แชร์

ใบหน้าที่เสแสร้ง

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-17 11:10:18

8

ใบหน้าที่เสแสร้ง

“คุณหนูซูเหวิน มีคนมาหาเจ้าค่ะ” บ่าวในจวนมาแจ้งนางที่ห้อง ซูเหวินลุกจากโต๊ะเขียนหนังสือเดินไปเปิดประตูห้อง ถามสาวใช้ว่าผู้ใดกันที่มาแต่เช้าเช่นนี้

“ใครกันมาแต่เช้าเช่นนี้”

“องค์หญิงเจ้าค่ะคุณหนู” สาวใช้กล่าวน้ำเสียงร้อนรน เกรงว่าให้สูงศักดิ์รอนานจะไม่ดีนัก ซูเหวินขมวดคิ้วแล้วตามสาวใช้ออกไปทันที ไม่รู้ว่าเหตุใดองค์หญิงจึงมาหานางแต่เช้า คงไม่มาเคารพป้ายวิญญาณมารดานางหรอกกระมัง ระหว่างเดินก็คิดไปสารพัดอย่าง

“ถวายบังคมองค์หญิง”

“ไม่ต้องมากพิธี รีบมานั่งเถอะข้ามีเรื่องอยากให้เจ้าช่วย”

“หม่อมฉันหรือเพคะ คนทั่วไปอย่างหม่อมฉันจะช่วยสิ่งใดองค์หญิงได้กัน” นางถามอย่างไม่เข้าใจ ไม่เข้าว่าใจองค์หญิงผู้มีทุกสิ่งในใต้หล้าอยู่ในมือจะให้นางช่วยสิ่งใดได้ องค์หญิงหนิงเอ๋อราวกับรู้ว่านางคิดสิ่งใดจึงเริ่มพูดต่อ

“อีกหนึ่งเดือนจะเป็นวันฉลองวันประสูติของเสด็จแม่ ข้าอยากรำกระบี่ถวาย หากไม่ลำบากเกินไปช่วยสอนข้าได้หรือไม่” แม้จะเป็นคำขอของหญิงสาว แต่สีหน้าผู้ร้องขอกลับคาดหวังจนนางไม่กล้าปฎิเสธออกไป ทั้งที่ตั้งใจไว้ว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้คนในวังแล้วแท้ ๆ

“หม่อมฉันก็มิได้ลำบากอันใด หากองค์หญิงต้องการหม่อมฉันก็สอนได้เพคะ เพียงแต่องค์หญิงออกจากวังทุกวันคงไม่เหมาะนัก”

“ข้าก็คิดเช่นนั้น จึงอยากมอบของสิ่งนี้ให้” นางคิดไว้อยู่แล้วว่าซูเหวินคงไม่กล้าปฏิเสธ จึงถือโอกาสนำหยกสัญลักษณ์ผ่านทางมาให้ เพื่อให้นางใช้ผ่านเข้าวังได้โดยไม่ถูกผู้ใดขวาง ถึงนางจะเป็นท่านหญิงที่ฮ่องเต้เอ็นดูแต่อย่างไรนางก็เป็นคนนอก หากไม่ได้รับคำสั่งไม่สามารถเข้าวังได้ตามใจ

หญิงสาวรับหยกสลักมาถือเอาไว้ นางต้องเข้าวังเพื่อไปสอนองค์หญิง ปฏิเสธตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้ว

“องค์หญิงอยากเริ่มเรียนตอนไหนหรือเพคะ”

“หากไม่ติดสิ่งใดพรุ่งนี้ก็เข้าวังได้เลย เริ่มช้าเกรงว่าจะไม่ทัน”

“เช่นนั้นพรุ่งนี้หม่อมฉันจะเข้าวังยามซื่อเพื่อไปสอนพระองค์ องค์หญิงคิดว่าอย่างไรเพคะ” องค์หญิงหนิงเอ๋อยิ้มแล้วพยักหน้าให้ ดูเหมือนยิ่งไม่อยากยุ่งยิ่งมีเหตุผลให้ต้องยุ่งเกี่ยวกันมากขึ้น

“ดี เช่นนั้นรบกวนเจ้าแล้ว หากมีสิ่งใดขาดเหลือแจ้งข้าได้เลย ข้าจะเตรียมไว้ให้เอง” ซูเหวินพยักหน้ารับคำองค์หญิงหนิงเอ๋อ หันกลับไปมองประตูเห็นชายอาภรณ์ตรงประตูจึงได้รู้ว่ามีคนกำลังแอบฟัง ซึ่งเดาได้ไม่ยากนักว่าเป็นผู้ใด

“องค์หญิงมีสิ่งอื่นอยากรับสั่งอีกหรือไม่เพคะ” องค์หญิงรับรู้ในทันทีว่านางมีสิ่งอื่นต้องไปทำ เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการแล้วก็ไม่มีอย่างอื่นให้ทำอีก เช่นนี้กลับก่อนดีกว่า

“เช่นนั้นข้ากลับก่อนดีกว่า พรุ่งนี้จะให้คนมารับ”

“ไม่เป็นไรเพคะ หม่อมฉันไปเองดีกว่าจะได้ไม่เสียเวลา” หากนางกล่าวหนักแน่นเช่นนี้ ก็เอาตามนางว่า “เอาตามเจ้าว่า ข้าจะรอพรุ่งนี้” องค์หญิงกล่าวจบก็เดินกลับออกไป ชายกระโปรงเมื่อครู่ก็หายไปด้วย ซูเหวินเดินตามออกไปส่งองค์หญิงที่ประตูใหญ่ของจวน ตอนเดินกลับนางแวะไปยังเรือนฝั่งขวาซึ่งเป็นเรือนของน้องสาวต่างมารดาซูหนี่

