แชร์

ตอนที่ 1 เจ้าพ่อหนองนาน้อย 1

ผู้แต่ง: Kaeru write
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-12 11:06:32

            หลายวันผ่านไป หลังจากที่ชาวบ้านหนองนาน้อยได้รู้ข่าวเรื่องที่ว่ามีคนถูกทำร้ายร่างกายแล้วนำไปทิ้งไว้ที่สวนยางของป้าหมอน ชาวบ้านก็ลือกันไปต่างๆ นาๆ ว่า คนที่โดนทำร้ายวันนั้นตายหลังจากที่ถูกส่งตัวไปถึงโรงพยาบาล บ้างก็ว่าตายตั้งแต่ระหว่างทางตอนอยู่บนรถกู้ภัย แถมยังมีคนบอกว่าพบเห็นดวงวิญญาณยังคงวนเวียนอยู่บริเวณสวนยางนั้นเพื่อรอแก้แค้นคนที่ทำร้ายตนจนชาวบ้านไม่กล้าย่างกรายเข้าไปแม้กระทั่งเจ้าของสวนเองยังเจอเงาดำตะคุ่มๆ แถวๆ สวนยางในคืนเกิดเหตุ ก็คิดว่าเป็นผีเลยกลัวเหมือนกันจนต้องซื้อที่ปลูกบ้านใหม่แล้วย้ายออกจากบ้านสวน ส่วนต้นยางก็ไม่กรีดเองก็จ้างเขามากรีดยางเก็บยางให้แทน

            ตึก ตึก ตึก

            เต้าหู้วิ่งลงมาจากชั้นสองของบ้าน พร้อมแต่งตัวสวยเสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนส์ขาสั้น แม้วันนี้จะเป็นวันหยุด แต่ก็มีนัดกับเพื่อนสาวอีกสองคนไปกินส้มตำไก่ย่างร้านโปรด แม่ที่กำลังนั่งจดเลขที่เขาว่าดังในช่วงนี้เอาไว้ เพื่อทำเลขอั้นส่งเข้ากรุ๊ปลูกค้าหวยขาประจำ และให้กับกลุ่มคนที่มาส่งเลขให้กับแม่ เลขอั้นจะจ่ายแค่ครึ่งหนึ่งของรางวัลที่จะต้องได้ตามปกติเท่านั้น คนซื้อก็รู้ข้อนี้กันดี

            พอเจ๊ศรีได้ยินเสียงฝีเท้าของลูกสาวเดินเข้ามาใกล้จึงละสายตาจากสิ่งที่ทำอยู่ขึ้นมามอง

            “แล้วนั่นจะไปไหน”

            “นัดกับจี้จี้ ส้มลิ้มเอาไว้ ว่าจะไปกินส้มตำแล้วก็ไปนั่งเล่นที่ค่ายมวยลุงเพิ่ม แม่จะเอาส้มตำไหม จะซื้อมาให้ก่อน” ปกติทั้งสามคนมักจะไปนั่งเล่นกันที่บ้านของส้มลิ้มที่เป็นค่ายมวย โดยเฉพาะยัยจีจี้ที่ชอบไปนั่งมองนักมวยในค่ายลุงเพิ่มเป็นงานประจำไปแล้ว แถมมันยังแอบชอบพี่นัทนักมวยในค่ายนั้นด้วย

            “ไม่ล่ะ ช่วงนี้ท้องไส้ไม่ค่อยดี”

            “อย่าลืมกินยานะแม่ ถ้ามันไม่ดีขึ้นก็ไปหาหมอ” พูดด้วยความเป็นห่วง เห็นแม่บ่นว่าช่วงนี้ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อบ่อยๆ

            “เออ รู้แล้วน่า”

            “เออแม่ คืนวันพรุ่งนี้หนูขอไปดูไอ้ส้มลิ้มมันชกมวยที่งานวัดหมู่หกนะ”

            “จะไปยังไงล่ะ เอามอเตอร์ไซค์ไปเองกลับดึกมันอันตรายนะ”

            “พ่อส้มลิ้มเอารถกระบะไปจะให้มารับหนูที่บ้าน แล้วก็ขนนักมวยไปด้วยทั้งค่ายแบบนั้นคงไม่มีใครกล้าทำอะไรหรอกมั้งแม่”

            “เออ ถ้าเป็นแบบนั้นก็ค่อยอุ่นใจ” กิตติศัพท์ของนักมวยค่ายนี้ขึ้นชื่อเรื่องการชนะน็อคมากที่สุด เลยไม่มีใครกล้ามายุ่งวุ่นวาย

            “จ้ะ” ว่าเสร็จก็แบมือพร้อมกับยิ้มหวานให้ผู้เป็นแม่

            “อะไร”

            “เงินไงแม่” เจ๊ศรีถอนหายใจก่อนจะบ่นลูกสาวตามประสาเวลาโดนขอเงิน แต่ถามว่าให้ไหม ก็ให้ แต่ขอบ่นก่อน

            “เฮ้อ~~ เมื่อไหร่จะโตแล้วหาเงินเองได้เนี่ย”

            “ขอบพระคุณค่ะเจ๊ศรี~” หญิงสาวพนมมือไหว้ย่อแบบนางงามก่อนยื่นมือไปรับเงินจากแม่

            “ลีลาเยอะจริงๆ ไปๆ ไปหาข้าวกินได้แล้ว”

            เมื่อรับเงินจากแม่ก็หอมแก้มที่ย่นเล็กน้อยตามอายุที่มากขึ้นไปฟอดใหญ่ ก่อนควบมอเตอร์ไซค์คู่ใจไปรับเพื่อนทั้งสองจากที่บ้านเพื่อไปร้านส้มตำที่อยู่เกือบท้ายหมู่บ้าน

            มอเตอร์ไซค์ของแก๊งนางฟ้ามาจอดที่หน้าร้านส้มตำ ก่อนจะเดินไปที่หน้าร้าน มองไก่ย่างที่พึ่งย่างเสร็จใหม่วางเรียงราย ดูไปก็กลืนน้ำลายไปด้วยความหิว ก่อนที่เต้าหู้จะสั่งส้มตำปูปลาร้าพร้อมข้าวเหนียวและปีกไก่ย่างกับเจ้าของร้าน พร้อมกำชับรสชาติที่ชอบ

            “ขอครบรส และขอแซ่บๆ นะเจ๊แมว”

            “ถ้าแซ่บไม่เท่าพวกหนู ไม่จ่ายตังค์นะเจ๊” จีจี้ว่าเน้นจีบปากจีบคอขอรสชาติส้มตำแบบแซ่บๆ

