่นจึงเป็นหลักฐานชั้นดีที่ทำให้ภีมจะได้รับโทษสถานหนัก เต้าหู้นั่งรอเฉินอยู่ที่หน้าห้องผ่าตัด ไม่นานเขาก็ถูกนำตัวออกมาเข้าไปพักฟื้นที่ห้องพักผู้ป่วย พอหมอบอกว่าเขาพ้นขีดอันตรายแล้วเธอจึงโล่งใจและปล่อยให้เขาพักผ่อนเต็มที่ เธอจึงมีเวลาก็ไปดูอาการของเพื่อนอย่างพลอย พอไปถึงก็ได้ยินเสียงดังโวยวายดังมาจากข้างในห้อง “อีลูกไม่รักดี ฉันส่งแกมาเรียน ทำไมแกไม่เรียน ฉันทำงานเหนื่อยแทบตายหาเงินมาให้แกทำตัวเหลวไหลแบบนี้เหรอ พลอยแก

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 46 เอาคืน

    ขณะที่ใจจะอยากยอมแพ้ แต่พอภีมจะขึ้นมาคร่อมตัวเธอบนโซฟา สองเท้าที่ไม่ได้ถูกมัดก็กระแทกแรงๆ ไปที่หน้าอกภีมจนเขาหงายหลังลงไปกับพื้น “อีเหี้ยเอ๊ย” เขาสบถคำออกมาเพราะแรงถีบที่รุนแรงจนจุก เธอพยายามพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล เพราะมือที่ถูกมัดไว้ด้านหลังทำให้ขยับตัวยาก พอนั่งได้และเท้าแตะพื้นก็พยายามลุกขึ้นวิ่งหลบและคิดหาทางวิ่งไปทางประตูห้องเพื่อที่จะหนีเอาตัว “พวกมึงยืนโง่กันอยู่ทำไม ไปจับตัวมันสิวะ” ภีมเอ่ยด่าลูกน้องที่มัวแต่มองไม่ทำอะไร ลูกน้องของภีมก็วิ่งเข้ามาล้อมหน้าล้อมหลัง ห้องมันไม่ได้กว้างพอที่จะให้เธอวิ่งไปมาได้มากนัก หนีได้ไม่นานสุดท้ายก็มาอยู่ที่มุมห้อง ภีมที่โมโหจึงเดินปรี่เข้ามาหา มือใหญ่คว้าใบหน้าของเธอจับบีบแก้มทั้งสองข้าอย่างแรง และใช้นิ้วกดลงที่แผลบนพวงแก้มที่เขาเป็นคนทำเธอทั้งเจ็บและแสบ “กูหมดความอดทนกับมึงแล้วนะ ชอบความรุนแรงใช่ไหมงั้นก็โดนพร้อมกันหลายๆ อันมึงน่าจะชอบ” ก่อนจะหันหน้าไปทางลูกน้อง “จับมัน แล้วถอดเสื้อผ้ามันให้หมด เสื้อผ้าพวกมึงด้วย” ไอ้พวกลูกน้องผุ้ชายได้ยินคำสั่งก็ร

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 45 กับดัก

    “วันนี้พลอยก็ไม่มาอีกแล้วนะ” เต้าหู้บ่นกับเพื่อนสาวสองคนเช่นเคยที่เพื่อนอย่างพลอยหายไปและไม่สามารถติดต่อได้จนน่าเป็นห่วง “โทรหาติดไหม” “ไม่เลยตั้งแต่ที่เจอเมื่อวานก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีก” “พวกเราจะทำยังไงดีล่ะ ตอนนี้แชทฉันหนักขวามากเลย พลอยไม่อ่านไม่ตอบเลย” "ยังไงวันนี้เราก็ต้องไปหาพลอยอีก" "โอเคไปกันเลยไหม" ระหว่างที่กำลังตกลงว่าจะไปหาพลอย เต้าหู้ก็สังเกตเห็นว่าภีมกำลังเดินสวนกับพวกเธอไป ใจจริงเธออยากจะเอ่ยถามเกี่ยวกับเรื่องของพลอยแต่ก็เห็นว่าเขาเดินไปไกลแล้ว อีกอย่างตอนนี้เฉินก็มารับเธอเสียก่อนทำให้เธอพลาดที่จะได้เข้าไปถามเขา เธอมองภีมเดินไปจนสุดลูกตา ทำให้เฉินต้องมองตามไปบ้างพอเห็นว่าเป็นภีมเขาก็รู้สึกไม่สบายใจ “มีอะไรเหรอ” “เปล่าค่ะ เฮียเฉิน เดี๋ยวแวะไปที่คอนโดเพื่อนหนูแป๊บหนึ่งได้ไหม“ “ได้สิ แล้ววันนี้ไม่มีสอนพิเศษเหรอ” “วันนี้หนูลาค่ะ หนูเป็นห่วงพลอยช่วงนี้พลอยแปลกไป” ไม่นานเธอก็มาถึงที่คอนโดของพลอย และแน่นอนว่าทางรปภ.คอนโดของพลอยก็ยังยืนกรานไม่ให้ค