“พี่หญิงท่านมาทำอะไรที่เรือนข้าหรือ”

“ข้ามาดูว่าผู้ใดกล้าแอบฟังผู้อื่ยพูดคุยกันราวกับคนไม่ได้รับการอบรมสั่งสอน” ซูเหวินกล่าวขณะเดินวนไปวนมาที่โถงเล็กในเรือนนอนของซูหนี่ ต้องการกดดันให้นางร้อนรน แต่สตรีร้อยมารยาอย่างซูหนี่มีหรือจะสะทกสะท้าน นางทำหน้าซื่อตาใสพูดจาด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานเพราะยามนี้มีองครักษ์อยู่ด้วย

นางไม่เคยหลุดให้ผู้ใดเห็นตัวตนแท้จริงเลยนอกจากพี่สาวอย่างซูเหวิน หากไม่มีผู้อื่นอยู่ด้วยนางมักหาเรื่องพี่สาวผู้อ่อนแอคนก่อนอย่าซูเหวินอยู่บ่อยครั้ง

นางไม่เคยตบตีแต่มักให้บ่าวไพร่มัดนางใช้เข็มจิ้มตามร่างกายภายใต้อาภรณ์ จึงไม่มีผู้ใดเคยเห็น นอกจากนี้ยังมักใช้น้ำร้อนมาแนบฝ่ามือฝ่าเท้าเพื่อแกล้งนางอีกด้วย

ชาติก่อนตอนที่นางไม่อยากแต่งเป็นอนุภรรยาองค์ชายสี่ ก็เป็นซูหนี่เป่าหูบิดากับมารดาให้รับหมั้นองค์ชายสี่ให้นางแต่งเป็นอนุ นางมักมาเยาะเย้ยว่านางต่ำต้อย หากเรื่องนางไม่เว้นแต่ละวัน

เมื่อยังเด็กหลายครั้งนางบอกแก่บิดาแต่นอกจากเขาจะไม่ช่วยเหลือ ยังไม่เชื่อว่าบุตรสาวผู้อ่อนหวานอย่างซูหนี่จะทำร้ายพี่สาวได้ กลายเป็นนางใส่ร้ายน้องสาวเพียงเพราะความริษยา นางน้อยใจเพียงลำพังมาตลอด ทำให้ชาติแรกตกหลุมรักองค์ชายสี่ผู้นั้นจนยอมแต่งเป็นอนุภรรยา ยอมทนรับใช้พระชายาถูกกลั้นแกล้งสารพัด

ราวกับชีวิตนางเกิดมาเพื่อเป็นที่ระบายอารมณ์ของผู้อื่น ไม่มีผู้ใดสนใจความรู้สึกจริง ๆ ของนางเลยสักคน

“ท่านพี่ หมายถึงสิ่งใดซูหนี่มิเข้าใจเลย”

“เลิกเสแสร้งเถอะ อย่างไรอันฉีก็เป็นคนของข้า ต้องอยู่ข้างกายข้าเสมอ เจ้าไม่มีทางซ่อนมารยาตนเองจนมิดได้หรอก”

“แหม ท่านพี่เหงามากนักหรือจึงต้องมีองครักษ์ไว้แก้เหงา” เมื่อรู้ว่าตนเองคงทนใส่ซื่อต่อหน้าองครักษ์ของพี่สาวไม่ได้นาน จึงคิดว่าไม่ทนเลยจะดีกว่า เป็นองครักษ์แล้วอย่างไร ถึงอย่างไรนางก็ได้ชื่อว่าเป็นคุณหนูของตระกูลต่ง บ่าวไพร่จะทำสิ่งใดนางได้

“ในที่สุดก็เผยตัวตนที่แสนน่ารังเกียจมาแล้วสินะ”

“ข้าแอบฟังแล้วอย่างไร หากไม่มีสิ่งใดเป็นความลับจะกลัวไปทำไม”

“ข้าไม่เคยพูดว่ากลัวสักคำ เพียงแต่สตรีที่ได้รับการอบรมย่อมไม่แอบฟังบทสนทนาของผู้อื่น เจ้าไม่คิดเช่นนั้นหรือ แต่ย่อมเข้าใจได้มารดาเจ้าไม่มีเวลาอบรมสั่งสอนเจ้าจึงมักเรียกร้องความสนใจด้วยการแสร้งทำเป็นหญิงสาวผู้อ่อนหวาน” ซูเหวินยั่วโมโหผู้เป็นน้องสาว ใบหน้าที่ยิ้มใสซื่อเมื่อครุ่แปรเปลี่ยนเป็นบึ้งตึง คิ้วเรียวขมวดเป็นปม

“เจ้าลืมไปแล้วกระมังว่าเข็มเย็บผ้านั้นเป็นอย่างไร” หญิงสาวที่มีศักดิ์เป็นน้องกล่าวด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว ย่างเท้าเข้าหานางใบหน้าไม่มีความใสซื่อเหมือนเมื่อครู่สักนิด สาวใช้ของนางเองก็เดินตามมาไม่ห่าง