            “ไม่มีปัญหา ไปรอที่โต๊ะได้เลย” เพราะเป็นลุกค้าประจำเลยพูดเล่นกันได้เป็นปกติ หลังจากนั้นทั้งสามสาวก็มานั่งรอส้มตำกันที่โต๊ะ ก่อนจะเหลือบไปเห็นรั้วบ้านข้างๆ ร้านเจ๊แมวที่มีรถมอเตอร์ไซค์ จักรยาน รถยนต์จอดกันให้พรึบเต็มไปหมด

            “ส้มตำปูปลาร้าแซ่บๆ ได้แล้วจ้า”

            ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของคนสวยอย่างเต้าหู้ พอเจ้าของร้านเอาอาหารมาเสิร์ฟก็ไม่พลาดที่จะอัพเดตข่าวสารบ้านเมืองเสียหน่อย จะได้ไม่ตกเทรนด์

            “บ้านข้างๆ มีงานอะไรเหรอเจ๊แมว คนเยอะจัง” เจ๊แมวยื่นหน้าเข้ามาใกล้เพื่อพูดกระซิบกระซาบ ทำให้สามสาวต้องขยับยื่นหน้าเข้าไปฟังอย่างตั้งใจ

            “จำเรื่องที่ว่ามีมีคนโดนแทงแล้วเอาไปทิ้งที่สวนยางป้าหมอนได้ไหม”

            “จำได้สิเจ๊ แล้วมันยังไงเหรอ” เต้าหู้รีบถามต่อด้วยความอยากรู้มันเอ่อล้น

            “เขาบอกว่าคนๆนั้นน่ะตายแล้วตอนไปถึงโรงพยาบาล แต่ว่าดวงวิญญาณไม่ยอมไปไหน ยังวนเวียนอยู่แถวสวนยาง”

            “จริงเหรอเจ๊ ไม่เห็นเคยได้ยินเรื่องนั้นมาก่อนเลย”

            “ก็คืนนั้น ป้าหมอนแกเห็นเงาดำๆ เป็นเงาผู้ชายเลยนะ อยู่ตรงสวนยางเดินไปเดินมา พูดแล้วก็ขนลุก” เจ๊แมวทำท่าลูบแขนตัวเองว่าไปก็เสียวสันหลังไป เรื่องผีใครๆ ก็กลัวกันทั้งนั้น

            “แต่ว่ามีร่างทรงเจ้าพ่อหนองนาน้อย ท่านลงมาประทับร่าง แล้วนี่ก็เป็นตำหนักของท่าน วันนี้เขาจะทำพิธีล้างอาถรรพ์ใหญ่ คนก็เลยเยอะ เนี่ยเดี๋ยวเจ๊ก็ว่าจะไปเอาน้ำมนต์มาเหมือนกัน จะได้ป้องกันผี”

            พอมีข่าวลือเรื่องมีคนตายมีวิญญาณร้ายคอยหลอกหลอนคนที่ผ่านสวนยางแถวๆ นั้น ก็ได้มีการปรากฎตัวของร่างทรงเจ้าพ่อหนองนาน้อย ที่อ้างว่าเป็นสิ่งสักสิทธิ์ที่คอยปกปักรักษาหมู่บ้านนี้มานานมากแล้ว และบอกว่าจะมาช่วยขจัดปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกจากหมู่บ้านช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนตกทุกข์ได้ยาก

            “คุยเพลินเลย เดี๋ยวเจ๊ไปตำส้มตำให้ลูกค้าก่อน”

            “จ้ะเจ๊"หลังเจ๊แมวเดินจากไปสาวสาวแก๊งนางฟ้าก็เริ่มสุมหัวประชุมกลางวงส้มตำ

            “คนนั้นตายแล้วเหรอวะ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย” เต้าหู้เปิดประเด็นก่อนเพราะเธอเองก็พึ่งจะรู้เรื่องนี้ ตอนนั้นเธอยังเห็นว่าเขายังพูดได้ แต่ว่าก็ดูจะเป็นอาการเบลอๆ ไม่ได้มีสติมากนัก ก่อนที่กู้ภัยมารับตัวคนเจ็บไปพวกเธอก็ไม่ได้ไปด้วยเลยไม่รู้ว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง แต่ตำรวจก็เชิญพวกเธอทั้งสามไปให้ปากคำที่โรงพักเพียงเท่านั้นไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้นก่อนที่ตำรวจจะพาพวกเธอไปส่งที่บ้าน

            “อาจจะตายจริงๆ ก็ได้ สภาพนั้นถ้ารอดก็สุดยอดแล้ว” ส้มลิ้มคิดว่ายังไงคนๆ นั้นก็ไม่น่ารอด ทั้งหน้าบวมปูด หัวแตก และถูกแทงอีก

            “แล้วเราจะเอายังไงดี ฉันดันไปหลอกเค้าด้วยว่าฉันเป็นนางฟ้า ถ้าเขารู้ว่าฉันไม่ใช่ จะโกรธฉันหรือเปล่าวะ” เต้าหู้เริ่มขวัญเสียเพราะวันนั้นดันไปโกหกเขาเอาไว้ด้วยว่าเธอคือนางฟ้า จะโดนผีตามมาหลอกหลอนด้วยไหม ยิ่งเป็นคนกลัวผีอยู่ด้วย

            "เต้าหู้ แกตั้งสติก่อน ทุกอย่างมีทางแก้งั้นเดี๋ยวกินเสร็จก็ไปที่ตำหนักกัน" จีจี้เสนอทางออกให้เต้าหู้ที่กลัวอยู่แล้วก็เห็นด้วยไม่ปฏิเสธ

ตำหนักร่างทรงเจ้าพ่อหนองนาน้อย

            บนตำหนักคับคั่งไปด้วยผู้คนที่มากราบไหว้และคนที่มีเรื่องทุกข์ร้อนใจมาขอให้พ่อปู่ช่วยเหลือ บ้างก็มาขอโชคลาภเพราะใกล้วันหวยออกแล้ว

            หลังทานส้มตำเสร็จแล้วทั้งสามสาวก็รีบเดินไปยังตำหนักร่างทรงที่กำลังทำพิธีสวดมนต์ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายอยู่พอดี พอจะเดินเข้าไปก็ถูกลูกศิษย์ที่ยืนเฝ้าประตูอยู่ขวางเอาไว้ไม่ให้พวกเธอเข้าไปเพราะเห็นว่ายังเด็กกันอยู่

            “ที่นี่เขาไม่ให้เด็กเข้า”

            “พวกหนูเป็นคนเจอคนที่ตายจ้ะ ว่าจะมาขอน้ำมนต์จากเจ้าพ่อ" เต้าหู้ว่าพลางทำหน้าอมทุกข์ จะไม่ให้ทุกข์ได้ไง ก็ไปหลอกผีก่อน เดี๋ยวผีตามมาหลอกคืนจะได้ช็อกตายกันพอดี

