Share

องครักษ์คนใหม่

last update Last Updated: 2024-12-08 12:47:31

3

องครักษ์คนใหม่

หญิงสาวพาหลันอันฉีเดินตามไปทางโต๊ะหินอ่อนใกล้ลานประลอง ต้นเฟิงต้นใหญ่เริ่มเปลี่ยนจากสีเขียวเหลืองเป็นสีแดง เมื่ออากาศเริ่มเย็นลง ทั่วทั้งจวนสกุลต่งมีแค่ลานประลองนี้เท่านั้นที่มีต้นเฟิงอยู่ แม้จะเป็นช่วงที่ใบกำลังเปลี่ยนสีแต่บนพื้นกลับไม่มีใบเฟิงอยู่เลย

บ่งบอกว่าลานประลองแห่งนี้ถูกดูแลเป็นอย่างดี ไม่ว่านางจะถูกกลั่นแกล้งจากแม่เลี้ยงเท่าใด แต่ลานนี้ไม่เคยถูกละเลย เพราะลานประลองแห่งนี้เป็นความทรงจำของมารดานาง

“ท่านหญิงมีสิ่งใดจะสั่งข้าหรือ” หลันอันฉีถามเสียงเข้ม ไม่มีได้ก้าวร้าวรุนแรง เพียงเป็นเอกลักษณ์ของบุรุษเท่านั้น พ่อบ้านพยักหน้าให้หลังจากท่านหญิงต่งมองหน้าครู่เดียว เขาเดินปลีกตัวออกไปปล่อยให้นางได้บอกกล่าวคำสั่งแค่ผู้ติดตามคนใหม่

“ข้ามิได้ต้องการองครักษ์เก่งกาจเท่านั้น แต่ข้ายังอยากได้องครักษ์ฉลาดเฉลียวอีกด้วย และเจ้าเป็นผู้เดียวที่เอ่ยทักทำนองฉินของข้า เหตุใดจึงทักเพลงฉินแทนที่จะถามหัวข้อการประลองต่อไปเล่า” ต่งซูเหวินถามเสร็จก็นั่งลงบนหินอ่อนสีเดียวกับหยก รอฟังคำตอบจากหลันอันฉี

“นี่ลานประลอง คงไม่มีผู้ใดนำเครื่องดนตรีมาเล่นที่นี่หากไม่มีเหตุผล เช่นนั้นข้าจึงรู้สึกว่าทำนองฉินนี้อาจเกี่ยวกับหัวข้อการประลองต่อไป ข้าเคยฟังเพลงนี้แต่ไม่ใช่ทำนองที่เศร้าสร้อยเช่นนี้จึงพลั้งปากออกไป” หลันอันฉีกล่าวจบนางก็แย้มยิ้มด้วยใบหน้าพอใจ เช่นนี้นางจึงบอกว่าอยากได้ผู้ที่ฉลาดเฉลียวพอจะสงสัยสิ่งเล็กน้อยอย่างไรเล่า

“เช่นนี้ข้าจึงเลือกเจ้าอย่างไรเล่า เพราะเจ้าเฉลียวกว่าผู้อื่น พอใจคำตอบของข้าหรือไม่”

“ขอบคุณคุณท่านหญิงต่ง”

“เรียกข้าว่าคุณหนูเหมือนหงอิงเถอะ หากเจ้าไม่มีสิ่งใดสงสัยก็ให้หงอิงพาไปดูห้องพัก ยามโหย่วค่อยไปหาข้า หงอิง...” พอสั่งองครักษ์คนใหม่เสร็จนางก็ให้หงอิงพาเขาออกไปพัก ทำแผลตามเนื้อตัวเสียก่อน รอยามโหย่วค่อยออกไปหาเรื่องทำให้คนวุ่นวาย

ชายหนุ่มเดินถือห่อผ้าตนเองตามหงอิงออกประตูข้างไปยังเรือนด้านข้าง ซึ่งเป็นเรือนคุณหนูของบ้านซึ่งก็คือนาง ส่วนตัวนางเองยังคงนั่งมองต้นเฟิงต่อไป

มารดานางเป็นวีรสตรีแต่ชีวิตบุตรสาวกลับน่าขันนัก เพราะเห็นมารดาให้บิดามีอนุภรรยา ในชาติก่อน ๆ นางจึงยอมเป็นอนุภรรยาเพราะรักองค์ชายสี่ฟังใจ ทั้งบิดาก็เห็นดีเห็นงามด้วย เห็นบิดามีความสุขนางก็ดีใจจึงแต่งเป็นอนุภรรยาถึงสามชาติ

แต่พอนางแต่งเป็นอนุภรรยาแล้วบิดากลับบอกว่าหากนางหย่าห้ามกลับสกุลต่ง เช่นนี้นางจึงจำต้องทนไป เมื่อย้อนเวลามาครานี้นางจะขัดใจทุกคนสนใจเพียงอนาคตกับความสุขตนเองเท่านั้น

สิ่งใดไม่เคยทำ ไม่เคยกล้า นางจะเปลี่ยนมันให้หมด...