“เจ้าจะทำสิ่งใด ไม่รู้หรือว่าข้าเป็นคุณหนูสกุลต่ง บาวชั้นต่ำ” ต่งซูหนี่หยุดเดินจ้องหน้าหลันอันฉีที่เดินมาขวาง ยืนประจันหน้ากับนางอยู่ ชักสีหน้าไม่พอใจแต่ไม่กล้าลงไม้ลงมือกับเขา เพราะบุรุษตรงหน้าไม่มีทีท่าเกรงกลัวฐานะคุณหนูของนางเลยแม้แต่น้อย

“ข้าน้อยทราบดี แต่ไม่ว่าผู้ที่อยู่ตรงหน้าจะเป็นใคร หากต้องการแตะต้องคุณหนู ข้าฆ่าได้ทั้งนั้น” หลันอันฉีกล่าวเสียงเรียบราวกับมันไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ผู้ที่ฟังกลับไม่คิดเช่นนั้น นางก้าวถอยหลังทันทีที่สบสายตาน่าหวาดหวั่นขององครักษ์หนุ่ม

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   หน้าที่คือต้องปกป้อง

    9หน้าที่คือต้องปกป้องหลังกลับจากเรือนฝั่งขวาต่งซุเหวินก็เดินกลับไปที่เรือนฝั่งซ้ายซึ่งเป็นเรือนของตนเอง ท่าทีสบายใจ อารมณ์ดียิ่งนัก หลายชาติก่อนนางไม่เคยเถียงหรือมีท่าทีเช่นกับผู้อื่นมาก่อน พอได้ลองแล้วรู้สึกดีไม่น้อย เช่นนี้นี่เองสองแม่ลูกนั่นจึงมักมาหาเรื่องนางอยู่บ่ายครั้งและที่สำคัญยามนี้นางมีคนคอยดูแลปกป้อง มันทำให้นางยิ่งสบายใจมากขึ้นไปอีก ตัวนางเองไม่มีกำลังจะไปสู้กับใครมีเพียงมันสมองเท่านั้น พอได้หลันอันฉีมาราวกับมีมือมีเท้าเพิ่ม โชคดีเสียจริงที่เลือกเขามา“อันฉี”“ขอรับคุณหนู” ชายหนุ่มรีบเดินเร็วมายืนขนาบข้างกายนางเพื่อรอฟังคำสั่ง นางมองหน้าเขาอยู่สักพักจึงยิ้มออกมา รอยยิ้มงดงามสดใสทำให้คนที่มองใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา“เจ้าไม่สบายหรือเหตุใดหน้าจึงแดงเช่นนนี้” นางยกมือขึ้นแตะหน้าผากองครักษ์ตรงหน้า ด้วยความตกใจอันฉีก้าวถอยหลังทันทีที่ฝ่ามือเล็กแตะลงบนหน้าผากตน“ข้าไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   เหตุบังเอิญ

    10เหตุบังเอิญ“เหตุใดพี่หญิงจึงมาช้าเช่นนี้ ข้ารออยู่นานเชียว” องค์หญิงหนิงเอ๋อถามขึ้นเมื่อเห็นหน้าผู้ที่นางรออยู่นานแล้ว ผู้ที่ถูกทักกลับมีใบหน้างุนงง องค์หญิงที่นางได้เจอเพียงสองครั้งเท่านั้นแต่กลับถูกเรียกพี่หญิง นางไม่คุ้นชินผู้ที่เรียกนางเช่นนี้มีเพียงซูหนี่ ซ้ำยังเรียกนางด้วยน้ำเสียงเสแสร้งแกล้งทำ“พี่หญิงหรือเพคะ” ซุเหวินตอบองค์หญิงด้วยน้ำเสียงแคลงใจ จนองค์หญิงหนิงเอ๋อหัวเราะร่วน จูงมือนางให้เดินตามเข้าไปในตำหนักเพื่อพูดคุยกันเสียก่อน“พี่หญิงอายุมากกว่าข้า เช่นนี้เรียกพี่หญิงไม่ถูกหรือ”“แต่ทรงเป็นองค์หญิงนะเพคะ”“องค์หญิงแล้วอย่างไร ข้าอยากรู้ว่าผู้ใดจะขัดได้หากข้าจะเรียก พี่หญิงไม่ต้องห่วง ไปเถอะท่านกินอะไรมาหรือยัง ข้าให้คนเตรียมของกินไว้ให้มากนัก” ช่างเป็นเด็กสาวที่น่ารักน่าเอ็นดูเสียจริง นางไม่รู้เลยว่าเหตุใดองค์หญิงจึงไม่มีเพื่อนองค์หญิงให

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-19
  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ไม่อาจละสายตา