            พอคนเฝ้าประตูเห็นดังนั้นก็ยอมให้พวกเธอเข้าไปข้างในได้ สามสาวเข้าไปนั่งด้านหลังสุดคนข้างในต่างพนมมือไหว้เจ้าพ่อที่กำลังบริกรรมคาถา ดูเข้มขลัง พวกเธอก็เลยต้องไหว้ด้วย

            “ฮือ เจ็บ ทรมาณเหลือเกิน” จู่ๆ ก็มีหนึ่งในคนที่เข้าร่วมพิธีร้องไห้ออกมา ทำให้คนร่วมพิธีแตกตื่นขยับบออกห่างคนที่กำลังฟูมฟายโอดครวญด้วยความทรมาน

            “ไม่ต้องแตกตื่นตกใจกันไป” เจ้าพ่อหยุดสวดมนต์ก่อนบอกให้ทุกคนอยู่ในความสงบแล้วจึงเดินเข้าไปหาคนที่กำลังถูกผีเข้า

            “เอ็งเป็นใคร มาจากไหน”

            “ฉันถูกคนทำร้าย แล้วเอาไปทิ้งที่สวนยางยายหมอน” ชาวบ้านที่มามุงดูก็ถ่ายคลิปเหตุการณ์ระทึกเอาไว้เรื่องแบบนี้ก็ไม่ได้มีมาให้เห็นกันบ่อยๆ

            “เองต้องการอะไร” เจ้าพ่อถามด้วยเสียงที่ฟังดูเกรงขาม ส่วนผีก็ร้องไห้ไม่หยุด

            “ฉันทรมาน อยากไปเกิดแล้ว”

            “ถ้ายังไม่ถึงเวลาเอ็งก็ไปเกิดไม่ได้”

            “งั้นกูก็จะเอาคนไปอยู่ด้วย” คราวนี้ผีเปลี่ยนอารมณ์ไวมากจากที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นก็กลายเป็นโกรธเกรี้ยวทำตาแข็ง ว่าเสร็จก็ลุกพรวดขึ้นทำให้คนที่มุงดูแตกตื่นไปตามๆ กัน แล้วคนที่โดนผีเข้าก็ชี้หน้า เลือกคนที่มันอยากเอาไปอยู่เป็นเพื่อน แล้วหวยก็ดันมาออกที่เต้าหู้ลูกเจ๊ศรีพอดิบพอดี

            “กูจะเอามึง ไปอยู่กับกู” พูดเสร็จคนโดนผีเข้าก็เป็นลมล้มตึงลงไปกับพื้น ส่วนเต้าหู้นั้นช็อกใจหล่นไปที่ตาตุ่มแล้ว บ้าเอ๊ยปากพาซวยจริงๆ

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 2 เจ้าพ่อหนองนาน้อย 2

    ตำหนักร่างทรงเจ้าพ่อหนองนาน้อย หลังพิธีปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายเสร็จสิ้น เจ้าพ่อก็เปิดให้บูชาน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ในพิธีเพื่อให้ชาวบ้านเอาไปประพรมทั่วบ้านและผสมน้ำอาบให้เป็นสิริมงคล ขวดละเก้าสิบเก้าบาท ก่อนกลับเจ้าพ่อได้จุดธูปตัวเลข เอาไว้ คนที่มาร่วมพิธีก็จะได้เห็นและเอาเลขไปเสี่ยงโชคกัน หลังจากนั้นทุกคนก็กราบลาเจ้าพ่อ เสร็จก็แยกย้ายกันกลับ เหลือเพียงสามสาวแก๊งนางฟ้าที่ยังต้องอยู่ต่อ เพราะผีดันชี้หน้าเลือกเต้าหู้คนสวยไปอยู่ด้วย นี่ไหมที่เขาเรียกปากพาซวย “เจ้าพ่อคะ จะทำยังไงได้บ้างคะหนูยังไม่อยากตายตอนนี้” พอมานั่งนับความดีตั้งแต่เกิดมา ทำไปไม่กี่อย่าง แถมสมุดที่ครูให้มาบันทึกทำความดีก็โกหกทั้งนั้น ตายตอนนี้ไม่ได้ไปสวรรค์แน่นอน “ไม่ต้องห่วง เอาน้ำมนต์พ่อไปผสมน้ำอาบ เจ็ดวัน วันละขวด แล้วก็เอาผ้ายันต์ไปแปะตามประตูเข้าบ้าน มันก็ทำอะไรเอ็งไม่ได้แล้ว” เจ้าพ่อหยิบพานที่ใส่ของตามที่ได้กล่าวเอาไว้ มาวางด้านหน้าของตน พอเต้าหู้เห็นเลยคิดว่าเจ้าพ่อให้เลยจะหยิบ แต่เจ้าพ่อก็ดึงให้ห่างจากมือของเธอ “แต่ของพวกนี้ ให้ฟรีๆ กันไม่ได้ ต้องมีค่าครู”

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 3 ป้าข้างบ้าน

    ตลาดสดหนองนาน้อย ช่วงเช้าในวันหยุดเจ๊ศรีชวนลูกสาวอย่างเต้าหู้มาจ่ายตลาดด้วยกันเพราะพรุ่งนี้เป็นวันพระใหญ่แถมยังเป็นวันหวยออกด้วย เจ๊ศรีคิดเอาไว้ว่าจะซื้อของเพื่อเตรียมไปทำบุญชุดใหญ่ที่วัดในช่วงเช้า เพื่อเสริมสิริมงคล เพื่อเตรียมรับเงินเข้ากระเป๋าแบบไม่ต้องได้จ่ายออก ลูกสาวที่ตื่นเช้าทำหน้าบูดเป็นตูดลิง วันหยุดทั้งทีแทนที่จะได้ตื่นสาย ต้องมาตื่นตีสี่ตีห้าจ่ายตลาดกับแม่ แถมอาบน้ำแต่งตัวยังไม่ทันจะได้แต่งหน้าแม่ก็ลากออกจากบ้านแล้ว บอกว่าเดี๋ยวไปสายของดีๆ จะหมดเสียก่อน เต้าหู้เลยต้องหน้าสดแข่งกับปลาที่ตลาด คนสวยเบื่อ “ทำหน้าให้สวยๆ หน่อย นี่มาซื้อของเตรียมไปทำบุญนะ เดี๋ยวชาติหน้าก็เกิดมาขี้เหร่หรอก” “ชาตินี้สวยมากแล้ว ชาติหน้าขี้เหร่บ้างก็ได้ไม่เป็นไร” “เฮ้อ เบื่อคนสวยจริงๆ” ขณะที่เจ๊ศรีกำลังจะเดินไปทางเขียงหมูของพ่อจีจี้ ก็เห็นว่ามีชายชุดดำสองคนยังใช้ไม้ค้ำยันเพราะขาที่ยังใส่เฝือกเดินแจกใบปลิวอะไรสักอย่าง ท่าทางดูไม่น่าไว้ใจ คนอะไรใส่แว่นดำมาเดินตลาดช่วงเช้ามืด มีคนปกติที่ไหนเขาทำกัน พอเห็นว่าผู้ชายสองคนนั้นเดินจากไป