“คุณหนูท่านจะไปที่ใดหรือเจ้าคะ หงอิงไม่เคยเห็นคุณหนูออกจากจวนหลังยามเซิน” หงอิงถามขณะที่เดินตามผู้เป็นเจ้านายออกจากจวนในยามโหย่ว คุณหนูของนางเป็นสตรีอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนไม่ค่อยออกไปที่ใด หากไม่ใช่งานที่จัดขึ้นในวัง นอกจากจะออกจากจวนในยามโหย่วคุณหนูของนางยังจัดหาองครักษ์มาด้วย

แต่ถึงจะถามไปคุณหนูไม่อยากตอบนางก็ไม่ได้คำตอบอยู่ดี ทั้งสามเดินมาจนถึงร้านเครื่องประดับตระกูลซู ตระกูลของชายาเอกในชาติก่อน นางมาเพื่อสืบข่าวและหาเรื่องวุ่นวายให้ซูซิงเยียน

นางสาบานกับตนเองว่าจะก่อกวนซูซิงเยียนไม่ให้นางได้มีความสุขไปตลอดชีวิต...

“คุณหนูอยากซื้อเครื่องประดับใหม่หรือเจ้าคะ” หงอิงถามเสียงใส ช่างเป็นสาวน้อยที่ไร้เดียงสาเสียจริง ซูเหวินคิดเช่นนั้นจากนั้นยิ้มให้สาวใช้ตนเอง ค้อมตัวลงยื่นหน้าไปหานาง กระซฺบเบา ๆ ด้วยรอยยิ้มร้ายกาจ “ข้าอยากมาสร้างความวุ่นวาย”

“คุณหนู! คุณหนูพูดสิ่งใดกันเจ้าคะ”

“อันฉี เจ้ายินดีทำตามที่ข้าสั่งหรือไม่” หลันอันฉีขมวดคิ้วเล็กน้อย จ้องหน้านางถึงจะสงสัยแต่เขาจะไม่ปฏิเสธคำสั่งของผู้เป็นเจ้านาย

“คุณหนูเชิญสั่ง”

“ดี เช่นนั้นเจ้าลองไปสืบดูสิว่าร้านตระกูลซูติดต่อค้าขายกับผู้ใดบ้าง” องครักษ์หนุ่มรับคำเดินจากไปทำตามคำสั่งของผู้เป็นนายแม้จะยังนึกสงสัย ก่อนนี้นางยังกล่าวว่าจะสร้างวุ่นวายอยู่แท้ ๆ

“เราเข้าไปดูเครื่องประดับสักหน่อยดีกว่าหงอิง”

“คุณหนูจะดูเครื่องประดับใหม่หรือเจ้าคะ”

“ไปดูลาดเลา” นางว่าจบก็เดินนำหงอิงเข้าไปในร้านเครื่องประดับตระกูลซู ภายในร้านมีเครื่องประดับงดงามมากมายให้เลือกชม ทั้งพู่ห้อยกระบี่ หยกห้อยเอว ปิ่นปักผม

ซูเหวินแสร้งเดินเลือกพู่ห้อยกระบี่อยู่สักครู่ เถ้าแก่ของร้านจึงเดินเข้ามาถามไถ่ ดูแลตามประสาผู้ดูแลร้าน

“คุณหนูท่านตาถึงมาก พู่ห้อยกระบี่นี้ทั่วทั้งเมืองมีเพียงร้านของเราเท่านั้น”

“เช่นนี้เอง ข้าตามหาพู่ห้อยที่ถูกใจมาทั่วทั้งตรอกจึงถูกใจเพียงของในร้านเถ้าแก่”

“คุณหนูตาถึงยิ่งนัก เครื่องประดับของร้านเราไม่มีผู้ใดไม่รู้จัก ทุกสิ่งทุกอย่างร้านใดไม่มีร้านของเรามีทุกสิ่ง”

“เช่นนี้ คุณหนูซูเข้าร้านบ้างหรือไม่ ข้าได้ยินว่านางมีสายตาเฉียบแหลม อยากให้คุณหนูซูดูสักหน่อยว่าหยกชิ้นใดเหมาะกับข้า”

“เกรงว่าคุณหนูคงต้องรอนาน คุณหนูซูเพิ่งมาที่ร้านไปเมื่อสองวันก่อน นางจะมาอีกครั้งต้นเดือนหน้า”

“เช่นนั้นวันนี้คงต้องเอาไปแต่พู่แล้วกระมัง”

นางแสร้งเอ่ยวาจาด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน ฝ่ามือเรียวหยิบพู่ห้อยเอวสีเดียวกับท้องฟ้าหลังฝนที่งดงาม เดิมทีเพียงอยากหลอกถามข่าวคราวเท่านั้น แต่เมื่อได้จับมาถือเอาไว้จึงนึกถึงกระบี่บางของมารดา

“คุณหนู พู่นี่ให้ข้าใส่กล่องให้นะขอรับ” นางยื่นพู่ห้อยกระบี่ให้เถ้าแก่นำไปใส่กล่อง ลับหลังเถ้าแก่ผู้ดูแลร้าน สาวใช้คนสนิทจึงมากระซิบถาม

“คุณหนูจะซื้อไปให้ผู้ใดเจ้าคะ ท่านไม่ใช้กระบี่เสียหน่อย อีกอย่างคุณหนูบอกว่าจะเข้ามาดูลาดเลามิใช่หรือ”

