Home / แฟนตาซี / ให้ชะตากรรมนำทาง / เด็กคนนี้เป็นห่วงข้าจริงๆ

Share

เด็กคนนี้เป็นห่วงข้าจริงๆ

Author: Sanassetong
last update Last Updated: 2024-12-12 13:58:37

หลังจากแอบตามคุณหนูไปด้วยใจที่กังวล พอเห็นคุณหนูกำลังจะถูกกลั่นแกล้งทีแรกซิงอีกำลังจะวิ่งไปปกป้อง แต่แล้วสถานการก็พลิกผัน คุณหนูของนางหลบจากการผลักของคุณหนูรองได้ และแกล้งเป็นลมล้มลงไป นางก็อุ่นใจขึ้นและคิดว่าต้องทำยังไงดีนะ คุณหนูก็มองมาที่นางแล้วยิ้มแถมขยิบตาให้อีก อ๋อ สักพักใหญ่ๆ

"คุณหนูคุณหนูเจ้าค่ะเป็นอย่างไรบ้างเจ้าค่ะ ฮือๆๆๆๆ มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรเจ้าค่ะ ไหนว่าจะไปเล่นกับคุณหนูใหญ่และคุณหนูรองล่ะเจ้าค่ะร่างกายของคุณหนูก็ไม่แข็งแรง ฮือๆๆๆ"

หลังจากที่ซิงอีโวยวายพลางร้องไห้เสร็จก็แบกคุณหนูสามกลับเรือนทันที โดยไม่ได้ฟังเสียงของคุณหนูใหญ่และคุณหนูรองที่อยู่ก้นสระเลยสักนิด นางแกล้งไม่ได้ยิน

"เจ้านิก็ร้ายไม่เบาเลยนะ ได้ยินคนตะโกนให้ช่วยแต่ไม่ช่วยพวกนางเดียวเจ้าก็ถูกลงโทษหรอก วางข้าลงเถอะตัวข้าหนักจะตาย"

พอห่างจากบึงพอประมาณมู๋จินเป่าก็พูดขึ้น

"ก็คุณหนูร้ายก่อนนิเจ้าค่ะ บ่าวแค่เล่นต่อจากคุณหนูผิดหรือเจ้าค่ะ ถ้าคุณหนูสองคนไปฟ้องท่านแม่ทัพ บ่าวก็จะอ้างว่าบ่าวตกใจกลัวคุณหนูเป็นอะไรไปเพราะคุณหนูไม่แข็งแรง และไม่ได้ยินเสียงอันใดทั้งสิ้นเพราะบ่าวมัวแต่ร้องไห้ ดีไหมเจ้าค่ะ และบ่าวก็ไม่ให้คุณหนูลงด้วยเจ้าค่ะ บ่าวแบกคุณไปโรงหมอตลอดจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าคุณหนูเบ่าขึ้นเพียงใด และอีกอย่างถ้าเดินกลับไปเจอพวกทหารหรือใครๆก็จะเห็นว่าคุณหนูไม่สบายบ่าวรีบพากลับเรือน บ่าวไม่อยากให้เหมือนครั้งที่แล้วที่บ่าวบุ่มป่ามเกินไปทำให้ ทหารรู้ว่าคุณหนูแข็งแรงดีแล้ว"

ซิงอีพูด

เด็กคนนี้เป็นห่วงเขาจากใจจริงๆและมีความคิดที่โตอีกต่างหาก มู๋จินเป่าเลยยอมให้ซิงอีแบกกลับเรือน 

เวลาผ่านไปจวนเกือบค่ำ ก็มีบ่าวและทหารวิ่งเข้ามาในเรือนเก่าเป็นจำนวนมากเพื่อตามหาคุณหนูใหญ่และคุณหนูรอง พอซิงอีเห็นก็รีบวิ่งมาหาคุณหนูของตน 

"คุณหนูเจ้าค่ะ คุณหนูเจ้าค่ะ มีบ่าวรับใช้กับทหารมากันยกใหญ่เลยเจ้าค่ะ "

ซิงอีรีบวิ่งมาบอกคุณหนู 

"งั้นเจ้าก็ออกไปต้อนรับพวกเขาเถอะแล้วบอกว่าข้ายังสลบอยู่ แล้วเจ้าก็ไม่รู้อะไรทั้งนั้น แล้วบอกพวกเขาด้วยว่าข้าสลบอยู่ที่ใดพวกเขาจะได้ไปหาคุณหนูของพวกเขาเจอ นี้มันก็หลายชั่วโมงแล้วล่ะน่าจะหนาวหน้าดูเลย"

มู๋จินเป่ากล่าวเสร็จแล้วก็ไปนอนห่มผ้า เผื่อพวกบ่าวของพี่หญิงจะบุกเข้ามา

"พวกเจ้ามาทำอะไรกันหรอคุณหนูใหญ่กับคุณหนูรองของพวกเจ้า หลอกคุณหนูสามของข้าออกไปจนสลบอยู่ริมบึง ป่านนี้คุณหนูของข้าก็ยังไม่ฟื้นไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง ฮืออออ "

พอไปถึงหน้าประตูซิงอีรีบถามทันทีพลางร้องไห้ออกมา

เหล่าทหารกับบ่าวรับใช้ของคุณหนูใหญ่กับคุณหนูรองตกใจเพราะพวกเขาคิดที่จะมาหาเรื่องและสอบถามคุณหนูสามว่าคุณหนูของพวกตนอยู่ที่ไหน แต่เป็นแบบนี้ มันเกิดเหตุใดขึ้นกันแน่ หรือว่าคุณหนูของพวกนางหลอกคุณหนูสามไปรังแกแล้วหนีไปเที่ยวที่ไหนกันเสียแล้ว"

"ฮือออออ ข้าไปเจอคุณหนูสามนอนอยู่ริมบึงใต้ต้นไม้ใหญ่โน้น ข้าก็เลยแบกคุณหนูสามกลับมา ข้าเจอคุณหนูสามตั้งแต่ช่วงเช้าโน้นปานนี้ก็ใกล้ค่ำแล้วคุณหนูของข้ายังไม่ตื่นเลยฮืออออ"