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 4 สวรรค์มีจริงไหมครับ

    ระหว่างที่คนเจ็บยังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจนเกือบจะหายดี ก็มีญาติ พี่น้อง และเพื่อนแวะเวียนมาเยี่ยมไม่ขาดสาย โดยเฉพาะเพื่อนอย่างไอ้ ฟีนิกซ์ ที่แวะเวียนมานั่งเล่นด้วยแทบทุกวันหรือไม่ก็มาเช็กว่าเขาตายหรือยัง วันนี้มันก็มาอีกไม่รู้ว่าไม่มีงานการทำกันหรือยังไง แถมยังไปพาพระทิศเหนือ เพื่อนซึ่งกำลังบวชอยู่มาด้วย พอเห็นเพื่อนที่เป็นพระเฉินก็รีบยกมือไหว้ มีแค่ตอนนี้แหละที่เพื่อนดูน่าเคารพที่สุด ก่อนจะบวชทำแต่เรื่องไม่ดีมาด้วยกันมาก็เยอะ จนกระทั่งทิศเหนือถูกเมียทิ้งเรียกได้ว่าเพื่อนเสียใจจนต้องหันหน้าเข้าทางธรรม เพื่อสงบจิตใจ "นมัสการครับหลวงเพื่อน" "เจริญพรเถอะโยมเฉิน" “แล้วพระมายังไงครับ” “โยมฟีนิกซ์ไปนิมนต์มา” “แล้วพระไม่ปฏิเสธล่ะครับ” “ไม่ได้หรอกโยม พระปฏิเสธไม่ได้” “ไอ้ฟีนิกซ์มึงไปพาพระมาด้วยทำไมเนี่ย รบกวนพระอีก” “กูเป็นห่วงมึงไง พาพระมาให้ศีลให้พรมึงถึงโรงพยาบาลเลยจะได้หายไวๆ หรือถ้าตายก็พร้อมสวดส่ง” นั่นปากคนหรือปากหมาไม่แน่ใจ จริงๆ คนอย่างไอ้ฟีนิกซ์นี่นรกอาจจะส่งมันมาเกิดพร้

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 5 ไปบ้านเจ๊ศรีเดี๋ยวนี้!!

    สามปีต่อมา ชายหนุ่มวัยสามสิบพร้อมกับลูกน้องคนสนิทอีกสองคน อย่างจ๊อดกับแจ๊ด เดินทางไปเยี่ยมปู่ที่กำลังนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพราะพึ่งผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบไปเมื่อคืน ขณะที่กำลังนั่งรถไปนั้น ลูกน้องก็ได้รายงานความคืบหน้าเรื่องของเจ๊ศรีลูกหนี้ที่ไม่ได้ชำระหนี้ตามสัญญาที่ให้เอาไว้ ไม่จ่ายมาประมาณสามเดือนแล้ว และยังมีแนวโน้มขอผ่อนผันไปเรื่อยๆ ไม่รู้จะได้คืนตอนไหน "เจ๊ศรีมันหนีเหรอ ทำไมไม่จ่ายมาสามเดือนแล้ว" เฉินเปิดดูสมุดบันทึกการจ่ายหนี้ของเจ๊ศรีเห็นว่า สามเดือนที่ผ่านมารายการชำระนิ่งสนิทมีเพียงแค่ดอกเบี้ยที่เพิ่มมากขึ้น จากที่กู้ไปแค่หนึ่งล้านบาท ทบไปทบมาตอนนี้ยอดเกือบสิล้านได้ เพียงแค่สามเดือน แน่นอนว่า ดอกเบี้ยพวกนี้เก็บเป็นรายวันไม่เหมือนกับของทางธนาคาร คนกู้ก็ต้องยอมรับข้อตกลงส่วนนี้ด้วย "สามเดือนมานี้ แกให้ลูกสาวมารับหน้าตลอดเลย แล้วก็บอกว่าเจ๊ยังป่วยอยู่ครับ" "แล้วป่วยจริงหรือแกล้งพวกมึงดูดีๆ หรือยัง" "เดือนก่อนผมก็ไปครับ สภาพเจ๊แกก็โทรม ผอมๆ คิดว่าน่าจะป่วยจริงครับลูกพี่" จ๊อดบอกในสิ่งที่ไปเห็นมาตอนไปเก็บเงิน

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 6 แม่หนูคงหาเงินมาคืนคุณไม่ได้แล้ว

    รถยนต์หรูมุ่งหน้าสู่ต่างจังหวัด ตอนแรกคิดว่านั่งชมวิวข้างทางจะทำให้ใจเย็นลงบ้าง สรุปโมโหกว่าเดิม เมื่อเจอคนขับรถปาดซ้ายปาดขวา จนเฉินต้องปล่อยสัตว์หลากหลายชนิดมาตลอดทาง เหี้ยบ้าง ควายบ้าง จ๊อดแจ๊ดทำได้เพียงนั่งเงียบๆ ขืนปริปากพูดอะไรไม่เข้าหูคงถูกด่าไปด้วย หลายชั่วโมงผ่านไปก็มาถึงจุดหมายปลายทางคือบ้านของเจ๊ศรีเจ้ามือหวยที่บ้านหนองนาน้อย ตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มเกือบสามทุ่มแต่กลับไม่มีใครอยู่ที่บ้านไฟก็ไม่เปิด มีเพียงแสงไฟกิ่งหน้าบ้านที่สาดส่องไปบนถนนเท่านั้น แถวนี้แทบจะอยู่ในตัวเมืองปกติก็ไม่น่าจะหลับกันเร็วขนาดนี้บ้านอื่นก็เปิดไฟกันปกติมีแต่บ้านที่ที่มืดสนิท จ๊อดกับแจ๊ดลงจากรถพยายามกดกริ่งที่หน้าบ้านพร้อมกับตะโกนเรียกชื่อของเจ๊ศรี อยู่นานสองนานแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับมีแต่เสียงหมาในซอยที่เห่าเพราะพวกเขาทำเสียงดัง เฉินที่นั่งรอในรถพอเห็นแบบนั้นก็ยิ่งโมโหหนัก เลยออกไปจัดการเขกกบาลลูกน้องคนละที เพราะคิดว่าลูกหนี้อย่างเจ๊ศรีคงหนีไปอย่างที่เขาคาดการเอาไว้แน่ๆ “พวกมึงไม่ได้เรื่องจริงๆ กูจะหักเงินเดือนของมึงสองคน ให้เท่ากับเงินที่เจ๊ศรีติดหนี้กูตอนนี

