Share

การใหญ่เริ่มขึ้น

last update Last Updated: 2024-12-23 11:10:55

14

การใหญ่เริ่มขึ้น

“ขอบคุณหลิงซือฝู” หญิงสาวที่เดินเงียบมานานพูดขึ้น เดิมทีนางก็รู้สึกอึดอัดเมื่อเห็นหน้าเขาอยู่แล้ว พอต้องมาเดินอยู่ด้วยกันเช่นนี้นางยิ่งอึดอัดไปใหญ่ เมื่อหาเรื่องพูดคุยได้ก็รีบพูดออกไป

หลิงเฟยหลงนึกขันในใจยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยก่อนจะกลับไปทำหน้านิ่งเช่นเดิม เขารู้ว่านางอึดอัดเพราะเมื่อครู่เขาดันเห็นท่าทีของนางที่มีต่อซูชิงเยียน

“ข้าไม่ได้ทำสิ่งใด ท่านหญิงไม่ต้องขอบคุณ ทางที่ไปก็เป็นทางผ่านดังที่บอกกับองค์ชายและองค์หญิง หากมีผู้ใดต้องกล่าวขอบคุณควรเป็นข้าเสียมากกว่า” กล่าวจบหลิงเฟยหลงก็ยกกล่องไม้ใส่ขนมขึ้นมาให้นางดู

ต่งซูเหวินยิ้มเล็กน้อยก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นในใจ ไม่รู้ว่าควรถามดีหรือไม่ ตำแหน่งของหลิงซือฝูถึงจะเป็นแค่อาจารย์ของเหล่าองค์ชาย แต่ฮ่องเต้ทรงโปรดปรานเขามากนัก ตำแหน่งองค์รัชทายาทก็เกรงว่าต้องให้เขาช่วยออกความเห็นด้วยเป็นแน่

ใจนางอยากถามเขานักว่าในใจของซือฝูอย่างเขา เอนเอียงไ

Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ท่านสัญญาแล้ว

    15ท่านสัญญาแล้วตลอดเจ็ดวันที่ผ่านมาต่งซูเหวินเข้าวังไปสอนองค์หญิงรำกระบี่ไม่ขาด ไปครั้งหนึ่งก็ใช้เวลาอยู่ในวังสามเกือบสี่ชั่วยาม แม้จะเข้าวังนานแต่กลับใช้เวลาสอนองค์หญิงเพียงหนึ่งชั่วยามส่วนเวลาที่เหลือถูกองค์หญิงบังคับให้ทำขนมให้กินทุกวันจนนางนึกว่าตนเองเป็นแม่ครัวหลวงเสียอีก ทำเสร็จก็ต้องนำไปส่งองค์ชายสามที่หน้าสำนักศึกษาเกือบทุกวัน นางมีโอกาสได้พูดคุยกับองค์ชายสามบ่อยครั้ง รับรู้ได้ว่าเขากับน้องชายนิสัยต่างกันมากนักไม่แปลกใจเลยหากฮ่องเต้ทรงแต่งตั้งเขาเป็นไท่จื่อชาติก่อน นางสังเกตผู้คนรอบตัวองค์ชายหนิงอวี่และองค์หญิงหนิงเอ๋อ อย่างไรในตอนนี้นางก็ตกลงคบหาองค์หญิงเป็นสหายจะให้นางถูกวางยาไปอีกคนไม่ได้“พี่หญิงคิดสิ่งใดอยู่หรือ” สหายใหม่เอ่ยถามขณะที่นางกำลังเดินหน้ายุ่งอยู่ข้างกาย ทั้งสองกำลังเดินไปสำนักศึกษาเหมือนทุกวัน ต่งซูเหวินจำได้หลังงานฉลองของกุ้ยเฟยองค์ชายหนิงจินจะได้สมรสพระราชทาน นางจะให้เป็นเช่นนั้นไม่ได้เด็ดขาด

    Last Updated : 2024-12-24
  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ถือเป็นสหาย