พอเห็นบรรดาบ่าวของคุณหนูใหญ่กับคุณหนูรองตกใจซิงอีเลยรีบกล่าวและร้องให้อย่างจริงจัง

"คุณหนูของพวกข้ามาหาคุณหนูของเจ้าแล้วหายไปยังไงเราก็ต้องเข้าไปค้นข้างใน"

บ่าวคนหนึ่งกล่าวขึ้นมาอย่างไม่แน่ใจ

"แต่คุณหนูของข้าสลบอยู่ เพราะคุณหนูของพวกเจ้า ข้าไม่ยอมให้พวกเจ้าเข้าไปเด็ดขาด"

ซิงอีกล่าว

"ถ้าอย่างนั้นอย่าหาว่าข้าใจร้ายแล้วกัน ทหารจับตัวมันไว้"

บ่าวรับใช้คนหนึ่งกล่าว เหล่าทหารต่างมาจับตัวซิงอีไว้ แล้วบรรดาพวกบ่าวก็รีบเข้าห้องพากันไปค้นหาคุณหนูของตัวเอง เห็นแต่คุณหนูสามนอนสลบอยู่และมีผ้าห่มเก่าๆห่มอยู่ก็เดินออกมา

"ฮือๆๆๆๆคุณหนูข้าไม่สบายสลบอยู่แท้ๆ พวกเจ้าก็เป็นบ่าวเหมือนกันกับข้าแต่เจ้าก็ยังจะมารังแกคุณหนูของข้าอีกฮือฮือ ข้าไปแบกคุณหนูมาจากริมบึงตั้งนานแล้วยังไม่มีวีแววจะฟื้นเลย ฮือฮือ"

พอเหล่าบ่าวเดินกลับมา ซิงอีเลยร้องขึ้นอีก พอบ่าวรับใช้ของคุณหนูใหญ่และคุณหนูรองไม่พบคุณหนูทั้งสองก็รีบกลับไป

"กลับไปแล้วเจ้าค่ะคุณหนู"

ซิงอีรีบวิ่งมารายงานมู๋จินเป่า

"เราแอบตามไปดูกันดีไหมข้าอย่ากรู้ว่าพี่สาวทั้งสองของข้าเล่นสนุกมากไหม อิอิ"

มู๋จินเป่ากล่าว

"ไม่ดีเจ้าค่ะ ถ้ามีคนเห็นคุณหนูจะทำเช่นไรดีเจ้าค่ะ"

ซิงอีรีบตอบ

"ใครว่าข้าจะไปเองกันเหล่า เจ้านั้นแหละไปเถอะ รีบไปรีบกลับจะได้กินข้าวกัน ข้าว่าจะนอนเล่นสักพัก"

มู๋จินเป่าบอกให้ซิงอีไปสืบเรื่องมาให้

ซิงอีจึงรีบไปทันที

 “เจ้าค่ะ”

Related chapters

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ก็มันน่าสมน้ำหน้านิเจ้าคะ

    หลังจากซิงอีแอบตามทหารกับบรรดาบ่าวของคุณหนูใหญ่และคุณหนูรองไปก็พบว่า คนเหล่านั้นถือว่าไม่โง่เลยซักนิด นางพยายามบอกหลายครั้งหลายคลาว่าพบคุณหนูสามนอนสลบอยู่ที่ริมบึงใต้ต้นไม้ใหญ่ คนเหล่านั้นก็มุ่งไปที่ต้นไม้ใหญ่ทันที"คุณหนูใหญ่คุณหนูรองเจ้าค่ะ ลงไปอะไรกันที่นั่น"เสียงบ่าวคนหนึ่งตะโกนลั่นพอคุณหนูใหญ่กับคุณหนูรองเห็นบรรดาบ่าวๆก็ดีใจ ทั้งอับอายจนกลายเป็นโกรธด้วยซ้ำ กว่าจะตามหาพวกนางจบพบทั้งหนาวทั้งหิว ทั้งอับอายที่บรรดาบ่าวและทหารเจอพวกตนในสภาพเช่นนี้ เรื่องนี้ทั้งหมดต้องโทษมู๋จินเป่าคนเดียวในครั้งที่พวกเขาชวนมู๋จินเป่ามาก็เพื่อที่จะจัดการให้นางตกน้ำตายแต่ทำไมคนที่ป่วยไม่มีแรงขนาดนั้นยังหลบนางได้ มู๋จินเป่าไม่มี วรยุทธแม้แต่น้อยทำไมหลบนางได้กันคิดแล้วก็น่าโมโห พวกนางสองคนพยายามปีนแล้วก็ขึ้นไม่ได้ ป่ายปีนจนมือเจ็บไปหมดทั้งใช้วรยุทธที่ตนเรียนมาก็ไม่สามารถออกไปได้ พวกบ่าวก็แหกปากร้องอยู่นั้นแทนที่จะรีบๆมาช่วยพวกนาง พอทหารช่วยคุณหนูทั้งสองขึ้นมาแล้วด้วยความยากลำบากมากเนื่องจากหน้าแล้งน้ำใกล้หมดไปจากบึง ทำให้พื้นกับก้นบึงอยู่ห่างกันมาก แม้ผู้ที่ฝึกวรยุทธในขั้นสิบก็ไม่แน่ใจว่าจะขึ้นมาได้ พวก

    Last Updated : 2024-12-12
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   นึกว่าแพ้ของดี