“ข้าไม่ใช่กระบี่แต่มิใช่ไม่มีกระบี่ ข้าไม่ใช้ให้อันฉีก็ย่อมได้ เจ้าจะกังวลไปทำไม หงอิงของไม่กี่ตำลึงเท่านั้น”

Related chapters

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   เหตุใดจึงช่วยข้า

    4เหตุใดจึงช่วยข้า“องค์หญิง ออกมาเช่นนี้ไม่กลัวเป็นอันตรายหรือเจ้าคะ” หญิงสาวข้างกายถามขึ้นเมื่อองค์หญิงปลอมตัวเป็นบุรุษหนีออกจากวังมาเที่ยว แม้จะเดินห้ามอยู่ข้างกายตลอดแต่นางเป้นบ่าวจะขัดใจผู้เป็นนายได้อย่างไรองค์หญิงหนิงเอ๋อบุตรสาวคนเล็กของฮ่องเต้หนิงหวง พระองค์ทรงรักและตามใจนางมาก เนื่องจากเป็นบุตรสาวที่เกิดจากกุ้ยเหรินคนโปรดเช่นเดียวกับองค์ชายสาม นางมักแอบหนีออกไปเที่ยวนอกวังบ่อย ๆ ยิ่งเป็นลูกคนเล็กถูกตามใจมากไม่มีผู้ใดให้พูดคุยหยอกล้อ ย่อมต้องเบื่อหน่ายเป็นธรรมดา“ข้าหนีออกมาตั้งกี่ครั้งแล้ว เคยถูกจับได้หรืออย่างไร ถึงถูกจับได้แล้วผู้ใดจะเอาโทษข้าเล่า”“โถ่ องค์หญิง”“ไปเถอะอย่ามัวพูดมากเสี่ยวเหมย ไม่เช่นนั้นข้าจะหนีไปเอง” เสี่ยวเหมยจำต้องปิดปากเงียบแล้ววิ่งตามองค์หญิงไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทำได้เพียงไหว้พระพุทธองค์ในใจให้ปกปักษ์องค์หญิงของนางเท่านั้นตลาดผู้คนค่อนข้างพลุกพล่านองค์หญิงหนิงเอ๋อเดินไปตามทางในตรอก ข้างนอกแม้อาหารไม่ดูดีเท่าในวัง แต่บางอย่างกลับเลิศรสจนนางเอกยังตกใจ เหตุใดจึงไม่เคยกินมาก่อนเพราะเหตุนี้นางมักแอบออกมาสอดส่องดูว่าภายนอกมีชีวิตกันอย่างไร“เสี่ยวเหมยเจ้าดู

    Last Updated : 2024-12-08
  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   โชคชะตาลิขิต

    5โชคชะตาลิขิต“ข้าเคารพรองแม่ทัพต่งมานาน ได้เห็นว่าเจ้าเป็นบุตรสาวของนางจึงมีความคิดอยากจุดธูปไหว้นางหน่อยได้หรือไม่” ซูเหวินมองหน้าผู้พูดด้วยความงุนงง เหตุใดนางจึงกล่าวพิกลเช่นนี้ มีผู้ใดกันเดินเข้าบ้านผู้อื่นขอไหว้ผู้ล่วงลับ พอเห็นผู้เป็นนายเดินมาองครักษ์ก็หลบไปอยู่ข้างประตูหลีกทางให้ผู้เป็นเจ้านาย“เจ้าเป็นผู้ใด เหตุใดมาโหวกเหวกหน้าจวนผู้อื่นเช่นนี้ แปลกยิ่งนัก”“ข้าองค์หญิงหนิงเอ๋อ”“ข้าจะแน่ใจได้อย่างไรว่าเจ้าเป็นองค์หญิง” ซูเหวินกล่าวขณะเดินไปยืนอยู่ตรงหน้าสตรีที่แสร้งปลอมตัวเป็นชาย มองนางอย่างชั่งใจแปดในสิบส่วนเชื่อไปแล้วว่านางเป็นองค์หญิง คิดว่าหากนางตั้งใจหลอกจริงคงไม่กล้ามาถึงจวนเช่นนี้“หน้าข้าเจ้าคงไม่เคยเห็น แต่คงรู้จักป้ายหยกตระกูลไป๋นี่ใช่หรือไม่” สตรีอายุน้อยกว่ายื่นป้ายหยกขาวสลักคำว่าไป๋ ดูก็รู้ว่าเป็นของในวังอย่างแน่นอน แต่นางกลับคิดว่าแปลกอยู่ดี

    Last Updated : 2024-12-14
  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   สหายสนิทคนใหม่