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 7 คืนนี้ฉันจะนอนที่บ้านเธอ

    “คืนนี้ฉันจะนอนที่บ้านเธอ พอดีไม่ได้จองโรงแรมไว้ คงไม่เป็นไรใช่ไหม” ใบหน้าของเต้าหู้เต็มไปด้วยความงุนงง ไม่ต่างจากลูกน้องอีกสองคนที่ไม่เข้าใจเจ้านายว่าพูดแบบนั้นทำไม ทั้งๆ ที่พี่แกมีบ้านพักตากอากาศที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ขับรถไปไม่นานก็ถึงแล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะต้องจองโรงแรมเลย หรือนี่จะเป็นข้ออ้างขอค้างบ้านผู้หญิง “คิดอะไรกับหนูปะเนี่ย” จู่ๆ ผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ ทำทีจะมาขอนอนที่บ้านด้วย รู้อยู่ว่าเธอสวยคงจะมีแต่คนหมายปอง ถึงเจ้าหนี้คนนี้จะหล่อก็เถอะ แต่เธอก็เป็นผู้หญิงจะให้อยู่ใต้ชายคาเดียวกับผู้ชายมันก็จะดูไม่งามเอานะ “หรือจะให้หนูขัดดอก บังคับขืนใจให้เป็นนางบำเรอ ก็พวกคุณสามคนตัวโตอย่างกับยักษ์อุ้มปิดปากหนูก็ทำได้สบาย เพราะหนูไม่มีทางสู้อยู่แล้ว” เคยอ่านหนังสือเคยดูละครมาเยอะ ถ้านางเอกติดหนี้ไม่มีเงินจ่ายจะต้องเอาตัวเองไปขัดดอกเพื่อใช้หนี้ อย่าบอกนะว่าเขาจะให้เธอทำแบบนั้น “แค่มองเธอฉันก็หมดอารมณ์แล้ว ไม่ได้สวยขนาดนั้น” เอาจริงๆ ตอนนี้ เขาก็ไม่มีอารมณ์กับใครทั้งนั้นแหละ ไม่ว่ากับเธอหรือกับใคร ไม่รู้ว่าจะกลับมาใช้งานได้ตอนไหน หรืออาจต้องอยู่อย่างเหี่ย

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 8 มาทางไหนก็กลับไปทางนั้น

    เต้าหู้ และจ๊อดแจ๊ดที่ได้ยินทั้งเสียงโครมครามและเสียงร้องโอดครวญขอความช่วยเหลือดังมาจากห้องที่เฉินนอนอยู่จึงรีบเข้าไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ห้องเธอไม่ได้ล็อกเอาไว้จึงเปิดเข้าไปได้ง่าย เต้าหู้เปิดไฟในห้องให้สว่างเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น สภาพที่เห็นคือ เฉินกำลังกระทืบและบูมกับอาร์มสลับกัน จนสองคนนั้นอยู่ในสภาพที่เรียกว่าอ่วม เต้าหู้รีบเดินไปหยุดเฉินก่อนที่สองคนนั้นจะตายจริงๆ “ไอ้จ๊อดไอ้แจ๊ด จับพวกมันนั่งดีๆ ซิ” เฉินออกคำสั่งกับลูกน้องตน ทั้งสองก็ทำตามอย่างไม่อิดออดรีบจับอาร์มและบูมที่นอนขดโอดครวญ ให้นั่งคุกเข่าต่อหน้าเฉิน “นี่มันอะไรกันเนี่ย ไอ้บูม ไอ้อาร์ม พวกแกสองคนมาอยู่ในห้องฉันได้ยังไง” เต้าหู้ที่กำลังสับสนว่านี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น แล้วพวกมันเข้ามาทำอะไรในห้องของเธอ อีกอย่างเฉินทำร้ายสองคนนี้ทำไม หรือจะขึ้นมาขโมยของ แต่ก่อนหน้านี้บูมกับอาร์มก็ไม่เคยทำพฤติกรรมแบบนี้เลย "เอ่อ..." ทั้งอารมณ์และบูมต่างไม่มีใครกล้าปริปากยอมรับความผิดในสิ่งที่คิดจะทำ จนเฉินชักจะมีน้ำโห "มึงจะให้กูใช้ตีนง้างปากพวกมึงให้พูดไหม ว่าพวกมึงวางแผนจะทำอะไรเต้าหู้" พึ

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 9 บอกลาครั้งสุดท้าย

    เฉินตื่นมาในเช้าอันสดใสพร้อมกับรอยยิ้ม ที่เมื่อคืนมีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นกับตัวเอง แม้ว่ามันจะตื่นตัวได้พักหนึ่งแล้วก็กลับสภาพเดิม แต่ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี เขาเจอผู้หญิงมามากมายแต่ร่างกายก็ไม่ตอบสนองกับใครเลย จนกระทั่งมาเจอ เต้าหู้ เขาจึงเกิดสนใจในตัวเธอขึ้นมา และต้องการพิสูจน์ให้แน่ใจว่ามันเป็นเพราะเธอจริงๆ หรือเปล่า แต่จะให้บุ่มบ่ามไม่ได้เพราะเธออาจจะกลัว อีกอย่างถ้าผู้หญิงไม่ยินยอมเขาเองก็ไม่ทำ เขาเริ่มสำรวจไปรอบๆ ห้องนอนสีชมพูหวานแหววของเธอ ก่อนหันไปเห็นรูปที่ติดบนบอร์ดเล็กๆ ใกล้กับโต๊ะเขียนหนังสือ บนนั้นมีรูปที่เธอถ่ายกับครอบครัว ถ่ายกับเพื่อนแปะอยู่ ทุกอย่างก็ดูปกติดีจนกระทั่ง ไปสะดุดกับรูปผู้ชายคนหนึ่งในชุดนักเรียนถือพวกช่อดอกไม้ มีพวงมาลัยคล้องคอ จากการคาดเดาน่าจะเป็นรูปในวันปัจฉิม บนรูปเขียนไว้ว่า พี่ภีม พร้อมกับวาดรูปหัวใจสีแดงเอาไว้ โคตรรู้สึกไม่ถูกชะตาไอ้ขี้เก๊กนี่เอาซะเลย แล้วมันเป็นใครวะ? แฟนเต้าหู้เหรอ? เลิกกันหรือยังวะ? หรือคบกันอยู่? คำถามมากมายผุดขึ้นในหัวเต็มไปหมด ไม่รู้ว่ามันเป็นยังไง แต่ที่รู้คือ ไม่ชอบขี้หน้าไอ้คนนี้ไม่ได้การจะต้องสืบให้