    ทันทีที่มู๋จินเป่านั่งก็หันหน้าไปหาพี่สาวสองคนแล้วทำท่าตกใจ"ท่านพี่ทั้งสองเป็นอย่างไรบ้างเจ้าค่ะ เมื่อวานข้าเห็นท่านพี่ทั้งสองคนตกบึงไปต่อหน้าต่อตาข้าก็ตกใจกลัวจนเป็นลมล้มไป กว่าข้าจะได้สติตื่นขึ้นมาก็รุ่งเช้าแล้ว พอข้าถามซิงอีนางก็บอกว่านางพบข้านอนสลบอยู่ผู้เดียว ไม่พบผู้ใดทั้งนั้น ข้าเลยถามว่าแล้วในบึงใหญ่นั่นเจ้าได้ดูหรือป่าว นางก็บอกว่าไม่ได้ดู มัวแต่รีบแบกข้ากับเรือน ข้าเป็นห่วงท่านพี่ทั้งสองมากเจ้าคะ"มู๋จินเป่ารีบกล่าวเพื่อปัดความผิดของซิงอีลองดูว่าถ้านางกล่าวขนาดนี้แล้วบิดายังจะมาป้ายความผิดให้บ่าวของตนอีกหรือไมพอฟังคำของมู๋จินเป่ากล่าว ทุกคนก็เงียบเพราะไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไปดี จะพูดยังไงให้สองคนนั้นผิดได้ ในเมื่อนางกล่าวปิดทางทุกทางไว้เช่นนี้แล้ว"วันนี้ที่พ่อเรียกเจ้ามาเพราะว่าเรื่องเมื่อวานนั้นแหละ เจ้าเป็นลมขนาดนั้นบ่าวเจ้าไม่พาเจ้าไปหาหมอแต่กลับพาเจ้ากลับไปยังเรือนไม่กลัวเจ้านายเจ้าเป็นอะไรไปหรอ สลบไปทั้งวันทั้งคืนขนานนั้น เจ้าเป็นบ่าวไม่ร้อนใจบ้างหรือ ซิงอี"ท่านแม่ทัพที่หาเรื่องจากบ่าวอย่างซิงอีให้ลูกมู๋จินเหอกับลูกมู๋จินฮูยไม่ได้ จึงหันมาหาเรื่องบ่าวให้ลูกมู๋จินเป่

    Last Updated : 2024-12-12
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ท่านแม่จะหนีหรือเจ้าคะ

    หลังจากเคลียร์ปัญหาหากันเสร็จสิ้น ฮูหยินรีบกลับเรือนพร้อมบรรดา ลูกๆและบ่าว"ข้าว่าเราปล่อยสองคนนั้นไม่ได้แล้วล่ะ ดูอย่างวันนี้สิ ขนาดข้ามีศักดิ์เป็นแม่ มีศักดิ์เป็นฮูหยิน แต่ข้าไม่มีโอกาสพูดอะไรเลย นางสองคนนั้นเหมือนตั้งใจมาลบล้างความผิดของตัวเองแท้ๆ แต่พวกเราทำอะไรได้บ้างล่ะ นั่งมองพวกนางโยนความผิดมาให้จนพูดอะไรไม่ออกเลย"ฮูหยินกล่าวด้วยความโมโห"แล้วท่านแม่จะทำเช่นไรเจ้าค่ะ ไหนจะต้องจ่ายเบี้ยพวกนางอีก ซิงอีมันก็เป็นแค่บ่าวแต่ทำตัวกำเริบเสิบสานเยี้ยงนี้ ท่านพ่อไม่ว่าอะไรสักคำ แถมยังจะจ่ายเบี้ยให้อีก "มู๋จินฮูยพูดด้วยความที่มีอคติกับซิงอี เพราะนางคิดว่าซิงอีได้ยินเสียงพวกนาง แต่ซิงอีแกล้งไม่ได้ยิน ในตอนที่คุยกันอยู่บนเรือนใหญ่นางไม่มีโอกาสได้พูดอะไรเลย แถมซิงอียังมีการร้องไห้เรียกความสงสารอีก และจะให้นางไปแทรกได้เช่นไร นางอึดอัดเป็นอย่างมาก อกนางแทบจะระเบิดอยู่แล้ว"รออีกสักระยะหน่อยเดียวแม่จะหาวิธิที่มันแยบยนกว่านี้ก่อน เรื่องยาพิษคงไม่ได้เรื่องแล้วล่ะ บ่าวมันระวังตัวนายมันยิ่งกว่าอะไรดี"ฮูหยินพูดพลางคิดหาวิธีอยู่“ข้าว่ามู๋จินเป่าดูเหมือนคนไม่มีวรยุทธ์ที่ใดกัน ตอนเราไปพบนางนางอ่าน

    Last Updated : 2024-12-12
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   พี่สาวมาเยี่ยมข้าหรือเจ้าคะ

    เมื่อมู๋จินเป่ากับซิงอีไปถึงหอสมุดของตระกูลมู๋ ทั้งสองก็เดินตามผู้เฝ้าหอสมุดเข้าไป "เชิญคุณหนูสามขอรับ วันนี้คุณหนูสามหยิบได้ห้าเล่มนะขอรับ"ผู้เฝ้าหอสมุดกล่าว เขาเอ็นดูคุณหนูสามมาตั้งแต่ยังเด็ก เพราะคุณหนูสามมักมาศึกษาตำราอยู่บ่อยๆ แต่เวรกรรมอันใดไม่รู้ทำให้คุณหนูสามต้องเจอกับเรื่องแย่ๆได้เพียงนี้"ขอบคุณเจ้าค่ะ"มู๋จินเป่ากล่าวอย่างนอบน้อมแล้วเดินเข้าไปกับซิงอี " ถ้าเจ้าต้องการตำราเล่มไหนก็หยิบมานะข้าให้เจ้าสองเล่ม ข้าต้องการแค่สามเล่มเท่านั้น"มู๋จินเป่ากล่าวกับซิงอีเพราะรู้ว่านางต้องการตำราเช่นกัน นางจึงเดินไปหาตำราที่ตนต้องการ เล่มที่หนึ่งตำราเกี่ยวข้องกับเขาแสงจันทร์ นางหยิบมาแล้วเปิดดูคล่าวๆประมาณสามสี่เล่มจนเจอ สิ่งที่นางต้องการ มีทั้งทำเลและที่ตั้ง สัตว์อสูรที่อยู่บริเวณต่างๆ พืชสมุนไพรต่างๆ รวมไปถึงพืชที่นางต้องการด้วย มีทั้งลักษณะทั่วไปเมื่อคนพบเห็น สัพคุณต่างๆของพืช ได้แล้วหนึ่งเล่ม ตำราพิชิตเขาป่าต้องแสงจันทร์ เล่มที่สองนางต้องการตำรากำหลาบสัตว์อสูร เล่มที่สามนางต้องการตำราเกี่ยวกับหยกสีน้ำผึ้ง นางค้นหาอยู่สักพักก็เจอทั้งสามเล่มแล้วก็เดินไปหาซิงอี ซิงอีเองก็ไม่รู้จะศึกษ