    16ถือเป็นสหาย“หลิงซือฝูไม่ต้องส่งข้าก็ได้ ข้ายังมีสิ่งที่ต้องไปทำ เกรงจะรบกวนเวลาหลิงซือฝู” ออกจากหน้าประตูวังมาครู่เดียวท่านหญิงเจียวจ้านก็พูดขึ้น นางอยากรีบไปนอกเมืองแท้ ๆ ยังต้องไปที่จวนก่อนเพื่อไม่ให้เขาสงสัย แต่หากกลับไปที่จวนก่อนแล้วค่อยออกมาเกรงว่าน้องสาวร่วมบิดาคงสงสัยนางแน่คิดว่าพยายามเปลี่ยนใจให้เขาปล่อยนางลงก่อนถึงจวนคงดีกว่า“ข้าเต็มใจไม่ได้รบกวนอันใด ท่านหญิงจะไปที่ใดข้าล้วนไปส่งได้ทั้งสิ้น” หากให้เขาไปดูด้วยตนเอง เขาจะยอมเชื่อสิ่งที่นางจะพูดหรือไม่ ความคิดมากมายสับสนประปนกันไปจนหมด ยิ่งคิดก็ยิ่งวุ่นวาย“หลิงซือฝู ท่านคิดว่าเราเป็นสหายกันแล้วหรือไม่” ทำสิ่งใดไม่ได้แล้ว มีเพียงวัดใจไปเลยเท่านั้นจึงจะรู้ว่าแท้จริงเขาคิดอย่างไร ชายหนุ่มนั่งนิ่งมองหญิงสาวตรงหน้า ไม่คิดว่านางจะถามเช่นนี้“ไม่เช่นนั้น แล้วตอนนี้เราเป็นสิ่งใดเล่า”“ท่านอย่ามัวตอบข้าด้ว

    Last Updated : 2024-12-25
  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ข้าตั้งใจมา

    17ข้าตั้งใจมา“เหตุใดวันนี้จึงอยู่เพียงลำพัง อาจารย์หญิงของน้องไปไหนเสียเล่า” องค์ชายหนิงอวี่เอ่ยถามใบหน้ายิ้มแย้ม สายตากวาดไปรอบลานหน้าตำหนักองค์หญิง ไม่พบหญิงสาวที่ตามหาแม้แต่ปลายผม เมื่อได้รับรายงานจากขันทีว่าวันนี้หลิงซือฝูป่วยกะทันหันจึงไม่สามารถมาสอนได้ เขาจึงรีบออกจากสำนักศึกษาแสร้งมาหาน้องสาว“นางให้คนมาแจ้งว่าป่วยกะทันหันมาสอนไม่ได้ น้องจึงอยู่เพียงลำพัง ถามหาพี่หญิงแล้วเสด็จพี่เล่า เหตุใดไม่อยู่ในสำนักศึกษา”“หลิงซือฝูบอกว่าป่วย มาสอนไม่ได้”“บังเอิญไปหรือไม่ พี่หญิงก็บอกว่าป่วย” หญิงสาวรู้สึกตะหงิดในใจไม่น้อย อยู่ ๆ พี่หญิงของนางกับอาจารย์ของพี่ชายป่วยพร้อมกันเช่นนี้ แต่พี่ชายนางเป็นสุภาพบุรุษเกินกว่าจะคิดสิ่งไม่ดีในหัว“คิดมากไปหรือไม่ มาเถอะพี่สอนใช้ดาบดีหรือไม่” เห็นท่าทีเบื่อหน่ายของน้องสาว องค์ชายหนิงอวี่จึงหาเรื่องให้ผู้เป็นน้องสาวอารมณ์ดีขึ้นมาบ้า

    Last Updated : 2024-12-26
  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ของขวัญ