    6สหายสนิทคนใหม่ภาพตรงหน้างดงามนัก ไม่คิดเช่นกันว่าจะได้มาเห็นภาพนี้พอดี ไม่รู้ว่าต้องขอบคุณหรือโมโหเด็กสาวผู้นั้นดีที่ชอบหนีหายไปตลอด“นั่นเพคะองค์ชาย องค์หญิงอยู่ตรงนั้น” เสี่ยวเหมยสาวใช้คนสนิทกล่าวพลางชี้ไปยังโต๊ะหินอ่อนตรงลานประลอง นางก้าวเท้าหมายจะเดินเข้าไปหาแต่ถูกชายหนุ่มผู้นั้นห้ามไว้เสียก่อน“เดี๋ยว รอก่อน”“เพคะ องค์ชาย” เสี่ยวเหมยตอบรับแล้วขยับไปยืนด้านหลัง ปล่อยให้องค์ชายหนิงอวี่หรือองคืชายสามยืนมองอยู่เช่นนั้นเกือบทุกวันองค์ชายต้องออกมาตามน้องสาวกลับวังเช่นนี้ ทั้งฮ่องเต้ทั้งพระสนมต่างพากันตามใจนาง น้องสาวจึงค่อนข้างเอาแต่ใจตนเอง แม้ไม่ได้ทำให้ผู้ใดเดือดร้อนแต่นางชอบหาเรื่องให้ตนเองลำบากอยู่บ่อยครั้งหลังยามเว่ยหากนางไม่อยู่ในวังเขาจะรีบออกตามหา เพื่อไม่ให้นางสร้างเรื่องให้ตนเองลำบาก แต่วันนี้ดียิ่งนักนางมิได้สร้างเรื่องให้ตนเอง กลับทำเรื่องดี ๆ ให้ผู้เป็นพี่ชายเช

    Last Updated : 2024-12-15
  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ผู้ที่อยู่ในใจ

    7ผู้ที่อยู่ในใจ“อีกหนึ่งเดือนจะเป็นงานฉลองวันเกิดท่านแม่ ข้าขอให้นางมาสอนรำกระบี่ดีหรือไม่ นางจะได้เข้าวังบ่อย ๆ เสด็จจะได้ไปทำความรู้จักกับนางไม่ต้องคิดข้ออ้างมากมาย เพียงมาหาน้องท่านพี่ก็จะเจอนาง” องค์หญิงหนิงเอ๋อบอกผู้เป็นพี่ด้วยน้ำเสียงสดใส แววตาเปล่งประกาย ตามประสาผู้ไม่เคยมีความรักชอบผู้ใด องค์ชายหนิงอวี่ก็มีความเห็นเอนเอียงไปตามคำบอกเล่าของน้องสาว ติดเพียงอย่างเดียว...“นี่เจ้าอยากช่วยพี่หรืออยากเรียนวิชารองแม่ทัพต่งกันแน่”“โถ่ เสด็จพี่ถึงอย่างไรเสียก็ช่วยท่านได้ ให้ข้าได้ประโยชน์บ้างจะเป็นไร” ผู้เป็นน้องสาวตอบอย่างเขินอาย หัวเราะเบา ๆ ให้ชายตรงหน้า นางอยากเรียนก็จริง แต่ไปขอให้นางสอนที่จวนก็ได้นี่นางอยากช่วยพี่ชาย จึงคิดว่าไปขอให้สหายมาช่วยสอนในวังดีกว่า“ได้ ๆ น้องพี่ว่าอย่างไรก็ดีทั้งนั้น แต่หากพรุ่งนี้จะออกไปให้องครักษ์ไปด้วยรู้หรือไม่”“หนิงเอ๋อต้องไปพรุ่งน

    Last Updated : 2024-12-16
  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ใบหน้าที่เสแสร้ง

    8ใบหน้าที่เสแสร้ง“คุณหนูซูเหวิน มีคนมาหาเจ้าค่ะ” บ่าวในจวนมาแจ้งนางที่ห้อง ซูเหวินลุกจากโต๊ะเขียนหนังสือเดินไปเปิดประตูห้อง ถามสาวใช้ว่าผู้ใดกันที่มาแต่เช้าเช่นนี้“ใครกันมาแต่เช้าเช่นนี้”“องค์หญิงเจ้าค่ะคุณหนู” สาวใช้กล่าวน้ำเสียงร้อนรน เกรงว่าให้สูงศักดิ์รอนานจะไม่ดีนัก ซูเหวินขมวดคิ้วแล้วตามสาวใช้ออกไปทันที ไม่รู้ว่าเหตุใดองค์หญิงจึงมาหานางแต่เช้า คงไม่มาเคารพป้ายวิญญาณมารดานางหรอกกระมัง ระหว่างเดินก็คิดไปสารพัดอย่าง“ถวายบังคมองค์หญิง”“ไม่ต้องมากพิธี รีบมานั่งเถอะข้ามีเรื่องอยากให้เจ้าช่วย”“หม่อมฉันหรือเพคะ คนทั่วไปอย่างหม่อมฉันจะช่วยสิ่งใดองค์หญิงได้กัน” นางถามอย่างไม่เข้าใจ ไม่เข้าว่าใจองค์หญิงผู้มีทุกสิ่งในใต้หล้าอยู่ในมือจะให้นางช่วยสิ่งใดได้ องค์หญิงหนิงเอ๋อราวกับรู้ว่านางคิดสิ่งใดจึงเริ่มพูดต่อ“อีกหนึ่งเดือนจะเ

    Last Updated : 2024-12-17
  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   หน้าที่คือต้องปกป้อง