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 44 กลัว

    “เฮีย เฮีย” เต้าหู้ตะโกนเรียกเขาพร้อมน้ำตา ขณะที่มือเล็กๆนั้นก็เขย่าไปที่ตัวเขาอย่างแรงไม่หยุด เธอเงยหน้าขึ้นมอง จ๊อดกับแจ๊ดที่ได้แต่ยืนนิ่งไม่ทำอะไร “พี่จ๊อดพี่แจ๊ด เรียกรถพยาบาลเร็ว” ลูกน้องคนสนิทมองหน้ากันแต่ก็ไม่มีใครหยิบมือถือหรือมีท่าที่เป็นเดือดเป็นร้อนกันสักคน “พี่จ๊อดพี่แจ๊ดเร็วสิ เฮียเฉินจะตายแล้วเนี่ย” เธอทั้งห่วงเขา และพาลโมโหที่จ๊อดแจ๊ดดูจะไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไรแม้แต่น้อยทั้งๆที่เห็นลูกพี่ตัวเองนอนสลบเหมือดไปต่อหน้าต่อตา ฝ่ามือเล็กที่วางบนอกแกร่งรู้สึกได้ถึงแรงกระเพื่อมถี่ๆ ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆตามออกมาทำให้เธอต้องรีบกลับไปมองคนที่สภาพปางตายบนตักของเธอว่าเกิดอะไรขึ้น ดวงตาคมที่ปิดลงเมื่อครู่ตอนนี้ได้มองมาที่เธอพร้อมใบหน้าที่เจือรอยยิ้มอันแสนเจ้าเล่ห์ เต้าหู้พอรู้ว่าโดนแกล้งถึงกับกัดฟันกรอดด้วยความโมโห “เฮียเฉิน!” จากมือที่ใช้เขย่าตัวเขาเพื่อเรียกสติ ตอนนี้กลับกำแน่น และทุบไปอย่างแรงบนอกแกร่งนั้นจนคนที่โดนถึงกับจุกเพราะเธอใส่มาเกือบเต็มแรง “โอ๊ย ตีเฮียทำไม เฮียเจ็บอยู่นะ” “แล้ว

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 43 ไม่มีหรือว่าเราไม่รู้กันแน่

    หลายวันมานี้พลอยหยุดเรียนไปด้วยเหตุผลที่ว่าเธอนั้นไม่สบาย แถมในแชทกลุ่มเธอก็ไม่มีความเคลื่อนไหว ส่งข้อความหาเพื่อนก็ตอบกลับเพียงสั้นๆ แล้วก็หายไป โทรหาน้ำเสียงก็ไม่ค่อยสู้ดีนัก เต้าหู้กับเพื่อนอีกสองคนเลยอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ “แกสองคนได้คุยกับพลอยบ้างปะ” เต้าหู้ที่เป็นกังวลเอ่ยถามกับเพื่อนทั้งสองขณะที่กำลังนั่งรอเข้าเรียนในช่วงเช้า “ไม่นะ ไม่ได้คุยอะไรกันเลย เป็นห่วงอยู่เหมือนกัน” ส้มลิ้มตอบ “ฉันก็รู้สึกเป็นห่วงพลอยอะ ไม่รู้ว่าป่วยเป็นอะไรกันแน่” สีหน้าเต้าหู้เป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด พลอยไม่ใช่คนที่จะโดดเรียนหรือหนีหายไปและโกหกว่าป่วยแน่นอน ตอนนี้เธอคงจะป่วยจริงๆ จนถึงขั้นมาเรียนไม่ไหว จีจี้ที่นั่งฟังอยู่เลยออกความเห็น “งั้นเราลองถามพลอยดีไหมว่าตอนนี้อยู่ไหน หลังเลิกเรียนแล้วไปเยี่ยมพลอยกัน” ระหว่างที่กำลังจะกดโทรหาอยู่นั้น พวกเธอก็ได้เห็นพลอยก็กลับมาเรียนแต่พลอยกลับไม่เดินมาหาพวกเธอ แต่กลับรีบเดินเข้าห้องเรียนไปแถมยังไม่มานั่งรวมกับพวกเธออีกต่างหาก ไม่รู้ว่าพลอยมีปัญหาอะไรไหม พอจะถามพลอยก็ปลีกตัวไม่สุงสิงกับใครนั่นยิ่งทำให้น่าเป็นห่วงมา