    18ของขวัญเพื่อคลายความไม่พอใจขององค์หญิงที่ถูกผู้อื่นเข้ามาขัดขวาง ต่งซูเหวินจึงพาองค์หญิงออกนอกจวนไปยังตรอกการค้าผู้คนพลุกพล่าน ตั้งใจพาพระองค์ไปยังห้างการค้าตระกูลซูเพื่อเครื่องประดับงดงามมากมาย“งดงามหรือไม่เพคะ”“งาม โดยเฉพาะพู่ห้อยกระบี่เหล่านี้ ถือว่าหาได้ยากยิ่งนัก แต่พี่หญิงเหตุใดจึงพาข้ามาที่นี่ ท่านก็รู้ว่าข้าไม่ถูกใจสตรีตระกลูซูนั่น” องค์หญิงใบหน้าหงิกงอ แต่สายตาก็กวาดมองชั้นไม้วางพู่ห้อยกระบี่ตรงหน้าไม่วางตา“หม่อมฉันรู้ว่าองค์หญิงไม่พอพระทัยคุณหนูซู แต่ของพวกนี้ไม่เกี่ยวนี่เพคะ ถึงอย่างไรที่นี่ก็เป็นร้านใหญ่ที่สุดในเมือง หม่อมฉันอยากมอบพู่ห้อยกระบี่ให้องค์หญิงเป็นของขวัญ ทรงเลือกสักอันเถอะเพคะ” หญิงสาวอายุน้อยกว่าเหลือกตามองไปรอบ ๆ แก้มสองข้างพองลมจนน่าบีบ เพราะคิดตามแล้วเห็นด้วยกับสหายข้างกายแม้จะไม่ชอบซูชิงเยียนเพียงใดแต่ของเหล่านี้ก็เป็นเพียงของเท่านั้น ไม่ได้มีความผิดใด

    Last Updated : 2024-12-27
  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ความในใจ

    19ความในใจ“ถวายบังคมเสด็จพี่” หลังกลับจากนอกวังองค์หญิงก็รีบมาหากุ้ยเฟยยังตำหนัก แต่กลับพบเจอพี่ชายหน้าตำหนักพอดีราวกับล่วงรู้ว่านางจะมาที่นี่จึงมารออยู่ก่อน เขาส่งยิ้มให้น้องสาวเดินไปลูบหัวนางเบา ๆนางกำนัลเฝ้าประตูรายงานกุ้ยเฟยในตำหนัก ครู่เดียวก็มีนางกำนัลคนสนิทออกมาเชิญองค์หญิงองค์ชายให้เข้าไปพบในตำหนัก“ถวายบังคมเสด็จแม่”“หม่อมฉันถวายบังคมเสด็จแม่เพคะ” กุ้ยเฟยรีบเดินเข้าไปแตะแขนของลูกทั้งสอง มองด้วยสายตาเอ็นดู พอองค์หญิงเงยหน้าก็รีบเข้าไปเกาะแขนมารดาราวกับเด็กอย่างไรอย่างนั้น“มาเถอะ รีบมานั่งได้แล้ว เป็นอย่างไรเหตุใดจึงพากันมาหาแม่เช่นนี้” กุ้ยเฟยถามบุตรทั้งสองด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน กุ้ยมีพระนามเดินว่าไป๋หลิงอวี่ เป็นสตรีสูงศักดิ์ถูกที่บ้านส่งเข้าวังเป็นสนมของฮ่องเต้เพื่อแบ่งอำนาจจากตระกูลซู ซึ่งเป็นตระกูลที่คอยหนุนหลังหวงกุ้ยเฟยพระนางกุ้ยเฟยไม่สนเรื่องวังหลัง

    Last Updated : 2024-12-28
  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   งานฉลอง

    20งานฉลอง“ผืนไหนงดงามกว่าหรือพี่หญิง”“กุ้ยเฟยทรงใส่อาภรณ์สีใดหรือเพคะ”“สีฟ้าคราม งดงามดุจสีน้ำทะเล เช่นนั้นข้าไม่ควรใส่สีเดียวกับเสด็จแม่ใช่หรือไม่” องค์หญิงทรงหยิบอาภรณ์สีเขียวอ่อนผ้าบางราวปีกจั๊กจั่นขึ้นมา ส่งให้นางช่วยตัดสินใจว่าควรสวมอาภรณ์นี้แทนสีฟ้าครามข้าง ๆ“เพคะ หากองค์หญฺงเลือกได้แล้วหม่อมฉันจะไปรอข้างนอก” เด็กสาวอายุน้อยกว่าพยักหน้าให้แล้ว ต่งซูเหวินจึงรีบเดินออกไปรออยู่ด้านนอกแทน ให้องค์หญิงหนิงเอ๋อได้เปลี่ยนอาภรณ์สำหรับรำกระบี่ถวายกุ้ยเฟยสิ้นเสียงฉินที่ต่งซูเหวินบรรเลง องค์หญิงหนิงเอ๋อก็หยุดร่ายรำพร้อมกันพอดีเหมือนตอนซ้อมกันก่อนหน้านี้ องค์จักรพรรดิปรบมือเสียงดังผู้อื่นจึงทำตาม ซึ่งเป็นมารยาทที่ผู้คนล้วนรู้กันอยู่แล้ว“ดี ๆ หนิงเอ๋อพ่อไม่รู้เลยว่าเจ้ารำได้งดงามเช่นนี้ บางคราพ่อยังนึกว่าเป็นรองแม่ทัพต่งร่าย