    11ไม่อาจละสายตาการสอนของหลิงซือฝูมิใช่การแนะนำแต่เป็นการลงมือทำ องค์ชายทั้งสองถืออาวุธของตนเองพุ่งกระโจนเข้าใส่ผู้เป็นอาจารย์ ทั้งสามสู้กันดุเดือดแต่สุดท้ายผู้ชนะก็ยังคงเป็นหลิงซือฝูองค์ชายยืนหอบลมหายใจเข้ากระชั้น เพียงแค่เห็นการต่อสู้เมื่อครู่นางก็เหนื่อยแทนแล้ว ซูเหวินรินชาใส่จอกโบกมือให้ขันทีรับใช้ทั้งสองนำชาไปให้องค์ชายที่เพิ่งนั่งลงหลิงซือฝูที่มิได้มีขันทีรับใช้จึงเป็นหน้าที่นางกำนัลขององค์หญิงหนิงเอ๋อ“ขอบคุณท่านหญิง” หลิงซือฝูหันมาบอกน้ำเสียงทุ้มนุ่มนวล ยิ่งฟังยิ่งเพลิดเพลิน ซูเหวินมิได้ตอบสิ่งใดออกไปเพียงหันพูดคุยกับหญิงสาวตรงหน้า“หากองค์หญิงเหนื่อยแล้ว เราฝึกวันพรุ่งนี้ดีหรือไม่เพคะ”“ข้าบอกแล้วอย่างไร ข้าไม่เหนื่อยเพียงอยากแอบดูการสอนของหลิงซือฝู” เสียงหวานบอก นึกขบขันตนเองที่ไม่อาจเข้าร่วมเรียนได้จึงทำได้เพียงแอบจำไปเช่นนี้ เมื่อกล่าวจบองค์หญิงก็ลุกจากที่นั่งเดิน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   สตรีผู้นั้น

    12สตรีผู้นั้นหลังเรียนเสร็จ องค์หญิงหนิงเอ๋อจึงพาต่งซูเหวินมายังห้องเครื่องเล็กของตำหนักองค์หญิง ให้นางทำขนมตามที่รับปากเอาไว้ก่อนหน้านี้ในอดีตหลังแต่งงานต่งซูเหวินก็เปลี่ยนจากคุณหนูใหญ่ตระกูลต่งเป็นพระชายารอง วัน ๆ ถูกชายากดขี่กดดันให้ทำนั่นทำนี่ ต้องไปช่วยบ่าวทำอาหาร เพราะผ่านเรื่องราวพวกนั้นมามากทำให้นางได้ความรู้เหล่านี้มามากนัก แต่กลับไม่ใช่เรื่องน่ายินดี“พี่หญิงท่านจะทำสิ่งใดหรือ”“องค์หญิงเคยกินเซาปิ่งหรือไม่เพคะ เก็บไว้กินได้นานอิ่มท้องด้วย ทำก็ไม่ยาก” ซุเหวินถามหญิงสาวตรงหน้า สายตายังคงสอดส่องหาสิ่งที่ตนเองต้องการใช้ หยิบสิ่งของมาวางไว้ตรงหน้า“ยังไม่เคย เช่นนั้นให้ข้าช่วยได้หรือไม่ ดูน่าสนุกนัก”“ได้” หญิงสาวทั้งสองช่วยกันทำขนมอยู่ในห้องเครื่องเล็กอยู่เกือบหนึ่งชั่วยาม เซาปิ่งที่ตั้งใจทำก็เสร็จจนได้ ใบหน้าขาวนวลขององค์หญิงหนิงเอ๋อเปรอะเปื้อนแป้งสีขาวเต็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-21
  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   มีเรื่องใด

    13มีเรื่องใด“นี่เจ้า!” องค์หญฺงหนิงลี่โกรธจนควันแทบออกหูเมื่อได้ยินองค์หญิงหนิงเอ๋อทูลฟ้องเรื่องตนเอง แต่เพียงแค่องค์ชายสี่มองหน้านางก็หยุดกล่าวสิ่งใดออกมา“มีเรื่องใดกัน” องค์ชายสามหันไปถามองค์หญิงใหญ่ พร้อมกับเหลียวมองสตรีข้างกายน้องสาวร่วมอุทร นึกเป็นห่วงความรู้สึกนางไม่น้อยเข้าวังมาก็เพราะเขายอมให้น้องสาวเชิญนางมา หากนางมีเรื่องจริง เขาก็ควรเป็นผู้ที่คอยช่วยเหลือ“ไม่มีเพคะองค์ชายสาม คงเป็นเรื่องเข้าใจผิด” ซูชิงเยียนตอบองค์ชายหนิงอวี่ด้วยท่าทีนอบน้อม ไม่รู้ว่าชาตินี้น่าจะเป็นเช่นเดิมหรือไม่ แต่ซูเหวินที่เคยเห็นแต่สิ่งเลวร้าย ไม่ว่านางจะทำสิ่งใดนั่นล้วนเสแสร้งทั้งสิ้น“ข้าไม่ได้ถามเจ้า ว่าอย่างไรมีเรื่องใด” องค์ชายหนิงอวี่ตอบซูชิงเยียนเสียงเข้ม ซูชิงเยียนไม่กล้ากล่าวสิ่งใดออกมาอีก เพียงลอบมองต่งซูเหวิน รอฟังว่านางจะตอบองค์ชายว่าอย่างไร ทุกคนล้วนแต่รอฟังว่านางจะตอบสิ่งใดไม่เว้นกระทั่ง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-22
  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   การใหญ่เริ่มขึ้น