บทล่าสุด

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 47 ตอนจบ

    หลังจากเหตุการณ์นั้นตำรวจก็จับตัวของภีมไปรับโทษตามกฎหมาย และยังค้นพบหลักฐานที่ภีมและพ่อร่วมกันทำความผิด ปิดบัง อำพรางมาตลอดหลายปีอีกมากมาย ภาพที่เห็นว่าภีมนั้นเป็นสุภาพบุรุษไม่ยุ่งกับผู้หญิงคนไหน หรือไม่เคยมีข่าวเสียหายเป็นเพราะว่าภีมมักจะอัดคลิปที่ตนมีอะไรกับผู้หญิงที่คบกันอยู่เอาไว้สำหรับข่มขู่หากพวกเธอคิดจะเปิดโปงเรื่องของเขาและเธอ จึงไม่มีใครกล้าปริปากเอาเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไปแพร่งพรายให้ใครรู้ หากคนไหนที่ยังรั้นและไม่ยอมทำตามก็จะถูกภีมและพ่อจัดการปิดปากพวกเธอ แถมภีมก็มีรสนิยมที่ชอบถ่ายคลิปเอาไว้เวลาที่ทรมานเหยื่อนั่นจึงเป็นหลักฐานชั้นดีที่ทำให้ภีมจะได้รับโทษสถานหนัก เต้าหู้นั่งรอเฉินอยู่ที่หน้าห้องผ่าตัด ไม่นานเขาก็ถูกนำตัวออกมาเข้าไปพักฟื้นที่ห้องพักผู้ป่วย พอหมอบอกว่าเขาพ้นขีดอันตรายแล้วเธอจึงโล่งใจและปล่อยให้เขาพักผ่อนเต็มที่ เธอจึงมีเวลาก็ไปดูอาการของเพื่อนอย่างพลอย พอไปถึงก็ได้ยินเสียงดังโวยวายดังมาจากข้างในห้อง “อีลูกไม่รักดี ฉันส่งแกมาเรียน ทำไมแกไม่เรียน ฉันทำงานเหนื่อยแทบตายหาเงินมาให้แกทำตัวเหลวไหลแบบนี้เหรอ พลอยแก

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 46 เอาคืน

    ขณะที่ใจจะอยากยอมแพ้ แต่พอภีมจะขึ้นมาคร่อมตัวเธอบนโซฟา สองเท้าที่ไม่ได้ถูกมัดก็กระแทกแรงๆ ไปที่หน้าอกภีมจนเขาหงายหลังลงไปกับพื้น “อีเหี้ยเอ๊ย” เขาสบถคำออกมาเพราะแรงถีบที่รุนแรงจนจุก เธอพยายามพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล เพราะมือที่ถูกมัดไว้ด้านหลังทำให้ขยับตัวยาก พอนั่งได้และเท้าแตะพื้นก็พยายามลุกขึ้นวิ่งหลบและคิดหาทางวิ่งไปทางประตูห้องเพื่อที่จะหนีเอาตัว “พวกมึงยืนโง่กันอยู่ทำไม ไปจับตัวมันสิวะ” ภีมเอ่ยด่าลูกน้องที่มัวแต่มองไม่ทำอะไร ลูกน้องของภีมก็วิ่งเข้ามาล้อมหน้าล้อมหลัง ห้องมันไม่ได้กว้างพอที่จะให้เธอวิ่งไปมาได้มากนัก หนีได้ไม่นานสุดท้ายก็มาอยู่ที่มุมห้อง ภีมที่โมโหจึงเดินปรี่เข้ามาหา มือใหญ่คว้าใบหน้าของเธอจับบีบแก้มทั้งสองข้าอย่างแรง และใช้นิ้วกดลงที่แผลบนพวงแก้มที่เขาเป็นคนทำเธอทั้งเจ็บและแสบ “กูหมดความอดทนกับมึงแล้วนะ ชอบความรุนแรงใช่ไหมงั้นก็โดนพร้อมกันหลายๆ อันมึงน่าจะชอบ” ก่อนจะหันหน้าไปทางลูกน้อง “จับมัน แล้วถอดเสื้อผ้ามันให้หมด เสื้อผ้าพวกมึงด้วย” ไอ้พวกลูกน้องผุ้ชายได้ยินคำสั่งก็ร

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 45 กับดัก

    “วันนี้พลอยก็ไม่มาอีกแล้วนะ” เต้าหู้บ่นกับเพื่อนสาวสองคนเช่นเคยที่เพื่อนอย่างพลอยหายไปและไม่สามารถติดต่อได้จนน่าเป็นห่วง “โทรหาติดไหม” “ไม่เลยตั้งแต่ที่เจอเมื่อวานก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีก” “พวกเราจะทำยังไงดีล่ะ ตอนนี้แชทฉันหนักขวามากเลย พลอยไม่อ่านไม่ตอบเลย” "ยังไงวันนี้เราก็ต้องไปหาพลอยอีก" "โอเคไปกันเลยไหม" ระหว่างที่กำลังตกลงว่าจะไปหาพลอย เต้าหู้ก็สังเกตเห็นว่าภีมกำลังเดินสวนกับพวกเธอไป ใจจริงเธออยากจะเอ่ยถามเกี่ยวกับเรื่องของพลอยแต่ก็เห็นว่าเขาเดินไปไกลแล้ว อีกอย่างตอนนี้เฉินก็มารับเธอเสียก่อนทำให้เธอพลาดที่จะได้เข้าไปถามเขา เธอมองภีมเดินไปจนสุดลูกตา ทำให้เฉินต้องมองตามไปบ้างพอเห็นว่าเป็นภีมเขาก็รู้สึกไม่สบายใจ “มีอะไรเหรอ” “เปล่าค่ะ เฮียเฉิน เดี๋ยวแวะไปที่คอนโดเพื่อนหนูแป๊บหนึ่งได้ไหม“ “ได้สิ แล้ววันนี้ไม่มีสอนพิเศษเหรอ” “วันนี้หนูลาค่ะ หนูเป็นห่วงพลอยช่วงนี้พลอยแปลกไป” ไม่นานเธอก็มาถึงที่คอนโดของพลอย และแน่นอนว่าทางรปภ.คอนโดของพลอยก็ยังยืนกรานไม่ให้ค