    Last Updated : 2024-12-29
  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   รับปากแล้ว

    21รับปากแล้วเดิมเคยให้สัญญากับนางเอาไว้ว่าเรื่องออกเรือนให้นางตัดสินใจเอง แม้จะดีใจที่บุตรชายพึงใจนาง แต่กษัตริย์ตัดแล้วไม่คืนคำ เมื่อครู่ก็ให้คำสัตย์กับกุ้ยเฟยไปแล้วว่าจะประทานสมรส บรรยากาศรอบตัวเงียบสนิทองค์หญิงทรงยังเด็กจึงพูดไปไม่คิด แต่เมื่อนางกล่าวไปแล้วผู้คนก็ล้วนรอฟังว่าฮ่องเต้จะจัดการเรื่องนี้อย่างไร บุรุษสองคนตกใจกับคำพูดขององค์หญิงไม่ต่างจากต่งซูเหวินเลยหลิงซือฝูที่อยู่ด้านหลังรีบเดินมาด้านหลังหมายจะกราบทูลบางสิ่ง ดูเหมือนเขาจะคิดเช่นเดียวกับองค์ชายสี่เพราะองค์ชายสี่ก็เดินมายืนหน้าพระพักตร์ แต่ทั้งสองก็ล้วนช้ากว่าองค์ชายสาม พระองค์ทรงมายืนหน้าพักตร์ก่อนผู้อื่นองค์ชายหนิงอวี่ยกมือขึ้นมาประสานกันตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยกับบิดาตนเองด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“กราบทูลเสด็จพ่อ เดิมท่านหญิงเจียวจ้านเคยขอให้ตนเองตัดสินใจเรื่องออกเรือนของตนเองได้ต่อเสด็จพ่อเอาไว้ ลูกเองก็คิดว่าเรื่องเช่นนี้ให้นางตอบรับและตัดสินใจด้วยตนเองจะ

    Last Updated : 2024-12-30
  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   นัดหมาย

    22นัดหมาย“ถวายบังคมองค์ชายสี่” แม้จะยังมีความเคียดแค้นอยู่ในใจ แต่เกลียดอย่างไรก็ไม่อาจเสียมารยาทต่อองค์ชายได้ เอ่ยทักเสร็จนางจึงยืนนิ่งไม่แสดงอารมณ์ใดออกไป“ขอพูดด้วยสักครู่ได้หรือไม่”“เกรงว่ายามนี้คงไม่เหมาะเพคะ หากองค์ชายมีสิ่งใดรับสั่งเชิญตรัสได้เลยเพคะ”“เช่นนั้นหวังว่าข้าคงมีโอกาสได้พูดคุยกับท่านหญิงบ้าง”“หากไม่มีสิ่งใดหม่อมฉันขอตัวเพคะ” แม้จะเห็นสีหน้าผิดหวังนั่นน่าเห็นใจเพียงใด แต่นางจะไม่เผลอใจให้เขาอีก นางต้องไม่ต้องอยู่ในบ่วงแห่งรักที่รัดแน่นอีกครั้ง“กระหม่อมทูลลาพ่ะย่ะค่ะ”“ลาหลิงซือฝู” องค์ชายสี่ยิ้มเบาบางก่อนจะหมุนตัวเดินกลับไป เมื่อเห็นเหตุการณ์ในวันนี้เขาจึงรวบรวมความกล้าเข้ามาเพื่อพูดคุยกับนาง ไม่ต้องบอกก็เดาได้ว่าบิดาจะประทานสมรสให้ผู้ใดหากเขาและพี่ชายชอบพอสตรีคนเดียวกัน เพราะเหตุนี้เขาจึงต้องหาโอก