    Last Updated : 2024-12-12
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ตัวตนที่แท้จริง

    ณ เรือนใหญ่ของตระกูลมู๋ บรรดาลูกลูกและฮูหยินของท่านแม่ทัพมู๋นั่งคุยกับ ท่านแม่ทัพอยู่"ท่านบิดาข้าโดนน้องจินเป่าทำร้ายจริงๆนะเจ้าค่ะ ไม่รู้ว่าน้องจินเป่านางมีวรยุทธ์กลับมาตั้งแต่ตอนไหนแล้ว นางคิดจะปกปิดเรื่องวรยุทธ์เพื่ออะไรกัน ไม่แน่ว่านางต้องการให้ท่านบิดาอับอายหรือไม่เจ้าคะ ดูข้าสองคนพี่น้องนี้สิเจ้าค่ะโดนนางแกล้งจนสะบักสะบอมเลยเจ้าคะ" มู๋จินฮุยกล่าวกับบิดา"วรยุทธ์นางกลับมาข้าก็ดีใจนะสิ แต่ทำไมนางไม่บอกข้าหรือต้องการให้ข้าตื่นเต้นไม่น่าจะอยากให้ข้าอับอายหรอก"ท่านแม่ทัพกล่าว ทำให้ฮูหยินกับลูกๆหน้าเปลี่ยนสีเลยที่เดียว เรื่องจะแย่แน่ๆถ้า วรยุทธ์ของมู๋จินเป่ากลับมาจริงๆ ไหนจะจัดการกับนางได้ยากขึ้นอีก ไหนจะท่านแม่ทัพเห็นดีเห็นงามด้วยอีก พวกเขาไม่น่าก่อเรื่องเลย ต่อไปนี้ท่านบิดาก็จะกลับไปเอ็นดูมู๋จินเป่าเหมือนเดิมแน่ๆ แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว"ท่านพี่ ท่านพี่คิดดูสิเจ้าค่ะถ้าลูกมีวรยุทธ์กับมาเช่นเดินแล้ว ไม่มาบอกกล่าวกับบิดามารดาแต่ให้พี่ๆไปรู้เองเช่นนี้ นางไม่เห็นท่านพี่อยู่ในสายตาเลยนะเจ้าคะ น้องเองไม่เท่าไหร่หรอกเจ้าค่ะเพราะน้องคือมารดาเลี้ยง แต่ท่านพี่ไม่คิดน้อยใจบ้างหรือเจ้าค่ะ"ฮูหยิน

    Last Updated : 2024-12-13
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ให้สถานการณ์พาไป

    หลังจากคุยกันเสร็จสิ้นทั้งสองก็จัดสิ่งของที่จำเป็น และดูของที่ขาดแคลน วันรุ่งขึ้นจะได้ไปจัดซื้อเตรียมหา "เบี้ยของเราสองคนก็เหลือน้อยเต็มที ก่อนที่เราจะไปเขาป่าต้องแสงจันทร์ไม่แน่ใจว่าเบี้ยเราจะหมดกันหรือป่าว "ซิงอีเป็นผู้ตรวจสอบของที่ขาดกล่าวขึ้น"คืนนี้เดียวพี่ซิงอีเอาตำราฝึกสัตว์อสูรไปศึกษาก่อนดีไหม ข้าก็อยากฝึกอยู่หรอก แต่ข้าไม่มีวรยุทธ์ข้าคิดว่าข้าคงกำหราบสัตว์อสูรไม่ได้แถมยังจะทำให้ตัวข้าเองถึงตายได้ เราต้องหาสัตว์อสูรแถบๆชายป่ามาเพื่อขายก่อนจะได้เอาเบี้ยไปซื้อของอย่างอื่น "มู๋จินเป่ากล่าว"สัตว์อสูรมันกำหราบง่ายสะที่ไหนกัน ต้องเรียนเป็นสิบปีถึงจะกำหราบได้ ที่เราหาตำรามาทั้งฝึกสัตว์อสูร ทั้งปรุงยา ทั้งหล่อหลอมอีกมันใช้เวลาอยู่พอสมควรนะ"ซิงอีพูดแบบปรงๆ"เอาแบบนี้ดีไหมเราไปหาสมุนไพรชายป่าหรือว่าเข้าไปอีกสักหน่อยดีกว่า เอามาขาย แล้วเราจะได้มีเบี้ย ข้าก็พอจำสมุนไพรได้เป็นบางชนิด ถ้าข้ายังปกติอยู่นะ ข้าว่าข้าจะรับงานตามสมาคมรับจ้างนะ แต่ตอนนี้งานสมาคมรับจ้างมันน่าจะหนักเกินไป นอกเสียจากจะทำเป็นกลุ่ม"มูจินเป่ากล่าว"งานสมาคมรับจ้างเดี่ยวหรือกลุ่ม เขาก็ต้องดูวรยุทธด้วย ใครจะกล้าจ้

    Last Updated : 2024-12-13
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   แม่นางลี่หลิน