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 42 เรากำลังจะมีลูกกัน

    วันกีฬามหาวิทยาลัย นักศึกษาแต่ละคนก็ต้องวุ่นกับการทำหน้าที่ของตนเอง เต้าหู้ พลอย และจี้จี้ มีหน้าที่แปลกอักษร บนอัฒจันทร์พวกเธอต้องตื่นตั้งแต่ตีสามตีสี่เพื่อมาเตรียมความพร้อมก่อนงานจริงจะเริ่ม ส่วนส้มลิ้มก็มีแข่งชกมวยรอบชิงชนะเลิศอยู่ที่สนามและเธอจะมารับเหรียญในช่วงเย็น จนถึงเวลาพักทานข้าว รุ่นพี่ที่ดูแลได้นำอาหารและน้ำดื่มมาแจกให้กับพวกนักกีฬาและคนอื่นๆ ที่ทำกิจกรรม สามสาวก็มาหาที่ร่มๆ มานั่งทานข้าวและพักผ่อนก่อนจะกลับไปทำกิจกรรมต่อในช่วงบ่าย สามสาวเปิดกล่องข้าวออกมากำลังจะเริ่มทานด้วยความหิวและความเหนื่อย แต่พลอยกลับทำหน้าพะอืดพะอม และรีบปิดกล่องข้าวลงทันที “พลอยเป็นอะไร ไม่หิวเหรอ” “เรารู้สึกไม่ชอบกลิ่นหมูกระเทียมกล่องนี้เลย มันฉุน เราอยากอ้วก” พอพูดจบเธอก็รีบลุกจากที่นั่งเพื่อที่จะรีบไปอ้วกในห้องน้ำใกล้ๆ เต้าหู้กับจีจี้ด้วยความที่เป็นห่วงเพื่อน จึงวิ่งตามไปพอมาถึงก็เห็นว่าพลอยอยู่ข้างในนั้น เต้าหู้รีบช่วยลูบหลังเพื่อนให้ก่อนจะเอ่ยถาม “แกเป็นอะไร ไม่สบายเหรอ” “ไม่รู้สิ แต่สองสามวันมานี้ฉันเวียนหัวมา

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 41 อย่าให้น้อยหน้าคนอื่น

    ในช่วงกิจกรรมกีฬาของมหาลัย แน่นอนว่านักศึกษาปีที่หนึ่งของแต่ละคณะก็จะต้องมีการฝึกซ้อมเชียร์และกีฬากันอย่างหนัก แน่นอนแหละว่าคนสวยๆ แบบพวกเธอต้องได้รับหน้าที่แปลอักษรและนั่งร้องเพลงเชียร์อยู่บนอัฒจันทร์อยู่แล้ว “เดี๋ยวให้พักก่อนสามสิบนาทีนะครับน้องๆ อีกครึ่งชั่วโมงกลับมาประจำที่นะครับ พี่จะซ้อมเต็มอีกสักสองถึงสามรอบ หรือจนกว่าพวกเราจะคล่อง” รุ่นพี่ปีสี่ที่ทำหน้าที่คุมการซ้อมบอกให้พวกปีหนึ่งไปพัก แต่ตอนนี้อากาศร้อนมากทำให้แต่ละคนก็บ่นออกมาไม่เว้นแม้แต่พวกของแก๊งนางฟ้าเอง “ร้อนมาก ใครก็ได้เอาน้ำไปราดดวงอาทิตย์หน่อยซิ” เต้าหู้บ่น เพราะอัฒจันทร์ของคณะเธอดันหันหน้าไปทางทิศตะวันตก ก็เลยรับแสงแดดยามบ่ายกันอย่างเต็มที่ อย่างไม่ต้องการ กันแดดที่โบกมาอย่างหนาไม่รู้ว่าจะเอาอยู่ได้มากขนาดไหนรู้สึกว่าผิวคล้ำขึ้นเล็กน้อยหลังจบงานนี้คงต้องบำรุงกันยาวๆ “หิวน้ำจะตายอยู่ละ สต๊าฟอยู่ไหนกันหมดปกติต้องเอาน้ำมาแจกแล้วนะ” อยู่จี้ที่ใช้หมวกฟางพัดวีให้ตัวเองบ่นด้วยความเหนื่อย เพราะเธอต้องซ้อมกันในช่วงวันเสาร์อาทิตย์ วันปกติก็เรียนแทบไม่ได้พักตอนเย็นของทุกวันและวันหยุดก็ต้องซ