    Last Updated : 2024-12-31

Latest chapter

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   จำต้องเลือก

    33จำต้องเลือกสองเท้าก้าวไปข้างหน้าอยู่หลายครั้งแต่ก็ย้อนกลับมายืนที่เดิมอยู่ตลอด ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าเสด็จแม่จะทำการใหญ่เช่นนี้ได้ ยอมแม้กระทั่งวางยาสวามีตนเอง นี่คงเป็นเหตุผลที่ทรงขอประทานสมรสจากเสด็จพ่อให้ตนเองกับสกุลซู“ชิงเยียนจำได้แล้วเพคะเสด็จป้า แต่ชิงเยียนเกรงว่าหากองค์ชายรู้เข้าจะไม่ทรงยินยอมร่วมแผนการของเรา”“หนิงจินเป็นบุตรที่กตัญญูเพียงใดเจ้าไม่รู้หรือชิงเยียน หากข้าบอกให้ทำมีหรือหนิงจินจะปฏิเสธได้ลง” หวงกุ้ยเฟยบอกซูชิงเยียนด้วยแววตาชื่นชม และรอยยิ้มร้ายกาจ นางชื่นชมตนเองที่เลี้ยงดูบุตรชายมาได้กตัญญูนัก ไม่ว่านางจะบอกเตือนสิ่งใดองค์ชายหนิงจินล้วนไม่เคยขัด กระทั่งนางกล้าใช้บุตรเป็นตัวหมากในการขึ้นสู่ที่สูง“เสด็จป้าทรงปรีชายิ่ง ชิงเยียนจะบอกท่านพ่อให้ครบทุกคำเพคะ เช่นนั้นชิงเยียนขอตัวก่อนอีกไม่นานองค์ชายคงมา หากมาเจอกันยามนี้ย่อมไม่ดีต่อแผนการเป็นแน่”&

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ข้าจำไว้แล้ว

    32ข้าจำไว้แล้ว“หนิงลี่ แม่นางซู ขอโทษท่านหญิงเสีย” องค์หญิงใหญ่ชักสีหน้าเมื่อได้ยินคำสั่งของพี่ชาย ซูชิงเยียนเองก็ตกใจจนหน้าถอดสี ภาพลักษณ์หญิงสาวอ่อนหวานของนางต่อหน้าองค์ชายสี่หมดไปแล้วหรือไม่“เสด็จพี่ เหตุใดข้าต้องขอโทษนาง อย่างไรข้าก็เป็นองค์หญิง”“เจ้ารู้ว่าตนเองเป็นองค์หญิงแต่ไม่รู้ว่าไม่ควรเสียมารยาทต่อผู้อื่นหรือ” ขณะนี้นางกำลังเป็นที่สนใจของผู้คนไม่น้อยเลย แม้ผู้คนจะไม่ได้เข้ามาฟังใกล้ ๆ แต่กลับยืนมองอยู่ไม่ห่าง“เสด็จพี่”“ช่างเถอะเพคะองค์ชาย หม่อมฉันไม่อยากให้ผู้คนมองมากกว่านี้ ขอเพียงองค์หญิงไม่มาหาเรื่องหม่อมฉันอีก หม่อมฉันย่อมไม่ถือสา ไปเถอะเพคะองค์หญิง” กล่าวกับบุรุษตรงหน้าแล้วจึงขอปลีกตัวออกไป นางมั่นใจว่าองค์ชายสี่ต้องตามออกมาอย่างแน่นอน“เช่นนั้นให้ข้าเดินไปส่งดีหรือไม่” เป็นอย่างที่นางคิดเขาขอตามออกมา และหากนางยอมรับน้ำใจน