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 44 กลัว

    “เฮีย เฮีย” เต้าหู้ตะโกนเรียกเขาพร้อมน้ำตา ขณะที่มือเล็กๆนั้นก็เขย่าไปที่ตัวเขาอย่างแรงไม่หยุด เธอเงยหน้าขึ้นมอง จ๊อดกับแจ๊ดที่ได้แต่ยืนนิ่งไม่ทำอะไร “พี่จ๊อดพี่แจ๊ด เรียกรถพยาบาลเร็ว” ลูกน้องคนสนิทมองหน้ากันแต่ก็ไม่มีใครหยิบมือถือหรือมีท่าที่เป็นเดือดเป็นร้อนกันสักคน “พี่จ๊อดพี่แจ๊ดเร็วสิ เฮียเฉินจะตายแล้วเนี่ย” เธอทั้งห่วงเขา และพาลโมโหที่จ๊อดแจ๊ดดูจะไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไรแม้แต่น้อยทั้งๆที่เห็นลูกพี่ตัวเองนอนสลบเหมือดไปต่อหน้าต่อตา ฝ่ามือเล็กที่วางบนอกแกร่งรู้สึกได้ถึงแรงกระเพื่อมถี่ๆ ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆตามออกมาทำให้เธอต้องรีบกลับไปมองคนที่สภาพปางตายบนตักของเธอว่าเกิดอะไรขึ้น ดวงตาคมที่ปิดลงเมื่อครู่ตอนนี้ได้มองมาที่เธอพร้อมใบหน้าที่เจือรอยยิ้มอันแสนเจ้าเล่ห์ เต้าหู้พอรู้ว่าโดนแกล้งถึงกับกัดฟันกรอดด้วยความโมโห “เฮียเฉิน!” จากมือที่ใช้เขย่าตัวเขาเพื่อเรียกสติ ตอนนี้กลับกำแน่น และทุบไปอย่างแรงบนอกแกร่งนั้นจนคนที่โดนถึงกับจุกเพราะเธอใส่มาเกือบเต็มแรง “โอ๊ย ตีเฮียทำไม เฮียเจ็บอยู่นะ” “แล้ว

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 43 ไม่มีหรือว่าเราไม่รู้กันแน่

    หลายวันมานี้พลอยหยุดเรียนไปด้วยเหตุผลที่ว่าเธอนั้นไม่สบาย แถมในแชทกลุ่มเธอก็ไม่มีความเคลื่อนไหว ส่งข้อความหาเพื่อนก็ตอบกลับเพียงสั้นๆ แล้วก็หายไป โทรหาน้ำเสียงก็ไม่ค่อยสู้ดีนัก เต้าหู้กับเพื่อนอีกสองคนเลยอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ “แกสองคนได้คุยกับพลอยบ้างปะ” เต้าหู้ที่เป็นกังวลเอ่ยถามกับเพื่อนทั้งสองขณะที่กำลังนั่งรอเข้าเรียนในช่วงเช้า “ไม่นะ ไม่ได้คุยอะไรกันเลย เป็นห่วงอยู่เหมือนกัน” ส้มลิ้มตอบ “ฉันก็รู้สึกเป็นห่วงพลอยอะ ไม่รู้ว่าป่วยเป็นอะไรกันแน่” สีหน้าเต้าหู้เป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด พลอยไม่ใช่คนที่จะโดดเรียนหรือหนีหายไปและโกหกว่าป่วยแน่นอน ตอนนี้เธอคงจะป่วยจริงๆ จนถึงขั้นมาเรียนไม่ไหว จีจี้ที่นั่งฟังอยู่เลยออกความเห็น “งั้นเราลองถามพลอยดีไหมว่าตอนนี้อยู่ไหน หลังเลิกเรียนแล้วไปเยี่ยมพลอยกัน” ระหว่างที่กำลังจะกดโทรหาอยู่นั้น พวกเธอก็ได้เห็นพลอยก็กลับมาเรียนแต่พลอยกลับไม่เดินมาหาพวกเธอ แต่กลับรีบเดินเข้าห้องเรียนไปแถมยังไม่มานั่งรวมกับพวกเธออีกต่างหาก ไม่รู้ว่าพลอยมีปัญหาอะไรไหม พอจะถามพลอยก็ปลีกตัวไม่สุงสิงกับใครนั่นยิ่งทำให้น่าเป็นห่วงมา

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 42 เรากำลังจะมีลูกกัน

    วันกีฬามหาวิทยาลัย นักศึกษาแต่ละคนก็ต้องวุ่นกับการทำหน้าที่ของตนเอง เต้าหู้ พลอย และจี้จี้ มีหน้าที่แปลกอักษร บนอัฒจันทร์พวกเธอต้องตื่นตั้งแต่ตีสามตีสี่เพื่อมาเตรียมความพร้อมก่อนงานจริงจะเริ่ม ส่วนส้มลิ้มก็มีแข่งชกมวยรอบชิงชนะเลิศอยู่ที่สนามและเธอจะมารับเหรียญในช่วงเย็น จนถึงเวลาพักทานข้าว รุ่นพี่ที่ดูแลได้นำอาหารและน้ำดื่มมาแจกให้กับพวกนักกีฬาและคนอื่นๆ ที่ทำกิจกรรม สามสาวก็มาหาที่ร่มๆ มานั่งทานข้าวและพักผ่อนก่อนจะกลับไปทำกิจกรรมต่อในช่วงบ่าย สามสาวเปิดกล่องข้าวออกมากำลังจะเริ่มทานด้วยความหิวและความเหนื่อย แต่พลอยกลับทำหน้าพะอืดพะอม และรีบปิดกล่องข้าวลงทันที “พลอยเป็นอะไร ไม่หิวเหรอ” “เรารู้สึกไม่ชอบกลิ่นหมูกระเทียมกล่องนี้เลย มันฉุน เราอยากอ้วก” พอพูดจบเธอก็รีบลุกจากที่นั่งเพื่อที่จะรีบไปอ้วกในห้องน้ำใกล้ๆ เต้าหู้กับจีจี้ด้วยความที่เป็นห่วงเพื่อน จึงวิ่งตามไปพอมาถึงก็เห็นว่าพลอยอยู่ข้างในนั้น เต้าหู้รีบช่วยลูบหลังเพื่อนให้ก่อนจะเอ่ยถาม “แกเป็นอะไร ไม่สบายเหรอ” “ไม่รู้สิ แต่สองสามวันมานี้ฉันเวียนหัวมา