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 40 เพราะหนูเป็นของเฮียไงคะ

    ตอนนี้ก็ถึงเวลาเปิดเทอมแล้ว ส้มลิ้มและจีจี้มาด้วยหน้าตาที่สดใสเพราะได้กลับบ้านไปพักผ่อนอย่างเต็มที่ แต่ดูเหมือนเปิดเทอมใหม่แล้ว อะไรบางอย่างก็ดูจะเปลี่ยนไป อย่างเช่นพลอยที่ปกติแล้วเธอจะมักจะใส่เสื้อผ้า ชุดนักศึกษาที่ดูเรียบร้อยและมิดชิดปิดไปแทบทุกสัดส่วน สวมแว่นตาหนา รวบผม ใบหน้าก็ไร้ซึ่งเครื่องสำอางแต่แต้ม แต่เวลาเปลี่ยนคนเราก็เปลี่ยนอย่างที่เขาว่า เวลามีความรักอะไรมันก็ดูสวยงามไปหมด พอถอดแว่นตาแต่งตัวให้ดูเข้ากับรูปร่างตัวเอง และแต่งหน้าเพิ่มเพียงนิดหน่อย ก็ทำให้เธอดูโดดเด่นขึ้นมามากเลยทีเดียวอย่างกับเป็นคนละคน “ไม่บอกจริงๆ เหรอว่าแฟนแกเป็นใครน่ะพลอย” ส้มลิ้มที่อยากรู้อยากเห็นกว่าใครอดใจไม่ได้ที่จะต้องถาม “ยังบอกไม่ได้ตอนนี้น่ะ” พลอยหลุบใบหน้าแดงที่กำลังเขินอายลงไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่ก็รู้สึกว่าพลอยดูสดใสขึ้น “งั้นแก๊งเราก็เหลือคนโสดแค่ฉันกับแกแล้วสิส้มลิ้ม” จีจี้พูดพลางแกล้งทำหน้าเศร้าโผเข้ากอดส้มลิ้ม เพื่อนสาวที่ยังไม่มีแฟนอีกคน “ฉันน่ะโสดจริงแถมไม่เคยมีแฟนด้วย ส่วนของแกน่ะโสดไม่จริงค่ะ เดี๋ยวคบเดี๋ยวเลิกอยู่นั่

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 39 เฮียเลือกเมียไม่ผิดจริงๆ

    เต้าหู้และเฉินนั่งอยู่ในโบสถ์และกำลังเข้าร่วมพิธีแต่งงานของเพื่อนสนิทของเฉิน อย่าง อากิระและคนรักของเขาอย่างริบบิ้น โดยที่มีเด็กตัวน้อยยืนอยู่บนแท่นพิธีร่วมกับทั้งคู่ เด็กคนนั้นคือเรียวตะลูกชายของพวกเขาทั้งสองนั่นเอง คู่บ่าวสาวต่างปฏิญาณสาบานตนว่าจะรักและดูแลซึ่งกันและกันจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ในตอนเย็นก็มีพิธีฉลองมงคลสมรส จัดขึ้นที่คฤหาสน์ของอากิระ หลังลงจากรถหรูเฉินยกแขนข้างหนึ่งขึ้นเป็นการบอกให้คนตัวเล็กที่ยืนข้างกันเดินคล้องเข้าไปในงานคืนนี้ พอเข้ามาหญิงสาวมองไปรอบๆ ตะลึงในความใหญ่โตและสวยงามของคฤหาสน์สไตล์ยุโรปแห่งนี้ตกแต่งราวกับหลุดออกมาจากยุคกลาง ก่อนที่เฉินจะพาเธอเดินไปทักทายเพื่อนสนิทที่อยู่ในงานเลี้ยงอย่างคู่บ่าวสาว “ยินดีกับมึงด้วยนะเพื่อน” “เออ ขอบใจ” “เรียวตะหลานกู ไปไหนแล้วล่ะ” มองหาลูกชายของเพื่อที่ตอนนี้ไม่เห็นมาวิ่งเล่นในงาน “เล่นทั้งวันคงเหนื่อยก็เลยงอแง กูให้พี่เลี้ยงพาขึ้นไปนอนแล้ว” “เออจริงสิ ไอ้พี่อี้ใส่ซองมาให้ แล้วก็ฝากบอกยินดีกับริบบิ้นด้วย แล้วก็ฝากความคิดถึงเรียวตะ” เฉินหยิบซองด้

DMCA.com Protection Status