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ประทานสมรส

    31ประทานสมรสต่งซูเหวินตามไปพบองค์หญิงหนิงเอ๋อที่หน้าตำหนักข้างของอุทยาน เมื่อพูดคุยกันจนหายคิดถึงแล้วจึงตามไปยังอุทยานเพื่อร่วมงานฉลองของหวงกุ้ยเฟยงานเช่นนี้ยังคงน่าเบื่อสำหรับนางอยู่เสมอ แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่กับต่งซูหนี่ที่น่ารำคาญ นางเอาแต่มองหาหลิงเฟยหลง ถามนางซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าหลิงเฟยหลงไปไหน ทำไมจึงไม่อยู่ในงาน มันทำให้นางหงุดหงิด นางเดาว่าความหงุดหงิดนี้เพราะต่งซูหนี่น่ารำคาญ“ฝ่าบาทเพคะ งานฉลองของน้องไป่คราก่อนพระองค์ทรงรับปากประทานสมรสให้หนิงอวี่ ครานี้ทรงประทานสมรสให้หนิงจินเป็นของขวัญหม่อมฉันได้หรือไม่เพคะ” หวงกุ้ยเฟยกล่าวกับองค์จักรพรรดิด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนหวาน แม้จะไม่โปรดตระกูลซูที่คอยหนุนหลังนาง แต่อย่างไรนางก็เป็นถึงหวงกุ้ยเฟย อยู่ด้วยกันมานานย่อมมีความรักอยู่บ้าง ฮ่องเต้จึงไม่อาจปฏิเสธคำขอนี้ได้“หวงกุ้ยเฟย เจ้าอยากให้ข้าประทานสมรสบุตรชายกับสตรีตระกูลใดหรือ หนิงจินเจ้าถูกใจแม่นางตระกูลใดเหตุใดไม่ยอมบ

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ดั่งนภายามค่ำคืน

    30ดั่งนภายามค่ำคืนหลังจากโรงน้ำชาวันนั้นผ่านมาหนึ่งเดือนอีกหนึ่งวันจะเป็นวันฉลองวันประสูติหวงกุ้ยเฟย ดังเช่นงานฉลองของไป่กุ้ยเฟย ฝ่าบาททรงมีคำสั่งให้จัดงานมีเทียบเชิญส่งไปแต่ละจวนไม่น้อย หนึ่งในนั้นก็เป็นตระกูลต่ง คราวนี้มิได้มีเพียงต่งซูเหวินเท่านั้น ต่งซูหนี่เองก็เข้าวังไปตามเทียบเชิญด้วยเช่นกันงานเช่นนี้นางเบื่อยิ่งนักหากไม่เพราะเทียบเชิญนางไม่นึกอยากมาแม้แต่น้อย คงเป็นวันนี้ที่หวงกุ้ยเฟยจะทูลขอสมรสจากองค์จักรพรรดิให้องค์ชายสี่และหญิงตระกูลซูผู้นั้น“คารวะท่านหญิง” นางกำนัลเอ่ยขึ้นมาขณะนางกำลังเดินไปยังอุทยานที่จัดงานฉลอง หากนางจำไม่ผิดนางกำนัลนี่เป็นนางกำนัลขององค์หญิงหนิงเอ๋อ แม้ไม่ชอบเข้าร่วมงานในวังแต่อย่างไรก็เป็นวันเกิดหวงกุ้ยเฟย องค์หญิงก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน“องค์หญิงหนิงเอ๋ออยู่ที่อุทยานหรือไม่”“อยู่เจ้าค่ะ องค์หญิงกำลังรอท่านหญิงอยู่เช่นกัน เชิญทางนี้เจ้าค่ะ” หงอิงเดิ