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 41 อย่าให้น้อยหน้าคนอื่น

    ในช่วงกิจกรรมกีฬาของมหาลัย แน่นอนว่านักศึกษาปีที่หนึ่งของแต่ละคณะก็จะต้องมีการฝึกซ้อมเชียร์และกีฬากันอย่างหนัก แน่นอนแหละว่าคนสวยๆ แบบพวกเธอต้องได้รับหน้าที่แปลอักษรและนั่งร้องเพลงเชียร์อยู่บนอัฒจันทร์อยู่แล้ว “เดี๋ยวให้พักก่อนสามสิบนาทีนะครับน้องๆ อีกครึ่งชั่วโมงกลับมาประจำที่นะครับ พี่จะซ้อมเต็มอีกสักสองถึงสามรอบ หรือจนกว่าพวกเราจะคล่อง” รุ่นพี่ปีสี่ที่ทำหน้าที่คุมการซ้อมบอกให้พวกปีหนึ่งไปพัก แต่ตอนนี้อากาศร้อนมากทำให้แต่ละคนก็บ่นออกมาไม่เว้นแม้แต่พวกของแก๊งนางฟ้าเอง “ร้อนมาก ใครก็ได้เอาน้ำไปราดดวงอาทิตย์หน่อยซิ” เต้าหู้บ่น เพราะอัฒจันทร์ของคณะเธอดันหันหน้าไปทางทิศตะวันตก ก็เลยรับแสงแดดยามบ่ายกันอย่างเต็มที่ อย่างไม่ต้องการ กันแดดที่โบกมาอย่างหนาไม่รู้ว่าจะเอาอยู่ได้มากขนาดไหนรู้สึกว่าผิวคล้ำขึ้นเล็กน้อยหลังจบงานนี้คงต้องบำรุงกันยาวๆ “หิวน้ำจะตายอยู่ละ สต๊าฟอยู่ไหนกันหมดปกติต้องเอาน้ำมาแจกแล้วนะ” อยู่จี้ที่ใช้หมวกฟางพัดวีให้ตัวเองบ่นด้วยความเหนื่อย เพราะเธอต้องซ้อมกันในช่วงวันเสาร์อาทิตย์ วันปกติก็เรียนแทบไม่ได้พักตอนเย็นของทุกวันและวันหยุดก็ต้องซ

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 40 เพราะหนูเป็นของเฮียไงคะ

    ตอนนี้ก็ถึงเวลาเปิดเทอมแล้ว ส้มลิ้มและจีจี้มาด้วยหน้าตาที่สดใสเพราะได้กลับบ้านไปพักผ่อนอย่างเต็มที่ แต่ดูเหมือนเปิดเทอมใหม่แล้ว อะไรบางอย่างก็ดูจะเปลี่ยนไป อย่างเช่นพลอยที่ปกติแล้วเธอจะมักจะใส่เสื้อผ้า ชุดนักศึกษาที่ดูเรียบร้อยและมิดชิดปิดไปแทบทุกสัดส่วน สวมแว่นตาหนา รวบผม ใบหน้าก็ไร้ซึ่งเครื่องสำอางแต่แต้ม แต่เวลาเปลี่ยนคนเราก็เปลี่ยนอย่างที่เขาว่า เวลามีความรักอะไรมันก็ดูสวยงามไปหมด พอถอดแว่นตาแต่งตัวให้ดูเข้ากับรูปร่างตัวเอง และแต่งหน้าเพิ่มเพียงนิดหน่อย ก็ทำให้เธอดูโดดเด่นขึ้นมามากเลยทีเดียวอย่างกับเป็นคนละคน “ไม่บอกจริงๆ เหรอว่าแฟนแกเป็นใครน่ะพลอย” ส้มลิ้มที่อยากรู้อยากเห็นกว่าใครอดใจไม่ได้ที่จะต้องถาม “ยังบอกไม่ได้ตอนนี้น่ะ” พลอยหลุบใบหน้าแดงที่กำลังเขินอายลงไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่ก็รู้สึกว่าพลอยดูสดใสขึ้น “งั้นแก๊งเราก็เหลือคนโสดแค่ฉันกับแกแล้วสิส้มลิ้ม” จีจี้พูดพลางแกล้งทำหน้าเศร้าโผเข้ากอดส้มลิ้ม เพื่อนสาวที่ยังไม่มีแฟนอีกคน “ฉันน่ะโสดจริงแถมไม่เคยมีแฟนด้วย ส่วนของแกน่ะโสดไม่จริงค่ะ เดี๋ยวคบเดี๋ยวเลิกอยู่นั่

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 39 เฮียเลือกเมียไม่ผิดจริงๆ

    เต้าหู้และเฉินนั่งอยู่ในโบสถ์และกำลังเข้าร่วมพิธีแต่งงานของเพื่อนสนิทของเฉิน อย่าง อากิระและคนรักของเขาอย่างริบบิ้น โดยที่มีเด็กตัวน้อยยืนอยู่บนแท่นพิธีร่วมกับทั้งคู่ เด็กคนนั้นคือเรียวตะลูกชายของพวกเขาทั้งสองนั่นเอง คู่บ่าวสาวต่างปฏิญาณสาบานตนว่าจะรักและดูแลซึ่งกันและกันจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ในตอนเย็นก็มีพิธีฉลองมงคลสมรส จัดขึ้นที่คฤหาสน์ของอากิระ หลังลงจากรถหรูเฉินยกแขนข้างหนึ่งขึ้นเป็นการบอกให้คนตัวเล็กที่ยืนข้างกันเดินคล้องเข้าไปในงานคืนนี้ พอเข้ามาหญิงสาวมองไปรอบๆ ตะลึงในความใหญ่โตและสวยงามของคฤหาสน์สไตล์ยุโรปแห่งนี้ตกแต่งราวกับหลุดออกมาจากยุคกลาง ก่อนที่เฉินจะพาเธอเดินไปทักทายเพื่อนสนิทที่อยู่ในงานเลี้ยงอย่างคู่บ่าวสาว “ยินดีกับมึงด้วยนะเพื่อน” “เออ ขอบใจ” “เรียวตะหลานกู ไปไหนแล้วล่ะ” มองหาลูกชายของเพื่อที่ตอนนี้ไม่เห็นมาวิ่งเล่นในงาน “เล่นทั้งวันคงเหนื่อยก็เลยงอแง กูให้พี่เลี้ยงพาขึ้นไปนอนแล้ว” “เออจริงสิ ไอ้พี่อี้ใส่ซองมาให้ แล้วก็ฝากบอกยินดีกับริบบิ้นด้วย แล้วก็ฝากความคิดถึงเรียวตะ” เฉินหยิบซองด้

DMCA.com Protection Status