    14การใหญ่เริ่มขึ้น“ขอบคุณหลิงซือฝู” หญิงสาวที่เดินเงียบมานานพูดขึ้น เดิมทีนางก็รู้สึกอึดอัดเมื่อเห็นหน้าเขาอยู่แล้ว พอต้องมาเดินอยู่ด้วยกันเช่นนี้นางยิ่งอึดอัดไปใหญ่ เมื่อหาเรื่องพูดคุยได้ก็รีบพูดออกไปหลิงเฟยหลงนึกขันในใจยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยก่อนจะกลับไปทำหน้านิ่งเช่นเดิม เขารู้ว่านางอึดอัดเพราะเมื่อครู่เขาดันเห็นท่าทีของนางที่มีต่อซูชิงเยียน“ข้าไม่ได้ทำสิ่งใด ท่านหญิงไม่ต้องขอบคุณ ทางที่ไปก็เป็นทางผ่านดังที่บอกกับองค์ชายและองค์หญิง หากมีผู้ใดต้องกล่าวขอบคุณควรเป็นข้าเสียมากกว่า” กล่าวจบหลิงเฟยหลงก็ยกกล่องไม้ใส่ขนมขึ้นมาให้นางดูต่งซูเหวินยิ้มเล็กน้อยก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นในใจ ไม่รู้ว่าควรถามดีหรือไม่ ตำแหน่งของหลิงซือฝูถึงจะเป็นแค่อาจารย์ของเหล่าองค์ชาย แต่ฮ่องเต้ทรงโปรดปรานเขามากนัก ตำแหน่งองค์รัชทายาทก็เกรงว่าต้องให้เขาช่วยออกความเห็นด้วยเป็นแน่ใจนางอยากถามเขานักว่าในใจของซือฝูอย่างเขา เอนเอียงไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-23
  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ท่านสัญญาแล้ว

    15ท่านสัญญาแล้วตลอดเจ็ดวันที่ผ่านมาต่งซูเหวินเข้าวังไปสอนองค์หญิงรำกระบี่ไม่ขาด ไปครั้งหนึ่งก็ใช้เวลาอยู่ในวังสามเกือบสี่ชั่วยาม แม้จะเข้าวังนานแต่กลับใช้เวลาสอนองค์หญิงเพียงหนึ่งชั่วยามส่วนเวลาที่เหลือถูกองค์หญิงบังคับให้ทำขนมให้กินทุกวันจนนางนึกว่าตนเองเป็นแม่ครัวหลวงเสียอีก ทำเสร็จก็ต้องนำไปส่งองค์ชายสามที่หน้าสำนักศึกษาเกือบทุกวัน นางมีโอกาสได้พูดคุยกับองค์ชายสามบ่อยครั้ง รับรู้ได้ว่าเขากับน้องชายนิสัยต่างกันมากนักไม่แปลกใจเลยหากฮ่องเต้ทรงแต่งตั้งเขาเป็นไท่จื่อชาติก่อน นางสังเกตผู้คนรอบตัวองค์ชายหนิงอวี่และองค์หญิงหนิงเอ๋อ อย่างไรในตอนนี้นางก็ตกลงคบหาองค์หญิงเป็นสหายจะให้นางถูกวางยาไปอีกคนไม่ได้“พี่หญิงคิดสิ่งใดอยู่หรือ” สหายใหม่เอ่ยถามขณะที่นางกำลังเดินหน้ายุ่งอยู่ข้างกาย ทั้งสองกำลังเดินไปสำนักศึกษาเหมือนทุกวัน ต่งซูเหวินจำได้หลังงานฉลองของกุ้ยเฟยองค์ชายหนิงจินจะได้สมรสพระราชทาน นางจะให้เป็นเช่นนั้นไม่ได้เด็ดขาด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ถือเป็นสหาย

    16ถือเป็นสหาย“หลิงซือฝูไม่ต้องส่งข้าก็ได้ ข้ายังมีสิ่งที่ต้องไปทำ เกรงจะรบกวนเวลาหลิงซือฝู” ออกจากหน้าประตูวังมาครู่เดียวท่านหญิงเจียวจ้านก็พูดขึ้น นางอยากรีบไปนอกเมืองแท้ ๆ ยังต้องไปที่จวนก่อนเพื่อไม่ให้เขาสงสัย แต่หากกลับไปที่จวนก่อนแล้วค่อยออกมาเกรงว่าน้องสาวร่วมบิดาคงสงสัยนางแน่คิดว่าพยายามเปลี่ยนใจให้เขาปล่อยนางลงก่อนถึงจวนคงดีกว่า“ข้าเต็มใจไม่ได้รบกวนอันใด ท่านหญิงจะไปที่ใดข้าล้วนไปส่งได้ทั้งสิ้น” หากให้เขาไปดูด้วยตนเอง เขาจะยอมเชื่อสิ่งที่นางจะพูดหรือไม่ ความคิดมากมายสับสนประปนกันไปจนหมด ยิ่งคิดก็ยิ่งวุ่นวาย“หลิงซือฝู ท่านคิดว่าเราเป็นสหายกันแล้วหรือไม่” ทำสิ่งใดไม่ได้แล้ว มีเพียงวัดใจไปเลยเท่านั้นจึงจะรู้ว่าแท้จริงเขาคิดอย่างไร ชายหนุ่มนั่งนิ่งมองหญิงสาวตรงหน้า ไม่คิดว่านางจะถามเช่นนี้“ไม่เช่นนั้น แล้วตอนนี้เราเป็นสิ่งใดเล่า”“ท่านอย่ามัวตอบข้าด้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25

บทล่าสุด

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   มีเพียงท่าน [จบ]