    หลังจากมู๋จินเป่ากับซิงอีค้นตำราที่ท่านแม่ทัพสั่งให้บ่าวนำมาให้ ก็ไม่มีตำราสักเล่มที่น่าสนใจเลย มีแต่แผนที่หนึ่งแผ่น ที่เป็นเหมือนผังเมือง เหมือนเป็นผังบอกตำแหน่งที่ต่างๆของเมืองที่นางอยู่ รวมไปถึงเมืองข้างเคียงด้วย มองๆดูแล้วเหมือนผังของแคว้นทั้งแคว้นเลยทีเดียว ซึ่งมีเขาป่าต้องแสงจันทร์อยู่ริมบนขวาสุดของแผนที่ น่าจะเป็นแค่แคว้นเดียวเท่านั้น สถานที่แห่งนี้น่าจะมาหลายแคว้นแน่ๆ นางมองตำแหน่งที่นางอยู่และมองไปที่เขาป่าต้องแสงจันทร์ หากใช้เวลาเดินทางเท้านางต้องใช้เวลานานแน่เลยเพราะนางไม่มีวรยุทธ ส่วนซิงอีเองนางก็มีวรยุทธเพียงป้องกันตัวเท่านั้นยังไม่สามารถลอยตัวได้ด้วยซ้ำ หลังจากดูแผนที่แล้วซิงอีก็นำตำราไปเก็บ และรีบพักผ่อน ยามเช้าก่อนฟ้าสว่างทั้งสองก็เตรียมตัวกันเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองแต่งชุดสบายๆออกไปทางบุรุษเลยทีเดียว ทั้งสองเดินมุ่งไปทางท้ายจวนไม่ได้ออกไปด้านหน้าจวน ซิงอีแอบปีนต้นไม้มองดูลาดลาว พอดูว่าไรวีแววผู้คนก็ปีนข้ามกำแพงไป มู๋จินเป่าก็โยนถุงผ้าที่บรรจุขนมปังที่ซิงอีทำขึ้นมา และถุงผ้าที่บรรจุของใช้ในยามจำเป็นให้ซิงอี และปีนข้ามตามไป ขนาดแค่ปีนกำแพงผู้ไม่มีวรยุทธนี้ยังลำบากมาก

    Last Updated : 2024-12-13
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   สัตว์อสูร

    หลังจากพักผ่อนแบบหลับสนิททั้งคืนพอตื่นขึ้นมา ซิงอีก็รู้สึกผิดเพราะไม่ได้เฝ้ายาม พอลุกขึ้นได้ก็เห็นลี่หลินเตรียมอาหารเช้าให้แล้ว ซิงอีเห็นปลาย่างก็ไม่สบายใจไปกันใหญ่ นางหวาดระเวงลี่หลินอยู่แล้วด้วย มู๋จินเป่าเห็นซิงอีทำหน้าแปลกๆจึงถามขึ้น"พี่ซิงอีเป็นอะไรไป เมื่อคืนพี่เฝ้ายามดึกเลยเผลอหลับไปแล้วนอนไม่เต็มอิ่มหรือไรกัน ลงมากินปลาย่างเถอะวันนี้ลี่หลินจับปลามาได้ตัวโตเชียว" ซิงอีเลยกระโดดลงมาและก็กินปลากัน"พวกท่านอยากกินสัตว์อะไรที่ไม่ใช่ปลาหรือไม่ถ้าอยากก็บอกข้าได้เลยข้าจับสัตว์ได้เก่งนะ"ลี่หลินกล่าวในเมื่อนางยอมติดตามมู๋จินเป่าแล้วนางก็จะทำประโยชน์สูงสุดให้มู๋จินเป่า และเมื่อคืนได้สื่อสารกับเต่ามังกรหยกสีน้ำผึ้งแล้วก็รู้ว่าจินเป่าต้องการไปหาผลหลิวต้องแสงจันทร์ และน้ำอมฤตมารักษาอาการฝึกวรยุทธ์ไม่ได้ และรู้ด้วยว่าในร่างกายนี้ยังขับพิษออกไม่หมดเพราะได้รับพิษชนิดเดียวกันถึงสามครา ถึงกระนั้นก็ไม่อาจฆ่าคนผู้นี้ได้ น่านับถือจริงๆ ในการเดินทางมาหนึ่งวันนางเองก็รู้ว่าทั้งสองเป็นคนดี พอนางย้อนนึกเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนถ้านางฆ่าทั้งสองคนแล้วนางต้องรู้สึกผิดแน่ๆ นางอยากบอกทั้งสองว่านางเป็นตัว

    Last Updated : 2024-12-13

Latest chapter

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ชิงคืน

    "ที่พวกข้ามานี้ไม่ได้ต้องการอะไรหรอกนะ พวกข้าแค่ไม่เคยเห็นหน้าเจ้านะ แล้วผลหยางเหมยนี้ล่ะเอามาจากที่ใดกันข้าได้ข่าวว่าถ้าพบก็ต้องเป็นสิบๆลูกนิ เจ้าเอามาจากที่ใดล่ะถึงมีเพียงลูกเดียวไม่ใช่ว่ามีหลายลูกแต่ไม่เอาออกมาหรอกหรือ"บุรุษผู้หนึ่งถามเจ้ากระต่ายหยกขึ้น เจ้ากระต่ายหยกทำหน้าบูดขึ้นทันทีมันไม่ตอบแต่มองกลับไปก็รู้ว่าคนกลุ่มนี้ละโมบอยากได้ผลหยางเหมยหมดทุกผลรวมกับเบี้ยที่เสียมาด้วย"ทำไมไม่ตอบล่ะเจ้ารู้หรือป่าวว่าลูกพี่ของข้าคือผู้ที่เก่งที่สุดในมิติแห่งนี้ท่านตงหมิงของข้าผู้ที่คว้าอันดับหนึ่งของศึกมังกรเมื่อเจ็ดปีที่แล้ว"บุรุษผู้หนึ่งกล่าวขึ้น แต่กระต่ายหยกเองก็ยังเมินเฉยอยู่"หรือเจ้าไม่รู้ภาษามนุษย์กันถึงได้เงียบแบบนี้"บุรุษอีกผู้ถามขึ้น"พวกเจ้ามีปัญหาอะไรกันหรือป่าว"จินเป่ากล่าวถาม"พวกข้าจะเป็นอย่างไรแล้วพวกเจ้าจะมีปัญหาอะไรกัน"บุรุษผู้หนึ่งกล่าวขึ้นจึงทำให้กลุ่มคนของตงหมิงราวๆแปดคนมองมาที่จินเป่าเพียงคนเดียว ทันใดนั้นด้วยความงามของนางก็ทำให้คนที่เห็นถึงกับตกตลึงทันที"อ่ะเจ้าจะมาพูดแบบนั้นก็ไม่ถูกหรอกนะ ถ้าสตรีผู้นี้จะมาเกี่ยวข้องข้าเองก็เต็มใจยิ่งนัก ข้ามีนามว่าตงหมิงที่ศ