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ที่ปรึกษา

    29ที่ปรึกษา“ข้าเชื่อท่านหญิง แต่หากท่านหญิงอยากล้มตระกูลซูมีแค่ตนเองคงไม่อาจสำเร็จได้”“เป็นเช่นนั้น ข้าจึงบอกท่านอย่างไรล่ะ ข้ารู้ว่าท่านเลือกองค์ชายสามใช่หรือไม่ นอกจากองค์ชายสามก็คงไม่มีผู้ใดเหมาะกับตำแหน่งไท่จื่อแล้ว อีกทั้งกุ้ยเฟยยังไม่ทรงอยากมีอำนาจเช่นหวงกุ้ยเฟยด้วย” นางบอกความคิดของตนเองให้กับบุรุษตรงหน้า ไม่รู้เช่นกันว่าเขาจะคิดอย่างไรกับเรื่องนี้แม้จะพานพบแต่เรื่องราวเลวร้ายมามาก แต่การยอมเชื่อใจผู้อื่นก็ยังง่ายกว่าการคอยระแวงผู้อื่นอยู่ดี“เป็นดังที่ท่านหญิงกล่าว ข้าเลือกองค์ชายสามไม่ใช่เพราะเก่งกาจเหนือองค์ชายสี่ แต่เพราะมารดาองค์ชายสามทรงรักบุตรชายมากกว่าการแสวงหาอำนาจ”“เช่นนั้นถือว่าข้าช่วยท่าน ท่านช่วยข้า”“หากท่านหญิงมีสิ่งใดให้ช่วย โปรดบอกข้าน้อย” หลิงซือฝูลุกยืนยกมือขึ้นมาประสานกันค้อมตัว เมื่อได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมด เสร็จสิ้นทุกอย

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   อดีตที่มิอาจลืมเลือนได้

    28อดีตที่มิอาจลืมเลือนได้“ท่านไม่จำเป็นต้องตอบ ข้าเพียงขบขันความโง่งมยามนั้นของตนเองเท่านั้น”“เช่นนั้นคนผู้นั้นคือ...”“องค์ชายสี่หนิงจิน ข้าจึงอยากรู้เรื่องขององค์ชายมาก แต่ก็ไม่อยากเข้าใกล้”“ข้าเดาไม่ผิดจริง ๆ เช่นนั้นแล้วเรื่องของท่านหญิงเป็นอย่างไรต่อ ท่านหญิงบอกว่าตนเองผ่านความเป็นความตายถึงสามครั้งสามครา” หลิงเฟยหลงถามต่อ เรื่องนี้แม้ไม่น่าเชื่อเท่าใดแต่เมื่อผู้กล่าวเป็นต่งซูเหวิน เขาเต็มใจเชื่อนางทั้งหมดไม่ว่านางจะบอกสิ่งใดก็ตาม ก่อนนี้นางก็ได้บอกเรื่องราวเหลือเชื่อที่พิสูจน์มาแล้ว“ยามนั้นข้าโง่งมในรักเพียงเขาบอกว่า รักเพียงข้าแต่ต้องแต่งสตรีอื่นเป็นเมียเอกเพราะมารดาสั่ง ตระกูลชายาเอกมีอำนาจในราชสำนักมาก สามารถส่งเสริมเขาในการขึ้นเป็นไท่จื่อได้ ข้ายอมเพราะอยากเห็นคนรักสมปรารถนา ท่านลองเดาดูสิว่าสตรีที่ข้าว่าคือผู้ใด”“จากที่ท่านเกลียดตระ

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ผู้ร่วมชะตากรรม

    27ผู้ร่วมชะตากรรม“ข้าบอกท่านครั้งก่อนว่าล่วงรู้อนาคต ที่แท้มิใช่เช่นนั้น” ต่งซูเหวินหันไปมองหลิงเฟยหลง คราก่อนที่เขาไปกับนาง นางก็มิได้บอกเล่าเรื่องจริงเพราะไม่รู้ว่าที่แท้เขาอยู่ฝ่ายผู้ใด จึงได้แสร้งบอกเขาไปว่านางมีญาณหยั่งรู้อนาคตผู้มากความรู้อย่างเขาย่อมไม่เชื่อเรื่องหลอกลวงนี้เป็นแน่ นางจึงกล่าวถึงรับสั่งฮ่องเต้ที่ยังไม่มีผู้ใดล่วงรู้ จากที่นางคำนวนไว้อีกไม่กี่วันฮ่องเต้ต้องทรงมีราชโองการนี้เป็นแน่ ฮ่องเต้ต้องมีรับสั่งให้เหล่าองค์ชายจัดการเรื่องการค้าของเถื่อนที่ไม่สามารถเก็บภาษีได้สองวันต่อมาหลิงซือฝูจึงส่งจดหมายลับให้นาง เขาเชื่อที่นางกล่าวหลังจากได้ฟังรับสั่งฮ่องเต้ นางไม่ได้ตอบกลับเพราะยังไม่เชื่อเขาทั้งหมด“เช่นนั้นท่านหญิงรู้ได้อย่างไรว่าฮ่องเต้จะมีราชโองการ”“ก่อนข้าจะบอกความจริงแก่หลิงซือฝู ข้าขอถามท่านสักคำถาม ในสายตาท่านคิดว่าองค์ชายสี่เป็นเช่นไร”“จากที่