    45มีเพียงท่านเช้ามาทั่วทั้งเมืองต่างมีข่าวว่าตระกูลหลานของเสนาบดีเลี้ยงต้อนรับบุตรชายคนเล็ก และยังมีข่าวงานหมั้นหมายของบุตรชายกับหญิงสาวตระกูลสูงศักดิ์ตระกูลหนึ่ง“หงอิงให้คนเตรียมรถม้า ข้าจะไปตระกูลหลาน”“เจ้าค่ะคุณหนู”“ไหนบอกว่ารักข้า ยอมปลิดชีพตนตามมาเพื่อดูแล แต่เสร็จเรื่องแล้วจะไปแต่งผู้อื่นแบบนี้ได้อย่างไรกัน หลันอันฉีเจ้าใจร้ายยิ่งนัก” นางบ่นพึมพำขณะผลัดเปลี่ยนอาภรณ์อยู่ลำพัง เดิมทีวันนี้ตั้งใจจะไปถามเขาให้รู้เรื่องว่าเหตุใดจึงหนีนางไปเช่นนี้ แต่เช้านี้กลับได้ยินบ่าวในเรือนพูดคุยกัน บุตรชายคนเล็กของเสนาบดีขวากลับมาและที่จวนหลานกำลังจะมีงานมงคลครึ่งชั่วยามรถม้าจากจวนต่งก็มาถึงหน้าจวนหลาน ผู้คนหน้าจวนมิได้มีผู้คนมากมายนัก อาจเพราะทั่วเมืองกำลังไว้ทุกข์ให้หวงกุ้ยเฟยที่สิ้นพระชนม์ งดเว้นงานรื่นเริงสังสรรค์ งดเว้นการจัดการงานสมรส ที่จวนหลานเพียงเชิญสหายสนิทมากินอาหารและพูดคุยเรื่องแต

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ในใจมีผู้ใด

    44ในใจมีผู้ใด“องค์ชายสี่เชิญนั่งเพคะ” เมื่อไท่จื่อเดินออกไป องค์ชายสี่ก็เดินเข้ามา เขาเองก็คงมาด้วยเหตุผลเดียวกับไท่จื่อ หลิงซือฝูเองก็เช่นเดียวกัน เหตุใดชาติก่อนนางจึงไม่มีผู้คนมารักมากมายเพียงนี้บ้าง“ท่านหญิงคงรู้แล้วว่าข้ามาด้วยเหตุใด”“พอรู้เพคะ แต่...”“ท่านหญิงฟังข้าให้จบก่อนได้หรือไม่” นางไม่ได้ตอบแต่พยักหน้าแทนคำตอบ จากนั้นนั่งเงียบให้เขาได้พูดเรื่องราวต่าง ๆ ให้จบสิ้นไม่ติดค้างในใจก่อน“ในใจข้ามีท่านหญิงมาตั้งแต่เราได้รู้จักกันในคราแรกแล้วยิ่งรู้สึกชื่นชมเมื่อได้รู้จักท่านมากขึ้น ช่วงเวลาที่ท่านกับน้องหญิงมาที่สำนักศึกษาข้าดีใจยิ่งนักที่ได้เห็นท่านทุกวัน”“...”“แต่เมื่อได้รู้ว่ามารดาทำสิ่งใดลงไปบ้าง ข้าจึงเริ่มรู้สึกว่าท่านรู้บางสิ่งที่ข้าไม่รู้ จนได้รู้ว่าเสด็จแม่เป็นหนึ่งในผู้ที่ส่งคนมาทำร้ายท่าน ยามนั้นข้าได้รู

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ผู้ทำผิดถูกลงโทษ

    43ผู้ทำผิดถูกลงโทษประกาศจากในวังให้มีการสอบรับเลือกขุนนางอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า เพราะขุนนางจากตระกูลซูถูกลงโทษและถูกปลด องค์จักรพรรดิของแผ่นดินนี้ยังคงเป็นจักรพรรดิหนิงหวง องค์ชายสี่เกลี้ยกล่อมมารดาไม่สำเร็จจึงกราบทูลต่อบิดาด้วยความเสียใจถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่ได้ยินมาด้วยเห็นแก่บุตรชายฮ่องเต้จึงยังคงรักษาพระเกียรติของหวงกุ้ยเฟยเอาไว้ ทรงประทานเหล้าพิษและปล่อยข่าวไปว่าพระองค์ทรงป่วยจนสิ้นพระชนม์ มิได้บอกกล่าวแก่ผู้ใดว่าพระนางร่วมมือกับตระกูลซูก่อกบฎองค์ชายสามได้รับแต่งตั้งเป็นไท่จื่อ เพราะองค์ชายสี่ขอเป็นผู้คอยช่วยเหลือเคียงข้างพี่ชายเท่านั้น กุ้ยเฟยเองก็ถูกแต่งตั้งเป็นฮ่องเฮาหลังจากเหตุการณ์นี้เช่นกัน ราชสำนักสั่นคลอนอย่างแท้จริง โชคดีที่ได้เสนาบดีขวาเป็นเสาหลักอยู่ จึงไม่มีจราจลใดในยามนี้ตระกูลซูถูกตัดสินประหารชีวิต แต่ซูฉางเหอยอมรับความผิดทั้งหมดไว้เอง ซูชิงเยียนและหญิงสาวในตระกูลจึงถูกลงโทษเนรเทศไปยังเขตชายแดนที่หนาวเหน็บห้ามกลั