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ผลหยางเหมย

    "ข้าว่าท่านประมุขในมิติแห่งนี้ก็ฉลาดมากนักนะ สงสัยองค์ชายรัชทายาทต้องฟื้นแล้วล่ะ และนี้คงจะเป็นการล่อคนออกมาเป็นแน่ หรือจะจัดเพื่อเอาใจเรากันนะ"จางซินกล่าวขึ้น"ข้าว่าน่าสนุกออกเราไปขอให้องค์ชายหกให้พวกเราเข้าร่วมด้วยดีกว่าเราจะได้ประสบการณ์ด้วย แถมเคล็ดวิชานี้ก็น่าดึงดูดใจอย่างยิ่ง ดัชนีสุริยัน ข้าได้ยินแล้วสนใจยิ่งนัก ถ้าท่านได้ศึกษาเคล็ดวิชานี้ท่านต้องไปได้ไกลแน่ๆ"จินเป่ากล่าวขึ้นพลางนึกคึกขึ้นมา และมองหน้าห่าวอู๋อวี่ เพราะจินเป่าต้องการเคล็ดวิชานี้เพื่อเขา"เจ้าอยากเอาชีวิตมาทิ้งที่นี้ถึงเพียงนั้นเลยหรือ "ห่าวอู๋อวี่ถามขึ้น"ยังกับท่านไม่อยากจะลองประลองในครั้งนี้ ข้าว่าตัวท่านแหละต้องการประลองในครั้งนี้มากกว่าข้าเสียอีก แล้วอีกอย่างเราเป็นคนจากมิติอื่นเขาไม่น่าจะสังหารเราหรอกมั้ง"จินเป่ากล่าวขึ้น"ข้าคิดว่ามันก็เป็นการดีนะถ้าเราจะลองประลองฝีมือในครั้งนี้ แต่ข้าว่าเราน่าจะช่วยกันหาผลหยางเหมยก่อนดีหรือป่าวเพราะเราต้องเตรียมสมุนไพรรักษาเส้นลมปรานเสียก่อนไม่อย่างนั้นถ้าบาดเจ็บมาเราแย่แน่"จางหยงกล่าวขึ้น"ถ้าอย่างนั้นวันนี้เราไปหาองค์ชายหกกันเพื่อจะคุยเรื่องการเข้าร่วมประลอง ส่วนเ

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ประกาศ

    หลังจากที่ท่านประมุขรู้ทุกอย่างที่บุตรชายของตนเล่าให้ฟัง จึงส่งคนไปตามหาพระชายาและจับตัวพระชายามา แต่ทหารที่จะไปตามตัวพระชายาขององค์รัชทายาทนั้นยังไม่ได้ออกจากตำหนักก็พบว่าพระชายาได้เดินทางเข้าวังหลวงเสียแล้ว หลังจากที่นางรู้สึกถึงสายฟ้าฟาดเข้ามาในวังหลวง บุรุษผู้เป็นสามีก็ให้นางรีบเข้ามาดูสถานการณ์ เพราะคนของพวกนางถูกสับเปลี่ยนไปหมดแล้ว ไม่มีใครคอยสืบข่าว หลังจากที่นางเข้ามาในวังหลวงก็ถูกทหารจับตัวทันที"พวกเจ้าจับข้าทำไมกัน ข้าคือชายาขององค์ชายรัชทายาทนะปล่อยข้ากับลูกเดี๋ยวนี้ พวกเจ้าทำกับข้าแบบนี้ไม่กลัวถูกตัดหัวหรือไร"พระชายาร้องตกใจที่ตัวเองถูกจับกุมไว้ ทั้งๆที่นางก็คิดว่าไม่มีสิ่งใดผิดปกติเกี่ยวกับตัวของนางแน่นอน"ไปกับพวกข้าซะดีๆเถอะเดี๋ยวท่านก็รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น แต่ท่านไม่ต้องเป็นห่วงท่านได้รับความเป็นธรรมแน่นอน"ทหารผู้หนึ่งกล่าวขึ้นพลางลากตัวคนที่สนิทของพระชายาไป"เจ้าจะพานางไปไหนปล่อยนางเดี๋ยวนี้นะ นี่เป็นคำสั่งของข้า พระชายาขององค์ชายทายาท"เมื่อคนรับใช้ข้างกายของตนถูกจับจึงทำให้พระชายาทนอยู่เฉยๆไม่ได้ร้องโวยวายออกมา เพราะคนข้างกายนั้นคือน้องสามีของนางเอง ไม่นานพระชายาก

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ประกาศ

    หลังจากที่ท่านประมุขรู้ทุกอย่างที่บุตรชายของตนเล่าให้ฟัง จึงส่งคนไปตามหาพระชายาและจับตัวพระชายามา แต่ทหารที่จะไปตามตัวพระชายาขององค์รัชทายาทนั้นยังไม่ได้ออกจากตำหนักก็พบว่าพระชายาได้เดินทางเข้าวังหลวงเสียแล้ว หลังจากที่นางรู้สึกถึงสายฟ้าฟาดเข้ามาในวังหลวง บุรุษผู้เป็นสามีก็ให้นางรีบเข้ามาดูสถานการณ์ เพราะคนของพวกนางถูกสับเปลี่ยนไปหมดแล้ว ไม่มีใครคอยสืบข่าว หลังจากที่นางเข้ามาในวังหลวงก็ถูกทหารจับตัวทันที"พวกเจ้าจับข้าทำไมกัน ข้าคือชายาขององค์ชายรัชทายาทนะปล่อยข้ากับลูกเดี๋ยวนี้ พวกเจ้าทำกับข้าแบบนี้ไม่กลัวถูกตัดหัวหรือไร"พระชายาร้องตกใจที่ตัวเองถูกจับกุมไว้ ทั้งๆที่นางก็คิดว่าไม่มีสิ่งใดผิดปกติเกี่ยวกับตัวของนางแน่นอน"ไปกับพวกข้าซะดีๆเถอะเดี๋ยวท่านก็รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น แต่ท่านไม่ต้องเป็นห่วงท่านได้รับความเป็นธรรมแน่นอน"ทหารผู้หนึ่งกล่าวขึ้นพลางลากตัวคนที่สนิทของพระชายาไป"เจ้าจะพานางไปไหนปล่อยนางเดี๋ยวนี้นะ นี่เป็นคำสั่งของข้า พระชายาขององค์ชายทายาท"เมื่อคนรับใช้ข้างกายของตนถูกจับจึงทำให้พระชายาทนอยู่เฉยๆไม่ได้ร้องโวยวายออกมา เพราะคนข้างกายนั้นคือน้องสามีของนางเอง ไม่นานพระชายาก