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   เป็นเช่นนี้

    26เป็นเช่นนี้“คนผู้นี้ฟื้นตื่นขึ้นมาบ้างหรือไม่” ต่งซูเหวินถามเขาขณะยืนมองร่างบุรุษที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อวานเขาหลับอยู่ตลอดเลยหรือไม่ หลิงเฟยหลงเดินไปยืนข้างนางก่อนจะหันไปบอกเหตุการณ์เมื่อคืน“คนผู้นี้เมื่อคืนตื่นมาหนึ่งครั้ง ข้าได้สอบถามเขาบางส่วน เพียงแต่ไม่รู้ว่าท่านหญิงกำลังสืบสิ่งใดอยู่จึงไม่อาจสอบสวนช่วยท่านหญิงได้”“มิเป็นไร ข้าจะสอบสวนจินจื่อหยางผู้นี้เอง เพียงรอให้เขาตื่นขึ้นมาเท่านั้น หลิงซือฝูท่านคิดว่าชายผู้นี้จะฟื้นเมื่อใดหรือ”“ไม่นานคงตื่น มิเช่นนั้นให้องครักษ์ท่านหญิงลองปลุกดูดีหรือไม่”“อันฉี”“ขอรับคุณหนู” ไม่ต้องให้นางเอ่ยคำใดออกมาอีก เพียงเอ่ยนามเขาก็เข้าใจในทันทีว่าควรทำสิ่งใด หลันอันฉีเดินไปยังเตียงไม้เพื่อปลุกผู้ที่กำลังหลับ จื่อหยางขยับตัวเปิดเปลือกตาสักครู่ก็พยายามยันตัวลุกนั่งโดยมีองครักษ์หนุ่มช

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ข้าอิ่มพอดี

    25ข้าอิ่มพอดี“คุณหนูมีสิ่งใดจะสั่งข้าหรือ”“เจ้าแข็งแรงย่อมต้องมีแรงมาก มานวดแป้งให้ข้าที” ต่งซูเหวินกวักมือเรียกชายหนุ่มที่ยืนเฝ้าอยู่ตรงประตู เขาเดินเข้ามาอย่างว่าง่าย วางดาบพิงประตูครัวเดินอ้อมด้านหลังนางไปล้างมือ เสร็จแล้วมายืนข้างกายนาง“ทำเช่นนี้ จนกว่าแป้งนี่จะเป็นเนื้อเดียวกัน เข้าใจหรือไม่” ต่งซูเหวินวางมือสองข้างลงบนหลังมือของชายหนุ่ม กดมือเขาให้ขยำไปบนเนื้อแป้งที่ผสมน้ำอยู่ หลันอันฉีนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา ไม่ได้มองด้วยซ้ำว่านางสอนอย่างไร เพราะยามนี้สายตาเขาแอบลอบมองเสี้ยวหน้าของนางอยู่ใบหน้าที่เคยนิ่งเฉยเจือไปด้วยสีชมพูอ่อนใส โชคดีที่ไม่มีผู้ใด ไม่เช่นนั้นคงมีผู้คนล่วงรู้ความรู้สึกของเขา“อันฉี เจ้าฟังข้าอยู่หรือไม่” ต่งซูเหวินเรียกเขาเสียงดัง โบกไม้โบกมือเรียกสติเขาให้หลุดออกจากภวังค์ นางใกล้ชิดกับเขาโดยไม่ระวังตัวแม้แต่น้อย ไม่รู้เพราะนางสบายใจหรือไม่คิดว่าเขาเป็น

DMCA.com Protection Status