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ข้าไม่รั้ง

    42ข้าไม่รั้งเพียงสามวันนางก็ได้ข่าวจากหลิงซือฝูว่าองค์ชายสี่ทรงกราบทูลต่อฮ่องเต้ หวงกุ้ยเฟยทรงสมคบคิดกับตระกูลซูคิดก่อการกบฎ เรื่องนี้ถูกสอบสวนอย่างหนักรวมไปถึงคดีสินบนของเหล่าขุนนาง กระทั่งคดีลอบทำร้ายท่านหญิงเจียวจ้านแห่งสกุลต่ง ทำให้เช้านี้ต่งซูหนี่ถูกพาตัวไปยังกรมอาญาเพื่อสอบสวนร่วมกันเช้านี้ต่งซูเหวินจึงมีสีหน้าสดชื่นกว่าก่อน หากในจวนไม่มีต่งซูหนี่เหมือนทุกวันคงดีนัก หลังอ่านจดหมายของหลิงซือฝูเสร็จนางไปเดินเล่นอยู่หน้าลานประลองชื่นชมลานประลอง และต้นเฟิงที่มารดารักยิ่ง ใบหน้างดงามประดับด้วยรอยยิ้มกว้างหลังจากนี้นางคงได้ใช้ชีวิตตนเองอย่างสงบสุขเสียที“เหตุใดเจ้าต้องทำกับน้องสาวตนเองถึงเพียงนี้” นางคงลืมไปชั่วครู่ว่าภายในจวนนี้ยังมีมารดาเลี้ยง และบิดาผู้ลำเอียงของนางอยู่ต่งซูเหวินถอนหายใจหนัก ๆ ก่อนจะหันกลับไปเผชิญหน้ากับสองสามีภรรยาทางด้านหลัง นางรู้อยู่แล้วว่ามารดาเลี้ยงต้องมาหาเรื่องนางหากซูหนี่ถูกนำตัว

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ถูกต้องหรือถูกใจ

    41ถูกต้องหรือถูกใจ“ถวายบังคมองค์ชาย องค์ชายท่านมาที่นี่ได้อย่างไร” ต่งซูเหวินถามด้วยน้ำเสียงแปลกใจ นางไม่คิดว่าจะได้เจอองค์ชายสี่ที่หน้าจวนในยามนี้ ท้องฟ้าเริ่มไร้แสงผู้คนเริ่มเก็บตัวอยู่ในบ้านเรือนตนเองเพราะอีกไม่นานตะวันจะลับฟ้าผู้ใดจะคิดเล่าว่าจะมีองค์ชายมายืนหน้าจวนตนเองพร้อมม้าอีกหนึ่งตัวเช่นนี้“ขออภัยท่านหญิงที่ข้าเสียมารยาทมาหาท่านในยามนี้ แต่ข้าไม่รู้ว่าจะพูดคุยเรื่องนี้กับผู้ใดได้อีกนอกจากท่าน ในหัวเอาแต่คิดถึงเรื่องที่ท่านหญิงพูดเมื่อคราวก่อน”“องค์ชายทรงร้อนใจเช่นนี้ เชิญเถอะเพคะ” แม้นางจะหมดรักในตัวเขาตั้งแต่ชาติก่อนแล้ว แต่ความห่วงใยนี้ก็คงมิอาจตัดได้หมด ฟังจากเรื่องราวทั้งหมดผู้ที่น่าเห็นใจนอกจากนางก็คือเขา เพราะนางเห็นใจครอบครัวจึงยอมแต่งเป็นพระชายารองอีกครั้ง ส่วนเขาเห็นใจมารดาจึงยอมทำผิดใหญ่หลวงบุตรต้องกตัญญูแต่หากว่าบิดามารดามิได้ใฝ่สิ่งดี บาปกรรมก็ล้วนตกอยู่ที่บุตรท

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   สาเหตุของการตาย

    40สาเหตุของการตาย“เจ้าเล่าให้ละเอียดหน่อย นี่เรื่องจริงหรือไม่” นางถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ทั้งยังตกใจมากเมื่อคิดว่ามีผู้อื่นย้อนเวลามาเหมือนนางเช่นนี้ แล้วยังเป็นผู้ที่อยู่ข้างกายนางตลอด อีกทั้งยังปิดบังนางมาตลอดไม่เคยบอกสิ่งใดแก่นางแต่หากเขาได้ย้อนเวลากลับมานั่นหมายถึงเขาก็มีเรื่องอยากแก้ไข แล้วเรื่องนั้นคงต้องเกี่ยวกับนางไม่เช่นนั้นบุตรชายเสนาบดีอย่างเขา คงไม่ยอมมาลำบากอยู่ข้างนางเช่นนี้“หลายปีก่อนตอนรวมแผ่นดินข้ากับมารดาถูกจับเป็นเฉลย เพื่อให้ท่านพ่อยอมทรยศแต่ได้รองทัพต่งแอบลอบเข้าไปช่วยเหลือสุดท้ายหนีออกมาได้ ข้าและท่านแม่บาดเจ็บได้ท่านคอยดูแลตอนอยู่นอกแคว้น ข้าจำได้แม่นยำว่าคุณหนูจิตใจดีมากเพียงใด หลังจากช่วยเหลือไว้คุณหนูกับรองแม่ทัพต่งก็จากไปโดยฝากข้าและท่านแม่ไว้กับชาวบ้านนอกแคว้น ทั้งยังมอบเงินไว้ให้ท่านแม่รักษาตัวด้วย”“...”“ต่อมาพบว่าตระกูลต่งสิ้นแล้ว จึงได้แต่เสียใจ