    9หน้าที่คือต้องปกป้องหลังกลับจากเรือนฝั่งขวาต่งซุเหวินก็เดินกลับไปที่เรือนฝั่งซ้ายซึ่งเป็นเรือนของตนเอง ท่าทีสบายใจ อารมณ์ดียิ่งนัก หลายชาติก่อนนางไม่เคยเถียงหรือมีท่าทีเช่นกับผู้อื่นมาก่อน พอได้ลองแล้วรู้สึกดีไม่น้อย เช่นนี้นี่เองสองแม่ลูกนั่นจึงมักมาหาเรื่องนางอยู่บ่ายครั้งและที่สำคัญยามนี้นางมีคนคอยดูแลปกป้อง มันทำให้นางยิ่งสบายใจมากขึ้นไปอีก ตัวนางเองไม่มีกำลังจะไปสู้กับใครมีเพียงมันสมองเท่านั้น พอได้หลันอันฉีมาราวกับมีมือมีเท้าเพิ่ม โชคดีเสียจริงที่เลือกเขามา“อันฉี”“ขอรับคุณหนู” ชายหนุ่มรีบเดินเร็วมายืนขนาบข้างกายนางเพื่อรอฟังคำสั่ง นางมองหน้าเขาอยู่สักพักจึงยิ้มออกมา รอยยิ้มงดงามสดใสทำให้คนที่มองใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา“เจ้าไม่สบายหรือเหตุใดหน้าจึงแดงเช่นนนี้” นางยกมือขึ้นแตะหน้าผากองครักษ์ตรงหน้า ด้วยความตกใจอันฉีก้าวถอยหลังทันทีที่ฝ่ามือเล็กแตะลงบนหน้าผากตน“ข้าไ

    Last Updated : 2024-12-18
  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   เหตุบังเอิญ

    10เหตุบังเอิญ“เหตุใดพี่หญิงจึงมาช้าเช่นนี้ ข้ารออยู่นานเชียว” องค์หญิงหนิงเอ๋อถามขึ้นเมื่อเห็นหน้าผู้ที่นางรออยู่นานแล้ว ผู้ที่ถูกทักกลับมีใบหน้างุนงง องค์หญิงที่นางได้เจอเพียงสองครั้งเท่านั้นแต่กลับถูกเรียกพี่หญิง นางไม่คุ้นชินผู้ที่เรียกนางเช่นนี้มีเพียงซูหนี่ ซ้ำยังเรียกนางด้วยน้ำเสียงเสแสร้งแกล้งทำ“พี่หญิงหรือเพคะ” ซุเหวินตอบองค์หญิงด้วยน้ำเสียงแคลงใจ จนองค์หญิงหนิงเอ๋อหัวเราะร่วน จูงมือนางให้เดินตามเข้าไปในตำหนักเพื่อพูดคุยกันเสียก่อน“พี่หญิงอายุมากกว่าข้า เช่นนี้เรียกพี่หญิงไม่ถูกหรือ”“แต่ทรงเป็นองค์หญิงนะเพคะ”“องค์หญิงแล้วอย่างไร ข้าอยากรู้ว่าผู้ใดจะขัดได้หากข้าจะเรียก พี่หญิงไม่ต้องห่วง ไปเถอะท่านกินอะไรมาหรือยัง ข้าให้คนเตรียมของกินไว้ให้มากนัก” ช่างเป็นเด็กสาวที่น่ารักน่าเอ็นดูเสียจริง นางไม่รู้เลยว่าเหตุใดองค์หญิงจึงไม่มีเพื่อนองค์หญิงให

    Last Updated : 2024-12-19
  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ไม่อาจละสายตา

    11ไม่อาจละสายตาการสอนของหลิงซือฝูมิใช่การแนะนำแต่เป็นการลงมือทำ องค์ชายทั้งสองถืออาวุธของตนเองพุ่งกระโจนเข้าใส่ผู้เป็นอาจารย์ ทั้งสามสู้กันดุเดือดแต่สุดท้ายผู้ชนะก็ยังคงเป็นหลิงซือฝูองค์ชายยืนหอบลมหายใจเข้ากระชั้น เพียงแค่เห็นการต่อสู้เมื่อครู่นางก็เหนื่อยแทนแล้ว ซูเหวินรินชาใส่จอกโบกมือให้ขันทีรับใช้ทั้งสองนำชาไปให้องค์ชายที่เพิ่งนั่งลงหลิงซือฝูที่มิได้มีขันทีรับใช้จึงเป็นหน้าที่นางกำนัลขององค์หญิงหนิงเอ๋อ“ขอบคุณท่านหญิง” หลิงซือฝูหันมาบอกน้ำเสียงทุ้มนุ่มนวล ยิ่งฟังยิ่งเพลิดเพลิน ซูเหวินมิได้ตอบสิ่งใดออกไปเพียงหันพูดคุยกับหญิงสาวตรงหน้า“หากองค์หญิงเหนื่อยแล้ว เราฝึกวันพรุ่งนี้ดีหรือไม่เพคะ”“ข้าบอกแล้วอย่างไร ข้าไม่เหนื่อยเพียงอยากแอบดูการสอนของหลิงซือฝู” เสียงหวานบอก นึกขบขันตนเองที่ไม่อาจเข้าร่วมเรียนได้จึงทำได้เพียงแอบจำไปเช่นนี้ เมื่อกล่าวจบองค์หญิงก็ลุกจากที่นั่งเดิน