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   สายฟ้าฟาด

    กลางคืนอันเงียบสงบก็เกิดพายุลมแรงขึ้นเสียงฟ้าคำรามกึกก้อง ทั้งหกที่นอนอยู่ในห้องรีบวิ่งออกมาด้านนอกรวมตัวกัน"มันเกิดสิ่งใดหรือทำไมท้องฟ้าแปรปรวนเช่นนี้ไม่ใช่ว่าจะมีผู้เลื่อนวรยุทธหรอกหรือ"ห่าวอู๋มูลี่กล่าวขึ้น"น่าจะมีผู้ที่มีวรยุทธลึกล้ำที่กำลังจะเลื่อนวรยุทธนะท่านพี่ ข้าว่ามิตินิมิตแห่งนี้มีผู้ที่วรยุทธลึกล้ำไม่มีอันใดแปลก หรอก หรือว่าจะเป็นองค์ชายรัชทายาทที่ต้องฟื้นภายในวันนี้แต่เขาไม่ฟื้น กลับมาฟื้นกลางดึกแบบนี้ แล้วร่างกายได้รับความกดดันพลังภายในเป็นเวลานานจึงทำให้วรยุทธเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว"ห่าวอู๋อวี่กล่าวขึ้น อยู่ๆก็มีสายฟ้าฟาดเข้ามาในพระราชวัง สายตาทั้งหกคู่ที่มองเห็นแทบจะบอดเลยทีเดียว ทุกคนต่างหลับตาและอุดหู"โน้นสายฟ้าฟาดเข้าไปในวังน่าจะตำแหน่งของตำหนักองค์ชายรัชทายาทเป็นแน่"จินเป่าร้องขึ้นพลางชี้มือไปที่ปลายสายของสายฟ้านั้น สายฟ้าผ่าลงไปสักพักแสงก็เลือนหายไป ทุกคนที่อยู่ตำหนักขององค์ชายรัชทายาทนั้นสลบทันที ผู้เป็นมารดาขององค์ชายรัชทายาทลุกขึ้นมาเพราะเสียงฟ้าผ่า นางตื่นขึ้นมาก็กระอักเลือดไปสามที แต่ด้วยความที่นางเป็นห่วงบุตรชาย จึงรีบเดินออกไปดูว่าเกิดสิ่งใดขึ้น และรีบว

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ตำแหน่งประมุข

    หลังจากมอบยาให้กับท่านประมุขแล้วทั้งหกก็ไม่ได้เข้าไปตำหนักใหญ่อีกเลย ทำราวกับว่าพวกเขาไม่ได้ให้ความร่วมมือกับท่านประมุขแต่อย่างใด องค์ชายหกยังแวะเวียนมาเยี่ยมทั้งหก และพาพวกเขาออกไปด้านนอกตามเคย "ห๊ะทั้งหกไม่ได้เข้าไปรักษาองค์ชายรัชทายาทหรอกหรือ แสดงว่าที่เราขู่เขาได้ผลล่ะสิ แล้วผู้ที่ข้าส่งไปทำไม่ยังไม่กลับมารายงานอีกหรือพวกเจ้าจัดการเก็บเรียบร้อยแล้วหรือ"เสียงบุรุษผู้หนึ่งดังขึ้น "กลุ่มคนที่ถูกส่งไปไม่ได้มีใครกลับออกมาแบบมีชีวิตเลยขอรับ ทางการน่าจะจับตายหมดแล้ว ตอนนี้กำลังสืบอยู่ขอรับ"ผู้ที่มาส่งข่าวรายงาน"ท่านพี่แต่เห็นคนบอกว่าต้นไม้จันทน์แดงนั้นถูกเก็บออกไปเสียแล้ว ข้าเกรงว่าไม่ช้าองค์ชายรัชทายาทต้องฟื้นมาเป็นแน่ เราต้องหาสิ่งใดไปแทนหรือไม่ ข้าต้องการให้ลูกชายของเราทั้งสอง ห้าขวบเร็วๆจังจะได้กำจัดมันไปเสียที"เสียงสตรีกล่าวขึ้น ขณะที่ทุกคนคิดว่านางไปต่างเมื่องเพื่อเยี่ยมมารดาของนาง"เพียงแค่ปีเดียวเท่านั้นแหละเจ้าจะได้กำจัดมันแล้ว ถ้าไม่มีต้นจันทร์แดงอยู่เพียงสามเดือนมันก็จะฟื้นแต่นั้นมันก็นานพอดู เอาเป็นว่าข้าจะหาวิธีใหม่ก็แล้วกัน แต่กลุ่มคนเหล่านนั้นมันรู้ได้อย่างไรว่าต้