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ฐานะแท้จริง

    39ฐานะแท้จริงหลิงเฟยหลง และองค์ชายล้วนงุนงงที่เสนาบดีขวาเรียกรั้งบ่าวคนหนึ่งไว้ในห้องดื่มชานี้ ต่งซูเหวินได้ฟังจากปากองครักษ์ว่ารู้จักกับเสนาบดีขวามาก่อน จึงมิได้แปลกใจเท่าใดนัก“เจ้าไม่เคยแนะนำตัวกับผู้อื่นเลยหรือ” เสนาบดีขวาถามหลันอันฉีด้วยน้ำเสียงกึ่งตำหนิ ต่งซูเหวินคิดว่าทั้งสองคงรู้จักกันมานานจึงพูดจาดูใกล้ชิดกันมากเพียงนี้หลันอันฉีถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะหันกลับมาทางโต๊ะดื่มชา เขามองหน้าเสนาบดีขวาอย่างไม่ชอบใจนัก“ข้าบอกแล้วมิใช่หรือว่ารอให้ทุกอย่างจบข้าจะกลับไป เหตุใดต้องให้เรื่องมันวุ่นวายขึ้นเช่นนี้” องครักษ์หนุ่มตอบกลับน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย ท่ามกลางสายตางุนงงของคนนอกทั้งสาม“มีเรื่องใดกันหรือเจ้าคะท่านเสนา อันฉีทำสิ่งใดล่วงเกินท่านหรือไม่” แม้จะรู้สึกว่าเรื่องไม่ถูกต้อง แต่นางก็รีบลุกไปยืนบังองครักษ์ของตนเองไว้ ก่อนนี้นางเคยสัญญาว่าหากเขาปกป้องนาง นางก็จะปกป้องเขาไปตลอดชีวิต

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   อำนาจสำคัญ

    38อำนาจสำคัญทางการตัดสินว่าการค้าของตระกูลซูมีความผิดจากการค้าของเถื่อนจริงอย่างที่หญิงชาวบ้านผู้นั้นร้องเรียน เดิมทีเถ้าแก่ผู้ดูแลร้านไม่ยอมรับว่าปิ่นนั่นเป็นของร้านเพราะมันมีสัญลักษณ์อยู่ แต่มีหรือต่งซูเหวินจะยอมให้ตระกูลซูรอดพ้นเรื่องนี้ไปได้ นอกจากปิ่นที่นางยังมีปิ่นอีกอันที่องค์หญิงหนิงเอ๋อเป็นผู้เก็บรักษาไว้เองเมื่อองค์หญิงยอมมอบปิ่นให้เป็นหลักฐานเถ้าแก่ผู้ดูแลจึงปฏิเสธเรื่องราวนี้ไปไม่ได้อีก ทางการสั่งปิดร้านค้าตระกูลซูเพื่อสืบความเรื่องการค้าเถื่อนเป็นอย่างที่นางคิดซูชิงเยียนรอดไปได้เพราะผู้ดูแลร้านเป็นผู้รับความผิดนี้ หญิงชาวบ้านผู้นั้นได้เงินเพิ่มสิบเท่าจากราคาของตามซูชิงเยียนเคยบอกเอาไว้ข่าวต่งซูเหวินถูกลอบทำร้ายภายในจวนตระกูลต่ง เรื่องนี้รู้กันทั่วเมืองแม้แต่องค์จักรพรรดิก็ได้ยินเช่นกัน ทรงโมโหมากจึงสั่งคนสอบสวนเรื่องนี้ให้ถึงที่สุดเช่นเดียวกัน“ท่านหญิงมีสิ่งใดหรือ เหตุใดจึงอยากเจอพวกข้า” องค์ชา

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ย่อมคุ้มค่า

    37ย่อมคุ้มค่า“จะไม่เป็นไรได้อย่างไร เหตุใดต้องทำตนเองเจ็บถึงเพียงนี้ ท่านไม่รู้หรือว่าแผลเช่นนี้อาจทำให้ท่านเป็นแผลเป็นได้ ท่านเป็นสตรีเหตุใดมุทะลุถึงเพียงนี้ ข้าสู้เพราะกลัวท่านบาดเจ็บแต่ท่านกลับทำตนเองบาดเจ็บเช่นนี้” เขาว่าจบก็จูงมือนางเดินไปนั่ง ส่วนตนเองไปจุดโคมในห้องนอนให้ ชายหนุ่มรีบมาดูแผลของนางไม่สนใจร่างไร้สติบนพื้นเลย“เจ้าตำหนิข้า”“ข้าน้อยย่อมไม่กล้า เพียงแต่เป็นห่วงคุณหนูเท่านั้น หากเป็นแผลเป็นจะทำอย่างไร”“เป็นก็เป็น แค่ได้ตามที่ต้องการย่อมคุ้มค่า”หลันอันฉีดึงผ้ารัดผมของตนเองมารัดแขนนางเพื่อห้ามเลือด แล้วเอื้อมมือไปจัดผมยาวสลวยของนางที่หล่นลงมาไม่ให้มันโดนเลือดตรงแขนต่งซูเหวินมองการกระทำขององครักษ์อย่างแปลกใจ ไม่บ่อยนักที่เขาแสดงความรู้สึกเช่นนี้ ขณะรัดแผลก็บ่นพึมพำไม่ยอมหยุด นางนึกขบขันเป็นอย่างยิ่งโชคดีจริง ๆ ที่ตอนย้อนเวลากลับมานางเลือกหลันอันฉีม

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status