    Last Updated : 2024-12-20

Latest chapter

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   จำต้องเลือก

    33จำต้องเลือกสองเท้าก้าวไปข้างหน้าอยู่หลายครั้งแต่ก็ย้อนกลับมายืนที่เดิมอยู่ตลอด ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าเสด็จแม่จะทำการใหญ่เช่นนี้ได้ ยอมแม้กระทั่งวางยาสวามีตนเอง นี่คงเป็นเหตุผลที่ทรงขอประทานสมรสจากเสด็จพ่อให้ตนเองกับสกุลซู“ชิงเยียนจำได้แล้วเพคะเสด็จป้า แต่ชิงเยียนเกรงว่าหากองค์ชายรู้เข้าจะไม่ทรงยินยอมร่วมแผนการของเรา”“หนิงจินเป็นบุตรที่กตัญญูเพียงใดเจ้าไม่รู้หรือชิงเยียน หากข้าบอกให้ทำมีหรือหนิงจินจะปฏิเสธได้ลง” หวงกุ้ยเฟยบอกซูชิงเยียนด้วยแววตาชื่นชม และรอยยิ้มร้ายกาจ นางชื่นชมตนเองที่เลี้ยงดูบุตรชายมาได้กตัญญูนัก ไม่ว่านางจะบอกเตือนสิ่งใดองค์ชายหนิงจินล้วนไม่เคยขัด กระทั่งนางกล้าใช้บุตรเป็นตัวหมากในการขึ้นสู่ที่สูง“เสด็จป้าทรงปรีชายิ่ง ชิงเยียนจะบอกท่านพ่อให้ครบทุกคำเพคะ เช่นนั้นชิงเยียนขอตัวก่อนอีกไม่นานองค์ชายคงมา หากมาเจอกันยามนี้ย่อมไม่ดีต่อแผนการเป็นแน่”&

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ข้าจำไว้แล้ว

    32ข้าจำไว้แล้ว“หนิงลี่ แม่นางซู ขอโทษท่านหญิงเสีย” องค์หญิงใหญ่ชักสีหน้าเมื่อได้ยินคำสั่งของพี่ชาย ซูชิงเยียนเองก็ตกใจจนหน้าถอดสี ภาพลักษณ์หญิงสาวอ่อนหวานของนางต่อหน้าองค์ชายสี่หมดไปแล้วหรือไม่“เสด็จพี่ เหตุใดข้าต้องขอโทษนาง อย่างไรข้าก็เป็นองค์หญิง”“เจ้ารู้ว่าตนเองเป็นองค์หญิงแต่ไม่รู้ว่าไม่ควรเสียมารยาทต่อผู้อื่นหรือ” ขณะนี้นางกำลังเป็นที่สนใจของผู้คนไม่น้อยเลย แม้ผู้คนจะไม่ได้เข้ามาฟังใกล้ ๆ แต่กลับยืนมองอยู่ไม่ห่าง“เสด็จพี่”“ช่างเถอะเพคะองค์ชาย หม่อมฉันไม่อยากให้ผู้คนมองมากกว่านี้ ขอเพียงองค์หญิงไม่มาหาเรื่องหม่อมฉันอีก หม่อมฉันย่อมไม่ถือสา ไปเถอะเพคะองค์หญิง” กล่าวกับบุรุษตรงหน้าแล้วจึงขอปลีกตัวออกไป นางมั่นใจว่าองค์ชายสี่ต้องตามออกมาอย่างแน่นอน“เช่นนั้นให้ข้าเดินไปส่งดีหรือไม่” เป็นอย่างที่นางคิดเขาขอตามออกมา และหากนางยอมรับน้ำใจน

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ประทานสมรส

    31ประทานสมรสต่งซูเหวินตามไปพบองค์หญิงหนิงเอ๋อที่หน้าตำหนักข้างของอุทยาน เมื่อพูดคุยกันจนหายคิดถึงแล้วจึงตามไปยังอุทยานเพื่อร่วมงานฉลองของหวงกุ้ยเฟยงานเช่นนี้ยังคงน่าเบื่อสำหรับนางอยู่เสมอ แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่กับต่งซูหนี่ที่น่ารำคาญ นางเอาแต่มองหาหลิงเฟยหลง ถามนางซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าหลิงเฟยหลงไปไหน ทำไมจึงไม่อยู่ในงาน มันทำให้นางหงุดหงิด นางเดาว่าความหงุดหงิดนี้เพราะต่งซูหนี่น่ารำคาญ“ฝ่าบาทเพคะ งานฉลองของน้องไป่คราก่อนพระองค์ทรงรับปากประทานสมรสให้หนิงอวี่ ครานี้ทรงประทานสมรสให้หนิงจินเป็นของขวัญหม่อมฉันได้หรือไม่เพคะ” หวงกุ้ยเฟยกล่าวกับองค์จักรพรรดิด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนหวาน แม้จะไม่โปรดตระกูลซูที่คอยหนุนหลังนาง แต่อย่างไรนางก็เป็นถึงหวงกุ้ยเฟย อยู่ด้วยกันมานานย่อมมีความรักอยู่บ้าง ฮ่องเต้จึงไม่อาจปฏิเสธคำขอนี้ได้“หวงกุ้ยเฟย เจ้าอยากให้ข้าประทานสมรสบุตรชายกับสตรีตระกูลใดหรือ หนิงจินเจ้าถูกใจแม่นางตระกูลใดเหตุใดไม่ยอมบ