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ข่มขู่

    "ห๊ะอะไรนะ ชายาขององค์ชายรัชทายาทหนีไปแล้วหรือ "จางซินร้องขึ้นเมื่อได้ฟังองค์ชายหกเล่าเรื่องในวังให้ฟัง"นางคงไปดูแลมารดาที่ป่วยนะ องค์ชายหกก็บอกอยู่ว่านางกล่าวเช่นนั้น"จินเป่าพูดอย่างไม่ใส่ใจ "เจ้าเชื่อแบบนั้นจริงๆหรือ ที่เจ้ากล่าวตอนกลางวันข้าก็นำไปทูลเสด็จพ่อ กับฮองเฮาพวกเขายังตรัสถามเลยว่าเจ้าสงสัยชายาขององค์ชายรัชทายาทหรือ แต่พอเรามาเล่าให้ฟังว่าเขาอ้างว่ากลับไปเยี่ยมมารดาเจ้ากลับเชื่อ"องค์ชายหกกล่าวขึ้น จินเป่าจึงมองหน้าห่าวอู๋อวี่เขาเห็นพ้องต้องกันแล้วว่าคืนนี้จะมีผู้ลงมือกับพวกเขาเป็นแน่"วันนี้องค์ชายหกให้เกียรติพวกเราถึงขนาดมาเยี่ยมพวกเราที่เรือน เอาแบบนี้ละกันวันนี้องค์ชายหกพอมีเวลารับประทานอาหารเย็นร่วมกับพวกเราหรือไม่"ห่าวอู๋อวี่กล่าวขึ้น"5555แน่นอน เดียวเราสั่งคนไปนำสุราอาหารมา"องค์ชายหกกล่าวขึ้น"ท่านให้คนไปนำสุราก็เพียงพอแล้ว ที่เราเคยบอกไว้เรื่องอาหารปลาหลี่น้ำจิ้มซีฟู้ด วันนี้พวกข้าจะตอบแทนที่ท่านพาพวกข้าเที่ยวทั้งวันดีหรือไม่"จางซินกล่าวขึ้นเพราะเห็นว่าห่าวอู่อวี่ต้องการรั่งองค์ชายหกให้อยู่ต่อ"อ้าดีเลย ข้าก็อยากที่จะลิ้มรสมันเหมือนกัน เดียวข้าสั่งคนไปซื้อป

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   สงสัย

    "อย่าบอกนะว่าเจ้าสงสัยพระชายานั้นจึงสอบถามองค์ชายหกแบบนั้น"จางซินถามจินเป่าขึ้นหลังจากกลับมาถึงเรือนแล้ว"ก็มันน่าสงสัยนี่เจ้าคิดดูสิว่าจะมีผู้ใดได้ผลประโยชน์ในเรื่องนี้ณเวลานี้ พวกองค์ชายทุกคนจะได้ผลประโยชน์เมื่อท่านประมุขนั้นสิ้นแล้วเท่านั้น ถ้าองค์ชายรัชทายาทไม่อยู่ เพราะข้าคิดได้แบบนี้"จินเป่ากล่าวขึ้น"แต่ก็ไม่แน่เหมือนที่องค์ชายหกบอกเองนั่นแหละ ว่าพวกอนุเองก็น่าจะมีความคิดที่อยากทำแบบนี้ ณ เวลานี้เราจะตัดสินใจลงมือทำสิ่งใดไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นเราต้องระวังตัวเป็นอย่างมาก ถ้าเราจะจัดการให้องค์ชายรัชทายาทหายจากพิษเลยก็กลัวที่จะมีปัญหากับผู้ที่อยู่เบื้องหลัง"จินเป่ากล่าวขึ้น"แล้วเราจะรักษาให้เขาหรือป่าวล่ะ"จางซินถาม"รักษาสิ เจ้ามีตัวยาใดที่จะรักษาได้หรือป่าว"จินเป่าถามขึ้น"ก็ผลหลิวต้องแสงจันทร์ไงที่รักษาได้ "จางซินกล่าวขึ้น"ถ้าไม่ใช้ผลหลิวต้องแสงจันทร์เรามีตัวอย่าอื่นรักษาแทนได้หรือป่าว ทำให้เขาค่อยๆดีขึ้นนะ"จินเป่ากล่าวขึ้น"ทุกตัวยาที่ข้าคิดได้ต้องใช้ผลหลิวต้องแสงจันทร์เป็นตัวปรุงอยู่ดี"จางซินตอบพลางมองไปยังพี่ชายของตน"งั้นก็ปรุงยาตัวที่ง่ายที่สุดที่พวกเรามีสมุนไพรอยู

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   พิษมาจากที่ใด

    "มีสิ่งใดหรือเข้ามาสิ"องค์ชายหกตอบรับขึ้น บ่าวก็วิ่งเปิดประตูเข้ามา"ด้านล่างองค์หญิงสามกับองค์หญิงสี่ กำลังมาที่โรงเตี๊ยมนี้ขอรับน่าจะรู้ว่าองค์ชายหกพาแขกจากมิติสามัญมาดื่มน้ำชาก็เลยจะตามมาขอรับ น่าจะมาแอบฟังพวกท่านสนทนากันกระมังขอรับ"บ่าวรายงานขึ้น"ช่างพวกนางเถอะข้าไม่ได้พูดคุยอะไรกันสักหน่อยข้าแค่ถามสารทุกสุขดิบการเดินทางไปมาของพวกเขาเท่านั้นเจ้าไม่ต้องกังวลหรอกออกไปเถอะ"องค์ชายหก กล่าวขึ้นแต่สีหน้าของเขานั้นเปลี่ยนไป สีหน้าของเขาทำราวกับเป็นเรื่องยุ่งยากมาก สักพักก็ได้ยินผู้คนเดินมามากมายและเปิดประตูห้องข้างๆของพวกเขา น่าจะเป็นองค์หญิงทั้งสองที่มาฟังพวกเขาสนทนากัน"องค์ชายหกท่านเคยกินปลาหลีกับน้ำจิ้มซีฟู้ดหรือไม่"ซิงอีถามขึ้น เพราะต้องการให้องค์ชายหก รับรู้ว่าพวกตนจะเปลี่ยนแนวการสนทนามาพูดเรื่องชีวิตประจำวันกันแล้วเขาจะได้ไม่ซีเรียส เพราะว่าถามจริงๆพวกเขาก็คงจะคิดว่าองค์ชายหก จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับองค์ชายรัชทายาทมีความเป็นไปได้สูงว่าสองคนนี้มาสืบเรื่องของพวกเขา"อะไรนะปลาหลี่น่ะข้าเคยกินแต่น้ำจิ้มซีฟู้ดอะไรนั่นข้าไม่เห็นจะรู้จัก"องค์ชายหกกล่าวขึ้น"รู้ไหมมันเป็นอาหารเลิศรสของเ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status