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ดั่งนภายามค่ำคืน

    30ดั่งนภายามค่ำคืนหลังจากโรงน้ำชาวันนั้นผ่านมาหนึ่งเดือนอีกหนึ่งวันจะเป็นวันฉลองวันประสูติหวงกุ้ยเฟย ดังเช่นงานฉลองของไป่กุ้ยเฟย ฝ่าบาททรงมีคำสั่งให้จัดงานมีเทียบเชิญส่งไปแต่ละจวนไม่น้อย หนึ่งในนั้นก็เป็นตระกูลต่ง คราวนี้มิได้มีเพียงต่งซูเหวินเท่านั้น ต่งซูหนี่เองก็เข้าวังไปตามเทียบเชิญด้วยเช่นกันงานเช่นนี้นางเบื่อยิ่งนักหากไม่เพราะเทียบเชิญนางไม่นึกอยากมาแม้แต่น้อย คงเป็นวันนี้ที่หวงกุ้ยเฟยจะทูลขอสมรสจากองค์จักรพรรดิให้องค์ชายสี่และหญิงตระกูลซูผู้นั้น“คารวะท่านหญิง” นางกำนัลเอ่ยขึ้นมาขณะนางกำลังเดินไปยังอุทยานที่จัดงานฉลอง หากนางจำไม่ผิดนางกำนัลนี่เป็นนางกำนัลขององค์หญิงหนิงเอ๋อ แม้ไม่ชอบเข้าร่วมงานในวังแต่อย่างไรก็เป็นวันเกิดหวงกุ้ยเฟย องค์หญิงก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน“องค์หญิงหนิงเอ๋ออยู่ที่อุทยานหรือไม่”“อยู่เจ้าค่ะ องค์หญิงกำลังรอท่านหญิงอยู่เช่นกัน เชิญทางนี้เจ้าค่ะ” หงอิงเดิ

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ที่ปรึกษา

    29ที่ปรึกษา“ข้าเชื่อท่านหญิง แต่หากท่านหญิงอยากล้มตระกูลซูมีแค่ตนเองคงไม่อาจสำเร็จได้”“เป็นเช่นนั้น ข้าจึงบอกท่านอย่างไรล่ะ ข้ารู้ว่าท่านเลือกองค์ชายสามใช่หรือไม่ นอกจากองค์ชายสามก็คงไม่มีผู้ใดเหมาะกับตำแหน่งไท่จื่อแล้ว อีกทั้งกุ้ยเฟยยังไม่ทรงอยากมีอำนาจเช่นหวงกุ้ยเฟยด้วย” นางบอกความคิดของตนเองให้กับบุรุษตรงหน้า ไม่รู้เช่นกันว่าเขาจะคิดอย่างไรกับเรื่องนี้แม้จะพานพบแต่เรื่องราวเลวร้ายมามาก แต่การยอมเชื่อใจผู้อื่นก็ยังง่ายกว่าการคอยระแวงผู้อื่นอยู่ดี“เป็นดังที่ท่านหญิงกล่าว ข้าเลือกองค์ชายสามไม่ใช่เพราะเก่งกาจเหนือองค์ชายสี่ แต่เพราะมารดาองค์ชายสามทรงรักบุตรชายมากกว่าการแสวงหาอำนาจ”“เช่นนั้นถือว่าข้าช่วยท่าน ท่านช่วยข้า”“หากท่านหญิงมีสิ่งใดให้ช่วย โปรดบอกข้าน้อย” หลิงซือฝูลุกยืนยกมือขึ้นมาประสานกันค้อมตัว เมื่อได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมด เสร็จสิ้นทุกอย

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   อดีตที่มิอาจลืมเลือนได้

    28อดีตที่มิอาจลืมเลือนได้“ท่านไม่จำเป็นต้องตอบ ข้าเพียงขบขันความโง่งมยามนั้นของตนเองเท่านั้น”“เช่นนั้นคนผู้นั้นคือ...”“องค์ชายสี่หนิงจิน ข้าจึงอยากรู้เรื่องขององค์ชายมาก แต่ก็ไม่อยากเข้าใกล้”“ข้าเดาไม่ผิดจริง ๆ เช่นนั้นแล้วเรื่องของท่านหญิงเป็นอย่างไรต่อ ท่านหญิงบอกว่าตนเองผ่านความเป็นความตายถึงสามครั้งสามครา” หลิงเฟยหลงถามต่อ เรื่องนี้แม้ไม่น่าเชื่อเท่าใดแต่เมื่อผู้กล่าวเป็นต่งซูเหวิน เขาเต็มใจเชื่อนางทั้งหมดไม่ว่านางจะบอกสิ่งใดก็ตาม ก่อนนี้นางก็ได้บอกเรื่องราวเหลือเชื่อที่พิสูจน์มาแล้ว“ยามนั้นข้าโง่งมในรักเพียงเขาบอกว่า รักเพียงข้าแต่ต้องแต่งสตรีอื่นเป็นเมียเอกเพราะมารดาสั่ง ตระกูลชายาเอกมีอำนาจในราชสำนักมาก สามารถส่งเสริมเขาในการขึ้นเป็นไท่จื่อได้ ข้ายอมเพราะอยากเห็นคนรักสมปรารถนา ท่านลองเดาดูสิว่าสตรีที่ข้าว่าคือผู้ใด”“จากที่ท่านเกลียดตระ

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ผู้ร่วมชะตากรรม

    27ผู้ร่วมชะตากรรม“ข้าบอกท่านครั้งก่อนว่าล่วงรู้อนาคต ที่แท้มิใช่เช่นนั้น” ต่งซูเหวินหันไปมองหลิงเฟยหลง คราก่อนที่เขาไปกับนาง นางก็มิได้บอกเล่าเรื่องจริงเพราะไม่รู้ว่าที่แท้เขาอยู่ฝ่ายผู้ใด จึงได้แสร้งบอกเขาไปว่านางมีญาณหยั่งรู้อนาคตผู้มากความรู้อย่างเขาย่อมไม่เชื่อเรื่องหลอกลวงนี้เป็นแน่ นางจึงกล่าวถึงรับสั่งฮ่องเต้ที่ยังไม่มีผู้ใดล่วงรู้ จากที่นางคำนวนไว้อีกไม่กี่วันฮ่องเต้ต้องทรงมีราชโองการนี้เป็นแน่ ฮ่องเต้ต้องมีรับสั่งให้เหล่าองค์ชายจัดการเรื่องการค้าของเถื่อนที่ไม่สามารถเก็บภาษีได้สองวันต่อมาหลิงซือฝูจึงส่งจดหมายลับให้นาง เขาเชื่อที่นางกล่าวหลังจากได้ฟังรับสั่งฮ่องเต้ นางไม่ได้ตอบกลับเพราะยังไม่เชื่อเขาทั้งหมด“เช่นนั้นท่านหญิงรู้ได้อย่างไรว่าฮ่องเต้จะมีราชโองการ”“ก่อนข้าจะบอกความจริงแก่หลิงซือฝู ข้าขอถามท่านสักคำถาม ในสายตาท่านคิดว่าองค์ชายสี่เป็นเช่นไร”“จากที่

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   เป็นเช่นนี้

    26เป็นเช่นนี้“คนผู้นี้ฟื้นตื่นขึ้นมาบ้างหรือไม่” ต่งซูเหวินถามเขาขณะยืนมองร่างบุรุษที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อวานเขาหลับอยู่ตลอดเลยหรือไม่ หลิงเฟยหลงเดินไปยืนข้างนางก่อนจะหันไปบอกเหตุการณ์เมื่อคืน“คนผู้นี้เมื่อคืนตื่นมาหนึ่งครั้ง ข้าได้สอบถามเขาบางส่วน เพียงแต่ไม่รู้ว่าท่านหญิงกำลังสืบสิ่งใดอยู่จึงไม่อาจสอบสวนช่วยท่านหญิงได้”“มิเป็นไร ข้าจะสอบสวนจินจื่อหยางผู้นี้เอง เพียงรอให้เขาตื่นขึ้นมาเท่านั้น หลิงซือฝูท่านคิดว่าชายผู้นี้จะฟื้นเมื่อใดหรือ”“ไม่นานคงตื่น มิเช่นนั้นให้องครักษ์ท่านหญิงลองปลุกดูดีหรือไม่”“อันฉี”“ขอรับคุณหนู” ไม่ต้องให้นางเอ่ยคำใดออกมาอีก เพียงเอ่ยนามเขาก็เข้าใจในทันทีว่าควรทำสิ่งใด หลันอันฉีเดินไปยังเตียงไม้เพื่อปลุกผู้ที่กำลังหลับ จื่อหยางขยับตัวเปิดเปลือกตาสักครู่ก็พยายามยันตัวลุกนั่งโดยมีองครักษ์หนุ่มช

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ข้าอิ่มพอดี

    25ข้าอิ่มพอดี“คุณหนูมีสิ่งใดจะสั่งข้าหรือ”“เจ้าแข็งแรงย่อมต้องมีแรงมาก มานวดแป้งให้ข้าที” ต่งซูเหวินกวักมือเรียกชายหนุ่มที่ยืนเฝ้าอยู่ตรงประตู เขาเดินเข้ามาอย่างว่าง่าย วางดาบพิงประตูครัวเดินอ้อมด้านหลังนางไปล้างมือ เสร็จแล้วมายืนข้างกายนาง“ทำเช่นนี้ จนกว่าแป้งนี่จะเป็นเนื้อเดียวกัน เข้าใจหรือไม่” ต่งซูเหวินวางมือสองข้างลงบนหลังมือของชายหนุ่ม กดมือเขาให้ขยำไปบนเนื้อแป้งที่ผสมน้ำอยู่ หลันอันฉีนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา ไม่ได้มองด้วยซ้ำว่านางสอนอย่างไร เพราะยามนี้สายตาเขาแอบลอบมองเสี้ยวหน้าของนางอยู่ใบหน้าที่เคยนิ่งเฉยเจือไปด้วยสีชมพูอ่อนใส โชคดีที่ไม่มีผู้ใด ไม่เช่นนั้นคงมีผู้คนล่วงรู้ความรู้สึกของเขา“อันฉี เจ้าฟังข้าอยู่หรือไม่” ต่งซูเหวินเรียกเขาเสียงดัง โบกไม้โบกมือเรียกสติเขาให้หลุดออกจากภวังค์ นางใกล้ชิดกับเขาโดยไม่ระวังตัวแม้แต่น้อย ไม่รู้เพราะนางสบายใจหรือไม่คิดว่าเขาเป็น

DMCA.com Protection Status